อยากทราบว่าอาการตึงตรงแน่นๆตรงหน้าผากเหนือหว่างคิ้วประมาณ1นิ้ว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย LightLine, 14 มิถุนายน 2014.

  1. LightLine

    LightLine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +78
    อาการนี้ชอบเป็นบ่อยตอนนั่งสมาธิ เพิ่งเป็นเมื่อประมาณ2ปีที่ผ่าน เวลาไม่นั่งบางทีก็เป็น อยากทราบจากผู้ที่พอจะรู้ว่าน่าจะเป็นเพราะสาเหตุอะไร ข้องใจมานานมากแล้วครับ ขอบพระคุณครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ทางปฏิบัติถือว่าเป็นคนที่มีทิพยจักขุมาก่อนในอดีตชาติครับ.
    และถ้านั่งสมาธิแล้วรู้สึกว่าแค่ตึงๆเฉยๆ และไม่มีอาการปวดศรีษะ
    หรือตึงศรีษะร่วมด้วย ของศรีษะส่วนบนนะครับ.
    นอกจากจะเคยมีทิพยจักขุมาก่อนแล้วยังถือว่าสมาธิสะสมดีในระดับหนึ่งครับ..
    สังเกตุดูครับตอนแรกมันจะคล้ายๆหน่วงๆดันๆจากใต้ผิวหนังเล็กน้อย
    ถ้าเราสมาธิดีหน่อยมันก็จะหมุนวนขวาคล้ายๆใบพัดลมครับและมันจะ
    เหมือนดันๆออกมาเล็กน้อยแต่การหมุนมันจะสม่ำเสมอทั้งระยะที่เรา
    รู้สึกดันๆกับความเร็วในการหมุนครับ.และการหมุนคล้ายๆพัดลม
    แบบนี้ในเวลาปกติทั่วๆไปมันก็หมุนได้ของมันเอง
    แต่ไม่มีผลเสียหายอะไรครับ
    และปกติคนมีอาการแบบนี้มักจะได้เห็นหรือสัมผัสหรือมีความรู้สึก

    ในเรื่องนามธรรมต่างๆเป็นปกติครับ

    แต่ถ้าการหมุนมันถึงขั้นได้ผลมันจะหมุนเหวี่ยงเหมือนคลื่นงวงช้าง
    และหมุมม้วนลงเข้ามาในศรีษะครับส่วนส่งผลด้านไหนค่อยว่าอีกที
    .และถ้าเราฝันนะครับบางทีเรา
    จะเห็นภาพจากจุดนี้ด้วยครับ แสงจะออกจากจุดนี้คล้ายเครื่องฉายสไลด์
    ส่วนมากจะเห็นแบบสภาพแวดล้อมเหมือนกลางวันปกติด้วยครับและมัน
    มักจะเป็นเหตุการณ์ในอนาคต...ส่วนจะเห็นเรื่องอะไร หรือว่าจะปฏิบัติอย่างไร
    ถ้าสนใจมากกว่านี้ค่อยว่ากันครับ..
     
  3. LightLine

    LightLine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอบพระคุณมากครับ มันตึงเหมือนมีอะไรดันตามนั้นจริงๆครับ เพียงแต่ไม่มีอาการปวดศรีษะ และยังไม่ถึงขั้นหมุน ควรเน้นตรงจุดไหนดีครับ ตอนบวชพระเวลานั่ง มันจะตึงแน่นแล้วเหมือนตัวเองไปนั่งอยู่ในที่โล่งทั้งๆที่อยู่ในกุฏิ แต่อาการนี้หายไปซักพักหลังบวช ตอนบวชเคร่งมากถือว่าบวชเข้ามาแล้วต้องทำให้จริง แต่พอสึกออกมา กลายเป็นว่านานๆจะได้นั่งซักครั้ง อาการนั่งแล้วเหมือนไปอยู่อีกที่ก็ได้หายไปด้วย ช่วยชี้ทางบอกทีว่าผมควรเน้นตรงไหนต่อไป เป็นพระคุณมากครับ
     
  4. LightLine

    LightLine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +78
    แต่อาการตึงแน่นทุกวันนี้ยังคงอยู่ครับ
     
  5. sumomochi

    sumomochi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +19
    ผมก็เป็นเหมือนกันครับตึงๆหน่วงๆที่กลางหว่างคิ้ว ชีวิตประจำวันตอนไม่ได้ภาวนายังเป็นเลยครับ เข้ามาขอความรู้อีกคนครับ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เด่วเล่าให้ฟัง ขอกล่าวคลอบคลุมทั้ง ๒ คนเลยนะครับ.
    เพราะอาการคล้ายๆกัน คือเป็นได้ปกติในชีวิตประจำวัน
    และไม่ปวดศรีษะ.ความจริงถือว่าดีนะครับ.แต่ประโยชน์
    ในระดับนี้นะครับ.ถ้าเราเอาจิตไปจับไว้ตรงหน้าฝากแล้ว
    ภาวนาไป.จะเป็นการสร้างสติทางธรรมไปในตัว
    แบบฐานอยู่ที่กาย ไม่ทำให้จิตใจเราวอกแวกด้วยครับ.
    และถ้าเกิดเราง่วงๆหรือขี้เกียจในขณะทำงานนะครับ.
    จะเป็นการกระตุ้นความรู้สึกให้กลับมาได้อีก.
    จะทำให้เราทำงานได้อีกต่อไป
    และมีสมาธิดีขึ้นด้วยครับ..ตรงจุดนี้ลองพิสูจน์ดูได้ครับ
    ประเด็นข้างบนคือ การใช้ในชีวิตประจำวันนะครับ..


    ส่วนถ้าจะพัฒนาในเรื่องการปฏิบัติ จนถึงขั้นที่หมุน
    เป็นวงกลมวนขวา หมุนแบบเป็นงวงช้างได้. จะต้อง
    ทำการไปเปิดจักระตรงสมองส่วนกลาง หรือกลางกระโหลก
    ศรีษะ ตรงศรีษะที่ขีดแล้ววัดลงมาตรงกับหูครับ ให้ได้ก่อน
    เป็นอันดับแรกถึงจะมีการพัฒนาต่อไปได้ครับ.ด้วยการ
    กำหนดจิตไปให้ถึงกลางกระโหลกศรีษะให้ได้ แรกๆยังจะ
    ยังไม่ไม่ถึงตรงจุดกลางกระโหลกครับจะติดๆอยู่ต้องโคนผม
    ที่ศรีษะก่อน ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะย้ายไปหน่วง
    ที่กลางกระโหลกศรีษะครับ.และพอถึงจุดนี้ มันจะมีความรู้สึก
    ว่าวงการหมุนเริ่มจะมีวงกว้างเป็นวงกลมได้ และจะขยายรอบ
    กระโหลกศรีษะเรา..ถ้าตรงจุดนี้ทำได้แล้ว ตรงเหนือระหว่าง
    คิ้วมันก็จะเกิดการหมุนได้ครับ และไม่ต้องกลัวครับ
    เพราะกลางกระโหลกเป็นการเชื่อมกับระดับภพภูมิดีๆ
    ระดับสูงด้วยครับ. และจะรู้สึกว่าเบากว่านี้
    และก็จะสามารถเปิดจักระจุดอื่นๆตามมาได้เอง
    .และจะสามารถใช้งานด้าน
    ทิพยจักขุในแบบหลับตาได้. สร้างสติทางธรรมได้
    ในเวลาปกติ ระลึกสติเพื่อการทำงานได้..
    และสามารถเชื่อมหรือสื่อสาร
    กับพลังงานภายนอกต่างๆได้หรือสื่อถึงบุคคลอื่นๆได้ด้วยครับ..
    แต่ให้ระวังจุดท้ายทอยนะครับอย่าไปยุ่งตอนนี้.เด่วเอาเท่านี้ก่อน
    ประเด็นอื่นๆปลีกย่อยค่อยว่ากัน หรือถ้ายังสงสัยประเด็นไหน
    ก็ลองถามดูครับ

    ปล.อาการนั่งๆแล้วเหมือนไปปรากฏอีกทีหนึ่ง
    ลักษณะเหมือนว่าสถานที่นั้นๆเลื่อนเข้ามาหาเราเอง
    แสดงว่าเรามีครูบาร์อาจารย์หรือทางภพภูมิท่าน
    เมตตาสอนเราอยู่ตอนนั้นครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2014
  7. sumomochi

    sumomochi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอบคุณ ท่านnopphakanมากครับที่ได้เข้ามาให้ความรู้ และการปฏิบัติในเรื่องของจักระ โดยส่วนตัวก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องของจักระเท่าไหร่ แต่ก็ได้เคยอ่านศึกษามาบ้างครับ แล้วถ้าไม่ไปเปิดจักระ ปฏิบัติไปเรื่อยๆนี้จักระจะเปิดเองได้ไหมครับ
     
  8. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    สาธุๆๆ ขออนุโมทนาในธรรมทาน
    ของคุณ nopphakan ด้วยนะครับ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ปฏิบัติไปเรื่อยๆจะเปิดได้ครับ..ตามจุดที่คุณเคยๆได้อ่านมานั่นหละครับ.
    เพียงแต่จักระ ๑ กับ ๗ เป็นเสมือนประตูในการเชื่อมกับพลังงานภายนอก
    ทั้งนี้ทั้งนั้นควรมีกำลังสติและสมาธิสะสมพอสมควร
    และเคยเดินปัญญาเพื่อลดละกิเลสมาบ้างเพื่อไม่ให้ยึดติดกับความ
    สามารถพิเศษต่างๆและรู้เท่าทันจิตตนเองไม่ให้หลงไปกับกิเลสต่างๆ
    .และรู้จักการถ่ายเทพลังงานตกค้างเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ
    กับร่างกายต่างๆที่จะตามมา

    ก่อนที่จะเข้าไปเกี่ยวพันธ์กับเรื่องนี้แบบเปิดหมดทุกจุดครับ
    ความจริง ๗ จุดเป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น.ยังมีสายวิชา ๙ จุด
    ๑๒ จุดและถ้าทำต่อไปจะเปิดได้ ทั้งที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และสามารถ
    เปิดได้ทั้งตัวด้วยครับคือเชื่อมทางผิวหนังได้เค้าเรียกว่าส่วน
    วิญญานธาตุครับ....ซึ่งแล้วแต่แนวทางการปฏิบัติของแต่ละสาย
    ครูบาร์อาจารย์ที่เราจะได้พบเจอทั้งทางโลกและทางภพภูมิ
    และแนวทางการนำไปใช้งานทางด้านต่างๆที่เป็น
    ประโยชน์ในทางธรรมด้วยครับ..ซึ่งเรื่องทำนองนี้ถ้าไม่ได้
    มีประสบการณ์ด้วยตัวเองก็ยากที่เข้าใจหรือจะอธิบายให้
    บุคคลอื่นๆเข้าใจได้ยากเช่นกัน เผลอๆเราอาจจะโดน
    ปรามาสได้ครับ.เพราะเครื่องรู้บางอย่างมันหาไม่ได้จาก
    ตำราบนโลก เป็นการสอนจากครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิครับ
    เพียงแต่ถ้า ๒ จุดสำคัญยังไม่เปิด อาการหน่วงๆตามจักระต่างๆก็จะเปิดได้เอง
    แต่ไม่ใช่การเปิดแบบถาวรหรือการเปิดที่สามารถนำไปเพื่อการใช้งานด้าน
    อื่นๆที่มีประโยชน์ได้ หมายถึงเปิดในระดับหมุนเป็นคลื่นงวงช้าง(มันกำลังดูด)
    นะครับและอีกกรณีจะเป็นการหมุนรับพลังงานภายนอกคือหมุนคล้ายๆใบพัด
    แต่เป็นใบพัดคล้ายๆตัวอินฟินิตี๊ หรือเลขแปดสากลแบบแบนๆ
    .หาก ๒ จุดสำคัญไม่เปิดมันก็จะปิดของมันเองได้เพราะ
    แต่บางคนจุดที่ ๗ หรือ ๑ เค้าเปิดเองได้แบบไม่รู้ตัว.เลยทำให้จุดๆอื่นเค้าเปิด
    ตามมาโดยบางครั้งเจ้าตัวก็ไม่รู้สาเหตุนั่นเองครับ.
    เพราะจะมีพลังงานธาตุอากาศจากภายนอกมาหนุน
    จากอากาศธาตุภายนอกตัวนี้ จึงส่งผลให้คนที่จักระเปิดส่วนมาก
    จะมีความรู้สึกรับรู้เกี่ยวกับพวกอากาศและลมได้ดีเป็นปกติครับ..

    แต่สุดท้ายถ้าเราไม่ได้มารูปแบบที่จะต้องใช้พลังงานตรงนี้เพื่อประโยชน์
    ทางด้านอื่นๆ.เราปฏิบัติของเราไปปกติก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ.
    ขอให้หลักๆอยู่ใน ทาน ศีล สมาธิ และปัญญา เป็นใช้ได้
    แต่หากว่าเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเหตุใดก็ตาม
    เราก็ควรที่จะต้องเรียนรู้และอยู่กับมันในสภาพชีวิตปกติ
    และเพียงแต่ว่าจุดกลางกระหม่อนที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านั้น.
    เป็นจุดที่ไม่มีอันตรายไม่ส่งผลกระทบกับร่างกาย.
    ซึ่งจะช่วยในเรื่องทิพยจักขุซึ่งหากเรามีตรงนี้
    จะทำให้ความเข้าใจในส่วนนามธรรม การส่งผลต่อ
    ความเชื่อที่ส่งผลต่อการปฏิบัติของเราชัดเจนยิ่งขึ้น
    ดีกว่าการที่เราเพียงแต่ ได้ยิน ได้อ่านมา.
    มันก็พอจะมีประโยชน์ในการปฏิบัติที่เราจะได้รับ
    จากองค์ความรู้ต่างๆที่เราสัมผัสได้.
    ที่จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติตามความเหมาะสมเฉพาะเราได้
    และจักระที่กลางศรีษะเป็นช่องทางสื่อสารช่องทางหนึ่ง
    จากภพภูมิระดับสูงๆหรือครูบาร์อาจารย์ทางธรรมรูปแบบหนึ่งด้วยครับ.

    .ปล.ประมาณนี้ครับแบบทั่วๆไป
     
  10. tOR™

    tOR™ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +328
    พยายามย้ายจุดดูครับ บังคับได้แล้วก็ทำให้นิ่งต่อไป ทำให้มันหยุดหมุน มันเป็นนิมิต ถ้าไปเพ่งแถวนั้นผมว่าไม่ดีเท่าไหร่ หากว่าถ้ากายทิพย์หลุดออกมาก็จะตกใจ พยายามสวมเข้าไปที่กายเนื้อ สวมทั้งตัวยังไม่ได้ก็ให้แขนขยับได้ก่อนก็ได้ครับ แค่นี้ก็คืนร่างเดิมได้แล้ว

    มีไร pm มาได้ครับ เพราะตอนเด็กๆผมเป็นมาก่อน อ่านข้อความที่นี้ระวังให้มากครับ คนที่เขาเป็นเหมืนกันมาอ่านจะเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปต่อความครับ ดีที่สุด
     
  11. tOR™

    tOR™ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +328
    เพิ่มเติมอีกนิดไม่รู้จะได้มาตอบอีกไหม ก็คือทำให้หยุดหมุนได้แล้วต่อไป ถ้าไม่เรียกนิมิตนี้มาก็ไม่ปรากฏนะครับ ต้องการให้ปรากฏก็ปรากฏได้ เท่านี้ก็พอล่ะครับ ต่อไปอยากทำอะไรด้านสมาธิก็ทำตามปรกติได้
     
  12. sumomochi

    sumomochi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอบคุณครับ อนุโมทนาในธรรมทานที่ท่าน nopphakan ได้เข้ามาให้ความรู้ ตอนนี้ยังไม่ถึงไหนเลยครับแต่จะพยายามทำตามที่ท่านแนะนำครับ
     
  13. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ให้ ****กำหนด*** ***รู้*** ***ทุกข์*** ในความสงสัย
    ไม่ว่าสงสัยอะไรให้ ***กำหนด*** ***รู้*** ***ทุกข์***
    ในความสงสัยนั้นๆ

    จนกว่าคุณจะพบว่าสงสัยก่อนหน้านี้ ปัจจุบัน และถัดไปเป้นคนละสงสัย
    เป้นคนละ อัตตะ อัตตะ อัตตะ
    และ
    จนกว่าคุณจะพบว่า ไม่มี สงสัยก่อนหน้า ปัจจุบันและถัดจากนี้
    เพราะเรา ***กำหนด*** ***รู้*** ***ทุกข์*** ***ใน*** ***ลังเลสงสัย***

    ทุกข์จะเป็ฯสารสื่อประสาท ทุก ****อัตตะ*** จะรวมตัว จะแยกตัวกันเอง
     
  14. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ในเบื้องต้น เราจะไม่สามารถทรงฌาน
    ไม่สามารถทำอัปปนา่สมาธิได้

    ทุกข์จะมี อันก่อนหน้า อันปัจจุบัน อันถัดไป

    และถ้าโชคดีคุณกำหนดรู้ทุกข์ตั่งก่าก่อนทรงฌาน นานๆทรงฌานได้จิ๊ดนึงก็พอ
    พอเข้าฌาน มีอัปนาสมาธิ บังเอิญก็ได้ แต่กำหนดรู้ทุกข์นอกฌานไง
    พอเข้าฌานบังเอิญ มั้ง คุณจะยังเห็นทุกข์อยู่
    แต่ไม่มีอันก่อนหน้านี้ ไม่มีอันปัจจุบัน และไม่มีอันถัดไป
    กำหนดรู้ทุกข์ในอริยะสัจจะ สี่

    อวิชชาประกอบด้วย
    ราคะ
    และ
    ฉันทะ
     
  15. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    จุดมโนทวาร

    อยู่ตรงกลางระหว่างคิ้ว ตรงดั้งจมูกหัก จุดนี้เป็นทางออกของกระแสความคิด เมื่อสติดีขึ้นซึ่งเป็นผลจากการปฏิบัติ ก็จะเห็นความตรึง ณ ที่จุดนี้หรือบริเวณข้างเคียงกับจุดด้วย
    การเพ่งฌานก็จะเพ่งเข้าที่จุดนี้ จุดมโนทวารนี้หลวงปู่สาวกโลกอุดรเป็นผู้ค้นพบและปฏิบัติเพ่งฌานจนบรรลุธรรม ดังนั้นจุดมโนทวารจะไม่ปรากฏในตำราใดๆ แม้นในพระไตรปิฎกก็ไม่มี จะมีเฉพาะตำราที่หลวงปู่สาวกโลกอุดรแต่งหรือแสดงธรรมไว้เท่านั้น
    จุดของคุณเป็นตำแหน่งเหนือคิ้ว จุดนี้เพ่งไม่ได้นะครับ หากเพ่งจะเสียสติเพราะจุดนี้เป็นเส้นประสาท อาการตรึงสามารถเกิดได้ทั้งรอบบริเวณจุดมโนทวาร เช่นหน้าผาก ที่ดวงตาหรือที่บริเวณโพรงจมูก แต่ตัวจุดจริงๆเขาจะไม่ตรึงหากไม่เพ่งเข้า จุดอื่นเกิดขึ้นเหมือนหลอกให้หลง
    แสดงเท่าที่รู้ เชื่อหรือไม่ ก็ไม่ว่ากันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2014
  16. tOR™

    tOR™ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +328
    คุณอ่านเรียงความ สังเกตุที่มาที่ไปบ้างนะครับ อยู่ดี ๆ ไม่ใช่จะมาได้นะครับ

    ขอฝากแนวคิด : ห้างสยามพารากอน มีคนเข้าไปนับล้าน มีซักกี่ท่านที่จะทราบว่า
    1. มีห้องน้ำกี่ห้อง มีไฟกี่ดวง ขนาดกว้างยาวเท่าไหร่ ฯลฯ
    2. คนเข้าไปทุกคน เห็นสัมผัส เหมือนคุณที่ได้พบบางอย่างด้วยตนเอง
    3. แต่คุณไม่ทราบใ่ช่ไหมครับรายละเอียดดังกล่าว

    เรื่องคร่าว ๆ สิ่งที่คุณเจอ ถ้าให้เงินทุนไปซัก 100 ล้าน คุณจะทำวิจัยเรื่องนี้อย่างไรครับล่ะครับ ข้อความเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่านจับโน้นผสมนี้ ให้ระมัดระวังให้มากที่สุดนะครับ ข้อมูลบางอย่างอ่านแล้วดูที่มาที่ไปว่า มาได้อย่างไร ได้มาแบบนี้แล้ว จะต้องไปทำอะไรได้มา ไม่ใช่ว่า อ่านหนังสือหรือจิตนาการไป ผมเรียกว่าเพ้อเจ้อ หรือฟุ้งซ่านครับ
     
  17. LightLine

    LightLine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +78
    เพิ่งเสร็จงานกลับมาอ่าน สับสนมากมายครับ แต่ยังไงขอขอบคุณทุกๆท่านในความหวังดีครับ วันนี้ผมเจอแต่เรื่องแย่ๆ อยากกลับไปบวชจัง อยากหาที่ๆสงัด เบื่อทางโลกที่แสนจะวุ่นวายเหลือเกิน ฝันไว้ว่าอยากบวชตลอดชีวิต แต่ต้องดูแลครอบครัว ผมเองก็ลูกคนเดียวอยากให้ทางครอบครัวสบายทั้งกายและใจก่อน คงต้องมีวันนั้นซักวัน
     
  18. Cool_time

    Cool_time สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +24
    เพ่งมากเกินไปครับถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้น ตอนนั่งสมาธิให้ เอาจิตไล่ไปตามลมหายใจเข้าออกให้รู้ว่าลมกระทบจมูกผ่านลำคอเอาไปที่ปอดผ่านลงท้อง แล้วไล่จากท้องขึ้นมาปอดผ่านลำคอ ออกจมูก ทำไปเรื่อย ๆ ซักพักอาการนี้จะหายน่ะครับ นั่งสมาธิไม่ต้องหวังจะเห็นอะไรครับให้มีสติรู้อยู่ตลอดก็พอ ส่วนเรื่องอยากบวชนั้นรอให้หมดภาระหน้าที่ก่อนก็ได้ครับช่วงนี้ก็บวชใจถือศีล 5 ศีล 8 อยู่บ้านวันพระก็ชวนครอบครัวไปทำบุญที่วัดก็ได้ครับ
     
  19. LightLine

    LightLine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอให้คณบอกมาให้กระจ่างทีครับ ขอบคุณครับ
     
  20. sumomochi

    sumomochi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +19
    รอคุณ ส่องตน มาตอบอีกคนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...