โอวาทธรรมปฏิบัติ

เราภาวนาเพื่อละ ไม่ใช่ภาวนาเพื่อเอา วัดเเท้จริงอยู่ที่ใจเรานั้นเอง เราพูดทำไมเรื่องของเขาทั้งนั้น พยายามตัดเขาออกจากใจของเราให้ได้ สร้างจิตของตนให้เข้มเเข็งมีพลัง มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีปัญญารู้เเจ้งเเทงตลอดสาย ย่อมมองเห็นโลกนี้ มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเองคือสัจจธรรม

ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม

 

โอวาทธรรมปฏิบัติ
หากไม่ดูจิต จะไม่เห็นจิต ผู้ที่เห็นจิต ปฏิบัติตามมรรคจิต ความบริสุทธิ์ย่อมเกิดขึ้นที่จิตเรียกว่าศีล การตั้งมั้นของจิตเรียกว่าสมาธิ การรู้เเจ้งของจิตเรียกว่าปัญญา ผู้ใดก็ตามถ้าเจริญด้านจิตตภาวนา มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ย่อมมีปัญญารู้เเจ้งเเทงตลอด รู้เท่าทันความนึกคิด รู้เท่าทันสังขาร รู้เท่าทันสมมุติ บัญญัติ รู้เท่าทันกิเลสของโลก จิตย่อมอยู่เหนือโลก มองเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เห็นด้วยปัญญาภายในเเท้ จิตย่อมว่างจากกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง นั้นเเหะคือจิตพุทธะ
ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม​

 

โอวาทธรรมปฏิบัติ
หากไม่ดูจิต จะไม่เห็นจิต จะไม่รู้จักตัวเอง ผู้ปฏิบัติตามมรรค(ศีล สมาธิ ปัญญา)เท่านั้น จะเห็นจิต ดูจิตใจตนเอง เพ่งทุกข์เพ่งโทษในตนเอง หักห้ามใจตนเองได้

ไม่คิดถึงอดีต ไม่คิดถึงอนาคต เเม้เเต่ปัจจุบันก็ไม่คิด จึงดับทุกข์ได้ มองเห็นโลกนี้ตามความเป็นจริง มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง
ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม

 

ชอบครับ สั้นๆ ง่ายๆแต่ชัดเจน

 

โอวาทธรรมมะปฏิบัติ
อนัตตาของพุทธบิดา ที่ตรัสรู้ด้วยปัญญาอันชอบ พุทธบิดามิได้ตรัส อนัตตาเป็นของไม่มีตัวตน เป็นของว่างเปล่า พุทธบิดาตรัสว่า ตัวตนคือร่างกาย(ขันธ์5)มันมีอยู๋เเล้ว เเต่หาสิ่งที่เป็นสาระไม่ได้ ต่างหาก พูดง่ายๆ ผู้ที่ยึดอัตราอยู่ พุทธบิดาก็สอนให้ประกอบภาระ เพื่ออัตตาในทางที่ควรไปก่อน จนก่วาจะเห็นเเจ้งชัด สิ่งที่เราถือว่าอัตตาเเท้จริงไม่ใช่อัตตา มันเป็นเพียงมายา เป็นทุกข์ ไม่เที่ยงเเล้ง พุทธบิดาจึงสอน อนัตตาเเท้จริง ถ้าเราไม่คิดถึงอดีต ไม่คิดถึงอนาคต รู้ปัจจุบันดับทุกข์ได้

ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม

 

โอวาทธรรมปฏิบัติ
พรหมจรรย์นี้มิใช่เป็นไปเพื่อลาภสักการะ ชื่อเสียง ไม่เรียกร้องให้ใครมานับถือ เเต่เป็นไปเพื่อความรู้เเจ้ง เพื่อความดับทุกข์ เพื่อพระนิพพาน

ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม

 

โอวาทธรรมปฏิบัติ
ญาติโยมเอ๋ย เปิดใจให้กว้าง ปัญหาจะได้หมดไป อย่าใช้กิเลสมาตัดสินความเป็นถูก
เป็นผิด ความทุกข์จะตามมา เราจงมองเเต่ดี มีเเต่ได้ จิตของเราจะไม่เสีย จงมองเเต่ดีเท่านั้น ให้ยึดถือกรรมใครกรรมมัน ใครทำเช่นไรย่อมได้รับผลเช่นนั้น
ผู้รู้ไม่คิด ผู้คิดไม่รู้
ไม่รู้ไม่คิด ไม่คิดไม่รู้

ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม

 

ภพภูมิที่เเท้จริงอยู๋ที่จิตใจของเรา การปฏิบัติตามมรรคคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ทางเเห่งการพ้นทุกข์ โดยเฉพาะการฝึกฝนอบรมทางด้านจิตตภาวนา ขจัดนิวรณ์ธรรมได้ ย่อมมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีปัญญารู้เเจ้ง มองเห็นเป็น ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา จนรู้เเจ้ง รู้เท่าทันสภาวะธรรม รู้ชัดโลกสมมุติ บัญญัติ ด้วยการไม่ยึดติด ไม่คิดปรุงเเต่ง หยุดดิ้นรนเเสวงหา ไม่ยึดติดในดี ในชั้ว การตรัสรู้ จนหมดเหตุ หมดปัจจัย จิตว่างจากกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ในความว่าง ไม่มีอะไรให้ใครบรรลุถึง ไม่มีเเม้ภาษาพูด ไม่มีเเม้ภาษาเขียน มีเเต่หุบปากเงียบ จิตนิ่ง สงบเย็น เป็นอิสระโปร่งเบา พูดง่ายๆว่า คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้ มันปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตน มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง นั้นเเหละคือสัจจธรรม ธรรมะคือธรรมชาตินั้นเอง

ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม

 

คำสอนของพุทธบิดาทั้ง84,000พระธรรมขันธ์ สอนลงที่กายนี้เเละจิตนี้(ขันธ์5)ให้เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม ใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น ใครจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะทำพิธีก็ลบล้างคำสอนมิได้ คำสอนของพุทธบิดาไม่ให้ยึดบุคคลเป็นใหญ๋ ไม่ให้ยึดโลกเป็นใหญ๋ ให้ยึดพระธรรมคำสั่งสอนนำไปปฏิบัติเป็นใหญ่ จึงจะรู้เเจ้ง...รู้ได้เฉพาะตน

ขอยกบุญนี้สดุดีเจ้าเเม่กวนอิม