ตาที่สาม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย bschaisiri, 5 ธันวาคม 2014.

  1. bschaisiri

    bschaisiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +106
    ดวงตาที่สาม หากเปิดแล้ว มีประโยชน์เช่นไรบ้าง

    มีโทษเช่นไรบ้าง
     
  2. จันทลักษณ์

    จันทลักษณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +412
    ตาที่สามในความคิดของดิฉัน คิดว่า ไม่จำเป็นต้องเปิด
    เพราะมีความรู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างเข้ามาทางตาที่สามของเราได้ เช่นผีเข้า หรืออะไรที่มีอำนาจมากกว่านั้น
    เข้ามาควบคุมตัวเราได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ว่าได้
    การเปิดตาที่สาม จะเปิดได้ต้องมีเหตุให้เปิด เช่นเปิดเพื่อมีหน้าที่ ที่ต้องการทำงานบางอย่างกับสิ่งเร้นลับ
    เปิดเพื่อบำเพ็ญบารมี แต่การเปิดแบบนี้ ต้องมีใครที่มีอำนาจควบคุม ปกป้องจากอำนาจอื่นที่ไม่ดีเข้ามาหาตัวเราด้วย
    สำหรับความคิดดิฉันอันตรายมาก กับเหตุการณ์ปัจจุบันนี้ เพราะมารมีอำนาจมาก
    สรุปคือ ดิฉันคิดเล่นๆ นะคะ จริงไม่จริงอีกเรื่อง อย่าโกรธกานน้า ^_^
     
  3. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    อุปาทาน ตาที่สาม ของท่าน มีความหมายเช่นไร?
     
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    สัตว์ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีสองตา ก็คือไม่มีตา ยังไม่เคยเห็นสัตว์ใดมีสามตาเลย เรื่องตาที่สามนี้คงเป็นความเชื่อทางเขมรกระมัง
     
  5. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    เห็นในสิ่งที่ตามนุษย์ธรรมดามองไม่เห็น เช่น อาจเห็นคนที่อยู่มิติซ้อนๆกับเรา เช่น ลับแล พญานาค มนุษย์ต่างดาว
    ได้เป็นมนุษย์พิเศษกว่าคนอื่นคือมีซิกเซนต์หรือสัมผัสที่หก สามารถนำซิกเซนต์ไปช่วยเหลือตัวเองหรือคนอื่นได้ หากต้องการ ดีกว่าเดาสุ่มๆเดามั่วๆ

    ไม่น่าจะมี ถ้าไม่กลัวในสิ่งที่เห็น เช่น ผี
    แต่เห็นบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2014
  6. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ดวงตาที่สี่

    +++ เอางี้ดีกว่า

    +++ 1. ตาที่ 1 คือ ตาบอด 1 ข้าง
    +++ 2. ตาที่ 2 คือ ตาไม่บอด

    +++ ข้อ 1+2 เป็นตาของ กายเนื้อ

    +++ 3. ตาที่ 3 คือ "ตาอวิชชา" ตานึกตาคิด ตาจิตตามโน ตาฟุ้งซ่าน ตากิเลส เพราะเห็นไปตามกิเลส

    +++ วันนี้อยากกินอะไร มันก็เห็นเฉพาะสิ่งที่มันอยากกิน อยากเห็น ดังนั้น ตาที่ 3 เป็น "ตาบอดทางจิต" เป็น "ตาอวิชชา" ที่เป็นแบบ "ลืมตาอยู่แท้ ๆ ก็ยังมองไม่เห็น นั่นแหละ" แต่มันจะลาก "ความโกหกซ้ำซ้อน" มาบอกว่ามันเป็น "ตาวิเศษ" (ของ กทม) เห็นแต่ "ขยะ" แล้วเอามา "โกหกสู่กันฟัง เป็นคุ้งเป็นแคว" แบบ "แสดงธรรมกันข้ามอสงไขย ก็ยังไม่จบ" เพ้อเจ้ออย่างยิ่ง

    +++ 4. ตาที่ 4 คือ "ตาสติ ตาปัญญา" ตานี้เท่านั้นที่ "เห็นและเรียนรู้ สภาวะธรรม ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามความเป็นจริงได้" และตานี้เท่านั้นที่เป็น "ตาอภิญญา" (ตาแห่งสัจจธรรม ตาแห่งพุทธะ) และ ไม่มีตาอื่นยิ่งกว่า บางที่ก็เรียก ตานี้ว่า "อายตนะนิพพาน" ก็มี ดังนั้นก็เรียกกัน "ตามภาษาที่ตนถนัด และ พูดกันรู้เรื่อง ฝึกกันรู้เรื่อง" ก็จะ "ได้" ประโยชน์ตามความเป็นจริง

    +++ ตาที่ 1-3 นั้น "เป็นตาเดียวกัน" น้อยคนที่จะรู้ตรงนี้ เพราะมักจะโดน "ตาที่ 3" เข้ามา "บดบัง และ บิดเบือน" ความเป็นจริงอยู่เสมอ น่าจะเรียกได้อีกคำหนึ่งว่า "ตากิเลส" ก็ได้

    +++ ดังนั้นคงได้คำเฉลยแล้วนะว่า "ตาที่ 3" นั้นมัน "เปิด" อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เปิดมาตั้งแต่ก่อนที่ผู้ถาม จะมาเกิดเสียอีก หาก "มันไม่เปิด จะมาเกิดไม่ได้" นั่นแหละ

    +++ ส่วน "ตาอื่น ๆ" เช่น ตาเหล่ ตาปลา ตาส่อน ตาข่าย หรือ ตาผัวยาย ก็จะยกเอาไว้ เพราะไม่จำเป็น นะครับ ;););)
     
  7. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ตาที่สาม หมายถึง ตาปัญญา มีประโยชน์มาก

    เห็นไตรลักษณ์ เห็นนามรูป คลายความเห็นผิดหลายอย่าง

    แตกต่างกับ ตาที่สามนอกศาสนานี้ ที่มุ่งเห็นสิ่งวิเศษ

    เหล่านั้นไม่เป็นตาปัญา ไม่เป็นไปเพื่อคลายความเห็นผิด
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    . ถ้าเราบอกว่า
    พุทธมี ศีล สมาธิ ปัญญา ถามว่าตาที่ ๓ มันอยู่ในส่วนหนึ่งในนี้ไหมคับ
    และถ้าเจ้าของกระทู้หมายความว่า เป็นการเห็นคล้ายมีตาทิพย์
    คือเห็นในสิ่งที่เป็นฝ่ายนามธรรมต่างๆได้นั้น.
    ลองคิดเล่นๆว่ามันเห็นได้ด้วยจิต...รู้ได้ด้วยจิต..
    หรือมันมีคล้ายๆลูกนัยต์ตา เป็นดวงๆมาอยู่ตามที่เราเห็น
    ได้จากภาพทั่วไปจากการมองปกติครับ
    และอาจคาดไม่ถึง หรือลืมนึกไปว่า.
    เอตทัคคะด้านทิพยจักขุสมัยพุทธกาล เป็นท่านเดียว
    ณ เวลานั้นที่เห็นสภาวะของ ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพได้ครับ
    แล้วมายังไงต่อไม่ทราบครับ ถึงได้มาแยกเป็นระดับ
    ฌานนั่นฌานนี้ได้ในเวลาต่อมา...
    ที่นี้การที่เราจะมองเห็นประโยชน์ตรงนี้อย่างไร
    ขึ้นอยู่กับพื้นฐานจิตใจเราเป็นทุนคับ เอตทัคคะท่านก็เห็นแบบท่าน
    ยังประโยชน์แบบท่าน. ผู้เป็นเลิศทั้งหลายก็เห็นแบบท่าน
    เราจึงเคยได้ยิน ได้อ่านในหลายๆส่วน ก็เกี่ยวกับ
    การเห็นส่วนนามธรรมเหล่านั้น. ห่มเหลืองมีชื่อทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว
    ก็เห็นแบบท่านก็ยังประโยชน์แบบท่านมาจวบจนทุกวันนี้
    อย่าลืมว่า เรื่องอารมย์ เรื่องกิเลส หรืออีกหลายๆเรื่องก็นามธรรม
    เราๆก็เห็นได้ตามแต่ที่ใจเรามองได้เห็นเช่นกันครับ.
    เพราะฉนั้นไม่ว่าจะเห็นหรือไม่เห็น.ณ เวลานี้ก็ตาม
    .ก็ให้ยังประโยชน์การเห็นแบบท่านที่เคยเห็น
    มาก่อน..ยังประโยชน์ที่ส่งผลต่อตนเอง และต่อผู้อื่นมาก่อน..
    แบบท่านที่ล่วงลับไปแล้วนั้น
    ท่านทิ้งประโยชน์ทั้งหลายเหล่านั้นให้เราได้รู้ ได้อ่าน ได้เห็น
    แต่นั่นขึ้นอยู่กับใจเรา. ว่าตั้งเป้าเพื่อให้เข้าถึงประโยชน์อย่าง
    ท่านทั้งหลายในอดีตที่ผ่านมาหรือเปล่าคับ.
    ปล.ตาเห็นได้เท่าที่ใจเห็นครับ
     
  9. jay12345

    jay12345 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +43
    ตามกายวิภาค จุดของตาที่สามน่าจะเป็นสมองส่วนหน้าเหนือหว่างคิ้ว คนที่สัมผัสเห็นคลื่นพลังงานที่คนทั่วไปไม่เห็น ก็คือมีจุดพิเศษในสมองส่วนนี้ ทำให้มีเครื่องรับคลื่นพลังงานที่มากกว่าคนทั่วไป

    ตามทางธรรม คือคนที่มีบุญเก่า เคยทำบุญมาเยอะ หรือบางคนอาจจะมีกรรมทำให้ต้องกลัวมากกว่าคนอื่นก็ได้

    เห็นก็ดี ไม่เห็นก็ดีครับ เห็นก็ได้ยืนยันว่าชาตินี้ชาติหน้า ภพภูมิโลกขนานมีจริง แต่ถ้าไม่เห็น แต่ใช้ตรรกกะคิดถึงกฏแห่งกรรม ทำดี ละเว้นชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธ์ได้ นั่นก็นับว่าดีแล้ว

    ร่างกายหรือขันธ์ เป็นส่วนประกอบที่มีผลจากกรรมดีกรรมชั่วที่เคยทำมา ฟังค์ชั่นต่างๆของแต่ละคนเลยไม่เท่ากัน บางคนเห็นบางคนไม่เห็น เป็นธรรมชาติครับ
     
  10. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ความหมายของตาที่ สาม คืออะไร น่าตาเป็นยังไง มันอยู่ตรงกลาง ระหว่างคิ้วรึปล่าว

    เเล้ว อุปทาน เป็นยังไง สมมุติ เป็นยังไง มันอยู่ตรงกลางระหว่าง ใหนน๊าาา
     

แชร์หน้านี้

Loading...