ติดตามสถานะการณ์

"บุนเดสแบงค์" ขนทองคำจากนิวยอร์ก-ปารีส กลับไปเก็บที่เมืองเบียร์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2558 19:33 น.



เอเอฟพี - "บุนเดสแบงค์" ธนาคารกลางของเยอรมัน ได้เปิดเผยในวันนี้ (19 ม.ค.) ว่าการส่งทองคำสำรองของประเทศที่เก็บไว้ในต่างแดน กลับไปเก็บไว้ในคลังของตนเองเมื่อปีที่แล้วลุล่วงด้วยดี

คำแถลงของบุนเดสแบงค์ ระบุว่า ทางธนาคารประสบความสำเร็จในการขนส่งทองคำสำรองกลับสู่ประเทศในปีที่แล้ว โดยมีทองถูกส่งไปเก็บไว้ในแฟรงค์เฟิร์ตเป็นจำนวน 120 ตัน ในจำนวนนั้นถูกส่งมาจากปารีส 35 ตัน และจากนิวยอร์ก 85 ตัน

ทองคำสำรองของเยอรมันนั้นมีมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 3,384.2 ตัน ตามหลังเพียงแค่สหรัฐอเมริกา จากข้อมูลล่าสุดของสภาทองคำโลก ซึ่งทองคำเหล่านี้ของบุนเดสแบงค์ ถูกเก็บไว้ในธนาคารของประเทศอื่น ในกรุงปารีส ลอนดอนและนิวยอร์ก มานานนับทศวรรษแล้ว

จากข้อมูลของธนาคารกลางเยอรมัน พวกเขามีทองคำเก็บไว้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ในนิวยอร์ก 1,447 ตัน ที่ธนาคารกลางอังกฤษในลอนดอน 438 ตัน และที่ธนาคารกลางฝรั่งเศสในปารีส 307 ตัน

เหตุผลที่เยอรมันต้องเก็บทองคำสำรองไว้ในต่างแดน เป็นเพราะหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และการฟื้นตัวด้านการส่งออกของเยอรมันตะวันตกที่ถูกเรียกว่า "อีโคโนมิค มิราเคิล" ช่วงยุคปี 1950 ตอนนั้นบุนเดสแบงค์ได้นำสกุลเงินดอลลาร์ที่เก็บไว้ ไปแลกเปลี่ยนเป็นทองคำกับธนาคารกลางสหรัฐฯ

ตอนนั้นเยอรมันมีการแบ่งออกเป็นเยอรมันตะวันตก (ทุนนิยม) กับเยอรมันตะวันออก (คอมมิวนิสต์) การเก็บทองคำสำรองไว้ในต่างแดนก็เพื่อให้พ้นเงื้อมมือสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น

อย่างไรก็ตาม กระแสความไม่เชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเกิดวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป ทำให้บรรดาพรรคการเมืองในเยอรมันพากันเป็นกังวลเกี่ยวกับทองคำสำรองที่เก็บไว้นอกประเทศ บุนเดสแบงค์จึงได้ตัดสินใจจะส่งทองคำสำรองที่เก็บไว้ในต่างแดนกลับสู่เมืองเบียร์

ภายใต้แผนจัดเก็บทองคำสำรองฉบับใหม่เมื่อปี 2013 บุนเดสแบงค์ตัดสินใจที่จะนำทองคำสำรองในต่างแดนกลับมาไว้ในประเทศเป็นจำนวน 674 ตัน ภายในปี 2020 โดยจะเก็บทองคำครึ่งหนึ่งไว้ในห้องนิรภัยของตนเอง

"การดำเนินงานตามแผนจัดเก็บทองคำสำรองฉบับใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น ปฏิบัติการทั้งหมดเป็นไปตามกำหนดที่วางไว้" คาร์ล-ลุดวิก ธีลล์ หนึ่งในบอร์ดบริหารของบุนเดสแบงค์ กล่าว

"เรายังได้เรียกผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศให้มาตรวจสอบแล้วด้วย ซึ่งผลก็ออกมาตามที่คาดไว้ นั่นคือไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น" เขากล่าว

บุนเดสแบงค์ ระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มขนส่งทองคำกลับประเทศในปี 2013 ตอนนี้มีการขนย้ายทองไปเก็บไว้ในแฟรงค์เฟิร์ตแล้ว รวมทั้งสิ้น 157 ตัน โดยนำมาจากปารีส 67 ตัน กับอีก 90 ตันจากนิวยอร์ก

 

สโนว์เดนแฉ “สายลับจีน” ลอบขโมย “บลูพรินท์เครื่องบินขับไล่ F- 35” เขี้ยวเล็บล่าสุดของกองทัพออสซี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2558 14:46 น.



เอเจนซีส์ - เอกสารลับ NSA ของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ NSA ถูกเปิดเผยล่าสุดผ่านนิตยสารรายสัปดาห์ของเยอรมัน แดร์ ชปีเกล จากการรายงานของสื่อออสเตรเลียพบว่า สายลับจีนแผ่นดินใหญ่แอบลอบขโมยข้อมูลคอมพิวเตอร์รายละเอียดเครื่องบินขับไล่ของล็อคฮีดมาร์ติน F- 35 กว่า 50 เตตราไบท์ เพื่อพัฒนาเครื่องบินขับไล่ของตนเอง

ซิดนีย์มอร์นิงเฮอราลด์ รายงานเมื่อวานนี้(18)ว่า สายลับรัฐบาลจีนลอบขโมยข้อมูลการออกแบบเครื่องบินขับไล่ F- 35 ของล็อคฮีดมาร์ติน ซึ่ง F- 35 ถือเป็นเครื่องบินขับไล่ล่าสุดประะจำกองทัพออสเตรเลีย โดยสื่อเยอรมัน นิตยสารรายสัปดาห์ แดร์ ชปีเกล ถึงการดักฟังข้อมูลของ NSA ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิก 5 eyes ที่มีออสเตรเลียเป็นหนึ่งในชาติสมาชิก ในความพยายามที่จะต่อกรกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์

อ้างจากข้อมูลลับ NSAที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อเยอรมันพบว่า สายลับจียนได้ขดมยข้อมูลสำคัญบนระบบจำนวนมาก รวมไปถึงรายละเอียดการออกแบบของเครื่องบินรบขับไล่ของบ.ล็อคฮีดมาร์ติน F- 35 ไลต์นิง 2 โดยในเอกสารที่เปิดเผยรวมไปถึงระบบเรดาร์ของเครื่องบินรบขับไล่ที่ใช้ค้นหาเป้าหมาย รวมไปถึงระบบเครื่องยนต์ ระบบการหล่อเย็นก๊าซเสีย และ aft deck heating contour maps ซึ่งถึงแม้จะมีการสงสัยว่าหน่วยจารกรรมจีนหมายตาในข้อมูลของ F- 35 แต่ครั้นี้ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่มีหลักฐานยืนยันถึงความเชื่อนี้ว่าเกิดขึ้นจรืง

โดยผู้เชี่ยวชาญทางการทหารชี้ว่า เครื่องบินขับไล่ใหม่ของกองทัพจีน Chengdu J-20 and the Shenyang J-31 ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจาก F-35

ในเดือนเมษายน 2014 นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย โทนี แอ็บบอตต์ ประกาศจะสั่งซื้อ เครื่องบินขับไล่ F- 35 จำนวนมากกว่า 58 ลำ ที่มีตัวเลขไม่ต่ำกว่า 12 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ออสเตรเลียมีเครื่องบินขับไล่ F- 35 ทั้งหมด 72 ลำ ตามแผนการที่วางไว้ โดยลำแรกจเริ่มต้นเข้าทำการกับกองทัพอากาศออสเตรเลียในปี 2020 อย่างไรก็ตาม จากเอกสารของสโนว์เดนเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียรับรู้ถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ เครื่องบินขับไล่ F- 35 ถูกสายลับจีนขโมย นอกจากนี้สื่ออสเตรเลียยังรายงานเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากนี้สื่อเยอรมันยังเปิดเผยว่า สายลับจีนยังโจรกรรมข้อมูลลับเครื่องบินล่องหนบอมเบอร์ B-2 เครื่องบินขับไล่ล่องหนแรปเตอร์ F-22 เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ และบลูพรินต์ของมิสไซล์ระบบต่อต้านอากาศยานของกองทัพเรือ รวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่กองทัพหลายหมื่นนาย ดดยพบว่าจำนวนข้อมูลทางทหารนั้นมีมากถึง 50 เตตราไบต์ หรือคิดเป็นข้อมูลในห้องสมุดรัฐสภาคองเกรส 5 แห่งรวมกัน

แต่ในทางกลับกันเอกสารลับ NSA เปิดเผยว่า หน่วยงานสหรัฐฯ และหน่วยงานความมั่นคงในไฟว์สตาร์สามารถลอบเจาะข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของจีนได้สำเร็จ รวมไปถึงเป้าหมายการจารกรรมข้อมูลของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ และชาติต่างๆ

 

หิมะถล่มในพื้นที่เล่นสกีของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต่างชาติถูกฝังทั้งเป็น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2558 15:23 น.



เอเอฟพี - ตำรวจและสื่อท้องถิ่นรายงานในวันนี้ (19 ม.ค.) ว่าเกิดหิมะถล่มขึ้นที่รีสอร์ตสำหรับเล่นสกีในญี่ปุ่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในจำนวนนั้นเป็นชายชาวอาร์เจนตินา 2 ราย

ชาวต่างชาติ 2 รายที่เสียชีวิตมีอายุ 50 และ 54 ปี พวกเขามาเที่ยวที่รีสอร์ต “ริวโอ สกี ปาร์ก” ในจังหวัดนากาโนะ ซึ่งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 3 ราย เป็นชายจากนิวซีแลนด์ กับชาย-หญิงจากออสเตรเลีย ที่มาด้วยกันกับผู้เคราะห์ร้ายชาวอาร์เจนตินา

โฆษกตำรวจท้องถิ่นระบุว่า หลังจากที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เริ่มเล่นสกีตอนเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันอาทิตย์ ก็เกิดหิมะถล่มลงมาทับชายชาวอาร์เจนตินาทั้ง 2 ราย จากนั้นเพื่อนของผู้เคราะห์ร้ายก็ได้โทร.แจ้งเหตุฉุกเฉิน แล้วเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้มาค้นหาจนเจอร่างของพวกเขาถูกฝังอยู่ในหิมะ ทั้งคู่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตตอนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง

ตำรวจยังบอกด้วยว่า หิมะถล่มดังกล่าวกินพื้นที่กว้าง 30 เมตร ยาว 200 เมตร

อีกด้านหนึ่งก็มีรายงานหิมะถล่มอย่างรุนแรงในจังหวัดนีงาตะ ซึ่งอยู่ทางเหนือของนากาโนะ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์เช่นกัน

หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานว่า มีชายชาวญี่ปุ่นวัย 48 ปี เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 ม.ค.) เพราะถูกหิมะถล่มทับขณะที่กำลังเล่นสโนว์บอร์ด นอกจากนี้ยังมีหนุ่มญี่ปุ่นวัย 35 ปีอีกรายที่ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นที่เล่นสกีของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดนีงาตะ โดยทางตำรวจคาดว่าเขาน่าจะโดนหิมะถล่มเล่นงานด้วยเช่นกัน

ตำรวจยังได้เปิดเผยในวันนี้ด้วยว่า นอกจากเหตุร้ายดังกล่าวข้างต้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็กำลังออกตามหาชาวญี่ปุ่น 3 รายที่มีอายุระหว่าง 50-60 ปีกว่าๆ ที่หายตัวไปขณะออกไปเล่นสกีบนภูเขาในจังหวัดนากาโนะ ทั้งสามมีกำหนดจะต้องกลับมายังบริเวณตีนเขาในช่วงเย็นวันอาทิตย์ แต่ก็ไม่กลับมา

 

กินีเปิดโรงเรียนอีกครั้ง หลังปิดหนีไวรัสมรณะอีโบลา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2558 02:00 น.



เอพี - โรงเรียนต่างๆในกินีที่หยุดมานานท่ามกลางวิกฤตอีโบลา กลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันจันทร์(19ม.ค.) แต่หลายครอบครัวยังคงหวาดกลัวที่จะส่งลูกหลานไปเรียน

พบเห็นพนักงานประจำอยู่ตามประตูทางเข้าโรงเรียนต่างๆในกรุงโกนากรี เพื่อคอยตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เดินทางมาเรียนเมื่อวันจันทร์(19ม.ค.) โดยคนที่มีอุณหภูมิร่างกายที่เป็นปกติเท่านั้นถึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายในอาคาร

อย่างไรก็ตามมีเด็กอีกจำนวนมากที่ยังอยู่ที่บ้าน หลังจากมีข่าวลือแพร่สะพัดทั่วเมืองหลวงว่าพบเห็นเจ้าหน้าสวมหน้ากากอยู่ตามอาคารเรียนต่างๆ กระพือข้อสงสัยว่าอาคารเรียนเหล่านั้นมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน

"กลุ่มคนที่สวมหน้ากากเหล่านั้นพ่นห้องเรียนโดยไม่ได้แจ้งผู้บริหารโรงเรียนพวกเขาใช้สารเคมีอะไรพ่น และไม่ได้บอกว่าทำไมพวกเขาถึงต้องสวมหน้ากาก" ไอดริสซา ดิอัลโล โฆษกสมาคมผู้ปกครองท้องถิ่น "ดังนั้นเราคงจะไม่ส่งเด็กๆไปโรงเรียนสักพัก"

ข่าวลือดังกล่าว แพร่ระพัดขึ้นหลังมีข้อความทางโทรศัพท์มือถือส่งต่อกันเป็นทอดๆในวันจันทร์(19ม.ค.) เรียกร้องผู้ปกครองอย่าเพิ่งให้ลูกหลานไปโรงเรียน ข้อมูลผิดๆที่สร้างความท้อแท้แก่พวกเจ้าหน้าที่ที่กำลังดำเนินการฆ่าเชื้อโรคตามอาคารเรียนต่างๆ

ปกติแล้วโรงเรียนต้องเปิดเทอมตั้งแต่ 3 เดือนก่อน แต่เจ้าหน้าที่หวั่นเกรงว่าการรวมตัวของเด็กจำนวนมากจะทำให้การแพร่ระบาดของอีโบลาลุกลามหนักขึ้น อย่างไรก็ตามเวลานี้พบเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในกินี ด้วยองค์การอนามัยโลกบอกหลายวันก่อนว่าประเทศแห่งนี้มีอัตราผู้ติดเชื้อคนใหม่รายสัปดาห์ต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ทว่าข่าวลือต่างๆนานายังแพร่สะพัด ด้วยบางคนยังเชื่อแบบผิดๆว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคือบุคคลที่แพร่เชื้อโรคระบาดนี้

"กินีเป็นประเทศขี้แพ้" นาฟิอู บาห์ หนึ่งในคนงานทำความสะอาดอาคารกล่าว "เรากำจัดเชื้อโรคตามอาคารต่างๆด้วยสารละลายคลอรีนตามคำแนะนำด้านสุขอนามัย แต่มันบ้ามากที่มีคนบอกว่าเราเอาเชื้อมาแพร่ใส่ห้องเรียน"

ในกินี มีประชาชนเสียชีวิตจากอีโลบาแล้วมากกว่า 1,800 ศพ นับตั้งแต่ไวรัสมรณะชนิดนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากนั้นมันก็ลุกลามไปยังเซียร์ราลีโอนและไลบีเรีย ในอีกหลายเดือนต่อมา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในแต่ละชาติมากกว่า 3,000 ศพ

 

UN ประกาศ “มาลี” ปลอดจากเชื้อ “อีโบลา” หลังไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ต่อเนื่อง 42 วัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2558 11:56 น.



เอเอฟพี – รัฐบาลมาลีและองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศให้มาลีเป็นประเทศปลอดเชื้ออีโบลา เมื่อวานนี้(18) หลังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 42 วันต่อเนื่อง

อุสมาเน โกเน รัฐมนตรีสาธารณสุขมาลี เปิดเผยว่า ทางการไม่ได้รับแจ้งผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ มาตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งผลการตรวจร่างกายผู้ป่วยต้องสงสัยรายสุดท้ายได้ผลเป็น “ลบ”

“ผมขอประกาศให้วันนี้... เป็นวันที่เชื้ออีโบลาหมดสิ้นไปจากมาลี” โกเน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ORTM

ด้าน อิบราฮิมา โซเซ ฟอลล์ หัวหน้าศูนย์ตอบสนองภาวะฉุกเฉินอีโบลาแห่งสหประชาชาติในมาลี (UNMEER) ยืนยันตรงกันว่า ประเทศในแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้ “พ้น” จากโรคระบาดดังกล่าวแล้ว

ตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) รัฐบาลสามารถประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาสิ้นสุดได้ หากไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ต่อเนื่องเป็นเวลา 42 วัน หรือ 2 เท่าของระยะฟักตัว 21 วัน

โกเน กล่าวสรรเสริญความพยายามของรัฐบาลมาลี ตลอดจนทุกฝ่ายที่มีส่วนช่วย “ปฏิบัติงานอย่างหนักหลายสัปดาห์” เพื่อสกัดกั้นไวรัสมรณะ จนกระทั่งประสบผลสำเร็จ

เขายังกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาลีและหุ้นส่วนต่างๆ ที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ และเตือนให้ประชาชนรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐานและป้องกันตนเองให้เป็นนิสัย

มาลีพบผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลารวม 7 ราย รายแรกเป็นเด็กหญิงวัย 2 ขวบที่เดินทางจากกินีมาอาศัยอยู่กับญาติ และเสียชีวิตลงเมื่อเดือนตุลาคม หลังจากนั้นไม่นานก็มีครูสอนศาสนาชาวมุสลิมจากกินีมาเสียชีวิตที่กรุงบามาโก และไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม เขาได้แพร่เชื้อสู่บุคคลอื่นๆ อีก 7 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 5 คน

ผู้ติดเชื้ออีโบลารายสุดท้ายในมาลีได้รับการรักษาจนหายดีในที่สุด และออกจากโรงพยาบาลเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

การแพร่ระบาดครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเชื้ออีโบลาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาทำให้มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 21,296 ราย และเสียชีวิตไป 8,429 ราย ตามข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพลเมืองกินี, ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน

UN

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 20 ม.ค.58 เกิดหลุมยุบจังหวัดเชียงราย
เมื่อพายุสุริยะส่งแรงอัดกระแทกมายังโลก ย่อมทำให้สนามแม่เหล็กโลกเกิดความแปรปรวน ส่งผลให้ภาคเหนือของไทย และ พม่า เกิดแผ่นดินไหวเบาๆ หลายครั้ง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ ความกว้าง 4 เมตร และลงไปลึก 4 เมตร ที่ หมู่ 9 บ้านดงมะเฟือง ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ซึ่งพื้นที่ๆ เคยแผ่นดินไหวเมื่อ 5 พ.ค.57 มาแล้ว
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 20 ม.ค.58 อเมริกาเปิดแนวรบประชิดรัสเซีย ส่งรถถังและทหารเข้าลัตเวียแล้ว
ตอนนี้สมรภูมิรบในเมืองโดเน็ทซ์ค ยูเครน ระหว่างกองทัพยูเครน กับกลุ่มนักรบนิยมรัสเซีย มีความตึงเครียดขึ้น ทางยูเครนระดมพลรถถัง และทหารจำนวนมาก กองทัพยูเครน ตั้งเป้าจะใช้ขบวนรถถังเหล่านี้ ผลักดันกองกำลังนักรบนิยมรัสเซียออกไปจากพื้นที่สนามบิน
พร้อมทั้งเปิดเส้นทางลำเลียงทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บออกมา หลังจากที่ถูกอีกฝ่ายใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มบริเวณสนามบินอย่างหนัก อัตราการตายของทหาร 2 ฝ่ายตอนนี้ ทหารยูเครนตาย 3 ส่วน กลุ่มติดอาวุธฯ ตาย 1 ส่วน ตอนนี้การปะทะอย่างรุนแรง หนักหน่วง เกิดขึ้นตลอดคืนวันหยุด ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ต่างก็โดนกระสุนปืนใหญ่กันถ้วนหน้า
ระบบขนส่งสาธารณะต้องหยุดให้บริการ ร้านค้าพากันปิด ด้านรัสเซียเองก็ใช้ "หุ่นยนต์" คุ้มกันเรือดำน้ำ ที่ติดปืนกลยิงเร็ว ควบคุมจากระยะไกล พร้อมเคลื่อนพลเรือดำน้ำ รุ่นใหม่ออกจากตรงแหลมไครเมียแล้ว
อเมริกา ก็เคลื่อนกำลังทหาร พร้อมรถถัง เข้าไปในประเทศลัตเวีย ทางยุโรปเหนือ จำนวนมาก เพื่อโอบล้อมรัสเซีย ซึ่งลัตเวียเป็น 1 ใน 28 สมาชิกกลุ่ม EU ด้วย การเจรจาหยุดยิงตอนนี้ชะงักงันไปแล้ว เพราะทางอเมริกา สั่งให้ยูเครนถอนตัวจากการไปร่วมเจรจา
แต่ให้เดินหน้ารบเท่านั้น สถานการณ์การเปิดฉากรบตรงยุโรปตะวันออกที่ยูเครน และลัตเวียที่ยุโรปเหนือ น่าจับตามาก ตรงจุดนี้อากาศหนาวเย็นมาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ถ้าเริ่มการรบกันตรงนี้อีกจุด รถถังอเมริกา และ รถถังรัสเซีย คงจะได้ทดลองประสิทธิภาพ กันอย่างเต็มที่
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 20 ม.ค.58 จะเป็นลม..นายกฯ รัสเซีย ยอมรับแล้ว ว่ามีการติดต่อและควบคุมตัวสิ่งมีชีวิตต่างดาว
ในวันที่ 23 มกราคม นี้โลกที่เราอยู่ใบนี้อาจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะสิ่งที่จะบอกต่อไปนี้ อาจทำให้หลายคนช็อค หลังจากที่ลับๆล่อๆ กันมานาน ก็ได้เวลาเปิดโปงกันแล้ว เพราะจะมีการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เป็นมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไร WEF เป็นองค์กรมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงสถานะของโลก
สถานที่จัดประชุมคือ เมืองดาวอส สวิสเซอร์แลนด์ โดยผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ คือ ผู้นำประเทศ นักการเมือง นักธุรกิจ นักวิชาการ นักอุตสาหกรรม นักข่าว และคนดังๆ ของโลก มากถึง 2,500 คน งานนี้มีผู้นำราว 50 ประเทศ ดังๆ เช่น รัสเซีย อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ฯลฯ เข้าร่วมประชุม
หัวข้อประชุมที่สำคัญคือ "การค้นพบของชีวิตคนต่างด้าว" และ "หลักฐานของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในจักรวาล.... " เมื่อ 2 ปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย เคยให้สัมภาษณ์นักข่าวในมอสโค โดยไม่รู้ตัวว่ามีไมด์โครโฟนทำงานอยู่ เขาระบุว่า "ประธานาธิบดีปูติน มอบแฟ้มลับเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวให้เขา พร้อมกระเป๋าที่มีเอกสารที่จำเป็น ในการเปิดใช้งานคลังแสงนิวเคลียร์ของรัสเซีย"
กระเป๋าเอกสารนี้ มีรหัสยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ของประธานาธิบดี ที่เป็นความลับสุดยอด นอกจากนั้นยังมีเอกสารสำคัญที่ชวนช็อค ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่เคยมาเยือนโลกของเรา , รายงานลับการทดลอง การควบคุมมนุษย์ต่างดาวบนดินแดนของประเทศรัสเซีย เขาบอกว่า ถ้าเขาบอกหลายคนในคนหมู่มาก อาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนก
------------------------------------->
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่เมือง Vladivostok ของรัสเซีย ได้ค้นพบส่วนของล้อยานลึกลับ เมื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว มันมีอายุถึง 300 ล้านปี , ยานสำรวจดาวอังคารพบร่องรอยแม่น้ำถึง 1,000 สายบนดาวอังคาร , นักวิทยาศาสตร์อังกฤษ และศรีลังกา มีหินหลักฐานของสิ่งมีชีวิตคนต่างดาว และพบสาหร่ายฟอสซิลภายในอุกกาบาต
ถ้านายกฯ เมดเวเดฟ สามารถที่จะโน้มน้าวให้โอบามา บอกความจริงเกี่ยวกับยานและมนุษย์ต่างดาว ที่การประชุมในสัปดาห์นี้ได้ รัสเซียเองก็จะเริ่มต้นกระบวนการ บอกความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้เช่นกัน ขนาดนายกฯ รัสเซีย แฉซะขนาดนี้..เราอาจไม่ได้อยู่คนเดียวในจักรวาลที่กว้างใหญ่นี้เสียแล้ว
คนระดับนายกฯ รัสเซีย ไม่ใช่พูดอะไรเล่นๆ ได้ เขาได้บอกสิ่งที่เขารู้อะไรมาแล้วบ้าง มิน่า อเมริกา กับอังกฤษ อินเดีย ถึงป้วนเปี้ยนที่ดาวอังคารตลอดมา มันมีธาตุอะไรบางอย่างที่อเมริกาอยากได้หรือ ??
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 20 ม.ค.58 หมีขาวจัดเต็ม สั่งเคลื่อนพลกองเรือดำน้ำไปข่มขวัญ NATO
ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นติดลบเย็นยะเยือก พี่หมีขาวรัสเซีย จัดหนักด้วยการสั่งกองเรือดำน้ำติดตั้งขีปวุธพิสัยไกลข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ พร้อมทหาร หุ่นยนต์คุ้มครองติดอาวุธ ควบคุมด้วยรีโมตระยะไกล หน่วยกู้ภัย เคลื่อนทัพของตนที่ซุ่มอยู่แถวแหลมไครเมีย ติดยูเครน เคลื่อนพลกรีฑาทัพ มุดลงใต้น้ำ
เรือดำน้ำรัสเซีย รุ่นล่าสุด สร้างความปวดหัวให้กับอเมริกา อังกฤษ และประเทศ NATO ในยุโรปมาแล้ว เพราะตรวจหามันให้ควั่กเท่าไรก็ไม่เจอ บางครั้งมันเคยถึงขนาดบุกเข้าถึงน่านน้ำของประเทศเป้าหมาย แกล้งโผล่ขึ้นมาเล็กน้อย ชนิดมองเห็นด้วยกล้องส่องทางไกลได้จากฝั่ง แต่พอเอาเรือตรวจการณ์พร้อมเครื่องโซนาร์ วิ่งวนหาอยู่หลายวันก็หาไม่เจอ
อังกฤษถึงขนาดอับจนปัญญาบากหน้าไปขอให้ลูกพี่มะกัน ช่วยส่งอุปกรณ์ไฮเทคมาหามันหน่อย เพราะอังกฤษ หามันในจุดพิกัดที่พบวับๆ แวมๆ จนจะดูดน้ำในทะเลมาเข้าเครื่องกรองทุกหยดแล้ว แต่ก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่ารัสเซียใช้เทคโนโลยีอะไรที่สามารถล่องหนเรือดำน้ำที่ใหญ่กว่าเครื่องบินโดยสาร ให้หายวับไปได้
แต่มะกันที่พี้กัญชาอยู่จนตาปรือก็อ้ำๆ อึ้งๆ เป็นตะงึกตะงัก พร้อมทุบโต๊ะจนเส้นกัญชากระจายฟุ้ง แล้ว คำรามในลำคออย่างโกรธแค้นเป็นหนักว่า "พี่ก็หามันไม่เจอเหมือนกันน้องเอ้ย" แต่ถึงพี่หามันไม่เจอ พี่ก็มีอาวุธอานุภาพร้ายแรง ที่สยบผู้หญิงราบคาบมาแล้วทั่วโลก คือ ตอร์ปิโดดำ ของพี่เองนี่แหละ
โถ ขนาดเกิดควันไฟปริศนาควันโขมง ในสถานีรถไฟฟ้าได้ดิน ของเมืองหลวงมะกันเอง มีคนตาย และเจ็บอื้อ โด่งดังปานเปิดตัวหนังใหม่ของฮอลีวู๊ด ไปทั่วโลก ป่านนี้ยังหาต้นตอควันปริศนานั้นไม่เจอเลย นับประสาอะไรจะหาเรือดำน้ำไฮเทคเจอ
เรือดำน้ำจึงเป็นที่หวั่นกลัว ของกองเรือรบเป็นยิ่งนัก สู้กัน 1 ต่อ 20 เรือรบก็ไม่กล้าเสี่ยง จึงทำให้เรือดำน้ำ สามารถกันกองเรือรบไม่ให้เข้ามายุ่มย่ามในรัศมีน่านน้ำเป้าหมายได้ หากต้องเปิดฉากสู้รบกัน ตอนนี้รัสเซียมีเรือแบบนี้ไปสแตนด์บายล็อคพิกัดราว 28 จุดยุทธศาสตร์ โอบล้อมอเมริกา และ ยุโรปไว้หมดแล้ว
เมื่อไรพี่หมีขาวปูติน จามฮัดเช้ย เมื่อนั้นขีปนาวุธพิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียร์ ก็พร้อมจะกดปุ่มปล่อยออกไปจากเรือดำน้ำได้ทันที แม้มะกันและ NATO จะยิงสกัดกลางอากาศ แต่คำถามคือ ถ้าระดมยิงพร้อมกับขีปนาวุธจากบนภาคพื้นดินพร้อมๆ กันหลายพันลูก "จะสกัดได้มันได้หมด 100% หรือไม่ ?"
เพราะแค่มันหลุดไปตกสักลูก แค่นั้นก็ตายหลายล้านคนแล้ว อย่าลืมว่าระบบตรวจจับขีปนาวุธพิสัยไกลแบบนี้ จุดบอดของมันคือต้องอาศัย "ดาวเทียมทางทหาร" ส่งสัญาณแจ้งเตือนภาคพื้นดินเท่านั้น หากดาวเทียมทหาร"เป็นอะไรไป" เท่ากับกลายเป็นคนตาบอดทันที
รัสเซียมีเทคโนโลยี ที่ทำให้ดาวเทียมทหาร เป็นอัมพาต ตาบอด ชั่วขณะขณะยิงขีปนาวุธข้ามทวีปได้ซะด้วย..โอบามาจะว่าไง !! แต่ถ้าทหาร 2 ฝ่ายประเทศไหน บลาฟกันจนเหนื่อย ก็ลาพักร้อน มากินข้าวราดแกง ส้มตำ ไก่ย่าง เมืองไทย นะ..ขากลับจะซื้อปลาร้าอีสาน ไปเวฟตั้งวงจิ้มข้าวเหนียวกินในเรือดำน้ำ ก็จะมีพลังอืดรบขึ้นอีกเพียบ !!
---------------------
@ เสธ น้ำเงิน1 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Chalee Na Roied



ไปดูภาพชาวเวเนซุเอลา ต่อแถวเข้าคิวซื้อเสบียง สบู่ ยาสีฟัน อาหาร และข้าวขิงเครื่องใช้ ในห้างขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองหลวงนะครับ จนทหารต้องออกมาดูแลความเรียบร้อย ท่ามกลางวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น จากราคาน้ำมันตกต่ำ ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการเมืองภายใน กระทั่งการแทรกแซง ของชาติมหาอำนาจ
แน่นอนครับภาพอย่างนี้ เราจะได้เห็นในอีกหลายๆเมืองสำคัญทั่วโลก เพราะหายนะทางเศรษฐกิจ ที่กำลังจะเกิดขึ้น และการล่มสลายของระบบการเงินของโลกนั่นเอง..

 

ข่าวของ เสธ น้ำเงิน ถ้ามีส่วนไหน เกี่ยวกับการเมืองในประเทศ ผมได้ลบทิ้งน่ะครับ ถ้าใครสนใจอ่านฉบับเต็มก็ตามไปอ่านในเฟส https://www.facebook.com/thailandcoup?fref=ts ได้ครับ

 

:''''''(

ขออย่าให้เกิดขึ้นที่ดินแดนประเทศไทยเลย

 

Thanong Fanclub



นายกฯจีนจะเข้าร่วมประชุมWorld Economic Forumที่Davos
หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีนจะเข้าร่วมประชุมWorld Economic Forumที่เมืองDavosประเทศสวิตเซอร์แลนด์ระหว่างวันที่21-24 มกราคมนี้ พร้อมกับผู้นำโลกจาก40ประเทศและผู้เข้าร่วมประชุม2,500คน
แน่นอนการปรากฎตัวของหลี่ที่เวทีWorld Economic Forumจะได้รับการสนใจเป็นพิเศษจากผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน เพราะว่าทุกคนอยากจะรู้ว่าจีนจะก้าวไปในทิศทางใด และจะมีนโยบายอะไรใหม่มาเสนอให้ที่ประชุมที่ประกอบด้วยตัวแทนภาครัฐและเอกชนระดับบิ๊กสุด
ทางผู้จัดWorld Economic Forumตั้งหัวข้อประชุมปีนี้คือNew Global Context คือบริบทโลกใหม่ แปลความได้ง่ายๆว่าบริบทโลกเดิมใช้ไม่ได้แล้ว และหนึ่งในผู้นำของบริบทโลกใหม่คือจีนที่ยังคงแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจและการเงินอยู่ ในขณะที่สหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่นกำลังเจอปัญหาเงินฝืดในเศรษฐกิจที่แท้จริง และฟองสบู่การเงินในตลาดหุ้นเพราะว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ตก
ความจริงผู้จัดอาจจะอยากตั้งหัวข้อประชุมคือNew Global Order หรือNew World Orderก็ได้ แต่คงจะเขิน เพราะว่าWorld Economic Forumเป็นตัวแทนของภาครัฐบาลและภาคธุรกิจของขั้วโลกตะวันตกที่ต้องการผลักดันให้ระบบโลกก้าวเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่โดยที่ทางตะวันตกยังคงสามารถรักษาอำนาจและเงินตราได้
เพราะฉะนั้นNew Global Contextของโลกตะวันตกและของจีนจะไม่เหมือนกัน ถ้าจะวิเคราะห์ให้ถึงแก่นจริงๆ New Global Contextของตะวันตกคือถ้าหากว่ายูโรและดอลล่าร์ไปไม่รอด เงินตราที่จะมาแทนคือเงินสมมุติSpecial Drawing Rightsของทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยที่ทางตะวันตกจะยังคงคุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
ส่วนNew Global Context ของจีนหรือBRICSคือเงินหยวนที่จะมาท้าชิงเงินดอลล่าร์ โดยที่หยวนจะมีทองคำหนุนค่าเงิน ระบบการเงินโลกต้องเปลี่ยนยจากระบบดอลล่าร์กระดาษเป็นระบบมาตรฐานทองคำ การที่ประเทศยุโรปไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน เนเธอแลนด์ เบลเยี่ยม ออสเตรียฯลฯเริ่มทวงทองคำคืนจากที่ฝากเอาไว้กับสหรัฐฯและอังกฤษสะท้อนให้เห็นแล้วว่ามีการเตรียมตัวกันเพื่อเข้าระบบมาตรฐานทองคำในกรณีที่ยูโรไปต่อไม่ได้
ใครที่คิดว่ายูโรไปต่อได้ก็ให้ไปถามธนาคารกลางของสวิสเอาก็แล้วกันว่าสวาปามยูโรเข้าไปเต็มพอร์ตแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง สวิสปกป้องค่าเงินฟรังค์ไม่ให้แข็งด้วยการพิมพ์เงินฟรังค์เข้าซื้อยูโรจนตอนนี้มีเงินยูโรเต็มกระบุง พอลอยค่าเงินฟรังค์ ค่าเงินฟรังค์แข็งค่าขึ้นมาเทียบยูโร พอร์ตขาดทุนทันที$20,000ล้าน ถ้าสวิสถือทองและประเทศต่างๆใช้มาตรฐานทองคำและมีวินัยการเงินการคลัง ไม่ปล่อยให้เครดิตจากระบบแบงค์กิ้งโตเอาๆ ระบบการเงินโลกจะไม่เป็นฟองสบู่และมีหนี้มากมายมหาศาลเหมือนทุกวันนี้
นายกหลี่อาจจะอยากจะคุยกับผู้บริหารนโยบายการเงินของสวิสเป็นพิเศษว่ายูบริหารอย่างไรถึงได้ทำให้เกิดความฉิบหายได้มากมายเท่านี้ จีนจะได้เรียนรู้ไม่เอาอย่างด้วย เพราะว่าสวิสลอยค่าเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ๊งกันถ้วนหน้า
ถ้านายกหลี๋ถามผู้ว่าการธนาคารของสวิสตรงๆว่า ตอนนี้ทรัพย์สินของยูมีอะไรบ้าง จะได้คำตอบว่าไอมีทอง1,050ตัน หรือ7-8%ของทรัพย์สินทั้งหมด แล้วที่เหลือยูถืออะไร จะได้คำตอบว่ายูโรกระดาษและดอลล่าร์กระดาษ แล้วยูว่ายูโรกระดาษและดอลล่าร์กระดาษมั่นคงหรือเปล่า จะได้คำตอบว่าถือในพอร์ตมากจนอยากจะอ๊วกออกมาเป็นยูโรและดอลล่าร์เต็มแก่แล้ว ยิ่งยูโรจะทำQEอีก ไอต้องตายแน่ๆ เพราะว่าค่าเงินยูโรจะตกอีก แล้วไอก็จะขาดทุนพอร์ตหนักไปอีก และต้องพิมพ์เงินฟรังค์แข่งกันลดค่าเงินกับยูโรหรือ พวกยูโรจะพิมพ์เงินล๊อตแรก$600,000กว่าล้าน ไอกำลังเหงื่อตกอยู่ ถ้าไอมีทอง40-50%ของงบดุลไอ ป่านนี้ไอนอนตาหลับแล้ว
ที่นายกหลี่สนใจสวิสเป็นพิเศษเพราะว่าจีนและฮ่องกงก็ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเหมือนสวิสก่อนที่จะลอยตัวในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนอยากจะรู้ว่าถ้าอั๊วจะทำแบบลื้อ ลื้อจะคิดว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไร ใครจะฉิบหายระหว่างหยวนกับดอลล่าร์ สำหรับในกรณีของสวิส อั๊วเห็นแล้วว่าลื้อฉิบหายเพราะว่าลื้อเอาแต่ซื้อยูโรไม่ให้มันทำให้ค่าเงินฟรังค์แข็ง โดยที่ลื้อไม่มีทอง แต่อั๊วมีทองเป็นกระตั๊กๆ
จีน ฮ่องกงและประเทศอื่นๆที่ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่โดยที่ผูกกับดอลล่าร์เป็นนโยบายที่เลี่ยงไม่ได้ในยุคดอลล่าร์กระดาษ (dollar regime) และในยุคที่สหรัฐฯมีความรุ่งเรื่องทั้งด้านเศรษฐกิจและการเงิน แต่ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ สหรัฐฯเข้าสู่ช่วงตกต่ำของเศรษฐกิจ การเงินมีปัญหาหนัก ได้แต่พิมพ์เงินพยุงตัวเอง ซื้อเวลาเท่านั้น รอวันรีเซ็ทระบบ เพราะฉะนั้นการผูกค่าเงินของจีนและฮ่องกงกับดอลล่าร์กระดาษอย่างแน่นหนา คือการแบกปัญหาของสหรัฐฯ เพราะว่าต้องคอยซื้อดอลล่าร์ขายหยวน หรือขายฮ่องกงดอลล่าร์เพื่อรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้แบบคงที่อย่างเคร่งครัด
ถ้าพวกสวิสจริงใจกับนายกหลี่น่าจะสารภาพว่า ยูรีบๆลอยค่าหยวนเถอะ เพราะว่ายูมีทองมากพอแล้ว เศรษฐกิจของยูแกร่งกว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เหมือนกับเศรษฐกิจของไอที่แกร่งกว่าเศรษฐกิจของยูโรโซน ไอพลาดไปแล้วที่ไปผูกค่าเงินกับยูโรเน่าๆ ทำให้ไอมียูโรเน่าๆเต็มกระบุง ยูคงไม่อยากจะได้ดอลล่าร์เน่าๆในกระบุงของยูนะ
นายกหลีบอกแทงกิ้วที่สารภาพจนหมดเปลือก ความจริงไอก็รู้ว่ายูมันโง่ ทองคำที่ยูขายออกไป2,000ตันตั้งแต่ปี2000 ไอเองเป็นคนแอบรับซื้อ จะแต่งตัวสาวหยวนให้ขาวสวยอวบอั๋นทีต้องมีทองมาประดับบารมี เมื่อสาวหยวนออกไปประกวดนางงามเงินตรา จะได้ครองตำแหน่งMIss World Currencyเป็นแน่แท้
thanong
20/1/2015
http://www.marketpulse.com/…/chinas-premier-li-keqiang-att…/
The World Economic Forum

 

Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc ได้แชร์รูปภาพของ Disclose.tv



อ๊ะ! สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสแสดงมือเป็นสัญลักษณ์เขาซาตาน
Ooops! Pope Francis displays SATANIC HORN hand.

 

Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ ConStantine Elzindu


#Earthquake
// แผ่นดินไหวทำคอสะพานลำปางทรุดตัว //

สะพานข้ามคลองชลประทานทางไปวัดม่อนพระยาแช่ จ.ลำปาง ทรุดตัว คาดเป็นผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว

หลังรับการแจ้งผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจพบว่าที่บริเวณสะพานมีการนำป้ายสะพานชำรุดมาติดประกาศไว้พร้อมห้ามรถทุกชนิดแล่นผ่านโดยเด็ดขาด โดยที่คอสะพานทรุดตัวลงมารถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านได้

ด้าน นายก อบต.พิชัย กล่าวว่า สะพานดังกล่าวเป็นสะพานเก่าสร้างมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ก็มีการทรุดตัวอยู่บ้างและเชื่อว่าสาเหตุของการทรุดตัวของดินบริเวณคอสะพานนั้น คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัดลำปาง ถึงสองครั้งที่ผ่านมา

Credit: INN

 

ConStantine Elzindu


‪#‎ข่าวภัยพิบัติ‬
///"โบลิเวีย" ดินถล่มต่อเนื่อง-อากาศแปรปรวนหนัก!! สั่งเฝ้าระวังน้ำท่วมซ้ำ !! ///
เกิดดินถล่มต่อเนื่องในโบลิเวีย หลังปชช. 44 จังหวัดทั่วประเทศต้องเผชิญสภาพอากาศอันเลวร้าย ประกาศเตือนภัยสีส้มแล้ว 3 จังหวัด พร้อมจับตาหวั่นน้ำท่วมซ้ำ
วันนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวโบลิเวียหลายชีวิต ต้องอพยพออกจากบ้าน หลังเกิดเหตุดินถล่ม เนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้ายเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ดินและหินขนาดใหญ่สไลด์ลงมาจากภูเขา กีดขวางถนนที่เชื่อมระหว่างภูมิภาค ลาส ยูนกาส กับ กรุงลาปาส เมืองหลวงของโบลิเวีย ทำให้การคมนาคมในเส้นทางดังกล่าวถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปกรุงลาปาส ต้องอาศัยการเดินเท้าออกมาจากพื้นที่ด้วยความทุลักทุเล และเสี่ยงภัย เนื่องจากระหว่างทางยังมีก้อนหินขนาดใหญ่สไลด์ลงมาอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ สภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนักในประเทศโบลิเวีย ส่งผลกระทบต่อ 44 จังหวัดทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้ มี 3 จังหวัด ที่ทางการประกาศเตือนภัยในระดับสีส้ม ที่รองจากระดับสูงสุด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินได้ถูกส่งไปประจำในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมการป้องกันภัยน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นตามมาในระยะนี้ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำสายสำคัญกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา springnews.co.th

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 20 ม.ค.58 สยอง..หมีขาวส่งกองทัพ ทยอยลงนามนัดวันดีเดย์กับชาติมุสลิมแล้ว
ประธานาธิบดีปูติน สังกองทัพ ทยอยไปลงนามบางอย่าง (บอกไม่ได้) กับกองทัพชาติมุสลิมพันธมิตรขาใหญ่แล้ว คนอย่างปูติน KGB เก่า ไม่พูด ไม่แถลง ไม่โวยวาย ถึงเวลากดปุ่มลูกเดียว ตอนนี้เมืองโดเน็ทซ์ค ยูเครน ถูกกลุ่มนักรบนิยมรัสเซีย ประเคนอาวุธหนักจรวด ปืนใหญ่ ฯลฯ ใส่ทหารยูเครนซะเละไปหมด
นี่ขนาดยังไม่ส่งทหารรัสเซียตัวเป็นๆ เข้าไปเล่นในสนามนะ แค่หนุนอาวุธให้เด็กๆ เก็บบอลข้างสนาม ยังนับแต้มประตูแทบไม่ทัน ถ้าตัวจริงลงสนาม ทหารยูเครน คงกลายเป็นแกงโฮ๊ะแน่
ใครที่ไม่ได้ศึกษาสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อ 100 ปีที่แล้ว กับครั้งที่ 2 เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ก่อนการขยายพื้นที่รบ ชาติที่เป็นพันธมิตรกัน จะต้องเดินสายลงนามข้อตกลงทางทหารกันก่อน เพื่อเป็นหลักประกันว่า เมื่อลูกพี่ใหญ่ลงมือ แค่โทรกริ๊ก "ไอ้เสือเอาวา" บรรดาขาโจ๋ที่ลงนามกันไว้ ก็จะวิ่งใส่ตะลุมบอนด้วย จะได้ไม่ผิดคิวกัน
การทยอยการลงนามทางทหารกับบรรดาชาติมุสลิม ที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ซ่อนอยู่ในครัวหลังบ้านแบบนี้ มันสร้างความหนาวเหน็บ ถึงขั้วใส้ติ่ง กับบรรดาขาใหญ่ยุโรป ฝ่าย NATO ยิ่งนัก เพราะเมื่อไรมุสลิมลงมือทำสงครามของจริง นั่นหมายถือต้องเละเท่านั้น ไม่รู้แพ้รู้ชนะไม่เลิก
ส่วนทหารไทยเรา ก็ตั้งมั่นเตรียมพร้อมในที่ตั้ง จับตาสถานการณ์โลกระอุอยู่ตลอดเวลา และก็คืนความสุขประชาชน เด็กๆ , ส่งเสริมการท่องเที่ยว , สนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง , สำรวจพลังงานเตรียมไว้หากต่างชาติเขารบยืดเยื้อ ฯลฯ
ถ้าฝ่ายใดรบกันเหนื่อยและ หิวก็แวะมาไทยนะ..ติ๊ง ต่อง...เรามีบริการปรุงสุก และแพ็คอาหาร สำหรับเอากลับบ้าน ไปกินกลางทะเลทราย ในรถถัง รถหุ้มเกราะ และฐานยิงขีปนาวุธข้ามทวีป
คิดภาพดูซิ ทหารต่างชาติตั้งวง กินแกงไตปลา ไก่ย่าง ส้มตำ และเอาข้าวเหนียวจิ้มปลาร้าไป..พอิ่ม ก็ไปขนจรวด 40 ลำกล้อง และยิงขีปนาวุธใส่กัน ฟิ้ว ฟิ้ว..ท่ามกลางแสงไฟบนท้องฟ้ายุโรป เสียงตูมตามสนั่นปานฟ้าถล่ม รถหวอวิ่งขวักไขว่...ฟินจัง...ฮา (^_^)
@ เสธ น้ำเงิน1 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ConStantine Elzindu



#เรื่องลึกลับ #Timetravel
/// บันทึกลับ ! Andrew Carlssin หนุ่มนักย้อนเวลาผู้ถูกจับหลังเล่นหุ้น ได้ 350 ล้านเหรียญ ภายใน 2 สัปดาห์ ///
หากคุณสามารถย้อนเวลาได้ คุณจะกลับไปทำอะไร? คำถามนี้คงเป็นหนึ่งในคำถามที่ทำให้คุณได้รับคำตอบมากมาย ต่างคนก็มีจุดมุ่งหมายที่ต่างกัน แต่สำหรับนาย แอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน (Andrew Carlssin) นั้น เค้าเลือกที่จะย้อนกลับไปส้รางเนื้อสร้างตัว ด้วยเงินลงทุนเพียง 800 เหรียญสหรัฐฯ ในตลาดหุ้น จนกลายมาเป็น 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ แน่นอนว่าเรื่องนี้ กลายเป็นคำถามของใครหลายๆ คนว่า เค้าย้อนเวลาได้จริงหรือไม่ หรือนี่จะเป็นเพียงแค่ข่าวลวง เราลองมาดูข้อมูลของ ชายที่มาจากอนาคต คนนี้กัน และลองใช้วิจารณญานในการตัดสินใจว่า คุณเลือกที่จะเชื่อ Andrew Carlssin ในทุกสิ่งที่เค้าบอกหรือไม่?
Andrew Carlssin ชายที่ย้อนเวลา มาจากปี ค.ศ. 2256
ย้อนไปเมื่อเดือน มกราคม ปี 2003 ทาง FBI ได้เข้าควบคุมตัวนาย แอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน (Andrew Carlssin) คาบ้านพัก โดยการร้องขอจากทาง สำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (Security and Exchange Commission) หรือ SEC เนื่องจาก ทาง SEC เองตรวจพบว่า บัญชีการซื้อขายของ แอนดรูว์ มีความผิดปกติอย่างมาก จึงต้องการให้ทาง FBI ควบคุมตัวมาเพื่อทำการสอบสวนต่อไป
เริ่มด้วยทุน 800 เหรียญฯ จนกลายเป็น 350 ล้าน เหรียญฯ เพียงไม่กี่สัปดาห์
จุดเริ่มต้นที่ทาง SEC ต้องการตรวจสอบนาย แอนดรูว์ ก็คือ ตัวนาย แอนดรูว์ เองได้เริ่มลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเงินทุน 800 เหรียญสหรัฐฯ และหลังจากนั้นเงินทุนของเค้าได้กลายเป็นกำไรกว่า 350 ล้านเหรียญฯ ด้วยเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
และยิ่งไปกว่านั้น หุ้นแต่ละตัวที่เค้าเลือกซื้อนั้น จัดอยู่ในประเภท "หุ้นความเสี่ยงสูง" ซึ่งเค้าได้เลือกช้อนซื้อ หุ้นความเสียงสูงถึง 126 ตัวอยู่ในพอร์ทของเค้า และหุ้นความเสียงสูงทุกตัวที่เค้าเลือกซื้อ กลับทำกำไรครบทุกตัวที่เค้าซื้ออย่างน่าประหลาด ซึ่งในความเป็นจริง "หุ้นความเสี่ยงสูง" นั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสามารถเลือกตัวที่น่าจะทำกำไรได้อย่างแน่นอน ถึง 126 ตัว และสามารถทำกำไรได้ครบทุกตัวที่คุณซื้อ เว้นเสียแต่ว่า คุณจะรู้ล่วงหน้า?
-คำให้การจาก Andrew Carlssin
ก่อนที่นายแอนดรูว์จะถูกควบคุมตัว ทาง SEC เองก็ได้มีการตั้งข้อสงสัยว่า นาย แอนดรูว์ ได้นำข้อมูลลับของบริษัทมหาชน ต่างๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไปแสวงหาผลประโยชน์ ให้กับตนเอง จน FBI ได้เข้ารวบตัว แล้วทำการสอบสวน แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจในสิ่งที่เค้าทำก็คือ นายแอนดรูว์อ้างว่า เค้ารู้ว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ ก็เพราะว่า เขามาจากโลกอนาคตในปี 2256 นั่นเอง แต่อย่างไรก็ดี นายแอนดรูว์ได้รับสารภาพว่า ตัวเค้าเองนั้นตั้งใจว่า จะทะยอยซื้อเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต แต่แน่นอนว่า ความโลภนั้นบังตาทำให้เขาหักห้ามใจไม่อยู่ และ เทเงินจนซื้อจนผิดสังเกต จนไปสะดุดตาเจ้าหน้าที่ SEC เข้านั่นเอง
-และ SEC ไม่เชื่อคำให้การของนายแอนดรูว์
หลังจากที่นายแอนดรูว์ได้อ้างว่า เขานั้นมาจากโลกอนาคต ในปี 2256 ทาง FBI ก็ได้มีการสอบถามถึงข้อมูลว่า คุณมาได้ยังไง และใช้เทคโนโลยีใดในการย้อนเวลามาจากโลกอนาคต แต่ นาย แอนดรูว์ไม่ตอบ โดยอ้างเพียงว่า ไม่อยากให้เทคโนโลยีระดับสูงนี้ ตกไปอยู่ในมือผู้ที่อาจไม่ประสงค์ดี และอาจใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด แน่นอนว่าเมื่อไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ทาง FBI ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีนาย Andrew Carlssin ในข้อหา นำข้อมูลลับจากบริษัทมหาชน ไปแสวงหาผลประโยชน์ในตลาดหลักทรัพย์ นั่นเอง
-หายตัวอย่างลึกลับขณะถูกควบคุมตัว
ขณะที่นาย Andrew Carlssin กำลังถูกควบคุมตัวเพื่อไปยังศาล นาย แอนดรูว์ กลับหายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งหลังจากข่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายฝ่าย พยายามสืบข้อมูลเกี่ยวกับนาย แอนดรูว์ โดยจากการสอบถาม FBI กลับพบว่า เจ้าหน้าที่ FBI ทุกคนได้ปฏิเสธตรงกันหมดว่า ไม่เคยได้ยินชื่อชายคนดังกล่าวมาก่อนเลย รวมถึงจากการตรวจสอบกับทาง SEC ก็พบว่า ไม่มีชื่อของนาย Andrew Carlssin อยู่ในบัญชีตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกัน
-Andrew Carlssin ปรากฏตัวอีกครั้ง ในปี 2006
หลังจากนั้นหลายปี ทางหนังสือพิมพ์ Weekly World News ได้มีการตีพิมพ์บทสัมภาษณ์นาย แอนดรูว์อีกครั้ง ในปี 2006 ซึ่งนายแอนดรูว์เองไม่ยอมเปิดเผยว่า เค้าสามารถหนีจากการควบคุมตัวของทาง FBI ได้อย่างไร โดยให้สัมภาษณ์แค่เพียงว่า เค้ากำลังทำงานอยู่ในบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแห่งหนึ่งในประเทศ แคนาดา
และสิ่งที่หน้าแปลกอีกเรื่องก็คือ เขาทำงานอยู่ในบริษัทที่ผลิตน้ำมันจาก Oil Sands หรือทรายน้ำมัน ซึ่งจะสามารถสกัดน้ำมันออกจากทรายให้เป็นน้ำมันดิบ และเข้าสู่กระบวนการกลั่นต่อไป ซี่ง Oil Sands นั้นกลายเป็นที่ยอมรับแล้วในปี 2008 ว่าจะกลายเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในอนาคต ซึ่งนั่นหมายความว่านาย แอนดรูว์ ได้งานที่ค่อนข้างมั่นคงอย่างมากเลยทีเดียว
Cr: Teahmoblog

 

นายกฯยูเครน รับ ทหารรัสเซียพร้อมยุทโธปกรณ์ รุกเข้าประเทศแล้ว
วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 17:47:28 น.



นายอาร์เซนี ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรียูเครน วัย 40 ปี ยืนยันว่ากองกำลังทหารรัสเซียและยุทโธปกรณ์จำนวนมากถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาในประเทศยูเครนแล้ว

โดยนายกรัฐมนตรีคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้พูดคุยกับเลขานุการคณะมนตรีความมั่นคงและการป้องกันประเทศแล้ว หน่วยงานข่าวกรองทางทหารยืนยันข้อเท็จจริงว่า มีทหารและยุทโธปากรณ์จำนวนมากถูกเคลื่อนย้ายจากรัสเซียมายังยูเครนจริง พร้อมยังกล่าวต่อว่า “รถถัง, จรวด, และอาวุธหลายชนิดนั้น ไม่สามารถซื้อขายได้ตามท้องตลาดของยูเครน มีเพียงแต่กองทัพรัสเซียและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเท่านั้นที่มี”

ขณะที่โฆษกหญิงของนายกรัฐมนตรียูเครนนั้น ได้ยืนยันกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ว่าสิ่งที่นายยัตเซนยุค กล่าวนั้นเป็นความจริง ทั้งนี้ รัฐบาลยูเครนต้องต่อสู้กับกองกำลังกบฏนิยมรัสเซียในพื้นที่ตะวันออกของประเทศมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ซึ่งนานาประเทศเชื่อว่ารัสเซียเป็นผู้สนับสนุนกองกำลังกบฏดังกล่าว

นายกฯยูเครน รับ ทหารรัสเซียพร้อมยุทโธปกรณ์ รุกเข้าประเทศแล้ว : มติชนออนไลน์

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 20 ม.ค.58 บริษัทพลังงานอเมริกา ไล่พนักงานออกเป็นว่าเล่น เพราะ เจ๊งกันถ้วนหน้า
บริษัทชลัมเบอร์เจร์ ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ของอเมริกา ประกาศแผนปลดพนักงานมากถึง 9,000 ตำแหน่ง และตอนนี้ บรรดาผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐ ที่ผลิตน้ำมันจากหินดินดาน ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่กว่าคู่แข่งในประเทศอื่นๆ เพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า ในปีนี้ มีบริษัทผลิตน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติรายใหญ่สุดของสหรัฐ จำนวนหนึ่ง ได้ลดงบการใช้จ่ายลงมาไม่ต่ำกว่า 20%
ส่วน บริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดค่าใช้จ่ายลงมา 20% ในปีนี้ เช่นกัน ตอนนี้บริษัท ชลัมเบอร์เกอร์, ฮัลลิเบอร์ตัน โค และเบเกอร์ ฮิวจ์ อิงค์ ที่เป็นบริษัทที่ช่วยผู้ผลิตพลังงานดำเนินการขุดเจาะ และแฟรคกิ้งบ่อน้ำมัน ต่างหั่นลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้จ่ายในด้านการขุดเจาะ การไล่พนักออกจึงเป็นวิธีง่ายดาย ในการลดค่าใช้จ่าย
บริษัทชลัมเบอร์เจร์ มีรายได้รายไตรมาสร่วงลงมาแล้วถึง 82% แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า 33,000 ล้านบาท รวม ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลดขนาดของกิจการลง ถึงขณะนี้ มีผู้ใช้แรงงานในภาคพลังงาน ที่ต้องถูกเลิกจ้างไปแล้วหลายพันคน โดยบริษัทน้ำมันรายใหญ่ๆ เช่น บีพี และ รอยัล ดัทช์ เชลล์ ถึงกับสั่งลดเงินเดือนพนักงานลงมา
ในแคนาดา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตทรายน้ำมันนั้น ผู้ผลิตรายใหญ่ ซันคอร์ เอนเนอร์ยี ได้ประกาศปลดพนักงานไปแล้ว 1,000 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนอาปาเชา ผู้ผลิตในสหรัฐ จะปลดพนักงานราว 5% บริษัท เปโตรเลออส เม็กซิกานอส หรือ เปอเม็กซ์ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเม็กซิโก ต้องลดค่าใช้จ่ายให้ได้ถึง 99,000 ล้านบาท ในปีนี้
โดยการลดค่าใช้จ่ายในฝ่ายบริหาร และ การเลิกจ้างพนักงานที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ซึ่งจนถึงขณะนี้ เปอเม็กซ์ ปลดพนักงานไปแล้ว 1,500 คน และคาดว่าจะมีการปลดพนักงานเพิ่มอีกเรื่อยตลอดเวลา
เดือนที่แล้ว ฮัลลิเบอร์ตัน ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก จากสหรัฐ ที่เจ้าของเป็นรองประธานาธิบดีมะกัน เพิ่งปาหี่ยิงบ้าน ก็ประกาศปลดพนักงาน 1,000 คน นอกสหรัฐ และ มีแผนที่จะลดขนาดกิจการในประเทศใกล้เคียงอเมริกามากขึ้น และจะไล่ออกพนักงานอีกมาก
--------------------------->
ที่เพจนี้บอกมาเป็นเดือนแล้ว ว่าบริษัทน้ำมันในอเมริกา จะเจ๊งวินาศ ปลด และไล่ออกพนักงาน แต่ช่วงนั้นมีผู้มาคอมเม็นท์ว่าไม่จริง และยังปกติอยู่ หลักฐานเจ๊งกันถ้วนหน้าขนาดนี้ ทำให้คนมาเม้นท์หน้าแตกเปรี๊ยะไปอีกแล้ว เตือนแล้วไม่เชื่อย่อมเกิดความประมาท และปรับตัวไม่ทัน
ระยะถัดไป ก็ถึงบรรดาคิวธนาคาร และสถาบันการเงินขนาดเล็ก และกลางในอเมริกา ที่มีจำนวนมากทั้ง 50 รัฐ จะขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในอเมริกา คือ 0 % เมื่อตกงานกันมากมายหลายหมื่นคนขนาดนี้ ย่อมไม่มีเงินมาฝากธนาคาร เพราะไม่มีผลตอบแทน แต่พวกเขาจะหันมาระดมถอนเงินแทนเพราะต้องเอาไปใช้ดำรงชีพ
การผิดนัดชำระหนี้ จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล คดีฟ้องร้องจะเต็มศาล ธนาคารไม่มีเงินมาปล่อยกู้ รายได้จะหด สถานะจะมีแต่ทรงกับทรุด จนล้มละลายในที่สุด และจะเป็นโดมิโนไปยังตลาดหุ้น และบรรดาเจ้าหนี้ที่ธนาคารไปกู้มาอีกที จะดึงกันล้มพังลงทั้งแผง
พนักงานที่ถูกไล่ออก จากหลายธุรกิจ จะมากทับถมทวีคูณ การหางานใหม่จึงเป็นเรื่องยาก และเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำในระยะข้างหน้านี้ ครอบครัวจะเดือดร้อน กันไปหมด ข้าวยาก หมากแพง เงินฝืด รายได้ต่อหัวต่ำเตี้ย แต่ธุรกิจพวกอีลิท รวยๆ จะอยู่แบบประคองตัว จนโอบามาต้องประกาศขึ้นภาษีเงินได้เป็น 28% แน่ๆ (เดิมราว 22%)
อ้างหลอกคนอเมริกัน ว่าจะเก็บภาษาคนรวย ไปช่วยคนจน เพื่อประคองคะแนนความนิยมของพรรค แต่ความเป็นจริงจะตรงข้ามกัน พรรคการเมืองตรงข้ามที่ครองเสียงข้างมากใน ส.ว. และ ส.ส. คงคว่ำกฎหมายนี้เพื่อปกป้องพวกอิลิทไว้....มันเป็นแค่เกมส์ปาหี่ต้มตุ๋นคนมะกันที่ไม่เคยรู้อะไรเลยเท่านั้น ส่วนสื่อยิวไซออนิสต์ ก็จะปกปิดความจริงต่อไป
คนไทยในอเมริกา เตรียมวางแผนชีวิต การงาน การเงิน ไว้ได้เลยแต่ตอนนี้ เพราะเมื่อไฟลามถึงตัว จะหนีไม่ทัน และราคาน้ำมันโลกปี 2558 นี้ "ถ้าไม่เกิดสงครามใหญ่" ราคาตลาดโลก คงไม่เกิน 56 US ต่อบาร์เรล (ตอนนี้ 50 US) อีกแล้ว คนไทยจะยังได้ใช้น้ำมันถูกต่อไป เพราะรัฐบาลสามารถน้ำเงินกองทุนน้ำมัน ที่เคยเก็บไว้มาชดเชย ประคองราคาขายน้ำมันไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน
หากเกิดสงคราม ราคาน้ำมันก็จะไม่ขึ้นไปถึง 80 US ช่วงนั้นเงินกองทุนน้ำมัน 2 หมื่นล้านบาท จะมีบทบาทเป็นฮีโร่ ช่วยเหลือประชาชนให้ราคาขายในประเทศไม่เพิ่มขึ้น NGO พลังงาน ที่เคยโวยวายให้เลิกกองทุนน้ำมัน เป็นพวกที่วางแผนฆ่าคนไทยด้วยกันอย่างอำมหิตที่สุด
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup