ติดตามสถานะการณ์

Jeerachart Jongsomchai
... "โบโก ฮารัม" ISIL แห่งอาฟริกาที่ก่อตั้งและหนุนเงินโดย ซีไอเอ



... ภาพที่ออกมาจากข่าวของสื่อตะวันตกนั้น "โบโก ฮารัม" เองก็ไม่ต่างจาก ISIL คือเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลามที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวไนจีเรีย รวมประเทศเพื่อนบ้าน เช่น Chad Niger และ Cameroon

... โดยทั้งวางระเบิดตึก UN ในChobok และลักพาตัวและฆ่าทั้งชาย หญิงและเด็ก หลายพันคน ล่าสุดนั้นเมื่อเดือนเมษายนปี 2014 ที่ผ่านมาได้ลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิงกว่า 276 คน โดยอ้างว่าจะจับมาเป็นทาส และโดยรวมจนถึง 2014 มีผู้เสียชีวิตจากพวกเขากว่า 5,000 คน และมีชาวบ้านลูกเด็กเล็กแดงต้องอพยพหนีพวกเขาไปแล้วกว่า 1.5 ล้านคน แล้ว โดยเฉพาะในเขตตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของไนจีเรีย และนั่นทำให้ชื่อเสีย(ง) ของกลุ่มได้ออกสื่อต่างชาติไปทั่วโลก สมดังใจของผู้ชักใย

... กลุ่ม "โบโก ฮารัม" ก่อตั้งเมื่อ 2002 โดย Abubakar Shekau มีสมาชิกอยู่ประมาณ 10.000 คนโดยมีสายสัมพันธ์กับกลุ่ม Al-Qaeda และ ISIL ( ที่สื่อหลายแห่งก็อ้างตรงกันว่า ได้รับการสนับสนุนทั้งการเงินและอาวุธจากทั้งซาอุดิอาระเบีย และอเมริกาเอง ) แม้ครั้งหนึ่งระดับหัวหน้ากลุ่มจะถูกสังหารไป แต่การที่ "คุกแตกครั้งใหญ่" ในไนจีเรีย ในปี 2010 ทำให้กลุ่มกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ( คนคุกหลายคนได้เข้ามาผสมในกลุ่มด้วย รู้ๆกันว่าคนคุกโดยทั่วไปทั่วไปนิสัยเป็นอย่างไร หมายถึงเฉพาะที่เป็นอันธพาลในคุก )

... แต่ข่าวที่ทำให้ทั่วโลกสนใจกลับเป็นบทวิเคราะห์จาก "Randy Short" นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันเอง ที่บอกว่า "โบโก ฮารัม" ได้รับการก่อตั้งและสนับสนุนการเงินโดย CIA ของอเมริกา โดยเขาอกว่ามีการเชื่อมโยงกับนาย Kharifa Hifter อดีตนายทหารใหญ่ของลิเบียที่แตกคอกับ "กัดดาฟี่" แล้วอพยพลี้ภัยไปอเมริกาหลายสิบปี และระหว่างนั้นได้รับการล้างสมองและฝึกฝนจาก ซีไอเอของอเมริกานาน จนกลับมาโค่นกัดดาฟีได้ในปี 2011

... โดย Short ได่กล่าวว่าอาวุธของกลุ่มนั้นก็มาจากลิเบียนั่นเอง ( เงินทองที่ยึดปล้นมาจากกัดดาฟีและประชาชนลิเบียหรือเปล่าก็ไม่รู้ ) และเขาบอกว่าอเมริกาไม่ได้สนใจกับชีวิตเด็กนักเรียนหญิงไนจีเรียที่ถูกลักพาตัวไปหรอก

... เพราะเป้าหมายของอเมริกาตามแผนการตามแนวของจักรรดินิยมของคนผิวขาวแอกโกลอเมริกันที่อยากเป็นใหญ่และต้องการแค่ที่จะ "แบ่งย่อยสลายไนจีเรียและทวีปอาฟริกาให้เป็นรัฐเล็กๆ" ( ไม่ให้รวมกันติดแบบสหภาพยุโรป ที่อเมริกาก็พยายามแบ่งแยกอยู่โดยใช้สงครามยูเครนเป็นหัวเชื้อ ... ยิ่งกว่านั้นคือการทำลายชื่อเสียงของศาสนาอิสลามด้วย )

... "There is larger scheme by the Angelo American white supremacist imperialistic power complex to break down the state they have invented in colonial eras for their purposes,"

... ( ซึ่งก็ตรงกับที่สาเหตุการตายของกัดดาฟี่ที่ว่าเขาต้องการที่จะรวมทวีปอาฟริกาให้เป็นปึกแผ่นเอกภาพหนึ่งเดียวแบบสหภาพยุโรปทั้งการเมืองและการเงิน รวมทั้งใช้เงินดีน่าร์ที่มีทองผสมในการซื้อขายน้ำมันแทนดอลล่าร์ จึงทำให้เขาพบจุดจบในปี 2011 )

... Short บอกว่าและตอนนี้อเมริกาเองก็มีกองทหารอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านพร้อมที่จะทำลายไนจีเรียให้เป็นชิ้นๆอยู่แล้วด้วย

.
Boko Haram - Wikipedia, the free encyclopedia
http://www.presstv.com/…/boko-haram-created-and-funded-by-…/

 

Jeerachart Jongsomchai



... "โดมินิค สเตราส์ คาห์น" อดีต MDไอเอ็มเอฟ ตกสวรรค์ไวเพราะไปตอร์ปิโดใส่เงินดอลล่าร์
... เกิดในครอบครัวคนรวยของชาวยิวในย่าน Neuilly-sur-Seine ปารีส ฝรั่งเศส ไต่เต้าทางการเมืองมาเรื่อยๆ จนได้เป็น กรรมการผู้จัดการของไอเอ็มเอฟ International Monetary Fund (IMF) ในปี 28 กันยายน 2007 จนมาตกสวรรค์ในปี 2011 จากกรณีข้อหาลวนลามพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมในนิวยอร์ค
... เขาเป็นคนที่ดังและคนนิยมมากของพรรคโซเชียลลิสท์ แต่คนที่ดันเขาเป็น ผอ.ไอเอ็มเอฟ กลับเป็น นิโคลัส ซาร์โกซี่ของพรรคคู่แข่ง UMP เอง ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่าเป็นแผนทางการเมืองอันแยบยลของ ซาร์โกซี่ที่ต้องการแยกคนดังที่ประชาชนนิยมออกจากพรรคโซเชียลลิสท์ในการเมืองฝรั่งเศสให้ไปเล่นการเมืองโลกแทน
... ตอนที่เขาเป็น ผอ. ไอเอ็มเอฟ โลกกำลังเผชิญพิษเศรษฐกิจจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์จากอเมริกา เขาได้พยายามที่จะดันนโยบายที่จะทำให้ไอเอ็มเอฟเกิดเสถียรภาพอย่างมาก โดยการสนับสนุนให้มีการมีการใช้สกุลเงินอื่นทดแทนเงินดอลล่าร์ในการเก็บใน "ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของโลก" ( world's reserve currency ) และขยายบทบาทของระบบ special drawing rights (SDR) ซึ่งจะทำให้เงินดอลล่าร์ลดความสำคัญในโลกลง
... โดยเขาบอกว่าเศรษฐกิจของโลกขึ้นอยู่กับ "เงินดอลล่าร์" ที่ผันผวนตามเศรษฐกิจภายในและนโยบายการเงินของอเมริกามากเกินไป จึงควรจะลดความไม่มั่นคงส่วนนี้ลงโดยการลดบทบาทของเงินดอลล่าร์ลง ซึ่งเห็นได้ชัดจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ( คือแยกการเงินโลกออกจากการครอบงำและลากจูงจากระบบการเงินอเมริกามากขึ้น )
... นอกจากนี้เขายังพยายามที่จะดันสกุลเงินของประเทศที่เกิดใหม่ เช่น "เงินหยวน" ของจีนให้เป็นอีกสกุลเงินในตระกร้าของ ไอเอ็มเอฟ ด้วยนอกเหนือจากเงินจาก ดอลล่าร์ ปอนด์ ยูโร และเยน เพื่อความความมั่นคงให้กับระบบการเงินของโลก
... ในสารคดีเรื่อง " Inside Job" 2010 นั้นเขาได้บอกว่าเคยได้ร่วมรับประทานอาหารกับกลุ่ม CEO ของธนาคารใหญ่ของอเมริกาที่จัดโดย Henry Paulson รัฐมนตรีการคลังของอเมริกาเขาเคยบอกว่า "พวกเขาตระกละและน่าเบื่อมาก" ( เหมือนถึงนายธนาคารใหญ่ทั่วๆไปของอเมริกา )
... เขาทำในสิ่งที่ซัดดัมทำตอนที่ใช้เงินสกุลอื่นซื้อขายน้ำมันในปี 2002 จนนำมาสู่จุดจบในปี 2003 และเหมือนกัดดาฟี่ที่มีจุดจบในปี 2011 แต่สำหรับเขานั้นตำแหน่งที่ทำนั้นสูงกว่าโอกาศที่จะทำให้เงิน "ดอลล่าร์" ตกต่ำทำได้ง่ายกว่า ( แต่โชคดีที่เขาไม่ตาย อาจจะเพราะเขาเป็น "ยิว" ที่มีอิทธิพลมากคนหนึ่ง )
... Joseph Stiglitz นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล เคยชื่นชมว่า โดมินิค สเตราส์ คาห์น ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นผู้นำที่มีความเข้าใจและการตัดสินใจที่ดีมาก และหลังจากที่เขาประสบกับคดีการลวนลามพนักงานทำความสะอาดหญิงในนิวยอร์ค Eswar Prasad นักเศรษฐศาสตร์ ได้บอกว่า ถ้าเขาถูกบีบให้ลงจากตำแหน่ง, ไอเอ็มเอฟก็ยากที่จะหาคนที่มีความสามารถที่จะมาดูแลเรื่องการเงินของโลกได้
... เขาได้รับการคาดหมายว่าจะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสหลังจากการออกจากตำแหน่งผอ.ไอเอ็มเอฟ แต่เมื่อเจอคดีลวนลามสวรรค์เขาก็ล่มสลายลง รวมทั้งตำแหน่งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ( สมหวังซาร์โกซี่แห่งพรรค UMP ) แต่ก็ไม่เลวร้ายนักเมื่อคนเก่งคนดีย่อมมีคนเห็นผลงาน
... ดังนั้นในปี 2013 เดือนกรกฎาคม เขาได้รับตำแหน่งกรรมการบอร์ดของธนาคาร "Russian Regional Development Bank" ของ "รัสเซีย" ที่เป็นบริษัทในเครือของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ "Rosneft" ของรัฐบาลรัสเซีย และอีกตำแหน่งในกองทุน Russian Direct Investment Fund ซึ่งก็เป็นของ "รัสเซีย" เช่นกัน
.
https://www.youtube.com/watch?v=oSV27b_87nQ
http://www.zerohedge.com/…/was-dominique-strauss-kahn-tryin…
Dominique Strauss-Kahn - Wikipedia, the free encyclopedia

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 6 ก.พ.58 เดนมาร์ก เจ๊งไปอีกประเทศแล้ว สั่งเก็บดอกเบี้ยเงินฝากประชาชนเพิ่มขึ้น
หลังจากสวิสเซอร์แลนด์ ทนการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ประชาธิปไตยต่อไปไม่ไหว ประกาศลอยตัวค่าเงิน และเก็บดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ 0.75 % ไปก่อนหน้า จนกระเพื่อมไปทั้งโลก และ EU เจ๊งกันหมด ต้องประกาศทำ QE พิมพ์เงินกระดาษเพิ่ม โดยไม่ต้องมีทองคำค้ำประกัน
ล่าสุดประเทศเดนมาร์ก ก็อึดทนการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ประชาธิปไตยต่อไปไม่ไหวอีกประเทศแล้ว ธนาคารกลางเดนมาร์ก ต้องประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยตราสารเงินฝากลง เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 1 เดือน เป็นติด ลบ 0.75% เพื่อป้องกันมิให้เงินโครน แกว่งเมื่อเทียบยูโร แต่ธนาคารกลางจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และอัตราดองเบี้ยต่างๆ ไว้ตามเดิม
สรุปถ้าใครเอาเงินไปฝากธนาคารจะต้องจ่ายเงินค่าฝาก 7,500 บาท ทุกๆ เงิน 1 ล้านบาท แต่ไม่มีการลดดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร ใครเคยเสียดอกเท่าไร ก็เสียดอกเบี้ยกู้สูงต่อไป..มันกลับตาลปัตรกับของไทย ที่เวลาเอาเงินไปฝากธนาคาร คนฝากจะต้องได้ดอกเบี้ยจากธนาคารมา
ระบอบทุนนิยม ประชาธิปไตย ค่อยๆ ล่มไปทีละประเทศสองประเทศ เป็นโดมิโน่มาจากอเมริกา ระบบแบบนี้แหละที่แก๊งค์เผาไทย ไฝ่ฝันหนักหนาจะนำมาใช้ในประเทศไทย รวยกระจุกที่ธนาคาร จนกระจายที่ประชาชน..จะมีเงินไปฝากธนาคาร เงินเดือนจ่ายผ่านธนาคาร มีเงินค้างเหลือในบัญชี..ธนาคารเก็บดอกเบี้ยเราหมด..
คนเดนมาร์ก ก็เอาเงินใส่ตุ่มฝังดินเถอะ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยทุกปี หรือเอาเงินให้แฟนคนไทย เอามาเปิดบัญชีฝากในไทย ที่เป็นระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง อนุรักษ์ดีกว่า ได้ดอกเบี้ยด้วย
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ขอจัดการเอง! กษัตริย์จอร์แดน ทรงขับเครื่องบินรบ บุกทิ้งระเบิด IS ด้วยพระองค์เอง http://nisit.co/WaMZ 6 กุมภาพันธ์ 2558 11:50 น. Ohozaa Hot Stat
ที่มา bugaboo



สืบเนื่องจากกรณีที่ กษัตริย์จอร์แดนเตรียมตอบโต้ กลุ่มไอเอส กษัตริย์อับดุลเลาะห์ แห่งจอร์แดน ตรัสให้คำมั่นว่า จะตอบโต้การกระทำของกลุ่มไอเอส อย่างถึงที่สุด และก็เป็นไปดังคาด เมื่อพระองค์ทรงเรียกผู้นำทางกองทัพ เข้าประชุมฉุกเฉิน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และเตรียมการต่อกร กับกลุ่มไอเอส

ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพในทวิตเตอร์ ที่อ้างว่า กษัตริย์แห่งจอร์แดน ทรงขับเครื่องบินถล่มกองกำลังไอซิสด้วยตัวของพระองค์เอง โดยปกติ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ ก็ทรงเป็นนักบินที่เชี่ยวชาญการขับเครื่องบินรบอยู่แล้ว ซึ่งหาดเป็นเช่นนั้นจริง หลายฝ่ายก็หวั่นว่าจะเกิดความรุนแรงดุเดือดขึ้น ขอบคุณภาพจาก : twitter.com : @loving_friday
ที่มา ไทยรัฐ
อย่าปลุกเสือหลับ! จอร์แดนกร้าว เมื่อคืนแค่เบาะๆๆ จากนี้เจอของจริงแน่
ฝูงบินรบจอร์แดนบินกลับฐานทัพอย่างปลอดภัย เสร็จสิ้นภารกิจถล่มกลุ่มไอซิสในซีเรีย แก้แค้นให้แก่นักบินหนุ่มถูกเผาทั้งเป็น ขณะที่กองทัพจอร์แดนประกาศกร้าว นี่เป็นแค่เพียง ‘การเริ่มต้น’ จากนี้ไป ไอซิสจะได้รู้ชาวจอร์แดนเป็นใคร พร้อมกับจะขยายการโจมตีทางอากาศตอบโต้กลุ่มไอซิสเข้าไปในอิรักด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่ารัฐบาลจอร์แดนประกาศกร้าว ปฏิบัติการโจมตีถล่มเป้าหมายกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอซิส ทางภาคตะวันออกของประเทศซีเรียเมื่อวันที่ 5 ก.พ. เป็นเพียงแค่ ‘การเริ่มต้นของปฏิบัติการตอบโต้’ หลังจากเรืออากาศโท มูอัธ อัล-คาซาสเบห์ นักบินหนุ่มจอร์แดนวัย 27 ปี ถูกกลุ่มไอซิส ‘เผาทั้งเป็น’ อย่างเหี้ยมโหดตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนหน้าจะมีการนำคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโลกออนไลน์เมื่อ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา

กองทัพจอร์แดนออกแถลงการณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า นี่เป็นแค่เพียงการเร่ิมต้น เพราะจอร์แดนจะแสดงให้กลุ่มไอซิสได้ประจักษ์แจ้งว่า ชาวจอร์แดนนั้นเป็นใคร พร้อมกันนั้น กองทัพจอร์แดน ยังแถลงว่า เครื่องบินรบของกองทัพอากาศจอร์แดนหลายลำได้ปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตีทำลายคลังแสงเก็บอาวุธและเครื่องกระสุน รวมทั้งถล่มสถานที่ฝึกซ้อมการสู้รบของกลุ่มไอซิสาจนราบคาบ และเครื่องบินรบของกองทัพจอร์แดนทุกลำได้บินกลับฐานทัพอย่างปลอดภัย


หนึ่งในเครื่องบินรบ 30 ลำที่เข้าร่วมทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอซิส

สถานีโทรทัศน์จอร์แดนรายงานข่าวพิเศษปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มไอซิสในซีเรียเมื่อ 5ก.พ.
ข่าวแจ้งว่า ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอซิสเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ใช้ชื่อปฏิบัติการว่า ‘วีรชนมูอัธ’ โดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติจอร์แดนยังได้ออกอากาศเผยแพร่ข่าวพิเศษแสดงให้เห็นภาพเหตุการณ์เครื่องบินรบจอร์แดนถล่มเป้าหมายกลุ่มไอซิสในซีเรีย พร้อมกันนั้น หลังปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น เครื่องบินรบของกองทัพยังบินผ่านน่านฟ้าเหนือหมู่บ้านในเมืองคารัก บ้านเกิดของเรืออากาศโทมูอัธ อัล-คาซาสเบห์ด้วย เพื่อเป็นการประกาศสดุดี ก่อนบินกลับฐานทัพด้วย

ด้าน นายนาสเซอร์ จูเดห์ รมว.ต่างประเทศจอร์แดนยังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น ย้ำถึงปฏิบัติการส่งฝูงเครื่องบินรบไปโจมตีกลุ่มไอซิสในซีเรีย เมื่อ 5 ก.พ. ว่านี่เป็นแค่เพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะกองทัพจอร์แดนจะขยายปฏิบัติการโจมตีไอซิสในอิรัก


กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ทรงแสดงความเสียพระทัย โอบกอดบิดาของเรืออากาศโทมูอัธ อัล-คาซาสเบห์

ขณะที่ นายซาฟี อัล-คาซาสเบห์ บิดาของนักบินหนุ่มผู้ล่วงลับ ยังเผยด้วยว่า จากการที่ตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนนั้น พระองค์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าทางการจอร์แดนจะแก้แค้นให้กับการเสียชีวิตของบุตรชายของตน โดยมีการทิ้งระเบิดถล่มเป้าหมายไอซิสในเมืองรักกา ซึ่งเปรียบเป็นเมืองหลวงของไอซิส อีกทั้งกษัตริย์แห่งจอร์แดนยังทรงบอกตนด้วยว่ากองทัพจอร์แดนได้ส่งเครื่องบินรบถึง 30 ลำเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งนี้
ข้อมูลจาก: http://news.bugaboo.tv/watch/167966?link=2

http://hot.ohozaa.com/hot-8-18-136001

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 6 ก.พ.58 เดนมาร์ก เจ๊งไปอีกประเทศแล้ว สั่งเก็บดอกเบี้ยเงินฝากประชาชนเพิ่มขึ้น
หลังจากสวิสเซอร์แลนด์ ทนการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ประชาธิปไตยต่อไปไม่ไหว ประกาศลอยตัวค่าเงิน และเก็บดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ 0.75 % ไปก่อนหน้า จนกระเพื่อมไปทั้งโลก และ EU เจ๊งกันหมด ต้องประกาศทำ QE พิมพ์เงินกระดาษเพิ่ม โดยไม่ต้องมีทองคำค้ำประกัน
ล่าสุดประเทศเดนมาร์ก ก็อึดทนการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ประชาธิปไตยต่อไปไม่ไหวอีกประเทศแล้ว ธนาคารกลางเดนมาร์ก ต้องประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยตราสารเงินฝากลง เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 1 เดือน เป็นติด ลบ 0.75% เพื่อป้องกันมิให้เงินโครน แกว่งเมื่อเทียบยูโร แต่ธนาคารกลางจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และอัตราดองเบี้ยต่างๆ ไว้ตามเดิม
สรุปถ้าใครเอาเงินไปฝากธนาคารจะต้องจ่ายเงินค่าฝาก 7,500 บาท ทุกๆ เงิน 1 ล้านบาท แต่ไม่มีการลดดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร ใครเคยเสียดอกเท่าไร ก็เสียดอกเบี้ยกู้สูงต่อไป..มันกลับตาลปัตรกับของไทย ที่เวลาเอาเงินไปฝากธนาคาร คนฝากจะต้องได้ดอกเบี้ยจากธนาคารมา
ระบอบทุนนิยม ประชาธิปไตย ค่อยๆ ล่มไปทีละประเทศสองประเทศ เป็นโดมิโน่มาจากอเมริกา ระบบแบบนี้แหละที่แก๊งค์.... ไฝ่ฝันหนักหนาจะนำมาใช้ในประเทศไทย รวยกระจุกที่ธนาคาร จนกระจายที่ประชาชน..จะมีเงินไปฝากธนาคาร เงินเดือนจ่ายผ่านธนาคาร มีเงินค้างเหลือในบัญชี..ธนาคารเก็บดอกเบี้ยเราหมด..
คนเดนมาร์ก ก็เอาเงินใส่ตุ่มฝังดินเถอะ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยทุกปี หรือเอาเงินให้แฟนคนไทย เอามาเปิดบัญชีฝากในไทย ที่เป็นระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง อนุรักษ์ดีกว่า ได้ดอกเบี้ยด้วย
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

หิมะตกหนักในสเปน! ช่วยกว่า 200 ชีวิตติดอยู่ในรถ นาน 17 ชม.
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ก.พ. 2558 15:20



หิมะตกหนักทางเหนือของสเปน ตำรวจและทีมกู้ภัยสเปนช่วยชีวิตผู้คนกว่า 200 ราย ติดแหง็กอยู่ในรถยนต์นานถึง 17 ชม. เพราะหิมะท่วมสูงบนผิวถนน จนรถยนต์ไม่สามารถจะแล่นได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 6 ก.พ.ว่า ประชาชนกว่า 220 คน บนรถยนต์หลายร้อยคัน รอดจากภัยหิมะตกหนัก ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมกู้ภัยท้องถิ่นของสเปน หลังจากต้องติดอยู่ในรถยนต์ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง บนถนนทางภาคเหนือของประเทศสเปน โดยผู้คนเหล่านี้ไม่สามารถออกจากรถยนต์ที่ไม่สามารถแล่นต่อไป เนื่องจากเกิดหิมะตกหนักท่วมผิวถนนในระดับสูง และสภาพอากาศหนาวเย็นจัดระดับ -17 องศาเซลเซียส

ข่าวแจ้งว่า ในจำนวนประชาชนที่ประสบภัยหิมะตกหนักและติดอยู่ในรถยนต์หลายร้อยคันนานเกือบเป็นวันบนถนนระหว่าง จ. คันตาเบรีย กับ จ.พาเล็นเซีย ทางภาคเหนือของสเปนนั้น มีชาวอังกฤษรวมอยู่ด้วยประมาณ 100 คน และมีนักท่องเที่ยวจากชาติอื่น

---
@หิมะตกหนักมากจนแทบมิดถนนที่มีการติดตั้งป้ายสัญญาณจราจรที่เมืองบอร์เกเต้ ทางภาคเหนือ
---
โดยชาวอังกฤษเหล่านี้ต้องการจะหนีอากาศหนาวเย็นในประเทศตนเอง มาพักผ่อนท่องเที่ยวในสเปน เพื่อหวังจะได้รับไออุ่นจากแสงพระอาทิตย์ แต่พวกเขากลับต้องเจอพายุหิมะตกหนัก ชนิดที่ชาวอังกฤษอย่างพวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนเลยทีเดียว

---
@สองหนุ่มช่วยกันตักหิมะที่ปกคลุมรถยนต์จนมิดหมดทั้งคันใน เมืองเอล เอสปินอล
---
หิมะตกหนักในสเปน! ช่วยกว่า 200 ชีวิตติดอยู่ในรถ นาน 17 ชม. - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

พิษภัยแล้ง! ชาว อ.พลับพลาชัย ซื้อน้ำกินจากรถเร่ขายน้ำ
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 6 ก.พ. 2558 18:00



ชาวบ้าน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ต้องซื้อน้ำจากรถเร่ขายน้ำมาบริโภคเอง เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง และน้ำอุปโภค-บริโภคที่กักตุนไว้ในภาชนะเริ่มหมด บางรายนำรถกระบะบรรทุกถังน้ำ เร่ขายสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของ อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ อาทิ บ้านสำโรง ตำบลสำโรง บ้านนกกระเรียน บ้านสะเดา บ้านบุญช่วย ตำบลสะเดา เริ่มได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภค-บริโภค โดยน้ำที่ได้กักตุนไว้ในโอ่งน้ำและภาชนะใส่น้ำต่างๆ หมดลง ชาวบ้านต้องจ่ายเงินซื้อน้ำจากพ่อค้ารถเร่ ที่บรรทุกมาขายในราคารถละ 200-230 บาท ขณะที่ชาวบ้านบางราย พลิกวิกฤติเป็นโอกาส นำรถกระบะบรรทุกถังน้ำขนาด 200 ลิตร ไปสูบน้ำมาจากบ่อน้ำตามธรรมชาติ ที่อยู่ไกลจากหมู่บ้านประมาณ 10 กิโลเมตร ออกเร่ขายตามหมู่บ้าน สร้างรายได้เสริม เฉลี่ยประมาณวันละ 500 – 1,000 บาทต่อวัน

นายสวิช สมนึกตน อายุ 42 ปี ชาวบ้านที่นำรถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถบรรทุกน้ำดื่ม ออกเร่ขายให้กับเพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า จากปัญหาดังกล่าวตนจึงพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการนำรถกระบะบรรทุกน้ำใส่ถัง 200 ลิตร จำนวน 6 ใบ ที่ดัดแปลงขึ้นเองจุน้ำได้ประมาณ 1,200 ลิตร ไปนำน้ำมาจากบ่อน้ำ ซึ่งอยู่ไกลจากหมู่บ้านประมาณ 10 กิโลเมตร บรรทุกน้ำออกเร่ขายให้กับชาวบ้านในราคารถละ 200 - 230 บาท แล้วแต่ระยะทางใกล้ไกล ซึ่งสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ นางบุหลัน สุขแก้ว อายุ 47 ปี ชาวบ้านสะเดา หมู่ 12 ตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย เผยว่า ในช่วงหน้าแล้งของทุกปี ต้องซื้อน้ำอุปโภค บริโภคเป็นประจำ เนื่องจากน้ำฝนที่กักเก็บไว้ในโอ่ง มีปริมาณไม่เพียงพอในการอุปโภค บริโภค จึงจำเป็นต้องซื้อน้ำจากพ่อค้ารถเร่ เพื่อนำมาบริโภคในครัวเรือน.

พิษภัยแล้ง! ชาว อ.พลับพลาชัย ซื้อน้ำกินจากรถเร่ขายน้ำ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

จีนจับ “สองสามีภรรยาแคนาดา” เจ้าของร้านกาแฟติดพรมแดนเกาหลีเหนือ อ้างเป็นสปายล้วงความลับทางทหาร โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กุมภาพันธ์ 2558 17:01 น.


---
@เควิน และ จูเลีย การ์เรตต์ สองสามีภรรยาชาวแคนาดา
---
เอเจนซีส์ – รัฐบาลจีนออกมายอมรับการจับกุมเควิน และ จูเลีย การ์เรตต์ สองสามีภรรยาชาวแคนาดาที่เปิดร้านกาแฟ “ปีเตอร์ คอฟฟีเฮาส์” ในตานตง ติดพรมแดนเกาหลีเหนือ ในข้อหาเป็นสายลับจารกรรมข้อมูลสำคัญของประเทศ และข้อมูลการทหาร โดยเควิน การ์เรตต์ถูกจับกุมสอบสวนมานานกว่า 6 เดือน ในขณะที่จูเลีย การ์เรตต์ถูกปล่อยตัวด้วยเงื่อนไขยื่นประกันหลักทรัพย์ ด้านรัฐบาลแคนาดาแสดงความกังวล และประกาศจะติดตามเรื่องนี้ถึงที่สุด

บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(6)ว่า สื่อทางการของจีนรายงานว่า เควิน การ์เรตต์ และจูเลีย การ์เรตต์ ถูกจับกุมตัวในข้อหาจารกรรมความลับความมั่นคงระดับสูงของจีน 6 เดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลแคนาดาประกาศจะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด “ในขณะที่ทางเรารู้สึกยินดีต่อการตัดสินใจของรัฐบาลจีนในการปล่อยตัวจูเลีย การ์เรตต์ แต่ทางรัฐบาลแห่งแคนาดายังคงมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการกักขัง เควิน การ์เรตต์” รอยเตอร์รายงานแถลงการณ์ที่ได้มาจากสำนักงานรัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาระดับล่าง ลินน์ เยลิช (Lynne Yelich) “เราให้ความสนใจกับคดีนี้เป็นอันดับต้น และจะนำเรื่องนี้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อไป” รายงานจากแถลงการณ์

ซึ่งในการแถลงข่าวในฝั่งจีนเมื่อวานนี้(5) ฮง เลย (Hong Lei) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า เควิน การ์เรตต์ถูกตั้งข้อหาจารกรรมความลับรัฐบาลจีน ในขณะที่จูเลีย การ์เรตต์ ได้รับอนุญาตจากศาลให้ได้รับการประกัน และเลื่อนการไต่สวน “ซึ่งคดีที่เกี่ยวเนื่องอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยรัฐบาลจีนจะปกป้องสิทธิทางกฎหมายและผลประโยชน์ของชาติตามที่กฎหมายจีนระบุ” ฮง เลยแถลงเพิ่มเติม

แต่ในแถลงการณ์จากทนายความของครอบครัวการ์เรตต์ชี้ว่า คนทั้งคู่ไม่ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาเป็นทางการหรือถูกจับกุมอย่างเป็นทางการ “ไม่มีหลักฐานสามารถชี้มูลความผิด และทางเราขอให้รัฐบาลจีนรับรองว่ากระบวนการยุติธรรมที่จะใช้ในคดีนี้จะต้องกระทำด้วยความโปร่งใส และยุติธรรม เป็นไปตามกฎหมายของจีนและสอดคล้องตามหลักสากล” เจมส์ ซิมเมอร์แมน (James Zimmerman) ทนายความของเควิน การ์เรตต์และจูเลีย การ์เรตต์ กล่าวผ่านแถลงการณ์

ซึ่งบุตรชายของคนทั้งคู่ ซีโมน (Simeon)กล่าวถึงเหตุการณ์จับกุมว่า “ไม่มีเหตุผลโดยสิ้นเชิง” ทั้งนี้บีบีซีรายงานเพิ่มเติมว่า คู่สามีภรรยาชาวแคนาดาสอนหนังสือในทางใต้ของจีนเป็นเวลาไม่กี่ปีก่อนที่จะย้ายไปปักหลักที่เมืองตานตง มณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และเป็นจุดสิ้นสุดของกำแพงเมืองจีนทางทิศตะวันออก ซึ่งติดพรมแดนเกาหลีเหนือและเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ รวมถึงเป็นจุดหยุดพักสำหรับผู้ที่หลบหนีออกมาจากเกาหลีเหนือซึ่งมีบางส่วนได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มเอ็นจีโอ หรือกลุ่มการกุศลศาสนาคริสต์ โดยครอบครัวการ์เรตต์ที่เป็นคริสเตียนได้เปิดร้านกาแฟเล็กๆชื่อ “ปีเตอร์ คอฟฟีเฮาส์” ในเมืองนี้

การจับกุมตัวสามีภรรยาชาวแคนาดาเกิดขึ้นไม่นานหลังจากรัฐบาลแคนาดาประกาศว่า สถาบันการวิจัยระดับสูงของแคนาดาถูกไซเบอร์แฮกเกอร์ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลจีนโจมตี

 

รัฐบาลยูเครน-กบฏฝักใฝ่รัสเซีย ยอมพักรบชั่วคราว ส่งรถบัสอพยพชาวบ้านหนีภัย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กุมภาพันธ์ 2558 16:25 น.



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลยูเครนและฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดน ระบุตรงกันในวันนี้ (6 ก.พ.) ว่าพวกเขาได้บรรลุข้อตกลงพักรบชั่วคราวเพราะเห็นแก่มนุษยธรรม เพื่อเปิดทางให้ชาวบ้านสามารถอพยพหนีออกจากบริเวณพื้นที่ "เดบอลต์เซฟ" เมืองทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งกลายเป็นสมรภูมิรบล่าสุดในช่วงที่ผ่านมา

"พวกเขาเห็นพ้องในข้อตกลงที่จะพักรบกันวันนี้ (6 ก.พ.) บริเวณพื้นที่แถวๆ เดบอลต์เซฟ เพื่อให้ชาวบ้านได้อพยพหนีออกมา" วยาเชสลาฟ อโบรสกิน เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยยูเครน บอกกับเอเอฟพี

ด้านฝ่ายกบฏบอกกับนักข่าวว่า การพักรบชั่วคราวบริเวณเมืองดังกล่าว มีขึ้นในช่วงเวลา 8.00 - 15.00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลากรีนิช (ประมาณ 15.00 - 22.00 น. ตามเวลาไทย)

เดบอลต์เซฟ เป็นเมืองชุมทางรถไฟที่สำคัญ ตั้งอยู่ระหว่างลูกานสก์และโดเนตสก์ ซึ่งเป็นที่มั่นของฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เมืองนี้ถูกถล่มด้วยกระสุนปืนใหญ่-ปืนครก และรถถังของฝ่ายกบฏอย่างหนักหน่วง

องค์การนิรโทษกรรมสากล เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีชาวบ้านราวๆ 25,000 ราย ที่หลบหนีออกจากเมืองนี้ไปแล้ว แต่ยังคงมีอีกประมาณ 7,000 รายที่ยังคงติดอยู่ภายในเมือง ส่วนนักข่าวของเอเอฟพี ที่ไปเมืองเดบอลต์เซฟ รายงานว่า พื้นที่แถบนั้นดูเงียบเหงา เขายังพบเห็นรถหลายคันวิ่งออกมาจากเมือง

ด้านนักข่าวของรอยเตอร์ที่อยู่บริเวณด้านนอกของเมืองฮอร์ลิฟกา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเดบอลต์เซฟ รายงานว่า มีขบวนรถบัสประมาณ 30 คัน มุ่งหน้าไปยังเดบอลต์เซฟ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์จากองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) พร้อมด้วยตำรวจและทหารของฝ่ายกบฏ

ขณะเดียวกันก็มีผู้อยู่ในเหตุการณ์ของรอยเตอร์อีกคน ระบุว่า มีขบวนรถบัสลักษณะเดียวกัน จากฝ่ายรัฐบาลยูเครน กำลังมุ่งหน้าเข้าไปที่เดบอลต์เซฟ จากอาร์เทมิฟสก์ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออก

 

สหภาพยุโรปเผยจะทุ่มอีก 1 พันล้านยูโร ถล่มไอเอส-ช่วยอิรักและซีเรีย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กุมภาพันธ์ 2558 19:53 น.



เอเอฟพี - เฟเดริกา โมเกรินี ประธานฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ระบุในวันนี้ (6 ก.พ.) ว่าอียูได้ให้คำมั่นจะสนับสนุนเงินทุน 1 พันล้านยูโร เพื่อกู้วิกฤติในอิรักและซีเรียรวมถึงใช้ในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

"เงินก้อนนี้จะช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้กับการดำเนินงานช่วยเหลือฟื้นฟูสันติภาพและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่แถบนั้นที่อยู่ไม่ไกลจากเรา ซึ่งได้รับความเสียหายจากการสู้รบและก่อการร้ายมานานจนเกินไปแล้ว" โมเกรินี กล่าว

เธอยังบอกอีกว่า การสังหาร มาอัส อัล-คัสซัสเบห์ นักบินจอร์แดนเมื่อไม่กี่วันก่อน ยังเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการก่อการร้ายของกลุ่มดังกล่าวไม่มีขอบเขตจำกัด ชาวมุสลิมคือเหยื่อของพวกแดช (อีกหนึ่งชื่อของกลุ่มไอเอส)

สหภาพยุโรป ระบุในคำแถลงว่า ชาติสมาชิกเห็นพ้องในแผนยุทธศาสตร์รอบด้านสำหรับจัดการกับวิกฤติในอิรักและซีเรีย รวมถึงภัยคุกคามของพวกแดช (กลุ่มไอเอส)

"มันเป็นการนำเอาสิ่งที่อียูและชาติสมาชิกได้วางแผนไว้แล้ว กับที่กำลังดำเนินการอยู่มารวมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมีการอัดฉีดเงินทุนเพิ่มเข้าไปอีก 1 พันล้านยูโร สำหรับช่วง 2 ปีข้างหน้า" คำแถลงระบุ

ความรุนแรงโดยน้ำมือของพวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์ ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสและเบลเยียมช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับ 28 ชาติสมาชิกของสหภาพยุโรป ถึงความเสี่ยงที่พลเรือนของประเทศตนเองจะไปร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกนักรบญิฮัดในอิรักและซีเรีย แล้วกลับมาก่อเหตุร้ายในบ้านเกิด

"เราเผชิญอยู่กับความท้าทายและภัยคุกคามแบบเดียวกัน เราแบ่งปันข้อมูลที่น่าสนใจในหมู่เพื่อนและหุ้นส่วนในภูมิภาค เพื่อที่จะยืนหยัดต่อต้านพวกเขา (กลุ่มไอเอส) ด้วยหนทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นี่คือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในวันนี้" โมเกรินี กล่าว

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 6 ก.พ.58 หมีขาวปูติน แยกเขี้ยวตะปบปีกนกอินทรี เจาะยางในตะวันออกกลางอีกแล้ว
ประธานาธิบดี ปูตินของรัสเซีย จะเดินทางเยือนอียิปต์ระหว่างวันที่ 9-10 ก.พ.เพื่อหารือความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และประเด็นตะวันออกกลาง หารือสถานการณ์ในอิรัก ซีเรีย และ ลิเบีย รวมถึงความขัดแย้ง ระหว่างอิสราเอล กับ ปาเลสไตน์
จากข้อมูลพบว่า อียิปต์เป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวสาลี และเป็นผู้จัดซื้อข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสองของรัสเซีย จึง ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจของรัสเซีย ที่จำกัดการส่งออกข้าว เนื่องจากต้องการควบคุมราคาข้าวในประเทศ ไม่ให้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้รัสเซีย ยังเป็นประเทศผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับสองของโลก จึงต้องการกระชับความร่วมมือทางทหารกับอียิปต์
-------------------------------->
ฉึกๆๆ..นี่คือแผนเจาะยางมะกัน ของรัสเซีย เพราะช่วงนี้มะกันเริ่มโปรจอร์แดน และเริ่มถอยฉากตีจากซาอุฯ สภาพคล้าย "เตียงหัก" และซาอุฯ ก็คือผู้หนุนรัฐบาลอียิปต์ ชุดปัจจุบันนี้ ความสำพันธ์ของมะกัน และอียิปต์ช่วงนี้ลุ่มๆ ดอนๆ
เพราะมะกันเพิ่งแส่ แถลงแแทรกแซงอียิปต์ กรณีประหารชีวิตผู้ประท้วงกว่า 180 ราย ที่ทำร้ายตำรวจตาย และเจ็บเกือบ 20 คน ผู้ประท้วงจึงถูกพิพากษาประหารรวด มะกันก็อ้างว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน มุขเดิม
ซาอุฯ ตอนนี้ก็เพิ่งเปลี่ยนแผ่นดิน ระบอบการปกครองใหม่ยังไม่เต็ม 100 กับมะกัน และส่อแววจะแปรพักตร์จากมะกัน เพราะเพิ่งส่ง รมต.พลังงาน ไปเจรจากับรัสเซีย เรื่องราคาน้ำมัน มะกันเลยแบล็คเมล์ซาอุฯ โดยการปูดข่าวว่าซาอุฯ คือผู้บงการ 9/11 เพื่อหาข้ออ้างบีบซาอุฯ ให้ห่างรัสเซีย และบีบอีกสารพัดบีบ
การที่รัสเซีย บินไปเจาะยางเส้นตะวันออกกลาง ชิงอียิปต์จากมะกันมาช่วงนี้ จึงนับว่าแหลมคมมาก เพราะจะต้องบล็อคอิทธิพล ของมะกันที่หลอกใช้จอร์แดน โจมตีซีเรีย อิรัก คนศาสนาเดียวกันให้ได้ และบล็อคอิสราเอล ต่อปาเลสไตน์ คู่ฟัดตลอดกาล
ป้องกันการลุกลามทำลายรัฐบาลอัดซาส ซีเรีย และการคุกคามอิหร่าน..อ่านเกมส์การเมืองระหว่างประเทศ รู้เท่าทันมะกันจอมหักหลังก็เหมือนรู้เขา รู้เรา รู้โลก รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง..แต่ชนะโดยไม่รบคือยอดคน !!
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Thanong Fanclub



1. จับตาวิกฤติกรีซ วิกฤติยูเครน & วิกฤติISIS
ความเสี่ยงของสงครามโลกที่กำลังก่อตัวขึ้นมา ถ้าจะสาวกันจริงๆแล้ว ต้องโยงใยให้ถึงวิกฤติกรีซ วิกฤติยูเครน และวิกฤติISIS ทั้ง3วิกฤติมีลักษณะ หรือพื้่นฐานที่แตกต่างกัน แต่สามารถที่จะจุดปะทุให้เกิดความขัดแข้งระหว่างมหาอำนาจจนถึงขั้นทำสงครามกันได้ เพราะว่าโลกตะวันตกกำลังเสื่อมทางอำนาจและการเงิน ในขณะที่จีนและรัสเซียกำลังพยายามถีบตัวเองขึ้นมาเพื่อท้าทายอำนาจของตะวันตก
กรีซเป็นวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน ยูเครนเป็นวิกฤติสงครามกลางเมือง และเป็นสงครามตัวแทนของโลกตะวันตกและรัสเซีย ส่วนISISเป็นซาตานที่โลกตะวันตกสร้างขึ้นมาเพื่อหาเหตุที่จะก่อสงครามในตะวันออกกลาง เพื่อการครอบครองบ่อน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพลังงานโลก ยังไม่นับถึงความสำคัญของตะวันออกกลางในฐานะที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของภูมิรัฐศาสตร์โลก
ระบบยูโรจะอยู่หรือจะไปขึ้นอยู่กับว่าพวกที่กุมบังเหียนสหภาพยุโรปที่กรุงบรัสเซลล์จะจัดการกับกรีซ ซึ่งกลายเป็นลูกหนี้กบฎอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง หรือเพื่อดับไฟแต่ต้นลม เพราะว่าถ้าระบบยูโรพัง นาโต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางทหารของยุโรป+สหรัฐฯจะเสื่อมอำนาจลงไป
รัฐบาลกรีซใหม่ภายใต้การนำของนายAlexis Tsiprasไม่ต้องการยอมรับแผนการช่วยเหลือทางการเงินเดิมที่มีขนาด240,000ล้านยูโรของtroika ซึ่งประกอบด้วยธนาคารกลางของยุโรป สหภาพยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่ทำมากับกรีซแล้ว2ฉบับตั้งแต่ปี2010 ทั้งนี้แผนการช่วยเหลือกรีซมีเงื่อนไขที่เข้มงวดเช่นต้องทำงบประมาณเกินดุลเทียบ4.5%ของจีดีพี ต้องขายรัฐวิสาหกิจ ต้องจ่ายหนี้ตามกำหนด ไม่มีการลดหนี้ที่มีขนาด320,000ล้านยูโร ปรากฎว่าเงินช่วยเหลือกรีซประมาณ80%ไหลกลับเข้าไปในมือของเจ้าหนี้แบงค์ต่างประเทศ โดยที่รัฐบาลกรีซแทบจะไม่ได้จับเม็ดเงินเลย และเม็ดเงินที่เหลือไม่ได้ตกถึงมือประชาชนแต่อย่างใด
กรีซมีอัตราการตกงานสูงสุดในบรรดาประเทศที่ใช้เงินสกุลร่วมยูโรด้วยกันถึง25%กว่า โดยที่คนหนุ่มสาวมีอัตราตกงานกว่า50% มาตรการบีบรัดทางการคลังที่เข้มงวดของทรอยก้า รวมทั้งความไม่เชื่อมั่นในระบบธนาคารของกรีซทำให้เศรษฐกิจถดถอย ติดลบรวมกันแล้ว25%ตั้งแต่ปี2010 ถ้ากรีซต้องเดินหน้าต่อภายใต้การกำกับของทรอยก้า ซึ่งต้องการปกป้องผลประโยชน์ของแบงค์เจ้าหนี้ของเยอรมันเป็นหลัก มีหวังต้องตายเหมือนลูกเขียด ประชาชนชาวกรีกทนไม่ไหวถึงได้เลือกพรรคฝ่ายซ้ายไซรีซ่า (Syriza)ของนายAlexis Tsiprasขึ้นมามีอำนาจเพื่อที่จะล้มเงื่อนไขมหาโหดของทรอยก้า
ชัยชนะของพรรคไซรีซ่า ซึ่งเป็นตัวแทนของพวกรากหญ้าทำให้พวกอำมาตย์ที่สหภาพยุโรปสั่นสะเทือน เพราะว่าพรรคนี้เป็นตัวแทนของเสียงรากหญ้าของชาวยุโรปที่ไม่เอาอำนาจบาตรใหญ่ของบรัสเซลล์ เพราะว่าทนความยากไร้ ความลำบากกับวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี2009แทบจะไม่ไหวกันแล้ว ในเสปน ฝรั่งเศส โปรตุเกส ไอร์แลนด์ รวมทั้งอิตาลีเกิดมีกระแสนิยมฝ่ายซ้าย ไม่ยอมรับอำนาจของสหภาพยุโรปมากขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าหากว่าไซรีซ่าทำสำเร็จในการท้าทายอำนาจของบรัสเซลล์เพื่อเจรจาให้ได้เงื่อนไขที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลิกนโยบายรัดเข็มขัด การขอลดหนี้ หรือขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไป จะกลายเป็นแบบอย่างให้ประเทศยุโรปตอนใต้ที่เจอวิกฤติเศรษฐกิจเดินตามรอยเท้า เมื่อเป็นเช่นนั้นระบบการเงินยูโรจะพังและอยู่ไม่ได้ เพราะว่าแบงค์ยุโรปที่อ่อนแออยู่แล้วจะไปก่อน
thanong
6/2/2015

 

Thanong Fanclub


·
2. จับตาวิกฤติกรีซ วิกฤติยูเครน & วิกฤติISIS
แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล2คน คือนายJoseph Stiglitz และนายPaul Krugmanยังไม่เห็นด้วยกับมาตรการเข้มของนายทุนหน้าเลือดทรอยก้าที่ไล่บี้กรีซจนแทบจะกระอักตาย Stiglitzบอกว่าทรอยก้าควรที่จะให้เงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากกว่านี้เพื่อให้กรีซสามารถจะหายใจได้ การบีบรัดทางเศรษฐกิจแบบนี้มีแต่ทำให้วิกฤติเศรษฐกิจของกรีซพังหนักลงไปอีก ส่วนนายKrugmanบอกว่าการบังคับให้กรีซดำเนินนโยบายงบประมาณเกินดุล4.5%ต่อจีดีพีเท่ากับเป็นการรีดเลือดกับปู
แต่ตอนนี้เลือดเข้าตาทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ถ้าทรอยก้าปล่อยให้ลูกหนี้เป้นกบฎได้ หรือมีเงื่อนไขลดหนี้ ขยายเวลาชำระหนี้ออกไป เจ้าหนี้ที่มีฐานะการเงินที่ง่อนแง่นอยู่แล้วจะจมน้ำตายไปด้วย ด้วยเหตุนี้ทางเยอรมันซึ่งคัดค้านการทำQEของธนาคารกลางของสหภาพยุโรปมาตลอด จำต้องยอมให้ECBทำโปรแกรมQEที่มีขนาดทั้งหมด$1.4ล้านล้าน โดยจะทะยอยปั๊มเงินเข้าไปในระบบเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ใช้เงินยูโรในระยะ18เดือนข้างหน้า เพื่อช่วยกดดอกเบี้ยให้ต่ำและเป็นการไฟแนนซ์งบประมาณขาดดุลในตัว ถ้าแบงค์มีปัญหา ECBก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเงื่อนไขเข้าไปอุ้มเหมือนกับที่ทางUS Federal Reserveได้ทำมาให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว
กรีซเป็นจุดอ่อน หรืออาจจะเป็นจุดตายในขั้นต่อไปของระบบยูโรที่ผิดพลาดตั้งแต่ตอนต้น การเอาประเทศ17ประเทศมารวมกันทางเศรษฐกิจและการเงินโดยใช้เงินสกุลยูโรร่วมกันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะว่าโดยพื้นฐานแล้วความสามารถในการแข่งขันของแต่ละประเทศไม่เท่าเทียมกัน
ประเทศทางยุโรปเหนือจะมีความสามารถในการแข่งกัน (competitiveness) สูงกว่าไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ เดนมาร์ก ส่วนประเทศยุโรปใต้เช่นโปรตุเกส เสปน ไซปรัส หรือกรีซจะมีความสามารถในการแข่งขันด้อยกว่า ทั้งฝรั่งเศสและอิตาลีถือว่าเป็นส่วนหนึ่งลาตินยุโรป สู้ยุโรปเหนืออย่างเยอรมันไม่ได้ในความแข็งแกร่ง หรือความสามารถในการแข่งขั้นทางเศรษฐกิจ ในเมื่อพื้นฐานแตกต่างกันเช่นนี้ ประเทศที่มีความสามารถในการแข็งขันสูงกว่าจะได้เปรียบดุลการค้าหรือดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นบวก ส่วนประเทศที่ด้อยกว่าในความสามารถในการแข่งขันจะเสียดุลการค้าหรือดุลบัญชีเดินสะพัดที่ติดลบ
ติดลบทางดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดนานวันเข้ากลายเป็นหนี้สินของประเทศที่เรื้อรัง และยิ่งยุโรปดำเนินนโยบายรัฐสวัสดิการ มีกฎหมายการคุ้มครองแรงงานอย่างดี ภาครัฐมีการใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบต่อจีดีพีเพราะว่าใช้ระบบภาษีที่สูงเพื่อเพิ่มบทบาทของรัฐในเศรษฐกิจทำให้เกิดงบประมาณขาดดุลที่เรื้อรัง ทั้งการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการขาดดุลงบประมาณที่่เรื้อรังกลายเป็นวิกฤติหนี้ของยุโรปที่แก้ไม่ตกเวลานี้ ทำให้เกิดมีการล้มละลายขึ้นในสมาชิกประเทศที่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากทรอยก้าแล้วเช่นกรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส
เมื่อมีการใช้เงินสกุลยุโรปยิ่งทำให้การแก้ไขปัญหาของแต่ละประเทศยิ่งจะยุ่งยากมากยิ่งขึ้น
กรีซและประเทศที่เจอวิกฤติในเขตยูโรทำความผิดพลาดอย่างอย่างมหันต์ ที่ยกอำนาจการพิมพ์เงินสกุลของตัวเองให้European Central Bank การใช้เงินสกุลร่วมทำให้ประเทศเล็กๆในเขตยูโรที่ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรมากกลายเป็นเชลยของพวกนักการเงินบรัสเซลล์ เขาจะพิมพ์เงินยูโรให้ใช้ก็รอด เขาจะตัดเครดิตไลน์เงินยูโรก็ตาย เนื่องจากกรีซทำท่าจะเบี้ยวแพคเกจการช่วยเหลือทางการเงินของทรอยก้า ECBได้ประกาศแล้วว่าจะไม่รับเอาพันธบัตรรัฐบาลกรีซเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ระยะสั้น
ถ้าหากว่ากรีซไม่เข้าเขตยูโรโซนเหมือนอังกฤษ หรือเดนมาร์ค จะยังคงรักษาอำนาจอธิปไตยทางนโยบายการเงินได้ เพราะว่าจะพิมพ์เงินDrachmaเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีธนาคารกลางของกรีซก็ปั๊มเงินมากหน่อยเข้าไปในระบบการเงิน ถ้าเศรษฐกิจดีก็ดึงเงินออกจากระบบ แต่ตอนนี้ธนาคารกลางของกรีซไม่ได้พิมพ์เงินDrachma และไม่ได้พิมพ์เงินยูดร ทำให้อำนาจในการดูแลปริมาณเงินในระบบมีจำกัดมาก ความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายทางการเงินไม่มี ต้องขึ้นอยู่กับECBอย่างเดียว
thanong
6/2/2015

 

Jeerachart Jongsomchai

... "ผู้นำเยอรมันและฝรั่งเศสบินไปคุยกับรัสเซียเรี่องวิกฤติยูเครน โดยไม่ปรึกษาอเมริกา"
... เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาทั้งสองไปคุยกับปูติน โดยไม่สนใจเมกา แสดงว่าพี่ใหญ่ของอียูก็เริ่มเบื่อเมกาเต็มกลืน แถมเรียกกลุ่มที่พยายามแก้ไขกว่า ‘Normandy Four’‘ 4 ประเทศ ที่มีรัสเซียและยูเครนร่วมอีกสอง โดยไม่มีอเมริกามาเกี่ยวข้องเลย
... "ร่วมกับแมร์เคิล เราตัดสินใจที่จะเริ่มความคิดใหม่" ออลลองด์ประธานาธิบดีฝรั่งเศสบอกไว้อย่างนั้น เพื่อจะรีบแก้ไขปัญหายูเครนให้จบเร็วที่สุด โดยปราศจากเงาของ อเมริกวน
.... ( ทางการทูต = แปลว่า อย่ามายุ่ง พวกข้ายุโรปแก้ไขปัญหา (ที่เอ็งสร้างขึ้น) เองได้ )
Hollande, Merkel go to Moscow to discuss Ukraine without consulting US – report — RT News

 

เตือนภัย พิบัติโลก



6/2/2015 ประเทศญี่ปุ่นเกิดหิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ใน จ.ฮอกไกโด ทางภาคเหนือของประเทศ ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่ตกทับถมสูงถึง 1.8 เมตรทำให้เมืองที่ได้รับผลกระทบถูกตัดขาดทางการต้องระดมทหารเข้าไปเคลียร์หิมะออกจากถนนเพื่อเปิดเส้นทาง

พายุหิมะพัดถล่ม จ.ฮอกไกโด อย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้พื้่นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่ตกทับถมสูงถึง 1.8 เมตร ส่งผลให้เมืองราอูซุ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของเกาะฮอกไกโดและเป็นหนึ่งในพื้นที่ทีได้รับผลกระทบมากที่สุดถูกตัดขาดมาเป็นเวลาถึง 3 วัน เนื่องจากหิมะทับถมเส้นทางเข้าออกเมือง ล่าสุดทางการต้องระดมทหารกองกำลังป้องกันตนเองเข้าไปในเมืองเพื่อช่วยเคลียร์หิมะออกจากถนนเพื่อเปิดเส้นทาง
ขณะที่บ้านเรือนในเมืองราอูซุบางหลังถูกหิมะตกทับถมจมมิดหลังคาและมีชาวบ้านหลายคนติดอยู่ในบ้านมาเป็นเวลาหลายวัน ขณะที่ถนนเข้าออกเมืองไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากมีหิมะตกทับถมบนถนนสูงถึง 1.4 เมตร
นอกจากนี้พายุหิมะยังส่งผลกระทบในอีกหลายพื้นที่ของเกาะฮอกไกโดส่งผลให้รถไฟต้องหยุดให้บริการชั่วคราวเกือบ 100 เที่ยว ขณะที่โรงเรียนกว่า 200 แห่งต้องปิดการเรียนการสอน แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ
http://news.thaipbs.or.th/…/หิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ในฮอก…

 

Pat Hemasuk



เล่นข่าวต่างประเทศนอกกระแสสื่อหลักต่อครับ สำนักข่าวพม่าจบไปแล้วเล่นข่าวจากสื่อตะวันออกกลางต่อ วันนี้หนังสือพิมพ์กรอบบ่ายเกือบทุกสำนักข่าวของตะวันออกกลางได้ลงรูปของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สอง ของจอร์แดนในเครื่องแบบของนักบินรบ พร้อมคำพูดของพระองค์ที่ไม่ต่างกับ คลินต์ อีสต์วูด ว่า จะถล่มไอซิสจนกว่าน้ำมันหรือกระสุนจะหมด หลังจากที่กลุ่มไอซิสได้แพร่ภาพการเผาทั้งเป็น เรือโทมาอัธ อัล-คาสซัสเบห์ นักบินจอร์แดนในกรงไปเมื่อวันก่อน

ข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ในตะวันออกกลาง ที่ปลุกความฮึกเหิมของนักรบจอร์แดนได้อย่างมาก เพราะพระองค์เองก็เป็นนักบินรบมาก่อน และเป็นนักบินรบอยู่ในกองทัพถึง 35 ปีก่อนขึ้นครองราช ถ้าอิสลาเอลจะเกรงใจกองทัพรอบบ้านตัวเองประเทศไหนมากที่สุด คำตอบก็คือกองทัพของจอร์แดนนี่แหละครับ เพราะสงครามครั้งก่อนที่มีชาวปาเลสไตน์หลบสงครามเข้าไปในพื้นที่ของจอร์แดน กองทัพอิสลาเอลก็ไม่บุกข้ามเข้าไปเพราะรู้ใส้รู้ฝีมือกันดี ให้รบกับอียิปต์เสียยังดีกว่ารบกับจอร์แดน เพราะจอร์แดนมีทั้งทั้งอาวุธและรบได้บ้าเลือดเหนือกว่าอียิปต์หลายเท่า

เมื่อวานนี้ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สอง ทรงไปเยี่ยมครอบครัวของนักบินเพื่อแสดงความเสียพระทัยต่อครอบครัว ทรงให้เครื่องบินรบของกองทัพบินวนเหนือหมู่บ้านเพื่อเป็นเกียรติ์แก่ครอบครัวของ เรือโทมาอัธ อัล-คาสซัสเบห์
ทรงคิดแบบทหารและทำแบบทหาร และซื้อใจประชาชนแบบกษัตริย์นักรบ ทรงออกคำสั่งคำเดียวใครบ้างจะไม่ออกไปทำศึกเพื่อพระองค์และประเทศจอร์แดน

ในโลกนี้ถ้าจะหากษัตริย์ที่ยังออกศึกนำหน้ากองทหารของตัวเองได้ น่าจะเหลือพระองค์เดียวนี่แหละครับที่ยังมีกำลังกายและกำลังใจเต็มร้อยที่จะนำหน้ากองทัพเข้ารบ ข่าวจากสำนักข่าว FOX NEWS ได้ลงข่าวไปเมื่อวันอังคารว่าทรงไปที่วอชิงตันและได้ปรึกษากับคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของสหรัฐก่อนกลับไปจอร์แดน และวุฒิสมาชิก ดันแคน ฮันเตอร์ ได้ออกรายการในช่องฟอกซ์นิวส์ ว่า ทรงได้ให้หลักของการของการตอบโต้ที่รุนแรงและทันทีทันใด "กษัตริย์ อับดุลเลาะห์ ไม่ใช่ประธานาธิบดีโอบาม่า" วุฒิสมาชิก ดันแคน ฮันเตอร์ จบด้วยการงับน่องโอบาม่าคำใหญ่
Rep. Duncan Hunter, who was in the meeting, told Fox News that given the ruler’s immediate and vehement reaction, “King Abdullah is not President Obama.”

และเมื่อวานนี้เองที่จอร์แดนเริ่มเปิดสงครามทางอากาศถล่มไอซิสอีกรอบ ซึ่งข่าวลืออกมาว่าทรงวางกำลังบินเข้าไปโจมตีด้วยพระองค์เอง รัฐบาลจอร์แดนได้ออกมาปฎิเสธข่าวนี้ แต่คนทั้งประเทศไม่มีใครเชื่อ เพราะในอดีตทรงบินออกศึกในสงครามอิสราเอลที่ข้ามฝั่งจากปาเลสไตน์มาหลายครั้งจนยิวขอสงบศึก เลิกรบเลิกยุ่งกับพื้นที่ของจอร์แดนจนถึงทุกวันนี้

ตอนนี้ประเทศมุสลิมย่านตะวันออกกลางกำลังเชียร์กษัตริย์จอร์แดนออกถล่มไอซิสกันทั้งอ่าว โลกใบนี้ขาดกษัตริย์นักรบมานานแล้ว ครั้งนี้แหละที่จะได้ดูสงครามของกษัตริย์นักรบที่แท้จริงในรอบร้อยกว่าปีที่โลกนี้ไม่เคยเห็นกษัตริย์ออกรบ

 

Pat Hemasuk



วันนี้ผมเขียนยาวที่สุดตั้งแต่เคยเขียนมาบนเฟสบุค วันนี้ผมจะเขียนเรื่องคดีธรรมกายในมุมที่ผมสัมผัสและพบเจอ ผมเลยต้องเตือนก่อนอ่าน
คืนนี้ผมนั่งอ่านเรื่องกรณีวัดธรรมกายที่ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ประยุทธ์ ปยุตฺโต ได้เขียนเอาไว้อีกรอบเพื่อเก็บรายละเอียดในข้ออธิกรณ์ แล้วคิดถึงสมเด็จอุปัชฌายาจารย์ของผม สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงครามเมื่อครั้งยังเป็นคณะใหญ่หนกลาง สมเด็จท่านมีความเที่ยงตรง ผิดก็ว่าผิดถูกก็ว่าถูก ไม่เอนเอียงตามเสียงของมหาเถรรูปอื่นทั้งสิ้น สิ่งที่ผมคิดถึงคือเมื่อย้อนหลังไปเมื่อ 14 ปีก่อนที่สมเด็จท่านต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกรณีธรรมกาย เวลานั้นผมก็ยังวิ่งเข้าวิ่งออกวัดชนะสงครามอยู่ไม่ต่างกับเวลานี้ แม้ผมจะยุ่งอย่างไรก็ต้องพาพ่อของผมเข้าวัดชนะอยู่ดีเมื่อท่านออกปาก เพราะท่านจะเข้าไปคุยเฮฮากับท่านเจ้าคุณสองสามรูปที่เป็นเพื่อนสมัยบวชด้วยกันตอนวัยหนุ่ม แล้วก็ต้องไปกราบสมเด็จพระมหาธีราจารย์ที่เมตตาทุกคนในบ้านของผมตั้งแต่ทวดลงมาตั้งแต่สมัยที่สมเด็จท่านเป็นพระมหาเปรียญหนุ่มยังไม่เป็นท่านเจ้าคุณ
เรื่องนี้ขึ้นมายุ่งกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ตรงที่มีคดีธรรมกายที่โดนโยนขึ้นมาจนถึงมือของสมเด็จท่านแบบที่ท่านก็คาดไม่ถึง โดยที่ทั้ง เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค ต่างก็เอนเอียงเข้าข้างธรรมกายไม่รับคดีขึ้นฟ้อง และดึงเรื่องแบบสุดความสามารถ จนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาที่ดูแลกรมศาสนาในเวลานั้นก็รวบรัดว่าเรื่องนี้ต้องถึงมหาเถรสมาคมเสียแล้ว และต่อมาเรื่องนี้ก็ตกลงมาถึงมือสมเด็จอุปัชฌายาจารย์ของผมจนได้
เรื่องนี้ผมจะปูพื้นเรื่องก่อน เพื่อให้คนไม่รู้ได้รู้ เพราะในอนาคตถ้าหมดคนรุ่นผมไปแล้วหลักฐานปฐมภูมิจะหมดไป ต่อไปคนรุ่นหลังต้องไปอ่านจากคนที่ตายแล้วเขียนให้อ่าน ในเวลานั้นมีคดีฟ้องของ คุณมานพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญกรมการศาสนา และคุณสมพร เทพสิทธา ประธานยุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ได้ฟ้อง พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีละเมิดพระธรรมวินัย และละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ซึ่คดีนั้นมีการใช้เท็กนิกลากเรื่องดองเรื่องอย่างสุดฝีมือจากทางวัดพระธรรมกาย เริ่มจากเจ้าคณะปกครองมีอำนาจในการพิจารณาได้ปัดสำนวนฟ้องทิ้งไปด้วยเหตุที่ว่าผู้ฟ้องไม่ได้กรอกแบบฟอร์มช่องหนึ่งที่แจ้งว่าตัวเองว่าศาสนาอะไร
เวลานั้น เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค ต่างก็โดนสังคมโห่ฮาป่าในมุขอรหันต์โอ่งในนิทานแบบสุดๆ คุณมานพ นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญกรมการศาสนา เขียนหนังสือ หลักการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม ให้พระสงฆ์ได้เล่าเรียน และคุณสมพร ก็เป็น ประธานยุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ แต่ทั้ง เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค ก็เล่นทริกดึงเรื่องและปัดคดีให้ตกด้วยการแจ้งว่า โจทย์ทั้งสองไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นพุทธศาสนิกชน จะมาฟ้องพระไม่ได้ จนทั้งสองท่านต้องเอาหลักฐานว่าเคยบวชเรียนมาแล้วมาแสดงว่าเป็นพุทธแท้ๆ ถึงจะยอมเดินเรื่องต่อให้
พอเรื่องเดินต่อไปก็มีทริกอีกมุขหนึ่งขึ้นมาว่าโจทย์ทั้งสองเป็นฆารวาสจะมาฟ้องพระไม่ได้ เจ้าคณะจังหวัดก็ไม่รับพิจารณาเรื่องนี้ โจทย์ไม่มีทางเลือกเลยไปฟ้องต่อเจ้าคณะภาคเสียเลย แต่เจ้าคณะภาคตัดสินว่าฆราวาสไม่มีสิทธิ์ฟ้องเหมือนกันจนเรื่องถึงรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาทำเรื่องให้มหาเถรสมาคมพิจารณาเสียเลย คราวนี้มหาเถรสมาคมบอกว่าทำไมจะฟ้องไม่ได้ "อย่างนี้จะพระเหี้ยอย่างไรชาวบ้านก็ต้องทนหรืออย่างไร" คำนี้ผมเอามาจากท่านสมเด็จพระมหาธีราจารย์ นั่งตบเข่าเล่าให้พ่อผมฟังเมื่อ 14ปีที่แล้วแล้วผมนั่งอยู่ด้วยได้แต่อมยิ้มอยู่ข้างเสากุฎิ ตามปกติสมเด็จท่านท่านจะพูดจาระวังคำพูด แต่กับคนใกล้ชิดแบบพ่อของผมท่านปลดเบรคพูดแบบสบายปากได้
พอมหาเถรสมาคมมีมติว่าฆราวาสฟ้องได้ แล้วสั่งการให้เจ้าคณะภาคสั่งการให้เจ้าคณะจังหวัดรับฟ้องตามขั้นตอน แต่เจ้าคณะจังหวัดก็แจ้งไปยังเจ้าคณะภาคว่ามติของเจ้าคณะภาคที่ว่าฆราวาสฟ้องไม่ได้ มันมีมาก่อนมติมหาเถรสมาคม จะยังถือมติเดิมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนก็รู้ว่าทั้งเจ้าคณะภาคและเจ้าคณะจังหวัดเตะบอลดึงเกมส์แบบรู้กันทั้งคู่นั่นแหละ ทางกระทรวงศึกษาเลยต้องเอาเรื่องเข้ามหาเถระใหม่อีกรอบว่าเจ้าคณะทั้งสองไม่ทำตามมติมหาเถรสมาคมสั่งการ เรื่องเลย ทางมหาเถรสมาคเลยสั่งการไปยังเจ้าคณะภาคอีกรอบ คราวนี้เจ้าคณะภาคบอกว่าจะรีบทำตามมติเร่งรัดคดี แต่ก็ดึงเรื่องไปเรื่อยๆอีกรอบจนมหาเถรฯ แต่งตั้งให้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เจ้าคณะหนใหญ่กลาง เข้ามากำกับดูแลด้วย โดยสมเด็จท่านให้ส่งรายงานมาทั้งหมด แต่ทางเจ้าคณะภาคก็ดึงเรื่องขอเวลาเขียนอีกเป็นเดือนๆ แล้วส่งมาแบบเขียนใส่ตั๋วรถเมล์สั้นๆ เท่านั้น คราวนี้สมเด็จท่านด่าเปิงกลับไปเพราะนิสัยของท่านตรงเป็นไม้บรรทัด แล้วสั่งให้ส่งรายงานแบบเต็มยศมาโดยด่วน พอรายงานมาถึงมือสมเด็จท่านก็บอกว่าแบบนี้ชัดเจนว่าเจ้าคณะภาคขัดคำสั่งมหาเถรสมาคมแบบชัดเจนท่านจะว่าอย่างไร
เรื่องนี้ผมขออ้างคำพูดของท่านอาจารย์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ท่านบอกว่าเจ้าคณะภาคพูดกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ว่าตกนรกทั้งเป็น โดยเขียนว่า "ถ้าอย่างนั้นผมก็ตกนรกทั้งเป็น ตกนรกทั้งเป็นหมายความว่าอย่างไร คือไปรับเงินเขา เอ๊ย! รับลาภสักการะเขามาแล้ว ถ้ามาเปลี่ยนมติเสียเดี๋ยวก็จะมาตกนรกหรืออย่างไร อันนี้ก็ไม่ทราบนะฮะ ถ้าพูดอย่างนั้น" ท่านอาจารย์เสถียรพงษ์ เขียนว่าเจ้าคณะภาคพูดกับสมเด็จแบบนี้ สมเด็จท่านก็ไม่ยอมอะไรผิดว่าผิด อะไรถูกว่าถูก นิคหกรรมฆราวาสฟ้องได้อยู่แล้วไม่มีข้อห้ามอะไรสักอย่างตามที่อ้างปัดให้คดีตกกันเลยสักอย่าง
คราวนี้เจ้าคณภาคและเจ้าคณะจังหวัดวิ่งไปพึงบารมีของสมเด็จวัดสะเกศให้มาเป็นตัวช่วยเพราะอย่างที่รู้กันว่าวัดสะเกศแบ็กอัพสายนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว โดยสมเด็จวัดสะเกศบอกว่าต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความว่าฟ้องได้หรือไม่ แต่สมเด็จวัดชนะท่านก็ซัดเข้าไปดอกใหญ่ในที่ประชุมมหาเถระแบบไม่ไว้หน้าว่า เรื่องของพระส่งไปให้บ้านเมืองพิจารณาได้อย่างไร เคยส่งไปแล้วก็โดนตีกลับมาทุกครั้งว่าเรื่องของพระก็ให้มหาเถรฯจัดการกันเอง คนนอกวัดไม่อยากยุ่งด้วยเพราะเรื่องแบบนี้มันมีพระวินัยมากำกับด้วย คนไม่ใช่พระจะมาชี้เรื่องพระวินัยได้อย่างไร
เรื่องนี้สมเด็จวัดสะเกศเจออัดเข้าจังๆกลางที่ประชุมมหาเถรสมาคมถึงกับถอยกรูด ไม่แบ็กอัพวัดธรรมกายให้ตามที่คาดกันเอาไว้ เพราะรู้ว่าสมเด็จวัดชนะสงครามตรงเป็นไม้บรรทัดและไม่เคยมีเรื่องให้ใครขุดมานินทาให้เป็นจุดอ่อนได้ และดันเรื่องเข้ามหาเถรสมาคมทันที แต่ก็โดนดึงเรื่องต่อไปอีกหลังจากฝั่งสนับสนุนวัดธรรมกายเริ่มตั้งขบวนกันติดและมีการล็อปบี้กรรมการบางรูปของมหาเถรสมาคมกันสำเร็จ โดยให้เลื่อนการพิจารณาออกไป โดยอ้างว่ากรรมการฯ บางรูปอ่านเอกสารไม่จบ เรื่องก็ดึงกันไปเรื่อยๆ อีกนานข้ามปี
จนในที่สุดสมเด็จพระสังฆราชทรงทนไม่ไหว ได้มีพระลิขิตออกมาว่า“การโกงสมบัติผู้อื่น ตั้งแต่ ๕ มาสกขึ้นไป คือประมาณไม่ถึง ๓๐๐ บาทในปัจจุบัน ภิกษุต้องอาบัติปาราชิก ฐานผิดพระธรรมวินัย พ้นจากความเป็นพระทันที ในกรณีนี้ ไม่ว่าจะมีผู้รู้เห็นหรือไม่ ไม่ว่าจะมีการสั่งให้สึก ไม่ว่าจะมีการจับสึก หรือไม่ก็ตาม ภิกษุผู้ละเมิดพระธรรมวินัยข้อนี้ ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นพระโดยทันที” พอมีพระลิขิตออกมาเหมือนวงแตก มหาเถรฯ ให้ติดตามว่าวัดธรรมกายจะมีปฎิกิริยาอย่างไรกับพระลิขิต แต่วัดธรรมกายก็ยังเฉย
พระสังฆราชก็ได้ทรงออกพระลิขิตอีกฉบับเป็นฉบับที่สอง ได้ทรงลิขิตว่า “ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำทรงสอน โดยกล่าวว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือน แตกแยกออกไป กลายเป็นสอง มีความเข้าใจ ความเชื่อถือพระพุทธศาสนาตรงกันข้าม เป็นการทำลายพระพุทธ-ศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยก ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการทำที่ถูกต้อง คือต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัด ทันที” แม้จะทรงออกพระลิขิตออกมาสองฉบับแล้วมหาเถรฯก็ยังเฉยๆ ไม่มีมติออกมา
ทรงทนไม่ไหวกับคณะกรรมการมหาเถรฯ มีพระลิขิตออกมาเป็นฉบับที่สามว่า “ไม่คิดให้มีโทษ เพราะคิดในแง่ยกประโยชน์ ให้ ว่าในขั้นต้นอาจมิใช่มีเจตนาถือเอาสมบัติ ของวัดเป็นของตนจริงๆ แต่เมื่อถึงอย่างไรก็ ไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็น พระ ให้แก่วัด ก็แสดงชัดแจ้ง ว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ ต้องถูก จัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระ ปลอมเป็นพระ ด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง ทำ ความเศร้าหมองเสื่อมเสีย ให้เกิดแก่สงฆ์ใน พระพุทธศาสนา”
คราวนี้มีแรงกระเพื่อมจากอีกฝั่งที่เชียร์ธรรมกายอีกว่าเป็นพระลิขิตปลอม ทั้งที่สำนักงานเลขาพระสังฆราชก็ออกมายืนยันว่าทรงลิขิตไว้ตามนั้นจริง จึงทรงออกพระลิขิตอีกฉบับเป็นฉบับที่สี่ว่า “ในกรณีเกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกาย เราได้ทำหน้าที่ของสมเด็จพระสังฆราชสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดอีกขณะนี้ ขออนุโมทนาทุกท่านที่สนใจห่วงใยพระพุทธศาสนา แสดงความเป็นคนดี ด้วยมีกตัญญูกตเวทิตาธรรม” ทันที่ที่ออกพระลิขิตฉบับสุดท้ายออกมา ถึงกับมีคำขู่จากกลุ่มสนับสนุนวัดธรรมกายในทางรุนแรงจนถึงขั้นปองร้ายพระสังฆราช จนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งตำรวจมาอารักขาสมเด็จพระสังฆราช และเร่งให้ดำเนินทุกวิถีทางเพื่อสนองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชโดยด่วน
นามสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาในเวลานั้น ได้เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม แล้วแจ้งว่าเรื่องนี้จะนำคดีเข้าศาลในคดีอาญาทางโลก และจะตั้งพระให้เป็นโจทย์ในคดีกฏนิคหกรรมส่งให้ดำเนินการทางสงฆ์ โดยเร่งให้ ธัมมชโย โอนที่ดินและทรัพย์ส่วนนี้กลับเข้าวัด แต่ก็ได้รับคำตอบจากวัดธรรมกายว่าให้การพิจารณาของมหาเถรสมาคมจบก่อนว่าผิดจริงถึงจะโอนให้ และต่อมามหาเถรสมาคมก็เตะถ่วงเอาเรื่องอื่นๆเข้าประชุมแทนที่จะรีบพิจารณาเรื่องที่ นายมาณพ พลไพรินทร์ และนายสมพร เทพสิทธา ฟ้องในคดีกฏนิคหกรรม คราวนี้ประชาชนออกมาต่อต้านมหาเถรฯกันทุกภาคส่วนสนับสนุนพระลิขิตของพระสังฆราชและกดดันให้มหาเถรสมาคมออกมาดำเนินการจัดการวัดธรรมกายตามพระลิขิต
ในขั้นสอบสวนทางโลก ธัมมชโย เข้ามอบตัวและประกันตัวไป ส่วนมหาเถรฯยังเตะถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ จนตำรวจได้ส่งสำนวนฟ้องให้อัยการดำเนินการต่อ และต่อมาสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ได้กดดันกลางที่ประชุมมหาเถรสมาคม และได้สั่งให้เจ้าคณะภาคสั่งให้อายัดเงินฝากของวัดธรรมกาย แต่ทางวัดธรรมกายสู้และแจ้งว่าอธิกรณ์ถึงที่สุดตามที่เจ้าคณะภาคและเจ้าคณะจังหวัดไม่รับฟ้องเมื่อหลายปีก่อนไปแล้ว จึงไม่ทำตามที่ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ สั่งการลงมาถึงเจ้าคณะภาคทุกประการ และเพื่อลดความกดดัน ธัมมชโย ได้ลาออกจากเจ้าอาวาสแล้วให้ ทัตตชีโว ขึ้นแทน แล้วก็ใช้วิธีดึงคดีไปเรื่อยๆโดยแจ้งว่าป่วย จนกระทั่งหาทางออกได้แบบไม่เจ็บตัวโดยโอนที่ดินและทรัพย์สินกลับคืนวัดแล้วอัยการสั่งไม่ฟ้องโดยให้เหตุผลว่า "สำหรับในด้านทรัพย์สินนั้น ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 กับพวก ได้มอบทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งมีทั้งที่ดินและเงินจำนวน 959 ล้านบาทคืนให้แก่วัดพระธรรมกาย การกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 1 กับพวกจึงเป็นการปฏิบัติตามพระลิขิตของพระสังฆราชครบถ้วนทุกประการแล้วอัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ถอนฟ้องคดีนี้" และมหาเถรสมาคมก็ถือโอกาสทองรีบปิดคดีเช่นกันโดยไม่สอบสวนคดีกฏนิคหกรรมต่อเหมือนทุกอย่างรีเซตตัวเองจบไปแล้ว โดยไม่คำนึงถึงพระลิขิตที่ทรงพิจารณาให้ ธัมมชโย สิ้นสภาพความเป็นพระไปก่อนหน้านั้น
คืนนี้ผมเขียนอะไรยาวมาก แต่อยากจะเขียนเรื่องให้อ่านกันว่าทั้งสองปูชนียาจารย์ของผม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวร ที่ทรงเมตตาสั่งสอนผมยังเด็กจนวัยรุ่น และ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ที่เป็นอุปัชฌายาจารย์ของผม ได้ต่อสู้เพื่อพระศาสนาอย่างไรในกรณีคดีธรรมกาย

 

Myscreenfilm



‪#‎แชร์ต่อด้วยนะสำคัญมาก‬
ตรวจสอบว่าลงทะเบียนซิมหรือยัง
สทช.ประกาศให้ผู้ใช้มือถือแบบเติมเงิน
‪#‎ต้องลงทะเบียนทุกคน‬ ‪#‎ภายใน‬ 31 ก.ค.58นี้
หากไม่ลงทะเบียนจะไม่สามารถใช้งานได้
>>>สามารถลงทะเบียนไ้ด้ตามร้านค้าที่ร่วมสิทธิ์
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>ให้ข้อมูลโดย เพจ ทำเคสทำฟิล์ม มือถือ >>> Myscreenfilm

 

ข้อมูลคุณดารา เอามาอ่านเป็นความรู้กันครับ



จากตำราโหราศาสตร์ไทยชั้นสูง เรื่องการพยากรณ์ดวงชะตาจรและการคำนวณและการพยากรณ์นวางค์จักร ของอาจารย์สิงห์โต สุริยอารักษ์ ค่ะจะกล่าวเรื่องนิจฟื้นคอนข้างละเอียด แต่ไม่ได้บอกว่าฟื้นในนวางค์ หรือฟื้นในราศีจักรค่ะ

" ดาวเคราะห์นิจฟื้น"
การที่นิจฟื้นนี้ เกิดได้ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ประการสำคัญนั้นเนื่องมาจากมีปัจจัยเป็น ๑ ๔ ๗ ๑o
1. ดาวเคราะห์เจ้าของเรือนที่ดาวนิจสถิตย์อยู่ เช่น ดาว๑ อยู่ราศีตุลย์เป็นนิจ ดาวเคราะห์ที่จะช่วยให้ดาว ๑ นิจฟื้น คือดาว ๖ เจ้าของราศีตุลย์
2. ดาวเคราะห์เจ้าของเรือนตรงกันข้ามที่ดาวเคราะห์เป็นนิจสถิตย์อยู่ เช่นดาว ๗ อยู่ราศีเมษ ราศีตรงข้ามคือราศีตุลย์ เจ้าของราศีตุลย์จะช่วยให้กาว ๗ นิจฟื้นได้
3. ดาวเคราะห์ที่มีตำแหน่งอุจในราศีที่ดาวเคราะห์เป็นนิจสถิตอยู่ เช่น ดาว ๑ อยู่ราศีตุลย์ ดาวเคราะห์ที่มีตำแหน่งอุจในราศีตุลย์ คือ ดาว ๗ จึงจะช่วยให้ดาว ๑ นิจฟื้นได้
4. ดาว ๒ ช่วยให้นิจฟื้นได้
อธิบาย
กฏเกณฑ์ที่จะช่วยให้นิจฟื้นได้ คือ ดาวเคราะห์ที่ช่วยดาวนิจนั้นๆ จะต้องมีปัจจัยเป็น 1 4 7 10 กับดาวเคราะห์นิจนั้นๆหรือดาว ๒ เป็นปัจจัย แม้ดวงใดดวงหนึ่ง หรือเป็นเกณฑ์ระหว่างกัน แม้คู่ใดคู่หนึ่ง จะเป็นเกณฑ์กันในภาวะจักร หรือดวงภพ ไม่ใชเพียงแต่นับราศีแล้วเป็นเกณฑ์กัน เฉพาะกฏเกณฑ์นี้ ท่านว่าอนุโลมใช้กับดวงนวางจักรได้ด้วย คือดาวเคราะห์ปัจจัยเหล่านั้นเป็นเกณฑ์ในนวางค์ ในกรณีนวางค์ไม่ต้องใช้ภาวะจักรสำหรับนวางค์อีก เพราะระยะนวางค์เพียง ๓ องศ่ ๓o ลิบดา แคบพออยู่แล้ว

ดาวเคราะห์นิจฟื้นตามกฏเกณฑ์ให้คุณกับเจ้าชะตาดังนี้
1.ผู้นั้นจะได้รับความสุขสมบูรณ์ดุจพระราชา
2.ผู้นั้นจะประสบผลสำเร็จทางการเมือง และจะเป็นขุนนางผู้ใหญ๋

ดาวเคราะห์นิจให้คุณ
ที่ว่าดาวเคราะห์นิจเข้าสู่ราศีตำแหน่งนิจให้คุณนั้น ถือหลักเอาจากดาวเคราะห์โคจรใกล้ไกลกับโลกเช่นเดียวกัน

ดาวเคราะห์เข้าสู่ราศีตำแหน่งนิจ เป็นตำแหน่งตรงข้ามกับดาวเคราะห์ตำแหน่งอุจ ฉนั้นดาวเคราะห์ที่มีตำแหน่งเป็นนิจก็หมายถึงดาวเคราะห์นั้นไกลโลก สีและแสงของดาวนั้นก็หย่อนลง อำนาจก็ด้วยจึงอย่างกลางๆ ว่านิจย่อมลดทั้งคุณและโทษตามสภาพของดาวเคราะห์ดวงนั้นๆ เมื่อมีลักษณะนี้ดาวเคราะห์ที่เข้าสู่ตำแหน่งนิจจึงให้คุณได้ดังนี้
**จะทำให้ผู้นั้นประสบผลสำเร็จในชีวิตอย่างสูง
นี่คัดลอกจากหนังสือมาให้อ่านนะคะ

หนังสือของอาจารย์สิงห์โต กล่าวไว้เรื่อง นิจพังคะราชาโยค (คัดลอกมาค่ะ)
นิจพังคะราชาโยค คือความสัมพันธ์โยคที่แรงชนิดหนึ่ง นิจพังคะ แปลเอาความว่า นิจฟื้นคืนเป็นอุจ ราชาโยค หมายความว่า โยคนั้นมีกำลังดุจพระราชา

ดาวเคราะห์ทุกดวงที่สถิตอยู่ในราศีจักรแห่งนิจ บ่งถึงไม่ให้ผลดีแก่เจ้าชะตา แต่เมื่อสมผุสองศาเข้านวางค์จักรแล้ว ดาวนั้นเป็นอุจกลายสภาพเป็นนิจไป ดังนี้ เรียกดาวดวงนั้นว่า "เป็นนิจพังคะราชาโยค" ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ให้คุณกับเจ้าชะตา

ดาวเคราะห์ที่เป็นนิจในราศีแต่เป็นอุจในนวางค์

ดว๑ เป็นนิจในราศีแต่เป็นอุจในนวางค์
- บุคคลนั้นจะได้รับความก้าวหน้ารุ่งโรจน์ และมีความสุขดุจพระราชา แต่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินหรือชีวิตตอนปลาย

ดาว ๒ เป็นนิจในราศีแต่เป็นอุจในนวางค์
- บุคคลนั้นจะเป็นผู้ที่มีความเจริญก้าวหน้าและมีความสำเร็จ ผลร้ายมีในบั้นปลาย

ดาว ๓ เป็นนิจในราศีแต่เป็นอุจในนวางค์
- ผลสำเร็จในทางกสิกรรม และกิจการต่างๆ และจะได้ที่ดินทรัพย์สินอุดมสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์

ดาว ๔ เป็นนิจในราศี แต่เป็นอุจในนวางค์
- ตอนต้นๆไม่สู้มีผลดีอะไร และตอนปลายจะเจริญก้าวหน้า

ดาว ๕ เป็นนิจในราศี แต่เป็นอุจในนวางค์
- ได้รับอุปถัมภ์ของพระรา๙ ความสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ การเรียนสำเร็จ มีชื่อเสียง รวยด้วยทรัพย์สิน และมีอิทธิพลจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน

ดาว ๖ เป็นนิจในราศี แต่เป็นอุจในนวางค์
- ประสบความสำเร็จทางด้านกสิกรรม ธุกิจค้าขายได้ทรัพย์สมบัติ

ดาว ๗ เป็นนิจในราศี แต่เป็นอุจในนวางค์
- ตอนต้นให้ระวังภัยจากขโมยและศัตรู อาจต้องพลัดพรากไปต่างประเทศ ตอนปลายจึงได้รับความสุข


****ในหนังสือของอาจารย์สิงห์โต แยกเรื่องนิจฟื้น กับเรื่องนิจพังคะราชาโยค ไว้ชัดเจนมากเลยค่ะ เป็นเรื่องที่นิจฟื้นเพียงอย่างเดียวค่ะ
แต่ที่เขียนวันนี้ข้างต้น เป็นเรื่อง นิจพังคะราชาโยค อย่างเดียวเหมือนกันค่ะ ซึ่งให้คุณสูงสุด กว่านิจฟื้นธรรมดาค่ะ




12. ดารา [117.47.70.145] 21 Nov 2007 - 21:12

--------------------------------------------------------------------------------

วรโคตร ในราศีใด ในเรือนใด ก็ให้คุณในเรื่องนั้น
วรโคตร มาจากเรือนใด ราศีใด คุณที่ได้รับ มีสาเหตุมาจากเรื่องนั้น

วรโคตร ในเรือนวินาสน์ ให้คุณด้าน การได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือ, ภยันอันตรายไม่กล้ำกลาย, รอดพ้นเรื่องร้ายกลายดี ฯ

วรโคตร มาจากเรือนกัมมะ การงานที่ทำ มีผู้ช่วยเหลือส่งเสริมดี จะขอสปอนเซอร์จากใครก็ได้ง่าย มีผู้ให้การสนับสนุน ในเรื่องที่เกี่ยวกับงาน ผลงานเป็นที่น่ายินดี
วรโคตจร มาจากเรือนสหัชชะ พี่น้อง เพื่อนฝูง ให้การช่วยเหลือเกื้อกูลกันดี ไม่ว่ากำลังใจ หรือการเจราติดต่อใดๆ มักได้ผลสมหวัง อย่างไม่คาดหมาย
24473 :

 

วิเคราะห์กลยุทธ์ไอเอส "ทั้งได้และเสีย" Thu, 05/02/2015 - 20:08
หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่ากลุ่มไอเอสมีทั้งได้และเสียจากการสังหารตัวประกันอย่างโหดเหี้ยมต่อสายชาวโลก ด้านหนึ่งกลุ่มไอเอสจะถูกต่อต้านจากชาวมุสลิมที่ถือว่าไอเอสทำผิดหลักการของศาสนา แต่อีกด้านกลยุทธ์นี้ก็ได้ผลทำให้ชาติพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ บางประเทศยอมถอนตัวจากปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มไอเอส

<iframe width="615" height="346" src="https://www.youtube.com/embed/4p-vZsdZSwQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


คลิปวิดีโอการสังหารเรืออากาศโทมูอัท อัล คาเซเบห์ ที่มีความยาว 22 นาที มีการถ่ายทำ ลำดับภาพและตัดต่ออย่างดีราวกับเป็นภาพยนตร์สั้น โดยเน้นความโหดเหี้ยมในการสังหารเรืออากาศโทคาเซเบห์ ด้วยการขังไว้ในกรงขนาดใหญ่ก่อนจะจุดไฟเผาทั้งเป็น กลุ่มไอเอสนำคลิปนี้มาเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต วัตถุประสงค์เพื่อให้คนทั้งโลกได้เห็นถึงความโหดเหี้ยม

นายปีเตอร์ เบนาร์ท นักวิเคราะห์การเมืองของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นมองว่า สิ่งที่กลุ่มไอเอสต้องการคือแสดงความเหนือชั้นกว่าเครือข่ายอัลกออิดะห์ที่ไอเอสแยกตัวออกมา และไอเอสหวังว่าจะดึงกลุ่มนักรบต่างชาติให้เข้ามาร่วมได้มากขึ้น และเป็นการสื่อสารไปยังกลุ่มประเทศอาหรับที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ให้ถอนตัวจากการเข้าร่วมปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มไอเอส ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ

ความต้องการของไอเอสที่จะให้ชาติอาหรับหวาดกลัวจนถอนตัวจากปฏิบัติการดังกล่าวถือว่าได้ผลพอสมควร เพราะหลังจากเผยแพร่คลิปสังหารนักบินจอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศแรกที่ถอนตัวจากปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มไอเอสเนื่องจากห่วงความปลอดภัยของนักบิน แต่สำหรับจอร์แดนดูเหมือนว่าจะได้ผลในทางตรงกันข้าม เมื่อรัฐบาลประกาศจะตอบโต้กลุ่มไอเอส "ชนิดที่โลกสะเทือน" ซึ่งเป็นไปได้ว่าจอร์แดนน่าจะเพิ่มความร่วมมือกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างกันให้มากขึ้น

นักวิชาการไทยมีความเห็นสอดคล้องกัน นายอณัส อมาตยกุล อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลมองว่า โลกมุสลิมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มไอเอสเพราะขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม

"นี่ไม่ใช่จริยธรรม คุณธรรมอิสลาม คุณจะตั้งรัฐอิสลามได้อย่างไรในเมื่อคุณไม่ได้ดำเนินตามสิ่งที่พระเป็นเจ้าอนุมัติ อาจมีมุสลิมจำนวนน้อยบางกลุ่มอาจเห็นใจไอเอส แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศอาหรับอาจจะเห็นใจไอเอส แต่รับไม่ได้กับสิ่งที่ไอเอสทำอยู่" นายอณัสกล่าว

สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไปนั่นคือชะตากรรมของตัวประกันชาวต่างชาติอย่างน้อย 2 คนที่อยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มไอเอส เป็นผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานบรรเทาทุกข์ ซึ่งเป็นหญิงอเมริกันวัย 26 ปี ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าทั้งคู่จะถูกสังหารด้วยวิธีการที่โหดร้ายยิ่งไปกว่านี้หรือไม่ เพราะหากกลุ่มไอเอสมองว่าสิ่งที่กระทำกับนักบินจอร์แดนสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งโลก และทำให้กลุ่มไอเอสถูกกล่าวขวัญถึง ชาวโลกอาจจะได้เห็นวิธีการสังหารที่โหดร้ายกว่านี้ก็เป็นได้

วิเคราะห์กลยุทธ์ไอเอส "ทั้งได้และเสีย" - ข่าวไทยพีบีเอส - ...