ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

เข้ามาในห้องนี้ พบคนมีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บกันมาก
ตัวเองเรียนเวชกรรมแผนไทยมาจบแล้ว รอขึ้นทะเบียนเป็นหมอเต็มตัวอยู่

ตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อ นำความรู้ที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์
และที่สำคัญเพื่อทบทวนความรู้ให้แน่นขึ้นอีก (ถ้าไม่ทำมีหวังลืมหมดแน่ๆ)

เชิญทุกท่านครับที่แวะผ่านมา
ไม่ว่าจะ ปวดหัวตัวร้อน หรือมีโรคภัยแปลกๆ ฯลฯ
เชิญถามไถ่ ปรึกษาได้ครับ

จะตอบเท่าที่มีความรู้อยู่ ที่ไม่รู้ก็จะไปสอบถามครูบาอาจารย์มาให้
แต่บางเรื่องก็อาจหมดปัญญานะครับ

ส่วนเรื่องการฝึก และใช้ใช้ลมปราณเพื่อการดูแลกายเนื้อ จะแทรกให้เรื่อยๆ
โปรดติดตาม

 

<TABLE class=tborder id=post936412 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>suwi<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_936412", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:41 PM
วันที่สมัคร: Jun 2007
อายุ: 57 ปี
ข้อความ: 122 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 59 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 1,445 ครั้ง ใน 137 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 164


</TD><TD class=alt1 id=td_post_936412 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ก่อนอื่น ขอทำความเข้าใจกับทุกท่านก่อน
หลักการของการแพทย์แผนไทย(ใช้สมุนไพรในการรักษา)กับหลักการของการแพทย์แผนปัจจุบัน แตกต่างกันมาก แทบจะเรียกได้ว่า คนละแนวคิด

แนวคิดของแผนปัจจุบัน ที่เด่น และไม่มีในแผนไทย คือการให้ยาเข้าไปฆ่าเชื้อโรค หรือเข้าไประงับ หรือทดแทนการทำงานของอวัยวะในร่างกาย การผ่าตัดหรือตัดทิ้ง(พวกซีด / เนื้องอก)

แนวคิดของการแพทย์แผนไทย
การที่เราเจ็บป่วย เป็นเพราะร่างกายเราเสียสมดุลย์ของตรีธาตุ(ปิตะธาตุ,เสมหะธาตู, และวาตะธาตุ)
ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายแปรปรวน ระบบภูมิคุ้มภัยในตัวจะลดลง
ทำให้เชื้อโรคต่างๆที่บังเอิญเข้าสู่ร่างกาย เจริญเติบโตเข้ายึดพื้นที่ทำร้ายร่างกายให้เกิดโรคนั้นๆได้
แนวคิดในการรักษา โดยให้ร่างกาย(มนุษย์)รักษาตัวเอง
โดยให้ยา สมุนไพรเข้าไปทำการปรับ ให้อวัยวะต่างๆปรับตัวเองให้ทำงานสมดุลย์
แล้วภูมิคุ้มกันก็จะเข้าต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ถ้าชนะ อาการโรคต่างๆก็จะหาย
แต่ถ้าเชื้อมีจำนวนมาก เกินกว่าภูมิคุ้มกันจะทำลายได้ เราก็ยังคงเจ็บป่วย และเสียความสมดุลย์มากขึ้น

ปัจจุบันเรารู้ดีว่าเชื้อโรคบางอย่าง เมื่ออยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโต
ตัวมันเองจะสร้างเกราะคุ้มครองตัวเอง และมีชีวิตอยู่ได้ยาวนาน รอเวลาและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ออกจากเกราะเจริญเติบโตอีกครั้ง
ภูมิคุ้มกันที่มากขึ้น ทำให้เชื้อโรคไม่สามารถเติบโตได้ มันต้องสร้างเกราะคุ้มครองตัวเอง และรอเวลา

ปัจจุบันผู้ศึกษาแผนไทยอย่างถูกระบบ จะเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ดี บางครั้งต้องผสมประสานการรักษาทั้งสองแผนเข้าด้วยกัน เช่น
การเป็นหวัดเจ็บคอ
บางท่านเป็นแล้ว กินยาฉีดยาเป็นเดือนก็ไม่หาย แผนปัจจุบันว่า เชื้อดื้อยา
แต่คนผู้นี้ ได้ฟ้าทะลายโจร เพียงมื้อเดียวอาการก็ดีขึ้นทั้นที กินฟ้าทะลายโจรต่ออีก วันสองวันก็หายขาด
ก็เล่าลือกันไป ว่าฟ้าทะลายโจรนี้สุดยอด รักษาอาการเป็นหวัดเจ็บคอได้อย่างไม่มีอะไรเทียบ
แต่แท้จริงแล้ว ไอ้เจ้าเชื้อเจ็บคอ โดนยาฆ่าเชื้อจนเหลือน้อยแล้ว บางส่วนต้องเข้าเกราะ
แต่ทว่า ร่างกายตัวเองไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองได้เนื่องจากร่างกายเสียสมดุลย์(ด้วยตับ/เลือดร้อน(ปิตะพิการ))
โรคที่เป็นอยู่จึงเป็นๆหายๆ เรื้อรังอยู่ไม่รู้หาย
เพียงได้รับฟ้าทะลายโจรเพียงครั้งเดียว ปิตะที่พิการอยู่ก็กลับเข้าที่
โรคที่เป็นอยู่ก็หายทันที

โรคที่เจ้าของกระทู้ถาม ก็มีปัจจัยเช่นเดียวกับที่กล่าวถึงมาแล้ว
เชื้อหนองในเป็นเชื้อที่ค่อนข้างแรงและดื้อยาง่าย
ให้ใช้แผนปัจจุบัน ฆ่าเชื้อให้หมดหรือเกือบหมดแล้วจึงใช้สมุนไพรปรับธาตุของร่างกายในสิ่งที่เกี่ยวเนื่องให้เข้าที่
จึงจะหายขาด
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Pirunya_lala
แล้วอาการปวดท้องมากๆๆ แล้วปวดหัวและวูป หมดสติไป จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจไหมค่ะ เพราะว่าเป็นแบบนี้มาประมาณ 6 ปีแล้วอ่ะเลย ปีละมากกว่า 1ครั้ง
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เวลามีอาการ สัมพันธ์กับการมีรอบเดือนไหมครับ เช่น
เป็นทุกครั้งขณะมีรอบเดือนไหม มีอาการซ้ำๆ มากบ้างน้อยบ้าง
เป็นตอนก่อนมีรอบเดือน ?
ฯลฯ

พอหมดรอบเดือนอาการต่างๆก็จะดีขึ้น?
ขอรายละเอียด้วยครับ

อาการปวดท้องกับโรคหัวใจไม่เกี่ยวกัน
<!-- / message -->

 

ถ้าเป็นภูมิแพ้อากาศ คัดจมูกตลอดเลยทำยังไงดีครับ เวลานั่งสมาธิค่อนข้างลำบากครับ รบกวนด้วยครับ

 

ได้กล่าวถึงสมุนไพร ฟ้าทะลายโจรไว้

ฟ้าทะลายโจร เราใช้แก้หวัด เจ็บคอได้ดี เป็นยาเย็น (มากๆ)
หากกินติดต่อกัน บางท่านจะแพ้ยา ท้องอืด ปวดมวลในท้อง ฯลฯ
หมอแผนปัจจุบันท่านให้งดการใช้

แต่ในทัศนะของแพทย์แผนไทย
เรารู้ว่า สมุนไพรที่เป็นยาเย็น ทุกชนิด(ไม่เฉพาะฟ้าทะลายโจร)
เมื่อกินเข้าไปแล้วมันจะไปชลอ หรือเบรค การทำงานของระบบย่อยอาหาร
เมื่อกินบ่อยเข้า จะทำให้เกิดการคลื่นใส้อาเจียร ท้ออืด ปวดมวลท้อง (ทำให้ตับเย็น ชลอการทำงานของตับ)
(ชาเขียว ก็ไช่ ถ้ากินหลังอาหาร กินบ่อยๆเข้า ก็เกิดอาการนี้เช่นกัน)

ทางแพทย์แผนไทยทราบเรื่องนี้ดี จึงนำเอาพริกไทยดำมาผสมกับฟ้าทะลายโจร แล้วจึงให้คนไข้กิน อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ จึงหมดไป

บางตำหรับ ใช้ฟ้าทะลายโจร + พริกไทยดำในอัตราส่วน 1:1
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ กินติดต่อกันยาวนาน 3-6 เดือน แล้วหยุดยา 1 อาทิตย์ แล้วกินต่อ
จะแก้โรคฝีหนอง พุพองตามผิวหนังได้ สาวๆเป็นสิวไม่หายน่าจะลองดูได้
อัตราส่วนของฟ้าทะลายโจรในแต่ละท่านไม่เท่ากัน
ผู้มีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุน้ำ จะใส่พริกไทยได้สูง
ผู้มีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุลม ก็จะใส่พริกไทยลดลง
ผู้มีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตไฟ ก็ใส่ลดลดลงอีก (บางท่านอาจไม่ต้องใส่เลย)

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ takashina_toto
อ.คับผมโตโต้ที่มีอาการปวดที่ต้นคอเพราะกระดูกคอเคลื่อนนอกจากการนวดแล้วมีวิธีอื่นที่จะช่วยรักษาได้ไหมเพราะรุสึกขัดๆครับ ขอคำแนะนำด้วยคับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>


กระดูกคอเคลื่อน ก็ต้องจัดกระดูกคอ
มีวิธีจัดอยู่ 2 วิธีใหญ่
๑. ให้ผู้อื่นจัดให้ เช่นการนวด ฯลฯ
๒. จัดกระดูกให้ตนเอง เช่น ลีลาบำบัด(โยคะ ฤๅษีดัดคน ชี้กง) ดนตรีบำบัด ฯลฯ
ฝึกสักหน่อยก็ใช้เป็นเอง

คำตอบของโตโต้ อยู่ที่ข้อ ๒. ฝึกเองนะ ตามมาขอเคล็ดการฝึกได้ ไม่หวง
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

ดูจากชื่อคุณแล้ว คุณน่าจะเป็นคนสนใจเรื่องพลัง(ปราณ)
ถ้าคุณใช้เป็น
ปราณเพียงอย่างเดียวก็รักษาโรคคุณได้แล้วครับ

มีอีกสองวิธีที่จะใช้
๑. การนวด แก้ภูมิแพ้
ที่กระดูกอก(ซี่โครงซี่ที่ 1-4)ใต้ไหปาร้า นวดที่ร่องกระดูก นวดจากกลางอกไปรักแร้
ทำบ่อยๆจะช่วยบรรนเทาได้ (บางคนหายขาดเลย)
๒. ทำยากิน
ส่วนประกอบ
ต้นเหงือกปลาหมอ 5 ส่วน
พริกไทยร่อน(ขาว) 3 ส่วน
แห้วหมู 2 ส่วน

ตากแห้งบดผง กินครั้งละ 1-2 ช้อนกาแฟ ผสมน้ำผึ้งปันเป็นลูกกลอน
สรรพคุณ แก้โรคน้ำเหลืองเสีย และภูมิแพ้

 

วิธีง่ายๆในการบรรเทาอาการปวดบ่า /ปวดสบัก / ยกแขนไม่ขึ้น เฉพาะหน้า ด้วยตัวเอง

วันนี้คุยกันถึงเรื่องปวดบ่า ปวดสบัก ปวดคอ นะครับ
ผู้ทำงานที่ต้องใช้มือหยิบโน่นจับนี่มากๆ เช่นแม่ครัว คนงานในโรงงาน ฯลฯ
ผู้ทำงานนั่งโต๊ะ ทำงานเกี่ยวกับ Computer
ผู้นั่งทำงานหลังขดหลังแข็งเกี่ยวกับตัวเลข
คนเหล่านี้ จะเป็นโรคอันเกิดจากอริยาบถ ทำให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ บริเวรคอ บ่า ไหล่ เกิดอาการเจ็บปวด
บางคน ปวดร้าวตั้งแต่คอไปจรดกลางหลัง บ้างปวดบ่าเป็นก้อนแข็ง ปวดไหล่ขยับแขนไมได้ ยกแขนไม่ขึ้น

เวลาเป็นและปวดขึ้นมา สุดทรมาน กินยาก็แค่ค่อยยังชั่วเดียวหนึ่งแล้วเป็นอีก
กินยามากๆ โรคกระเพาะก็ถามหา และขอย้ายสำมโนครัวมาขออาศัยอยู่ด้วย
เรามีวิธีครับที่จะช่วยตัวเองอย่างง่ายๆ

วิธีง่ายๆในการบรรเทาอาการปวดบ่า /ปวดสบัก /ยกแขนไม่ขึ้น เฉพาะหน้าอย่างง่ายๆ

ให้หาขวดในหนึ่ง(อาจเป็น ขวดแม่โขง ขวดเบียร ขวดโซดา ฯลฯ) แล้วเอาผ้าขนหนูมาพันรอบขวด
แล้วนำมาเหน็บไว้ใต้รักแร้(ข้างที่ปวด)
พยายามให้ขวดแนบติดรักแร้มากที่สุด และให้ศอกแนบชิดชายโครงเท่าที่ทำได้
มือเอาไว้ตรงหน้าท้องใกล้ลิ้นปี่ (โดยอาจใช้มืออีกข้างช่วยจับคอขวด)
แล้วหนีบอยู่อย่างนั้นประมาณ 5-10 นาที จึงเลิก
ทำบ่อยๆ หรือเมื่อมีอาการ

ขณะที่หนีบขวดอยู่ บางท่านอาจรู้สึกชาที่แขน ที่มือ(ข้างที่เหน็บขวด)
ให้ขยับขวด ให้เลือดไปไหลเวียนที่แขนสักเดี๋ยวหนึ่ง แล้วหนีบขวดต่อให้ครบเวลา

อาการต่างจะดีขึ้น บางท่านที่เป็นไม่มาก อาจหายไปเลย

โชคดีครับ ขอให้หาย...ๆ....ๆ
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

รบกวนถามคุณ suwi ค่ะ พ่ออายุเจ็ดสิบกว่าแล้วค่ะ สุขภาพโดยรวมก็จัด
ว่าแข็งแรง แต่มีปัญหาข้อเข่า ตอนนี้ทานยาตลอด แต่ที่สงสัย เท้าและขา
แกจะบวมๆ กดไม่บุ๋มนะคะ จะตึงๆ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร รบกวนช่วยแนะนำ
ด้วยค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

 

จากประสพการณ์
อาการปวดเข่าจะเกิดขึ้นสองกรณี
๑. เกิดจากสภาพ พยาธิของตัวเข่าเอง เช่นเป็นเก้าส์
๒. เกิดจากการบิดตัวของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่รัดข้อเข่าอยู่ สาเหตุมาจากการเคลือนของกระดูกข้อสะโพก
แม้แต่เพียงเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้กล้ามเนื้อที่รั้งลงมาถึงเข่าบิดตัวได้
และเมื่อมีการเดิน มีการแบกน้ำหนักบ่อยๆ ก็จะทำให้ข้อเข่าปวดได้ และท้ายสุดข้อเข่าจะเอียง (เกิดเข่าโค้ง หรือแปออก แล้วแต่การเคลื่อยของกระตูกข้อสะโพก)

การรักษาในข้อที่๑ ให้ทำยากินดังนี้
๑. หญ้าหนวดแมว ๑ หยิบมือ
๒. ชาจีนอย่างดี ๑ หยิบมือ
๓. มะละกอดิบ(แบบที่ทำส้มตำ) ๑ ลูก
วิธีทำกิน
๑. นำสมุนไพรในข้อ ๑-๒ มาลวกน้ำร้อนแล้วพักไว้
๒. นำมะละกอดิบล้างให้สะอาด แล้วฝานเป็นชิ้นเล็กๆ(ทั้งเปลือก)
นำมาต้มในหม้อเคลือบ (หรือหม้อสะเตนเลส) ใส่น้ำท่วมมะละกอ
พอมะละกอสุก กรองเอาแต่น้ำ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้
เวลากิน อุ่นน้ำมะละกอให้เดือด นำมาชง หญ้าหนวดแมว+ใบชาที่เตรียมไว้
แช่ทิ้งไว้สักพัก ดื่มวันละ ๒-๔ ครั้ง
แก้อาการปวดามข้อได้ดี
เคยใช้กับพวกปวดข้อ แบบเป็นเก้าส์ หรือข้อบวมแดง ได้ผลดี
ยังไม่เคยลองกับโรคที่เรียกว่าตะมอย (โรคปวดข้ออีกแบบ ทำให้ข้อคดแก ผิดรูป) ว่าได้ผลหรือไม่


ส่วนอาการที่เกิดจากการบิดตัวของกล้ามเนื้อและเส็นเอ็น ให้ใช้วิธีนวดจัดกระดูก
ถ้าจะช่วยตัวเอง มีท่าฤๅษีดัดตนอยู่สองท่า ใช้แก้โรคนี้โดยเฉพาะ

ว่าจะ สแกน นำรูปมาให้ดู แต่เอาลงใน เวปไม่เป็นนะ ใครรู้ช่วยบอกที

 

ขอบคุณมากค่ะ แต่อ่านดูแล้วน่าจะเป็นแบบข้อคดมากกว่า เพราะ
ขาแกจะดูโก่งๆ แต่ก็ไม่แน่ใจน่ะค่ะ จะลองเอาสูตรยาไปทำดูค่ะ แล้วจะมาบอก

รูปที่จะมาอัพ ให้คลิ๊กตรงรูปคลิปด้านบนน่ะค่ะหรือตรงตัวเลือกเพิ่มเติมด้านล่าง
ปุ่ม upload และบริหารไฟล์ แล้ว browe รูปที่คุณ suwi เซฟมา
แต่ต้องดูขนาดไฟล์ไม่ให้เกินที่เค้ากำหนด ถ้าไฟล์ใหญ่เกินไป
ก็ต้องแปลงให้เล็กก่อน ลองโหลดโปรแกรมพวก photo resize
มาใช้ดูค่ะ

 

อยากขอทำความรู้จักหน่อยเท่านั้นเองครับ เพราะอยากหาแนวร่วมคนที่ศึกษาด้านสมุนไพรและแพทย์แผนไทยหน่อยครับ ผมชื่อหนึ่ง อีเมล์ผม neung_r@hotmail.com

 

ยินดีได้รู้จักครับ คุณหนึ่ง
suwinand@gmail.com

 

ถ้าขาโก่งแล้ว ยาที่ให้ไว้จะช่วยได้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
ต้นเหตุไม่ได้แก้ กินยาที่ให้ไว้ อาการปวดจะเป็นๆหายๆ

ส่วนเรื่องการโพสรูปจะลองดูครับ

 

ปัจจุบัน โรคที่น่ากลัวและเป็นกันมาก คือโรคของหลอดเลือดและการไหลเวียนของเลือด
เมื่อเป็นแล้วจะทำให้ หลอดเลือดแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น
และเป็นต้นเหตุของโรคภัยมากมาย เช่น
เส้นเลือดสมองอุดตัน ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เบาะๆก็อันไซเมอร์
ความดันโลหิตสูง ก็เป็นโรคอันเกิดจากระบบ ไหลเวียนช้าลง อันเกิดจากหลอดโลหิตฝอยในอวัยวะสำคัญหดตัวตีบเล็กลง
โรคหัวใจ


สมุนไพรที่ใช้ในครัวหลายอย่าง นำมาปรุงแต่งให้เป็น จะช่วยแก้ไขอาการที่กล่าวได้ระดับหนึ่ง

สูตรที่ ๑.
ใบบัวบก ๒ ส่วน
กระชาย(เฉพาะราก) ๒ ส่วน
พริกไทยขาว ๑ ส่วน

วิธีทำกิน
๑. ตากแห้ง บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดในพุทราไทยกินครั้งละ ๒-๔ เม็ด วันละ ๑-๒ ครั้ง ก่อนอาหารเช้า และก่อนนอน
๒. นำมาปั่น คั้นน้ำกิน(สูตรนี้ ต้องลดพริกไทยลงครึ่งหนึ่ง) ทำกิยบ่อยๆ วันละ ๑-๒ครั้งๆละ ๑ แก้ว (อาจเจือน้ำผึ้ง + มะนาวสัก ๑ ซีก เพื่อเพิ่มรสชาด และเป็นกระสายยา)

สรรพคุณ
บำรุงสมอง บำรุงร่างกาย
ทำให้โลหิตหมุนเวียนในเส้นเลือดฝอยได้ดี
ผลพลอยได้ เสริมสมรรถภาพ ให้ผู้อ่อนแอ
กินได้ทั้ง หญิง ชาย

สูตรที่ ๒.
กระเทียมโทน(ชนิดเปลือกสีมวง) 2 ขีด(ปลอกปลือกแล้ว)
ขิงแก่ 1 ขีด(ปลอกเปลือกแล้ว)
พริกไทยขาว 1/2 ขีด
มะนาวลูกย่อมๆ 5-10 ลูก คั้นเอาแต่น้ำ

วิธีทำกิน
กระเทียม ขิงแก่ พริกไทย และน้ำมะนาว นำลงเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด
แล้วนำเก็บในโถแก้ว(ขวดแก้ว) มีฝาปิด เก็บในตู้เย็น

วิธีกิน
ดอกคำฝอย ๑ หยิบมือ ชงน้ำร้อน ๑ ถ้วยกาแฟ กรองเอาแต่น้ำ
นำเอากระเทียมฯ ที่ปั่นไว้ ๑-๒ ช้อนชา ใส่ลงในน้ำดอกคำฝอย
อาจเติมน้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาดและเป็นกระสายยา
กินวันละ ๑-๒ ครั้งเช้าเย็น(หรือก่อนนอน)

สรรพคุณ
ลดอาการเส้นเลือดฝอยตีบตันได้ระดับหนึ่ง
ทำให้โลหิตหมุนเวียนดี

กินร่วมกัยสูตรที่ ๑ จะได้ผลเร็วขึ้น

<!-- / message -->

 

สวัสดีค่ะ น้าของดิฉันชักบ่อยๆและ ตัวดิฉันเองก็เป็นโรคนอนไม่หลับมาหลายปีแล้วค่ะรบกวนช่วยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

โอ้โห้เออะ....
เล่นตั้งคำถามแบบนี้ .....ง..ง..ยอมแพ้ฮะ

อาการชัก เกิดได้ด้วยสาเหตุมากมาย คำถามที่ตั้ง ไม่มีที่ไปที่มาไม่รู้มูลเหตุ

อาการนอนไม่หลับก็เช่นกัน มีมากมายหลายสาเหตุ เช่นเครียดกลุ้ม อาการทางประสาท ทางกาย ฯลฯ

ไม่เล่าอะไรเลย แล้วจะตอบอย่างไรเล่าหว่า
ครูผู้เฒ่ายังไม่ยอมสอนวิชาเทวดาดั้นเมฆให้ จึงไม่อาจตอบคำถามนี้ได้เลย

 

คุณลุงใจดีจังกั๊บ ไม่สบายเมื่อไหร่จะมาปรึกษานากั๊บ

 

วิธีแก้อาการสะอึก โดยวิธีการนวดแผนไทย

อาการสะอึกแบบข้ามวันข้ามคืน เป็นอาการที่น่าลำคาญ
มีสะอึก ก้อนเล็ก สะอึกก้อนใต (อาการเบา อาการหนัก)
ถ้าสะอึกก้อนเล็ก แม้จะข้ามวันข้ามคืน ก็พอทน แค่รำคาญ
แต่ถ้าก้อนใต มันชักเริ่มสุดทน จากความรำคาญ เปลี่ยนเป็นความทรมาร
วิธีแก้มีมากมาย ใช้ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง

วิธีการนวดที่จะกล่าวนี้ ใช้ได้ครอบคลุมมากกว่า 90% ถ้าเป็นมาก ต้องนวดซ้ำหลายครั้ง

วิธีนวด
ให้ใช้ซ่นมือ นวดคลีงเป็นวงกลมที่บรืเวณ ลิ้นปี่ ประมาณ 3-4 รอบ
แล้วลูบมือขึ้นไปที่บ่า(ด้านตรงข้ามกับมือที่ใช้) ออกแรงกดเบาๆ (หญิงใช้มือ ขวา ชายใช้มือซ้าย)
พอซ่นมือ ชนกระดูกไหปลาร้า(ด้านล่าง) ให้หยุด แล้วใช้ซ่นมือคลึง กล้ามเนื้อบริเวณนี้ สัก 2-3 รอบ แล้วหยุด
ขณะนี้ปลายนิ้วมือจะคลุมอยู่บนบ่า ให้กดปลายนิ้วเบาๆนวดที่บ่า สัก 2-3 ครั้งแล้ว ลูปฝ่ามือไปที่หัวไหล่ เหมือนปัดของออกไปจากไหล่ 2-3 ครั้ง
เป็นเสร็จพิธี (เวลาทำให้ตั้งใจไว้ที่ฝ่ามือ , ทำให้ตัวเองก็ได้)

เพียงเท่านี้ อาการสะอึกข้ามวันข้ามคืน ที่เป็นไม่มาก จะหายทันที
ถ้าเป็นมาก ให้ทำซ้ำ สูงสุดไม่เกิน 3 ครั้ง(ติดต่อกัน) จะดีขึ้น
ถ้ายังไม่หาย ให้เว้นเวลาไปสัก 2-3 ชั่วโมงแล้วทำใหม่
ไม่เกิน 2 วัน ก็หาย

 

สำหรับบุรุษผู้มีอาการต่อมลูกหมากโต จนปัสสวะกระปริดกระปรอย

ท่านให้นำใบยอ(ไม่แก่ ไม่อ่อนเกินไป) สักกำมือมาต้ม เอาน้ำดื่มเป็นประจำจะช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโตได้
หรือจะกินห่อหมกใบยอก็ย่อมได้เช่นกัน

กินมื้อสองมื้อไม่หายนะจะบอกให้ ต้องกินเป็นยาอย่างน้อยวันละ 2-3 มื้อ
ถ้าเป็นไม่มากอาการไม่เรื้อรัง อาจหายได้ในเจ็ดวัน

สำหรับท่านที่เป็นมานานจนเรื้อรัง
ให้เพิ่ม กระเทียม 7 กลีบ
ขิงแก่ 7 แว่น
ดีปลีสัก 5 ดอก
ต้มรวมกับ ใบยอ 1 กำมือใหญ่
ต้มใส่น้ำ 3 เอา 1 (3 ถ้วย เอา1ถ้วย)
ดื่มเช้าเย็น อาการจะดีขึ้น
ทำกินบ่อยๆ อาจหายขาดได้

ส่วนที่โรคแปรไปเป็นมะเร็งร้ายแล้ว ไม่แน่ใจว่าขนานนี้ยังได้ผลหรือไม่
<!-- / message -->