ติดตามสถานะการณ์

Thanong Fanclub



อินเดียโดนล๊อคคอ
รัสเซีย และอินเดียหนุนจีนในการสร้างระเบียบโลกใหม่ที่ยุติธรรม แฟร์และมั่นคง โดยจะเป็นโลกที่มีมหาอำนาจหลายขั้ว
รมวต่างประเทศของทั้งสามประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเซียมีการประชุมกันที่ปักกิ่งก่อนที่จะออกแถลงการณ์ร่วมในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญในการปกป้องความมั่นคงในเอเซีย แปซิฟิคร่วมกัน
โอบามาเพิ่งจะเยือนอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อพยายามดึงให้อินเดียออกจากกลุ่มBRICSให้ได้ แต่การประชุมระดับรมวต่างประเทศของรัสเซีย อินเดียและจีนที่ปักกิ่งสะท้อนให้เห็นว่าอินเดียมีแนวโน้มจะอยู่กับกลุ่มBRICSมากกว่า
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอินเดียมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าอินเดียอาจจะยังไม่เชื่อใจในจีน
รมวต่างประเทศของรัสเซีย นายSergey Lavrovบอกว่าทุกประเทศต้องร่วมมือกันในการสร้างสถาปัตยกรรมทางความมั่นคงใหม่ในเอเซียแปซิฟิค ส่วนรมวต่างประเทศจีน นายWang Yiพูดว่าทางจีนให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรมากกว่าความเป็นพันธมิตร
ปักกิ่งรีบจัดให้มีการประชุมสามประเทศหลักของBRICSเพื่อเป็นการสร้างเอกภาพในการตอบโต้ความพยายามของโอบามาที่จะชิงอินเดียไปอยู่ฝ่ายตะวันตก
ระหว่างการเยือนอินเดียของโอบามา ทั้งสหรัฐฯและอินเดียตกลงในหลักการว่าการคมนาคมทางทะเลในทะเลจีนใต้อย่างเสรีต้องได้รับการปกป้อง ในขณะที่จีนกำลังมีปัญหากับประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในการครอบครองพื้นที่ในทะเลจีนใต้
สี จิ้นผิงได้พบกับSushma Swaraj เพื่อเสริมความสัมพันธ์ โดยจะควบคุมจุดยืนที่แตกต่างกันด้วยความอดทน และความแตกต่างนั้นต้องไม่มีผลกระทบต่อภาพใหญ่ของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
กว่าจะลากอินเดียกลับมาให้อยู่ในก๊วนBRICSได้ก็ไม่ใช่ง่ายเลย เพราะว่าอินเดียผงกหัวร้องนาร้ายนารายลูกเดียว โดยไม่รู้ว่าจะเอาอะไรกันแน่
thanong
4/2/2015
India and Russia back China's call for 'new world order' | South China Morning Post

 

Thanong Fanclub



ญี่ปุ่นชี้! ความมั่นคงใน “ทะเลจีนใต้” กระทบผลประโยชน์ของชาติ
ความมั่นคงในทะเลจีนใต้ ซึ่งถูกอ้างกรรมสิทธิ์โดยจีนเกือบทั้งหมด มีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของญี่ปุ่น และอาจเป็นเหตุผลอันสมควรสำหรับการทบทวนเรื่องการส่งเครื่องบินตรวจการณ์ทางทหารเข้าประจำการ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น กล่าว หลังจากเจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันจะมีความยินดีกับการแสดงบทบาทของแดนอาทิตย์อุทัยในภูมิภาคนี้
การตรวจการณ์เป็นประจำโดยอากาศยานญี่ปุ่นมีอยู่แค่ในทะเลจีนตะวันออกเท่านั้น พื้นที่ซึ่งญี่ปุ่นและจีนต่างพัวพันกันในข้อพิพาทด้านอธิปไตยเหนือหมูเกาะแห่งหนึ่ง และการขยายการบินเข้าไปในทะเลจีนใต้ย่อมจะเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 ของโลกอย่างแน่นอน
“ในปัจจุบันเราไม่ได้ตรวจการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวหรือมีแผนที่จะทำเช่นนั้น แต่เรากำลังกระชับความร่วมมือของเรากับสหรัฐฯ และสถานการณ์ในทะเลจีนใต้มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติเรา และเราตระหนักว่า เราจะจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการตอบสนองของเรา” เก็น นาคาทานิ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมบอกกับผู้สื่อข่าววานนี้ (3)
ความคิดเห็นของ นาคาทานิ มีออกมาเพื่อตอบสนองต่อบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่โดยรอยเตอร์ ซึ่ง โรเบิร์ต โทมัส ผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ระบุว่า การบินลาดตระเวนของญี่ปุ่นในทะเลจีนใต้จะช่วยเฝ้าจับตากองเรือจีนที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้บรรดาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สามารถทำการลาดตระเวนได้
ด้านจีนตอบสนองต่อความคิดเห็นดังกล่าวของ โทมัส โดยเตือนญี่ปุ่นว่า อย่า “สร้างความตึงเครียด”
จีน , ฟิลิปปินส์ , เวียดนาม , ไต้หวัน , มาเลเซีย และบรูไน ต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีใต้ ซึ่งจีนกำหนดขอบเขตการอ้างสิทธิ์โดยอ้างจากเส้นประ 9 เส้นบนแผนที่ของตน ที่ล้อมรอบ 90 เปอร์เซ็นต์ของน่านน้ำแห่งนี้
4/2/2015
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014059

 

Thanong Fanclub



มหัศจรรย์เลข 7 (Magic 7)
ถ้าคนที่เชื่อในมหัศจรรย์เลข7 วิกฤติการเงินรอบใหม่น่าจะเกิดในปีคศ 2015นี้ เนื่องจากดูย้อนประวัติศาสตร์แล้ว วิกฤติการเงินจะเกิดทุกๆ7ปี ที่ต้องมีการล้างไพ่ใหม่
ครั้งล่าสุดที่มีวิกฤติการเงินคือปีคศ 2008 หรือ7ปีที่แล้วเมื่อLehman Brothersล่มสลายทำให้เกิดวิกฤติการเงินที่ลากยาวมาถึงทุกวันนี้ ที่ประคองตัวอยู่ได้ เพราะว่าสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อังกฤษได้ทำการพิมพ์เงินเพื่ออัดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินและดึงดอกเบี้ยให้ต่ำระดับ0% ธนาคารกลางของยุโรปกำลังจะทำQEเหมือนกันในเดือนหน้า
ย้อนหลังไปอีก7ปีหรือปีคศ 2001 เกิดเหตุการณ์9/11 และฟองสบู่ของหุ้นดอทคอมแตก
ย้อนหลังกลับไป7ปีในปีคศ 1994 เกิดวิกฤติค่าเงินเปโซของเม็กซิโก สหรัฐฯต้องเข้ามาอุ้มเม็กซิโก
ย้อนหลังไปอีก 7ปีในปีคศ 1987 เกิดเหตุการณ์ฺBlack Mondayหุ้นของสหรัฐฯตกวันเดียว22%
ในปีคศ 1980 หรือ7ปีก่อนBlack Monday เกิดวิกฤติในตลาดเงิน (silver) เมื่อพี่น้องตระกูลHuntแห่งTexasปั่นราคาsilverให้เป็นฟองสบู่สูงกว่าระดับปกติถึง10เท่าเพื่อเก็งกำไร ก่อนที่ฟองสบู่ตลาดเงินจะแตก และพี่น้องสองคนประสบภาวะล้มละลาย
ย้อนหลัง7ปีก่อนหน้านี้ สหรัฐฯสร้างเปโตรดอลล่าร์ขึ้น โดยตกลงกับซาอุดิ อาราเบียว่าให้กลุ่มโอเปคขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์ โดยแลกกับการสนับสนุนทางอาวุธและความมั่นคงให้ตะวันออกกลาง
ย้อนกลับไปอีก7ปี เกิดอะไรขึ้นในปีคศ. 1966 ลองช่วยค้นกันดู ว่ามีวิกฤติระดับโลกอะไรเกิดขึ้น
thanong
4/2/2015

 

Thanong Fanclub



วิกฤติการเงินครั้งต่อไปจะใหญ่กว่าวิกฤติซับไพร์มในปี2007ถึง6เท่า
Jim Rickards ผู้แต่งหนังสือขายดี The Death of Money บอกว่าวิกฤติการเงินที่จะเกิดขึ้นครั้งหน้าจะใหญ่กว่าวิกฤติซับไพร์มในปี2007
สาเหตุเป็นเพราะว่า ระหว่างปี2009ถึง2014 บริษัทน้ำมันมีการกู้ยืมเงิน$5ล้านล้านเพื่อทำธุรกิจน้ำมัน
และในระยะเวลาเดียวกันเกิดdollar carry trade โดยที่เอกชนในประเทศต่างๆมีการกู้ยืมเงินดอลล่าร์รวมทั้งหมด$9ล้านล้าน เพราะว่าดอลล่าร์มีแนวโน้มอ่อนค่าจากการค่าQE รวมทั้งดอกเบี้ยของสหรัฐฯต่ำเตี้ยติดดิน
รวมแล้วมีการกู้เงินในภาคน้ำมันและกู้dollar carry tradeรวมกัน$14ล้านล้านในระยะ6ปีที่ผ่านมา
ปัญหาก็คือราคาน้ำมันตกลงมาแล้วประมาณ50%กว่าจากปีที่แล้ว
ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น15%เมื่อเทียบกับค่าเงินคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ
บริษัทน้ำมันจะอยู่รอดด้วยราคาน้ำมันที่ระดับ$80ถึง$130ต่อบาเรลล์ แต่ราคาน้ำมันตอนนี้อยู่ต่ำกว่า$50ต่อบาเรลล์
สภาพเศรษฐกิจที่แย่ลงทำให้มีโอกาสที่จะมีการผิดชำระหนี้การกู้ยืมดอลล่าร์ จากdollar carry trade
สมมุติว่า 10%ของทั้งการกู้จากธุรกิจน้ำมันและจากdollar carry tradeกลายเป็นหนี้เสีย จำนวนหนี้เสียนี้จะเท่ากับ$1.4ล้านล้าน
หมายความว่าหนี้เสียจำนวนนี้จะใหญ๋หรือรุนแรงกว่าวิกฤติซับไพร์มในปี2007ถึง6เท่า
Jim Rickardsคาดการว่าวิกฤตินี้จะเกิดภายใน1หรือ2ปีข้างหน้า
thanong
4/2/2015
http://yournewswire.com/financial-crisis-six-times-worse-t…/

 

Thanong Fanclub



"Grexit" อาจจะไม่ได้แปลว่าเก๊กซิมก็ได้
ตอนนี้กำลังขับเคี่ยวกันอยู่อย่างดุเดือดระหว่างกรีซและพวกอำมาตย์ของยุโรปว่าใครจะมีอำนาจต่อรองมากกว่ากัน
รัฐบาลใหม่ของกรีซนำโดยนายAlexis Tsiprasได้สัญญาประชาชนกรีกว่าจะไม่ยอมรับเงื่อนไขเดิมในแพคเกจการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน240,000ล้านยูโรที่ออกแบบโดยทรอยก้าและทำให้กรีซอยู่ในภาวะโคม่ามาตลอดทางเศรษฐกิจตั้งแต่ปี2010
สาเหตุเป็นเพราะว่าแพคเกจนั้นไม่ได้แก้ปัญหาล้มละลาย ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานของกรีซที่ต้องได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ หรือลดหนี้ให้อยู่ในระดับที่จะลืมตาอ้าปากได้
แต่แพคเกจของทรอยก้า หรืออีซีบี อียูและไอเอ็มเอฟต้องการให้เงินกู้เพิ่มให้กรีซโดยมีเงื่อนไขให้ 1. จ่ายเงินคืนเจ้าหนี้ ซึ่งโดยมากเป็นแบงค์เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี 2. รัดเข็มขัดทางด้านงบประมาณ 3. ต้องขายทรัพย์สินของรัฐออกมาให้ต่างชาติเพื่อใช้หนี้ ทั้งนี้เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือสภาพคล่องฉุกเฉิน (emergency funding) ที่อีซีบีหรือธนาคารกลางของยุโรปที่ให้กับแบงค์ของกรีซด้วย เพราะว่ากรีซเจอแบงค์รัน
ผลก็คือกรีซอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จีดีพีของประเทศติดลบไป25%นับตั้งแต่ปี2010
นายYanis Varoufakis รมวคลังของกรีซทำงานหนักเป็นพิเศษเพื่อแก้วิกฤติโดยท่าทีเบื่องต้นของเขาคือ ขอให้เจ้าหนี้ยุโรปลดหนี้ให้กรีซอย่างน้อย50% กรีซมีหนี้อยู่320,000ล้านยูโร ลดครึ่งหนึ่งไปแล้วจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยหนี้ 160,000ล้านยูโร
แต่รู้กันอยู่แล้วว่าพวกเจ้าหนี้ยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมันและอีซีบีไม่เล่นด้วย ทำให้Varoufakisงัดแผนสองออกมาว่าจะขอแลกหนี้กรีซกับพันธบัตรที่จะออกมาใหม่2รูปแบบ คือ1. เป็นพันธบัตรที่ผูกกับอัตราการเจริญเติบโตของกรีซ (growth-linked bond) และ2. เป็นพันธบัตรที่หมุนหนี้ต่อไปได้ยาวๆ (perpetual bond) พวกเจ้าหนี้อำมาตย์ยุโรปได้แต่ส่ายหัว
และเนื่องจากเวลามีไม่มาก นายVaroufakisเสนอว่ารัฐบาลกรีซขอออกพันธบัตรระยะสั้นจำนวน10,000ล้านยูโรเพื่อไฟแนนซ์เงินคงคลังที่กำลังโบ๋อยู่เพื่อให้กรีซอยู่ได้อีก2-3เดือนข้างหน้าในระหว่างเจรจากับทรอยก้าใหม่ทั้งหมด
เส้นตายของกรีซคือสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ที่กรีซต้องตกลงเงื่อนไขความช่วยเหลือทางการเงินกับทรอยก้าให้ได้ เพื่อแลกกับเงินกู้งวดใหม่7,000ล้านยูโรที่เป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจการช่วยเหลือทางการเงิน240,000ล้านยูโร แต่ปัญหาคือรัฐบาลของนายTsiprasได้ชนะการเลือกตั้งจากคำมั่นสัญยาว่าจะไม่ยอมรับแพคเกจของทรอยก้า ต้องรื้อใหม่หมด ถ้าต้องตกลงกับทรอยก้า โดยที่ไม่ได้มีการปรัฐเปลี่ยนเงื่อนไขอย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ก็เท่ากับว่าผิดสัญยาที่ให้ไว้กับประชาชนกรีกที่เทคะแนนเสียงให้เข้ามากอบกู้ประเทศ
แต่ปรากฎว่าเยอรมันไม่เอาด้วยกับข้อเสนอของนายVaroufakis และพวกอีซีบีบอกว่าข้อเสนอนั้นสุกครึ่งหนึ่ง (half baked) อำมาตย์ยุโรปยังถือว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่ากรีซ เพราะว่าถ้าอีซีบีตัดการให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องทางการเงินกับธนาคารของกรีซที่กำลังเจอแบงค์รันตอนนี้ เหมือนที่ไฟแนนซ์และแบงค์ไทยเจอคนแห่ถอนเงินในยุคต้มยำกุ้ง ระบบแบงค์ของกรีซจะเดี้ยงทันที แบงค์ต้องปิดประตูเพราะไม่มีเงินจ่ายให้คนถอนเงิน ตู้เอทีเอ็มไม่มีเงินให้คนกดเงิน เนื่องจากธนาคารกลางของกรีซพิมพ์เงินยูโรไม่ได้ กรีซจึงเปรียบเหมือนเป็นเชลยของอีซีบีที่ให้สภาพคล่องยูโรก็รอด ตัดสภาพคล่องก็ตาย
ต้องตามข่าวกันต่อไปแทบจะเป็นรายวันว่ากรีซจะแก้ปัญหาหนี้กับอำมาตย์ยุโรปอย่างไร แม้ว่าฝรั่งเศสและสหรัฐญออกมาแสดงท่าทีหนุนเงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากยิ่งขึ้นเพื่อให้กรีซอยู่ได้ แต่เวลาลงในรายละเอียด ทั้งหลักการและเงื่อนไขยังห่างไกลกันมากระหว่างความต้องการของกรีซและอำมาตย์ยุโรป
อย่างไรก็ตามกรีซใช่ว่าจะไม่มีทางออก ถ้าหากออกจากเขตยูโร (Grexit) กรีซสามารถ
1. พิมพ์เงินDrachmaของตัวเอง เลิกใช้ยูโร
2. ขอความช่วยเหลือจากรัสเซียได้ที่พร้อมอ้าแขนรับอยู่แล้ว
3. ธนาคารของBRICSพร้อมให้กรีซกู้ด้วยเงื่อนไขที่ไม่โหดเหมือนของทรอยก้า
4.. ธนาคารกลางของกรีซสามารถขอทำสว๊อปหยวนกับธนาคารกลางของจีนเพื่อทำให้เงินDrachmaมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เพราะว่ากรีซตอนนี้แทบจะไม่มีทรัพย์สินอะไรเหลืออยู่ที่จะมาหนุนค่าเงิน
ถ้าทำอย่างนี้ Grexitอาจจะไม่เป็นเก๊กซิมก็ได้ และพวกอำมาตย์ยุโรปต่างหากที่จะต้องเจอค่าเงินยูโรที่ป่วน เพราะว่าหลายๆประเทศเช่น เสปน หรือโปรตุเกสจะขอปลดแอกเก๊กซิมมั่ง
thanong
4/2/2015
Greek stocks surge 10% on 'creative' debt plan
http://www.zerohedge.com/…/first-germany-now-ecb-said-resis…

 

Thanong Fanclub

ปัญหาของกรีซคือการล้มละลาย ไม่ใช่ขาดสภาพคล่อง
Emily Maitlis นักข่าวBBCไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างการล้มละลายและการขาดสภาพคล่องในขณะที่สัมภาษณ์นาย Yanis Varoufakis รมวคลังของกรีซ
คุณเธอพยายามจะไล่ให้ได้คำตอบว่ากรีซจะขอรับเงินช่วยเหลือก้อนใหม่จากทรอยก้าหรือไม่ ไม่เห็นหรือว่าหุ้นแบงค์กรีซตกระเนระนาดไปแล้ว รวมทั้งประชาชนแห่ถอนเงินฝาก แต่Varoufakisค่อนข้างจะใจเย็นพยายามอธิบายให้คุณเธอเข้าใจว่ากรีซเจอปัญหาล้มละลาย แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา5ปี พวกเจ้าหนี้ปฏิบัติกับกรีซเหมือนกับว่ากรีซแค่มีปัญหาขาดสภาพคล่องชั่วคราว เอาเงินกู้ให้กรีซมีหนี้เพิ่มเพื่อไปจ่ายหนี้ แล้วก็ขายทรัพย์สินของชาติเช่นรัฐวิสาหกิจต่างๆออกมา แล้วหลอกกรีซว่าในที่สุดวิกฤติจะจบไปเอง แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะว่าแพคเกจการช่วยเหลือกรีซที่ทำมาตั้งแต่ปี2010จำนวน240,000ล้านยูโรทำให้กรีซตกอยู่ในสภาวะล้มละลายอย่างถาวร
รัฐบาลใหม่ของกรีซภายใต้การนำของนาย Alexis Tsipras เข้าใจปัญหาพื้นฐานของกรีซดีว่าล้มละลายไปแล้ว ไม่ได้ขาดสภาพคล่องชั่วคราว การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเงินของประเทศที่ล้มละลายแล้วต้องแก้ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้อย่างเดียวก่อนเป็นอันดับแรก หมายความว่าเจ้าหนี้ต้องยอมเจ็บตัว คือลดหนี้ (haircut)ให้ลูกหนี้เพื่อให้ลูกหนี้สามารถมีโอกาสหายใจได้และฟื้นกลับมามีชีวิตใหม่ได้ เพราะว่าความผิดอยู่ที่เจ้าหนี้ด้วยที่ให้ลูกหนี้กู้มากเกินไป ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่เท่าที่ผ่านมาเจ้าหนี้ยุโรปไม่ได้มีการลดหนี้เพื่อให้กรีซอยู่ในฐานะที่จะมีเงินเหลือพอที่จะบริหารประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ เยอรมันและไอเอ็มเอฟไล่บี้กรีซให้ยอมรับแพคเกจการช่วยเหลือสภาพคล่องทางการเงิน240,000ล้านยูโร ในขณะที่กรีซมีหนี้320,000ล้าน หรือประมาณ170%ต่อจีดีพี เงินที่มากจากแพคเกจการช่วยเหลือประมาณ80-90%เอาไปจ่ายหนี้ให้แบงค์ยุโรปที่ปล่อยกู้ให้กรีซ เศษที่เหลือตกไม่ถึงมือคนกรีกอะไรมาก เท่านั้นไม่พอทรอยก้าบังคับให้กรีซขายรัฐวิสาหกิจดีๆออกมาให้พวกนายทุนต่างชาติ เมื่อกรีซขายของเก่าหมดแล้ว จะเหลือสมบัติอะไรเพื่อทำเงินให้ประเทศอีกต่อไป เพราะว่าทุกอย่างอยู่ในมือเยอรมันและประเทศอื่นๆหมด
ประชาชนกรีกตื่นตัว ไม่ยอมเป็นทาสหนี้อีกต่อไป จึงเลือกนายTsiprasมาเป็นผู้นำ ฝรั่งเลยใส่ยี่ห้อพรรคของนายTsiprasว่าเป็นradical left wing คือฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง ให้คนทั่วไปเข้าใจไปในเชิงลบ
ถ้าทรอยก้าไม่ยอมลดหนี้ให้กรีซอย่างน้อย50% กรีซมีหวังออกจากเขตยูโร และไปอยู่ฝ่ายรัสเซียและBRICSแทน แบงค์ยุโรปจะเจ้ง ค่าเงินยูโรจะถล่มจากผลพวงของการออกจากเขตยูโรของกรีซ รัสเซียจะถือโอกาสไปตั้งฐานทัพในกรีซเพื่อยันนาโต้ เพราะว่าตอนนี้รัสเซียกำลังไล่เซิ้งยูเครนอยู่ ยึดได้เกือบครึ่งประเทศแล้ว
ด้วยเหตุนี้โอบามาถึงรีบออกมาเสียงอ่อนเพื่อให้มีการประนีประนอมกับกรีซ ไม่งั้นมีหวังนาโต้จะเสียท่ารัสเซียในยุโรปในขณะที่สถานการณ์เริ่มจะเข้มข้นมากขึ้นทุกวัน

thanong
3/2/2015
<iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/1ocQ_YWtTzo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Thanong Fanclub



Bill Gatesหนุนรัฐบาลโลก
ออกลายมาแล้ว Bill Gates ผู้ก่อตั้งMicrosoftต้องการให้มีรัฐบาลโลก World Governmentเพื่อจะได้ดูแลปัญหาของโลกเช่นการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พวกNew World Orderต้องการล้มประเทศต่างๆเพื่อไม่ให้มีความเป็นประเทศเหลืออยู่อีกต่อไป จะได้มีรัฐบาลโลก มีเงินสกุลโลก One World Currency
แตฺ่Bill Gates มหาเศรษฐีผู้มีเงินมากถึง$80,000ล้านไม่ได้บอกว่าใครจะบริหารรัฐบาลโลก ที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสงครามโลกครั้งที่2 ทั้งสหรัฐฯและยุโรปมีศักยภาพที่จะทำให้โลกนี้ดีขึ้น ปลอดสงคราม มีสันติภาพเคารพสิทธิของประเทศที่กำลังพัฒนา แต่ทำไมไม่ทำ ในทางตรงกันข้ามโลกเข้าสู่ภาวะความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ถ้ารัฐบาลโลกเกิด คนไทยก็เป็นทาสของพวกglobalistsทุกคน จะตายอย่างเขียด
thanong
3/2/2015
https://translate.google.at/translate…

 

Chalee Na Roied



ตอนนี้สถานการณ์ในละตินอเมริกา โดยเฉพาะเวเนซุเอลาเอง ทหารต้องลงมาควบคุม บรรดาร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารต่างๆด้วยตัวเองนะครับ เพราะวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และความขัดแย้งภายใน ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และทางรัฐบาลเวเนซุเอลา ก็เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายตามมา จึงลงมาควบคุมดูแล ห้างเอกชนต่างๆ ด้วยตัวเอง http://news.yahoo.com/venezuela-begins-occupation-private-s…
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจน ของประเทศเล็กๆ ท่ามกลางความขัดแย้ง ระหว่างชาติมหาอำนาจ เพราะรัฐบาลเวเนซุเอลา ประกาศอย่างชัดเจน เลือกยืนตรงข้ามสหรัฐ เวเนซุเอลาเป็น อีกประเทศหนึ่ง ที่เป็นพันธมิตรในกลุ่ม BRICS และเมื่อครู่นี้ ผมก็เพิ่งนำเสนอ ยุทธศาสตร์ทางทหาร ของรัสเซียในการ ดึงละตินอเมริกามาเป็นพันธมิตร และเครื่องบินรบ TU-160 ของรัสเซีย สามารถร่อนลงจอด และต่อระยะในประเทศ เวเนซุเอลาเป็นว่าเล่น ก็อย่าแปลกใจครับว่า ทำไมรัฐบาลสหรัฐ ถึงมีความพยายาม โค่นล้มรัฐบาลที่ปกครอง เวเนซุเอลาในเวลานี้ให้เร็วที่สุด และล่าสุดก็ประกาศมาตรการคว่ำบาตร อย่างเข้มข้นกับเวเนซุเอลา ระลอกใหม่อีกครั้ง http://panampost.com/…/obama-turns-up-sanctions-heat-on-ve…/
เพราะฉะนั้นความขัดแย้ง ที่กำลังประทุทั่วโลกเวลานี้ ไม่มีคำว่า"บังเอิญ" ครับ ในห้วงที่เศรษฐกิจโลก กำลังเดินมาถึงทางตัน ไม่กี่วันที่ผ่านมมา ทั้งจีน รัสเซีย และอินเดีย ก็ได้ประกาศสถาปนาระเบียบโลกใหม่ ขึ้นมาแข่งสหรัฐและตะวันตก โดย รมต.ต่างประเทศของ ทั้งสามประเทศได้ประกาศจับมือกัน คล้อยหลังการเดินทางเยือนอินเดีย ของ บารัค โอบามา ไม่กี่ชั่วโมง ถือนับเป็นการตบหน้าสหรัฐไปเต็มๆ
http://www.scmp.com/…/india-russia-back-call-new-world-order
นี่แหละครับ คือ สิ่งที่เราต้องเตรียมรับมือ เพราะเวลานี้เศรษฐกิจในบ้านเรา ทิศทางก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์ เงินเฟ้อติดลบในเดือนมกราคมที่ผ่านมา http://www.bangkokbiznews.com/…/เงินเฟ้อติดลบ..ยังไม่ใช่สัญ…
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ผมให้เป็นข้อสังเกตว่า โดยปรกติแล้ว เราในฐานะประเทศ ที่นำเข้าน้ำมันเป็นจำนวนมาก ผลกระทบจากราคาน้ำมัน ในตลาดโลกที่ร่วงลงมา แตะระดับต่ำ น่าจะเป็นผลดีต่อ ทิศทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคการผลิตและการส่งออก ในแง่ของต้นทุนที่ลดลง แต่ราคาน้ำมันในระดับนี้ ไม่ได้ช่วยอะไร ในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มันก็เลยเป็นสัญญาณ ที่มีแนวโน้มชัดเจนว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลก ในเวลานี้ กำลังดิ่งเหวลงเรื่อยๆนั่นเอง...

 

Chalee Na Roied

พอพูดถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 หลายท่านอาจจะ นึกภาพยังไม่ออกนะครับว่า โลกในยุคนี้เวลามหาอำนาจ รบกันนั้นเขารบกันอย่างไร? ขอบอกว่าให้ลืมภาพสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เคลื่อนรถถังและ และเครื่องบินรบเผชิญหน้ากันแบบตรงๆได้เลยครับ เพราะสิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นเฉพาะ ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นเพียงสงครามตัวแทน(proxy war)เท่านั้น
วันนี้ผมมีบทสัมภาษณ์ ของนายพล ดร. ลีโอนิด อีวาชอฟ ประธานของ นักวิเคราะห์ภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ ภายหลังรัสเซียมี การปรับปรุงหลักนิยมทางทหาร(doctrine) โดยกำหนดให้นาโต และสหรัฐคุกคามอันดับหนึ่งนั้น มาเล่าให้ฟังนะครับ จะได้มองออกว่า ชาติมหาอำนาจ เมื่อพูดถึงภัยคุกกคามแล้ว เขาคิดกันอย่างไร? ขอไม่พูดถึงบรรดา "อาวุธลับของ แต่ละประเทศ ที่ยังไม่มีการเปิดเผยนะครับ เพราะถ้าเป็น "ความลับ"จริงๆ ก็จะไม่หลุดออกมาง่ายๆ
ทุกประเทศล้วนมีหลักนิยม เพื่อกำหนดแนวทางการ ในการวางยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีทางทหาร และทั้งมิติด้านเศรษฐกิจและ ภูมิศาสตร์การเมือง ผนวกไว้ด้วยกัน บ้านเราส่วนใหญ่หลักนิยม คล้ายๆกองทัพสหรัฐ เพราะบางเหล่าทัพในบ้านเรา ล้วนอาศัยเทคโนโลยี จากสหรัฐซะส่วนใหญ่ ก็เลยต้องเดินตามหลักนิยมของเขาอีกที แม้จะมีรูปแบบที่เหมาะสมกับภัยคุกคาม เฉพาะประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น
ทั้งๆที่ในความเป็นจริงในยุคนี้ ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ก็คือการล่าอาณานิคม ทางเศรษฐกิจหรือ การเข้ากอบโกยทรัพยากรใน ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งสงครามสมัยใหม่ก็อาศัย เงินทุนสนับสนุนการเคลื่อนไหว อาศัยความแตกต่าง ทางความเชื่อทางศาสนา ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยุยงให้คนในประเทศนั้นๆ รบราฆ่าฟันกันเอง โดยยืมมือนักการเมือง ข้าราชการบางส่วน ที่ยอมขายชาติขายแผ่นดิน สนองตอบกลุ่มทุน ขนาดใหญ่เหล่านั้น ที่เราได้เห็น ความขัดแย้งและสงคราม แทบทุกภูมิภาคของโลก
เอาเป็นว่าเรื่องที่ผมจะพูด "ไม่น่าจะ"มีในตำราเล่มไหน ไม่ว่าจะเป็นระดับ เสนาธิการเหล่าทัพ วิทยาลัยการทัพต่างๆ หรือกระทั่งวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เพราะเป็นเหตุการณ์ที่กำลัง ดำเนินอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง มีในหน้าของเฟสบุคของ "ชาลี"เท่านั้น
หลักนิยมทางทหารของรัสเซีย ในระหว่างปี 2010 เน้นการป้องกันตัวเองและตอบโต้ ในวงจำกัดเท่านั้น เพราะรัสเซียถือว่า ตะวันตกและสหภาพยุโรป คือพันธมิตร แต่เหตุการณ์ที่ยูเครนล่าสุด ทำให้รัสเซียไม่สามารถ อยู่นิ่งเพื่อตกเป็นฝ่าย ถูกกระทำแต่ฝ่ายเดียวได้ แต่พอรัสเซียเปลี่ยนแปลงหลักนิยมขึ้นมาใหม่ ย่อมต้องมีการ ปรับปรุงทั้งด้านยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ และขีปนาวุธต่างๆ ที่ประจำการทั้งบนบก ทางทะเล และเครื่องบินรบของรัสเซีย เปลี่ยนจากการเน้นป้องกันตนเอง เป็นเชิงรุกมากขึ้น เพราะกองกำลังนาโต และระบบต่อต้านขีปนาวุธ(ABM ) ประชิดพรมแดนรัสเซียเข้ามาเรื่อยๆ
รัสเซียยังดำรงขีดความสามารถ ทางด้านนิวเคลียร์ เพื่อรับประกันความั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในด้านการรบ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถ้าเมื่อไหร่ที่รัสเซียถูกโจมตี "ไม่ว่าจะด้วยอาวุธทั่วไปที่ไม่ใช่ นิวเคลียร์ (non-nuclear conventional weapon) รัสเซียเคยประกาศ ล่วงหน้าไปแล้วว่า รัสเซียจะตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เพราะรัสเซียยังคงดำรง ขีดความสามารถของ อาวุธนิวเคลียร์ ตลอดจนขีปนาวุธทางยุทธวิธีจำนวนมาก ซึ่งรัสเซียจะไม่ยอมตกเป็นรองในเรื่องนี้ ดังคำกล่าวของ รมต.กลาโหมของรัสเซีย http://www.theglobeandmail.com/…/russia-wi…/article22716252/
ความต่างของขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์(strategic nuke) และขีปนาวุธทางยุทธวิธี(tactical nuke) ถ้านึกไม่ออก ขอให้ท่านนึกถึงระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลูก ที่สหรัฐทิ้งใน ฮิโรชิมาและ นางาซากิ นั่นแหละครับ เพราะนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ ก็มีอานุภาพมากพอที่สามารถตัดสิน การแพ้ชนะของสงครามขนาดใหญ่ได้ และใช้จำนวนไม่มาก http://nworeport.me/…/nuclear-war-russia-shocks-us-with-ta…/
สำหรับสหรัฐ ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา รัฐบาลในยุค ปธน.บุช เริ่มเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ โดยลดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้สหรัฐค่อนข้าง ตกเป็นรองในเรื่องของ ขีปนาวุธทั้งทางยุทธศาสตร์(strategic nuke) และยุทธวิธี(tactical nuke) เพราะไปมุ่งพัฒนายุทธศาสตร์ ที่เรียกว่า การโจมตีทุกจุดพร้อมกันทั่วโลก ภายในระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมง (prompt global strike) ด้วยอาวุธทั่วไป ทำให้ต้องมุ่งพัฒนาอาวุธที่ ต้องมีความแม่นยำ และใช้เทคโนโลยีที่สลับซับซ้อน ราคาแพมากขึ้น หรือจะเรียกว่ามุ่งพัฒนา "Smart bomb"นั่นเอง และก็อย่าแปลกใจ กลาโหมสหรัฐจึงใช้งบประมาณใน มากกว่าทุกประเทศทั่วโลกรวมกัน และคนที่รวยก็คือ เจ้าของธนาคารที่รับซื้อพันธบัตรสหรัฐ และพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมา ตลอดจนอุตสาหกรรรมทางทหาร(military industrial complex) หรือบรรดาพ่อค้าความตายนั่นเอง We're Sorry | Center for Arms Control & Non-Proliferation
ซึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์ "prompt global strike" ทำให้ต้องยิงขีปนาวุธหลายพันลูกทั้งบนบก เรือดำน้ำ ที่ประจำการยังฐานทัพต่างๆ และอากาศยานไร้คนขับ(drone) ในเวลาเดียวกัน ในการชิงลงมือ โจมตีฐานปล่อยเรือดำน้ำ และฐานปล่อยขีปนาวุธ ข้ามทวีปของรัสเซีย เพื่อไม่ให้รัสเซียได้ตั้งตัว และตอบโต้ได้ทัน
แน่นอนครับว่าในความเป็นจริง ย่อมไม่สามารถทำลายได้ทั้งหมด และมีขีปนาวุธบางส่วนของรัสเซีย ที่ไม่ถูกโจมตี สามารถทำการตอบโต้ได้ สหรัฐก็เลยต้องวางระบบ ต่อต้านขีปนาวุธ(ABM) ทำการสกัด ขีปนาวุธข้ามทวีป ที่เหลือของรัสเซีย ในขั้นเริ่มต้นของการปล่อยตัว(boost phase) ด้วยขีปนาวุธ(ABM) ที่ประจำการในยุโรปตะวันออก และเรือรบที่ติดตั้งระบบนำร่อง (AEGIS systems) กว่า 97 ลำ ที่ประจำการในยุโรปและตะวันออกกลาง เพื่อไม่ให้ขีปนาวุธดังกล่าว เดินทางไปถึงแผ่นดินสหรัฐนั่นเอง
ซึ่งหมายความว่าถ้าสหรัฐทำได้ ตามแผนการที่วางไว้ รัสเซียก็หมดสิทธ์ในการป้องกันตนเอง ซึ่งเวลานี้สหรัฐก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่รัสเซียคงไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทุกประเทศที่แวดล้อมรัสเซีย เวลานี้ในยุโรปตะวันออก และเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ล้วนอยู่ภายใต้ร่มเงาของสหรัฐทั้งสิ้น แต่ตราบใดที่ประเทศเหล่านี้ ไม่ชิงลงมือโจมตีรัสเซียก่อน รัสเซียก็ไม่สามารถโจมตี ประเทศเหล่านี้ได้เลย เพราะมิเช่นนั้นย่อมถูกประณาม จากนานาประเทศ
การพัฒนาแบบฉบับของรัสเซีย อาจจะค่อนข้างช้า แต่ก็ก้าวย่างอย่างมั่นคง และรัสเซียก็เลยต้อง พัฒนาเทคโนโลยี ในห้วงอวกาศ ตลอดจนอากาศยานต่างๆ เพราะเป้าหมายที่เคลื่อนที่บนอากาศนั้น ตรวจจับและทำลายได้ยาก กว่าสิ่งที่อยู่บนบกและในทะเล และรัสเซียยังมีดาวเทียมในห้วงอวกาศ จำนวนมากที่หลงเหลือ ในยุคอดีตสหภาพโซเวียต และนี่คือตัวเลือก ที่ดีที่สุดของรัสเซีย และแน่นอนว่า ถ้าศัตรูจะโจมตีรัสเซีย ก็จำเป็นต้องทำลาย ดาวเทียมลาดตระเวนและสอดแนม และระบบนำร่อง เข้าหาเป้าหมายของขีปนาวุธเป็นอันดับแรก ซึ่งทุกอย่างจะเริ่มต้นในห้วงอวกาศ เป็นอันดับแรก เมื่อเกิดการเผชิญหน้ากัน
ระบบระบุตำแหน่ง "The Global Navigation Satellite System(GLONASS) ซึ่งเป็นระบบนำร่องสำหรับอากาศยาน และขีปนาวุธของรัสเซีย ต้องได้รับการพัฒนา และปรับปรุง เพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้น และ ทำงานร่วมกับระบบแจ้งเตือนและตรวจจับขีปนาวุธ ล่วงหน้านั่นเอง ​‘Doomsday sputnik’: Russia said to launch new missile-attack warning satellite — RT News
รัสเซียมีเรือดำน้ำ ที่ยากต่อการตรวจจับ และขีปนาวุธข้ามทวีป ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ แต่ก็สามารถตรวจจับได้ด้วยดาวเทียมสอดแนม เมื่ออยู่บนพื้นโลก เครื่องบินรบจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะรัสเซียเองที่เพิ่งครบรอบ 100 ปี แห่งการบิน เจ้าหงษ์ขาว(white swan) TU-160 เครื่องบินไอพ่นทิ้งระเบิด หลบหลีกเรดาร์ ความเร็วเหนือเสียง คือ ทางออกของรัสเซีย และแน่นอนว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดต้องอาศัยสนามบินต่อระยะ ในต่างประเทศโดยเฉพาะละตินอเมริกา ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย และประเทศเหล่านี้ คือ เป้าหมายของรัสเซีย ในการเจราจาด้านการฑูต และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
อย่าลืมว่าสหรัฐอเมริกาทุ่มงบประมาณ จำนวนมากเพื่อทำสงครามอยู่นอกประเทศ และพยายามติดตั้งขีปนาวุธในต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้สหรัฐถูกโจมตี แต่ถ้ารัสเซียสามารถ ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดบินลาดตระเวน พร้อมยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ ไปยังสหรัฐได้ตลอดเวลา เพื่อตอบโต้การถูกโจมตี คือ สิ่งที่สหรัฐกังวลมากที่สุด และยุทธศาสตร์ที่สำคัญนี้ ปัจจุบันทางรัสเซียก็ได้ทำสำเร็จแล้ว http://www.presstv.com/…/russia-ships-bombers-worry-washin…/
นักข่าวถามต่ออีกว่า แล้วจะมีวิธีไหนที่ ไม่ต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด?
นายพล ลีโอนิด ตอบ ในทำนองตลก ถ้าจะมีใครสักคนสามารถอยู่ใน จุดที่โจมตีแผ่นดินสหรัฐได้ เป้าหมายแรกที่ถูกโจมตีคือ "กลุ่มคนในธนาคารกลางสหรัฐ" เพราะคนกลุ่มนี้นั่นเอง ที่ต้องการจุดชนวนสงคราม ซึ่งในสิ่งที่เขาพูดในทำนอง ตลกขบขัน ก็สะท้อนข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
"One should keep the US territory at gunpoint to be able to immediately act on the territory. The group should target the Federal Reserve, but I’m joking here, of course. Yet, there is some truth in this joke, because, as a rule, it is financial oligarchs, who need to start wars"
Responding to US Threats: “Russia Must Keep the USA at Gunpoint”, General Leonid Ivashov | Global Research
เราจะเห็นว่านั่นคือ ยุทธศาสตร์ทางสงครามของชาติ มหาอำนาจที่ได้รับการเปิดเผย และมีหลักฐานปรากฎชัดเจน ดังที่เราได้เห็นในปัจจุบัน ยังไม่นับเทคโนโลยีด้านอื่นๆ ที่ยังคงถูกปิดเป็นความลับ ไม่นับเรือดำน้ำ และเรือรบ และเรือสอดแนมที่จอดทอดสมอ ในละตินอเมริกาโดยเฉพาะคิวบา http://news.yahoo.com/russian-spy-ships-arrival-cuba-raises…
TU -160 นี่แหละครับ เป็นอีกทีเด็ดที่เหนือกว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1ของสหรัฐ เพราะถูกปรับปรุง ให้มีเทคโนโลยีล่องหน ยากต่อการตรวจจับ และมีความเร็วเหนือเสียง บรรทุกขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้ถึง 24 ลูก ทำให้สหรัฐลังเล ในการตัดสินใจโจมตีรัสเซีย เพราะไม่ไว้ใจเจ้า "หงษ์ขาว"หรือ แบล็คแจ็ค อีกชื่อเรียกหนึ่ง สำหรับนาโตและสหรัฐ ที่กำลังบินลาดตระเวน ตลอดมหาสมุทรแอตแลนติค และชายฝั่งตะวันออกสหรัฐ และกำลังร่อนลงสนามบินทั้งในคิวบา และเวเนซุเอลาเป็นว่าเล่น ณ ห้วงเวลานี้ นั่นเอง..
http://defense-update.com/20131030_russian-tu-160-strategic…

<iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/P0ljd3GAaf4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

บริษัทในสวีเดนเริ่มฝังชิป RFID ในตัวพนักงานแทนการใช้บัตรประจำตัว
By: ตะโร่งโต้ง WriterAndroidWindowsตะโร่งโต้ง's blog on 03/02/15 14:21 Tags: RFID Sweden



ทุกวันนี้บัตรประจำตัวพนักงาน (หรือบัตรอื่นสารพัดสารพันทั้งหลาย) มักจะมีชิป RFID อยู่ภายใน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการยืนยันสิทธิ์หรือยืนยันตัวตนด้วยการใช้บัตรดังกล่าวกับเครื่องตรวจจับเพื่อผ่านเข้าออกสถานที่บางแห่ง หรือปลดล็อคอุปกรณ์บางอย่าง มันทำให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกมากขึ้น แต่ถ้าหากลืมบัตรล่ะ?
ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับพนักงานของ Epicenter บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศสวีเดน ที่ซึ่งพวกเขาให้พนักงานฝังชิป RFID ไว้ใต้ผิวหนังเพื่อใช้สแกนสำหรับการผ่านเข้าออกประตู และปลดล็อคเครื่องถ่ายเอกสารเมื่อต้องการจะใช้งาน โดยในอนาคตจะมีการเพิ่มบริการให้ใช้งานชิปดังกล่าวเพื่อจ่ายเงินซื้ออาหารในร้านค้าภายในเขตของบริษัทได้ด้วย
ชิป RFID นี้มีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดข้าวเล็กน้อย มันจะถูกฝังเอาไว้ใต้ผิวหนังตรงบริเวณง่ามนิ้วระหว่างหัวแม่มือและนิ้วชี้ของพนักงาน เมื่อต้องการผ่านเข้าออกพื้นที่ซึ่งมีการตรวจชิป หรือจะใช้เครื่องถ่ายเอกสาร พวกเขาก็เพียงแต่เอามือแตะบริเวณเซ็นเซอร์ตรวจชิปก็เป็นอันเรียบร้อย (แต่บางทีก็อาจต้องบิดมือท่าทางแปลกๆ กว่าชิปจะทำงาน)
นอกเหนือจากใช้เพื่อยืนยันตัวตนแล้ว พนักงานอาจเลือกใส่ข้อมูลเพิ่มเติมลงในชิปได้ บางรายอาจใส่ข้อมูลนามบัตรของตนเองไว้ในชิปตัวเดียวกันด้วย
โครงการฝังชิปของ Epicenter นี้เป็นโครงการตามความสมัครใจ พนักงานบางส่วนก็ไม่อยากจะให้มีอะไรแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย ในขณะที่อีกส่วนกลับกระตือรือร้นและเฝ้ารอคอยโอกาสที่จะได้ฝังชิปอย่างใจจดใจจ่อ
ที่มา - BBC


https://www.blognone.com/node/65355

 

ว่าที่บอสเพนตากอนชี้! สหรัฐฯ ต้องเตือนรัสเซียว่า “สนธิสัญญาควบคุมอาวุธ” ต้องทำตามทั้งสองฝ่าย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2558 12:40 น. (แก้ไขล่าสุด 5 กุมภาพันธ์ 2558 12:59 น.)


---
@แอชตัน คาร์เตอร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่
---
รอยเตอร์ - ผู้ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เลือกให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) คนต่อไปออกมากล่าวเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) ว่า รัสเซียจำเป็นต้องถูกเตือนความจำว่าสนธิสัญญาควบคุมอาวุธยุคสงครามเย็นเป็น “สิ่งที่จะทำอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้” และระบุว่าวอชิงตันควรตอบสนองต่อทุกๆ การละเมิด

วอชิงตันและมอสโกต่างตั้งแง่ต่อพันธะผูกพันที่อีกฝ่ายหนึ่งมีต่อสนธิสัญญาว่าด้วยอาวุธนิวเคลียร์พิสัยปานกลาง (INF) มายาวนาน โดยสนธิสัญญาฉบับนี้ได้ทำให้จรวดร่อน (cruise missile) ประเภทยิงจากภาคพื้นดิน ที่มีพิสัยทำการ 500-5,500 กิโลเมตร ทั้งแบบที่ติดตั้งและแบบที่ไม่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ถูกกำจัดหมดไปในช่วงใกล้สิ้นสุดสงครามเย็น

แอชตัน คาร์เตอร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ซึ่งคาดว่าจะได้รับการรับรองจากวุฒิสภาอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า สหรัฐฯ มีขอบเขตในการดำเนินการที่สามารถเลือกใช้ได้ รวมถึงมาตรการป้องกันและขัดขวาง หากรัสเซียละเมิดสนธิสัญญา

“ผมคิดว่าคุณต้องเตือนรัสเซียว่าสนธิสัญญาฉบับนี้เป็นสิ่งที่จะทำอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้” คาร์เตอร์กล่าวในการไต่สวนรับรองตัวเขาของวุฒิสภา

“หากคุณไม่ต้องการมีสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว คุณก็ควรพิสูจน์ตัวเองว่าคุณไม่ได้ละเมิดข้อกำหนดในสนธิสัญญาฉบับนั้น และทางเราก็จะทำเช่นนั้นด้วย”

สหรัฐฯ เคยระบุว่า การทดสอบจรวดร่อนประเภทยิงจากภาคพื้นดินของรัสเซียละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยอาวุธนิวเคลียร์พิสัยปานกลาง (INF) ปี 1987 ด้านรัสเซียโต้แย้งว่า การใช้โดรนของและอาวุธพิสัยกลางอื่นๆ ของวอชิงตันก็เทียบเท่ากับการละเมิด

ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้อยู่ในช่วงตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น เพราะบทบาทของรัสเซียในวิกฤตยูเครน คาร์เตอร์ยังกล่าวในการไต่สวนด้วยว่า เขากำลังเอนเอียงเห็นชอบกับการติดอาวุธให้ยูเครนเพื่อป้องกันตนเองจากกลุ่มบางแยกดินแดนที่มีรัสเซียคอยหนุนหลัง ความเคลื่อนไหวซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเตือนทิ้งท้ายว่าเป้ามายจะต้องยังคงอยู่ที่การกดดันรัสเซียทางเศรษฐกิจและการเมือง

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014359

 

จอร์แดนประกาศทำสงครามไม่ปรานีกับ IS แก้แค้นเผานักบินทั้งเป็น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2558 03:15 น. (แก้ไขล่าสุด 5 กุมภาพันธ์ 2558 13:01 น.)



กษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดน

รอยเตอร์ - กษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดน ทรงประกาศเมื่อวันพุธ (4 ก.พ.) จะทำสงครามอย่างไม่ปรานีต่อนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) หลังไอเอสแพร่วิดีโอเผานักบินจอร์แดนทั้งเป็น ขณะที่โฆษกรัฐบาลเผยว่าจะเพิ่มความพยายามร่วมกับพันธมิตรนานาชาติในการหยุดยั้งพวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้

จอร์แดนแถลงว่า ซาจิดา อัล-รีชาวี มือระเบิดหญิง และ ซียาด อัล-คาร์โบลี ผู้ปฏิบัติการของเครือข่ายอัลกออิดะห์ซึ่งต่างเป็นชาวอิรักทั้งคู่ ได้ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันพุธ ที่เรือนจำสวากา ใกล้เมืองหลวงอัมมาน

การประหารนักโทษ 2 คนนี้เป็นการตอบโต้ที่กลุ่มไอเอสสังหารโมอัซ อัล-คัสซัสเบห์ นักบินจอร์แดนที่ถูกจับหลังจากเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ของเขาตกในซีเรียเมื่อเดือนธันวาคม นับเป็นนักบินที่เข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีไอเอสคนแรกที่ถูกจับ และเชื่อกันว่า การสังหารนักบินผู้นี้มีจุดประสงค์เพื่อกดดันให้จอร์แดนถอนตัวจากปฏิบัติการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม กษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดนตรัสระหว่างการประชุมด้านความมั่นคง ทรงประกาศจะปฏิบัติการทางทหารต่อนักรบรัฐอิสลามให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น "เรากำลังทำสงครามนี้เพื่อปกป้องศรัทธา คุณค่าและหลักศีลธรรมของมนุษย์ และสงครามของเราเพื่อจุดประสงค์เหล่านั้นจะไร้ความปรานีและเล่นงานภาคพื้นของพวกเขา"

จอร์แดนซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติการต่อต้านไอเอสของพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ให้สัญญาจะตอบโต้แบบสะเทือนแผ่นดินล้างแค้นให้แก่โมอัซ อัล-คัสซัสเบห์ นักบินจอร์แดนที่ถูกจับหลังจากเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ของเขาตกทางภาคตะวันออกของซีเรียเมื่อเดือนธันวาคม ขณะที่ทางโฆษกรัฐบาลบอกว่าอัมมานจะเพิ่มความพยายามร่วมกับพันธมิตรนานาชาติจัดการกับนักรบกลุ่มนี้

“เรากำลังพูดถึงการร่วมมือกันของเหล่าสมาชิกพันธมิตรในการเพิ่มความพยายามหยุดยั้งพวกหัวรุนแรงและก่อการร้ายเพื่อกัดเซาะ ตัดกำลัง และท้ายที่สุดคือกำจัดพวกรัฐอิสลาม” โฆษกของรัฐบาลระบุในวันพุธ (4 ก.พ.) พร้อมบอกว่ารัฐบาลจะเดินหน้านโยบายที่ยืนหยัดมาอย่างช้านานของจอร์แดนในการต่อสู้กับนักรบอิสลามิสต์ โดยกษัตริย์อับดุลเลาะห์ ทรงเป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับอาวุโสด้วยพระองค์เองเมื่อวันพุธ (4 ก.พ.)

“ทุกหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานของกองทัพ กำลังกำหนดทางเลือกต่างๆ โลกจะได้ยินการตอบโต้ของจอร์แดน แต่การตอบโต้ในระดับความมั่นคงและกองทัพจะมีการแถลงในช่วงเวลาที่เหมาะสม” โฆษกระบุ

วิดีโอการสังหารโหดนักบินชาวเจอร์แดนถูกเผยแพร่ออกมาเพียงไม่กี่วัน หลังจากพวกไอเอสเพิ่งฆ่าตัดศีรษะนายเคนจิ โกโตะ ตัวประกันชาวญี่ป่นรายที่ 2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งสังหาร ฮารุนะ ยูคาวะตัว ประกันชาวญี่ปุ่นอีกรายไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ด้วยวิธีการเดียวกัน

ก่อนหน้านั้น ไอเอสประกาศจะฆ่านายโกโตะ และคัสซัสเบห์ ก่อนพระอาทิตย์ตกดินของวันที่ 29 มกราคม จนกว่าจอร์แดนจะยอมปล่อยตัวซาจิดา อัล-ริชาวี มือระเบิดหญิงชาวอิรัก ซาจิดา อัล-ริชาวี ที่ต้องโทษประหารจากการมีส่วนร่วมในเหตุระเบิดในอัมมานปี 2005 ทั้งนี้ จอร์แดนประกาศทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือนักบิน แต่ร้องขอให้พวกไอเอสแสดงข้อพิสูจน์ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แล้วถึงจะยอมปล่อยตัวริชาวี

กระนั้นสถานีทีวีจอร์แดนรายงานว่า คัสซัสเบห์น่าจะถูกสังหารตั้งแต่วันที่ 3 เดือนที่แล้ว ก่อนที่ไอเอสจะเสแสร้งเสนอแลกเปลี่ยนชีวิตเขาและเคนจิ โกโตะ นักข่าวญี่ปุ่น ที่ถูกสังหารเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 ม.ค.) กับการปล่อยตัวรีชาวี

ข่าวคราวเกี่ยวกับชะตากรรมของคัสซัสเบห์ซึ่งเป็นสมาชิกของชนเผ่าใหญ่ ที่เป็นกระดูกสันหลังสนับสนุนราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน เกาะกุมประเทศแห่งนี้มานานหลายสัปดาห์ โดยชาวจอร์แดนบางส่วนตำหนิกษัตริย์ที่เข้าร่วมสงครามต่อต้านไอเอสของสหรัฐฯ ซึ่งกระตุ้นการตอบโต้จากพวกนักรบ แต่ขณะเดียวกันเหตุสังหารนักบินก็กระพือความโกรธแค้นและเรียกร้องให้แก้แค้น

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014186

 

สู้รบในยูเครนยังดุเดือด โอเอสซีอีวอนหยุดยิง 3 วัน เปิดทางให้ชาวบ้านหนี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2558 21:10 น.


---
@สภาพความเสียหายของโรงพยาบาลที่โดนกระสุนปืนครก
---
เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สถานการณ์สู้รบในยูเครนตะวันออกยังคงคุกรุ่นในวันนี้ (4 ก.พ.) โดยมีผู้เสียชีวิต 3 รายหลังจากที่มีกระสุนปืนใหญ่ถูกยิงไปโดนโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบรอบนอกของโดเนตสก์

นักข่าวรายงานว่าได้เห็น 1 ศพอยู่ข้างหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดของกระสุนปืนครก ที่บริเวณโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในแถบชานเมืองฝั่งตะวันตกของโดเนตสก์ เมืองซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ศพอยู่บริเวณด้านนอก แถวอาคารที่พักอาศัยของชาวบ้านใกล้กับโรงพยาบาล

"มีกระสุนปืนครกถูกยิงมาตกด้านหน้าและด้านหลังของโรงพยาบาล สนามเด็กเล่นและโรงเรียนก็โดนด้วย" ชาวบ้านรายหนึ่งบอกกับนักข่าว

ทั้งฝ่ายกบฏและรัฐบาล ระบุตรงกันว่า มีพลเรือนอีก 8 ราย ที่เสียชีวิตจากการสู้รบกันในพื้นที่ยูเครนตะวันออก ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขณะที่ เฟเดริกา โมเกรินี ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป เรียกร้องให้มีการหยุดยิง เพื่อเปิดโอกาสให้พลเรือนสามารถหลบหนีออกจากพื้นที่การสู้รบ

กลุ่มผู้สังเกตการณ์จากองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) เรียกร้องให้มีการหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 3 วัน บริเวณเมืองเดบอลต์เซฟซึ่งเป็นสมรภูมิรบ

เดบอลต์เซฟ ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เมืองนี้เป็นชุมทางรถไฟที่อยู่ระหว่างโดเนตสก์และลูกานสก์ ซึ่งตกเป็นเป้าการโจมตีในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงที่ฝ่ายกบฏพยายามโอบล้อมกองกำลังรัฐบาลยูเครน

เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีพลเรือนหลายพันคนได้หนีออกจากเมืองนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ยังคงมีอีกไม่น้อยที่ยังติดอยู่ภายในเมือง ด้วยการหลบภัยอยู่ใต้ดินโดยที่ไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา

กองทัพยูเครนบอกว่า ฝ่ายกบฏได้รุกหนักเข้าใส่เมืองนี้ตลอดทั้งคืน แต่ถูกต้านทานเอาไว้ได้ หลังจากที่สู้รบกันยาวนานถึง 5 ชั่วโมง โดยมีทหารเสียชีวิต 4 ราย ได้รับบาดเจ็บ 25 ราย จากการสู้รบในภาคตะวันออก ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014124

 

จอร์แดนสั่งประหาร “มือระเบิดหญิงอิรัก” ทันที หลังไอเอสแพร่คลิปนักบินถูก “เผาทั้งเป็น” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2558 10:05 น. (แก้ไขล่าสุด 4 กุมภาพันธ์ 2558 13:26 น.)



ซาจีดะห์ อัล-ริชาวี มือระเบิดหญิงชาวอิรัก วัย 44 ปี

เอพี - รัฐบาลจอร์แดนมีคำสั่งประหารชีวิตมือระเบิดหญิงเครือข่ายอัลกออิดะห์ในช่วงเช้ามืดวันนี้ (4 ก.พ.) หลังกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เผยแพร่คลิปการสังหารโหดนักบินชาวจอร์แดนด้วยวิธีเผาทั้งเป็น

กลุ่มติดอาวุธสุหนี่ซึ่งยึดครองดินแดนกว้างขวางทั้งในอิรักและซีเรียได้เผยแพร่คลิปวีดีโอบันทึกนาทีที่ มูอาซ อัล-คาซัสเบห์ นักบินชาวจอร์แดน ถูกจุดไฟเผาทั้งเป็นในกรงขัง สร้างความสะเทือนใจต่อคนทั้งโลก ขณะที่รัฐบาลจอร์แดนประกาศจะตอบโต้ “พฤติกรรมป่าเถื่อน” ครั้งนี้อย่างสาสมที่สุด

เจ้าหน้าที่จอร์แดนซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชน ระบุว่า เมื่อช่วงรุ่งสางของวันนี้ (4) ซาจีดะห์ อัล-ริชาวี มือระเบิดหญิงชาวอิรัก ได้ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำสวากา (Swaqa) ซึ่งเป็นลานประหารนักโทษ และกำลังจะถูกประหารชีวิต

สตรีชาวอิรักวัย 44 ปีถูกศาลจอร์แดนตัดสินแขวนคอ เนื่องจากมีส่วนพัวพันกับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โรงแรมในกรุงอัมมานเมื่อปี 2005 เวลานั้นเข็มขัดติดระเบิดที่ตัวของ อัล-ริชาวี ไม่ทำงาน เธอจึงพยายามหลบหนี แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับตัวได้ในที่สุด

ครอบครัวของอัล-ริชาวี มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเครือข่ายอัลกออิดะห์ ซึ่งเป็นขบวนการก่อการร้ายต้นแบบของไอเอส

ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลจอร์แดนได้ยื่นข้อเสนอขอแลกตัว อัล-ริชาวี กับ มูอาซ อัล-คาซัสเบห์ ถึง 2 ครั้ง ทว่ากลุ่มไอเอสกลับไม่แสดงหลักฐานยืนยันว่านักบินผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่จริงหรือไม่

ล่าสุด สถานีโทรทัศน์จอร์แดนรายงานว่า อัล-คาซัสเบห์ ถูกกลุ่มติดอาวุธสังหารไปตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม

นักบินหนุ่มวัย 26 ปีตกเป็นตัวประกันของไอเอส หลังจากเครื่องบิน F-16 ที่เขาเป็นคนขับประสบอุบัติเหตุตกใกล้เมืองรอกเกาะห์ในซีเรีย ซึ่งไอเอสประกาศให้เป็น “เมืองหลวง” ของรัฐอิสลามที่พวกเขาก่อตั้งขึ้น

แม้การสังหาร อัล-คาซัสเบห์ ดูเหมือนจะมีจุดประสงค์เพื่อกดดันกรุงอัมมานให้ถอนตัวจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำ แต่นักวิเคราะห์มองว่าพฤติกรรมป่าเถื่อนที่กลุ่มไอเอสแสดงต่อชาวมุสลิมด้วยกันอาจยิ่งทำให้มุสลิมสุหนี่ในตะวันออกกลางหันมาผนึกกำลังต่อต้านพวกเขาในที่สุด

 

จีนเผยรายงานคุณภาพอากาศ 2014 ชี้มีแค่ 8 เมืองที่ผ่านมาตรฐาน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ก.พ. 2558 00:31


(ภาพ: REUTERS)

ทางการจีนเผยรายงานคุณภาพอากาศประจำปี 2014 พบว่า มีเพียง 8 เมืองที่ผ่านมาตรฐาน ขณะที่มณฑลเหอเป่ย มีมลภาวะทางอากาศมาที่สุด...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงปกป้องสิ่งแวดล้อมของประเทศจีน เปิดเผยผลการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพอากาศขั้นพื้นฐานประจำปี 2014 ซึ่งจัดทำขึ้นในเมืองขนาดใหญ่ 74 แห่งทั่วประเทศ ปรากฏว่า มีเพียง 8 เมืองเท่านั้นที่ผ่านมาตรฐาน แต่ทางกระทรวงเน้นย้ำว่าผลที่ได้ดีขึ้นกว่าปี 2013 ที่มีเมืองผ่านมาตรฐานเพียง 3 เมือง

ตามรายงาน เมืองที่มีมลภาวะมากที่สุดในประเทศจีนคือเมือง เป่าติ้ง ในมณทลเหอเป่ย และหลายเมืองในมณทลเดียวกันนี้ก็มีคุณภาพอากาศย่ำแย่ โดยมีค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) ถึง 93 มคก.ต่อลบ.ม. สูงกว่าค่ามาตรฐานของจีนที่กำหนดไว้ว่าต้องมีค่า PH2.5 ไม่เกิน 35 มคก.ต่อลบ.ม. แต่รายงานฉบับนี้ไม่จัดอันดับกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้

ส่วนเมืองที่มีค่าคุณภาพอากาศดีที่สุดคือเมือง ไห่โค บนเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) ซึ่งบางครั้งถูกเรียกว่าบาหลีเมืองจีน ตามด้วยเกาะโจวชาน, เมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบต, เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น , เมืองจูไห่กับเมืองฮุ่ยโจว ในมณฑลกวางตุ้ง และเมืองฝูโจวกับเมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนประกาศทำสงครามกับมลภาวะทางอากาศเมื่อปีก่อน โดยตั้งเป้าหมายลดการบริโภคถ่านหินของประเทศ และปิดโรงงานที่ก่อให้เกิดมลภาวะมากๆในมณฑลเหอเป่ย แต่ทางการเหอเป่ยยังคงประสบปัญหาในการหาพลังงานทางเลือกอื่นๆ

จีนเผยรายงานคุณภาพอากาศ 2014 ชี้มีแค่ 8 เมืองที่ผ่านมาตรฐาน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ญวนโหดฝังแมวทั้งเป็นนับพัน
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ 5 ก.พ. 2558 01:03



แมวเป็นๆที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศจีน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ในกรุงฮานอยยึดเมื่อ 27 ม.ค. 2015 (ภาพ: AFP PHOTO)

จากกรณีทางการเวียดนามยึดรถบรรทุกลักลอบนำเข้าแมวจากประเทศจีน จำนวนหลายพันตัวน้ำหนักรวมกว่า 3 ตัน ได้ในกรุงฮานอยเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่าทางการเวียดนามได้ตัดสินใจกำจัดสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าวแล้ว ด้วยการนำไปฝังทั้งหมด

เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามเปิดเผยว่า แมวลอตนี้ถูกลักลอบนำเข้ามาจากจีน เพื่อเตรียมส่งไปขายตามตลาดเนื้อสัตว์ จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตหรือว่าแมวได้ผ่านการตรวจกักกันโรคแต่อย่างใด จึงตัดสินใจนำไปฝังทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของเวียดนามว่าด้วยการจัดการสินค้าลักลอบนำเข้า นอกจากนี้ แมวหลายตัวเริ่มตายและส่งกลิ่นเหม็น ทางการจึงกังวลว่าจะเกิดความเสี่ยงของโรคติดต่อ อย่างไรก็ตาม ตำรวจมิได้เปิดเผยว่ามีแมวกี่ตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ก่อนถูกนำไปฝัง

ด้านกลุ่มพันธมิตรพิทักษ์สัตว์ ระบุว่าเคยเรียกร้องขอชีวิตให้แมวที่ถูกลักลอบนำเข้ามาแล้วแต่ไม่เป็นผล วิธีจัดการครั้งนี้เป็นการกระทำที่ผิดมนุษย์ ทั้งนี้ มีภัตตาคารหลายสิบแห่งในกรุงฮานอยที่อาหารทำจากเนื้อแมว จึงมีผู้พยายามลักลอบนำเข้าแมวมาจากต่างประเทศทั้งจีน ไทย และลาว.

ญวนโหดฝังแมวทั้งเป็นนับพัน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ธนาคารกลางยุโรประงับปล่อยกู้กรีซ



ธนาคารกลางยุโรปประกาศระงับมาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินของกรีซ หลังท่าทีระหว่างรัฐบาลเอเธนส์กับบรรดาเจ้าหนี้รายใหญ่ยังคลุมเครือ

วันพฤหัสบดี 5 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:20 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ว่าธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ เรื่องการระงับการเสริมสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินของกรีซ ผ่านการเข้าถึงแหล่งทุนของอีซีบี ด้วยการใช้พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรเอกชนที่ทางการเอเธนส์รับรอง หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ การระงับปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลกรีซ

อย่างไรก็ตาม อีซีบียืนยันสถาบันการเงินในกรีซยังสามารถเข้าถึงกองทุนฉุกเฉินของธนาคารกลางกรีซเองได้ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่รัฐบาลเอเธนส์เคยใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องผิดนัดชำระหนี้เมื่อปี 2555 แต่ต้องยอมแลกกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น และรับผลกระทบจากความเสียหายอื่นทั้งหมด

แถลงการณ์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังการหารือครั้งแรกที่ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน ระหว่างนายมาริโอ ดรากี ประธานของอีซีบี กับนายยานิส วารูฟาคิส รมว.กระทรวงการคลังของกรีซ ที่สำนักงานใหญ่ของอีซีบีในเมือแฟรงค์เฟิร์ต เพื่อหาทางออกจากปัญหาการชำระหนี้สินที่มีเงินต้น 240,000 ล้านยูโร ( ราว 9.12 ล้านล้านบาท ) ซึ่งอีซีบี กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) และสหภาพยุโรป ( อียู ) ทยอยปล่อยกู้ให้กรีซเป็นงวดมาตั้งแต่ปี 2553 ในนามของเจ้าหนี้กลุ่ม "ทรอยกา"

ขณะที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำกรีซ เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูที่สำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ เพื่อหารือเรื่องการผ่อนปรนมาตรการรัดเข็มขัด และข้อตกลงประนอมหนี้ ซึ่งนายฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) เผยจะนำข้อเสนอของซีปราสไปพิจารณา แต่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี ตั้งข้อสังเกตรัฐบาลกรีซยังไม่เคยแจกแจงอย่างชัดเจนเลยว่า จะใช้วิธีใดมาลดภาระหนี้สินของประเทศแทนมาตรการรัดเข็มขัด

ธนาคารกลางยุโรประงับปล่อยกู้กรีซ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

โลกอาหรับเดือดหลังไอเอสเผาทั้งเป็นนักบินจอร์แดน



กลุ่มประเทศตะวันออกกลางแสดงความโกรธแค้นอย่างรุนแรง และประณามกลุ่มไอเอสอย่างหนัก หลังกลุ่มหัวรุนแรงสังหารตัวประกันนักบินจอร์แดนด้วยการเผาทั้งเป็น แล้วเผยแพร่คลิปออกไปทั่วโลก

วันพฤหัสบดี 5 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 11:43 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ว่าการเสียชีวิตของร.ท.มาอัช อัล-คาสซาสเบห์ ซึ่งกลุ่มไอเอสนำคลิปการเผาทั้งเป็นนักบินหนุ่มของกองทัพจอร์แดน วัย 26 ปี ออกมาเผยแพร่เมื่อคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นของจอร์แดน หลังจับเป็นตัวประกันได้เมื่อปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว กำลังสร้างความสะเทือนใจระคนโกรธแค้นอย่างหนักให้กับชาวจอร์แดน และอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง

ชีค อาเหม็ด อัล-ทาเย็บ อิหม่ามใหญ่แห่งมัสยิด อัล-อาซาร์ ในกรุงไคโร องค์กรทางศาสนานิกายสุหนี่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก แถลงเมื่อวันพุธ ประณามกลุ่มไอเอสอย่างหนักว่าเป็น "ศัตรูตัวจริง" ขององค์ศาสดา และสมควรได้รับการกวาดล้างแบบขุดรากถอนโคนให้เร็วที่สุด เนื่องจากองค์ศาสดาไม่เคยสอนให้เผาร่างของเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย และการเผาร่างมนุษย์เป็นสิ่งต้องห้ามในทุกโอกาส แม้แต่ในช่วงสงครามก็ตาม

ด้านผู้นำทางศาสนาทั้งในซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และแอลจีเรีย พร้อมใจกันออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าวของกลุ่มไอเอสเช่นกัน ว่าโหดเหี้ยมและสร้างความเจ็บปวดอย่างมากให้กับทุกฝ่าย เมื่อได้รับทราบข่าวกลุ่มหัวรุนแรงเผาร่างของเพื่อนมนุษย์ที่นับถือศาสนาเดียวกันทั้งเป็น

ขณะที่ท่าทีในระดับรัฐบาลของกลุ่มประเทศในอาหรับและตะวันออกกลางต่างออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรุนแรงเช่นกัน ประธานาธิบดีเรย์เซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ประณามกลุ่มไอเอสว่าป่าเถื่อนและไร้อารยธรรม ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) คูเวต กาตาร์ บาห์เรน อิหร่าน และตูนิเซีย ออกแถลงการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ประณามสิ่งที่เกิดขึ้นกับร.ท.อัล-คาสซาสเบห์ ว่าเป็นการกระทำของ "อมนุษย์"

โลกอาหรับเดือดหลังไอเอสเผาทั้งเป็นนักบินจอร์แดน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

นักวิทย์ยุ่นเพาะพันธุ์ทูน่ายักษ์ด้วยปลาแมคเคอเรล



นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น พัฒนาการเพาะพันธุ์ปลาทูน่าครีบน้ำเงินแปซิฟิก หรือทูน่ายักษ์ ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ด้วยการฝากเลี้ยงในปลาแมคเคอเรล

วันพุธ 4 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 23:13 น.
เว็บไซต์ข่าว เจแปนทูเดย์ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่า นักวิทยาศาสตร์จากหลายสถาบันทั่วญี่ปุ่น พยายามหาทางเพาะพันธุ์ปลาทูน่าครีบน้ำเงินแปซิฟิก หรือปลาทูน่ายักษ์ ที่เป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับชาวญี่ปุ่น หลังเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) จัดลำดับสถานะการอนุรักษ์ (Conservation Status) ให้มันอยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (Threatened Species) ซึ่งถึงแม้จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าญาติของมันอย่างปลาทูน่าครีบน้ำเงินทางใต้และทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติก ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ แต่ก็เป็นสายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีความพยายามเพาะเลี้ยงปลาทูน่ายักษ์ แต่ยังคงห่างไกลจากความสำเร็จ หนึ่งในอุปสรรคสำคัญคือวงจรชีวิตของมัน โดยต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี เพื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ซึ่งถือว่านานมาก และในการเพิ่มน้ำหนักตัวแต่ละกิโลกรัม มันต้องกินอาหารมากถึง 20 - 40 กิโลกรัม ซึ่งตัวเต็มวัยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ราว 100 กิโลกรัม นอกจากนี้ มันยังมักจะว่ายชนผนังอ่างเลี้ยงจนเสียชีวิต ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เป็นผลมาจากสติปัญญาที่อยู่ในระดับต่ำของมัน

นายโกโร่ โยชิซากิ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยโตเกียว มีแนวคิดจะแก้ปัญหาเหล่านี้ในการเพาะพันธุ์ โดยการให้ปลาแมคเคอเรลทำหน้าที่เปรียบเสมือนพ่อแม่อุ้มบุญ ด้วยการฉีดเซลล์สืบพันธุ์ของปลาทูน่ายักษ์ เข้าไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ของตัวอ่อนปลาแมคเคอเรล เมื่อพวกมันโตเต็มที่ ปลาแมคเคอเรลตัวเมียจะผลิตไข่ของทูน่ายักษ์ ขณะที่ปลาแมคเคอเรลตัวผู้ก็จะผลิตสเปอร์มของทูน่ายักษ์เช่นกัน และเมื่อผ่านกระบวนการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ พวกมันก็จะให้กำเนิดทายาทที่เป็นทูน่ายักษ์ออกมา

ข้อได้เปรียบที่แมคเคอเรลมีเหนือทูน่าคือ มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ และใช้เวลาเข้าสู่ช่วงเจริญพันธุ์เพียง 1 ปี เท่ากับว่าสามารถขยายพันธุ์ได้เร็วขึ้น 5 เท่าเมื่อเทียบกับทูน่ายักษ์ นอกจากนี้ มันยังมีขนาดเล็กกว่า มีน้ำหนักเพียงประมาณ 3 ขีด จึงไม่ต้องใช้พื้นที่มากในการเลี้ยง และยังกินอาหารน้อยกว่า จึงช่วยลดต้นทุนและอาจทำให้ผลผลิตมีราคาถูกลง อีกทั้งมันยังอยู่ในวงศ์ปลาอินทรีย์ (Scombridae) เช่นเดียวกัน จึงมีลักษณะทางพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม อาจต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี ที่การทดลองซึ่งจะเริ่มขึ้นในปีนี้ จะก้าวไปสู่ระดับที่จะนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ และยังมีคนตั้งคำถามว่า งานนี้ปลาแมคเคอเรลจะรู้สึกอย่างไร เมื่อมันต้องให้กำเนิดศัตรูของตัวเอง เพราะตามธรรมชาติแล้ว ทูน่ายักษ์ล่าแมคเคอเรลเป็นอาหาร.

ขอบคุณภาพจาก The Telegraph - Telegraph online, Daily Telegraph, Sunday Telegraph - Telegraph

นักวิทย์ยุ่นเพาะพันธุ์ทูน่ายักษ์ด้วยปลาแมคเคอเรล | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ทัพประมงจีนเล็งบุกน่านน้ำกายอานา



บริษัทประมงของจีน ยื่นขอใบอนุญาตดำเนินกิจการในน่านน้ำกายอานา ขณะที่มีกระแสต่อต้านจากกลุ่มชาวประมงในประเทศ ที่หวั่นว่าอุตสาหกรรมประมงของจีนจะกอบโกยทรัพยากรทางทะเลของประเทศ

วันพฤหัสบดี 5 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 01:23 น.
สำนักข่าวเอพี รายงานจากกรุงจอร์จทาวน์ ประเทศกายอานา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่า บริษัทฝูโจวหงตง เพลาจิค ฟิชเชอรี บริษัทประมงของจีน ยื่นขอใบอนุญาตทำประมงด้วยเรือลากอวน 30 ลำ ต่อรัฐบาลกายอานา รวมถึงการขออนุญาตจัดตั้งโรงงานดำเนินการและการจัดเก็บวัตถุดิบด้วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการลงทุนราว 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,282 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทร้องขอให้รัฐบาลมีมาตรการยกเว้นภาษี โดยอ้างว่าจะเป็นการส่งเสริมการส่งออกให้แก่กายอานา ด้านนายเลสลี รามซามมี รมว.กระทรวงการประมงกายอานา เผยเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลกำลังอยู่ในระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทเพื่อพิจารณา และยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และคาดว่าจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดจนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งใหญ่ในเดือน พ.ค. นี้

กายอานามีมาตรการปรับลดระดับการทำประมงเพื่อการพาณิชย์ในปี 2555 โดยมีจำนวนเรือประมงลดลงเหลือไม่ถึง 100 ลำ เนื่องจากที่ผ่านมามีการจับปลามากเกินไปในพื้นที่ เมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลเผยว่า ผลประกอบการลดลงร้อยละ 6.5 ในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา หลังมีการระงับการออกใบอนุญาตการทำประมงในเชิงพาณิชย์ กลุ่มองค์กรอุตสาหกรรมประมงในประเทศได้ออกมาต่อต้านการออกใบอนุญาตให้บริษัทดังกล่าว เนื่องจากการเข้ามาของบริษัทประมงจีน เป็นการทำประมงในระดับที่ใหญ่เกินกว่าที่รัฐบาลจะจับตาดูเพื่อตรวจสอบได้ และยังเป็นการหมดเปลืองทรัพยากรในอัตราที่มากกว่าที่ชาวประมงท้องถิ่นทำได้

ด้านฝูโจวหงตง เผยว่า บริษัทจะทำการประมงในน่านน้ำของกายอานา โดยใช้เรือประมงอวนยก อวนลาก และโป๊ะ ราว 30 ลำ และจะมีการทดลองดำเนินการเป็นระยะเวลา 1 ปี ก่อนจะเข้าสู่ปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบ โดยก่อนหน้านี้บริษัทประกาศว่า จะเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าบริษัทจะปฏิบัติตามระเบียบทุกอย่างอย่างเคร่งครัด และจะใช้เครื่องมือเพื่อป้องกันไม่ให้มีเต่าทะเลติดขึ้นมา.

ขอบคุณภาพจาก Guyana Chronicle | Guyana National Newspaper Limited

ทัพประมงจีนเล็งบุกน่านน้ำกายอานา | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์