ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. koh55559

    koh55559 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +542
    ลูกเห็บตกหนักที่ซาอุดิอาระเบีย

    ลูกเห็บตกหนักที่ซาอุดิอาระเบีย เมืองไทยจะมีแบบนี้บ้างรึป่าวปี 51 นี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เป็นไปได้หรือไม่ ประเทศไทยมี หิมะตก!!
    เรื่องโดย เชตวัน เตือประโคน

    ข่าว รายงาน จากปัญหา ภาวะโลกร้อน ส่งผลต่อความแปรปรวนของภูมิอากาศ ฤดูกาล ปริมาณน้ำฝน ทำให้ประเทศไทยมีสิทธิ์ หิมะตก หลังจาก คำทำนาย ของโหรดังชี้ชัดประเทศไทยปลายปีชวด 2551 จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าแปลกมหัศจรรย์ ทั้งหมดนี้สืบเนื่องมาจาก ภาวะโลกร้อน แต่จะจริงหรือไม่หาคำตอบได้ที่นี่


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    สมิทธ ธรรมสโรช กล่าวว่า ในอดีตไม่ทราบว่าเคยมีหิมะตกหรือไม่ แต่ทางอุตุนิยมวิทยา ทางหลักการของฟิสิกส์ มันสามารถเป็นไปได้ อย่างในต่างประเทศ รัฐเทกซัสก็เคยเกิดหิมะตกมาแล้ว ประเทศไทยตอนนี้อากาศไม่แน่นอน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้

    "สยามประเทศ ปีชวด 2551 นี้ จะเป็นปีแห่งความอาเพศ ในปลายปีชวด 2551 นี้ จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าแปลกมหัศจรรย์ จะเกิด "หิมะตก" ในเมืองไทยไปทั่วทางภาคเหนือและอีสานบางส่วน ประชาชนทั้งคนไทยและทั่วโลกตื่นตกใจแทบช็อค เพราะไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย..."

    โหร "โสรัจจะ" ได้ทำนายไว้ใน "ศาสตร์แห่งโหร ปี 2551" หนังสือของสำนักพิมพ์ 'มติชน'...นั่นคือคำทำนายตามหลักโหราศาสตร์ซึ่งถ้าเป็นจริงตามนี้ บางคนอาจกระดี้กระด้า เนื้อตัวเต้นระริก เตรียมรับมือกับความหนาวเย็นที่จะมาเยือนอย่างใจจดจ่อ จินตนาการถึงการวิ่งย่ำไปบนพื้นสีขาวโพลน ปั้นตุ๊กตาหิมะตัวกลมๆ มี หู ตา จมูก สวมหมวกและมีผ้าพันคอยืนเด่นเป็นสง่า คู่รักบางคู่อาจคิดภาพตอนที่กำลังหยอกล้อ ขว้างปาก้อนหิมะใส่กันอย่างสนุกสนาน...ซึ่งก็อาจมีบ้าง สำหรับคนที่ "ขี้หนาว" และเกลียดความเยือกเย็น จนอยากที่จะขดตัวอยู่แต่ใต้ผ้าห่มผืนอุ่น

    เช่นกัน ย่อมมีคนที่คิดว่าปรากฏการณ์นี้เป็นวิกฤตที่ร้ายแรง ก่อนจะมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้สำหรับสถานการณ์ "หิมะตกในประเทศไทย" ลองข้ามไปอีกฟากฝั่งหนึ่งของโลก

    เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ณ กรุงบูเอโนสไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา ได้เกิดหิมะตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมง ตามถนนหนทาง ชาวอาเจนไตน์นับพันคน ส่งเสียงร้องแสดงความยินดี และเล่นขว้างปาหิมะกันอย่างสนุกสนาน หญิงวัย 82 ปีคนหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหิมะในกรุงบูเอโนสไอเรส

    นั่นเป็นหิมะตกครั้งใหญ่ครั้งแรกในเมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา นับตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน ปี 2461 แม้ว่าที่ผ่านมาจะเคยมี ฝนลูกเห็บ และฝนที่มีความเย็นจัด ตกลงมาอยู่บ้าง


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    [​IMG] สำหรับประเทศไทย...


    กระแส "หิมะตก" ก็เป็นที่พูดถึงอย่างมากมายในโลกไซเบอร์เหมือนกัน ลองเอาบางความเห็นมาให้อ่านเล่นสนุกๆ

    Park_Jong_air : หิมะตกจริงๆ ก็ดีนะ จะได้เหมือนเกาหลี และที่สำคัญ เผื่อจะขาวขึ้นบ้าง

    ~HeeNim~ : ถ้าหิมะตกจริงๆ คนไทยอยู่ไม่ได้หรอก เพราะไม่คุ้นกับสภาพอากาศหนาวๆ เหมือนบ้านเมืองเขาที่ร้อนแบบบ้านเราตอนนี้ก็อยู่ไม่ได้

    คิระจากยมโลก : ก็ดีใจอยู่ที่จะได้เห็นหิมะตกในไทย แต่แบบนี้ก็แสดงถึงความปั่นป่วนจากสภาวะโลกร้อน แสดงว่าโลกของเรากำลังจะแตกแล้วละสิเนี่ย

    ก็ต่างคิด ต่างจินตนาการกันไป...แต่!!! ในทางวิทยาศาสตร์ มันจะเกิดปรากฏการณ์อย่างที่โหรทำนายไว้ได้จริงหรือ? ลองค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เพื่อที่จะหาว่าเคยมีครั้งใดหรือไม่ที่ประเทศไทยมีหิมะตก พบภาพถ่ายชุดหนึ่งเก่าเหลืองซีด เดาว่าน่าจะเป็นจากหนังสือพิมพ์เล่มใดสักฉบับ (ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด) ใต้ภาพนั้นมีคำบรรยาย ว่า...

    "นี่เปนภาพถ่ายในฤดูหนาวที่จังหวัดเชียงราย เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๘ วันนั้นเปนวันที่ ๗ มกราคม เวลา ๑๘.๐๐ น.เศษ หลังจากฝนตกเล็กน้อย ลูกเห็บขนาดเล็กและเกล็ดน้ำแข็งบางๆ สีขาวคล้ายปุยหิมะ ก็ตกลงมาอย่างมากมายดูขาวโพลนไปทั่วแผ่นดิน"

    <CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER>
    และอีกภาพหนึ่ง...ถ่ายในวันรุ่งขึ้น หลังหิมะตก ๑๔ ชั่วโมง ที่เห็นเป็นพื้นขาวคือหิมะ อีก ๓๘ ชั่วโมงต่อมาจึงละลายหมดไป


    สอบถามเอาความจริงจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ รวมถึงความเป็นไปได้ที่ในปีหน้าจะมีหิมะตกตามคำทำนาย คำตอบที่ได้รับจากบรรดาผู้คร่ำหวอดในวงการเหล่านี้น่าฟัง ​

    ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัล นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นแห่งชาติ รวมถึงรางวัลบุคคลดีเด่นแห่งชาติ บอกว่า ไม่เคยได้ข้อมูลและรู้ว่าเคยมีหิมะตกที่ จ.เชียงราย

    ส่วนคำทำนายของโหรที่ว่า ปี พ.ศ.2551 นั้นหิมะจะตก คงต้องบอกว่าเป็นไปได้ยาก และมีโอกาสน้อยมากที่มีหิมะตกในประเทศไทย คงเป็นได้แค่ลูกเห็บ หรือไม่ก็แม่คะนิ้งมากกว่า

    "ในถิ่นที่มีหิมะตก จะเป็นเขตที่มีความหนาวอย่างต่อเนื่องมายาวนาน สภาพอากาศหนาวมากๆ ซึ่งพอเมฆแข็งตัว หนาวสุดสุด ก็จะโปรยมาเป็นละอองหิมะ เพราะหลังจากหิมะตก อุณหภูมิก็จะสูงขึ้น ไม่หนาวเท่าตอนแรก แต่สำหรับในประเทศไทย เราไม่ได้หนาวต่อเนื่องเหมือนบ้านเขา หากเกิดหิมะตก ก็คงจะเป็นแบบที่พายุที่เกิดจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ พัดมาชั่ววูบ แล้วก็หายไป" ยงยุทธกล่าว ​

    แต่นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นแห่งชาติท่านนี้ก็ยังบอกว่า ไม่น่าจะใช่หิมะเหมือนในเมืองหนาว ​

    ทางด้าน ศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงค์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เคยให้สัมภาษณ์ว่า การที่จะมีหิมะตกในประเทศไทย คงเป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องยากมาก แต่ถ้าในภูมิภาคเดียวกันก็เคยเกิดที่ทางเหนือของประเทศพม่า ใกล้กับประเทศจีน เคยมีหิมะตกบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก สำหรับบ้านเราอย่างมากก็มีแค่แม่คะนิ้ง ​

    "แม่คะนิ้ง" คือ ปรากฏการณ์ที่น้ำค้างแข็งตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง เกิดจากไอน้ำในอากาศใกล้พื้นดิน ลดอุณหภูมิลงจนถึงจุดน้ำค้าง ก่อนกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ในขณะที่อุณหภูมิยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งถึงจุดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง (0 องศาเซลเซียส) น้ำค้างก็จะเกิดการแข็งตัวกลายเป็นน้ำค้างแข็ง


    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    "กรณีที่จะเกิดหิมะตกได้ จะต้องมีอุณหภูมิติดลบต่ำกว่าศูนย์องศามากๆ ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดเป็นลักษณะของเกล็ดหิมะได้ แต่ที่ผ่านมาประวัติศาสตร์เมืองไทยไม่เคยปรากฏ แต่ถ้าหากจะมี ก็ยังไม่เรียกได้ว่าวิกฤต เป็นเพียงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น" ศุภฤกษ์กล่าว


    และทันทีที่โยนคำถาม "เป็นไปได้ไหมที่ปีหน้า ประเทศไทยจะมีหิมะตก" กัณฑรีย์ บุญประกอบ อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ศึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาอย่างต่อเนื่อง

    ถามกลับมาทันทีว่า "ไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหน?"

    "อ่านมาจากคำทำนายของโหร"

    "ไม่มีทาง ไม่น่าเป็นไปได้" อาจารย์ย้ำเสียงหนักแน่น ถ้าจะเกิด ก็คงเป็นแม่คะนิ้งทั่วไป ที่เกิดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว ตามเทือกเขาสูงๆ ไม่น่าจะเป็นหิมะที่โปรยปรายลงมาเหมือนในต่างประเทศ หรือหากคิดว่าจะมีหิมะตกในกรุงเทพฯนั้น ย่อมไม่ใช่แน่ๆ

    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) คือ การเปลี่ยนแปลงใดๆ ของอากาศ ซึ่งเกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม อันเป็นส่วนประกอบของบรรยากาศโลกเปลี่ยนแปลงไป นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลง โดยธรรมชาติในช่วงเวลาเดียวกัน

    อาจารย์จากรั้วพ่อขุนยืนยัน 'หิมะตกในประเทศไทย คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก' ก่อนจะบอกว่า หากเป็นความวิกฤตแปรปรวน ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของมนุษย์) ก็สามารถเกิดเหตุการณ์อย่างน้ำท่วม ฝนแล้ง โรคระบาด วันร้อนยาวนานกว่าวันเย็น พืชผัก ผลผลิตทางการเกษตรล้มตายเสียหาย เกิดการขาดแคลนอาหาร อย่างนี้สามารถที่จะเป็นไปได้มากกว่าหิมะตก

    ในบทความทางวิชาการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาจารย์กัณฑรีย์ตอนหนึ่ง รายงานถึงผลกระทบที่จะเกิดจากวิกฤตนี้ไว้ว่า

    "โลกร้อนจะส่งผลกระทบนานัปการต่อวิถีชีวิตและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของมนุษย์ เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น มีผลต่อความแปรปรวนของภูมิอากาศ ฤดูกาล ปริมาณน้ำฝน รวมถึงระดับน้ำทะเล การไหลและหมุนเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อาจทำให้ระบบนิเวศบางแห่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร ไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้"

    สำหรับเรื่องที่ว่าหิมะเคยตกในประเทศไทย ที่ จ.เชียงราย เมื่อปี พ.ศ.2498 อาจารย์กัณฑรีย์บอกว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ และก็บอกว่าคงเป็นแค่แม่คะนิ้ง หรือน้ำค้างแข็งตัวเท่านั้น ไม่น่าจะใช่การที่มีหิมะโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า จนทำให้พื้นขาวโพลน

    อ่านถึงตรงนี้ ภาพในจินตนาการของใครบางคนอาจหายไปพลัน...เสียดาย!!!

    แต่ใช่หรือ เพราะในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายท่าน การที่ไม่มีหิมะตกนี่แหละเป็นสัญญาณที่ดี นั่นหมายถึง สภาพภูมิอากาศยังคงเป็นปกติ แต่หากทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด ประเทศไทยเกิดหิมะตก เทือกเขาสูงในประเทศทิเบตร้อนตับแตก...

    นั่น! อาจเป็นสัญญาณอันตราย...และลองทบทวนดู การปรับตัวเพื่อคืนสู่สภาวะสมดุลของโลกแต่ละครั้ง สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ให้กับมวลมนุษยชาติมากมายขนาดไหน
    [​IMG] สัมภาษณ์


    สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จากที่โหรทำนายว่าหิมะตกในประเทศไทยนั้น ก็มีความเป็นไปได้ หากมีพายุเข้ามาในฤดูหนาว ซึ่งก็เคยมีกรณีหิมะตกแล้วในต่างประเทศ ในภาคเหนือของประเทศไทยตอนนี้ก็ใกล้เคียง ถ้าอากาศหนาวใกล้ศูนย์องศาเซียลเซียส คือไม่จำเป็นต้องถึงศูนย์ อาจจะทำให้มีหิมะตกได้ ​

    "แม่คะนิ้งนั้นก็ใกล้เคียงกับหิมะ สภาพอากาศที่เกิดแม่คะนิ้งได้ หากมีพายุเข้ามาก็เป็นหิมะตกเป็นไปได้ สำหรับในอดีตไม่ทราบว่าเคยมีหิมะตกหรือไม่ ทางประวัติศาสตร์ผมไม่รู้ แต่ทางอุตุนิยมวิทยา ทางหลักการของฟิสิกส์ มันสามารถเป็นไปได้ อย่างในต่างประเทศ รัฐเทกซัสก็เคยเกิดหิมะตกมาแล้ว ประเทศไทยตอนนี้อากาศไม่แน่นอน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ตอนนี้ผมประชุมอยู่ที่เวียดนามเรื่องน้ำท่วม ซึ่งกรุงเทพฯน้ำกำลังจะท่วมเหมือนกัน"

    <CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER>
    [​IMG] เรื่องประกอบ เพื่อนบ้านกับเรื่องของ "หิมะ"

    หิมะตกในเวียดนาม

    ข่าวจาก "เวียดนามนิวส์" เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550 ตีพิมพ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์หิมะตกในเวียดนาม ว่า ร่องความกดอากาศสูงที่พาดผ่านภาคเหนือของเวียดนามในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิในเขตภูเขาภาคเหนือหนาวเย็นลงระดับ 2-4 องศาเซลเซียส ​

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์เวียดนามแจ้งว่า จังหวัดทางตอนบนสุดของประเทศอาจจะเผชิญอากาศที่หนาวเย็นลงอีก เวลาประมาณบ่าย 2 โมง วันศุกร์ (2 ก.พ.) ได้เกิดหิมะตกลงในเขตนิคมซาปา ของเมืองซาปา (Sa Pa) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมใน จ.ล่าวกาย (Lao Cai) หิมะตกนานติดต่อกันราวครึ่งชั่วโมง แผ่ปกคลุมพื้นดินเป็นมวลบางๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์หาดูได้ยากในเมืองนี้ ​

    หลังข่าวแพร่สะพัดออกไป นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปที่นั่น ทุกคนหวังอยากจะเห็นหิมะตกลงอีกสักครั้ง นักท่องเที่ยวนั่งมองทิวทัศน์จากห้องพักของเขาในซาปา ที่นั่นเป็นเมืองแห่งขุนเขา หิมะอาจจะเป็น

    [​IMG] ข่าวดีสำหรับการท่องเที่ยว

    แต่สำหรับเกษตรกรในนิคมต่างๆ แถบนั้น มันเป็นข่าวร้าย เพราะหิมะได้ทำลายพืชผลของพวกเขา รวมทั้งไม้ดอกชนิดต่างๆ ที่เตรียมจะนำออกจำหน่ายในช่วงเทศกาลตรุษอีกด้วย ​

    ซาปาเป็นอีกท้องถิ่นหนึ่งที่มีการปลูกดอกไม้สวยงามและพืชเมืองหนาวต่างๆ ป้อนตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ​

    [​IMG] หิมะตกในพม่า

    มีหิมะตกที่รัฐคะฉิ่น สหภาพพม่า ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับทิเบต จีน อินเดีย พื้นที่เต็มไปด้วยภูเขา โดยเฉพาะรอบเมืองปูเตาทางตอนเหนือสุด


    สำหรับยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมเป็นส่วนปลายของเทือกเขาหิมาลัย พรมแดนธรรมชาติกั้นพม่าจากจีน ชื่อ "ยอดเขาพนกานราสี" (Phon Kan Razi)

    เมืองหลวงของรัฐชื่อ มิตจินา ประชากรส่วนใหญ่เป็นคะฉิ่น มีจำนวนประมาณ 1-1.5 ล้านคน กลุ่มชาติพันธุ์ที่เรียกตนเองว่าคะฉิ่น ประกอบด้วยชนเผ่ากลุ่มย่อยๆ ที่สำคัญ 4 กลุ่ม ได้แก่ จิงเป่า ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด รองลงไปคือ อัตซิ ลาชิ และมารู

    [​IMG] หิมะตกในอินโดนีเซีย

    สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นประเทศหมู่เกาะ ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์สูตร ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย ระยะทางยาวจากตะวันตกถึงตะวันออกของประเทศประมาณ 3,000 ไมล์ ประกอบด้วยเกาะมากกว่า 17,000 เกาะ แต่มีคนครอบครองประมาณ 6,000 เกาะ เป็นประเทศใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเนื้อที่ประมาณ 575,000 ตารางไมล์ แบ่งได้เป็น 4 ส่วน ได้แก่ หมู่เกาะซุนดาใหญ่, หมู่เกาะซุนดาน้อย, หมู่เกาะโมลุกกะหรือหมู่เกาะเครื่องเทศ และแคว้นอีเรียนตะวันตก ​

    บรรดาเกาะต่างๆ ของอินโดนีเซีย ส่วนมากมีสันเขาอยู่ตอนกลางของเกาะ อุดมด้วยทรัพยากรป่าไม้ในเขตร้อน รอบๆ เกาะเป็นที่ราบแคบๆ ใช้ทำการเพาะปลูกได้ ฝั่งทะเลมักเป็นที่แฉะ มีพืชพรรณไม้ชายเลนขึ้นงอกงาม ​

    ภูเขาส่วนมากเป็นภูเขาไฟ บางยอดเป็นกรวยสูงมากจนมีหิมะปกคลุม มักเกิดแผ่นดินไหวบ่อยๆ ในหมู่เกาะนี้ และในบรรดาเกาะต่างๆ ของอินโดนีเซีย เกาะชวามีความสำคัญมากที่สุด เพราะมีดินอุดมสมบูรณ์มาก เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2008
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โลก กำลังเข้ายุคใหม่ ****

    ทุกคำทำนายโบราณ ....จะเป็นจริง
    โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต

    เมื่อพระเจ้าของเขา องค์เทพของเธอ พระไตรปิฎกของเรา ...เสด็จมา
    แต่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ....ถึงรู้เห็น แต่ไม่เชื่อ ก็มี
    ทิ้งไว้หนทางหลุดพ้น...คำสั่งสอน สัจจะธรรม โลกุตตระธรรม สัจจะ

    นอสตราดามุส เขาเห็น !!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ก้าวตามพระพุทธเจ้า...ด้วย "สัจจะ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>อุบัติเหตุเรือสินค้าส่งผลน้ำมันมหาศาลรั่วไหลสู่แม่น้ำเวียดนาม
    [​IMG] ฮานอย 12 ม.ค. - เจ้าหน้าที่เวียดนามเร่งขจัดคราบน้ำมัน หลังเกิดอุบัติเหตุเรือสินค้าชนกัน ส่งผลให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันก๊าดรั่วไหลสู่แม่น้ำแวมโค ดองของเวียดนามแล้วมากกว่าแสนตัน
    เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลองอันของเวียดนาม เปิดเผยว่า อุบัติเหตุเรือสินค้าชนกันและจมลงในแม่น้ำแวมโค ดอง ทางใต้ของนครโฮจิมินห์เป็นเหตุให้มีวัสดุก่อสร้างจำนวนหนึ่ง รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง 40,000 ตันและน้ำมันก๊าดอีก 70,000 ตันรั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำ และว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกวาดคราบน้ำมันบางส่วนแล้ว แต่ยังคงไม่ทราบเบื้องหลังของอุบัติครั้งนี้

    ข่าวรายงานว่า ทางการเวียดนามและผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมต่างพากันวิตกถึงปัญหามลพิษแหล่งน้ำอันมีสาเหตุจากแหล่งอุตสาหกรรมที่ผุดขึ้นใหม่ตามภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยผลทดสอบระบุว่า ระดับสารพิษทั้งโลหะหนักและเชื้อแบคทีเรียในแม่น้ำไซง่อน ซึ่งไหลผ่านแหล่งอุตสาหกรรมและนครโฮจิมินห์กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ขณะที่สำนักงานบำบัดน้ำนครโฮจิมินห์ชี้ว่า สาเหตุของมลพิษในแม่น้ำเกิดจากโรงงานและชุมชนปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำโดยตรง.- สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>อัพเดตเมื่อ 2008-01-12 15:58:45
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://news.mcot.net/international/index.php
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 มกราคม 2008
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เนื่องจากมีผู้ให้คำทำนายหลายๆท่าน ต่างก็ลงความเห็นตรงกันแล้วว่า ภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นภายในปี พ.ศ.2551 หรือ ค.ศ.2008 นี้อย่างแน่นอนจะไม่มีการเลื่อนกันอีกต่อไปแล้ว ผมจึงขออนุญาตนำบทความของคุณ มงคล กริชติทายาวุธ มาลงให้อ่านกันอีกครั้งเพื่อการเตรียมตัวกันนะครับ

    อันตรายที่จะมาถึงในเร็วๆ นี้
    <LARGFONT>

    สำหรับ "อันตรายที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้" นั้น ให้สังเกตเหตุการณ์ต่าง ๆ ต่อไปนี้ว่าจะมีเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีเหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้น ก็ขอให้มนุษยชาติได้เตรียมตัวเผชิญชะตากรรมร่วมกันที่จะพบกับมหันตภัยสาธารณะ ทุพภิกขภัย และความเดือดร้อน ที่จะติดตามมาหลังเหตุการณ์เหล่านี้ไม่นาน

    1. ทารกแรกเกิด คนหนุ่มสาว และคนแก่เฒ่าชรา จะเป็นโรคที่รักษาไม่มีหาย มีการติดโรคร้ายได้ทุกวัยของมนุษย์ ใครเป็นโรคนี้แล้วจะต้องตายทุกคน จะนับจำนวนได้มากกว่า 60 ล้านคน ซึ่งโรคนี้ติดต่อได้ยาก เพราะจะติดต่อได้โดยการมีเพศสัมพันธ์ หรือโดยโลหิตของมนุษย์เท่านั้น (องค์การอนามัยโลก ได้แถลงข่าวทางสื่อมวลชนเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2547 ว่าขณะนี้ ประชากรโลก ได้ติดเชื้อเอดส์แล้ว ประมาณ 60 ล้านคน)

    2. จะไม่พบว่า มีวันใดที่จะว่างเว้นจากการฆ่ากัน เพื่อแย่งชิงอำนาจปกครองดินแดน ไม่เกิดในประเทศนี้ ก็เกิดในประเทศโน้น มีการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงอำนาจในการปกครองดินแดนทุกวัน (ให้สังเกตข่าวต่างประเทศในโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ดูกันเอาเอง)

    3. สภาพดิน ฟ้า อากาศ จะมีความแปรปรวนสูง ไม่เป็นไปตามธรรมชาติที่เคยเป็นมา แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด จะเกิดขึ้นในช่วงนี้มากขึ้น แม้บางแห่งไม่เคยเกิดแผ่นดินไหว ก็จะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น บางแห่งภูเขาไฟได้ดับไปหลายร้อยปีมาแล้ว ก็จะระเบิดอีกครั้ง (เช่น เหตุการณ์ภูเขาไฟพินาตูโบ้ ในฟิลิปปินส์ ซึ่งดับมาเกือบ 600 ปีแล้ว ได้ระเบิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เป็นต้น)

    4. ความต้านทานโรคของมนุษย์จะมีน้อยลง จะมีโรคแปลก ๆ เกิดใหม่มากขึ้น

    5. หลายประเทศจะมีการสร้าง ที่อยู่อาศัย ที่ทำมาหากินกันอยู่ในใต้ดิน (ใครที่เคยไปโตเกียวมาแล้ว หากได้มีโอกาสเดินลงไปในสถานีรถไฟใต้ดิน จะพบความยิ่งใหญ่ของเมืองใต้ดินที่มีผู้คนเดินกันขวักไขว่นับเป็นหมื่นคน อยู่ในใต้ดินถึง 3 ชั้นมหึมา มีทั้งร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่าง ๆ น้ำพุ น้ำตก ฯลฯ อยู่ในใต้ดินนั่นเอง ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนเมื่อปลายปี 2534 แล้วพูดได้อย่างเดียวว่า มีเหตุการณ์เช่นว่าแล้วจริง)

    6. พลังแห่งความชั่วร้าย หรือซาตาน จะครอบงำโลก จะยุแหย่ให้ผู้คนแย่งชิงอำนาจฆ่าฟันกันเอง คนจะขาดสติมากขึ้น คนจะมีทิฐิมากขึ้น คนจะเห็นผิดเป็นชอบมากขึ้น ใครพูดผิดจากฝ่ายที่ตนคิด จะถูกตราหน้าว่าเป็นฝ่ายผิด ในขณะที่ฝ่ายตนตะโกนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ใครที่มีความคิดต่างจากฝ่ายตน จะถูกประฌาม และสาปแช่งในรูปแบบต่าง ๆ แม้แต่พี่น้องพ่อแม่ก็อาจแตกแยกอันเนื่องมาจากแนวคิดในทางการเมืองต่างกัน และรุนแรงถึงขนาดทำร้ายและฆ่ากันได้ เพียงเพราะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในทางการเมืองเท่านั้น การกระทำเพื่อยุติปัญหาการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงอำนาจ ก็กระทำควบคู่กับการฆ่ากันอย่างต่อเนื่อง วิถีทางการทูตก็ทำกันไป แต่ไม่สามารถยุติการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ได้

    7. อารมณ์ของคนโดยทั่วไป จะมีความพลุ่งพล่าน หงุดหงิดงุ่นง่าน อย่างไม่ค่อยมีสาเหตุมากขึ้น คนที่รักสงบ จะถูกกดขี่ย่ำยี ผู้ที่มีอำนาจ ก็จะบ้าอำนาจมากขึ้น

    หากสังเกตได้ว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ได้เกิดขึ้นแล้ว หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นแน่ อันตรายโดยส่วนรวมของมนุษยชาติก็จะเกิดขึ้นติดตามมาในปี 2551 แต่ถ้าผู้คนส่วนใหญ่หันมามีการกระทำความดีมาก ๆ โดยมีคุณสมบัติ 5 มี (มีสติสัมปชัญญะ มีความกตัญญููกตเวที มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา มีน้ำใจ และมีศีล 5 มีคุณสมบัติ 5 ให้ (ให้อภัย ให้ความรัก ให้ความจริงใจ ให้เกียรติผู้อื่น ให้การเสียสละ) และทำ 1 ทำ คือ ทำความดีมาก ๆ เหตุการณ์ที่เป็นมหันตภัยร้ายครั้งร้ายแรง จะเคลื่อนย้ายไปเกิดในปี 2560 (ค.ศ.2017)

    ขออนุญาตเรียนเพิ่มเติมว่า เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย ผู้เขียนขอให้ท่านดำเนินการดังนี้

    1. นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านต้องเตือนตัวเองทุกวัน ว่า "ต้องไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปในแต่ละวัน โดยมิได้ทำประโยชน์อันใดให้เกิดขึ้น"

    อะไรก็ได้ สิ่งใดก็ได้ ที่เป็นประโยชน์ จะเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ประโยชน์ต่อคนในครอบครัว ประโยชน์ต่อที่ทำงาน ประโยชน์ต่อผู้บังคับบั_ชา ประโยชน์ต่อลูกน้อง ประโยชน์ต่อชุมชน ประโยชน์ต่อสังคม ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ฯลฯ

    โปรดอย่าปล่อยชีวิตให้หมดเปลืองไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ และอย่าอ้างว่า "การนอนมาก การกินมาก การไม่ทำอะไร" เป็นประโยชน์ตน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่หลงผิดอย่างมหันต์ หรือกล่าวโดยสรุป คำว่า "ประโยชน์ตน" จะต้องเป็นสิ่งที่ปราชญ์สรรเสริญว่า "สิ่งนั้นต้องเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์โดยแท้" สิ่งนั้น จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้แก่ผู้ใด สิ่งนั้นจะต้องทำให้บุคคลผู้นั้นเอง มีความเข้มแข็งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ สิ่งนั้น จะต้องทำให้บุคคลนั้นเอง ไร้ทุกข์-มีสุข อย่างถาวร สิ่งนั้น จะต้องเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ครอบครัว ที่ทำงานชุมชน และสังคม ได้ประโยชน์ร่วมกันด้วย ฯลฯ

    2. ขอให้ท่านตระหนักว่า ในยามที่มหันตพิบัติภัยของโลก และของชาติมาถึง โรคภัยไข้เจ็บมีมาก ภัยธรรมชาติ และภัยสงครามระหว่างชาติแผ่ขยาย ข้าวปลาอาหารและยารักษาโรคขาดแคลน มีเงินและทรัพย์สินก็อาจหาอาหารมาประทังชีวิตมิได้ อาจเข้าสู่ยุคของการ "นำอาหารแลกเปลี่ยนอาหาร" หรือ "นำอาหารไปแลกเปลี่ยนเป็นยารักษาโรค" เพราะการป่วยเจ็บในยามมีภยันตราย ย่อมมีมากกว่าเกณฑ์ปกติ เป็น 10 เท่าทวีคูณได้

    3. ฝึกฝนตนให้เป็นคน "กินน้อยลง ใช้น้อยลง และนอนน้อยลง" ให้เริ่มต้นโดยพยายามลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ เมื่อลดได้มากพอ ให้ลดมื้ออาหารลงเหลือเพียงวันละ 2 มื้อ เพราะจะเดือดร้อนน้อยเมื่อโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ที่ขาดแคลนอาหารอย่างที่ท่านไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งนี้ ข้าวราดแกง ที่เคยมีราคาจานละ 20 บาท อาจจะมีราคาถึงจานละ 600 บาท ทุกอย่างที่มีราคาในปัจจุบัน ถ้าราคากระโดดสูงขึ้น 30 เท่าตัว จะเป็นอย่างไร กรุณาลองวาดภาพดู เราจะไม่มีทางฟุ่มเฟือยได้เลยในภาวะวิกฤติภายหน้า ถ้าเราไม่ฝึกฝนตนเองในปัจจุบันให้เกิดความเคยชิน เราต้องลำบากยากเข็ญมากแน่

    4. ฝึกอบรมพัฒนาจิตใจให้มากขึ้น ฝึกจนใจร้อยเข้าสู่แกนสงบนิ่ง แล้วพิจารณาพระไตรลักษณ์ อันประกอบด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้ประจักษ์แจ้ง เห็นจริง ลงไปในส่วนลึกของจิต และให้เห็นจริงตามธรรมชาติว่า ทุกสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป วนเวียนเปลี่ยนไปเสมอ ให้เห็นเรื่องการตายเป็นเรื่องธรรมดา ฝึก "ตายก่อนตายจริง" แล้วทุกสิ่งจะเห็นเป็นธรรมดา

    5. ฝึกกินอาหารพืชผักให้มากขึ้น ค่อย ๆ ลดเนื้อสัตว์ลง หากงดกินได้ในที่สุด ก็จะอยู่รอดได้ยาวนาน เพราะในสภาวะที่แร้นแค้น ทุกชีวิตล้วนแต่ตกระกำ ยากแค้น มีเงินทองก็อาจซื้อเนื้อสัตว์มิได้ แต่เราสามารถที่จะปลูกผักสวนครัว ไว้รับประทาน ประทังให้มีชีวิตอยู่รอดได้ ถ้าไม่ฝึกเสียแต่วันนี้ ความเคยชินก็จะไม่มี บางท่านอาจบอกว่า หากกินแต่พืชก็ขาดโปรตีน จะทำอย่างไรดี ก็ขอเรียนว่า โปรตีนจากพืชก็มี ความจริงในโรงพยาบาลบางแห่ง เช่น โรงพยาบาลมิชชั่น ทั้งหมอและพยาบาล ตลอดจนผู้ป่วยทุกราย รับประทานอาหารมังสวิรัติตลอดชีวิต เขาอยู่อย่างปกติสุข มีสุขภาพที่ดี ก็มีมากให้เราพบเห็นในปัจจุบัน "โปรดอย่าอ้างว่า กินแต่ผัก จะทำให้อ่อนแอ" แท้จริงนักโภชนาการ กลับบอกว่า "ผู้ที่กินเนื้อสัตว์ต่างหาก จะมีความอ่อนแอ ภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าผู้ที่รับประทานพืชผัก"

    พวกเราจำเป็นจะต้องใช้ชีวิตที่หวนคืนกลับเข้าหาธรรมชาติให้มากขึ้น ผู้ใดเข้ากับธรรมชาติของมนุษย์ในสมัยโบราณได้ จะมีความเป็นอยู่ปกติสุขได้มาก ในยามโลกวิกฤติ ท่านจะทำอย่างไร ถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปาใช้ ไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเติมรถยนต์ขาย.......... โปรดไตร่ตรองให้ดี พิจารณาให้รอบคอบ ผู้เขียนไม่ปรารถนาให้เกิดมีขึ้น ไม่ว่าจะเกิดใน 3 ปี ข้างหน้า (ปี 2551) หรืออีก 12 ปี ข้างหน้า นับจากมกราคม 2548 (ปี 2560) แต่เราก็คงจะหลีกหนีเหตุการณ์ณ์ดังกล่าวมิได้ อย่างมาก ก็คงช่วยให้เหตุมหันตภัยดังกล่าวขยายเวลาออกไปให้ยาวไกลที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้เท่านั้น แต่ถ้าไม่มีเหตุวิกฤติหรือมหันตภัยใด ๆ เกิดขึ้นในโลกใบนี้ได้ โดยแลกกับการที่ผู้เขียนต้องถูกประฌามด่าว่า "ไอ้บ้า ทำให้คนตกใจกลัวทั้ง ๆ ที่ไม่มีเหตุร้ายใด ๆ เกิดในโลกใบนี้" ผู้เขียนยินดีให้ประฌามด่าว่า ผู้เขียนอยากให้เรื่องเลวร้ายและมหันตภัยไม่เกิดขึ้น ผู้เขียนอยากให้เรื่องของมหันตภัยเป็นเรื่องเหลวไหล หลอกลวง เลอะเทอะ

    ผู้เขียนยอมให้เวลาที่ผู้เขียนค้นคว้าในวันหยุดและตอนกลางคืนวันละหลายชั่วโมง สูญเสียไปโดยไร้ประโยชน์ ถ้าไม่มีเรื่องเลวร้ายใด ๆ เกิดขึ้น กับมนุษย์และสัตว์ทั้งปวง ความจริงนั้น ผู้เขียนไม่ต้องการเห็นมนุษย์และสัตว์ต้องทุกข์ทรมาน จากภัยพิบัติที่ร้ายแรง ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มนุษย์ทั้งหลายตกอยู่ในความประมาท ในที่สุด ก็ต้องสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ในยามโลกเข้าสู่วิกฤติอีกทั้งไปเพิ่มความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เป็นการเพิ่มความรุนแรง ด้วยการฉกชิง วิ่งราว จี้ปล้น และฆ่าผู้มีทรัพย์สิน หรืออาหาร หรือยารักษาโรค ผู้เขียนขอวิงวอนท่านที่มีโอกาสได้อ่านบทความนี้ ได้โปรดไตร่ตรองและอ่านทบทวนโดยรอบคอบ แม้จะเป็นชีวิตของท่าน ที่ท่านจะเลือกทางเดินอย่างไร ได้ตามใจชอบ แต่ผู้เขียนก็ไม่อยากให้ท่านทุกข์ยากเข็ญใจหนักหนาสาหัสกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น สิ่งใดที่ผู้เขียนจะชี้แนะให้พ้นภยันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ก็ขอทำหน้าที่ดังกล่าวสักนิด

    6. ถิ่นที่อยู่อาศัยในยามโลกเข้าสู่แดนมิคสัญญี เกิดโรคร้ายแรงระบาด สารพิษแพร่กระจายเต็มไปในอากาศและน้ำดื่มน้ำใช้ เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด การสื่อสารทุกชนิดงดให้บริการหมด "อยู่ในภาวะสิ้นสุดของโลกยุคโลกาภิวัตน์" เป็น "การสิ้นสุดของโลกไร้พรมแดนในการติดต่อสื่อสาร" สภาพดังกล่าว พวกเราอาจจะได้พบได้ใน 3 ปี ข้างหน้า(พ.ศ.2551) มิฉะนั้นก็ภายใน 12 ปี ข้างหน้า (เวลาผ่อนปรนสุดท้าย) ไม่อาจหลีกหนีพ้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคำสอนในพุทธศาสนา คริสต์ศาสนา ศาสนาอิสลาม ขงจื๊อหรือเต๋า และนิกายศาสนาอื่นใด มีคำเตือนมาแต่โบราณกาล กล่าวถึง "วันพิพากษาโลก / วันชำระล้างคนบาป / วันที่ไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก" เพียงแต่อาจจะมาเกิดให้เห็นในยุคของเราเท่านั้น

    สถานที่ต้องระวังและต้องขยับขยายถิ่นฐานคือ จังหวัดชายทะเลทุกจังหวัดบริเวณที่ลุ่ม บริเวณใต้เขื่อนต่าง ๆ และสถานที่ควรเข้าใกล้ คือ สถานที่ใกล้พุทธสถาน สถานที่ใกล้วัดป่า สถานที่ใกล้บริเวณที่ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง

    สถานที่อยู่อาศัย จะต้องหาบริเวณไว้ปลูกผักสวนครัว พืชไร่ พืชสวน และพื้นที่เลี้ยงสัตว์สำหรับประกอบอาหาร (สำหรับผู้ที่ยังติดในรสชาติเนื้อสัตว์ที่เลิกรับประทานมิได้ ก็เตรียมไว้ จะเป็นไก่ เป็ด หมู ปลา กุ้ง หอย ท่านก็จะต้องวางแผนไว้) หรือเลี้ยงสัตว์ที่จะใช้แทนยานพาหนะ เพื่อการติดต่อหรือเดินทางในยามจำเป็น และถ้าเป็นไปได้ ขอให้สร้างห้องใต้ดินไว้ทุกบ้าน ห้องใต้ดินควรปูด้วยแผ่นหินที่จะช่วยให้เกิดความเย็น หรือใช้วัสดุใดก็ได้ที่มีความเย็นเป็นหลัก มีระบบระบายอากาศที่มีคุณสมบัติในการกรองอากาศเสีย เพื่อมิให้ควันพิษจากข้างนอกเข้าไปภายในห้องใต้ดินได้

    7. ต้องจัดเตรียมเสบียงอาหาร โดยเฉพาะเครื่องกระป๋องให้มาก (ต้องดูวันหมดอายุให้ดีด้วยครับ) ปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่าง ๆ อุปกรณ์เครื่องใช้และเครื่องช่วยดำรงชีพในป่า เพราะทุกแห่งหน จะมีสภาพเหมือนป่า โดยให้จัดเตรียมสิ่งของต่าง ๆ เช่น

    - เชือกชนิดดี มีความเหนียวทน ความยาวประมาณ 10 เมตรต่อคน

    - ยารักษาโรคที่จำเป็นต่าง ๆ อาทิ ยาแก้ปวดศรีษะ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้อักเสบ ยาแก้ไข้หวัดและยาประจำตัวต่าง ๆ ก่อนวิกฤติดังกล่าว

    - อุปกรณ์ให้แสงสว่างต่าง ๆ เช่น ไฟฉาย ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ น้ำมันก๊าด เป็นต้น

    - ถังใส่น้ำดื่มขนาดใหญ่ หรือภาชนะสำรองน้ำดื่ม (น้ำใช้มีความจำเป็นน้อยกว่ามาก ช่วงเวลานั้นไม่มีการซักเสื้อผ้า ไม่มีการอาบน้ำกันแล้ว)

    บทความนี้ ขอให้ท่านเก็บไว้อ้างอิง และเป็นแนวทาง เมื่อโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้เห็นในปี 2548 เป็นต้นไปว่า จะมีความรุนแรงอันเกิดจากภัยธรรมชาติมากขึ้นถี่ขึ้น ดินฟ้าอากาศจะปรวนแปรมากขึ้น พายุใต้ฝุ่นและน้ำท่วมมีมากขึ้น แผ่นดินไหวมีเพิ่มขึ้น การฆ่าทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามในประเทศต่าง ๆ มีมากขึ้น การแย่งชิงอำนาจในการเข้าบริหารประเทศชาติมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งก็ได้เกิดให้เห็นแล้วในปัจจุบันหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอัลบาเนีย ซาอีร์ ปาปัวนิวกินี เป็นต้น และจะมีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่เป็นจริง ก็สบายใจไปได้ 50% แสดงว่าเงื่อนเวลาขยายออกไปอีกช่วงหนึ่ง ประมาณ 9 ปี นั่นคือ

    ความพยายามในการสงบระงับเหตุร้ายแรงนั้น ทำได้สูงสุดไม่เกิน พ.ศ.2560 หรือภายใน 12 ปีข้างหน้า ถ้าเหตุร้ายจะเกิดขึ้นจริง เกิดใน 12 ปีข้างหน้า นับจากมกราคม 2548 ย่อมดีกว่าเกิดภายใน 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2551) แต่ถ้ารอไปอีก 12 ปีข้างหน้า ผู้คนทั้งหลายยังตกอยู่ในความประมาท ตกอยู่ในความมัวเมา ก่อกรรมทำเข็ญมากขึ้น หลีกหนีจากความดีงาม ไม่สนใจที่จะงดกระทำสิ่งที่เป็นบาปกรรม ไม่สนใจที่จะฝึกจิตให้ผ่องใส หากจะเกิดเหตุร้ายใน 3 ปีข้างหน้า ก็คงจะหนีชะตากรรมไปมิได้ เมื่อนั้น ต่างก็คงจะต้องหาทางช่วยตัวเองและรับการตัดสินจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่ติดค้างมานานถึง 60,000 ปี จะได้ขุดรากถอนโคนให้หมดหนี้กรรมไปวาระหนึ่ง โดยผู้โชคดี หรือมีหนี้กรรมน้อย จะได้ตายในทันที ไม่ทรมาน แต่ผู้ที่มีกรรมชั่วมากจะตายก็ไม่ตาย แต่ได้รับความทรมานแสนสาหัส อยู่อย่างแร้นแค้น ยากเข็ญร้อนก็ร้อน สุดโหด หนาวก็หนาวสุดขีด ซึ่งก็คงจะได้พบเห็นกันในเร็ว ๆ นี้ โดยจะได้เห็นหิมะตกในประเทศไทยด้วย

    ด้วยความปรารถนาดี

    จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ

    วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2547

    เวลา 02.35 น.

    คัดลอกมาจากhttp://nouchiko.diaryhub.com/?20050225</LARGFONT>
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในปี 2551 บ้าง

    มีคำถามที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในปี 2551หลั่งไหลเข้ามาหาผู้เขียนค่อนข้างมาก หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 อันเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น ขยับตัว และซ้อนเกยกันบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศไทยประมาณ 400 กิโลเมตร มีอัตราการสั่นไหว 9 ริกเตอร์ เป็นเหตุให้ประเทศไทยได้รับความสูญเสีย โดยได้คร่าชีวิตผู้คนที่พักอยู่อาศัย และมาท่องเที่ยวใน 6 จังหวัดริมฝั่งทะเลอันดามัน โดยพบศากศพมากกว่า 5,000 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 10,000 คน และยังสูญหายอีกมากกว่า 3,000 คน โดยมีผู้คนของประเทศต่างๆอีกหลายประเทศ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล ​

    เมื่อนับจำนวนซากศพผู้ที่เสียชีวิตในคราวเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งนี้ ก็มีจำนวนมากกว่า 220,000 ศพ ทั้งนี้เนื่องจากในปี 2534 ผู้เขียนเคยเขียนเตือนเกี่ยวกับคลื่นยักษ์ซูนามิ ที่จะเกิดขึ้นโดยมีผลกระทบต่อประเทศไทย ( คำที่ถูกต้องในปัจจุบัน เรียกว่า สึนามิ) และได้เขียนบทความอีกครั้งในต้นปี2539 รวมทั้งผู้เขียนได้เคยออกรายการให้สัมภาษณ์คุณสุทธิชัย หยุ่น ที่ itv 2 เสาร์ติดกันในรายการ " น้ำท่วมโลก "ในปลายปี 2539 ซึ่งมีผู้เคยอ่านบทความ ในปี 2534 แจ้งว่าผู้เขียนเคยเขียนเตือนให้ระวังซูนามิที่จะเกิดในปี 2547 , 2551 หรือ 2560 ในประเทศไทยมาก่อนแล้ว​

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปลายปี 2547 นี้ หากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเหตุการณ์ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า " อภิมหามหันตวิปโยคสุดแสนโศกสลด" ทั้งนี้ เพราะจะมีผู้คนเสียชีวิตมากกว่าเหตุการณ์ช่วงปลายปี 2547 ประมาณ 1,000 เท่า หรือถ้าจะพูดให้ชัดมากขึ้นคือ มีคนตายมากกว่าเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกของช่วงปลายปี 2547 นี้ถึง 1,000 เท่าทีเดียว​

    เหตุการณ์อะไรเล่า ที่ทำให้มีคนตายประมาณ 220 ล้านคน ในปี 2551 (ปลายปี 2547 เหตุจากคลื่นสึนามิได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายประเทศรวมกัน มากกว่า 220,000 คน)เหตุการณ์ในปี 2551 หรือ ปี 2560 มิได้มาจากเหตุการณ์ใดเหตุการณ์เดียว แต่มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในปีเดียว คือปี 2551 หรือ ปี 2560 ตลอดทั้งปี เสมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกถูกถล่มด้วยพระราหู ทั้งนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เปลือกโลกหลายแผ่นมีการขยับเคลื่อนตัว และเกยทับกัน (การเกยทับกันเพียงเล็กน้อยของชั้นเปลือกโลก บริเวณเหนือเกาะสุมาตราเพียงจุดเดียว เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นเหตุให้เกิดการไหวของแผ่นดินถึง 9 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์วิ่งไปถึงชายฝั่งอัฟริกา ซึ่งมีระยะห่างกันหลายพันกิโลเมตรได้) ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะมีการเกยทับกันทั้งในบริเวณใต้ทะเลลึก และบริเวณที่เป็นพื้นแผ่นดินในหลายทวีป ความรุนแรงมีขนาดตั้งแต่ 9.5 ริกเตอร์ขึ้นไป (ปกติถ้ามีการไหวของแผ่นดินเพียง 6.5 ริกเตอร์ ก็เป็นเหตุให้อาคารบ้านเรือน ตึกรามอาคารบ้านช่อง ถนนหนทางถล่มทลาย สามารถสร้างความเสียหายได้แล้ว แต่ถ้าเกิดการไหวของเปลือกโลกบริเวณใต้ทะเลลึก ประมาณ 7.5 ริกเตอร์ จะเกิดคลื่นสึนามิ (คลื่นยักษ์) ซึ่งในปี 2551 หรือ ปี 2560 จะมีการเกิดแผ่นดินไหว ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีขนาด 9.5 ริกเตอร์ขึ้นไป)​

    สำหรับในประเทศไทยเอง ผลกระทบจากการเคลื่อนตัวของชั้นเปลือกโลกในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะเกิดบนพื้นแผ่นดินประมาณ 3 - 4 จุด ซึ่งในทะเลก็มีทั้งบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา และบริเวณใกล้เกาะบอร์เนีย และอีก 2 รอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งจะมีผลทำให้เขื่อนใหญ่ 2 เขื่อนแตก และ ตึกราม บ้านเรือน สะพานและถนนหนทางพังพินาศทลายลงเป็นจำนวนมาก สำหรับจังหวัดชายฝั่งทะเล ก็จะได้พบกับสึนามิ หรือคลื่นยักษ์อีกครั้ง ด้วยความรุนแรงของการเกยทับของแผ่นเปลือกโลกอีกครั้งด้วยความแรงมากกว่าเดิม คือ ขนาด 9.5 ริกเตอร์ ขึ้นไป แม้ระบบเตือนภัยจะทำงานในอนาคต แต่ความเร็วของคลื่นสึนามิใช้ความเร็วในทะเลประมาณ 500 กม./ ชั่วโมง นักวิชาการบางท่านบอกว่ามีความเร็วระหว่าง 600 - 800 กม./ ชั่วโมง ผู้คนจำนวนมากยังไม่ใส่ใจคำเตือน คนจำนวนมากหนีไม่รอด ศพตายเป็นเบือ โผล่ให้เห็นในน้ำยิ่งกว่าดอกเห็ด แม้จะได้ทราบคำเตือน ​

    แต่ความประมาทของประชาชนที่ไม่ติดตามข่าวสารก็คงยากที่จะป้องกันความเสียหายชีวิตของผู้คนและทรัพย์สินที่อยู่ชายฝั่งทะเล ยกเว้นท่านต้องร่นให้อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลให้มากหน่อย โดยมีต้นไม้ใหญ่เป็นกำแพงกั้น หรือภูเขาสูงบังไว้ ( ความจริงตามกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน บริเวณชายฝั่งทะเล บริเวณเกาะ บริเวณภูเขา จะต้องเป็นที่สาธารณะเท่านั้น จะไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้ แต่ด้วยความฉ้อฉล ฉ้อโกง ของบุคคลผู้มีความละโมบโลภมาก ร่วมกับข้าราชการที่มีหน้าที่ออกหลักฐานกรรมสิทธิ์ ( โฉนด) ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส. 1,2,3) ออกหนังสือแสดงสิทธิครอบครอง (ส.ค.) กลับกระทำละเมิดกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน ออกหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย จึงทำให้ข้าราชการ นักการเมืองและผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย ได้สิทธิ์ที่ผิดกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน กลายเป็นเจ้าของเกาะ เจ้าของภูเขา เจ้าของชายฝั่งทะเล ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินจริงๆนั้น ต้องเป็นที่สาธารณะ กลายเป็นสถานที่ส่วนบุคคล หากว่ากันตามกฎหมายทรัพย์สินจริงๆทุกสถานที่ดังกล่าวข้างต้น คือ ชายฝั่งทะเล บริเวณที่เป็นเกาะ บริเวณที่เป็นภูเขา เป็นสถานที่ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทรัพย์สิน)​

    สิ่งสำคัญที่ทุกคนที่อยู่ริมฝั่งทะเลต้องรับทราบ คือ เมื่อใดมีเหตุการณ์ขึ้นลงของน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว ต้องรีบหนี 2 วิธี คือ วิ่งเรือออกสู่กลางทะเลลึก ถ้าขณะนั้นอยู่บนเรือในทะเล ห้ามกลับเข้าชายฝั่งทะเลเป็นอันขาด อีกวิธี คือให้วิ่ง หรือขับรถขึ้นที่สูงที่มีความมั่นคงแข็งแรงโดยเร็ว ซึ่งถ้ามีภูเขา ขึ้นเขาให้เร็วที่สุด ถ้ามีตึกที่มั่นคงแข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง ต้องอาศัยเป็นที่ยึดไว้ก่อน อาคารที่บอบบาง ที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ห้ามเข้าไปอาศัยในช่วงขณะนั้น เพราะตัวอาคารอาจพังทลายได้แม้จะขึ้นบนชั้นสูง แต่ถ้าฐานรากไม่ดี อาคารพังทลายลงมาได้ง่าย ผู้หนีไปอยู่ชั้นบนของอาคาร ก็ไม่รอดเช่นเดียวกัน ดังนั้น เมื่อใดที่อยู่บริเวณชายทะเลในปี 2551 หรือ ปี 2560 กรุณามองทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าก็มีส่วนช่วยให้อยู่รอดปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง​

    กรณีที่พึงต้องระวังเพิ่มขึ้นก็คือ ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองโดยเฉพาะแม่น้ำสายใหญ่ๆทุกสาย เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำตาปี แม่น้ำโขง ฯลฯ ถ้ามีลักษณะขึ้นลงเร็วผิดปกติ ผิดธรรมชาติที่เคยมีเคยเป็น โปรดเตรียมการอพยพขนย้ายหาที่อยู่อาศัยพักพิงใหม่โดยเร็ว​

    และอีกเรื่องหนึ่ง โปรดศึกษาและสังเกตคำเตือนของคนโบราณที่ให้สังเกตดูลม ฟ้า อากาศ และอาการของสัตว์ต่างๆที่แสดงออกก่อนที่จะเกิดภยันตรายต่างๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ผู้เขียนไม่มีข้อมูลเพียงพอ จึงขอบอกกล่าวประชาสัมพันธ์ท่านผู้รู้ที่มีโอกาสอ่านสารชมรมฯฉบับนี้ว่า " ถ้าท่านทราบคำบอกเล่า หรือคำสอนสั่งของปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา คุณพ่อคุณแม่ หรือครูบาอาจารย์ พี่น้องลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย หรืออ่านพบจากหนังสือใดๆ ที่บอกกล่าวในเรื่องดังกล่าว กรุณาช่วย E- mail แจ้งมาให้ผู้เขียนได้ทราบที่ mkrichti @ ktb.co.th ด้วย จักขอบคุณยิ่ง หรือส่งทางโทรสารที่หมายเลข 0 - 2256 - 8320 ก็ได้ หรือส่งทางไปรษณีย์ที่ตู้ ปณ. 1234 นานา กรุงเทพฯ 10112 ซึ่งเป็นตู้ไปรษณีย์ของชมรมศาสนาและการกุศลได้เช่าไว้เป็นเวลา 3 ปี ( พศ. 2548 - 2550 ) ด้วย ก็จักขอบคุณยิ่ง​

    ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น นอกจากจะมีแผ่นดินไหวบนพื้นดิน และใต้ทะเลลึกแล้ว ปัญหาที่เกิดจากฝนตกหนัก โคลนถล่ม น้ำท่วม ไฟไหม้ พายุโซนร้อน ดีเปรสชั่น ทอนาโด และเฮอริเคน ต่างก็มาเยี่ยมเยือนประเทศต่างๆ ไม่เพียงเท่านั้นบางประเทศแอบทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ระเบิดไฮโดรเจน อาวุธเชื้อโรคและอาวุธสารเคมี (เป็นปีที่มีการทดลองอาวุธร้ายแรงมากที่สุดในรอบพันปี) จนปรากฏความเปลี่ยนแปลงของพื้นเปลือกโลกหลายชิ้น ก่อให้เกิดแผ่นดินยุบ ธรณีสูบ เกาะแก่งสูญหาย แผ่นดินโผล่ขึ้นมาใหม่ และเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ไปทั่ว มีคนตายมากกว่า 220 ล้านคน แต่บางท่านว่าอาจถึง 1,000 ล้านคน (ผู้เขียนไม่ยืนยันตัวเลข เพราะไม่สนใจจะไปนับซากศพที่ตายเกลื่อนกลาด)​

    ข่าวดี ขณะนี้ มีแนวโน้มว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดในปี 2551 (คศ. 2008) อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไปเกิดในปี 2560 (คศ. 2017) แต่ยังไม่มีผู้ใดกล้ายืนยันฟันธง ประการสำคัญ คือ ต้องไม่ประมาท ถ้าเหตุการณ์เลวร้ายระดับ " อภิมหามหันตวิปโยคสุดแสนโศกสลด " ถ้าเกิดในปี 2551 โดยไม่เปลี่ยนกำหนดการล่ะ ท่านควรประพฤติปฎิบัติตนในปัจจุบันอย่างไร ? ท่านวางแผนจะทำอะไรบ้าง หากท่านมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 ปี (2548 - 2550)​

    คลื่นสึนามิ หรือคลื่นยักษ์ที่ได้ถล่มภาคใต้ 6 จังหวัด เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 มีคนตายไปมากกว่า 5,000 คน บาดเจ็บมากกว่า 10,000 คน และยังสูญหายมากกว่า 3,000 คน หากรวมกับประเทศที่อยู่ริมทะเลหลายประเทศ ปรากฏว่าคนตายรวมกันมากกว่า 220,000 คน ซึ่งทุกคนส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเป็นมหันตภัยใหญ่ ที่ไม่มีคนไทยคนใดได้เคยพบเห็นมาก่อน แต่ถ้าเทียบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2551 (ค.ศ.2008) แล้ว จะเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่เสียหายเพียงเล็กน้อย เพราะจะมีชีวิตชาวโลกเสียชีวิตจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในปี 2551 นั้น มากกว่าเหตุการณ์สึนามิครั้งนี้ประมาณ 1,000 เท่า มีหลายเสียงให้ความเห็นมาว่า น่าจะมากกว่า 1,000 เท่า แต่ผู้เขียนขอเพียงตัวเลข 1,000 เท่าก่อน จึงไม่อยากให้เป็น 1,000 ล้านคน ขอเพียงตัวเลข 220 ล้านคนทั่วโลกที่ต้องสังเวยชีวิตในปี 2551 ก็น่าจะมากพอแล้ว โปรดเก็บบทความนี้ไว้ตรวจสอบ เพราะอีก 3 ปีเศษเท่านั้น เราจะได้รู้เห็นกัน แต่ถ้าโชคดีขยับเคลื่อนไปอีก 9 ปี จากปี 2557 เป็นปี 2560 (ค.ศ.2017) ก็จะมีเวลาวางแผนป้องกันมากขึ้น แต่ไม่ยืนยัน เนื่องจาก ณ ขณะนี้ (มกราคม 2548) โอกาสเกิดมหันตภัยในปี 2551 มีโอกาสมากกว่าปี 2560 อยู่​

    สำหรับจังหวัดใดอยู่ จังหวัดใดหาย ผู้เขียนเคยนำแผนที่ออกแสดงทาง itv. ในรายการ "น้ำท่วมโลก" ซึ่งผู้เขียนได้ยืนยันว่า ไม่มีน้ำท่วมโลก มีแต่น้ำท่วมในบางพื้นที่ของโลกเท่านั้น บางพื้นที่อาจเปลี่ยนจากพื้นดินเป็นผืนน้ำถาวรแทน เป็นการออกรายการทีวี ประมาณปลายปี 2539 โดยให้สัมภาษณ์คุณสุทธิชัย หยุ่น 2 เสาร์ติดกัน โดยมีนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นฝ่ายโต้แย้ง เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีผู้ใดเชื่อเรื่อง "ซูนามิ" ที่ผู้เขียนเคยกล่าวถึง​

    ท่านที่ไม่เชื่อ ผู้เขียนไม่ว่า เพราะผู้เขียนไม่มีวัตถุมงคลมาบอกขาย ไม่มีที่ดินมาบอกขาย ไม่มีการเรี่ยไรขอบริจาคสิ่งใดจากท่านผู้อ่าน หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สิ่งใดจากท่านผู้อ่าน เป็นเรื่องที่ท่านผู้อ่านจะใช้ดุลพินิจและตัดสินใจดำเนินชีวิตของท่านเอง​

    แต่ถ้าท่านติดตามข่าวสารของสื่อมวลชนต่าง ๆ ในช่วงเกิดคลื่นสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ท่านคงได้ยินข่าวต่างประเทศ รายงานข่าวให้ทราบว่า มีเกาะหลายเกาะของประเทศอินเดีย ปัจจุบันสูญหายไปจากที่ตั้งเดิม บางเกาะเหลือเพียงเสาสูงโผล่ให้เห็นเท่านั้น แต่ไม่เห็นบ้านเรือนของประชาชน บางพื้นที่ในภาคใต้ของเราเอง ก็มีพื้นดินยุบตัวเป็นหลุมใหญ่มีการเคลื่อนตัวของเกาะภูเก็ตไป 15 ซ.ม. จากพิกัดละติจูดและลองติจูดเดิม (ปกติจะมีการเคลื่อนตัวประมาณปีละ 1 มม.เท่านั้น แต่ครั้งนี้เคลื่อนตัวเท่ากับ 150 มม.) เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มิใช่เหตุการณ์ใหญ่โตอะไร ถ้าเทียบกับสิ่งที่จะปรากฏในปี 2551 แม้จะเป็นเหตุการณ์วิปโยคที่คนตายไปมากกว่า 220,000 คน ตามที่ทุกคนได้ทราบกันดีแล้วก็ตาม​

    กรุณาอย่าประมาท การเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีการบัญญัติศัพท์ใหม่ว่า ธรณีพิบัติภัย ซึ่งปกติน่าจะเป็นเพียง ธรณีภัย ซึ่งจะสอดคล้องภัยที่เกิดจาก อุทก (น้ำ) วาตะ (ลม) อัคคี (ไฟ) โดยเรียกว่า อุทกภัย วาตภัย และอัคคีภัย ภัยที่เกิดจากแผ่นดิน ก็ควรเป็นธรณีภัย คำว่า ภัย : ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน ปี 2542 ให้ความหมายคำว่า "ภัย คือ สิ่งที่น่ากลัว หรือ อันตราย" โดยมีการเติมคำว่า พิบัติเข้าแทรกกลาง คำว่า "พิบัติ แปลว่า ความฉิบหาย ความหายนะ หรือความอัปมงคล" ​

    ดังนั้น คำที่ถูกต้องในการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ (เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547) ซึ่งมีคนตายในเหตุการณ์เดียวกันนี้มากกว่า 220,000 คน คือ ธรณีพิบัติภัย ซึ่งแปลว่า สิ่งที่น่ากลัวจากความหายนะของแผ่นดิน โดยในปี 2551 จะมีคำที่เรียกเกี่ยวกับสิ่งที่น่ากลัวจากน้ำ ลม และไฟ เปลี่ยนไป โดยเรียกว่า อุทกพิบัติภัย / วาตะพิบัติภัย และอัคคีพิบัติภัย ทั้งนี้เพราะจะมีเหตุให้มีคนตายในแต่ละเรื่อง ในแต่ละคราว ไม่น้อยกว่าครั้งละพันคน หมื่นคนทีเดียว​

    ผู้ใดใครเชื่อ ก็เชื่อ ใครไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องเชื่อ เพราะผลคงไม่แตกต่างกันมากนัก
    ถ้าสภาพจิตใจของท่านยังไม่พัฒนา ท่านยังไม่ฝึกเตรียมตายก่อนตายจริง ท่านอาจต้องเผชิญกับการสูญเสียสิ่งที่เรารักที่สุด หวงที่สุดทั้งด้านทรัพย์สินเงินทองและบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เกียรติยศและชื่อเสียง รวมตลอดถึงบิดามารดา คู่สมรส และบุตรหลานที่รักยิ่งของเรา ที่ต้องฉับพลันสูญหาย หรือตายลงต่อหน้าต่อตา ถ้าท่านยังยึดมั่นถือมั่นในตัวกูของกู หลงติดอยู่ในโลกียสมบัติ จิตใจไม่สอดรับความจริงตามธรรมชาติที่เป็นลักษณะสามัญ คือ อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ซึ่งหมายความว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง ทนอยู่สภาพเดิมตลอดเวลามิได้ และแท้จริง ไม่มีสิ่งใดเป็นตัวตน เนื่องจากเกิดจากการผสม หรือรวมตัวของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เท่านั้น​

    อย่างไรก็ดี ผู้เขียนมิได้หมายความว่า ท่านต้องละทิ้งครอบครัว ละทิ้งสังคม ออกบวช การบวชที่กาย แต่ใจมิได้บวช หาประโยชน์ไม่ได้ ภิกษุในพระพุทธศาสนา แม้จะมีมากกว่า 400,000 รูป ในประเทศไทย แต่ที่มีศีลาจานุวัตร และเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่เป็นบุคคล 4 จำพวก ตามคำสรรเสริญพระสงฆ์นั้นน่าจะมีในประเทศไทยไม่เกิน 400 องค์ หรือภิกษุ 1,000 รูป ที่เป็นพระแท้ หรือพระสงฆ์จริง ๆ นั้นอาจจะมีเพียง 1 รูป เท่านั้น หรือ 0.001% แม้จะมีวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยมากกว่า 30,000 วัด ซึ่งก็แปลว่า เจ้าอาวาสวัดมากกว่า 29,000 วัด มิใช่พระสงฆ์แท้ ตามบทสวดพระสังฆคุณ เพราะบุคคล 4 จำพวก ในคำสรรเสริญพระสงฆ์นั้น คือ เป็นพระอริยบุคคล ชั้นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และพระอรหันต์ ซึ่งผู้เขียนมิได้ปรามาส พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แต่ปรามาสลูกชาวบ้านที่มาบวชในพระพุทธศาสนา แต่มิได้ตั้งใจปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรงตามคำสอนของพระศาสดา ซึ่งเป็นได้อย่างมากก็เพียง "ภิกษุ" ในพระพุทธศาสนา ยังไม่ถึงระดับนักบวช ยังไม่ถึงระดับสมณะ และยังไม่ถึงระดับ พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาที่เป็นพระอริยบุคคล​

    ความหมายของผู้เขียน คือ ท่านจะเป็นใครก็ตาม จะเป็นภิกษุ นักบวช สมณะ พระหรืออุบาสก หรือฆราวาสก็ตาม จะต้องลดความโลภ ความโกรธ ความหลง มีเมตตาปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข ช่วยเหลือเกื้อกูลสงเคราะห์ผู้อื่น มีความกตัญญูกตเวที / มีกรุณา(ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ ไม่เบียดเบียนคนและสัตว์ให้ทุกข์ยากลำบาก) มีมุทิตา (ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี) และอุเบกขา (วางตัวเป็นกลาง / รักษาความเป็นธรรม / ไม่ลำเอียง / ไม่ปรุงแต่งอารมณ์) มากขึ้น มีหิริ โอตตัปปะมีความละอายชั่ว กลัวบาป ยอมรับกฎแห่งกรรมว่าเป็นความจริงแท้ ผู้ใดทำกรรมใดไว้ จะต้องได้รับผลกรรมหรือการกระทำของตน ผู้ใดทำดี ย่อมได้รับผลดีในสัมปรายภพ หรือโลกหน้า ผู้ใดทำกรรมชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว ทุกขเวทนาในสัมปรายภพ หรือโลกหน้า ต้องยอมรับความจริงว่า ​

    ทุกอย่างล้วนแต่ไม่เที่ยงทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ตลอดไป และไม่มีตัวตนที่แน่นอน ทุกสิ่งล้วนเป็นเพียงสมมุติบัญญัติเท่านั้น เป็นส่วนประกอบของธาตุต่าง ๆ มารวมกัน เป็นวัตถุสิ่งของตัวตนบุคคลล้วนแต่เป็นสมมุติบัญญัติทั้งสิ้น ในที่สุดก็ต้องแปรเปลี่ยนและแตกสลายไป การหลงเรื่องตัวกู ของกู แท้จริงก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ควบคุมมิให้มีสภาพแก่ มิให้เจ็บและมิให้ตายไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ต้องทิ้งร่างกายของตนจากไป นั่นก็แปลว่า ตัวกู ก็มิใช่ของกู สิ่งอื่น ๆ ของอื่น ๆ ย่อมต้องมิใช่ของกูใช่ไหม เพราะตัวกู ยังมิใช่ของกู คิดดูให้ดี เพื่อพวกเราจะได้รู้จักปล่อยวางบ้าง ลดแสวงหาโลกียทรัพย์ หันมาสะสมอริยทรัพย์มากขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าในช่วง 3 ปีสุดท้ายที่เหลือ หรืออาจกล่าวโดยสรุป คือ ในช่วง 3 ปีสุดท้ายนี้ ท่านจะต้องสร้างเสริมและถือปฏิบัติอย่างจริงจังให้มี 5 มี 5 ให้ และ 1 ทำ​

    มี 5 มี ได้แก่ ​

    1. มีสติสัมปชัญญะ - ในการทำหน้าที่ของตนจะต้องทำทุกหน้าที่ให้ดีที่สุด คิด
    ก่อนพูด / ก่อนทำเสมอ ไม่ปล่อยชีวิตให้หมดไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ทุกวัน
    ต้องพยายามทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด​

    2. มีความกตัญญูกตเวที - รู้บุญคุณคนและรู้จักตอบแทนคุณทุกคน ตั้งแต่ พ่อ
    แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า น้า อา และผู้มีพระคุณทุกคน ​

    3. มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา - มีความต้องการให้คนอื่นมีสุข พ้น
    ทุกข์ และได้ดีก็ยินดีด้วย ไม่อิจฉาริษยาใคร มีใจเป็นธรรมช่วยใครมิได้ก็ทำ
    ใจเป็นกลาง​

    4. มีน้ำใจ - ช่วยเหลือเกื้อกูลเอื้ออาทรคนอื่นเสมอ​

    5. มีศีล 5 - ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ผิดลูกเมียคนอื่น ไม่พูดปดหลอกลวง
    ไม่ดื่มสุรา​

    มี 5 ให้ ได้แก่ ​

    1. ให้อภัย - ไม่ว่าใครจะทำอะไรให้ไม่พอใจ จะต้องให้อภัยเสมอ​

    2. ให้ความรัก - ให้ความเอาใจใส่ ให้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น​

    3. ให้ความจริงใจ - ไม่หลอกลวง ไม่เบียดเบียนคนอื่น​

    4. ให้เกียรติผู้อื่น - ให้เกียรติในความเป็นคนของคนอื่น ไม่ดูถูกเหยียดหยามคน​

    5. ให้การเสียสละ - ยิ่งให้ จะยิ่งได้ ไม่มีหมดในสิ่งที่ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือ
    แก่คนอื่น​

    1 ทำ ได้แก่ ​

    - ทำความดี ทุกเวลา ทุกโอกาส และทุกสถานที่​

    - ทำให้ทุกคน และทุกชีวิตที่อยู่ใกล้ชิดมีความสุข และได้ประโยชน์จากตัวของ
    เรา โดยเริ่มจากคนในครอบครัวเป็นลำดับแรก คนในที่ทำงานเป็นลำดับ
    ที่สอง คนในสังคมเป็นลำดับที่สาม​

    - ทำการฝึกอบรมพัฒนาจิตใจโดยการวิปัสสนากรรมฐานให้มากขึ้น พิจารณาให้เห็นไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จนเห็นชัดในดวงจิต​

    หวังว่าในวันที่โลกเข้าสู่วิกฤติ ท่านคงจะได้สะสมคุณสมบัติ 5 มี 5 ให้ และ 1 ทำ ที่มีปริมาณมากเพียงพอให้ชีวิตของท่าน และครอบครัวอยู่รอดและปลอดภัย​


    เพื่อให้มีแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ชัดเจนมากขึ้น ผู้เขียนแนะนำแนวทางที่เคยชี้แนะไว้ ในสารชมรมศาสนาและการกุศลที่ผู้เขียนได้พิมพ์แจกเผยแพร่ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2540 โดยได้ประมวลข้อมูลจากบางตอน ในบทความเก่าที่เคยพิมพ์เผยแพร่แล้ว โดยได้ข้อมูลจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ถือศีลที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ บางท่านเป็นพระธุดงค์ที่เคร่ง บางท่านเป็นนักปฏิบัติธรรมมานานหลายปี ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ จากผู้ปฏิบัติในสายพุทธธรรมนั้น ส่วนใหญ่ท่านไม่ตอบปัญหาที่ถามตรง ๆ เกี่ยวกับ "อันตรายที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้" ท่านมักจะพูดในทำนองว่า "โยมจะรู้ไปทำไม โยมรู้ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนักหรอก เพราะผู้ที่ไม่เชื่อนั้นมีมาก ระวังเขาจะกล่าวหาโยมว่า เพี้ยน หรือเพ้อเจ้อ เลื่อนลอย ไร้แก่นสาร และที่สำคัญ คือ ถ้าอาตมาพูดออกไป ก็จะเป็นเรื่อง "อุตริมุนษย์ธรรม"..........โยมต้องเข้าใจนะว่า เมื่อความเจริญได้เดินทางมาถึงที่สุด ความเสื่อมก็จะต้องติดตามมา และในช่วงเวลานับแต่นี้ไป จะเข้าสู่เวลาแห่งการนับถอยหลังเข้าไปสู่ความเสื่อม ความหายนะแล้ว มันเป็นวัฏจักรของโลก เหตุการณ์อย่างนี้ เคยเกิดขึ้นมาในโลกนับเป็นแสนปี ล้านปีมาแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย และมิใช่เรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้นในโลกของเรา............. ​

    ความทุกข์ยากลำบาก ทุพภิกขภัยต่าง ๆ โยมคงจะได้เห็นกันในช่วงชีวิตของโยมนี่แหละ เพราะเท่าที่ดูมารดำ หรือความชั่วร้าย แผ่คลุมโลกมากขึ้นทุกที กฎหมู่จะมีอำนาจเหนือกฎหมาย คนดีจะถูกย่ำยีมากขึ้น คนโดยทั่วไปจะขาดสติในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ฝูงชนจะถูกชักนำให้ร่วมขบวนการในการทำลายล้างมากขึ้น คนส่วนใหญ่จะถูกชักนำและจูงใจให้ทำสิ่งที่ไม่ดีมากขึ้นจะสนุกกับการทำลาย บางครั้งทำเหมือนคนบ้าคลั่ง ที่เจ็บแค้นมานานปี ทั้ง ๆ ที่มิได้มีเหตุที่ควรเจ็บแค้นเช่นนั้นเลยก็ตาม เหมือนเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมารดำเข้าสิงจิตใจผู้คน เมื่อไรก็ตามที่คนขาดสติกำกับการคิด การพูด และการทำ มารดำจะสิงสู่ทันที และมีอิทธิพลครอบงำจิตใจให้ทำในสิ่งที่เป็นภัยต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง............................ความรุนแรง ความเดือดร้อน อันตรายต่าง ๆ จะลดลงได้อย่างมาก ถ้าบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในขณะนี้.........จะหันมาปฏิบัติสิ่งที่ดีให้มากขึ้น ให้ความดีงามช่วยขจัดสิ่งชั่วร้าย ความรุนแรงก็จะลดลงได้​

    สิ่งที่ดี หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์นั้นมีหลายระดับ ในระดับของคนทีเป็นฆราวาสที่ยังต้องเกี่ยวพันกับสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากมายนั้น ไม่ต้องไปคิดถึงประโยชน์ในชาติไหน ๆ เอากันในชาตินี้ก็พอ พยามยามละเว้นการทำความชั่ว พยายามทำแต่ความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส มารร้าย มารดำ ย่อมครอบงำเราไม่ได้ แต่ถ้าตรงกันข้าม คือ ทำแต่ความชั่ว ละเว้นทำกรรมดี และทำจิตใจให้เศร้าหมอง การกระทำดังกล่าวจะเป็นแรงเสริมมารดำ มารร้าย ให้มีพละกำลังเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ปัญหาความเดือดร้อนก็จะมีไปทั่ว และรุนแรง ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในปี 2551 ​

    การละเว้นทำชั่ว นั้น ในเบื้องต้นขอให้ละเว้นการทำผิดศีล 5 ก็นับว่าเพียงพอแล้ว ซึ่งพอสรุปได้ ดังนี้​

    ละเว้นการฆ่าสัตว์ การเบียดเบียนสัตว์และการสนับสนุนให้เกิดการฆ่าและเบียดเบียน สัตว์ด้วย แม้จะไม่ได้ลงมือกระทำ แต้ถ้าเป็นเหตุให้เกิดการกระทำดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีควรละเว้น ควรลด และเลิกเสีย​

    ละเว้นการลักขโมย หรือการเอาทรัพย์สินบุคคลอื่นมาเป็นของตน การกระทำทุจริตต่อหน้าที่ หรือการขโมยผลงานคนอื่น แล้วอ้างว่าเป็นผลงานของตน ผู้ที่ถูกลักขโมยก็ย่อมเกิดความเสียดาย และเกิดอาฆาตแค้น ผูกใจเจ็บ​

    ละเว้นผิดลูกเมีย (สามี) คนอื่น คือ คนที่เขามีเจ้าของแล้ว ผู้ที่ได้ครอบครองก่อนหากถูกแย่งชิงไป ก็ย่อมโกรธแค้นและอาฆาตพยาบาทเป็นธรรมดา ปัญหาความไม่สงบก็จะเกิดขึ้นติดตามมา​

    ละเว้นการพูดโกหก หลอกลวง นินทาว่าร้าย ส่อเสียด ประชดประชัน กระทบกระแทกแดกดัน พูดแล้วเกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเสียแก่ตนเอง เสียแก่ผู้ฟัง หรือเสียแก่ผู้ที่ถูกกล่าวถึงก็ตาม ไม่ควรพูดออกไป​

    ละเว้นการเสพสิ่งเสพย์ติดให้โทษ ที่ก่อให้เกิดอาการมึนเมา ที่เป็นการเสียหายแก่สุขภาพของผู้เสพย์ ที่เป็นการทำลายทรัพย์สินที่ก่อให้บุคคลอื่นเดือดร้อน รำคาญจากการเสพย์ของตน บุคคลอื่นนั้น นับตั้งแต่บุคคลในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และสาธารณชนโดยทั่วไป​

    พยายามทำแต่ความดี นั้น หมายถึง การกระทำต่าง ๆ ตัวอย่าง เช่น​

    - มีเมตตา คือ มีความปรารถนาให้ทุกชีวิตมีความสุข ตั้ง- จิตด้วยความกรุณา คือ ปรารถนาให้ทุกข์ชีวิตพ้นจากทุกข์ รู้จักการให้อภัย และการอโหสิกรรม ตั้ง- จิตให้มีมุทิตา คือ แสดง- ความยินดีกับทุกชีวิตที่ได้ดีมีสุข ไม่อิจฉาริษยา เมื่อเห็นคนอื่นเขาได้ดีกว่า ในกรณีที่เราช่วยลดทุกข์ให้ผู้อื่นมิได้ หรือช่วยเพิ่มสุขให้ผู้อื่นมิได้ ก็จะต้อง- ทำจิตวาง- เฉย ทำความเข้าใจว่า ทุกชีวิตต่าง- ก็มีกรรมเป็นของ- ตนเอง- มีกรรมเป็นมรดก เมื่อกรรมนั้นตามทัน ใครก็ช่วยไม่ได้ เว้นแต่กรรมนั้นเบาบาง- หรือกรรมนั้นตามยัง- ไม่ทัน แต่บุญ- นั้นฉุดขึ้นให้พ้นจากห้วง- กรรมไปก่อน ดัง- เช่น ท่านอง- คุลิมาร แม้จะได้ฆ่าฟันชีวิตไปถึง- 999 ชีวิต แล้วก็ตาม แต่กุศลกรรมดีที่สั่ง- สมมามากได้ดึง- ท่านให้หลุดพ้นบ่วง- กรรม ทำให้ท่านบรรลุเป็นอรหันต์ได้ ดัง- นั้น ใครก็ตามแม้เคยทำความชั่วมามาก หรือทำความชั่วมากกว่าทำดี ต้อง- เร่ง- ทำกรรมดี เพื่อความดีจะได้ฉุดรั้ง- ขึ้นก่อนที่กรรมชั่วจะตามทัน ก็ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้น และเป็นไปได้ ความดีที่ได้ทำแล้ว ผลดีย่อมตอบสนอง- แต่ถ้าประมาทขาดความใส่ใจ โชคร้าย โรคภัยต่าง- ๆ ย่อมเบียดเบียน หรืออาจเป็นโรครักษาไม่หายได้ ซึ่ง- เป็นกรรมที่ตามมาทัน หรือเป็นเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง- ๆ นั่นเอง- ขอให้ทุกคนได้โปรดหันมาทำแต่กรรมดี ทั้ง- ในด้านการคิด การพูด และการกระทำต่าง- ๆ ความดี ทำได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกโอกาส และทุกหน้าที่ หากทุกคนทำดีกันมาก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดในปี 2551 อาจเลื่อนไปเกิดในปี 2560 แทน​

    ด้วยความปรารถนาดี​

    จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ​

    วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2547 เวลา 02.35 น.​

    หมายเหตุ ท่านใดที่ต้องการรับข่าวสารชมรมศาสนาและการกุศล ที่รวดเร็วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ชมรม ฯ จะจัดส่งข่าวสารชมรม ฯ ให้ทาง E-mail กรุณาแจ้งให้ชมรมฯ ทราบ ด้วยว่าจะให้ส่งทาง E-mail ของท่านหมายเลขใด แจ้งมาที่ประธานชมรมฯ ที่ mkrichti @ ktb.co.th ด้วยครับ​

    คัดลอกมาจากhttp://nouchiko.diaryhub.com/?20050225</LARGFONT>​

    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2008
  8. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    โลกยุคใหม่...เป็นอย่างไร???

    ...เป็นดังที่...พระพุทธเจ้าสมณโคดม...กล่าว
    ...เป็นดังที่...พระเยซูคริสต์...กล่าว
    ...เป็นดังที่...นบี มูฮัมหมัด...กล่าว
    ...เป็นดังที่...นอสตรดามุส...กล่าว
    ...เป็นดังที่...ไอน์สไตน์...กล่าว

    ยุคแห่งความสุข ทุกๆๆๆชีวิต


    แล้วพวกเรา...จะทำอย่างไร???...ให้โลกเป็นเช่นนั้นได้...

    ทั้งนี้ทั้งนั้น...มันจึงอยู่ที่...พวกเรา ทุกๆคน ร่วมด้วย ช่วยกัน...


    วิธีการง่ายๆๆๆๆๆ
    ช่วยกัน...เผยแพร่...แนวทาง วิธีคิด การดำรงชีวิต ที่ถูกต้อง ตรงกัน...ทุกภาษา ทุกช่องทาง การสื่อสาร...เน็ต ฟรี น่ะ


    ปัญหา???????
    แนวทาง วิธีคิด การดำรงชีวิต ที่ถูกต้อง ตรงกัน...คืออะไร??????
    สัมมาฑิฐิ...คิด พูด ทำ อยู่ กิน...???


    การกิน...พอดี
    การอยู่...พอเพียง
    การทำ...ดีพอ


    ไม่เบียดเบียน ต่อสรรพสิ่ง สรรพชีวิต ทั้ง กาย วาจา ใจ (กรรม..พลังงาน)
    (ping-love (ping-love (ping-love :'( :'( :'( :love: :love: :love:
    ท่านคิดว่า...ควรทำอะไร????????ได้อีก...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2008
  9. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    ภัยพิบัติที่จะเกิดในปีนี้น่าจะเป็นภัยพิบัติย่อยๆมากกว่า ส่วนภัยพิบัติในรอบหมื่นปีน่าจะเกิดภายในปีหน้า (2552)

    ดังนั้นถ้าเกิดภัยพิบัติย่อยๆในปีนี้ เช่นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในไทย สึนามิ หรือเขื่อนแตก ท่านที่ทำนายว่าภัยจะเกิดปีนี้ก็มิได้ทำนายผิดแต่อย่างใด
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>Falkman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 04:11 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    สถานที่: Falkland
    ข้อความ: 3,117 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 34,306 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 28,265 ครั้ง ใน 3,089 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3126 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->บอกข่าว
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->วันนี้(12ม.ค.51) ไปเขาสมโภชน์ ที่ลพบุรีมา (ไม่ได้ตั้งใจไปหรอก) ไปแล้วเค้ามีการเปิดกรรมกัน

    แล้วไปที่ถ้ำอรหันต์ ไปคุยกับแม่ชี

    แม่ชีคุยด้วยอย่างถูกคอ แล้วแม่ชีบอกว่า สังเกตไหม ปีนี้มีคนตายเยอะ ขนาดพระระดับสูง ปีนี้ปีแรง เบื้องบนเค้าให้มากวาด (ท่านพูดแล้วปิดปาก แล้วบอกว่า เค้าสั่งมาแล้วไม่ให้พูด ไม่รู้ทำไมดันหลุดปากมาพูดกับเรา)

    แม่ชีบอกว่าให้แผ่เมตตากันเยอะๆ ปีนี้มีคำสั่งจากเบื้องบนให้กวาด มิฉะนั้นจะไม่รอดเอา

    ถามรายละเอียดกว่านี้แม่ชีก็ไม่บอก เลยรู้มาแค่นี้จ้า
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________
    มี "สติ" รู้กาย รู้ใจ อย่างเนืองๆ
    "1784" ศูนย์บรรเทาภัยภิบัติ กระทรวงมหาดไทย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>ยิวถล่มฮามาส
    [​IMG] อิสราเอล 13 ม.ค. - ทหารอิสราเอลยิงจรวดถล่มเป้าหมายกองกำลังกลุ่มฮามาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีกหลายคน
    อากาศยานรบของกองทัพอิสราเอลยิงจรวดโจมตีด่านตรวจของกองกำลังกลุ่มฮามาสในพื้นที่ตอนใต้ฉนวนกาซา แรงระเบิดได้คร่าชีวิตสมาชิกกองกำลังฮามาส 2 คน ขณะเดียวกันก็มีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน โดยฝ่ายอิสราเอลระบุมีจำนวนผู้บาดเจ็บ 5 คน แต่ฝ่ายฮามาสอ้างมีผู้บาดเจ็บเพียงคนเดียว
    ทั้งนี้ ทหารกองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีแหล่งที่มั่นของกองกำลังกลุ่มฮามาสบ่อยครั้งขึ้น โดยอ้างเป้าหมายการโจมตี คือ แหล่งซ่องสุมกองกำลังหรือไม่ก็แหล่งฝึกกองกำลังติดอาวุธ นอกเหนือจากการใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานยิงจรวดถล่มอิสราเอลของกลุ่มฮามาส. -สำนักข่าวไทย

    อัพเดตเมื่อ 2008-01-13 05:07:03 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>บาห์เรนคุมเข้มความปลอดภัยพร้อมรับบุช
    [​IMG] บาห์เรน 12 ม.ค. - รัฐบาลบาห์เรนเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเต็มพิกัด ระหว่างต้อนรับการเยือนของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
    ทางการบาห์เรนระดมกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเตรียมรับการเดินทางเยือนบาห์เรน ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐ อย่างเต็มที่ เมื่อวันเสาร์ ตำรวจคอยตั้งแถวป้องกันภัยตั้งแต่สนามบิน มีเฮลิคอปเตอร์คอยบินตรวจการอยู่ตลอดเวลา ส่วนศูนย์บัญชาการกองเรือที่ 5 ของสหรัฐในบาห์เรนก็มีเรือตรวจการหลายลำคอยรักษาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาด้วย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบุชมีกำหนดเข้าเฝ้ากษัตริย์อาหมัด บิน อิซา อัล-คาลิฟาห์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์สันติภาพตะวันออกกลาง ก่อนที่ผู้นำสหรัฐจะเดินทางต่อไปเมืองอาบู ดาบี โดยเดินทางเยือนคูเวตแล้วก่อนหน้านี้. - สำนักข่าวไทย

    อัพเดตเมื่อ 2008-01-12 23:19:39 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- End Detail -->http://news.mcot.net/international/</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปี 2552 ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะจากการที่ผมได้ทำการรวบรวมข้อมูลเรื่องภัยพิบัติ ทั้งจากคำทำนายในคัมภีร์ของศาสนาต่างๆ ทั้งจากคำทำนายของผู้รู้ต่างๆ ก็บอกไว้ตรงกันหมดว่า ปี 2552 คือปีแห่งการเริ่มต้นของยุคชาวศิวิไลซ์ เป็นปีแห่งการเริ่มต้นของยุคทองของมนุษยชาติ เป็นปีแห่งการเริ่มต้นแห่งยุคพระศรีอารย์


    [​IMG]

    อีกทั้งปี 2552 คาบอย"บุช" ก็หมดอำนาจวาสนาไปแล้ว ไม่มีโอกาสจะมาก่อกรรมทำเข็ญให้กับใครได้อีกแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • bush.JPG
      bush.JPG
      ขนาดไฟล์:
      25.7 KB
      เปิดดู:
      1,829
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2008
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บุชจี้ซีเรีย-อิหร่านหยุดหนุนความรุนแรงในอิรัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 มกราคม 2551 16:54 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยุ บุชแห่งสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ต่อนายทหารอเมริกันที่ประจำการในคูเวต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มะกันถล่มหมู่บ้านอิรักทางอากาศ นักรบอัลกออิดะห์ดับ 21 ราย</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 มกราคม 2551 18:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทหารอเมริกันกำลังปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มอัลกออิดะห์ในอิรัก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตัวเลขสุดสลด!! ชาวอิรักตายเฉลี่ยวันละ 120 ตั้งแต่ถูกสหรัฐฯ รุกราน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 มกราคม 2551 00:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - โดยเฉลี่ย 120 คน ที่ชาวอิรักต้องสังเวยชีวิตให้กับความรุนแรงในแต่ละวันช่วง 3 ปี หลังจากสหรัฐฯ นำกองกำลังบุกรุกเข้าไปเมื่อเดือนมีนาคม 2003 องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันพุธ (9)

    ผลสำรวจในครัวเรือนโดยองค์การอนามัยโลกและรัฐบาลอิรัก ระหว่างเดือนมีนาคมปี 2003 ถึง มิถุนายน 2006 ประมาณว่า มีประชาชนระหว่าง 104,000-223,000 คน เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงในช่วงของการสำรวจ​
     
  16. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    อย่าลืมนะครับ วันขึ้นปีใหม่ตามโหราศาสตร์ไทยคือเมษายน ๒๕๕๒ ดัง

    นั้นก่อนเมษา ก็ยังเป็น ๒๕๕๑(ไทย)อยู่เป็น

    ถ้าบุชทำสงครามปลายปี ก็คงไม่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี และแน่

    นอนสงครามไม่ใช่วันสองวันแน่ๆ น่าจะสอง-สามเดือน และถ้ามีการใช้

    นิวเคลียร์ก็ต้องเป็นระยะสุดท้ายของสงคราม อิหร่านมีอาวุธเชื้อโรค+นิ

    วเคลียร์ อเมริกามีนิวเคลียร์+อาวุธแสง

    เป็นไปได้ว่าสงครามจะจบราวต้นปีหน้า ภัยพิบัติจะมาราวกลางปีหน้า

    ปลายปีหน้าจึงเริ่มยุคใหม่ (ไม่น่าจะเลื่อนอีกแล้ว แต่ถ้าคนทราบมากๆก็ไม่แน่)
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บังเอิญไปอ่านพบบทความที่น่าสนใจ เรื่องความแตกต่างของดวงจิต ๓ ประเภท คือ พุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ และ สาวกภูมิ จึงขออนุญาตนำมาลงให้ได้อ่านเพื่อเป็นความรู้ และเพื่อเป็นทางเลือกว่าท่านควรจะไปนิพพานในสภาวะแบบใดจึงจะเหมาะสมกับจริตของท่านครับ

    <TABLE width=560><TBODY><TR><TD>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2008
  18. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    เท่าที่ดูตอนนี้สหรัฐมีข้ออ้างพอที่จะโจมตีอิหร่านเเล้วใช่ปะครับ
    หรือว่าที่ไปประเทศต่างๆจะเป็นการประชุมเตรียมทำสงคราม..คิดมั่วๆ
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...