อยากขอวิธีตัดใจต่อนางแก้ว

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย InvisibleForce, 22 พฤศจิกายน 2013.

  1. เวโรจนะ

    เวโรจนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +129
    ออ เข้าใจละ แสดงว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้น นางแก้วที่ยังเป็นวัตถุดิบ นายแก้วต้อง
    ต้องเป็นผู้นำมาเจียรไนเอง แต่อ่านเจอมาหลายๆความเห็น จะเป็นลักษณะว่า
    ทั้งนายและนางแก้วต่างแอคทีพตัวเอง จนลอยเด่นในระดับหนึ่ง แล้วค่อยโคจรมาปิ๊งๆ
    อิอิ
     
  2. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    แล้วมีสักคนไม๊ล่ะที่สำเร็จรูปโดยที่ไม่ต้องมาเจียระไน หากมีตามห้างร้านขายยาทั่วไป หรือตามสะพานลอยข้ามถนนผมก็จะได้ไปลองหาดูบ้าง

    แล้วมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใหนบ้าง ที่ไม่ต้องฝึกฝนพระองค์เองจากบุคคลธรรมดาสามัญ ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานหนักหนาจนบรรลุมรรคผลอษิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด ผมลองหาดูแล้วแบบที่ว่าเกิดเป็นลูกกษัตรย์ ลูกมหาเศรษฐีทุกๆชาติแล้วชาติสุดท้าย เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมเองหาไม่ได้แม้แต่พระองค์เดียว หากว่ามีผมก็จะได้เอาอย่างมั่ง เพราะผมเองก็รำคารไอ้เรื่องลำบากยากจน รำคารความทุกข์ยาก ก็อยากจะสะบายกะเขามั่ง แล้วก็อยากอีกที่จะพาหมู่คญะญาติมิตรพ้นทุกข์กะเขามั่ง แต่แหมมันมีคนหมั่นไส้พวกเราตลอดทางที่เราเดินเข้าไปหาความดี ความที่จะพ้นไปจากกองทุกข์นี้

    ปลายทางพวกเราก็ต้องการให้ไปอยู่ในแดนที่พอจะลืมตาอ้าปากได้กะเขามั่ง เราอยู่บ้านนอกคอกนา อยู่กระท่อมห้อมรังมาช้านานเพราะมัวฉลาดทำแต่ตามกระแสของโลกธรรม

    เกิดกันมาเป็นคนกะเขาก็แทบไม่มีที่จะนั่งที่ยืน หากไปเป็นเทวดานางฟ้าก็ไปเป็นบริวารเขาอีก อีแบบนี้ไม่เอา เราจะเป็นเจ้าของ แบบมีวิมาณแก้วเก้าประการกะเขาเล่นโก้ๆมั่งมันจะเป็นอะไรไป หากไปเป็นพรหมกะเขาก็ดันไปอยู่ท้ายสวนแสงของวิมาณริบหรี่ๆอีแบบนี้ก็ไม่เอา ในเมื่อคนอื่นเขาทำดีแล้วเขาได้ดี เราก็จะทำดีมั่งมันจะเป็นยังไง

    เข้าพระนิพพานกันเมื่อไร เราก็ขอให้มีอย่างน้อยก็เท่าที่ท่านอื่นท่านมี ท่านใหนมีแมงกะไซฮาเล่ย์เราก็จะเล่ย์มั่ง ใครเขามีลัมเบอจีนี่สิบหกสูบ เราก็จะมีไว้ลองซิ่งกะเขามั่ง ไม่งั้นมันคุยกะใครเขาไม่ได้ ไปคบกะใครก็ไม่มีใครอยากคบกะเรา ประเภทเดินผ่านหน้าบ้านเขา เขาปิดประตูใส่หน้านี่ไม่เอา

    เกิดเป็นคนผมลองดูแล้วในกรุงเทพนี่แหละสมัยเมื่อมาเป็นเด็กอู่ซ่อมรถยนต์ ฝนมันตกหนักมากฟ้าก็เปรี้ยงๆ ก็เดินไปอาศัยชายคาประตูรั้วบ้านคนรวยเขาเข้าหน่อย พร้อมหมาจรจัดอีกสองตัวที่มันก็วิ่งมาหลบฝนตาละห้อยครางหงิงๆอยู่ข้างๆ พักเดียวเจ้าของบ้านที่ใจดีก็มาเชิญให้ไปหาที่หลบฝนที่อื่นไกลๆบ้านเขา มาทำลับๆล่อหน้าบ้าน ทำให้เขาระแวงใจเขาไม่สะบาย ไอ้คนทำบุญมาดีอย่างผมก็ต้องชวนพี่หมาสองตัวที่เพิ่งรู้จักกันว่าไปหาที่ใหม่กันเหอะพี่ อยู่ที่ตรงนี้ไม่ได้แล้วเดี๋ยวเขาได้ฟาดกบาลเอา ต้องวิ่งตากฝนไปหาที่ใหม่ทั้งคนทั้งหมา ประทับใจมากขอขอบคุณย้อนหลังในอดีตเรื่องนี้เมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้ว

    แล้วหากว่าพี่ทิศที่สึกใหม่ประสาชายไทยโบราณ ลองไปรัก ลองไปชอบลูกสาวใครเขาดูซิ หากเราเป็นเด็กอู่ซ่อมรถข้างถนนตัวทั้งมอมแมมทั้งเหม็นสาปสางอย่าหมา เป็นเด็กเร่ร่อนจรจัด ดีขึ้นมาหน่อยเป็นเด็กวัดแล้วลองดันไปรักนางเอกหนัง ไปรักนางสาวไทย หรือไปรักลูกสาวคนมีกระตังค์มาก หรือแค่กระแดะไปรักน้องนางบ้านนาที่เขาเรียนหนังสือสูงกว่า

    ทั้งตัวน้องนางก็จะบอกว่าพี่ทิศเอย น้องนางนั้นเข้าใจ แต่ขอพี่ทิศจงตักน้ำใส่กาละมัง แล้วเอาหน้าพี่ของทิศชะโงกดูเงาหัวของพี่ทิศเองว่าสมควรที่น้องนางจะไปอยู่ร่วมหัวแล้วก็จมท้ายกะคุณพี่ทิศหรือไม่ อย่าให้น้องแก้วต้องตักเตือนคุณพี่มากกว่านี้เลย มันดูไม่งามสำหรับหญิงไทย

    แล้วยังจะพ่อแม่ของน้องนาง พี่ชายพี่สาวของน้องนางอีกที่เขาจะยืนเหล่เอาว่าไอ้เบื๊อกเอ๊ยไม่เจียมกระลาหัวเอาซะเลย หรือใครว่าแน่ก็ลองดูเอานะได้ผลยังไงก็มาบอกเล่ากันมั่ง ไม่เอานะแบบที่ไปโดนพี่ชายเขาไล่กระทืบมาแล้วเงียบน่ะที่ไปทำรุ่มร่ามกับน้องสาวแก้วเขา เผลอๆจะโดนรองเท้าแก้วของพี่สาวเขาเข้า ขอตัวเป็นๆนะมาเล่าให้ฟังที

    ใครที่ว่าแน่ลองอยู่ฝ่ายใหนดูก็ได้ ฝ่ายนางสาวแก้ว หรือฝ่ายเด็กจรจัด เอ้าแก้วใหนจะลองก็ว่ามา ว่าจะมีใครเอาหรือปล่าวหากผมจะบอกว่าผมนี่แหละปรารถนาในพระโพธิญาณวิริยาธิกะเติมความพิเศษอีกด้วยเอ้า ตามหารักแท้จากน้องนางสาวแก้วสักคน ก็คงจะต้องพบเจอกับกฏกติกาสาระพัด ท้ายที่สุดต้องไปเกิดมาใหม่ค่อยมาคุยกัน นี่PCOตอนแก่พูดแบบนี้ ตอนเด็ก ตอนวัยรุ่น ตอนเป็นหนุ่ม ลองได้ไฝ่สูงไฝ่ดีกะเขามาพอแรงเรียกว่าพอได้

    ไอ้เด็กเลี้ยงควาย ตะกายไปเป็นเด็กอู่ซ่อมรถยนต์ข้างถนนอย่างผมนี่มันก็เคยรัก แล้วก็เคยลองรักเอาจริงๆจังๆ แล้วก็ดันไปรักนางเอกหนังคนหนี่งที่นครสวรรคเธอดังมากสมัยนั้น แล้วก็สวยมากสำหรับผม เป็นนางแก้วในดวงใจ ติดตาติดใจกับจริยาของเขาที่ดูในหนัง

    วันหนึ่งมีวาสนาได้ซ่อมรถยนต์คันที่เธอใช้ แล้วก็มีวาสนาแค่ได้เห็นใกล้ๆตอนที่มารับรถคืนมันตื่นเต้นพูดไม่ออกไม่มีคำพูดใดๆจากผม เมื่อเสร็จพิธีกรรมต่างๆก็ได้มีวาสนาอีกครั้งส่งมอบกุญแจรถให้เธอกับมือ แล้วก็เช็ดรถเช็ดกระจกให้ ปิดประตูรถให้ แล้วตามไปส่งตามไปดูแลโบกรถให้ยืนมองเขาจนลับตา ใจในตอนนั้นและแม้แต่ตอนนี้ ก็ไม่มีการลืมเลือนก็อยากจะฝากผู้หญิงคนที่เคยรักไว้กับชาวบ้านเขาชั่วคราว

    พุทธภูมิมีเวลาก่อร่างสร้างตัวอีกนาน วันข้างหน้าในชาติต่อๆไปจะเอามาเซอราตี้ หรือเฟอรารี่ที่โมดิฟายเต็มอัตราไปปาดหน้าไอ้คันที่ซ่อมไปกับมือ

    นี่หากว่าเราไม่เสมอเขา เราไม่ดีมีวาสนาไปกว่าเขาเราไม่มีวัน ไม่มีทางแม้แต่จะเข้าใกล้ใครเขาได้เลย ฉนั้นหากจะพูดถึงหากจะฝันถึงน้องนางแก้วในจินตนาการ เราเองต้องฝึกฝนตนเองอย่างหนักทุกๆด้าน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะพบนางแก้ว ยิ่งไม่มีทางที่จะได้ครอบครอง ไม่มีวันที่น้องนางแก้วบ้านนา บ้านไร่ บ้านกรุง หรือน้องนางต่างประเทศลูกครึ่ง ลูกเต็มก็ตาม จะยอมมารักซื่อสัตย์จงรักและภักดิ์ดีตลอดกาลอวสาน หากเราไม่เอาใหนซะอย่าง ก็คงไม่มีใครเขามาเอาใหนกับเรา

    ในเว๊ปนี้ก็มีคนปรารถนานางแก้วคู่บารมีของคนที่ปรารถนาพระโพธิญาณหลายคนหลายน้องนางสาวแก้ว ลองถามน้องนางสักคำว่าพี่ทิศในดวงใจของน้องนางในฝันนั้นมีคุณต้องสมบัติเป็นอย่างไร

    หากว่าต้องการแบบอดีตเด็กยากไร้อนาถา ตอนนี้โตเท่าควายแล้วก็ยังไม่ค่อยจะเอาใหน ผมจะได้ลองประกวดกะเขาสักคน

    ก็มาคุยเรื่องแก้วของผมต่อ เมื่อวานวันพระสดๆร้อนๆ แก้วใหญ่เธอก็ถวายดอกไม้บูชาพระแล้วก็เจริญพระกรรมฐาน ตามปกติ แก้วเล็กแกก็ไม่ยอม แกกลัวว่าจะสวยน้อยกว่าในชาติต่อๆไป วันนี้แกเผลอทำงานจนลืม นึกได้จนสามทุ่มแล้วก็รีบเลิกงานไปหาดอกไม้มาบูชาพระมั่ง ผมก็ต้องพาเขาไปตามความต้องการของเขา เพราะก็ต้องเจียระไนเขาให้เป็นแก้วมณีรัตนที่ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน หากผมไม่เจียระไนเองใครจะเจียระไนให้

    วันนี้ตอนเช้าแก้วใหญ่แกไหว้พระเจริญพระกรรมฐานแล้วก็ไปนอนทำต่อ เพราะเป็นวันอาทิตย์เราไม่มีธุระไปใหน เราก็นอนเจริญพระกรรมฐานซะก็ยังได้ ใจของพวกเราไม่เคยว่างไปจากสมาธิกรรมฐานที่พวกเราพยายามฝึกหัดขัดเกลาของเราไม่ทำกันเองใครจะทำให้

    แก้วเล็กที่ผมชอบถ่ายรูปเขาเวลาถวายข้าวพระ ลีลาจริยาของเขาคล้ายท่านสุชาดาถวายข้าวมธุปรายาสที่เห็นตามรูปที่เขาวาดกัน วันนี้เขาก็ถวายของเขาตามปกติแก้วคู่นี้กรรมฐานพอๆกัน

    นี่แก้วเล็กที่มีความเมตตาปราณีต่อคนต่อสัตว์ทั่วไปเป็นทุนเดิม เป็นปกตินิสัย แล้วนี่ที่เธอทำเป็นปกติของเธอทุกวันถวายข้าวพระ ข้าวพระที่เหลือที่ถูกเปลี่ยนเธอนำไปวางไว้ที่หน้าโรงงานเผื่อให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยได้มีกิน ใส่บาตรกองทุน ใส่บาตรวีระทะโย เราต้องการเป็นคนรวย เป็นคนสวย เป็นคนปฏิภาณปัญญาดี เป็นคนที่มีเดชเดชาสักดานุภาพไม่เป็นสองรองใคร เพราะเราไม่ต้องการให้ใครมารุกราณให้เรารำคาร เราไม่ได้มีแล้วเพื่อไปรุกราณใคร แต่เรารำคารจนเบื่อหน่ายแล้วที่คนอื่นมารุกราณเรา เราก็เลยต้องฝึกกันหนัก แล้วก็ฝึกในแบบวิริยาธิกะพิเศษฝึก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN7356.JPG
      DSCN7356.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.5 MB
      เปิดดู:
      88
    • DSCN7375.JPG
      DSCN7375.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.2 MB
      เปิดดู:
      88
    • DSCN7377.JPG
      DSCN7377.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.4 MB
      เปิดดู:
      110
    • DSCN7381.JPG
      DSCN7381.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.7 MB
      เปิดดู:
      71
    • DSCN7383.JPG
      DSCN7383.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.4 MB
      เปิดดู:
      81
    • DSCN7391.JPG
      DSCN7391.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.1 MB
      เปิดดู:
      74
    • DSCN7392.JPG
      DSCN7392.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.2 MB
      เปิดดู:
      61
    • DSCN7394.JPG
      DSCN7394.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.2 MB
      เปิดดู:
      103
    • DSCN7395.JPG
      DSCN7395.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.3 MB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มิถุนายน 2015
  3. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    มีใครบ้างคะ นางแก้วยอมตัดใจจากโพธิสัตว์

    จะยอมสละความรักให้ ถ้าเห็นว่าคนอื่นเหมาะสมกว่าเรา

    สิ่งใดเขาต้องการก็ยอมเสียสละ เราไม่อยากให้เราเป็นต้นเหตุทำให้เขามีความทุกข์
    แม้เขาไม่ต้องการ แต่ถ้าหากเราเป็นต้นเหตุ เราไม่สบายใจ อยากทิ้งเขาไป เพื่อให้เขาพบสุข

    เขาเองเป็นคนทิ้งเราไปมีใหม่ ถ้าเขาจะนอกใจผู้หญิงคนนั้น เราก็ห้ามไว้อย่าทำให้เขาทุกข์ใจ

    เรายินดีเสียสละตลอดไม่เคยเป็นตัวจริงของใครเลย เพราะอะไร

    หรือเราไม่ใช่.........
     
  4. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ฟังคุณคนึงว่า มันแปลกๆสำหรับผม คนที่ปรารถนาในพระโพธิญาณในตำราเล่มของผมเขาไม่ทอดทิ้งใครเอาตัวรอดแล้วไปมีใหม่นี่นา ยกเว้นฝ่่ายที่ถูกทอดทิ้งไม่ได้ติดตามไปในทิศทางเดียวกัน เช่น เขาจะทำบุญให้ทานเราตระหนี่ถี่เหนียว คนหนึ่งจะฟังธรรม คนหนึ่งจะฟังเพลงในเวลาเดียวกัน อย่างนี้เป็นต้น มันก็ไปกันยาก

    อีกอย่างวิสัยของคนที่ปรารถนาในพระโพธิญาณมีเมตตาปราณีเป็นปกตินิสัย หากไม่มีเมตตาปราณีก็คงไม่ปรารถนาในพระโพธิญาณให้มันยากให้มันลำบากยอมสละเลือดเนื้อกายใจเมื่อคราวจำเป็นเพื่อคนอันเป็นที่รักนับครั้งไม่ได้ นับภพไม่ได้ นับชาติยิ่งไม่ได้ ก็เพื่อจะอยู่รอช่วยเหลือผู้อื่นจนหมดเวลาจึงจะเข้าพระนิพพาน

    ก็ได้แต่แปลกใจ พุทธภูมิหากว่าพบคนที่เข้าใจเขาคงไม่ละวางแก้วมณีลงจากมือง่ายๆ หากจะวางก็วางไว้บนที่สูง ที่ๆปลอดภัย ไม่ปล่อยไว้ในป่่าเปลี่ยวเดียวดาย ที่เห็นว่าอันตรายมันรอบตัว คนระดับปรารถนาในพระโพธิญาณ เกิดๆตายๆผ่านการฝึกฝนอบรมบ่มนิสัยมาอย่างยาวนานหนักหนา มีความเป็นผู้ใหญ่พอที่เข้าใจอะไรได้ไม่ยาก อาจจะมีการหลงลืม ลักษณะการเข้าไปทดลองบ้าง แต่หากมีเรื่องราวอะไรมาสะกิดใจมันรู้สึกตัวง่าย ไม่ลุ่มหลงงมงายอะไรนานเกินไป นี่เท่าที่เคยพบมา

    ในพระสูตรสมัยหนึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเสวยพระชาติเป็นพระยาช้างฉัตรทันต์ท่านถูกเมียรองของพระองค์ท่านจ้างให้พราณป่ามาฆ่าท่าน ท่านถูกพราณป่ายิงท่านจากด้านล่างที่พราณนี้ขุดหลุมพรางตัวอยู่ จนล้มลงเจ็บปวดสาหัสจนท้ายที่สุดตายลงไปท่านยังไม่ถือโทษโกรธพยาบาท อันนี้เป็นน้ำใจเป็นวิสัยของพุทธภูมิเมื่อจำเป็นต้องตายก็ตาย เมื่อจะตายใจก็ยังมีแต่เมตตาปราณี ห่วงหาอาวรณ์ห่วงใยในผู้อื่น ฉะนั้นการที่จะทอดทิ้งใครให้ลำบาก แล้วตัวเองเสวยสุขนี่มันแปลกๆสำหรับผม

    ในกรณีอย่างนี้ผมไม่รู้รายละเอียดอะไรมากก็ไม่ขอออกความเห็นมากนักครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ธันวาคม 2014
  5. ซาตานคลอส

    ซาตานคลอส สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +4
    สำหรับผมหากนางแก้วโดนใจ ผมคงตัดใจจากเธอยาก
    เพราะผมรักเดียวใจเดียวรักแล้วรักเลย
    แต่ถ้าไม่รัก จะฆ่าผมให้ตาย ผมก็ไม่รัก
     
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ลองอ่านพระสูตรเรื่องนี้ครับ

    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุณีสาวรูปหนึ่ง ผู้นั่งฟังธรรมระลึกถึงอดีตชาติได้แล้วแสดงอาการเดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีช้างประมาณ ๘,๐๐๐ เชือกมีฤทธิ์เหาะไปในอากาศได้ อาศัยสระฉันททันต์อยู่ในป่าหิมพานต์ครั้งนั้น พระโพธิ์สัตว์เกิดเป็นลูกช้างของช้างหัวหน้าโขลง มีสีขาวปลอด ปากและเท้าสีแดง เมื่อเติบโตขึ้นมีร่างกายใหญ่โตมากกว่าช้างเชือกอื่น ๆ ที่งามีแสงรัศมี ๖ ประการเปล่งประกายออกมา

    อยู่ต่อมาเมื่อบิดาเสียชีวิตแล้ว พระโพธิสัตว์ได้เป็นหัวหน้าช้างแทน มีชื่อว่า พญาช้างฉัททันต์ มีภรรยา ๒ เชือก คือมหาสุภัททาและจุลลสุภัททา วันหนึ่งในฤดูร้อน ป่ารังมีดอกบานสะพรั่ง พญาช้างฉัททันต์ได้พาบริวารไปหากินที่ป่ารัง ใช้กระพองชนต้นรังให้ดอกหล่นลงมา นางช้างจุลลสุภัททายืนอยู่เหนือลมจึงถูกใบรังเก่า ๆ ติดกับกิ่งไม้แห้งมีมดดำมดแดงตกใส่ร่างกาย ส่วนนางช้างมหาสุภัททายืนอยู่ใต้ลมเกสรดอกไม้และใบสด ๆ จึงโปรยปรายใส่ร่างกาย นางช้างจุลลสุภัททาเห็นเช่นนั้นจึงเกิดความน้อยใจว่าสามีโปรดปรานและรักใคร่แต่นางช้างมหาสุภัททา ส่วนตนมีแต่มดดำมดแดงร่วงใส่ จึงผูกความอาฆาตในพญาช้างฉัททันต์

    ต่อมาอีกวันหนึ่ง พญาช้างฉัททันต์เมื่ออาบน้ำในสระเสร็จแล้ว ขึ้นมายืนบนฝั่งขอบสระ มีนางช้างทั่งสองยืนเคียงข้าง ขณะนั้นมีช้างเชือกหนึ่งได้นำดอกบัวมีกลีบ ๗ ชั้นดอกหนึ่งขึ้นมามอบให้พญาช้าง พญาช้างโปรยเกสรลงบนกระพองแล้ว ยื่นดอกบัวให้แก่นางช้างมหาสุภัททา เป็นเหตุให้นางช้างจุลลสุภัททาเห็นแล้วคิดน้อยใจว่า "พญาช้างให้ดอกบัวแก่ภรรยาที่รักและโปรดปรานเท่านั้น ส่วนเราไม่เป็นที่รักที่โปรดปรานจึงไม่ให้" จึงผูกเวรในพญาช้างอีก

    อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันอุโบสถ พญาช้างได้ไปอุปัฏฐากถวายน้ำผึ้งแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า นางช้างจุลลสุภัททาถวายผลไม้แล้วตั้งความปรารถนาไว้ว่า "สาธุ ถ้าดิฉันตายไปแล้วขอให้ไปเกิดเป็นอัครมเหสีของพระราชาผู้มีอำนาจ สามารถฆ่าพญาช้างนี้ได้ด้วยเทอญ" นับแต่วันนั้นนางก็อดหญ้าอดน้ำ ร่างกายผ่ายผอม ไม่นานก็ล้มป่วยตายไปเกิดเป็นธิดาของพระราชาในแคว้นมัททรัฐ เมื่อเจริญวัยแล้ว ก็ได้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าเมืองพาราณสี เป็นที่รักใคร่โปรดปรานมาก ระลึกชาติหนหลังได้ วันหนึ่งจึงทำทีเป็นประชวรไข้หนักบรรทมอยู่ พระราชาเสด็จมาตรัสถามว่า "น้องนางดูนัยน์ตาเจ้าก็แจ่มใส แต่เหตุไรหนอ น้องนางจึงดูโศกเศร้าซูบผมไปละจ๊ะ"

    มเหสี "เสด็จพี่ หม่อมฉันแพ้ครรภ์ ฝันเห็นสิ่งที่หาได้ยากพระเจ้าคุณ แต่ถ้าไม่ได้สิ่งนั้น ชีวิตของหม่อมฉันคงอยู่ไม่ได้เช่นกัน"
    พระราชา "น้องนาง มีอะไรในโลกนี้ที่หาได้ยากบอกพี่มาเถิดจะจัดหามาให้"
    มเหสี "เสด็จพี่ ถ้าจะกรุณาหม่อมฉัน โปรดรับสั่งให้ประชุมนายพรานป่าทุกสารทิศเข้าประชุมกันที่ท้องพระโรง มีนายพรานป่าประมาณ ๖๐,๐๐๐ คนมาประชุมกัน พระเทวีเมื่อพระราชาเปิดโอกาส จึงตรัสว่า "ท่านนายพรานทั้งหลาย ฉันฝันเห็นช้างเผือก ที่งามีรัศมี ๖ ประการ ฉันต้องการงาคู่นั้น ถ้าไม่ได้ชีวิตฉันก็คงอยู่ไม่ได้ ขอให้พวกท่านนำมาถวายเถิด"
    พวกนายพรานทูลว่า "ขอเดชะอาญาไม่พ้นเกล้า ตั้งแต่เป็นพรานมาก็ไม่เคยได้ยินปู่ทวดกล่าวถึงพญาช้างเผือก งามีรัศมี ๖ ประการเลย ขอพระองค์ได้ตรัสบอกที่อยู่ของพญาช้างด้วยเถิดพะยะค่ะ"

    พระเทวีได้ตรวจดูพรานป่่าทั้งหมด เห็นพรานป่าคนหนึ่งชื่อโสณุตระ มีเท้าใหญ่ เข่าโต หนวดดก เคราแดง ตาเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของพรานผู้โหดร้าย จึงมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าแล้วตรัสบอกทิศทางไปว่า "จากนี้ไปทางทิศเหนือ ข้ามภูเขา ๗ ลูก มีภูเขาสูงที่สุดลูกหนึ่งชื่อ สุวรรณปัสสคีรี เจ้าจงขึ้นไปบนภูเขาลูกนั้นมองดูตามเชิงเขา จะเห็นต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งมีกิ่งก้านสาขาหนาทึบมีพญาช้างเผือกเชือกหนึ่งอาศัยอยู่ มีงาสวยงามมาก มีบริวารอยู่มาก เจ้าจงระวังตัวให้ดี พวกมันระวังรักษาแม่แต่ธุลีก็ไม่ให้แตะต้องพญาช้างได้"

    นายพรานเกิดความกลัวตายทูลว่า "ข้าแต่พระเทวี พระแม่เจ้าทรงประสงค์จะฆ่าพญาช้าง เอางามาประดับหรือว่าจะให้พญาช้างฆ่าพวกนายพรานเสียกระมัง"
    พระเทวี "นายพราน..เรามีความริษยาและความน้อยใจเมื่อนึกถึงความหลัง ขอเพียงท่านทำตามคำของเรา จะได้บ้านส่วยเก็บภาษี ๕ ตำบล ไปเถิดอย่ากลัวเลย" พร้อมกับชี้แจงที่อยู่ของพญาช้างให้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น มอบทรัพย์ให้พันหนึ่งแล้วนัดให้มาอีก ๗ วัน แล้วรับสั่งช่างเหล็กให้ทำอาวุธ ช่างหนังให้ทำกระสอบหนังใส่สัมภาระ ในวันที่ ๗ นายพรานโสณุตระเข้าเฝ้าทูลอำลาเข้าป่าไป

    นายพรานปีนยอดเขา ๗ ลูก จนเข้าไปถึงที่อยู่ของพญาช้างเห็นพญาช้างเผือกงามีรัศมี ๖ ประการ ลงอาบน้ำในสระอยู่ เมื่อถึงเวลากลางคืนจึงขุดหลุมสี่เหลี่ยมเพื่อใช้เป็นที่แอบดักยิงพญาช้างในเวลาใกล้รุ่ง คลุมร่างกายมิดชิดด้วยผ้าเหลืองแล้วลงไปยืนถือธนูมีลูกอาบยาพิษแอบอยู่ในหลุมนั้น รอการมาของพญาช้าง

    วันนั้น พญาช้างได้พาบริวารออกหากินตามปกติ เมื่อลงอาบน้ำแล้วก็ขึ้นมายืนบนฝั่งใกล้หลุมนั้น ทันใดนั้นเองก็ร้องขึ้นสุดเสียงเมื่อถูกลูกศรของนายพราน ฝูงช้างได้ยินเสียงร้องของพญาช้างต่างตกใจวิ่งหนีเข้าป่าไป พญาช้างตัวเดียวเหลียวดูที่มาของลูกศรแล้วพลิกกระดานขึ้นเห็นนายพรานเท่านั้น คิดจะจับขึ้นมาฆ่าพอเห็นผ้าเหลืองพันกายนายพรานเท่านั้น ความโกรธก็หายไป ด้วยตระหนักว่า "ผ้าเหลืองคือธงชัยแห่งพระอรหันต์ บัณฑิตไม่ควรทำลาย ควรสักการะเคารพอย่างเดียวโดยแท้" จึงกล่าวเป็นคาถาว่า

    "ผู้ใดยังไม่หมดกิเลส ปราศจากทมะ และสัจจะ ผู้นั้น ไม่ควรจะนุ่งห่มผ้าเหลือง ส่วนผู้ใดคลายกิเลสได้แล้วตั้งมั่นอยู่ในศีลประกอบด้วยทมะและสัจจะ ผู้นั้นแล ควรนุ่งห่มผ้าเหลือง"
    แล้วถามนายพรานว่า "เพื่อนเอ๋ย ท่านยิงเราเพื่อต้องการอะไร เพื่อตนเอง หรือคนอื่นใช้ให้มาฆ่าเรา" นายพรานตอบว่า "พญาช้าง พระนางสุภัททามเหสีของพระเจ้ากาสีกราช ได้ทรงสุบินเห็นท่าน จึงใช้ให้ข้าพเจ้ามาเพื่อประสงค์งาทั้งคู่ของท่าน"
    พญาช้างก็ทราบโดยทันทีถึงการผูกเวรของนางจุลลสุภัททา จึงกล่าวว่า "เพื่อนเอ๋ย พระนางสุภัททามิใช่จะต้องการงาทั้งสอง ของเราดอก ประสงค์จะฆ่าเราเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นก็เชิญเถิดนายพราน จงหยิบเลื่อยมาตัดงาเราขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เถิด"

    นายพรานจึงใช้เลื่อยตัดงาทั้งคู่แล้วรับถือกลับเมืองไป พญาช้างมอบงาให้นายพรานแล้วตั้งจิตอธิษฐานให้ได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณ แล้วตั้งจิตเมตตาให้นายพรานเดินทางกลับเมืองด้วยความปลอดภัย แล้วก็ล้มลงขาดใจตาย

    ฝ่ายนางช้างมหาสุภัททาพร้อมฝูงช้างวิ่งหนีไปได้ระยะทางหนึ่ง เมื่อไม่เห็นศัตรูตามมาก็พากันกลับเห็นพญาช้างสิ้นใจตายแล้ว ก็พากันร่ำไห้คร่ำครวญอยู่ ณ ที่ตรงนั้น ส่วนนายพรานก็นำงาทั้งคู่เข้าถวายพระนางสุภัททาพระนางรับคู่งาอันวิจิตรมีรัศมี ๖ ประการวางไว้ที่พระเพลาทอดพระเนตรดูงาของสามีสุดที่รัก เกิดความเศร้าโศกสลดในอย่างยิ่งทันใดนั้นเองดวงหทัยของพระนางก็ได้แตกสลายสวรรคตในวันนั้นเช่นกัน
     
  7. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ทานบารมี โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง
    <SCRIPT type=text/javascript src="http://connect.facebook.net/en_US/all.js" async="true"></SCRIPT>
    <SCRIPT> window.fbAsyncInit = function() { FB.init({appId: '233132393539', status: true, cookie: true, xfbml: true}); }; (function() { var e = document.createElement('script'); e.type = 'text/javascript'; e.src = document.location.protocol + '//connect.facebook.net/en_US/all.js'; e.async = true; document.getElementById('fb-root').appendChild(e); }()); </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT>
    ทานบารมี นี้ในเมื่อเราความรัก มีความสงสารเป็นปัจจัย ถ้าเราเกลียดแล้วเราก็ให้ไม่ได้เหมือนกัน เพราะเรายังไม่ใช่พระอรหันต์นี่ เวลานี้เรายังบำเพ็ญบารมีอยู่ จะไปเอากำลังใจเท่าองค์สมเด็จพระบรมครู หรือว่ากำลังใจเท่าพระอรหันต์นั้นเป็นไปไม่ได้

    ทีนี้ก็ลองคิดกันดูว่าถ้าเราเกลียดเราจะให้ได้ไหม ไม่ได้แน่บรรดาท่านพุทธบริษัท อย่าว่าแต่สละวัตถุเลย แม้แต่กำลังใจที่คิดจะให้มันก็ไม่มี

    ทีนี้การให้ทาน เราต้องบวกอะไรเข้ามาบ้าง ก่อนจะให้หวังในการสงเคราะห์

    หวังในการเกื้อกูล อาศัยความรักความสงสารเป็นสำคัญ

    ความรักความสงสารเป็นอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน เป็นเมตตาบารมี เห็นหรือยัง นี่เราจะให้ทานแล้วเมตตามันเข้ามาค้ำจุนอยู่ เข้ามาประคับประคอง นี่เป็นสองบารมีเข้าควบกันแล้ว

    ทีนี้คนในเมื่อเมตตาบารมีปรากฏ มีเมตตาแล้ว อะไรมันตามมาอีก บรรดาท่านพุทธบริษัท ตัวเมตตาเกิดขึ้นแล้ว ศีล มันก็ปรากฏเพราะศีลจะมีกับใครได้นั้นต้องมีเมตตาเป็นพื้นฐาน การให้ทานเรามีทั้งเมตตาทั้งกรุณาทั้ง ๒ ประการ คือรักและสงสารในเขา ศีลก็วิ่งเข้ามาช่วย ประคับประคองในทานเข้าไปอีกจุดหนึ่ง

    จากหนังสือ โอวาทหลวงวัดท่าซุง เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๖๖ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_expand><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor></INS></INS>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_2_expand><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_2_anchor></INS></INS>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_expand><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor></INS></INS>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_expand><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor></INS></INS>

    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_expand>
    </INS>


    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_expand><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor></INS></INS>


    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_expand><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; BACKGROUND-COLOR: transparent; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor></INS></INS><IFRAME aria-hidden=true style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" id=fb_xdm_frame_http title="Facebook Cross Domain Communication Frame" src="http://static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter/7r8gQb8MIqE.js?version=41#channel=f144974245eb73&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org" frameBorder=0 allowTransparency name=fb_xdm_frame_http scrolling=no tabindex="-1"></IFRAME><IFRAME aria-hidden=true style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" id=fb_xdm_frame_https title="Facebook Cross Domain Communication Frame" src="https://s-static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter/7r8gQb8MIqE.js?version=41#channel=f144974245eb73&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org" frameBorder=0 allowTransparency name=fb_xdm_frame_https scrolling=no tabindex="-1"></IFRAME>

    <IFRAME style="DISPLAY: none" src="https://www.facebook.com/connect/ping?client_id=233132393539&domain=palungjit.org&origin=1&redirect_uri=http%3A%2F%2Fstatic.ak.facebook.com%2Fconnect%2Fxd_arbiter%2F7r8gQb8MIqE.js%3Fversion%3D41%23cb%3Df107b04cffd75bc%26domain%3Dpalungjit.org%26origin%3Dhttp%253A%252F%252Fpalungjit.org%252Ff144974245eb73%26relation%3Dparent&response_type=token%2Csigned_request%2Ccode&sdk=joey" frameBorder=0 allowTransparency name=f3992a30be22e3 scrolling=no></IFRAME>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ธันวาคม 2014
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ต้นทุนแก้วเล็กที่เมตตาปราณีต่อคนต่อสัตว์ทั่วไปเป็นปกตินิสัย เป็นอีกหนึ่งแก้วที่จะเจียระไนเขาให้หมดจดงดงามอย่างไรก็ได้ในอนาคต

    ส่วนแก้วใหญ่ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงต้นทุนนั้นดีกว่าผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0176.JPG
      DSCF0176.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.6 KB
      เปิดดู:
      114
    • DSCF0207.JPG
      DSCF0207.JPG
      ขนาดไฟล์:
      135.5 KB
      เปิดดู:
      83
    • DSCN0012.JPG
      DSCN0012.JPG
      ขนาดไฟล์:
      190.3 KB
      เปิดดู:
      56
    • DSCN8722.JPG
      DSCN8722.JPG
      ขนาดไฟล์:
      164.1 KB
      เปิดดู:
      81
    • DSCF1472.JPG
      DSCF1472.JPG
      ขนาดไฟล์:
      159.5 KB
      เปิดดู:
      73
    • DSCN5944.JPG
      DSCN5944.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.4 KB
      เปิดดู:
      77
    • DSCN6113.JPG
      DSCN6113.JPG
      ขนาดไฟล์:
      153.6 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSCN6115.JPG
      DSCN6115.JPG
      ขนาดไฟล์:
      147.3 KB
      เปิดดู:
      55
    • DSCN6213.JPG
      DSCN6213.JPG
      ขนาดไฟล์:
      147.4 KB
      เปิดดู:
      87
    • DSCF1339.JPG
      DSCF1339.JPG
      ขนาดไฟล์:
      99.5 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSCF1337.JPG
      DSCF1337.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.2 MB
      เปิดดู:
      102
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ธันวาคม 2014
  9. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    อีกสักชุดกับแก้วเล็ก หมาในซอยที่เราขับรถผ่านไปผ่านมาเวลาไปทำงาน ตัวเองเมตตาปราณีต่อสัตว์เอง ยังไม่พอ ยังจะมาบังคับให้ผมต้องเมตตาไปด้วย ต้องไปช่วยทำกระท่อมกันแดดกันฝนให้หมา ทำมันกระทั่งร้านให้หมานอนเล่น บังเอิญว่ามันมีวัตถุดิบแถวนั้นเลยพอหามาทำให้พี่หมาเขาได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN3357.JPG
      DSCN3357.JPG
      ขนาดไฟล์:
      212.9 KB
      เปิดดู:
      83
    • DSCN3358.JPG
      DSCN3358.JPG
      ขนาดไฟล์:
      230.1 KB
      เปิดดู:
      95
    • DSCN3359.JPG
      DSCN3359.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.7 KB
      เปิดดู:
      70
    • DSCN3393.JPG
      DSCN3393.JPG
      ขนาดไฟล์:
      179.6 KB
      เปิดดู:
      47
    • DSCN3394.JPG
      DSCN3394.JPG
      ขนาดไฟล์:
      194 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSCN3532.JPG
      DSCN3532.JPG
      ขนาดไฟล์:
      212.4 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSCN3534.JPG
      DSCN3534.JPG
      ขนาดไฟล์:
      134.2 KB
      เปิดดู:
      49
    • DSCN3712.JPG
      DSCN3712.JPG
      ขนาดไฟล์:
      236.9 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSCN3823.JPG
      DSCN3823.JPG
      ขนาดไฟล์:
      203.4 KB
      เปิดดู:
      53
    • Recoverd_jpg_file(392).jpg
      Recoverd_jpg_file(392).jpg
      ขนาดไฟล์:
      224.9 KB
      เปิดดู:
      59
    • Recoverd_jpg_file(397).jpg
      Recoverd_jpg_file(397).jpg
      ขนาดไฟล์:
      212 KB
      เปิดดู:
      64
    • DSCN3409.JPG
      DSCN3409.JPG
      ขนาดไฟล์:
      172.3 KB
      เปิดดู:
      60
    • DSCN3411.JPG
      DSCN3411.JPG
      ขนาดไฟล์:
      201.5 KB
      เปิดดู:
      69
    • DSCN3360.JPG
      DSCN3360.JPG
      ขนาดไฟล์:
      169.5 KB
      เปิดดู:
      57
  10. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    นี่เป็นอีกภาพหนึ่งที่ทั้งสองแก้วไปทำบุญกลับมา แล้วพากันไปเยี่ยมหลุมฝังศพของคุณดาวอุทิศส่วนกุศลให้ หมากำพร้าแม่พิการขาหลังไม่มีแรงที่เก็บเอามาเลี้ยงไว้สิบกว่าปี จนแก่เฒ่าแล้วตายจากไป เขาจัดงานศพเอาซะเท่ากับที่ผมเคยจัดให้กับคน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN4744.JPG
      DSCN4744.JPG
      ขนาดไฟล์:
      139.4 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ธันวาคม 2014
  11. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ตัดใจจากนางแก้วอย่างไร
    ก็ต้องตัดราคะ หรือไม่ก็ตัดจู๋ช่วยโลกไปเลย
     
  12. tutong

    tutong เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +236
    เอาไว้ก็มีแต่ปัญหาเน๊อะ แต่จะกลายเป็นขันทีน่ะซิ

    :cool:
     
  13. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เมื่อเป็นขันทีแล้วทีนี้มันจะเป็นยังไง แล้วจะช่วยโลกได้อีท่าใหน?
    แลัวผู้หญิง เขาจะตัดอะไร?

    ราคะ ที่แปลตามธัมมะว่าความรัก รักในคน ในสัตว์ ในวัตถุสิ่งของ อันนี้พอจะเข้าใจ พอจะรู้วิธีตัดวิธีวางเมื่อถึงเวลาครบสิบหกอสงไขย กำไรอีกแสนกัป เมื่อถึงเวลานั้นผมก็จะแอบหนีน้องนางแก้วทั้งหลายของผมไปบวช

    ชาตินี้ก็เคยซ้อมๆไว้มั่งแล้วละเรื่องการหนีเมียไปบวชนี่

    แต่ที่ว่าตัดอย่างอื่นแบบขันทีแล้วทำให้ ราคะความรัก โลภะความโลภ โกรธะความโกรธ โมหะ ความหลง มันจะลดลงนี่ไม่ค่อยเข้าใจ

    ที่ไม่เข้าใจเพราะหลักสูตรพุทธภูมิบังคับกำลังให้ ทำใจให้พยายามมีความรักในคน ในสัตว์ ในสิ่งของ ตำราบอกว่าต้องทำใจให้ได้ ที่จะต้องรักคนอื่นมั่วทั่วไปหมด แบบพรหมวิหารสี่ แล้วยังบังคับอีกให้เป็นแบบอัปปะมัญญาคือไม่มีประมาณ รวมทั้งต้องพยายามขนาดหนักที่จะต้องทำใจอย่างองค์สมเด็จท่านที่ท่านทรงรักเมตตาปราณีเทวทัต ให้เท่ากับรักพระราหุล นี่กำลังพยายามเอาเป็นเอาตายมันยังรักใครไม่ค่อยจะลง

    พอรักชาวบ้านเขาเต็มหลักสูตรค่อยว่ากันเรื่องการสละของที่รัก ทั้งเลือด ทั้งเนื้อสัน ทั้งเนื้อติดมันสามชั้น แล้วอื่นๆจิปาถะ ที่เป็นของในกาย ส่วนของนอกกายที่จะต้องสละนั้นมันก็สละกันเรื่อยทางไปจนถึงที่สุดเข้าสักวัน แต่ว่าสำหรับผมมันเพิ่งอนุบาลหนึ่ง ในเป้สะพายหลังพี่เลี้ยงต้อง Spare ขวดนมให้สำหรับไปโรงเรียนอยู่เลย

    มันเลยฟังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการตัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ธันวาคม 2014
  14. tutong

    tutong เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +236
    ตัดใจจากนางแก้วอย่างไง ผมว่าเจ้าของกระทู้อยากตัดใจผู้หญิงที่คุณรู้สึกชอบ(หรือรัก)หรือมีความสิเน่ห์หากับเธอผู้นั้นถามใจตัวเองก่อนเถอะว่ารักเขาเพราะอะไรถ้าคุณรักเพราะรูปกายที่คุณคิดว่าน่าพิศมัยเห็นแล้วเกิดอารมณ์เพศ ให้คุณใช้อสุภกรรมฐานคือมองรูปกายนั้นๆให้เห็นเป็นศพเดินได้จนเรารู้ว่าเขาต้องตายและเป็นผงธุลีเขาสักวันหนึ่งซึ่งไม่ต่างอะไรกับร่างกายของคุณ(เท่านี้คุณก็จะเริ่มทำใจได้) และถ้ากล่าวกันไปแล้วคุณจะเริ่มเบื่อหน่ายร่างกายที่คุณออาศัยมันอยู่คุณก็ควรเดินเข้าหานิพพิทาญาณและสังขารุเปกขาญาณซึ่งเป็นวิปัสสณาญาณที่ควรฝึกคู่กัน
    เพราะถ้ามีแต่นิพพิทาญาณ(ความคำนึงด้วยความเบื่อหน่าย)แล้วไม่ฝึกสังขารุเปกขาญาณ(วางเฉยในขันธ์5)นี้หลวงพ่อฤๅษีฯวัดท่าซุงท่านบอกว่าเดี๋ยวจะฆ่าตัวตายกันซะก่อน วางเฉยยังไงหิวเฉยไม่กินเหรอ ปวดหนักปวดเบาเฉยเหรอ ไม่ได้ถ้าหิวก็กิน ปวดห้องน้ำก็ไปขับถ่าย ป่วยก็รักษา แต่ต้องตั้งกำลังใจว่า ตายแล้วเลิกกันไอ้ร่างกายแบบนี้ไม่อยากมีมันอีก มุ่งนิพพานเกาะนิพพานเข้าไว้ แต่ไม่ทิ้งทั้งนิพพานและพระโพธิญาณ(สำหรับผู้ปรารถนาพุทธภูมิ)
     
  15. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    พูดจริงกระทู้นี้ผมผ่าน อ่านบ้างแต่ไม่สนใจ

    แต่สะดุดตาทุกครั้งที่เปิดมาแล้วเห็น(มีการดันกระทู้อยู่แถวบน)

    วันนี้มีเวลาว่างเลยเปิดเข้ามาอ่านคร่าวๆ แล้วแสดงความคิดเห็น

    ถ้าจะให้วิเคราะห์ พระโพธิสัตว์ท่านไม่ตัดนางแก้วหรอกครับ ถ้าเธออธิฐานเป็นนางแก้วจริง
    เพราะนางแก้วจะเป็นผู้ช่วยพระโพธิสัตว์สร้างบารมี
    ถ้าจะมี ก็มีนางแก้วเองแหล่ะครับที่เป็นคนตัด ไม่ใช่พระโพธิสัตว์

    ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล หรือสาเหตุปัยจัยอะไรก็ตาม ก็พอจะยกตัวอย่างได้ เช่น มีหญิงมากกว่า 1 คน ที่ขออธิฐานเป็นนางแก้วของพระโพธิสัตว์องค์ใดองค์หนึ่ง เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ว่ากันไปตามบุญกุศล ตามบุญวาสนา ตามเหตุปัจจัย ว่าหญิงคนไหนจะขอสละ ขอตัดจากพระโพธิสัตว์ ซึ่งก็จะเหลือนางแก้วตัวจริงอยู่คนเดียว และกว่าจะมาเป็นนางแก้วตัวจริงนี้ได้ต้องไม่ธรรมดา กำลังใจ เข้มแข็ง เต็มเปี่ยม ไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ

    ดังนั้น พระโพธิสัตว์ ท่านไม่ตัดนางแก้วหรอก ถ้าเป็นนางแก้วตัวจริง แม้ว่านางแก้วตัวจริงจะถูกชายอื่นแย่งไป(ไม่ได้หมายว่านางแก้วนอกใจ หรือมีชู้นะครับ เพราะนางแก้วตัวจริงกำลังใจท่านเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว)

    เมื่อนางแก้วตัวจริง ถูกชายอื่นแย่งไป จะด้วยเล่ห์เพทุบายอะไรก็ตาม พระโพธิสัตว์ก็ไม่ตัด ยังรัก แต่ต้องทำใจ
    1. คิดเป็นกรรมของนางแก้ว
    2. ให้นางแก้วเป็นทาน
    ถ้าพระโพธิสัตว์ที่บารมีอ่อน ก็คงไปแย่งคืน ถึงขั้นประทุษร้าย ทำลายร้าง ยกทัพ จับศึก

    ถ้าเชื่อได้เลย นางแก้วตัวจริง ย่อมมีศีล มีธรรม มีบารมี ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครอง ไม่เสียตัวให้ชายอื่นได้ง่ายๆ
     
  16. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402

    อนุโมทนาและเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคะ กรณีดั่งกล่าวข้างต้น
    ที่กล่าวไว้นี้ เพียงแต่เป็นความรู้สึกที่ตนเองรู้และสัมผัสมาว่า

    ผู้ที่เป็นนางแก้วต้องมีความซื่อสัตย์ และจงรักภักดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ
    การทุ่มเทเสียสละในการช่วยเหลือการงาน การยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ท่าน
    นั้นประสบความสำเร็จ หัวใจของนางนั้น ไม่สามารถจะแบ่งปันใจให้เป็นสอง
    ได้ในคราวเดียวกัน อย่าว่าต่อหน้กันเลย นางนั้นต้องมีความซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้า
    และลับหลัง นี่คือหัวใจส่วนหนึ่งของนางเท่านั้น

    ไม่ว่าตัวพระโพธิสัตว์เอง หรือ ตัวนางแก้ว ทุกคนต้องเจอบททดสอบ โดยเฉพาะ
    นางแก้ว ต้องเจอบททดสอบเรื่องหญิงอื่น พระโพธิสัตว์ต้องช่วยให้นางผ่านด้วย
    แต่ด้วยธรรมดา ท่านสร้างสมบารมีมามากมายกับนางต่าง ๆ ย่อมเป็นธรรมดา
    ที่ต้องมีกรรมสัมพันธ์ร่วมกันมา ผู้ที่เป็นนางแก้วต้องเข้าใจเรื่องนี้ ย่อมไม่มี
    การหึงหวง ย่อมเข้าใจ แต่พระโพธิสัตว์ หรือ ใครก็ตามย่อมเลือกคนที่ดีที่สุด
    เลือกคนที่เหมาะสมกับตนเอง จึงมีตัวเลือก บางครั้งก็เกิดทำร้ายจิตใจผู้หญิง
    อีกคนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะต้องรักษาน้ำใจคนที่ตัวเองคิดว่าเหมาะกับตัวเองไว้ก่อน
    แล้วผู้หญิงอีกคนหนึ่งละ ยอมรับในสิ่งที่ท่านเลือก ยอมเสียสละให้ และ
    ความเหมาะสมในส่วนรวมอีกหลายอย่างที่ส่วนรวมเป็นผู้ต้องการ และอีกปัจจัย
    หลายอย่าง ทั้งความเข้าใจ ความไปด้วยกันได้ ฯลฯ

    ระหว่างการสร้างบารมี ทุกคนต่างยังมีกิเลส ยิ่งเป็นบารมีต้นด้วยแล้ว
    การหมุนเวียนเปลี่ยนคู่ในการสร้างบารมี ย่อมอาจเกิดขึ้นได้ จนกว่าจะ
    เจอคู่ที่เหมาะสมกันอย่างแท้จริง

    แต่ตอนนี้คิดว่าตนเองเลิกปราถนาแล้วคะ เพราะทำใจยอมรับไม่ได้เรื่อง
    เป็นแค่ตัวเลือก ถามว่านางแก้วคิดอย่างนี้ได้ไหม ถ้าใครคิดอย่างนี้
    เป็นนางแก้วไม่ไดคะ เพราะนางเห็นหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของท่าน นาง
    มีความยินดีที่จะช่วยเหลือ แต่ระหว่างเดินทางนั้น ต้องเดินไปอย่าง
    ใจแห้งแล้ง ก็คงไม่มีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคหรอกคะ

    และที่สำคัญเลยนะคะ คุณสมบัติของท่าน กับ คุณสมบัติของนางแก้ว
    ต่างกันมากไหม ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้เดินกันไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง

    ไม่โทษใคร เพราะคุณสมบัติเรายังไม่ดีพอ ก็เลยถอนปราถนา แต่ถ้า
    ได้มีโอกาสช่วยคน ก็จะช่วยตามที่โอกาสช่วยได้ แตถ้า.........

    ขออนุโมทนากับผู้ที่ควรแก่กัน และได้พยายามประคับประคองกันไปถึงฝั่ง
    พร้อมกับช่วยเหลือผู้อื่นไปด้วย อย่างน้อยบางคน บางคู่อาจจะไม่ถึงสิ่งที่ฝัน
    ก็ยังได้ชื่อว่า พากันไปบนเส้นทางพ้นทุกข์ ขออนุโมทนาด้วยใจจริงคะ
     
  17. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559

    สาธุ ครับ

    พระโพธิสัตว์เอง ก็ควรมีสติ มีสัจจะ จิตใจมั่นคงหนักแน่น รักเดียวใจเดียว ไม่ทำร้ายจิตใจนางแก้ว




    สาธุ ครับ

    รู้สึกว่าพระโพธิสัตว์จะเจ้าชู้นะ มีหญิงให้เลือกเยอะ

    พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ ที่มีภรรยามากมาย เมื่อมาเกิดร่วมชาติกับภรรยาต่างๆในอดีต ย่อมมีกระแสกรรมผูกพัน พบเห็นย่อมรักใคร่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีเพศสัมพันธ์กับพวกเธอในชาตินี้อีก จะเป็นการต่อเวรต่อกรรมกันไปอีก ไม่ควรเปิดใจ ให้ความหวัง ไม่ควรรับพวกเธอทั้งหลายเข้ามาเป็นตัวเลือก เพราะเมื่อเธอไม่ได้ถูกเลือก บางคนอาจผูกอาฆาตพยาบาท ควรจะสงเคราะห์ให้ความช่วยเหลือตามกำลังความสามารถ ตามเหตุตามปัจจัย กรรมก็จะจัดสรรให้หลุดพ้นกัน โดยเธออาจจะพบคู่คนใหม่

    เหตุที่กล่าวเช่นนั้น ก็เพราะว่า ถ้าหากพระโพธิสัตว์ยังประพฤติตัวเจ้าชู้ ให้ความรัก ให้ความหวังกับทุกคน นอกจากจะเป็นการสร้างบาป สร้างเวรสร้างกรรมแล้ว ยังทำให้การเจริญบารมีพระโพธิญาณไม่ก้าวหน้า

    กรรมเท่านั้นจะจัดสรรให้ลงตัว ถ้าไม่ทำกรรมชั่วอีก (กรรม คือ กรรมดี กรรมชั่ว)

    ศึกษาพุทธภูมิให้ลึกจะพบว่า การมีเพศสัมพันธ์กับหญิง ถือเป็นการสร้างเวรสร้างกรรม ถ้าจะรักใครหรือมีเพศสัมพันธ์กับหญิงใด ต้องเป็นนางแก้วตัวจริงเท่านั้น

    เพราะถ้าหากพลาดพลั้ง ขาดสติ ไปมีเพศสัมพันธ์กับหญิงคนใด หรือ กับหญิงหลายๆคน แล้วไม่เลือกเธอ นอกจากจะเป็นการสร้างเวร สร้างกรรม ทำร้ายจิตใจเธอ ยังทำผิดศีลข้อ 3 อีกด้วย



    ผมเห็นว่า หากยังเปลี่ยนคู่บ่อยๆในชาตินี้ ชาติหน้าก็ต้องเปลี่ยนคู่กันต่อไปอีก เพราะได้สร้างกรรมกันไว้
    การเปลี่ยนคู่แต่ละครั้ง ย่อมทำให้เกิดความทุกข์เศร้า เป็นการทำร้ายจิตใจ สร้างเวรสร้างกรรม สร้างความพยาบาท
    ดังนั้น ไม่ควรจะมีเพศสัมพันธ์กันง่ายๆเกินไป
    สิ่งที่จะปกป้องคุ้มครองก็คือศีลธรรม
    ศีล ก็คือ ศีล 5 โดยเฉพาะศีลข้อ 3
    ธรรมที่ควรนำมาพิจารณา ได้แก่ หิริโอตัปปะ(ความละอายและความเกรงกลัวต่อบาป) สติสัมปชัญญะ(ความระลึกรู้ตัว)

    กรรมที่จะช่วยลดการเสพสังวาสในแต่ละชาตินั้น ก็คือ การประพฤติพรหมจรรย์ ถือเนกขัมมะ ออกบวช

    บัณฑิตทั้งหลาย จึงกล่าวว่า การประพฤติพรหมจรรย์นั้น มีคุณมาก

    แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนออกบวช ถ้าอยู่ครองเรือนมีคู่ครอง ขอให้มีผัวเดียวเมียเดียว รักเดียวใจเดียว ไม่นอกใจกัน

    ดังนั้น ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ให้ใช้สติ ใช้ปัญญา มีศีลธรรมนำหน้า ไม่ใช่ใช้ตัณหาความใคร่นำหน้า

    กระทู้นี้ เขียนก็หวังให้มีเด็กวัยรุ่น เข้ามาอ่านมากๆ

    เจริญธรรม
     
  18. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ตัดใจไม่ยากเพียรสัมมาปฎิบัติ
    เราไม่ข้อง เราไม่เกี่ยว เราไม่หลง (โลภ โกรธ หลง)
    เราไม่ขออยู่ในโลกเวียนวน
    เจริญจิตภาวนาหลุดพ้น ไปยากอะไร!
     
  19. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ขอเสนอวิธีตัดใจดังนี้ครับ
    จิตเป็นธาตุสำเร็จ ดังนั้นหากเกิดมีการส่งกระแสจิต ถึงนางแก้วหรือนางอะไรก็ตาม ให้เรารีบตัดกระแสจิตนั้นทิ้งแล้วดึงจิตเข้าไปภายในตัวเราเอง
    และควรทำภาวนาในสิ่งที่ตัวเราถนัดควบคู่ไปด้วย จะดีเยี่ยมเลยหากใช้อสุภะภาวนา
    ทำแบบนี้ทุกครั้งที่มีการส่งกระแสจิต ถึงนางแก้วหรือนางอะไรก็ตาม ทำจนติดเป็นนิสัย
    หากทำได้แบบนี้ อย่างเร็ว 7 วัน อย่างกลาง7เดือน อย่างช้า 7 ปี (แล้วแต่กรรมที่กระทำเกี่ยวเนื่องกันมาว่ามีมากหรือน้อย) ตัดขาดแน่นอน
    อาจจะได้ผลของสมาธิจิตเป็นของแถมอีกด้วย
     
  20. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ขอคุยด้วยนะ อันที่จริงแล้วถ้าเราปรารถนาจะช่วยเหลือสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ให้พ้นไปเสียจากกองทุกข์ทั้งปวง

    มันไม่ต้องตัดใจอะไรนะ มันมีแต่จะต้องผูกใจกันเข้าไว้ คำว่าผูกใจหมายถึง มีความเมตตา กรุณา ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทีนี้มาเรื่องของนางแก้ว หรือว่าคู่บุญคู่บารมี คือว่าเขามีความชื่นชอบ มีความรัก ความศรัทธาในความดีของเรา ตั้งอกตั้งใจ ติดสอยห้อยตามเราไปทุกภพทุกชาติ หรือว่าจะหลายชาติก็ตาม (อาจจะไม่ทุกชาติ)

    เมื่อนางแก้ว เขาตั้งใจติดตามเราไป แล้วจะไปตัดใจจากเขาเพื่ออะไร มีแต่จะต้องรักเขา สงเคราะห์เขาให้มาก ๆ เพราะท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายก็คือ ช่วยเหลือนำพา สรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้พ้นไปเสียจาก การ เวียน ว่าย ตาย เกิด ในวัฏฏะสงสาร

    ไม่มีคำว่าตัดใจนะ มีแต่จะผูกใจให้มากขึ้น ยิ่งผูกใจกันมากเท่าไร ความทุ่มเท ความเสียสละ ก็จะมีมากเท่านั้น ด้วยเพราะว่า ต้องการให้เขาพ้นทุกข์ในที่สุด

    พระโพธิญาน เป็นเรื่องของความรัก ความเมตตา ความผูกพันธ์ ก็เพราะว่ามีเมตตา นี่เอง เป็นต้นกำเนิด ของพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...