แก้วมณีโชติ สิ่งวิเศษสูงสุดในโลกิยภูมิ

ชาวพุทธ กับ เส้นทางที่ต้องเดิน

ขออนุญาตครับ

ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ หลุดพ้น

คนธรรมดา
ผู้ถือศีล
ผู้ปฏิบัติธรรม
อริยะบุคคล
อรหันต์บุคคล

แล้วยังมีคนกลุ่มพิเศษ อีกพวกหนึ่ง คือ

ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ

ที่พิเศษสุดๆ ที่หาคนรู้เรื่องของท่านยากมากๆ ขึ้นไปอีกคือ

ปัญเจกะ

แต่ในกลุ่มคนเหล่านี้ ดูง่ายๆแค่

บุญ วาสนา บารมี สติ ปัญญา

นั้นดูง่ายก็แค่ว่า

ทำทุกสิ่ง ทำทุกอย่าง เพียงเพื่อ ผู้อื่น

แล้ว เราๆ ท่านๆ ล่ะ

ทำทุกสิ่ง ทำทุกอย่าง เพียงเพื่อ ผู้อื่น

มาก น้อย ขนาดไหน?

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

เข้าใจกันไหมครับ?

ขออนุญาตครับ

หลายครั้งหลายหน ที่ผมได้มีโอกาสฟังคุณแม่ชีแสดงธรรม
จากสถานีวิทยุต่างๆ

ธรรมที่ท่านแสดงออกมานั้น
ผมก็สงสัยว่า หมู่ชาวพุทธนักปฏิบัติที่พากันฟังอยู่นั้น

ไม่แอะใจ อะไรกันบ้างหรือว่า

1 ทำไมผู้แสดงธรรมนั้น ถึงได้ออก คำนามมากมาย
ธรร มที่รู้จากการปฏิบัตินั้น รู้ลงที่จิต รู้อยู่ที่จิต
คำนามทั้งหลาย ท่านรู้ ได้อย่างไร? ท่านรู้มาจากไหน?

อาการของการรู้ ลงที่จิต
อาการของการรู้ อยู่ที่จิต

นั้นเหมือนกับ คลายกับ

คนที่สั่งเกตุสิ่งรอบตัวโดยไม่ได้ยินเสียงพูดใดๆ
แต่กลับรู้ แต่กลับเข้าใจ สภาวะธรรมรอบตัวนั้น

ดังนั้น สภาวะธรรมที่รู้ สภาวะธรมที่เข้าใจ นั้น

ย่อมมีแต่ กริยา
ย่อมมีแต่ อาการ

ย่อม รู้ว่า อะไร เป็น อะไร

โดยไม่มีชื่อ โดยไม่มีนาม ปรากฏ

แล้วท่านผู้แสดงธรรม ที่ออกชื่อ ที่ออกนามมากมายนั้น

ท่านเอามาจากไหนกัน

2 ท่านแสดงธรรมว่า ใช้ปัญญาไม่ได้ เพราะยังไม่มีปัญญา

เอหรือว่า ท่านเข้าใจว่า ต้องสำเร็จอรหันต์ก่อน ถึงจะเรียกว่ามีปัญญา

หรือว่าปัญญา มีขั้นเดียว มีขั้นสูงสุดขั้นเดียว
ขั้นต่ำกว่านั้นไม่เรียกว่าปัญญากันหรือ?

3 แล้วที่แสดงธรรมต่อหน้าบุคคลเป็นจำนวนมาก
แล้วที่ตอบปัญหาธรรมให้กับบุคคลต่างๆ

กลับมีพระสงฆ์รวมอยู่ด้วย

ไม่รู้พระธรรมวินัย กันเลยหรือ?

แม้แต่ ภิกษุณี ก็สอนธรรมแก่พระสงฆ์ไม่ได้

หรือว่า คุณแม่ชีสอนได้

เห็นครูบาอาจารย์ฆราวาสหลายๆท่าน
แม้ท่านจะเก่งกาจปานใด

ก็ไม่เคยเห็นท่านแสดงธรรม ต่อหน้าพระสงฆ์

หรือเมื่อมีเหตุจำเป็น ท่านจะ สนทนาธรรม

หลังจากพระสงฆ์ แสดงธรรมจบแล้ว

ยิ่งเห็นพระอริยะเจ้าด้วยแล้ว อาจารย์ฆราวาสทั้งหลาย

จะเข้าไปกราบด้วยความนอบน้อม อย่างยิ่ง

ใครเก่ง ใครแน่ ใครมีปัญญา

ก็ พิจารณากันเอาเอง

ส่วนใครจะชอบรับฟัง ธรรม คำนาม ต่อ ก็ ตามใจ

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

กึ่งพุทธกาล

ขออนุญาตครับ

เลยกึ่งพุทธกาลมาเข้าปีที่ 57 ไหนล่ะ

สิ่งที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจชาวพุทธ
ไหนล่ะปาฏิหาร ที่จะทำให้ชาวพุทธรู้ บาป บุญ คุณ โทษ

มองรอบตัว มีแต่สิ่ง ส่งเสริม สิ่งเพิ่ม กิเลสตัณหา
มนุษย์ล้วนเห็นแก่ตัว ไม่เคยเอื้อเพื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น

มองกันแต่ว่า ตัวเองยังไม่พอ แล้วจะเผื่อแผ่ ผู้อื่นได้อย่างไร?

เมื่อมีคนกลุ่มเล็กๆ สู้เพื่อ แก้ไขซึ่งศรัทธาชาวพุทธ
กลับหนักแรงอย่างยิ่ง
กลับเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง

มิหนำซ้ำยังมีคนเล็กๆ ออกมาทำหน้าที่ๆยิ่งใหญ่

กลับตกอยู่ในสภาพเดียวกัน

เมื่อคนเล็กๆ เมื่อกลุ่มเล็กๆ หมดสิ้นเรี่ยวแรง
แม้มีจิตใจที่แข็งแกร่งสักปานใด

จะสู้กับกระแสอันเชี่ยวกราก

ของกิเลส ตัณหา อุปปาทาน
การหลงระเริง ของมหาชนส่วนใหญ่ได้ฤๅ

ที่หน้าโศกสลดหนักขึ้นไปอีก

ก็พวกที่หลง กราบไหว้ บูชาครูบาอาจารย์
แล้วพบว่า ครูบาอาจารย์ที่ตนหลง เคารพบูชา

กลับกลายเป็นดาราเอกเสพกามใน โซเชียลมีเดี่ย

ถ้าสิ่งศักดิ์ ถ้าเทพผู้มีฤทธิ์ มัวแต่รอให้ผู้คน ออดอ้อนเว้าวอน

คงถึงวัน แก้ไขไม่ได้เข้าสักวัน

ขอโมทนาบุญเอาไว้ก่อน ก่อนที่จะไม่มีบุญให้โมทนา

หรือว่าถึงยุค คนทำดี ทำให้ตาย ก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว

ลุงมหา

 

มนุษย์ กับ องค์์เทพ

ขออนุญาตครับ
ั
ศรัทธา ทาน่ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ หลุดพ้น

ศรัทธา ทาน การสร้างพระปฏิมา รูปเคารพสูงสุดของพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เพืีอเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธ
เพืีอนำชาวพุทธกลับเข้าสู่ความเป็นชาวพุทธที่แท้จริง

พุทธบริษัทสี่

ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา


ทั้งสายปฏิบัติ
ทั้งสายศึกษาพระไตรปิฎก

บ้างก็มุ่งสู่ ความเป็นอริยะ
บ้างก็มุ่งสู่ ความหลุดพ้น
บ้างก็มุ่งสู่ การจดจำประไตรปิฎก
บ้างก็ไม่รู้ว่า อะไร เป็น อะไร ไม่รู้กระทั่งว่า มนุษย์เกิดมาทำไม?

บทสรุปของพระศาสนา ที่รับรู้กันมานั้น บ้างก็รับรู้มาว่า

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

ละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตใจให้ขาวรอบ

เมี่อชาวพุทธไม่เข้าใจ ลุงมหาจึงขอให้พากันพิจารณาว่า

รู้ดี รูัชั่ว
รู้ถูก รู้ผิด
รู้บาป รู้บุญ
รู้คุณ รู้โทษ

แบ่ง ทาน ให้ปัน
เอื้อเพ้อ เผื่อแผ่
ช่วยเหลือเจือจุน

บุญ วาสนา บารมี สติปัญญา ศรัทธา ความเพียร

สรุปออกมาได้้ เป็น นิสัย
สรุปออกมาได้ เป็น สันดาน

สรุปภาพรวมออกมาได้เป็น

ขีดจำกัดของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม

เมื่อองค์เทพท่านบอกออกมาว่า

เจ้าคนนั้นช่างมีปัญญานัก

ก็เลยทำให้คนมีปัญญาอย่างผม
พูดคุยกับใครก็ลำบาก

เพราะพอเขาเริ่มพูดออกมา สติปัญญาของผมก็กระจายครอบคุมทุกประเด็นเอาไว้หมดแล้ว

ครั้นพอผมจะพูด ครั้นพอผมจะอธิบายไป
ก็ไปติด ขีดจำกัดของคนแต่ละคน เสียอีก
ผมจึงไม่สามาถบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา ความเป็นไป
ให้ใครฟังได้ทั้งหมด

เพราะแค่ที่บอกเล่าออกมา เพียงน้อยนิด ก็ยังหาคนเข้าใจได้ยาก

คนบางคน บางกลุ่ม บางพวก
ถึงขนาดเข้าใจว่า ผมหลง ผมเพี้ยน ผมบ้า ก็ยังมี

ชาวพุทธทั่วไปรับรู้เรื่องเทพ ว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้

ไหนจะสู้ ลูกหลานของท่าน ที่มีญานติดต่อท่านตลอดเวลาได้

องค์เทพท่าน เข้มงวดกวดขัน ท่านเคยบอกว่า

พวกเจ้าต้องขอบคุณคนๆนี้
เพราะถ้าไม่มีเขา พวกเจ้าไม่สามารถมาถึงนี่ได้

แม้คนบางคนไปถึงได้ โดนทดสอบเข้าหน่อย
ก็หมดความอดทน หมดความพยายามกันแล้ว

เมื่อไม่ผ่านบททดสอบ เมื่อทำตามบทกำหนดกฏเกณฑ์ของท่านไม่ได้

ท่านยังจะหวังการสงเคราะห์อันใด

คนบุญน้อย วาสนาน้อย องค์ท่านจะมาเสียเวลาช่วยอยู่ทำไม

มีบ้างไหมที่พอองค์เทพท่านช่วยแล้ว
สามารถช่วยผู้อื่นต่อได้ เป็น ร้อย เป็น พัน เป็น หมื่น ป็น แสน เป็น ล้าน เป็น หลายๆล้าน คน

ถ้าทำอย่างนี้ได้ โทรหาคุณแม่องค์ญาณ ได้เลย

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ค่อยๆปรากฏตัวออกมา

ขออนุญาตครับ

แล้วผมก็ได้พบคนผู้หนึ่ง ที่ท่านบอกออกมาว่า

เจ้านายของท่านมีโครงการสร้าง

พุทธสถาน
เทวะสถาน

ที่ยิ่งใหญ่ บนพื้นที่ 3000 ไร่ อยู่ในช่วง

ขอนแก่น
อุดรธานี
หนองคาย

ท่านยังบอกอีกว่า เม็ดเงินหลายหมื่นล้านพร้อมแล้วอีกต่างหาก

ขอโมทนาบุญกับผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้น

ขอโมทนา

ลุงมหา

 

มีอะไร จะให้ช่วย ทาง อันดามัน ผ่านพ้น เดือน ธันวา นี้ ครับ

นาคา นาคี นาคินทร์

 

ธรรมชาติกะลังทำหน้าที่ของมัน ทั้งลมและฝนรุนแรงไปหน่อย ก็ตามเหตุปัจจัย
ใครจะไปห้ามได้ มีหรือ ใครที่จะห้าม หรือบรรเทาสิ่งเหล่านั้นได้
ไม่มีใครเชื่อหรอก ใครจะไปยอมทำ ช่วยคนอื่นแล้วแบกกรรมไว้เองเช่นนั้นอีก

หาไปเหอะ ทั้งโลกนี้ ปัจจุบันอาจจะมีซักคนล่ะมั้ง นะ ที่สื่อสารกับลมและฝนรู้เรื่อง หึหึหึ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

ไปเชื่อใครมาล่ะครับ

ขออนุญาตครับ

ไปเชื่อใครมาหรือครับ
เรื่องภัยพิบัติอันดามันช่วงเดือนธันวาคม

ดูบุญบารมีของผู้บอกเล่าด้วยนะครับ

ภัยพิบัติมี 4 อย่าง

1 ภัยพิบัติจาก ภัยธรรมชาติ
2 ภัยพิบัติจาก โรคภัยไข้เจ็บ
3 ภัยพิบัติจ่าก ความอดหยากเศรฐกิจไม่ดี
4 ภัยพิบัติจาก สงคราม

ภัยพิบัติทั้งหลายเป็นเครื่องมืออันหนึ่งของกฏแห่งกรรมม

แม้ว่าประเทศเราจะดูเลวร้ายไปบ้าง
แต่ภาพรวมยังสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยอยู่มาก

ยิ่งช่วงปฏิรูป ช่วยลดให้การสร้างเวรสร้างกรรมน้อยลง

แม้ว่าตำรวจจะสร้างวีระกรรมปานใด
ตราบใดที่ยังไม่พิจารณา เรื่องการจราจรให้เหมาะสมมากกว่านี้

ต่อให้ตำรวจจับพ่อตา แม่ยาย ลูก เมีย ตนเอง ที่ทำความผิดได้หมดประเทศ

ก็ไม่อาจสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นมาได้

ใครพูดเรื่องภัยพิบัติ ก็ต้องไปถามคนนั้นครับ

ถ้าเขารู้ว่าจะเกิด แล้วไม่รู้วิธีแก้
ก็พากันพิจารณาเอาเอง

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ความเชื่อ ความเข้าใจ อันใหนถูก อันใหนผิด

ติกะลังทำหน้าที่ของมัน ทั้งลมและฝนรุนแรงไปหน่อย ก็ตามเหตุปัจจัย
ใครจะไปห้ามได้ มีหรือ ใครที่จะห้าม หรือบรรเทาสิ่งเหล่านั้นได้
ไม่มีใครเชื่อหรอก ใครจะไปยอมทำ ช่วยคนอื่นแล้วแบกกรรมไว้เองเช่นนั้นอีก

หาไปเหอะ ทั้งโลกนี้ ปัจจุบันอาจจะมีซักคนล่ะมั้ง นะ ที่สื่อสารกับลมและฝนรู้เรื่อง หึหึหึ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

จ
.[/QUOTE]

ขออนุญาตครับ

บางคนเชื่อว่าเหตุการณ์ธรรมชาติต่างๆเป็นเรื่องของธรรมชาติเอง

บางคนก็เชื่อว่าเกี่ยวโยงกับกฏแห่งกรรม

โลกยุคแรกๆก็เชื่อพ่อมดหมอผี
ยุคต่อมาก็เชื่อนักบวช เชื่อพราหม เชื่อฤๅษี

เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ก็มีคนกลุ่มใหญ่ เชื่อในพระธรรมคำสอนของพระองค์

หลังสมัยพุทธกาลเป็นต้นมา โลกตะวันตกเจริญแบบก้าวกระโดด
มีการพัฒนาทางด้านต่างๆมากมาย

ก่อนยุคสงครามเวียตนาม ประเทศไทยก็เป็นบ้านป่าเมืองดอย
พอเราโดนหลอกให้ไปช่วยรบกับเวียตนาม
อเมริกา ก็สนับสนุนการพัฒนาอย่างยกใหญ่

จนบ้านเมืองเราเปลี่ยนแปลงจนไม่เหลือเค้าเดิม

คนไทยในปัจจุบัน ถึงกับลืมความเป็นมาของประเทศตนเอง

คนยุคปัจจุบันคงนึกไม่ออกกันว่า

เมื่อประมาณแค่ 60 ปีก่อนประเทศไทยมีรถยนต์ไม่กี่คัน
ไม่มีรถมอเตอร์ไซด์เลย

ถนนลาดยางก็แทบจะไม่มี

เรารู้จักแต่น้ำมันก๊าซ เอาไว้จุดตะเกียง

พอเจริญเข้าหน่อย ก็ลืมของเดิมจนหมดสิ้น

ลืมกระทั่งว่ากฏแห่งกรรม ที่พระพุทธองค์ทรงสอน จนหมดสิ้น

ถ้าการช่วยเหลือผู้อื่นเป็นการถ่ายกรรมเขามาใส่กรรมเรา

พระพุทธองค์ก็คงจะมีเวรมีกรรมไม่รู้จักหมดจักสิ้น

หมอที่ไปช่วยรักษาคน ก็คงจะอายุสั้นกันหมด

แค่ผ่านไปไม่ถึง 100 ปี ยังเป็นไปได้ขนาดนี้หนอ

สู้พระสงฆ์ก็ไม่ได้ ผ่านไป 2500 กว่าปี ยังเดิมๆอยู่เลย

ขอกราบนมัสการ
ขอโมทนาบุญ ร่วมกับคณะสงฆ์ทุกๆท่าน
ขอโมทนาๆๆ

ลุงมหา

 

เขียน ๒๐.๒๕

แล้วท่านเชื่อหรือครับ ว่าจะมีใครบังคับควบคุมธรรมชาติได้
จะได้ด้วยกำลังตัวเอง หรือขอจากสิ่งใดก็ตามแต่
แล้วจะขอเพิ่ม หรือลด แรงลมแรงฝนได้จริงๆ
ใครที่จะควบคุมสภาพอากาศได้ สั่งลมสั่งเมฆหรือฝนได้
จะเป็นความกดอากาศสูงหรือต่ำ ความชื้นสัมพัทธ์ หรือความหนาวเย็นจากจีน

สมัยนี้ไม่มีแล้วล่ะมั้ง นะ ใครที่จะทำได้เช่นนั้น คนเชื่อคงไม่มีแล้ว
ก็คงต้องปล่อยให้มันเกิดขึ้นตามแต่ธรรมชาติต่อไป จะสงบเมื่อไหร่ไม่ทราบ

ส่วนเรื่องกรรมสะท้อน เราคิดว่ามีได้จริงนะ
อธิบดีกรมเจ้ากรรมนายเวร คงยังต้องทำหน้าที่อยู่เป็นปกติ
การเข้าไปยุ่งเกี่ยวปรับแต่งกระแสกรรมที่มันทำหน้าที่อยู่
โดยเฉพาะคนที่มีกรรมใหญ่ โจทย์แยะ รุนแรง และไม่ยอมอ่อนข้อให้
ก็คงต้องโดนปฏิกิริยารีแอคชั่นกลับมาบ้าง อันนี้ยืนยันได้ ด้วยการเดา ๕๕๕

แล้วพระสงฆ์ยังเดิมๆ อยู่จริงหรือ ท่านเองก็โวยบ่อยๆ นี่หน่า ลืมไปป่าว ๕๕๕




กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

ส่วนตัวผมเชื่อครับ จะว่าคิดบวกก็ว่าได้ครับ จะคิดแบบทางวิทยาศาสตร์ก็ได้ที่ว่าทุกอย่างที่คนเราจินตนาการได้ย่อมมีความเป็นไปได้ในทางฟิสิกส์

แต่เหตุที่มั่นใจจริงๆ ว่ามีคนที่สามารถควบคุมธรรมชาติได้คือการคลุกคลีกับพยายามเข้าถึงบุคคลเหล่านั้น การศึกษาบฏิบัติด้วยตัวเอง ก็จะพบแนวทางเป็นไปได้อยู่ ตามบันทึกทางศาสนาพุทธเองก็มีบอกไว้เรื่องอิทธฤทธิ์ ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติตามแนวสติปัฐานสี่ ยังไงโลกเราก็ไม่ขาดจากพระอรหันต์ แต่หลายๆท่านเมื่อจุดนึงท่านจะไม่ค่อยแสดงออกว่าทำอะไรได้ เพราะนั่นไม่ใช่ทางที่จะหลุดพ้น แนวยังมีโอกาสสร้างความงมงาย ศรัทธาในเรื่องที่ไม่ควรศรัทธา

ลองดูครับ ลองคลุคลี ลองหาทางสัมผัส ลองค้นคว้า มุมมองท่านอาจจะเปลี่ยนไป

 

ขีดจำกัดของแต่ละคน

ขออนุญาตครับ

เรื่องกรรม
เรื่องผลของกรรม
เรื่องผลของกรรมของคนหมู่มาก

ผมก็ได้เขียนไปมากแล้วในเว็บนี้

เรื่องพระสมมุติสงฆ์
เรื่องพระอริยสงฆ์

ผมก็ได้เขียนไปมากแล้วในเว็บนี้

เรื่องพระอริยสงฆ์ผู้มุ่งแต่เพียงความหลุดพ้น
เรื่องพระอริยสงฆ์ผู้มุ่งสู่ความหลุดพ้น+ความสามารถสายฤทธิ์
เรื่องพระอริยสงฆ์สายอภิญญาเหนือโลก+ภาระกิจอู้มชูพระศาสนา
เรื่องภาระกิจอุ้มชูพระพุทธศาสนายุคกึ่งพุทธกาล
แม้แต่การแสาะหา วิธีการ แม้แต่การแสาะหา ผู้มีบุญบารมี ที่จะสร้าง ศรัทธามหาชนยุคกึ่งพุทธกาล

ตลอดจนการติดตามทรัพย์สินมหาศาล และเฝ้าดูว่า
ทรัพย์สินนั้น จะถูกนำออกมาหรือไม่?
ทรัพย์สินนั้น จะถูกนำออกมาใช้โดยใคร?
ทรัพย์สินนั้น จะถูกนำออกมาใช้ ด้วยกระบวนการ ด้วยวิธีการ ด้วยขั้นตอนอย่างไร?
ถ้าทรัพย์สินนั้น ถูกนำออกมาใช้ ผมก็จะเฝ้ารอดูว่า
ผลกระทบด้านบวก ที่จะทวีคูณ และจะแผ่กระจายออกไปนั้น

ช่างน่าระทึกใจ
ช่างน่าตื่นตะลึงยิ่งนัก

เพราะถ้าไม่มีใครทำอะไรเลย

กรุงศรีอยุธยา ไม่เคยสิ้นคนดี
กรุงศรีอยุธา ไม่เคยสิ้นคนกล้า
กรุงศรีอยุธยา ไม่เคยสิ้นคนสู้

กรุงรัตนโกสินธุ์ ก็ย่อมเป็นเช่นเดียวกัน
ชาติไทย ก็ย่อมเป็นเช่นเดียวกัน

สำหรับท่านที่มองว่า ทางแห่งความหลุดพ้น จึงดีที่สุด
สำหรับท่านที่มองว่า ทางสายฤทธ์ เป็นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่สมควรเดิน

แล้วพระอริยเจ้าสายอภิญญาเหนือโลกไม่สมควรมีอยู่หรือ?
องค์หลวงปู่ใหญ่และคณะของท่าน สมควรวางมือหรือ?

รู้บ้างไหมถึงการค้ำชูพระศาสนาขององค์ท่าน?

ทั้งฤทธิ์ ทั้งอภิญญา แท้ๆ ล้วนๆ ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?

ทราบกันหรือไม่ว่าเมื่อครั้งเกิดสึนามิ องค์หลวงตามหาบัว ท่านเศร้าสลดเพียงใด?
น่าเสียดายที่องค์ท่านไม่มีโอกาสได้ดูได้ชม เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่

รู้กันหรือยังว่าแค่มุ่งสู่ความหลุดพ้น จะค้ำชูพระศาสนาไปได้แค่ใหน ไปได้อย่างไร?

ถ้ายังเชื่อแต่คำสอนของสมมุติสงฆ์
ถ้ายังเชื่อแต่แนวทางของการหลุดพ้น

พระศาสนาจะไปรอดหรือ?

เข้าใจว่า กู้ศรัทธามหาชน ยุคกึ่งพุทธกาล กันหรือไม่?

แล้วรู้หรือยังว่า ขีดจำกัดของตนอยู่ตรงใหน?

แล้วรู้หรือยังว่า จะออกจากขีดจำกัดของตนอย่างไร?

ขอโมทนาบุญ ร่วมกับ ผู้มีบุญบารมี ที่จะอุ้มชู พระศาสนา อย่างได้ผลจริงๆ

ขอโมทนาบุญๆๆ

ลุงมหา

 

เลือกเอาแต่แก่น หรือเอาแต่เปลือก มันจะอยู่ได้ใหม จะให้ดีต้องรักษาทั้งเปลือกทั้งแก่น มันถึงจะยังมีชีวิตได้
คนสมัยนี้ โงงมงายวิทยาศาสตร์มากเกินไป
ถ้าจำคำประราชดำรัส ร๓ได้ ท่านประทานไว้ให้ชนชาวไทย แต่ทุกวันนี้มันเป็นมากกว่าทาสเขาซะอีก คิดอะไรทำอะไรก็ตามก้นเข้าตลอด

คิดดูสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พวกตะวันตกยังต้องมาเป็นทหารรับจ้างของกองทัพสยามเลย เพราะอะไร ก็เพราะวิชาไสยศาสตร์ที่พวกคุณบอกว่างมงายนั้นแหละ แต่พอเราเริ่มไปศึกษา วิชาจากเขาแล้วดูถูกภูมิปัญญาของตัวเอง จากทหารรับจ้างกลายมาเป็น ทหารล่าอาณานิคม ยิ่งทุกวันนี้ไม่ต้องพูดถึงกลายเป็นทาสเขาไปแล้ว

ถ้าคิดแยกส่วนเปลือกกับแก่นเหมือนทุกวันนี้ เราอาจต้องรอวันสิ้นชาติก็เป็นได้ รักษาทั้งเปลือกทั้งแก่นเพื่อหล่อเลี้ยง ให้เจริญงอกงาม เป็นร่มโพธิ ให้เราได้อาศัยกันดีกว่าครับ

 

แมลงช้างวัดศรีคุณเมือง หนองคาย

ขออนุญาตครับ

ลุงมหาพูดคุยอยู่กับเพื่อนที่วัดศรีคุณเมือง ตลาดท่าเสด็จ ในเมืองหนองคาย
อยู่ดีๆก็มีแมลงช้างใต่อยู่ที่ข้อศอก
ผมก็เลยนำไปส่งที่ต้นลำใยใกล้ๆ แมลงช้างก็ค่อยๆใต่หายไปบนต้นลำใย

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ขออณุญาตมาเก็บความรู้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

 

ใกล้ถึงวันใหว้ครูขององค์พ่อจิตราจินดาแล้ว

ขออนุญาตครับ
ใกล้ถึงวันใหว้ครูขององค์พ่อจิตราจินดาแล้ว
เมื่อปีที่แล้ว 15 มีนาคม
มาปีนี้ วันใหน หรือ วันเดิม

ท่านที่มีบุญ ก็ กริ้งก้าง พีเอ็ม หากันได้

ศิษย์ขององค์พ่อ ไม่จำเป็นต้องมาก ทำงานให้สำเร็จได้ก็พอ

ขอโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

หาหนังสือ "องค์ญาณ" ครับ
ท่านใดมีอยากแบ่งปันรบกวนด้วยครับ // ขอบคุณครับ