ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014
HILARION 2014 - The Rainbow Scribe
September 7-14, 2014
วันที่โพสท์ _Tue ,9/9/2014
ผู้แปล: อจิตตะ

คุณคุณที่รัก….

จากที่คุณไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายในสิ่งที่คุณกำลังรอคอย
จึงทำให้คุณต้องเล่นเกมส์รออยู่ในตอนนี้
ซึ่งมันก็เป็นเวลาที่จะก้าวขึ้นไปอีกระดับของการเดินทางของคุณ
ทั้งๆที่สิ่งที่คุณกำลังรอคอยเพื่อตัวคุณเองอยู่นี้
มันก็คือความทรงจำที่งดงามและเป็นรหัสภายในของคุณเอง
ที่มันได้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในแต่ละวันที่จะเกิดหรือได้เกิดขึ้นไปแล้ว….

ส่วนวิธีที่จะทำให้คุณรู้ได้ว่าคุณได้เปิดใช้งานแล้วหรือยังนั้น
ก็จากความรู้สึกที่คุณจะสามารถสัมผัสได้ว่า
มันจะไม่มีสิ่งใดที่เป็นของโลกเก่าที่จะมาทำให้คุณนั้นสนใจได้อีกต่อไป
เพราะคุณมีพร้อมซะยิ่งกว่าพร้อมที่จะโละทิ้งทุกๆโปรแกรมที่มันเก่านั้นออกไปเสีย
ทั้งคุณก็ยังมีความเชื่อด้วยว่ามันต้องไม่ใช่คุณแน่ๆ ที่ต้องมาเริ่มต้นกับโปรแกรมเก่าๆนี้

แต่ก็ในสภาพที่คุณเตรียมความพร้อมนี่แหละ ….
ในบางครั้งคุณก็อาจรู้สึกได้ถึงอาการเซื่องซึม
ง่วงหงาวหาวนอน เฉื่อยชา และไร้อารมณ์ก็เป็นได้
แล้วความรู้สึกนี้มันก็ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้มันดีขึ้น
กับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวคุณด้วยนะ

แต่ก็รู้ไว้.... ว่าเมื่อคุณกำลังอยู่กับประสบการณ์นี้ละก็
นั่นก็เท่ากับคุณกำลังจะเคลื่อนขึ้นสู่ระดับของคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าในเร็ววันนี้....

๒. และในตอนนี้....สิ่งที่เรียกหาอยู่ทุกๆขณะของแต่ละวันก็คือ
กำลังใจในเรื่องของความรู้สึกชื่นชมและขอบคุณ....
ถ้างั้น....ให้คุณค้นหาเรื่องสัก 10 เรื่องในชีวิตคุณ
ที่มันน่าจะขอบคุณและชื่นชมในตัวของคุณเองได้
ในทุกๆความคิดที่เป็นลบที่คุณมีอยู่ดูซิ....
และทุกครั้งที่คุณต้องการเอาชนะต่อพื้นผิวของความคิด
ที่มันมาจากภายในส่วนลึกนั้นแล้วละก็
จงให้เวลากับการทำรายการ 10 อย่างที่ว่านี้แหละ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกามราคะ
ที่มันโผล่ขึ้นมาจากความตระหนักรู้ของคุณเองก็ตามทีเถอะ...
แล้วทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี และ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตคุณเลยล่ะ


ซึ่งในจุดนี้ ....มันจะเป็นการฝึกให้จิตของคุณ
ได้พิจารณาในเรื่องของศักยภาพ และธรรมชาติของความคิด
ว่าทั้งหมดนั้นคุณเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา
จากความต้องการประสบการณ์ในแต่ละวันของชีวิตคุณเอง....
ดังนั้น....งานหลักที่ต้องทำให้สำเร็จในขณะนี้คือ จงรักและดูแลตัวเองให้ดีดี....

ที่ผ่านมา....คุณคุณแต่ละคนทำได้ดีเยี่ยมกับการหยิบยื่นให้ในสิ่งที่ผู้คนต้องการ
แต่ตอนนี้.... มันเป็นวันเวลาที่จะต้องทำสิ่งดีๆให้กับตนเองแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้มันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายในตอนต้น ๆ นะ
และคุณอาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระและเสียเวลาเหลือเกิน
ดังนั้น....ฉันขอให้ความมั่นใจกับคุณได้เลยนะ คุณคุณที่รัก....
ว่านี่เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่คุณยังคงต้องเดินหน้าต่อไป....

๓.และเพื่อที่จะให้ชีวิตนี้เป็นชีวิตที่มหัศจรรย์
คุณก็ต้อง “เป็น” สิ่งมหัศจรรย์
แต่คุณจะ “เป็น” สิ่งมหัศจรรย์ไปไม่ได้ ถ้าคุณไม่ได้รักและให้เกียรติแก่ตัวคุณเองก่อน....
ความรักที่แข็งแรงสมบูรณ์ของคุณเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างฝันให้แก่ชีวิตคุณ
และคุณต้องรู้และสัมผัสได้ ว่านั่นคือชีวิตที่ดีที่สุดที่สมควรได้รับหรือยัง....

คุณจะต้องออกสตาร์ทไปตามเส้นทางนั้น
แล้วเดินออกไปจากเส้นทางของการรอคอยได้แล้ว
เพราะสิ่งที่กำลังรอคอย มันคือการรอคอยตัวคุณเอง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในตัวคุณมันคือประสบการณ์ชีวิตที่เป็น “คุณ” !
ทั้งทรัพยากรณ์ทั้งหมดที่คุณต้องการก็มีอยู่ในตัวคุณ
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกระทุ้งให้มันออกมา
นั่นจึงทำให้ช่วงวันเวลาระหว่างวันของคุณคือ ความต้องการความสงบ
เพื่อที่จะให้คุณได้เชื่อมต่อกับความเป็นแก่นแท้ของสิ่งที่มีอยู่จริงนั้นได้....
จงใช้เวลาเพียงห้านาทีให้อยู่กับความสงบนิ่ง
การนั่งสมาธินั้นมีประโยชน์และเป็นการยกระดับความสั่นสะเทือน
ที่คุณต้องการการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้คุณสามารถเลื่อนขึ้นไปสู่ระดับที่สูงกว่าได้....

๔. รางวัลและพันธสัญญาของจักรวาลก็ยังคงมีมอบให้อย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน
ในขณะที่ทุกๆด้านของชีวิตคุณนั้นกำลังเจริญยิ่งๆขึ้นอยู่นี้
ช่องว่างระหว่างเหตุปัจจัยที่ส่งผลต่อมิติต่าง ๆ
กับการเคลื่อนตัวไปกับเรื่องราวที่มีแต่ความสุขในชีวิตของคุณ
มันจะแสดงออกมาผ่านความมหัศจรรย์ที่คุณเป็นผู้ทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา....
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการที่คุณได้ปลดปล่อยข้อจำกัดทั้งหลายในอดีตทิ้งเสีย
ทั้งยินยอมให้พลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่ได้เข้ามาเติมเต็มให้แก่คุณ
และนั่นก็เท่ากับเป็นการบำรุงรักษาและค้ำจุนคุณอีกด้วยนะ....

และในกระบวนการของการปลดปล่อยและการชะล้างที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องนี้
คุณได้ยินยอมให้ตัวตนที่สูงกว่าและจิตวิญญาณของคุณ
มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่พลังอำนาจภายในตัวคุณ
ซึ่งก็ได้ทำให้ชีวิตในแต่ละวันของคุณต้องเริ่มต้น
กับการเปิดเผยแสงสว่างที่แท้จริงในทุกแง่ทุกมุมของมัน....
และเหตุการณ์ครั้งนี้จะนำมาซึ่งการขอบคุณและชื่นชม
จากใจจริงด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า
ที่จะทำให้ภายในตัวคุณนั้นดียิ่งขึ้นตามที่คุณปรารถนา....
ซึ่งในไม่ช้าคุณจะพบว่า คุณได้อยู่ในสภาวะที่มีแต่ความเบิกบานสำราญใจตลอดเวลา....

๕. จิตวิญญาณระดับสูงที่คุณสัมผัสได้จะคอยเป็นกำลังใจให้คุณยังคงได้เดินอยู่ในเส้นทางนี้
และกับความคิดที่จะถอยกลับไปสู่ชะตาชีวิตที่ต่ำกว่านั้น
มันจะเป็นที่เรื่องน่ารังเกียจสำหรับคุณเสียแล้ว....
จะมีก็แต่ความเบิกบานในการที่จะสร้างสรรค์พลังงานที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
เพื่อเติมคุณให้เต็มและเดินหน้าต่อไปโดยผ่านคุณ....
ส่วนของรางวัลเหล่านี้ก็ได้เก็บอยู่ภายใน DNA ที่ได้เปิดใช้งานไปแล้ว และกำลังเปิดอยู่ด้วย
ซึ่งคุณก็สามารถเริ่มต้นที่จะแบ่งปันของขวัญของคุณให้แก่คนรอบ ๆ ตัวคุณได้แล้ว....

ความชัดเจนในจิตใจที่คุณได้รับอยู่ในขณะนี้ก็สืบเนื่องมาจาก
การปรับระบบการกระตุ้นเตือนภายในหัวใจของคุณ
ที่จะทำให้คุณรู้อยู่ตลอดเวลาว่า อะไรคือสิ่งถูกต้องที่คุณต้องทำ....
ซึ่งนี่ก็มีบางคนที่เริ่มต้นเปิดขึ้นมาบ้างแล้วนะในตอนนี้
ด้วยกระบวนการที่จะทำให้พวกเขาได้ไปสู่ศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น

แต่ทั้งหมดทั้งมวล....ความหวังที่มีต่อผลลัพธ์อันสูงสุดของทุกสิ่งที่คุณได้ทำไปนั้น
สิ่งสำคัญที่สุดมันอยู่ที่ “ BELIEVE IN YOURSELVES “เท่านั้น....

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: “นิรันดร์กาลแห่งปัจจุบันขณะ” (The Eternal Now Moment)

ประจำเดือนกุมภาพันธุ์ 2010,
ผู้รับการสื่อสาร: บาทหลวง Michelle Coutant

ที่มา: Message From Archangel Michael, February 2010 "The Eternal Now Moment" | Lightworkers.org


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


สวัสดีที่รักทั้งหลาย

ปัจจุบันขณะเป็นช่วงขณะที่มีความสำคัญมากที่สุด อย่างที่พวกคุณไม่เคยรู้มาก่อน
มันเป็นเช่นนั้นสำหรับชาติภพนี้ของพวกคุณ,
มันเป็นเช่นนั้นสำหรับทุกๆชาติภพที่ผ่านๆมาของพวกคุณบนโลกใบนี้,
และมันก็เป็นเช่นนั้นสำหรับทุกๆการเดินทาง และการท่องไปของพวกคุณ
ผ่านสรรพสิ่งทั้งปวง ตราบชั่วนิรันดร

ในมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลายนั้น มันไม่มีหรอกนะ “กาลเวลา” เพราะว่ากาลเวลา
เป็นแต่เพียงมายาการของมิติที่ 3 นี้เท่านั้นเอง
ดังนั้นเมื่อพวกคุณมุ่งหน้าไปสู่มิติที่ 4 และมิติที่ 5 แล้ว
กาลเวลาก็จะยิ่งเร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วในที่สุดมันก็จะไปบรรจบกับ
“จุดหยุดนิ่งแห่งสรรพสิ่งทั้งปวง” (Still Point of Creation)

ซึ่งจุดที่ว่านี้ก็คือ “นิรันดร์กาลแห่งปัจจุบันขณะ”
หรือเป็น “ชั่วขณะแห่งพระผู้เป็นเจ้า” (The God Moment)
หรือเป็น “ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่” (The All That Is) นั่นเอง

ชั่วขณะนี้คือชั่วขณะแห่งความรักสำหรับความเป็นนิรันดร์ทั้งหมด
(a moment of Love for all eternity)

ซึ่งเมื่อใดที่พวกคุณเข้าไปสู่ชั่วขณะแห่งการหยุดนิ่งนี้แล้ว
พวกคุณก็จะพบว่า “กาลเวลา” จะหายไป
และจะพบว่ากาลเวลาเป็นแต่เพียงมายาการอย่างหนึ่ง
ของมิติที่ 3 ที่เป็นเส้นตรงนี้เท่านั้นเอง

ในชั่วขณะแห่งปัจจุบันกาลอันเป็นนิรันดร์นี้ (the eternal Now moment)
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันหมด
ทุกสิ่งทุกอย่างจะเลื่อนไหลและหมุนเวียน
ก็เหมือนกับกระแสวัฏจักร หรือกฎแห่งการหมุนเวียน (Law of Circle)
ในมิติที่ 3 ที่พวกคุณเข้าใจกันแล้วนั่นแหละ
เพียงแต่ว่ามันจะเป็นสเกลที่ใหญ่กว่ามากเท่านั้นเอง
และทุกสรรพชีวิตล้วนมีการแผ่ขยายอยู่ในรูปแบบของวัฏจักรแบบนี้
ด้วยกันหมดทั้งสิ้น มีการแผ่ขยายอยู่ตลอดเวลา, มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
และมีการเลื่อนไหลอยู่ตลอดเวลา

เมื่อพวกคุณเรียนรู้ที่จะดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะ (the Now moment) ให้ได้แล้ว
พวกคุณก็จะพบว่าพวกคุณได้แผ่ขยายพลังอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของตัวเองออกไปอยู่ตลอดเวลา
เพราะว่าห้วงแห่งปัจจุบันขณะนี้
คือห้วงขณะเดียวเท่านั้น ที่พวกคุณจะมีพลังอำนาจ
ซึ่งพวกเราได้เฝ้าบอกเรื่องนี้กับพวกคุณมาแล้วในหลายโอกาส

อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
และปัจจุบันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่ (All That Is)
เมื่อใดที่พวกคุณจอจ่อความคิดของพวกคุณอยู่กับปัจจุบันขณะ
พวกคุณก็จะสามารถเลือกที่จะยกระดับตัวเอง
ขึ้นไปสู่ระดับของการสั่นสะเทือนของมิติที่ 5 ได้อย่างมีสติสัมปชัญญะ
ซึ่งระดับความสั่นสะเทือนของมิติที่ 5 นี้ มันคือยาอายุวัฒนะของชีวิต
และคือระดับความสั่นสะเทือนแห่งความรัก

ที่รักทั้งหลาย จงเข้าไปในปิระมิดแห่งพลังอำนาจของพวกคุณเอง
ที่อยู่ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าดังกล่าวนี้ แล้วจงสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาเถิด
เพราะว่าความสุขทั้งหมด, พรสวรรค์ทั้งหมด, ปาฏิหาริย์แห่งการสร้างสรรค์ทั้งหมด
กำลังรอคอยพวกคุณอยู่ แต่ว่าพวกคุณจะต้องสร้างสรรค์พวกมันขึ้นมา
เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกผู้ทุกนามเท่านั้นนะ

จงมุ่งความสนใจและจดจ่อมั่นคงอยู่กับแต่ปัจจุบันขณะนี้เท่านั้น
อย่าให้คลาดเคลื่อนไปไหนได้ แล้วพวกคุณก็จะสามารถคงความมีพลังอำนาจ,
ความรัก และจะสามารถควบคุมความคิดและอารมณ์ของตนเองเอาไว้ได้
พวกคุณจะสามารถหลุดพ้นจากมายาการของมิติที่ 3 นี้
และหลุดพ้นจากความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน และรวมถึงหลุดพ้นจากความกลัวไปได้
จงอย่าได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่จะทำให้พวกคุณเกิดความกลัวขึ้นมาได้
และจงอย่าได้ให้ความสนใจกับความวุ่นวายทั้งหลาย
ที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆตัวของพวกคุณอยู่ในขณะนี้ด้วย
แต่จงให้ความสนใจและมองให้เห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
ที่กำลังจะนำไปสู่การมีพลังอำนาจในทางเลือกอิสระของพี่ๆน้องๆชาวโลกของพวกคุณแทน
จงคิดถึงแต่สิ่งที่ดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาวโลกทุกๆคน
จงจดจ่อความคิดอยู่ที่การตื่นรู้และการเลื่อนระดับขึ้นของชาวโลกทั้งมวล
และจงอยู่ในปัจจุบันขณะ ในขณะที่พวกคุณกำลังจดจ่อความคิดอยู่กับเรื่องนี้ด้วย

ที่รักทั้งหลาย พวกคุณคือผู้ที่กำลังทำให้เกมๆนี้มันดำเนินต่อไปอยู่
และเพราะฉะนั้นแล้ว จึงมีแต่เพียงพวกคุณเท่านั้น ที่ในท้ายที่สุดแล้ว
จะสามารถชี้ขาดผลลัพธ์สุดท้ายของเกมแห่งมายาการอันบรรเจิดที่พวกคุณกำลังพากันเล่นอยู่นี้ได้
และก็มีเพียงพวกคุณเท่านั้น ที่จะเป็นผู้เลือกว่า อยากจะมีประสบการณ์กับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เท่าที่จะเป็นไปได้ของเกมๆนี้หรือไม่ แล้วจากนั้นก็พากันทำกิจวัตรประจำวันของตนเองไปในทิศทางนั้นๆ
พร้อมๆกับอยู่ในห้วงแห่งปัจจุบันขณะ และประคอง "กระแสความคิด" อันนั้นเอาไว้
เพื่อการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆขึ้นมาต่อไป

ชาวโลกที่รักทั้งหลาย ทางเลือกมันเป็นของพวกคุณแล้ว ห้วงขณะแห่งปัจจุบันขณะ
มันมีพร้อมอยู่แล้วสำหรับพวกคุณทุกๆคน มันไม่ได้รอพวกคุณอยู่ในมิติที่ 5 แต่อย่างใดเลย
มันมีพร้อมอยู่แล้ว ที่นี่ และเดี๋ยวนี้
เพราะว่าในระดับปรมัตถ์แล้ว
มันมีแต่ “นิรันดร์กาลแห่งปัจจุบันขณะ” นี้เท่านั้นเอง

จงกำหนดจิตจดจ่ออยู่ที่หัวใจของตนเอง (ตรงกลางทรวงอก ระดับเดียวกับหัวใจ
หรือที่จักระที่ 4 - ผู้แปล) แล้วคงอยู่กับปัจจุบันขณะที่จุดๆนั้น
และเมื่อใดที่พวกคุณรู้ตัวว่ากำลังคิดฟุ้งซ่านและหลุดลอยออกไปจากปัจจุบันขณะอยู่
ก็จงบอกกับตัวเองว่า “กลับเข้าไปสู่ศูนย์กลางนั้นใหม่” เสีย
แล้วพวกคุณก็จะกลับเข้าไปอยู่ในในห้วงแห่งปัจจุบันขณะ ที่ศูนย์กลางของหัวใจได้ในทันที

ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดของพวกคุณ, ความหวังอันยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
ในอันที่จะดำรงอยู่อย่างสอดคล้องกับความดีงามอันสูงสุดของตนเอง
จะสามารถสมปราถนาได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆเลย
และมันจะง่ายดายมากเมื่อพวกคุณมุมานะจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะ
มันเป็นเรื่องที่แสนจะง่ายดายอย่างนั้นเลยแหละ ที่รักทั้งหลาย
แต่ว่าพวกคุณก็จะต้องใช้เวลาและขยันหมั่นเพียร ที่จะดึงตัวเอง
ให้กลับเข้าไปอยู่ในห้วงแห่งปัจจุบันขณะนี้ให้ได้ทุกครั้งไป
ที่หลงลืมสติไปหน่อยเท่านั้นเอง

จงหาที่สงบเงียบแล้วนั่งลง หายใจเข้าออกลึกๆ และจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะนี้
ตรงตำแหน่งหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ แล้วหายใจเข้าออกลึกๆยาวๆ
และแผ่ขยายคลื่นความสั่นสะเทือนแห่งปัจจุบันขณะนี้ ออกไปสู่ภายนอก
เพื่อไปเติมเต็มสนามพลังของพวกคุณ ผ่านทางหัวใจของพวกคุณ
ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จากนั้นก็หายใจเข้าออกลึกๆ
แล้วแผ่ขยายคลื่นความสั่นสะเทือนแห่งปัจจุบันขณะนี้ลงไป
และเข้าไปสู่ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ จากนั้นก็หายใจเข้าออกลึกๆ
แล้วแผ่ขยายคลื่นความสั่นสะเทือนแห่งปัจจุบันขณะนี้ออกไปสู่สนามพลังของพวกคุณ
ที่ขยายใหญ่ออกไปครอบคลุมดาวเคราะห์โลกแล้ว จากนั้นก็หายใจเข้าออกลึกๆ
แล้วแผ่ขยายคลื่นความสั่นสะเทือนแห่งปัจจุบันขณะนี้ ออกไปสู่สรรพสิ่งทั้งปวง

จงทำความรู้สึกถึงการแผ่ขยายของคลื่นความสั่นสะเทือนดังกล่าว
และจงทำความรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสรรพสิ่ง ในห้วงแห่งปัจจุบันขณะนี้
มันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่ (All That Is) และมันคือเดี๋ยวนี้
และตัวพวกคุณเองก็คือการแผ่ขยายนี้ จงนั่งอยู่อย่างสงบเงียบ
เอิบอาบอยู่ในความสง่างามนี้ เพราะว่ามันคือสิ่งที่พวกคุณเป็นอย่างแท้จริง
เพราะว่าพวกคุณเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง

เราจะคอยอยู่ใกล้ๆพวกคุณเสมอ ในห้วงเวลาแห่งความสง่างามนี้
เพื่อนำทางให้แก่พวกคุณ เมื่อพวกคุณสามารถกลับเข้าไปสู่ตำแหน่งแห่งหนที่แท้จริง
ของพวกคุณในมิติที่ สูงกว่าได้แล้ว พวกคุณจะสามารถหวนระลึกรู้ได้ว่าแท้ที่จริงแล้ว
พวกคุณเป็นใคร


เราคือมหาเทพไมเคิล (Archangel Michael) ขอนำสัจธรรมเหล่านี้มาสู่พวกคุณ

.................................................................................................

 

บางส่วนของข้อความจากชาวอาร์คทูเรี่ยน (Arcturian)

วันที่: 8 กันยายน 2014
ผู้รับสาส์น: Méline Portia Lafont

ที่มา: pleiadedolphininfos: The Arcturians ~ This reality is litterally cracking in on itself and it is not quite clear for us how much longer this illusory reality can be maintained ~ As channeled by Méline Portia Lafont


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


...แต่ไหนแต่ไรมามันก็เป็นการยากสำหรับสมองของมนุษย์
ที่จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว และมันก็ยังยากสำหรับตัวมนุษย์เองอีกด้วย
ที่จะยอมรับให้ได้ว่าความสามารถพิเศษเหนือธรรมดา
และพัฒนาการที่ดูเหมือนว่าจะเหนือธรรมชาติทั้งหลาย
ซึ่งเป็นคุณสมบัติของตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเอง
คือความเป็นจริงสำหรับพวกคุณ

และนี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไม หลายครั้งหลายหนพวกเราถึงขอข้ามมันไปก่อน
ไม่ค่อยพูดถึงมันบ่อยนัก เพราะว่าพวกเราต้องการที่จะให้มันปรากฎออกมาจริงๆซะก่อน
และเพื่อที่จะให้สมองของมนุษย์ ทั่วทั้งมายาการแห่งนี้ ทั่วทั้งความเป็นทวิภาวะนี้
เข้าใจมันให้ได้ซะก่อนด้วย

ทีละก้าวทีละก้าว ตอนนี้พวกคุณก็ได้มาถึงจุดที่จะสะท้อนให้เห็นแล้วว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นกับพวกคุณนั้น กำลังนำพาพวกคุณไปสู่จุดหมาย
ที่พวกคุณได้พากันตรากตรำทำงานหนักเพื่อมันมาโดยตลอด
เพื่อที่จะให้มันเกิดขึ้นจริงๆ และเพื่อที่จะพิสูจน์กับตัวเองว่าพวกคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง
ในโลกแห่งความเป็นจริงอันนี้ และว่าจริงๆแล้วพวกคุณเป็นใคร

ตอนนี้พวกเราได้มาถึงช่วงเวลาอันเป็นมงคลฤกษ์แล้ว
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พวกคุณหลายคน จะเริ่มสามารถนำเอา
“การเปลี่ยนแปลงจากภายในหัวใจ
และภายในเซลแห่งแสงสว่างอันบริสุทธิ์ของตัวเอง”
ที่กำลังทะยอยเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆอยู่นี้ มาใช้งานได้แล้ว
เพื่อเป็นก้าวแรกเริ่มไปสู่การพัฒนาความสามารถอื่นๆต่อไป
เช่น เพื่อพัฒนาไปสู่ความสามารถ
ในการเดินทางโดยอาศัยความสามารถพิเศษที่เรียกว่า
“การหายตัวจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง” (teleportation)
หรือเพื่อพัฒนาไปสู่ความสามารถ
ในการสื่อสารแบบจิตสู่จิต (chanelling) กับคลื่นความถี่
ที่อยู่ในระดับที่สูงกว่ามากๆได้ เป็นต้น

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้วิวัฒนาการของโลกแห่งความเป็นทวิภาวะใบนี้
ถูกยกระดับให้สูงขึ้นไปอีกได้

มันกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับความสามารถในการได้ยินของพวกคุณอยู่
และพวกคุณก็กำลังรู้สึกว่ากาลเวลากำลังถูกเร่งให้เร็วขึ้นอยู่
และก็รู้สึกว่าคลื่นความถี่ของโลกกำลังเพิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆอยู่อีกด้วย
ซึ่งนี่แหละคือความจริงที่จริงแท้หละ และมันก็กำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เข้มข้น
เกิดขึ้นภายในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเองอยู่

ทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ กำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการถูกเร่งให้เร็วขึ้น
และถูกเพิ่มระดับพลังงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างมากอยู่
จนกระทั่งว่าหัวใจหลายๆดวงจำเป็นจะต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลื่นความถี่นี้ไปด้วย
เพื่อที่จะได้สามารถรอดชีวิตอยู่ได้ในคลื่นความถี่ของพลังงานแม่เหล็กใหม่นี้
เพราะว่าหัวใจจะยังคงทำหน้าที่เป็นเครื่องจักรสำคัญในการดำรงชีวิตรอดของร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่ต่อไป

แต่อย่างไรก็ตามภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
ทุกสิ่งทุกอย่างก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
จนกระทั่งว่าร่างกายเนื้อของพวกคุณ
จะมีระดับคลื่นความถี่ของการสั่นสะเทือนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
จนกระทั่งว่าคนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัวของพวกคุณสามารถรู้สึกได้เลยหละ

โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณโลกนี้ กำลังปริร้าวมากขึ้นเรื่อยๆอยู่จริงๆ
จนพวกเราเองก็ไม่แน่ใจว่าโลกแห่งความเป็นจริงที่เป็นมายาการโลกนี้
มันจะยืนหยัดอยู่ได้นานอีกซักแค่ไหน ก่อนที่มันจะระเบิดเอาพัฒนาการด้านจิตวิญญาณ,
การตื่นรู้, การเลื่อนระดับขึ้น และการเจริญเติบโตออกมา

โลกแห่งความเป็นจริงอันนี้ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
และพวกคุณเองก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วด้วยเช่นกัน
พวกคุณจะไม่สามารถจดจำตัวเอง
ในแบบที่มีความรู้ความเข้าใจน้อยนิดแบบนี้ได้อีกต่อไป
เพราะว่าสิ่งที่พวกคุณกำลังจะวิวัฒน์ไปเป็นอยู่นี้นั้น
มันจะเป็นอะไรที่อยู่ห่างไกลเกินกว่าที่พวกคุณจินตนาการได้

ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงที่ว่า
วิวัฒนาการของพวกคุณ และการขยายตัวของพวกคุณนั้น
กำลังจะนำพาพวกคุณไปสู่การจบกิจบนโลกใบนี้
ซึ่งก็จะทำให้ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นทวิภาวะแห่งนี้
จะสามารถกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของพวกคุณได้อีกต่อไปแล้ว...

......................................

 

ขอบคุณ...คุณชยุต และทีมงานแปล มากๆนะคะ ติดตามอ่านด้วยจิตใจอันจดจ่อและตื่นเต้นยินดีตลอดเวลา ขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนมนุษยชาติทุกดวงจิต ขัดเกลา,ตรวจสอบ กายในกาย -จิตในจิตกันนะคะ ...ขอมอบความรักและสันติสุขจงบังเกิดแก่โลกใบนี้

 

"วิวัฒนาการใน 1 วัฏจักรรอบจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี่"

ที่มา: Kryon Channelling - Mt. Shasta, CA - June 14, 2014


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


"...ดังนั้น เมื่อใดที่ระบบดวงดาวหนึ่งพูดคุยกับอีกระบบดวงดาวหนึ่ง
พวกเขาก็จะใช้สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ปีเอกภพ” (the cosmic year)
เป็นกรอบอ้างอิงด้านกาลเวลา แต่ว่าเพราะว่าคำว่า “ปี” นั้น
มันไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกมันว่า “เรฟส์” (revs) แทน
ซึ่งคำว่าเรฟส์นี้ก็ย่อมาจากคำว่า “revolutions around the center”
ซึ่งหมายถึง “วัฏจักรรอบจุดศูนย์กลาง”

นี่คือหน่วยวัดกาลเวลาที่มีความคงเส้นคงวาหน่วยหนึ่ง ที่เป็นตัวบ่งบอกว่าระบบสุริยะของพวกคุณ
ใช้เวลานานแค่ไหน ในการโคจรไปรอบๆจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี่รูปเกลียวหอยนี้ของพวกคุณ
จำนวน 1 รอบ เพราะฉะนั้นแล้ว ระบบสุริยะทุกๆระบบจึงมีสิ่งนี้เหมือนๆกันทั้งหมด

แล้วพวกคุณคิดว่ามนุษย์โลกเคยผ่านมากี่เรฟส์แล้วหละ?
คำตอบก็คือ พวกคุณยังไม่เคยผ่านเรฟส์ไหนเลยแม้แต่เรฟส์เดียว!
เพราะว่ามันจะต้องใช้เวลาโดยประมาณ 230 ล้านปีโลก
กว่าที่จะโคจรไปให้ครบหนึ่งรอบ หรือ 1 เรฟส์ได้!

(หมายเหตุ: ครายออนเคยบอกเอาไว้ว่า และหลักฐานทางมานุษย์วิทยาก็ระบุว่า
มนุษย์เราเพิ่งเริ่มต้นเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ แค่เมื่อราวๆไม่เกิน 1 แสนปีมานี้เท่านั้นเอง
ดูรายละเอียดได้ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ – ผู้แปล)

“ข้อความจากต่างมิติ-ประวัติมนุษยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon”

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon.276395/


ทำไมฉันถึงพูดแบบนี้หนะเหรอ?

นั่นก็เพราะว่า มันหมายความว่า
สำหรับมนุษย์ที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้แล้ว
มันยังมีส่วนอื่นๆของอวกาศอยู่อีกมากมาย
ที่พวกคุณยังไม่เคยเจอะเจอมาก่อนเลย
เพราะว่าพวกคุณยังไปได้ไม่ถึง
1 รอบของมันเลยด้วยซ้ำไป

เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงยังไม่รู้จัก
เส้นทางโคจรทั้งสาย
ของระบบสุริยะของตัวเองเลยด้วยซ้ำไป
และพวกคุณก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า
ในอวกาศส่วนนั้นๆมันจะมีอะไร
ที่พวกคุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนอยู่หรือเปล่า

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันจะบอกพวกคุณว่า
ตอนนี้พวกคุณเริ่มที่จะเข้ามาอยู่ใน “โซน”
ที่พิเศษมากๆโซนหนึ่งแล้ว
และว่า..สิ่งที่พวกคุณกำลังจะได้เผชิญอยู่นี้
ได้ถูกเตรียมการเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว?

แต่ว่า..มันก็ไม่ใช่โชคชะตาที่ถูกกำหนดเอาไว้ให้ล่วงหน้าก่อนแล้ว
หรอกนะที่รักทั้งหลาย เพราะว่ามันคือสิ่งที่มีอยู่ตรงนั้นอยู่แล้วตลอดเวลา
ในกรณีที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกคุณทั้งเผ่าพันธุ์
สามารถผ่านพ้นจุดวิกฤติจนมาถึงมันได้

(หมายเหตุ: จุดวิกฤติที่ว่านี้ก็คือ ศักยภาพที่อาจจะเป็นไปได้ของวันสิ้นโลกในปี 2000
และจุดสิ้นสุดของยุคพลังงานเก่า แล้วเริ่มเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ในปี 2012
ซึ่งพวกเราก็สามารถผ่านพ้นมันมาได้แล้ว – ผู้แปล)

มันได้ถูกตั้งเวลาเอาไว้ล่วงหน้าอย่างพอเหมาะพอดี และอย่างสมบูรณ์แบบดีแล้ว
และมันก็มีไว้สำหรับพวกคุณโดยเฉพาะด้วย

"ในพื้นที่ใหม่ของอวกาศนี้
ซึ่งเป็นพื้นที่ๆระบบสุริยะของพวกคุณทั้งระบบ
กำลังเคลื่อนที่เข้าไปอยู่นี้
มันก็จะมีฟิสิกส์อะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปอยู่
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณมองเห็นว่า
มันคือรังสีชนิดใหม่ชนิดหนึ่ง
และในตอนนี้ระบบสุริยะของพวกคุณ
ก็กำลังเคลื่อนที่เข้าไปในรังสีที่ว่านี้อยู่

(แต่ในความเป็นจริงแล้วก็คือ พวกคุณกำลังเคลื่อนที่ออกมาจาก “หมอก” ชนิดหนึ่งอยู่
ซึ่งเป็นหมอกที่อยู่กับพวกคุณมานานแสนนานแล้ว
ดังนั้นในตอนนี้พวกคุณจึงกำลังจะได้มีประสบการณ์กับชีวิตในแบบที่ไม่มีมันอยู่)..."

"...รังสีชนิดใหม่นี้ ที่ระบบสุริยะของพวกคุณ
กำลังเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆอยู่นี้
ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยปรับปรุง DNA ของพวกคุณให้ดีขึ้น
มันคือส่วนหนึ่งของระบบ “ทางลัด”
ที่ได้เตรียมไว้ให้กับอารยธรรมของมนุษย์โลก
ในกรณีที่พวกคุณสามารถผ่านพ้นวัฏจักรที่เรียกว่า
the precession of the equinoxes ไปได้


(ซึ่งก็คือทุกๆประมาณ 26,000 ปี ซึ่งพวกเราก็ได้ผ่านพ้นมันมาแล้ว
เมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นปีแห่งการสิ้นสุดของยุคเก่า และเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ – ผู้แปล)

ซึ่ง the precession of the equinoxes ที่ว่านี้
ก็คือสิ่งที่คนโบราณทั้งหลายพูดถึงกัน และแม้แต่ในคัมภีร์ทางศาสนาของพวกคุณเอง
ก็มีกล่าวถึงมันด้วย และเรียกมันว่า “กลียุค” หรือ “กาลสิ้นยุค” (end time) นั่นเอง

แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่ตั้งใจจะให้เกิดขึ้น เพราะว่ามันจะไปช่วยสร้างศักยภาพแห่งความเป็นไปได้
ในอันที่จะวิวัฒน์ไปให้รวดเร็วกว่าเดิม และว่องไวมากขึ้นกว่าเดิมให้เกิดขึ้น
เพื่อเข้าไปสู่โลกที่ไม่มีสงครามอีกต่อไป และมันก็จะช่วยทำให้เกิดการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆขึ้นมาด้วย
และพวกคุณก็จะมีความสามารถในการแก้ปัญหาต่างๆในโลก 3 มิติของพวกคุณ
ที่ตอนนี้พวกคุณยังไม่สามารถแก้ไขได้อีกด้วย และอื่นๆอีกมากมาย..."

KRYON
.....................................................

 

มีข้อความใหม่ของครายออนมาให้อ่านนะครับ
ในกระทู้ข้างล่างนี้นะครับ

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...จ้งสำหรับมนุษย์โลกในยุคพลังงานใหม่นี้.538295/
................................................

 

ขอบคุณค่ะตามอ่านหมดแล้วค่ะ(f)

 

"หันเข้าสู่ภายในและฟังคำสอนจากสวรรค์"


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ปราศรัยโดย ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ณ มหาวิทยาลัยมอนทรีออล ควีเบค, แคนาดา
17 เมษายน 2536 (เดิมเป็นภาษาอังกฤษ)

บทความนี้ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เซ็นทรัล เดลี่นิวส์, ฟอร์โมซา กุมภาพันธ์ 2539

เราคือพระเจ้า


น่าเสียดายที่มีสิ่งต่างๆ มากมายที่คอยขัดขวางมิให้ผู้คนสามารถเข้าใจสัจธรรมขั้นพื้นฐานว่า
ความรักคือกฎอันยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล ดังนั้น หลายๆ คนจึงไม่ได้มีความสุขในชีวิตอย่างที่เขาควรจะมี

ยิ่งเรายึดติดกับชีวิตแน่นแฟ้นมากเท่าไร เราก็จะยิ่งมีความสุขกับรสชาติของชีวิตได้น้อยลงเท่านั้น
ดังนั้น คนที่รู้แจ้งจึงมีความสุขมากขึ้น และได้รับความพอใจมากขึ้น เมื่อพวกเขามีภาวะจิตใจที่มั่นคง
เขาก็สามารถจะทำสิ่งที่น่าพิศวงได้มากมาย เพราะพวกเขาเงียบสงบพอที่จะเข้าใจว่าปัญญาของเขาอยู่ที่ไหน
ความยิ่งใหญ่ของเขาอยู่ที่ไหน และสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้

เวลาที่เรามีเรื่องวุ่นวาย อยู่ในภาวะที่กระวนกระวายหรือต้องรีบเร่ง ส่วนใหญ่แล้วเราก็จะลืมสิ่งที่เราต้องการจะทำ
หรือทำสิ่งต่างๆ ออกมาอย่างไม่สมบูรณ์ ดังนั้น จิตใจอันสงบของผู้รู้แจ้งจึงสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ
ได้อย่างชัดเจนมากกว่าเดิม นี่แหละคือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังศาสตร์แขนงนี้

จงหยุดนิ่งและรู้ตัวว่าฉันนั้นคือพระเจ้า “ตัวฉัน” ในที่นี้คือใครกัน? ก็คือ “ผู้ที่” อาศัยอยู่ภายในตัวเรา
นี่แหละคือ “ตัวตน” ที่แท้จริง ดังนั้น เราจึงเป็นพระเจ้า การตระหนักรู้ในเรื่องนี้ไม่ใช่เกิดจากการที่เราได้ยินคนพูดแบบนั้น
หรือเกิดจากความเชื่อแต่เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการตระหนักรู้ด้วยตัวของเราเอง
จำเป็นต้องมีเทคนิคพิเศษเหมือนกันศาสตร์แขนงอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

เราเรียนรู้และมีความชำนาญในเรื่องต่างๆ ของชีวิตก็โดยอาศัยการทดลองทำด้วยตนเองทั้งสิ้น
ในทำนองเดียวกัน การรู้แจ้งก็สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยความพยายามมานะบากบั่น และด้วยประสบการณ์ของตนเอง
เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงคงอยู่ตลอดไป

นี่คือเหตุผลที่ทำไมเราจึงได้ยินบรรดานักบุญและนักปราชญ์จำนวนมาก
ในทุกยุคทุกสมัยกล่าวว่า เราคือพระเจ้า พระเจ้าอยู่ในตัวเรา
ถ้าพระเจ้าอยู่ในตัวเราก็หมายความว่าเรากับพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
ถ้าเรากับพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน เราก็คือพระเจ้า

แต่ถึงแม้เราจะได้ยินเช่นนี้มาหลายครั้งหลายหน เคยอ่านคัมภีร์ไบเบิลมาหลายเล่ม เคยอ่านวาทะของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่
เช่น พระพุทธเจ้า พระโมฮัมเหม็ด และท่านอื่นๆ อีกมาก แต่เราก็ไม่สามารถเชื่ออย่างจริงจังว่าเราเป็นเช่นนั้น
เราไม่สามารถค้นพบพระเจ้าซึ่งควรจะต้องอาศัยอยู่ภายในตัวเรา ทั้งนี้ก็เพราะเราขาดประสบการณ์ของตัวเราเอง
เราไม่ได้รู้สิ่งนี้ด้วยการค้นพบของตัวเราเอง เราเพียงแต่ได้ยินมาเท่านั้น

ในสมัยโบราณ เมื่อวิทยาศาสตร์ยังเจริญก้าวหน้าเหมือนในปัจจุบัน เราก็มีปัญหามากมาย
แม้แต่ฝนก็ยังทำให้เราวุ่นวาย แม้แต่หิมะก็ยังทำให้เรากังวล ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เรื่องเล็กๆ หรือเรื่องใหญ่ๆ
ก็สามารถขัดขวางภารกิจประจำวันของเราได้ ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เรามีร่ม มีเสื้อกันฝน เราก็สามารถเดินฝ่าฝนได้
เรายังสามารถมีความสุขกับฝน และทำงานในขณะที่ฝนตกได้ ยิ่งกว่านั้นเรายังมีรถยนต์ รถประจำทาง
เรามีสิ่งต่างๆ มากมายที่จะป้องกันตัวเราจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ดังนั้นเราจึงมีความสะดวกสบายมาก

ในสมัยก่อน ถ้าเราจะจัดให้มีการพบปะกันอย่างที่เรามีในวันนี้ พวกเราหลายคนที่อาศัยอยู่ห่างไกลมากๆ
ก็คงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะระยะทางเท่านั้น แต่อาจเกิดจากฝน อากาศ หรืออะไรอย่างอื่นก็ได้
ดังนั้นในสมัยโบราณ คนจึงต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ ในภูเขา ใต้ต้นไม้ เพื่อป้องกันตัวเองจากภัยธรรมชาติ
ในปัจจุบันหลายคนก็ยังทำเช่นนี้อยู่ เช่น ในประเทศที่ยังไม่มีการพัฒนาบางประเทศซึ่งไม่ควรจะต้องเป็นเช่นนั้น

การรู้แจ้งก็เหมือนกัน ก็คล้ายกับเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ชีวิตของเรา
ทำให้เรามีความสุขไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไร

สมมุติว่าเราไม่มีเสื้อกันฝน ไม่มีร่ม ไม่มีรถยนต์ หากวันหนึ่งมีฝนตกเราก็ต้องหยุดงานทุกอย่างที่เราจะทำ
เลิกทำสิ่งต่างๆ ที่เราอยากจะทำ หรือต้องการจะทำให้สำเร็จ

หากจะเปลี่ยนแปลงโลก ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ในทำนองเดียวกัน หากเรารู้แจ้ง ชีวิตก็จะดีเยี่ยม
จะไม่มีอะไรในชีวิตที่เรียกได้ว่า
เป็นความทุกข์ความน่ากลัวหรือปัญหาวุ่นวาย

การที่เรามีสิ่งเหล่านี้ก็เพราะเราขาดการป้องกันเท่านั้นเอง ยกตัวอย่างเช่น ฝน ถ้าหากไม่มีฝนตกเราก็จะไม่มีน้ำ
ไม่มีต้นไม้ ไม้ดอกต่างๆ ก็จะไม่สามารถเจริญเติบโตได้ พืชผลต่างๆ ที่เราต้องใช้ในการยังชีพก็ไม่สามารถเจริญได้
ดังนั้น ฝนก็ไม่ใช่สิ่งเลวรายอะไรในตัวของมันเอง แต่ที่มันทำให้เกิดความวุ่นวายก็เพราะเราไม่มีร่ม
เราจึงต้องเดินอยู่ในความหนาวเย็นเป็นระยะทางหลายไมล์ เราจะรู้สึกหนาวสั่น เราจะเป็นหวัด เราจะเจ็บป่วย
และเราอาจจะเสียชีวิตก็ได้ ถึงแม้ว่าฝนนั้นจะเป็นเพียงปรากฏการณ์ของธรรมชาติซึ่งมีประโยชน์ และมีอันตรายน้อยมาก
ดังนั้น หากเราไม่มีเครื่องมือป้องกันตัวของเรา แม้แต่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามก็ยังกลายเป็นอันตรายต่อตัวเราได้

ดังนั้น คนจำนวนมากจึงอยากจะเปลี่ยนแปลงโลก
เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา แต่บรรดานักปราชญ์ผู้รู้แจ้งกลับกล่าวว่า
“ไม่ใช่! ต้องเปลี่ยนตัวเธอเอง” เพราะถ้าเธอเปลี่ยนแปลงตนเอง
เราก็จะเปลี่ยนแปลงโลกรอบๆตัวเรา

และถึงแม้โลกจะยังคงเป็นเหมือนเดิมอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้เราก็จะไม่ได้รับผลกระทบเลย
หากแต่ละคนเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีสงคราม และจะไม่มีอุบัติภัยต่างๆ เกิดขึ้น
หากทุกคนมีร่ม มีเสื้อกันฝน มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงดินฟ้าอากาศหรือหยุดฝน
หรือทำอิทธิปาฎิหาริย์เพื่อควบคุมฤดูฝนเหมือนกับหลายๆ คนต้องการจะเรียน และมีพลังปาฎิหาริย์แบบนี้?
มันอาจจะหยุดฝนได้ อาจจะทำให้ฝนตกนานขึ้น อาจจะหันเหให้มันไปตกที่อื่นได้
และก็ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้อิทธิปาฎิหาริย์เหล่านี้มาก แต่ทำไมเราต้องไปกังวลด้วยล่ะ?
เพียงแต่เราสวมเสื้อกันฝน ซึ่งราคาถูก เป็นของง่ายๆ และทุกคนก็สามารถใช้ได้ก็เพียงพอแล้ว

ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าต้องการจะนั่งเรือข้ามแม่น้ำแต่เจ้าของเรือไม่ยอมรับท่าน เพราะท่านไม่มีเงินในตอนนั้น
แน่ล่ะท่านยังเป็นพระภิกษุผู้สละโลกอยู่ ท่านไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไร
ดังนั้น ท่านจึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่นจึงต้องเดิมข้ามแม่น้ำไป ในปัจจุบันนี่ ก็ยังมีพวกโยคีหลายคนในอินเดีย
ทิเบต และที่อื่นๆ ซึ่งสามารถจำทำเช่นนั้นได้

มีหลายคนถามฉันเกี่ยวกับเรื่องพลังอิทธิปาฏิหาริย์เพราะคนมักจะอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่เขาไม่สามารถจะอธิบายได้
ระวังเรื่องที่วิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นสิ่งที่ “เป็นไปไม่ได้” ฉันก็ตอบพวกเขาไปว่า “ถูกต้อง!
สิ่งเหล่านี้มีจริง แต่อย่างไรก็ดีเรื่องพวกนี้ไม่ควรนำมาใช้ส่งเดช และไม่ควรนำมาแสดงเพื่อเป็นการโอ้อวด”

แม้แต่พระเยซู ซึ่งมีพลังอิทธิปาฏิหาริย์มากมายแต่ท่านก็ไม่ได้ใช้มันตลอดเวลา ท่านระมัดระวังมาก
เพราะฉะนั้นท่านจึงปลุกคนตายเพียงคนเดียวให้ฟื้นคืนชีพได้ ท่านรักษาคนตาบอดเพียงสองคนให้หายจากโรค
ไม่ได้เที่ยวปลุกคนตายให้ฟื้นชีวิตขึ้นมาตลอดเวลา ถ้าทำแบบนั้นก็จะทำให้กฎแห่งธรรมชาติเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่นักบุญผู้รู้แจ้งเขาไม่ทำกัน

แต่ละคนจะต้องเรียนรู้ที่จะมีความปรารถนาอยู่ภายในหัวใจของเขา ที่จะรู้จักตัวเอง รู้จักพระเจ้า
จากนั้นอาณาจักรของพระเจ้าจึงจะมา อาจารย์จึงจะมาช่วยบุคคลผู้นั้น
ถ้าเราใช้อิทธิปาฏิหาริย์หรือใช้วิธีเหนือธรรมชาติเพื่อชักจูงให้คนเชื่อถือเรา
เราก็นำคนให้ออกนอกลู่นอกทางโดยไม่รู้ตัว เพราะเราจะจำกัดพลังของพระเจ้าอยู่เพียงแค่
ความสามารถในการทำปาฏิหาริย์เหล่านี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้จากบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญบางคน
นอกจากนี้การที่เราทำเช่นนี้ จะเป็นการแทรกแซงธรรมชาติ และแน่นอนเราก็จะนำหายนะมาสู่ตัวเรา
สิ่งที่เราแสวงหา คือ สิ่งที่เป็นนิรันดร เช่น ปัญญา ความรัก และความยิ่งใหญ่แห่งพลังจักรวาล
ไม่ใช่เพียงแค่การได้รับพลังในระดับต่ำๆ ที่อยู่ในมุมเล็กๆ เท่านั้น

..................................

 

The Power of Now



บทความที่นำเสนอสรุปประเด็นจากหนังสือเรื่อง The Power of Now
แต่งโดย Eckhart Tolle ผู้แต่งกล่าวถึงพลานุภาพของการอยู่กับปัจจุบัน
พลังนี้สามารถช่วยให้เราเข้าถึงพลังพุทธะซึ่งเป็นพลังที่อยู่เหนือความคิด
เหนืออกุศลจิตทั้งหลาย มีแต่ความสุข สงบ ผ่องใส และเปี่ยมไปด้วยปัญญา
พลังนี้มีอยู่ในมนุษย์ทุกคนแต่เราไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะมีพลังความคิดมาบดบัง

ความคิดก็คือการแสดงออกของตัวกูของกู มนุษย์ส่วนใหญ่จึงชอบตัดสิน
และวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น ปรุงแต่งคิดเกิน ตีความสร้างเรื่อง และคิดว่าตนย่อมถูกต้องเสมอ
ตัวความคิดจะทำงานตลอดเวลาและอยู่เหนือการควบคุม สิ่งนี้เองที่เป็นตัวกำหนดให้มนุษย์
มีพฤติกรรมการแสดงออกตามความเคยชินเดิมๆ ตามสิ่งที่เคยเรียนรู้มา
และตามเหตุปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ จิตใจจึงยากที่จะสงบหรืออยู่นิ่ง
มักจะมีแต่ความว้าวุ่นเศร้าหมอง โกรธเกลียด ฟุ้งซ่าน อยากได้อยากมีอยากเป็น
และวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา หาความสุขแทบจะไม่ได้

ดังนั้น วิธีการที่จะเข้าถึงพลังพุทธะที่กล่าวมาข้างต้นคือ
การดึงจิตออกจากความคิด เพียงเท่านี้เราก็จะอยู่เหนือพลังแห่งความฟุ้งซ่านปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวง
แต่การจะดึงจิตออกจากความคิดได้จะต้องอาศัยการรู้เท่าทันว่ากำลังคิด
และการจดจ่อกับสภาวะปัจจุบัน เพราะธรรมชาติของความคิดจะไม่อยู่กับปัจจุบัน
แต่จะไหลไปสู่เรื่องในอดีตหรือเรื่องในอนาคตเสมอ
ผู้แต่งจึงสรุปวิธีการปฏิบัติเพื่อดึงจิตออกจากความคิด มีใจความสำคัญ ดังต่อไปนี้

วิธีดึงจิตออกจากความคิดและจดจ่อกับสภาวะปัจจุบัน

1. รู้เท่าทันความคิดโดยการหัดฟังเสียงในใจ (Inner voice)

ความคิดจะแสดงออกมาในรูปของภาพและเสียงในใจ การจะรู้เท่าทัน
ว่าตนคิดอะไรนั้นจะต้องอาศัยการมองดูความคิด และต้องมองด้วยใจเป็นกลาง
มองอย่างเดียวโดยไม่คิดต่อหรือปรุงแต่งว่าดีหรือไม่ดี น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ
การมองไปปรุงแต่งไปจะทำให้จิตแตกทำให้ฟุ้งซ่านมากยิ่งขึ้น
แต่ถ้าเราหมั่นรู้ทันบ่อยๆ ด้วยใจเป็นกลาง ความคิดฟุ้งซ่านและการคิดซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องเก่าๆ
จะลดปริมาณลงและสติจะเข้มข้นมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากเรามีปัญหาหรือเรื่องทุกข์ใจอย่างหนักจนไม่สามารถจดจ่ออยู่กับปัจจุบันได้
ก็ต้องใช้ธรรมะคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาเพื่อทำให้จิตเกิดการปล่อยวางกลับมาสู่ความเป็นกลางก่อน
เมื่อจิตใจสงบเราจึงจะมีปัญญาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

ผู้แต่งกล่าวว่าหากฝึกรู้เท่าทันความคิดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
จะเกิดเป็นพลังแห่งความรู้สึกซึ่งไม่กระเพื่อมหวั่นไหวต่อความคิด อารมณ์
และสิ่งภายนอกที่มากระทบแต่อย่างใด จิตใจจะสงบมีพลัง มีความสุข มีชีวิตชีวา ว่องไว
หมดความกังวล เพราะมีแต่ตอนนี้เวลานี้และเดี๋ยวนี้ เราจะมีปัญญารู้ว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ

ผู้แต่งได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่มองดูความคิดให้เราสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ไปด้วย
จะช่วยทำให้รู้เท่าทันความคิดได้ง่ายยิ่งขึ้นเพราะความคิดเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์

2. จดจ่ออยู่กับสิ่งที่กระทำในปัจจุบันอย่างเต็มที่

มองต้องเห็น ฟังต้องได้ยิน ดมต้องได้กลิ่น ลิ้นสัมผัสต้องรู้รสชาติ
กายสัมผัสต้องรู้เย็นร้อนอ่อนแข็ง คิดอะไรต้องรู้เท่าทัน เมื่อมีอารมณ์เปลี่ยนแปลง
ก็ต้องรู้ว่าเกิดขึ้นจากความคิดอะไร

3. รู้สึกถึงพลังชีวิตที่หมุนเวียนทั่วทั้งร่างกาย

สุขภาพจะแข็งแรงเพราะจิตไม่ตกอยู่ภายใต้วังวนของความคิดอกุศลทั้งหลายเช่น
ความโกรธเกลียด สลดหดหู่ หรือวิตกกังวล จิตจะผ่องใส ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เพราะทุกครั้งที่เราคิดอกุศลหรือเคร่งเครียด ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนและสารสื่อประสาท
ที่มีผลทำลายภูมิต้านทานของร่างกาย

4. ฝึกฟังเสียงความเงียบในจิตใจ

หากเราลองสังเกตดูเราจะพบว่า จะมีเสียงแห่งความเงียบแทรกกลางระหว่างความคิดเสมอ ให้ฝึกฟังเสียงนั้น

5. ฝึกรับรู้ถึงความว่างเปล่ารอบๆ ตัวเรา


ที่มา: DrBoonchai

และเนื้อหาภาคภาษาไทยในกระทู้นี้นะครับ..กระทู้โดยคุณสันโดษ:

http://palungjit.org/threads/power-now-พลังแห่งจิตปัจจุบัน-หนังสือขายดีตลอดกาลที่อเมริกา.153986/
................................................

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

“ในหนังสือของผมที่ชื่อว่า “The Power of Now”
ผมได้บอกวิธีที่จะทำให้สามารถมีสติรู้อยู่ใน “ปัจจุบันขณะ”
เอาไว้ให้แล้วหลายวิธีด้วยกัน แต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือ
“การยินยอมให้สภาวะจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ใหม่นี้
สามารถเปิดเผยตัวมันเองออกมาได้เท่านั้นเอง
แทนที่จะไปมีความเชื่อว่า คุณจำเป็นจะต้อง
ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้มันเกิดขึ้นมา

แล้วคุณจะทำให้มันเปิดเผยตัวมันเองออกมาได้ยังไงหละ?

ก็แค่ยินยอมให้ “ชั่วขณะนี้” มันเป็นอยู่ของมันอย่างนั้นเอง
ซึ่งก็หมายความว่า คุณจะต้องเลิกต่อต้านมันจากภายในเสีย
แล้วยินยอมให้ปัจจุบันขณะนี้มันเป็นไปเช่นนั้นเอง
ซึ่งวิธีการนี้ก็จะทำให้ชีวิตสามารถเบ่งบานออกมาได้อย่างสวยสดงดงาม
มันไม่มีวิธีการฝึกจิตวิธีไหนที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าวิธีนี้อีกแล้ว”

...Eckhart Tolle…

https://www.eckharttolle.com/article/The-Power-Of-Now-Spirituality-And-The-End-Of-Suffering
............................................

 

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014
HILARION 2014 - The Rainbow Scribe
September 14-21, 2014
วันที่โพสท์ _Tue ,16/9/2014
ผู้แปล: อจิตตะ

คุณคุณที่รัก….

เห็นทีคุณต้องหย่าขาดจากความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ
ของสิ่งที่นำคุณออกจากศูนย์กลางของเรื่องที่คุณรู้อยุ่ภายใน
ซึ่งทำให้คุณไขว้เขวอย่างไม่สิ้นไม่สุดอยู่นี้ซะทีละนะ....
และจงพุ่งเป้าหมายไปที่แนวทางของเบื้องบนที่กำลังเกิดขึ้นในจักรวาลแทนที
เพราะมีทั้งข่าวใหญ่ๆและมีความสำคัญสำหรับคุณที่คุณควรได้รู้
ทั้งกิจกรรมและแห่งหนตำบลใดที่คุณได้ทำได้ไป
รวมถึงหน้าที่ต่าง ๆในแต่ละวันระหว่างที่คุณอยู่บนโลกนี้
ซึ่งก็มีมากมายที่ตอนนี้ภาพได้ชัดขึ้นกับการค้นพบใหม่อีกครั้งนี้

ในขณะที่โลกยังคงหมุนวนอยู่ในกรอบของเวลา
ที่มันจะนำเข้าสู่การโฟกัสในความรู้และความทรงจำเก่า ๆ
ซึ่งทั้งหมดก็พร้อมแล้วกับการนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
เพื่อการพัฒนาสู่ยุคที่มีคุณอยู่เป็นส่วนร่วมนี้
ดังนั้น....จงตั้งมั่นอยู่กับศูนย์กลางภายในของคุณ
และจงดูมัน....ถ้าหากคุณพร้อมที่จะนำมันมาออกมาใช้....
เพราะเมล็ดพันธุ์ของความรู้ใหม่ ๆ ที่เต็มแน่นอยู่ชั้นบรรยากาศนั้น
จะรอคอยการเข้าสู่การโฟกัสของคนเช่นคุณ
โดยการดึงความรู้จากอดีตที่จำเป็นเท่านั้น มาทำการอัพเดท
เพื่อให้เกิดประโยชน์ยิ่งๆขึ้นในเวลานี้และเดี๋ยวนี้....

โลกพร้อมที่จะอ้าแขนรับกับความรู้ให้มากยิ่งขึ้น
ด้วยวิธีการใหม่ที่สอดประสานกับแหล่งกำเนิดที่เป็นไปอย่างไร้ร่องรอย
และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใดและสิ่งใด
ซึ่งมัน “เป็น” ศักยภาพที่ตอนนี้พร้อมที่จะปรากฏสู่โลกแห่งความจริงใหม่ของคุณแล้ว
และการที่เราได้เรียกผู้ที่ได้อาสาออกมานำความก้าวหน้าเหล่านี้
ไปให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการอยู่ในขณะนี้นั้น....
ซึ่งลึก ๆ แล้ว ....คุณเองก็รู้เรื่องเหล่านี้ดี
ว่าเป็นการเรียกร้องจากมิติที่สูงกว่าเพื่อทำการเปิดใช้งานในสิ่งที่คุณรู้
ซึ่งเราก็คาดหวังว่า หลาย ๆ คนคงตอบรับกับการเรียกร้องในครั้งนี้
เพื่อทำให้ดาวเคราะห์ที่เป็นอาณาจักรที่เป็นหลักสำคัญของพวกเขานี้ดียิ่งขึ้น
ส่วนแนวคิดเดิม ๆ ในการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ให้กับตนเองอย่างไม่สิ้นไม่สุดนั้น
ตอนนี้มันได้กลายเป็นผงขี้เถ้าไปซะแล้ว....

คุณคือผู้ที่มาจากที่ที่หนึ่งในจักรวาลชั้นสูงสุด
ที่เป็นที่ที่ดีเยี่ยมและสำคัญที่สุดของในกลุ่มทั้งหมด
ซึ่งเป็นที่ที่มีจิตสำนึกร่วมกันและมีทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นต่อพวกเขาเมื่อยามต้องการ

คุณคือผู้ที่ครองแม่แบบนี้ไว้ภายในตัวคุณ
และนี่ก็พร้อมแล้วที่คุณต้องประกาศความเป็นจริงในปัจจุบันของคุณให้พวกเขาได้รู้….

หลายคนอาจจะประหลาดใจกับความรู้ที่มันเพิ่มขึ้นผ่านคุณอย่างรวดเร็ว
ในพื้นที่ที่คุณไม่เคยได้ให้ความสนใจหรือให้ความจริงจังกับมันมาก่อน
แต่ถ้าคุณตรวจสอบอดีตที่ผ่านมาของคุณดูละก็
คุณจะเห็นว่าที่นั่นเต็มไปด้วยศักยภาพที่กำลังครุกรุ่นไปด้วยภูมิหลังชีวิตของคุณ….
….ให้มันได้ไหลผ่านตัวคุณและขอให้เชื่อในกระบวนการ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ตามทีเถอะนะ….

โปรดจงรู้ว่าคุณคุณแต่ละคนที่อยู่ที่นี่ในเวลานี้
ต่างก็กำลังเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ของตน
ด้วยของขวัญที่มีค่าในทุกรูปแบบเพื่อการสร้างสังคมใหม่ให้เกิดขึ้น
ดังนั้น…. มันจึงต้องอาศัยความเชื่อและ ความมั่นใจในตัวเองของคุณ
ที่จะนำความอุดมสมบูรณ์ของจักรวาลไปสู่แต่ละชีวิต
ซึ่งก็มีหลายๆประตูที่กำลังเปิดอยู่ในขณะนี้
แต่สำหรับใครหลายคน จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ มันยังคงปิดอยู่เลย….
และความอุดมสมบูรณ์ที่เราพูดถึงซึ่งมากับปีกของความรัก
ที่มาในรูปแบบของการสร้างสรรค์ความคิดที่ต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรม
ซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะแสดงออกของความคิดต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การบรรลุผล

แต่ก็อย่างที่บอกละนะ….ว่านี่เป็นหน้าที่ของคุณคุณ
ที่จะต้องจริงจังกับการบันทึกทุกๆความคิดที่เกิดขึ้นทั้งหมด
และกับความคิดที่เกิดขึ้นในระหว่างวันของคุณ
เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะยังประโยชน์ให้แก่คุณในกาลข้างหน้า
กับการเฝ้าระวังและติดตามทุกๆระยะในแต่ละวัน
ซึ่ง ณ. ขณะนี้พระเจ้าผู้นำทางของคุณได้ทำงานร่วมกับคุณ
ด้วยการกระตุ้นความเป็นคุณที่แท้จริงให้ตื่นขึ้น
โดยการสร้างคำพูดและภาพอันประทับใจผ่านสู่จิตของคุณ
ซึ่งวัตถุประสงค์ของการนี้ก็เพื่อช่วยคุณ
โดยการบอกเป็นนัย ๆ หรือให้เบาะแส
เพื่อนำทางให้คุณไปสู่เส้นทางเดินของคุณ
ก็มีบ้างเหมือนกันนะที่บางคนเมื่อได้รับปุ๊ป ก็คิดปั๊บเลยว่า
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้มันบรรลุผลในสถานะการณ์ปัจจุบันของคุณขณะนี้
แต่ถ้าคุณได้บันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างละเอียดในบันทึกประจำวันของคุณละก็
สิ่งที่คุณได้บันทึกไว้มันจะมาเตือนคุณในภายหลังเมื่อเวลาที่มันปรากฏขึ้นกับคุณแล้ว….

พวกเรา....คือผู้ที่จะให้คำแนะนำคุณ และมุ่งมั่นที่จะทำงานไปพร้อมกับคุณ
เพื่อเสริมสร้างความก้าวหน้าให้แก่จิตวิญญาณของคุณ
และจะช่วยในยามที่มีสถานการณ์คับขันที่คุณกำลังพยายามรับมืออยู่
โดยการช่วยให้คุณได้เห็นทางเลือกในวิธีการแก้ปัญหา
หรือด้วยการปลูกฝังความคิดและมุมมองใหม่ให้แก่จิตสำนึกคุณ
เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้งานในชีวิตได้....

พวกเราไม่สามารถไปจัดการกับจิตวิญญาณ จิตใจ อารมณ์หรือทางกายภาพของคุณได้หรอกนะ
เพราะทั้งหมดนั้น ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของคุณ
และมันเป็นอาณาจักรของจิตวิญญาณคุณเองที่ต้องคอยให้คำแนะนำ
แต่เราสามารถที่จัดการและทำอยู่เสมอๆก็คือ
การยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจ
และช่วยให้คุณได้เห็นวิธีการอย่างเป็นรูปเป็นร่างผ่านเรื่องราวที่ท้าทายที่เกิดขึ้นกับคุณ....

ดังนั้น....ในช่วงเวลาที่คุณมีความรู้สึกเงียบและสงบนิ่ง
ขอให้คุยกับเราและขอในความช่วยเหลือของเราทุกวัน
ซึ่งต้องปราศจากจิตเจตนาในการร้องขอนั้นนะ
ไม่งั้นเราก็จะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
เพราะเราต้องตั้งมั่นอยู่ในกฏของจักรวาล
ด้วยการไม่แทรงแซงในสิ่งที่พระเจ้าของคุณได้มอบทางเลือกที่เป็นอิสระให้คุณได้เลือก....

....นะ....พวกเราอยู่ที่นี่ และ พวกเราก็พร้อมแล้ว....

Until next week…
I AM Hilarion

 

ขอบคุณครับ Have a nice day.

 

ประเด็นของ การยอม น่ะโดนใจ ขอเล่าบ้างนะคะ
คือว่า เรานำ การยอม มาปรับใช้กับสถานการณ์หรือสิ่งที่กำลังเผชิญหน้าอยู่
เราว่า... นั่นคือความกล้าหาญด้วยนะ ที่จะต้องเผชิญหน้ากับ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเองด้วยการยินยอมเนี่ย
ตอนนี้ ตัวเองกำลังอยู่ในสภาวะที่ต้องสูญเสีย การเสียสละที่จะไม่ทำตามความต้องการของตัวเอง เพราะรู้ดีว่า หากทำไปแล้ว จะต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ และที่สำคัญ มันไม่สง่างามสมกับเป็นผู้ที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งการรู้แจ้ง แบบที่เรียกว่า มีสุขปนทุกข์ ประมาณว่า รักสาม- สี่เส้าอะไรแบบเนี๊ยะ
แม้ว่าเราคิดและตัดสินใจที่จะเสียสละ มันก็ยังไม่จบซะทีเดียวนะ เพราะเรายังต้องเผชิญหน้า กับความเสียดาย ความอาลัยอาวรณ์ ความรู้สึกโหยหา ความอยากที่จะทำอะไรให้มันดีขึ้นมากกว่านี้ ความเจ็บปวด ความสงสาร ความเห็นใจ ความโกรธ ความเกลียดชัง ความเคียดแค้น และมันกลายเป็นความเก็บกด โอ๊ย... ไม่อยากเจอ ไม่อยากยอมรับเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าชีวิตที่เรียบง่าย ความสันโดษที่เราสมัครใจมันจะไม่ราบรื่นไปซะละ (นี่แหละ... เราถึงบอกว่า การยอม เป็นเรื่องของความกล้าหาญ)
แล้วก็พึ่งจะมาคิดได้เอาเมื่อใกล้รุ่งเช้าของวันนี้ล่ะว่า มันก็คงเหมือนคนเป็นโรคร้ายอะไรซักอย่างนั่นแหละ มีทางเดียวก็คือ ยินยอมให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ต้องออกแรงต้านทาน หรือทำอะไรไปตามใจที่คิดเลย เหตุผลก็รู้ดีหมดแล้ว ถ้าคิดจะสละ ก็คือสละ และทุกเรื่องมันก็จะยุติไปได้ด้วยตัวของมันเอง แม้ว่ามันจะมีความโศกเศร้าอยู่ ก็ยอมอีกเหมือนเดิม ... ประมาณนี้ ....

 

ไชโย้ ให้กับค่ายท่านชยุตต์ ศิษย์ต่างมิติด้วยครับ
กลเม็ดเคล็ดลับในการฝึกฝน ที่หัวหน้าค่ายไปเสาะหามาให้นั้น ได้ทำให้

...ดอกไม้ ติดปีกพร้อมบินแล้ว หนึ่งดอก
ขอบอก ว่าปลื้มใจ หนักหนา
กับสหาย ที่มากด้วย ปัญญา
ตัวข้าขอ แสดงด้วย ยินดี


กระต่ายกลายพันธุ์ / นักรบแสง
.

 

มัวแต่ตามล่าหาความจริงนอกโลกอยู่ เลยทำท่าจะพลาดโลกภายในซ่ะงั้น..
ขอบคุณผู้แปลบทแปลดีๆมากๆเลยล่ะครับ.;39

 

ขออนุญาตlikeนะครับ..

 

ข้อความสื่อสารจาก เมตาตรอน ( AA METATRONE & MICHAEL )
เรื่อง: เมตตาตรอน และ มิติที่ 33
-โลกกำลังเข้าสู่แถบเกลียวคลื่นพลังงานสีม่วง
-สภาวะสงบนิ่ง

( METATRON & THE 33RD DIMENSION
–EARTH ENTERING THE PURPLE PHOTON BELT
–STATE OF HIBERNATION )

วันที่รับสาส์น: 19 กันยายน 2014
ผู้รับสาส์น: Anna Merkaba
ที่มา: ~METATRON & THE 33RD DIMENSION – EARTH ENTERING THE PURPLE PHOTON BELT – STATE OF HIBERNATION~ | Sacred Ascension - Key of Life - Secrets of the Universe
ผู้แปล : อจิตตะ

ในวันที่ 22 ของเดือนกันยายน นี้
พวกคุณทั้งหมดก็จะเข้าสู่แถบเกลียวคลื่นพลังงานของแสงสว่าง (Photon Belt)
ที่มากับระบบพลังงานของแสงอาทิตย์ ซึ่งก็เป็นอีกก้าวหนึ่งของข้อตกลงใหม่....
สำหรับผู้คนทั้งหลายที่อยู่บนโลกและกำลังค้นหาตัวเอง
พวกเขาก็จะนำขั้นตอนนี้เข้าสู่กระบวนการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
และแถบเกลียวคลื่นพลังงานสีม่วงซึ่งได้รับจากแหล่งที่มา
ก็จะผลักดันข้อตกลงใหม่นี้ให้แก่โลกใบนี้ของคุณ....
ประตูประสานมิติของอดีตก็จะเริ่มผสมผสานใหม่
กับประตูประสานมิติของช่วงเวลาใน “ปัจจุบันขณะ”
ซึ่งก็จะนำความสงบและความร่วมมือร่วมใจ
ของทั้งทุกวัยที่ผ่านไปแล้วและทุกวัยที่ยังมาไม่ถึง....

อัตตา (ego) ของคุณก็จะปรับสู่สภาวะใหม่
ซึ่งมันก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกนะ....
แต่มันจะไปอยู่ด้านหลังของกระบวนการทางความคิดของคุณ
และจะทำให้คุณเริ่มที่จะมองโลกผ่านความแตกต่างของดวงตาคู่นี้
คุณจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงรอบ ๆ ตัวคุณ
และคุณจะสังเกตุได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของคลื่นความถี่อีกด้วย

ส่วนการครอบงำในอัตตา(ego)ของพวกเขาก็จะเป็นกลาง ๆ และรู้สึกสบายขึ้น
กับพลังงานใหม่ที่กำลังจะมาถึงในเวลานี้
และจะทำให้พวกเขาสลัดพลังงานของอัตตา(ego)นี้ทิ้งไป
และยอมให้ตัวตนที่สูงกว่า (higher selves )มาดูแลในสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่แทน

ดังนั้น....พาหนะ(ร่าง=ผู้แปล)ของคุณก็จะปฏิบัติการ
ด้วยจุดยืนของมุมมองจากตัวตนที่สูงกว่า(higher selves)ซึ่งมาแทนที่อัตตา(ego)
และก็จากจุดที่เหนือชั้นกว่านี้แหละ
ที่จะทำให้คุณทุกคนสามารถมองภาพชีวิตที่พวกคุณได้สร้างขึ้น
และประเมินทิศทางที่คุณต้องเคลื่อนตัวไป
ทั้งยังสามารถปรับคลื่นความถี่เพื่อจัดตำแหน่งของคุณ
ให้เป็นไปตามเส้นทางใหม่ที่คุณได้เลือกไว้....

คุณจะสามารถตรวจสอบชีวิตของคุณโดยไม่ต้องยึดอยู่ในวัตถุหรือความเป็นคุณ
คุณจะลืมไปชั่วขณะกับความเชื่อว่าคุณเป็นใคร
ทั้งยินดีที่จะสัมผัสชีวิตของคุณเองในแดนสวรรค์ของตัวตนที่สูงกว่าของคุณ
มันราวกับว่าคุณได้สัมผัสกับสิ่งที่ผู้คนในโลกพากันเรียกว่า
“ประสบการณ์ของสภาวะใกล้ตาย” ที่ปราศจากความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน....
คุณคุณต้องกำหนดสมาธิไว้ในที่ที่คุณต้องการเข้าไป
และให้อยู่ในสภาวะที่สงบนิ่ง และ ปล่อยให้จิตใจที่เป็นมนุษย์ในทางกายภาพ
ได้ดำเนินการด้วยชุด(set)ของความแตกต่างของข้อตกลงนั้น ๆ
ซึ่งตามจริง วิธีนั้นมันจะไปยกจิตวิญญาณออกจากร่างคุณ
เพื่อให้เกิดการรับรู้ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขวัตถุประสงค์ในความเป็นคุณ....

คุณควรให้การต้อนรับกับคำแนะนำของคุณเอง
ซึ่งนั่นจะเป็นการช่วยให้คุณได้เห็นภาพชึวิตของคุณ
เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาของคุณ
และเมื่อชั่วขณะหนึ่งที่มันได้เกิดขึ้นกับคุณ คุณควรอนุญาต
พร้อมกับเข้าร่วมในความรู้สึกเบาสบายนั้น
แล้วให้วนกลับไปสู่เรื่องราวต่าง ๆ ที่เจ็บปวด
เพื่อปลดปล่อยความคิดในรูปแบบเดิมๆนั้นออกไปเสีย...
ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยการสุ่มหาในขณะที่คุณตระหนักรู้กับคำแนะนำของคุณเอง
และมีความจริงใจที่จะปล่อยให้การเชื่อมต่อนั้นเกิดขึ้น

ซึ่งนั่นก็จะทำให้คุณได้เดินทางย้อนกลับไปสู่ด้านอื่น ๆ ของคุณ
ที่คุณได้สร้างด้วยตัวคุณเองอย่างแท้จริง
ซึ่งเป็นด้านต่าง ๆ ของคุณที่คุณควรยอมให้มันได้ไปจากคุณเสียที
และหลังจากที่คุณได้สั่งลามันแล้ว
เหล่าอัตตา(egos)ของคุณก็จะพากันตั้งอยู่ในความนิ่งสงบ
และจะเสนอหน้าออกมาได้อีก
ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากตัวตนที่สูงกว่าเท่านั้น...

ซึ่งสำหรับยุคใหม่นี้ คุณจะต้องเคลื่อนตัวโดยไม่ให้เจ้าอัตตานี้มาเป็นผู้กำกับ
และต้องคอยตรวจสอบความคิดทั้งหลายของคุณ
ทั้งควรทำการปรับพลังงานของคุณในแต่ละวัน
ให้มันเลื่อนไหลไปพร้อมกับคุณอย่างระมัดระวัง....

และเมื่อใดก็ตามที่คุณได้รับการแจ้งเตือนว่า
ให้นำ “ความคิด ณ ปัจจุบันขณะ ไปแทนที่ ความคิดในอดีต” ...
คุณจะสังเกตุได้เลยว่าจิตใจคุณเริ่มมีอาการแปรปรวนทันที
และจะพบว่าตนเองนั้นมีความสับสนอยู่บ้าง
กับหลากหลายความรู้สึก และกับข้อมูลที่คุณควรจะได้รับ....

แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการทั้งหมดนี้มันก็คือการผสมผสาน
ที่มากับรูปแบบใหม่ขององค์ประกอบที่เป็นพื้นฐานใหม่....
ซึ่งทั้งหมดที่เราได้พูดคุยกับคุณอยู่นี้
มันก็เป็นสิ่งที่ได้กำหนดแล้วอย่างแท้จริงที่มาจากตัวตนที่สูงกว่าของคุณ
ซึ่งก็เปรียบเหมือนการนำลักษณะพิเศษต่างๆของคุณ
จากเรื่องราวต่างๆที่มันได้เกิดขึ้นไปแล้วมาทำการจัดวางให้เป็นแนวทางเดียวกัน
และแน่นอน....ตัวตนที่สูงกว่าก็จะร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลง....
ซึ่งคุณก็จะได้รับประสบการณ์และสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ได้ก็ด้วยเหตุนี้

ขอให้รู้ว่านั่นคือความเป็นธรรมชาติของความก้าวหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสสาร
จึงทำให้ของเหลวมีการเพิ่มมากขึ้นกับโลกตันตันใบนี้
ซึ่งก็เป็นโลกที่ให้ความคล่องตัวแก่คุณ...
ดังนั้น....ในขณะที่คุณยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อให้ผ่านเส้นทางของการเลื่อนระดับนี้....
คุณจะสังเกตุเห็นว่า พาหนะ(ร่าง=ผู้แปล)ของคุณเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
โครงสร้างภายในของคุณจะกลับกลายเป็นของเหลวและลมเพิ่มมากขึ้น

ส่วนการเลื่อนระดับที่ยังคงดำเนินต่อไปนี้ ก็จะก่อให้เกิดผลในท้ายสุด...
คือการเลื่อนคุณออกจากจุดหมายของสิ่งที่คุณไม่สามารถที่จะหวนกลับไปอีก
กับโลกตันๆซึ่งครั้งหนึ่งคุณเคยรู้จัก
ขึ้นไปสู่อีกจุดหมายหนึ่งที่ก็ทำให้คุณไม่มีวันจะหวนกลับได้เช่นกัน
ดังนั้น....หลายๆคนอาจกำลังรับประสบการณ์ของการสูญเสีย
และมีความรู้สึกโหวงเหวงและว่างเปล่าที่จะบอกลากับประสบการณ์ของมิติที่ 3
ซึ่งเป็นครั้งเดียวและตลอดไปในครั้งนี้....

และทั้งหมดนี้ก็จะเป็นการต้อนรับกับพาหนะใหม่
ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนชีวิตของคุณ
ที่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สภาวะใหม่ได้ในชั่วข้ามคืน

ดังนั้น คุณก็คงต้องดำเนินการต่อไปกับคลื่นความถี่อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการย้ายจากปลายด้านหนึ่งของสเปคตั้มไปสู่ด้านอื่น
และจงปล่อยให้เกิดการรับรู้และเป็นพยาน
ที่พร้อมจะเปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน
ซึ่งคุณได้จัดเตรียมไว้แล้วเป็นอย่างดีที่จะอดทนกับเงื่อนไข
ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับภายในและภายนอกของคุณนี้....

และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ล้วนเป็นไปตามแบบพิมพ์เขียวของพระเจ้า
ที่ได้บันดาลและกำหนดให้แก่ผู้ที่ได้อ่านข้อความเหล่านี้
ดังนั้น....เราจึงขอให้คุณระมัดระวังและให้ความสนใจต่อร่างกายและจิตใจของคุณ
และต่อคำแนะนำที่คุณได้รับ....
เพราะคุณ....จะไม่มีชีวิตที่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เพราะคุณ....จะไม่เดินไปตามเส้นทางเดิมอีกต่อไป
เพราะคุณ....จะมีหน้าที่ในการส่งสัญญาณของแสงสว่างที่นับวันจะมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นๆ
เพราะคุณ....จะได้รับความจริงชุดใหม่ ทั้งในรูปแบบของความคิด
และเส้นทางของความเป็นอยู่ของคุณ....

ขอให้รู้ว่า....เรายืนอยู่เคียงข้างคุณ
ขอให้รู้ว่า....เราพร้อมจะช่วยเหลือในทุกๆเรื่องที่เป็นของคุณ
ขอให้รู้ว่า....เรารักคุณอย่างไร้ซื่งเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
ขอให้รู้ว่า....เราได้เดินไปพร้อม ๆ กับคุณในทุกย่างก้าว
ขอให้รู้ว่า....คุณสามารถติดต่อเราได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ
ขอให้รู้ว่า....มันก็เป็นเช่นนั้นเอง ( that it is so. For it is)

....และทุกสิ่งที่เรามีอยู่ในตอนนี้ก็มีไว้เพื่อคุณ.....

....เรารักคุณ และ อยู่เคียงข้างคุณเสมอนะ....

Goodbye for now.

 

ขอบคุณครับ Thank the WORK. LOVE IT. ^_^

 

ข้อความบางส่วนจากสภากาแลคซี่แห่งแส่งสว่าง
โดย Sheldan Nidle - 23 กันยายน 2014



เรามาในวันนี้ พร้อมกับข่าวดีสำหรับคุณ !
กับโปรแกรมต่างๆที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ รวมทั้งการตั้งค่าสกุลเงินของโลกที่ยังคงแสดงถึงความคืบหน้า เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ความพยายามครั้งสุดท้ายโดยพันธมิตรของฝ่ายมืดนั้นล้มเหลว สิ้นเดือนกันยายนนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่กำหนดของความความสำเร็จ สำหรับอิสระภาพและการเคลื่อนไหวด้านสันติภาพของโลกที่จะเพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลในหลายประเทศในโลกของคุณกำลังเข้าใกล้จุดที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีสาเหตุจากแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นที่ได้ถูกวางไว้บนฝ่ายมืด ที่พวกเขาจำเป็นจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ และเริ่มที่จะให้ความร่วมมือกับพันธมิตรโลกของเรา เรากำลังเฝ้าดูผลของแรงกดดันในสองทศวรรษที่ผ่านมาของระบบการเงิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินใหม่ที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับกองทุนแห่งความเจริญรุ่งเรือง ทั้งสองความเคลื่อนไหวที่มีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงานของคุณ ชุดของการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ NESARA ในอเมริกาและทั่วโลก
และการเคลื่อนไหวผูกติดอยู่ด้วยกันนี้ จะเปลี่ยนโลกแห่งความเป็นจริงของคุณตลอดไป

การเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชั้นนำ สำหรับการติดต่อครั้งแรก (first contact) ส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในเวลานี้การพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองและการเพิ่มขึ้นของเสรีภาพทั่วโลก และในบรรยากาศที่ดีเหล่านี้ ที่จะนำไปสู่เงื่อนไขของการเปิดเผยตัวอย่างเป็นทางการของเรา เรารู้ดีว่ามันจะน่าตกใจสำหรับการประกาศ ที่คุณได้ยินทุกวันจากผู้นำของคุณ การประกาศนี้จะเปลี่ยนกลไกและบทบาทของรัฐฯ
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการออกอากาศ ที่อนุญาตให้เราได้พูดคุยกับคุณโดยตรง เมื่อเราสามารถติดต่อกับคุณ เราตั้งใจที่จะครอบคลุมชุดของความรู้ที่คุณจะได้รับข้อมูลสั้นๆในวงกว้าง ที่ต่อไปคุณจะได้เรียนรู้เป็นครั้งแรกในโรงเรียนของคุณ และการขยายตัวโดยการอ่านหนังสือและการฟังเพื่อความหลากหลายของโปรแกรมต่างๆบนโทรทัศน์ของคุณ คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดที่แท้จริงของคุณ และวิธีการที่คุณมาตั้งถิ่นที่อยู่ของพื้นผิวของพระแม่โลก (Gaia) จากนั้นคุณก็จะพร้อมที่จะพบกับขาว Agarthan เพื่อนบ้านของคุณ และแน่นอนพวกเราด้วย

เรามาพร้อมกับสิ่งที่ดีที่จะรายงานให้คุณทราบ ! แนวร่วมจำนวนมากของเรายังคงเดินหน้าต่อไป เรามาใกล้จะถึงที่สุดแล้ว สำหรับการตั้งค่าระดับโลก และการตีราคาสกุลเงินของโลก เหตุการณ์เหล่านี้จะได้รับการเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของมาตรฐานโลหะมีค่าทั่วโลก ไปสู่ความไม่ถูกต้องของธนาคารรายใหญ่ของโลก เช่นเดียวกับการคอรัปชั่นจำนวนมากมายของรัฐบาลโลก

หมายความว่าการปฏิวัติทางการเงินที่ยิ่งใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นในขณะนี้ เพื่อล้างอาณาจักรของผู้มีอิทธิพลของฝ่ายมืด ขั้นตอนนี้พร้อมที่จะมีผลต่อการจับกุมที่สำคัญ รวมทั้งการปกครองที่อยู่ในครรลองธรรมและนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง รวมทั้งกฎระเบียบใหม่ของธนาคารระหว่างประเทศที่จะมีการทำความสะอาดคราบสกปรกอันน่ารังเกียจเหล่านี้ เพื่อเสรีภาพและอำนาจอธิปไตยของคุณที่จะเกิดขึ้นจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
เราขออวยพรจากอาณาจักรสวรรค์แห่งนี้ ที่จะบรรลุภาระกิจอันศักดิ๋สิทธิ์ทั้งมวล และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ช่วยให้งานของเราประสบความสำเร็จ!

หลายท่านอาจจะผิดหวังจากบางสิ่งที่ใช้เวลาอันยาวนานซึ่งดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดหรือสำเร็จได้ จงอย่าสูญเสียความเชื่อมั่น! ปาฏิหาริย์กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!

Website: Sheldan Nidle - September 23, 2014

 

ขอบคุณครับ Have a GOOD day ...^0^