เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    พระคุณนั้นล้นเหลือพรรณนา

    สุรีรัตน์ มหินทรเทพ (เปล่งขำ)

    เรื่องของคุณสุรีรัตน์ในหนังสือลูกศิษย์บันทึกยาวพอสมควรเลยขอเอามาลงแค่ 2 หัวเรื่องนะครับ


    เจอยันต์เกราะเพชรสุนัขกัดไม่เข้า
    ไหนๆ ก็พูดถึงหมาแล้วก็ขอเล่าเรื่องหมาอีก ๒ เรื่อง ดังที่เคยกล่าวในตอนต้นว่าได้เอาหมาเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรด้วย ในปี ๒๕๒๗ ขณะนั้นสามีประจำอยู่โรงพักลุมพินี แล้วละแวกนั้น ก็มีหมาอันธพาลจอมเกเรอยู่ ๑ ตัว ได้เที่ยวไล่กัดคนเขาไปทั่ว จนเจ้าของเดือดร้อนมากต้องนำไปล่ามไว้ นานๆ ก็ปล่อยซะที เพราะความสงสารมัน ซึ่งเราก็เข้าใจนะ ทีนี้บังเอิญ คืนหนึ่งซัก ๔ ทุ่มแล้วนะ

    ประมาณเอาก็ลงมาซื้อก๋วยเตี๋ยวทานกัน ๒ คน ทุกทีสามีจะเป็นคนลงมาซื้อ วันนั้นอย่างไรไม่รู้ข้าพเจ้าอาสาลงมาเอง (ที่พักมันเป็นแฟลต) ในตัวข้าพเจ้ามันมีกลิ่นหมาติดแน่ๆ หมาด้วยกันมันย่อมดมกลิ่นออก พอพ่อจอมเกเรเห็นเท่านั้นแหละ ท่านไม่ฟังอีร้าค่าอีรมอะไรเลย ท่านตรงรี่เข้ามากัดข้าพเจ้า งับที่ข้อขา (ตรงเส้นเลือดใหญ่ด้วยนะ) อย่างไม่ทันตั้งตัว ข้าพเจ้าก็ช็อคนะซิ

    ช็อคของข้าพเจ้าคือเงียบ คนโน้นคนนี้ ก็ร้องโว้ยว้าย ข้าพเจ้าเงียบ (ที่เงียบนะช็อคน่ะ) รู้สึกถึงแรงกดของเขี้ยวที่ข้อขาได้เป็นอย่างดี (เขี้ยวนะใครจะไม่รู้สึกใช่มั้ย) สัก ๒ นาทีมันก็คลายเขี้ยวออกเฉยๆ แฮะ ข้าพเจ้าก็งง (แต่มันจะงงด้วยรึเปล่าไม่รู้นะลืมถามมันไป) พวกแม่ค้าก็พากันอาสาจะมาส่งข้าพเจ้าบนห้อง ข้าพเจ้าฝืนยิ้ม บอกไม่เป็นไร กลับเองได้ แต่จำได้แม่น ข้าพเจ้าเดินร้องไห้ จากชั้น ๑ ยันชั้น ๔

    จนถึงห้องพัก แฟนดูแผล เห็นเป็นรอยบุ๋มของเขี้ยวชัดเจน แจ่มใส เธอก็จะให้ไปฉีดยากัน ข้าพเจ้าก็ไม่เอา ก็ถ้าฉีดก็ตั้ง ๑๔ เข็มแน่ะ เรื่องอะไรจะไปฉีด ก็เขี้ยวมันไม่เข้านี่นา รุ่งเช้าเดินไปที่ไหนก็รู้กันทั่ว ตั้งแต่นายสิบยันสารวัตรว่า ข้าพเจ้าถูกหมากัด (เติมให้เสร็จ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันกัดใช่ แต่ไม่เข้าจ๊ะ) ส่วนอีกหมา นี่เหตุการณ์อยู่ในปี ๒๕๓๑ ตอนนี้ท้องได้ ๔ – ๕ เดือน หรือ ๖ เดือนราวๆ นี้แหละ

    ตอนนี้การปฏิบัติอะไรทางธรรมแจ่มชัดขึ้นมาหน่อย จิตมันคุมสมาธิตลอดโดยการภาวนาพุทธะมะอะอุ ฯลฯ บ้าง สัมปะติจฉามิ บ้าง จิตที่ถูกควบคุมให้อยู่ในสมาธินี่ จะต่างกับจิตที่เราปล่อยมันตามสบายนะ มันมีข้อเปรียบเทียบดังตัวอย่างนี้ ตอนนั้นเด็กที่บ้านมักบ่นให้ฟังเสมอๆ ว่า “เวลาไปซื้อของถูกหมาบ้านนี้ ๕ – ๖ ตัว วิ่งไล่กัด เขี้ยวคมด้วย” ข้าพเจ้าก็บอก “มันไล่กัดเราก็ปั่นจักรยานหนีซิ”

    เธอก็บอก “ขนาดปั่นมันก็ยังมากัดที่ขาเลย บางทีมาทั้งกลุ่ม” เธอก็ให้ดูแผลนะ ก็ไม่ติดใจอะไร แต่ฟังหนักๆ เข้าทุกวัน ก็อยากเห็นจัง เอ..ไอ้เจ้าพวกนี้มันพันธุ์อะไรนะ เย็นวันหนึ่งให้เธอไปซื้อของแล้วบอกว่าจะยืนรอเธอเป็นเพื่อน ซึ่งหากหมากัดเธอจริงๆ ก็ยังไม่รู้เลยว่า จะช่วยเธอยังไง คิดตอนนั้นแต่ว่าจะยืนให้กำลังใจเธอ ที่นี้ยืนคอยเธอ เธอก็ไปนานซักหน่อย เลยค่อยๆ เดินเรื่อยๆ จากบ้านมา

    ซึ่งตอนนั้นทุกขณะจิตถ้าว่างจากพูดคุยกับใคร จะภาวนาตลอด (ขณะพูดอยู่ยังกำหนดภาวนาไม่ได้) ก็เดินผ่านมาได้สัก ๑๐ เมตรกว่า ก็เห็นหมาตัวเล็กๆ เตี้ยๆ ดำๆ เขี้ยวแหลมเล็กๆ ๕ – ๖ ตัว หรือกว่านะ เพราะก็ฝูงใหญ่เหมือนกัน เห่าข้าพเจ้าใหญ่พยายามลอดรั้วบ้านออกมา ข้าพเจ้าหันไปมองตามเสียงเห่าก็เห็นมันกำลังตะเกียกตะกายลอดออกมา ก็มองด้วยความตลก นึกว่าช่างซนกันนัก

    ซึ่งความรู้สึกอันนี้มันกลายเป็นความเมตตาไปโดยเราไม่รู้แทนที่จะโกรธหรือกลัว กลับเอ็นดูในความซนของมัน เลยไม่ทันรู้ตัวว่า พวกหนุ่มๆ หมาทั้งฝูงวิ่งกวดข้าพเจ้าตามมาสุดฝีเท้า ตอนนั้นภาวนา “สัมปติจฉามิ” ตลอดตั้งแต่เช้า จนขณะนั้น เย็น ก็ยังภาวนาไปปกติ ก็เอ๊ะ ได้ยินเสียงวิ่งตามอยู่ข้างหลัง ก็เลยหันหลังมามอง ในตอนนี้หละที่รู้ว่า มันวิ่งกันสุดฝีเท้าก็เพราะ

    พอข้าพเจ้าหันไปมอง (ขอเน้น “มองเฉยๆ” นะ) พวกมันทั้งกลุ่มเบรคกึ๊ก หันหลังหางจุกตูดวิ่งหนีเข้าบ้านไปเลย แถมร้องอีกด้วย ข้าพเจ้าก็สงสารนะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่มองเฉยๆ นึกได้ ขณะนั้นกำลังภาวนา “สัมปติจฉามิ” อยู่ เลย อ๋อ อย่างนี้นี่เองอยากให้คนอ่านนึกภาพเห็นตอนมันเบรก ร้องอิ๋งๆ จังเลย มันตลกและน่าสงสาร ซึ่งในข้อนี้อยากเปรียบเทียบให้อ่านในเรื่องของสติ

    หากเรารู้เท่าทันและคุมมันไว้ได้โดยการหางานให้มันทำ จะภาวนาอะไร บทพุทธคุณ บทไหน ได้ทั้งนั้น มันจะเป็นพลังลึกลับที่สะสมไว้ได้มากน้อยก็ตามแต่ผู้สะสม เปรียบดังนักมวยที่หมั่นฝึกซ้อม ย่อมมีพละกำลังที่แข็งแรง พร้อมที่จะน็อคคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา ข้าพเจ้าตอนนี้ ปัจจุบันที่กำลังเขียนนี้ไม่ได้คุมสติ หรือคุมก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร ผลคือเวลาขี่จักรยาน ลูกก็นั่งซ้อนด้านหน้า พอเจอหมาเป็นฝูง

    ยิ่งตัวใหญ่สัก ๒ – ๓ ตัว มันวิ่งไล่กัด ขานี้สั่นแล้ว อิติสุคะโต พุทธะมะอะอุ หลวงปู่ปาน, หลวงพ่อสด ก่อนหลังปนกันหมด หลังงี้เสียววาบๆ ว่ามันตามอยู่อีกมั้ย มันใกล้จะกัดขาเรามั้ย จิตมันขาดสมาธิก็เป็นอย่างนี้แหละ แต่คาถาทุกคาถาที่หลวงพ่อท่านมอบให้ลุกหลานและศิษย์ทุกคน ท่านได้มาจากองค์สมเด็จฯ ฉะนั้น ขอยืนยัน นอนยัน นั่งยันด้วยเอ้า ว่าหากท่านนำไปใช้ด้วยความเคารพ ผลนั้นประมาณมิได้จริงๆ



    เบรคแตกกับเกือบรถคว่ำ

    เช้าวันนั้นหกโมงเช้า จำไม่ได้ว่าจะเอารถออกไปทำอะไร เพราะยังไม่เปลี่ยนชุดนอน ก็ลงมาเอากุญแจไขรถ ขณะที่ไขนั้น ข้าพเจ้าภาวนา คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าของหลวงปู่ปานกับหลวงพ่อสดอยู่ตลอดสลับกัน ขึ้นขับก็ภาวนาตลอดทุกลมหายใจเข้าออก รถน้ำมันเบรครั่ว ข้าพเจ้าไม่ทราบ ออกจากบ้านได้นิดเดียว วิ่งอยู่ทางโท จะเลี้ยวซ้ายไปทางเอก เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ชั่วนาทีนั้น

    รถเบรกไม่อยู่ ข้าพเจ้ารีบลดเกียร์ด้วยความตกใจ แต่ปรากฏเบรกแตก นาทีนั้นรถกำลังจะพุ่งออกทางเอก ซึ่งคงพอหลับตาเข้าใจว่า ถนนใหญ่นั้นจะมีรถวิ่งสวนไปมา ผู้คนเดินไปทำงานกันพลุกพล่าน จะมัวรอคิดโน่นคิดนี่ก็ไม่ทัน แต่การภาวนาทำให้เรามีสติคิดในตอนนั้นขึ้นมาทันที ว่าระหว่างเสาไฟฟ้ากับรั้วหนามกั้นบ้าน เราจะเลือกชนอะไรที่เจ็บน้อยที่สุด เพราะเราหยุดรถไม่ได้จริง

    แต่เราเบนทิศทางให้เสียหายน้อยที่สุด มันเหลือเชื่อ ทางเอกนั้นชั่วขณะที่รถข้าพเจ้าเบรกแตก มิมีรถ หรือคนวิ่งสวนไปมาเลย เมื่อตัดสินใจเลี่ยงเสาไฟ เอารถเข้ารั้วหนามซึ่งติดต้นไม้ รถมันวิ่งต่อไปไม่ได เครื่องจึงดับ ช็อคเลย นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในชีวิต รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดถาม “เอ้า พี่เข้าไปทำอะไรในนั้น” “เปล่า รถมันเบรกแตก”

    ข้าพเจ้าตอบ แล้วก็ช่วยๆ กันเอารถออกจากตรงนั้น ข้าพเจ้ายกมือไหว้หลวงปู่ปาน ท่านผู้มีคุณทั้งปวง และเจ้าที่เจ้าทางตรงนั้นอย่างไม่อายใคร และทุกครั้งที่ขับรถผ่านถนนเอกตรงนั้นทุกครั้ง จะยกมือไหว้ขอบพระคุณตลอด ไม่มีหรอกที่จะโชคดีอย่างนี้ ถ้าท่านไม่ช่วยจัดคนและรถให้ ทางเอกก็รู้ๆ กันอยู่ ยิ่งเช้าๆ จะมีคนเดินไปทำงานและรถก็วิ่งตลอด หลับตานึกภาพแล้วเสียวหากชนคน

    เราก็หยุดรถได้ แต่เบรคแตกนี่จนปัญญา ชนแล้วอัดทับจนเละตุ้มเป๊ะ หลับตาก็เห็นแต่ตะรางรออยู่ หลังจากที่ช่างตรวจแล้ว น้ำมันเบรกรั่วออกหมด ข้าพเจ้ารอดพ้นจากภัยวิบัติครั้งนี้อย่างปาฏิหาริย์ทีเดียว ด้วยบารมีแห่งหลวงปู่ปาน เพราะข้าพเจ้าภาวนาคาถาพระปัจเจกตลอด เรื่องรถเกือบคว่ำนี้ มันต่างกับเบรกแตกตรงที่เห็นด้วยตาสัมผัสทางตาได้ มีอยู่ปีหนึ่งข้าพเจ้ากับสามีและเพื่อนสามีอีก ๒ คน

    จะไปวัดท่าซุงกัน บังเอิญสามีเธอเมาขับรถไม่ได้ ให้ลูกน้องที่เป็นตำรวจขับ ซึ่งแกไม่ได้นอนทั้งคืน ก็ไม่ได้บอกพวกเรามารู้ก็หลังจากเกือบต้องนอนอ่าน น.ส.พ.กันข้างทางแล้ว ข้าพเจ้านั่งหน้าคู่กับเธอ สามีเมาหลับนั่งอยู่หลังรถซึ่งพอข้าพเจ้าเริ่มสังเกตว่าเธอหลับใน ก็ปากหนักไม่กล้าพูด เพราะเป็นคนเดียวที่มองเห็นเวลาเธอสัปหงก ก็เริ่มจับลูกประคำสวดมนต์อ้อนวอนนึกถึง

    พระพุทธเจ้า หลวงปู่ หลวงพ่อ นึกหมดเลยมีกี่องค์ก็นึกหมด ที่นั่งๆ กันในรถก็แปลก ไม่มีใครทักเลย แต่ก็น่าเห็นใจนะคะ เพราะผู้ชาย ๓ คนที่นั่งหลัง เพื่อนสามี ๒ คน คนหนึ่งเธอเพิ่งกลับจากเยอรมัน ยังไม่ชินกับการจับพวงมาลัยมือขวา ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นทนายความ แต่มือขาดทั้ง ๒ ข้างด้วยอุบัติเหตุตอนเด็กต้องใช้มือเหล็ก จะขับก็ต้องรถของตนเองซึ่งต้องสั่งทำอย่างพิเศษ

    คนที่ขับได้ คือสามีก็เมาหลับอยู่ รถพุ่งลงข้างทางครั้งแรกก็แค่ตกใจ แต่ไม่มีใครพูด (เขาเรียกว่าคนมันถึงคราวนะ) ยังไม่เป็นไร ข้าพเจ้าเริ่มภาวนาเรียก ท่าน มาช่วยอย่างหนัก มือก็จับลูกประคำ เพื่อไม่ให้มือสั่น ถ้ากล่าวถึงตรงนี้ก็ให้แปลกที่เวลานั้น ทุกคนดูพร้อมใจกันเงียบสนิท เหมือนนั่งรอความตาย รถที่นั่งมาไม่ได้มาเส้นทางตรงเข้า อ.เมือง จ.อุทัยธานี แต่ได้เลี้ยวซ้ายเข้า อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท

    เพื่อขึ้นแพข้ามฟาก ก่อนถึงโรงพยาบาล ข้างถนนจะเป็นคันนาซึ่งอยู่ต่ำกว่าถนนสักเกือบ ๒ เมตร พอให้รถที่ตกลงไปพลิกคว่ำได้หลายตลบ ถึงช่วงนั้น ไวกว่าความคาดหมาย ถนนมีให้วิ่ง เธอไม่วิ่งเธอเล่นขับจะลงคันนา (ก็เล่นหลับตาขับนี่นะ) ท่าเดียว คนที่ขับรถนั้นรู้ดีว่าพวงมาลัยนั้นมันไวมาก มือสามีข้าพเจ้ายื่นมาหักพวงมาลัยไปทางขวา ลูกน้องเธอก็หักมาทางซ้าย จะลงข้างทางท่าเดียว

    มือสามีก็หักไปทางขวาอย่างแรงอีกครั้ง เฉียดฉิวคันนาไปเส้นยาแดงผ่าแปด มันก็แปลกที่สุด ตรงที่ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะตายนะ แต่ไม่มีใครพูดขึ้นมาสักคำเดียว แล้วสามีข้าพเจ้าถามเธอว่า ในเมื่อนอนหลับอยู่วินาทีแห่งความตายอย่างนั้น เธอรู้สึกตัวกะทันหันเช่นนั้นได้อย่างไร เธอก็ตอบไม่รู้หลับอยู่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย และก็ตอบว่า ไม่รู้กระทั่งว่ารู้สึกตัวตอนไหน

    (จริงๆ แล้วคาดว่าเธออธิบายไม่มีวันถูกหรอก เพราะมือที่ข้าพเจ้าเห็นยื่นมาหักพวงมาลัยนั้นไม่ใช่มือสามี) เธอใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น มือที่ยื่นมานั้นยาว และเสื้อแขนกระบอกยาวจรดข้อมือ มันคงเป็นการเห็นโดยลำพัง ในสายตาคนอื่นเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่เหตุที่เกิดขึ้นบางครั้งก็อยู่เหนือการอธิบาย และข้าพเจ้าก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังนอกจากสามี เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจึงให้หยุดรถ

    ซึ่งรถก็หยุดหัวพ้นคันนาข้างทางมานิดเดียว ชั่ว ๒ ก้าว สามีก็ถามลูกน้องว่า ง่วงนอนทำไมไม่บอก เธอก็บอกว่าเมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลย พวกเราร้อง “อ้าว” พร้อมกันโดยไม่นัดหมาย ความที่เธอเป็นคนดี เคยขับรถให้เวลามาวัดบ่อยๆ เธอไม่เคยเหลวไหลในการงาน ความที่เธอเกรงใจเจ้านาย เห็นนายขับไม่ได้ ตนเองไม่ไหวก็ไม่กล้าพูด ทุกคนก็เข้าใจตลอดทางที่ถึงวัด จนกลับ

    จึงมิมีใครเอ่ยคำใดให้เป็นที่กระทบกระเทือนใจเธอเลย ทั้งที่ทุกคนยังผวากับเหตุการณ์ที่ผ่านมา และหากไม่ได้ ท่าน ช่วยไว้ คงได้อ่านหนังสือพิมพ์กันบ้างสัก ๒ – ๓ คน และข้าพเจ้ามีคำตอบให้กับตนเองได้ว่า มือที่ข้าพเจ้าเห็นนั้น ถ้าไม่ใช่มือสามีแล้วมือใคร ก็ข้าพเจ้านึกถึงอะไรอยู่เล่า

    อุบัติเหตุครั้งล่าสุด
    ในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๓๒ ลูกชายป่วยด้วยโรคประจำอยู่แล้วคือ G6PD (จีซิกพีดี) มีอาการหอบหืด หอบมาก จนน่าสงสาร เลยคิดที่จะพาเขาไปพักผ่อนชายทะเลแถวระยอง ซึ่งบ้านพี่ชายอยู่ที่นั่น ระยะทางเริ่มจากบางนา ข้าพเจ้าก็ให้เด็กที่ไปด้วย ท่อง “สัม ปะ ติจ ฉา มิ” โดยบังคับให้ท่องในใจเริ่มจากบางนา จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงเมื่อไหร่ ก็ให้หยุด

    พูดคุยเล่นได้ ตามประสาเด็ก โดยลูกชายนั่งในเก้าอี้เด็กซึ่งอยู่เบาะหน้าของข้าพเจ้า สามีติดเข้าเวรโดยจะตามไปในวันรุ่งขึ้นทุกคนก็ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด หยุดพูดหยุดคุย ท่องนะโม อิติปิโสฯ เสร็จก็ภาวนา สัม ปะ ติจ ฉา มิ ตลอด พอเข้าเขตพัทยาก็แวะเข้าไปเที่ยวซักนิดหน่อยก่อนมุ่งตรงไปที่สนามบินอู่ตะเภา อันเป็นจุดหมาย ช่วงนี้ข้าพเจ้ามิได้ภาวนาดังในตอนเริ่มมาแล้ว เพราะสนุกสนานจนลืม

    ออกจากพัทยาก็นึกอย่างไรไม่รู้ ย้ายลูกจากที่นั่งหน้าไปเบาะหลังกับเด็ก (ขณะนั้นยังคลาน คอไม่แข็งเท่าที่ควร ยังไม่ขวบเลย) ข้าพเจ้าวิ่งรถมาทางสายจันทบุรีเก่า ไม่ได้มาทางสายพัทยาเซอร์กิต ช่องเลนรถไม่มีเกาะกั้น คงใช้วิ่งสวนกัน ซึ่งเส้นทางนี้มักไม่ค่อยมีอุบัติเหตุบ่อยนัก ไม่เหมือนสายธนบุรี – ปากท่อ และสายเอเชีย รถทัวร์อะไรก็วิ่งกันเรียบร้อยดี ข้าพเจ้าขับแบบสบายๆ

    เหยียบแค่ ๗๐ – ๘๐ กว่า (หลังเบรกแตกนี่เลิกไว้ใจรถมันแล้ว ไม่เคยเหยียบถึง ๑๒๐ เหมือนก่อน) ในรถก็ร้องเพลง พูดคุยกันสนุกสนานดี ใกล้จุดหมายอีกไม่ถึง ๒๐ กิโล ข้าพเจ้าร้อนแดดช่วงเย็นจึงให้เด็กที่นั่งหลังเอื้อมมือมาหยิบแว่นกันแดดให้ ช่วงนี้เองที่มันเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ทราบแวบผ่านตาข้าพเจ้าไปชั่วไม่ทันกะพริบตาก็แล้วกัน (เปรียบเทียบความเร็ว) มองไปข้างหน้า

    เฮ้ย นี่รถเราหมุนมาอยู่เลนขวาได้ยังไง แม้ตกใจแต่ข้างหน้าคือเสาหลักกิโลเมตร ดีที่ข้างทางมันดินต่ำกว่าถนนนิดหน่อย ข้าพเจ้าใช้สติอย่างเร็ว รีบลดเกียร์เบรกเต็มที่ ความที่ชอบใช้มือขวาจับพวงมาลัยมือเดียว มือขวาข้าพเจ้าจับพวงมาลัยจนเกร็ง หน้าอกกระแทกพวงมาลัยนิดหน่อย (พอท้วมๆ) ข้าพเจ้างงมาก ยิ่งรถที่อยู่เลนขวาเขาแล่นมาจะประสานงา

    ข้าพเจ้าก็ไม่เห็นรถปิคอัพเขาเลยหักหลบไปทางเลนข้าพเจ้าซึ่งก็ให้บังเอิญ ไม่มีรถแล่นตามหลังข้าพเจ้ามา (โชคดีเรื่อย) ส่วนลูกนั้น เด็กที่นั่งหลัง ๒ คนเห็นเหตุการณ์โดยตลอด เขาอุ้มลูกข้าพเจ้าไว้กับอก แล้วเอาขางอ โน้มตัวคร่อมลูกข้าพเจ้า มีข้าพเจ้าคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องเลย ก็ให้เด็กหยิบแว่นตาแล้ว แว้บเดียว อะไรวืบผ่านตา มันเร็วแบบไม่ทันกระพริบตาด้วยซ้ำ

    ก็อ้าว! ที่ข้าพเจ้ามีสติทุกครั้งเวลาเกิดเรื่องใหญ่ๆ มองกระจกหน้า เห็นรถปิคอัพ มันจอดมองกระจกแตกร่วง เขาจะลงมาดูรถข้าพเจ้า ตอนนั้นข้าพเจ้ายังไม่รู้อะไร ก็ดันกลัวว่าถ้าเราไม่รีบถอยรถออกจากเสาหลัก เดี๋ยวโดนตำรวจปรับเอา แน้ะ ดันไปคิดแบบนี้ซะด้วยนะ พอขยับมือขวา ปรากฏว่าไร้ความรู้สึกจับพวงมาลัยไม่ได้ ก็มองกระจกอีกที ว้าย เขาพากันลงมาแล้ว

    เดี๋ยวต้องลงมาดูรถเราแน่ๆ ถ้ายังไม่ขยับรถเขาต้องนึกว่าในรถมีใครเป็นอะไร บวกกับความกลัวตำรวจด้วย (ชนหลักกิโลมันล้ม) รวบรวมแรงด้วยความงง ถอยรถออกมา กลับไปอยู่เลนของตัวเองดังเดิมคือเลนซ้าย ทนขับได้ประมาณกิโลไม่ถึงดี มันเจ็บจนน้ำตาร่วง ขับไม่ไหว อีกอย่างอยากรู้จากปากเด็กด้วยว่า เหตุการณ์มันเป็นยังไง เพราะข้าพเจ้าเป็นคนเชื่อมั่นในตนเองสูง

    สูงมากจนบางครั้งเกิดเป็นโทษแก่ตนเองก็บ่อยไป ไอ้ที่หลับใน หรือไม่พร้อมแล้วจะขับรถนั้นไม่มี เพราะถ้าขับไม่ไหวจริงๆ จะจอดนอนไม่ขับหรอก แต่ก็มีแค่ ๑ – ๒ ครั้ง นั่นลูกไม่สบายอดนอน ๓ คืนติดกัน สามีก็ขับไม่ไหว ข้าพเจ้าก็ไม่ไหว เราก็เลยตกลงกันว่าจอดนอนตรงถนนวิภาวดีฯ แล้วก็ความที่มีหลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ ทั้งหลายคุ้มครอง ปกป้องผองภัยให้

    จึงมีความมั่นใจว่าผีเบี้ยบ้ายรายทางทำอะไรข้าพเจ้าไม่ได้แน่ ในรถก็มีท่านท้าวเวสสุวรรณเหรียญที่หลวงพ่อปลุกเสก ไหนจะท่านลุงพุฒิอีก (พระยายม) ยิ่งคิดก็ยิ่งมึน เด็กบอกว่า ข้าพเจ้าขับอยู่ทางนี้ (เลนซ้าย) อยู่ดี ก็รถหมุน ๒ รอบ ๓ รอบไม่แน่ (จากปากเด็ก) ไปอยู่เลนขวา รถปิคอัพเขาจะชนรถเราเขาเลยหักหลบไปทางโน้นเสียงดังใหญ่ ทุกอย่างที่เด็กเล่า ไม่ว่ารถหมุน เสียง ทำไมข้าพเจ้าซึ่งมี

    สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ทุกอย่าง กลับไม่เห็น ไม่ได้ยิน ชั่วแวบไม่ทันกระพริบตา เวลาเพียงแค่นี้ เกิดเรื่องตั้งมากมาย ทำไมข้าพเจ้าไม่รู้ไม่เห็น แวบอีกทีอ้าว เสาหลักข้างทาง งง! แต่ก็ยังมีสติ คิดไปคิดมาอะไรแว่บผ่านเราไปว่ะ เพราะเราอยู่ในรถกลิ่นอายผ้าเหลืองกระจายทั่วรถ วิญญาณข้างทางจะว่ามาผลัก มาบังอะไรก็เป็นไปไม่ได้ นอกจากเจ้ากรรมนายเวร ใช่แล้ว ถ้าเจ้ากรรมนายเวรละก็

    มันเกินวิสัยของท่าน เมื่อแน่ใจว่าต้องเป็นอกุศลกรรมของเราโดยตรง ก็จอดรถนานมากจนเริ่มค่ำ กลัวหาค่ายอู่ตะเภาของทหารเรือไม่เจอ จึงทนเจ็บแขนขวานี้ชาหมดความรู้สึก เข็มจิ้มก็ไม่เจ็บ อยู่ ๒ – ๓ วัน ไม่มีบาดแผลนะ แต่มันปวดร้าวๆ ปวดมากหลัง ๒ – ๓ วัน มาแล้วปวดมาก ก็จนปัจจุบันนี้ละ รักษาอย่างไรก็ยังไม่หาย เลยเลิกรักษามันเลย มันอยากจะเจ็บก็ช่างมัน ปวดมากๆ ก็ทานยาเอา

    ให้ข้าพเจ้าถือแก้วเปล่า ๑ ใบ ซัก ๕ นาทีโดยถือนิ่งๆ มือก็สั่นแล้ว ยิ่งแก้วใส่น้ำละก็เลิกพูดกันเลย จะปวดทรมานมาก คนใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ว่าเวลาส่งของจากมือขวาให้ ต้องรีบรับ เมื่อกลับกรุงเทพฯ ได้ไปกราบถามท่านผู้มีคุณท่านหนึ่ง (ไม่ใช่คนนะ เป็นผีน่ะ แต่ผีทหารบรรพบุรุษของไทยเราน่ะ ไม่บอกชื่อหรอก) ถามท่านว่า เป็นกฎของกรรมหรือโดนวิญญาณแกล้ง ท่านบอก

    “เป็นกฎของกรรมถึงคราวที่ข้าพเจ้าจะต้องเลือดตกยางออกร้ายแรง แต่เพราะยึดมั่นในพระรัตนตรัย จึงรอดมาได้” ที่เล่าก็เพราะอยากให้ทุกๆ คนมีความมั่นใจในความดีของหลวงพ่อ ที่ข้าพเจ้าระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าตลอด ก็จากการอบรมบ่มนิสัยตลอดท่านจะสอนศิษย์เช่นนี้ทุกคน ข้าพเจ้าเลยติด จะทำอะไรก็ต้องนึกถึงพระพุทธคุณก่อน

    ส่วนดีทั้งหมดก็เนื่องมาจากคำสอนของหลวงพ่อ คาถาทุกคาถาที่ท่านให้ท่อง ขอรับรอง หากท่านนำไปบูชาด้วยความเคารพ และมั่นใจแล้วผลที่ตามมานั้นมากมายทวีคูณผลนับไม่ถ้วน ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น หลายต่อหลายครั้ง ข้าพเจ้าล้วนรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากหนักก็จักกลายเป็นเบาลง ทุกเรื่องที่เล่าขอรับรองว่า เป็นเรื่องจริง เหตุการณ์จริง

    ซึ่งยังถือว่าเพียงนำส่วนหนึ่งมาเล่าเป็นอุทาหรณ์เตือนกาย วาจา ใจ ให้อยู่ในสติ รู้เท่าทันมัน แม้การปฏิบัติข้าพเจ้าจะค่อนหนักไปในทางเลวซะมากกว่า ซึ่งเปรียบไม่ได้เลยกับพวกพี่ๆ แม้กระนั้นท่านก็มิเคยทอดทิ้งข้าพเจ้าแม้เพียงสักครั้งเดียว พระคุณท่านนั้นล้นเหลือเกินพรรณนานัก


    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 2 หน้า 246 -254)

    www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1482#54
     
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี -/\-

    สวัสดีพี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    [​IMG]


    [​IMG]

    สวัสดีครับคุณปู

    วันนี้มาไวกว่าปรกตินะครับ
    :) :) :)
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2014
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  8. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326

    วันนี้ตื่นไวคร๊าบบพี่วรรณ ถ้าหลับต่อคงจะยาวถึงเช้าแน่เลย
     
  9. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    [​IMG]

    น้อมกราบพระรัตนตรัย
    น้อมกราบ...หลวงพ่อฤๅษี


    ;aa44 สวัสดีครับพี่วรรณ และลูกศิษย์หลวงพ่อทุก ๆ ท่าน

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

     
  10. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    น้อมกราบหลวงปู่ฤๅษีฯ....
    สวัสดีครับพี่วรรณ และลูกศิษย์หลวงปู่ฯทุกๆท่าน...
     
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525

    [​IMG]
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    พรุ่งนี้เวลาประมาณบ่าย 3 โมงที่วัดท่าซุงจะมีพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งนึง ท่านที่จะไปร่วมงานพิธีหรือไม่ได้ไปก็ดีแล้วต้องการจะลองอาราธนารับยันต์เกราะเพชรดูบ้าง ก็สามารถทำได้นะครับถึงแม้จะไม่ใช่วันเสาร์ 5 ก็ตาม

    ลองอ่านเรื่องด้านล่างดูครับ ขอนำมาลงไว้อีกครั้งนึงก่อนวันพิธี






    เรื่องด้านล่างนี้หลวงพ่อเล่าว่าเมื่อต้นปี 2526 หลวงพ่อได้ขึ้นไปเฝ้าพระพุทธองค์และพระท่านได้บอกกับหลวงพ่อว่าปีนี้ไสยศาสตร์หนัก ให้มีการเป่ายันต์เกราะเพชรตั้งแต่วันมาฆบูชา(วันอังคาร 28 มกราคม 2526) เป็นต้นมา หลวงพ่อถามพระท่านว่าเป่ายันต์เกราะเพชรว่าถ้าไม่ใช่เสาร์ 5 ทำได้หรือ พระท่านตอบว่าถ้าท่านทำวันไหนท่านก็ทำได้

    ในปี พ.ศ.2526 ที่หลวงพ่อเล่าใหัฟังเรื่องนี้ วันมาฆบูชา(วันศุกร์ 28 มกราคม 2526)และวันวิสาขบูชา(วันอังคาร 26 เมษายน 2526) เป็นงานพิธีสะเดาะเคราะห์ทั้งสองงานแต่มีการเป่ายันต์เกราะเพชรควบ และพอมาถึงเดือนสิงหาคม วันที่ 13 (เป็นวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ)เป็นวันเสาร์ 5 ตรงก็เป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชรอีกครั้งนึง

    หลังจากหลวงพ่อมรณภาพไปอยู่หลายปี มีอยู่ครั้งนึงในงานพิธีสะเดาะเคราะห์ช่วงให้ญาติโยมนั่งสมาธิภาวนาพุทโธ ผมมีความรู้สึกคันที่หน้า คิดอยู่ว่าทำไมหน้าคันคล้ายอาการตอนรับยันต์เกราะเพชรไม่มีผิด แต่ไม่ได้เฉลียวใจมากนึกว่าอาจเป็นฝุ่นในศาลา 12 ไร่น่าจะเยอะปลิวมาเกาะตรงแก้มเลยคัน พอมาอ่านเจอเรื่องนี้เข้าเลยนึกย้อนหลังตอนนั้นขึ้นมาได้

    เมื่อพิธีปลุกเสกครั้งก่อนที่วัดท่าซุง ผมเล่าให้น้องคนนึงฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเลยบอกว่าจะอยู่บ้านลองอาราธนาพระท่านขอรับยันต์เกราะเพชรดูบ้าง พิธีในคราวก่อนเป็นพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ลอยองค์ จัดพิธีในวันจันทร์ 12 พฤษภาคม 2557 (13 พฤษภาคม เป็นวันวิสาขบูชางานพิธีสะเดาะเคราะห์) หลังพิธีก็มาเล่าให้ฟังว่ารับได้เหมือนกันรู้สึกหน้าคันยุบยิบไปหมดและรู้สึกร้อนข้างในเหมือนเป็นไข้เป็นอยู่ข้ามวันถึงหาย ตอนที่นั่งรับสมาธิก็เห็นจุดสีแดงเป็นดวงลอยอยู่ข้างหน้าอยู่หลายดวง

    ท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ผมต้องขอเรียนว่าเป็นความเชื่อและเป็นประสบการณ์โดยส่วนตัวผมเอง ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่จะต้องเป็นแบบที่ผมบอกเอาไว้นะครับ

    ในวันพรุ่งนี้วันเสาร์ที่ 20 กันยายน เวลาประมาณ 6 โมงเย็นที่วัดท่าซุงจะมีพิธีพุทธาภิเษกล๊อกเก็ตที่จะแจกในงานทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงพ่อต้นเดือนหน้า ถึงแม้พรุ่งนี้ไม่ใช่วันเสาร์ 5 แต่ถ้าใครไม่ได้ไปร่วมในพิธีแต่อยากรับยันต์เกราะเพชรบ้าง ก็ลองอาราธนารับยันต์เกราะเพชรดูก็ได้นะครับ เพราะยังไงการนั่งสมาธิภาวนาพุทโธเป็นเรื่องที่ดี ถึงแม้ว่าอาจไม่ใช่ยันต์เกราะเพชรแต่เราได้ภาวนาได้สิ่งที่เป็นมงคลเข้ามาสู่ตัวเราครับ แต่ถ้าเกิดมีประสบการณ์พิเศษอะไรขึ้นมาก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ

    หลวงพ่อยังได้เล่าถึงคาถา " สัมปติจฉามิ " ว่าเป็นคาถากันทุกอย่าง และคาถา " สัมปจิตฉามิ " เป็นคาถาสนองคืน ใครคิดร้ายกับเรากลั่นแกล้งเราเขาก็จะรับผลร้ายนั้นคืน แต่ถ้าเขาคิดดีทำดีกับเรา สิ่งดีๆนั้นก็จะกลับคืนไปให้ท่านนั้นด้วยเช่นกัน

    ลองอ่านกันดูครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 11 หน้า 340-347)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2015
  13. yellowest

    yellowest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2013
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +2,475
    ขอบคุณครับ คุณ Wannachai001
    พอดีเห็นสองรุ่นนี้แล้วชอบ

    [​IMG] [​IMG]

    ไม่ทราบว่าสองรุ่นนี้มีให้บูชาที่วัดท่าซุง หรือ บ้านสายลมไหมครับ? ค่าบูชาเท่าไรครับ? ขอบคุณครับ
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    [​IMG]
    [​IMG]

    พระหางหมากพิเศษ ต่างบล๊อกกันครับ
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    หมดจากวัดและที่บ้านสายลมไปแล้วครับ แต่สมเด็จองค์ปฐมรุ่นครบรอบ 1 ปีหลวงพ่อมรณภาพมีเป็นพระผงนะครับ ที่บ้านสายลมมีเป็นพระผงรุ่นครบ 1 ปีหลวงพ่อมรณภาพ เนื้อนวโลหะแบบในรูปหมดแล้วครับ
     
  16. yellowest

    yellowest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2013
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +2,475
    ว้า...เสียดายจัง (T.T)
    ขอบคุณครับ คุณ Wannachai001
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    [​IMG]

    รูปเหมือนลอยองค์หลวงปู่ปาน ปี 2518
     
  18. แพน119

    แพน119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,122
    pig_ballet
     
  19. werapong

    werapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,633
    ค่าพลัง:
    +7,800
    ขอเรียนถามครับ ที่วัดท่าซุงมีพระผาติกรรม
    เวลาใกล้ๆกฐิน องค์100000บ้าง 6000 บาทบ้าง
    เจ้าภาพที่ทำบุญเเต่ละองค์ๆจะได้พระกลับไปบูชาที่บ้านหรือครับ
    หรือว่าคล้ายถวายถังสังฆทานที่บ้านสายลมถังละ2000ได้
    พระหน้าตัก30นิ้วถวายหลวงพ่อ ไม่ใช่การเช่าพระกลับบ้าน
     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,525
    งานทำบุญกฐินน่าจะเป็นงานเดียวในรอบปีที่เราจะมีโอกาสได้ทำบุญสังฆทานชุดละเกิน 2 พันบาทและเราจะได้ทำบุญถวายพระองค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก 4 ศอกแบบนี้ครับ

    คือการผาติกรรมถวายสังฆทานชุดละ 1 แสนบาทนะครับ

    พระสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 4 ศอกปิดทองคำเปลวแท้และประดับเพชรคริสตัลเหมือนอย่างองค์ที่ให้ผาติกรรมราคาสร้างองค์นึงเกิน 1 แสนบาทอยู่แล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...