เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

ฉลองหน้า 555 กันหน่อยครับ
อ่านจากที่ลุงคางทูม เอาบันทึก ของ จอหัวนอนหลวงปู่มาลงแล้ว เกิดความสงสัยประการนึง
อย่าว่าผมเป็นนักสืบเลยนะพี่ขายแมวติดตามอ่านต่อไปเถอะจะเข้าใจอะไรมากกว่านี้ ลองอ่านกันดูครับ ผมจำได้ว่า หลานอ้วนศิษย์จอหัวนอนหลวงปู่
เอาเรื่องราวประคำมาลงพร้อมพระคาถา ธรรมราช เลยทำให้ผมเกิดความสงสัย
เพราะกว่าที่ท่านอาจารย์ชุม จะครอบมือให้ศิษย์เรียนไสยศาสตร์ ออกจากสำนักไปสอนศิษย์ ต่อไปได้ ยากนะครับ เท่าที่รู้มาครอบมือไม่กี่คนเอง
สมัยก่อน บาตรทำน้ำมนต์เนื้อดิน หรือเนื้อผงนี่ละเข้าใจว่าสร้าง 2 ครั้ง ครั้งแรก 2497
คราวทำพระนาคปรก หรือพระหลวงปู่ทวด ผมให้ใครไปแล้วในเวปนี้ รู้แล้วเอาลงจากหิ้งมาใช้ด่วนสุดยอดพระสายเขาอ้อนะครับ ครั้งที่2 ปี 2506 บาตรบางใบก็ใส่น้ำไม่ได้ด้วยเป็นดินผสมผง เผาไฟอ่อนๆๆน้ำซึมได้ บางใบก็มีแผ่นดินเผาลงอักขระไว้ทำน้ำมต์
ผมตามเรื่องนี้ได้ความว่าไปเรียนมาจากอาจารย์ชุม และท่านอาจารย์มอบบาตรน้ำมนต์ให้ ผมเริ่มสงสัยว่า ไปเช่าพระ จากท่านอาจารย์มากกว่ากระมังครับ
ผมเองเข้าไปหาอาจารย์ชุม ช่วงเวลานั้น ผมยังไม่ทันเห็นเลยครับ และไม่น่าสร้างมาก ถ้าได้มาครอบครองถือว่าเป็นวาสนาอย่างสูง ฟังๆๆดูเหมือน ไม่น่าเป็นศิษย์เรียนวิชาจากท่านอาจารย์ชุม แน่นอน ไปฝากตัวเป็นศิษย์บูชาพระกลับบ้าน แม่นอยู่ฟังแล้วเข้าหู

กับในบันทึกบอกว่าประคำหลวงปู่ทำจากกาฝากผสมผง ถ้าไม่ลงรักเนื่อจะยุ่ยง่าย หรือเป็นผงขาวเคลือบรักดำ อันนี้ไม่เคยเห็นเลยไม่ติดใจ ติดใจแค่พระคาถาธรรมราช
เป็นของหลวงปู่ทิมตามที่หลานอ้วน ศิษย์จอหัวนอนหลวงปู่เอาบันทึกของ จอหัวนอนหลวงปู่มาลงไว้

หรือตามที่ลงไว้ในหนังสือร่มโพธิ์ ที่บอกว่า หลวงปู่กำชับนัก กำชักหนา....................ถ้ามีเหตุร้ายให้ภาวนา นะโมพุทธายะ มหาป้ญโญ อานุภาเวนะ เมรักขันตุสวาหาย
กับอีกท่อน ให้จับสายประคำแล้วกลั้นใจภาวนามะนะนัตตา กุสลาธัมมา นะโมพุทธายะ
กับอีกบท อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ

กับบทพระธรรมราช
ผมยังเป็นหนี้ท่านผู้อ่านเกี่ยวกับพระคาถาที่ใช้กำกับ “เม็ดประคำ” ของหลวงปู่ทิม เรื่องพระคาถาบทนี้ หลวงปู่แก้ว ท่านก็ใช้อยู่เหมือนกัน ซึ่งผมจะขอเชิญ และคัดลอกมาให้ท่านผู้อ่านที่สนใจจะได้นำมาพิจารณา และเป็นอุบายในการเจริญธรรม เพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้นต่อไป
“พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ธรรมัง สะระนัง คัจฉามิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ
ทะ ทะ ทะ โร โร โร อะ อะ อะ สะ สะ สะ โส โส โส โน โน โน นะโม พุทธา ยะ”
พระคาถาบทนี้ชื่อว่า “พระธรรมะราช” เป็นใหญ่แก่พระธรรมทั้งปวง ถ้าผู้ใดภาวนาชักลูกประคำตามแต่จะได้ ผู้นั้นจะได้บุญกุศลเหลือที่จะคณา ถ้าผู้ใดภาวนาพระคาถาบทนี้นับว่าผู้นั้นมีเสียชาติที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ถ้าผู้ใดภาวนาตอนค่ำหนึ่ง มิรู้ขาดอาหารเลย สารพัดศัตรูทำอันตรายมิได้

จริงๆๆแล้วบทไหนกันแน่ที่เป็น ของหลวงปู่ทิม หรือเอาของหลวงปู่คงวัดตาล มาแจมด้วยค่อยๆๆอ่านบันทึกของศิษย์เอก หัวนอนปู่ทิมกัน ผมว่า 3 เล่มใหญ่ที่ถ่ายเก็บไว้ คุยกัยอีกนาน แบบ 555 ฉลองหน้า 555 กัน

 

เป็นธรรมดาของสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มีคนดีย่อมมีคนเลว มีผลบุญย่อมมีบาปกรรม หนีอะไรหนีได้แต่หนีเวรกรรมตัวเองไม่ได้ จริงอยู่คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด แต่คนฉลาดย่อมแพ้ภัยตัวเองเสมอ เมื่อความจริงมาประจบ ผมว่าเรื่องราวหลวงปู่ทิมที่ถูกบิดเบือนจากศิษย์ที่พยายามก่อร่างตัวเองเพื่อสร้างความสนใจจากคนศรัทธา ถ้านำมาเขียนเรื่องจริงมันก็เป็นประโยชน์ที่ดีที่ควรนำเผยแพร่ต่อครูบาอาจารย์ แต่ถ้านำเรื่องที่บิดเบือนสับสนกันจนงงเหตุเพราะผลประโยชน์เป็นหลักสำคัญ เราจะเห็นศิษย์แต่คนพยายาหาชื่อเสียงเข้าหาตัวเองต่างก็อยากจะสร้างวัตถุมงคลให้ออกในนามวัด เพราะเห็นว่าผลประโยชน์ความศรัทธานั้นหลั่งไหลกันมาก ถ้าศิษย์แต่ละคนนับถือครูบาอาจารย์จริงทำไมไม่เอาทั้งมูลนิธิและพิพิธภัณฑ์ไปอยู่ในวัดกันซะให้หมด จะได้แสดงความนับถือต่อหลวงปู่ทิมจริง !

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat พี่รุ่ง คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ

 

ผมว่าคุณyangtoomคงจะโง่งมกับเรื่องแบบนี้ หลักฐานมันก็ชี้ชัดอยู่แล้ว ว่าศิษย์ใกล้ชิดไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์การสร้างพระปะคำเลย ไปอยู่เชียงใหม่ตั้งปีๆ จะไปรู้อะไรมาก มีแต่ฟังเขาเล่าต่อหรือไม่ก็เขียนนิยายแต่งเติมเข้าไป โธ่ถังคนอ่านเขาก็คิดว่าอยู่เป็นเด็กวัดจริง เห็นชอบเขียนว่าบีดนวดหลวงปู่ทุกค่ำคืน สงสัยคงนั่งญาณจากเชียงใหม่มานวดหลวงปู่ถึงวัดล่ะมั๊ง จะเอาความจริงที่ไหนกัน ถ้าคุณyangtoomคิดจะศึกษาจริงก็ควรหาพิจารณาให้รอบคอบก่อนนะครับ ถ้าคิดว่าอ่านแล้วมั่นใจคนเขียนเหลือเกิน ขี้เกียจคุยกับนักศึกษาใหม่อย่างคุณจริงๆ

 

ผมเคยอ่านบันทึก ว่าบวชแก้บนอยู่กับเณรไทเกอร์ อยากหาตัวเณรไทเกอร์จริงๆๆเลย
จริงเป็นเท็จ เท็จเป็นจริง น่าสนใจมาก ช่วงไหนอยู่บีบนวดรับใช้หลวงปู่ ขออ่านประวัติก่อน

 

กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ

 

การไปบวชอยู่กับครูบาอาจารย์ ใช่ว่าจะไปได้วิชาอะไรมากันง่ายๆ บวช 15 วัน 90 วันอย่ามาพูดเลย ต้องถามว่าบวชเพื่อะไร ต้องไม่ลืมนะครับพื้นฐานของการเรียนวิชาคืออะไร สมาธิมีหรือไม่ ฌาณได้เปล่า จิตรวมเป็นหนึ่งหรือไม่ ถ้ามีได้พื้นเหล่านี้แล้วบอกว่าไปเรียนวิชาก็จบ สมัยนี้มีการตีพิมพ์คาถามากมาย คนเอาไปท่องก็คงเป็นอาจารย์ไปหมดแล้ว ผมมีแผ่นยันต์พระธรรมราชครับ พี่รักรังสิต แต่ก็ยังรอประคำนะครับ

 

ชอบความเห็นนี้ครับ ความเชื่อของคนแก้ยากครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

จริงๆแล้วกระทู้เปิดตำนานหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่นั้นผมได้นำเรื่องราวที่ให้ความเป็นจริง ที่เป็นข้อมูลและเหตุผลไม่ต้องการความบิดเบือนใดๆ อันไหนที่คิดว่าเป็นจริงหรืออันควรแล้วก็ควรนำมากล่าวขานกันส่วนเรื่องไหน ที่่ถือว่าเป็นเหตุผลที่หาข้อยุติไม่ได้หรือเป็นการบิดเบือนข้อมูลเรื่องราว จนเกิดความสับสนในหมู่คนที่ติดตามเรื่องราวด้วยความศรัทธาก็ว่ากันไปตามเหตุผลสมควรเพราะ ทุกอย่างนั้นมันมีเหตุผลเป็นองค์ประกอบ ส่วนใหญ่ในวงการทุกวันนี้จะยึดตามแนวของการขายเป็นหลัก แต่ขาดประวัติการสร้างที่ชัดเจนโดยเฉพาะวัตถุมงคลที่สร้างกันในวัดละหารไร่ ผมจะยกตัวอย่างแค่พระขุนแผนพรายกุมาร ซึ่งมีราคาที่พุ่งสูงและเป็นที่เสาะหากันมากสำหรับคนที่ศรัทธา แต่ในความเป็นจริงมีใครสามารถเล่าอธิบายที่มาของการสร้างขุนแผนกันได้ชัดเจน รึปล่าว ทำไมมันถึงเล่นกันคลุมเครือ แยกประเด็นกันไม่ออก ! และลูกศิษย์แต่ละคนที่ยกตัวเองกันขึ้นมาโดยเฉพาะเฮีย จ ที่ผมต้องเอ่ยถึงเพราะน่าจะรู้ดีกับเรื่องราวกันบ้างซะหน่อยอาจจะเห็นบ้างสักนิดเพราะช่วงเวลานั้นตัวเองอยู่เชียงใหม่นานครั้งจะมาสักหนกลับมาอยู่ระยองปีไหนคงน่าจะรู้ (เรื่องนี้ เป็นจริงที่ควรทราบกับเหตุการณ์เรื่องราวไม่ได้มีการปรักปรำหรือการใส่ร้ายกัน) แต่ผมจะไม่เอ่ยถึงบุคคลในมูลนิธิหลวงปู่เพราะมาปีพ.ศ.2517 ซึ่งได้มาทีหลังการสร้างพระชุดที่วัดแล้วแต่อาจจะทราบบ้างในเรื่องราวประๆ ปลายๆหรือการเล่าต่อสู่กันฟังซึ่งมันคงไม่รู้ดีไปกว่านี้แน่ ยิ่งถ้าบอกว่าไม่เคยเห็นพระเนื้อขาวหรือพระยุคแรกๆนับตั้งแต่บล็อกไม้และบล็อกหินมีดโกนแล้วก็ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยเพราะมาไม่ทัน (มันเป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ) เพราะทุกเรื่องราวนั้นมันต้องใช้ห้วงเวลาในการสื่อชักมาประกอบกับเรื่องราวที่ชัดเจน เพราะไม่มีใครจะอยู่ในเหตุการณ์กันซะทั้งหมดถ้าจะเอาเนื้อหาตามความเป็นจริง

สำหรับทุกท่านที่เข้าอ่านอาจจะสะเทือนขวัญกันบ้างตามปะสาคนที่ไม่รู้กับคนที่สังเกตหรือคนที่เคยโดนหลอกมาจนเป็นประสบการณ์แก่ตัวเองแล้วเพราะทุกวันนี้เรื่องราวหลวงปู่ทิมนั้นถูกบิดเบือนกันมานานนับตั้งแต่หลวงปู่ทิมท่านมรณภาพกันได้ไม่กี่ปีเลย จนทุกวันนี้เรื่องราวมีแต่ความเดียดฉันท์ขึ้นมาจากลูกศิษย์เพราะผลประโยชน์ที่มาเรียงรายพร้อมกับความศรัทธา ทุกวันนี้การตั้งตนเป็นผู้รู้ผู้ชี้ขาดนั้นมีมากถ้าจะเอาตามเหตุผลที่คิด คุณอาจเป็นผู้รู้เพราะดูตามที่เขาเล่นมาหรือศึกษาหาจำจากในหนังสือแต่ถ้าจะศึกษาตามจริงนั้นคงอาจจะยากเพราะความขัดแย้งกัน การมองในสิ่งที่ควรคิดว่าใช่กับการมองในสิ่งที่คิดว่าไม่ บางครั้งมันอาจจะขัดแย้งกับเหตุผลที่มันตรงกันข้ามก็ได้ บางครั้งสิ่งที่คิดว่ามั่นใจมันคงอาจจะไม่ใช่ เมื่อกล่าวเช่นนี้ตามความหมายคือถ้าได้รับจากลูกศิษย์อย่าคิดเสมอว่ามันจะเป็นของจริงเสมอ มันอาจจะเป็นของเล่นที่ถูกตรีตราขึ้นมาก็ได้ บางครั้งการสร้างเรื่องราวให้มันดูสมจริงกับเรื่องราวที่มันสะพรึงเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในเรื่องของผงพรายกุมารพยายามเน้นเอาเรื่องผีๆเข้ามายกตัวอย่างเช่นไม้จิ้มผี หรือไม่ก็สีผึ้งผีหุง หรือผงผีอีส้มต่างๆ ซึ่งบางครั้งมันก็จริงอยู่กับเหตุการณ์ในบางครั้งแต่เหตุกระนั้นต้องมีการยอมรับกัน ไม่ใช่การกุเรื่องขึ้นมาแล้วมาจัดฉากขายกันทีหลังยกตัวอย่างเช่น น้ำมันพระเจ้าตาก เพื่อจัดฉากการขายขุนแผนลองพิมพ์ ซึ่งมีทั้งเนื้อขาวและเนื้ออมเขียวอมเข้มอมแดง ถ้าใครคิดว่าใช่ก็ใช้ได้ไม่มีใครว่า ขอให้นับถือหลวงปู่ทิมเท่านั้น ส่วนเรื่องราวการสร้างนั้นอย่าไปรู้มันเลยสำหรับคนที่เชื่อและแขวนใช้ แต่ถ้าจะเอาความจริงคงไม่มีใครกล้ายอมรับเพราะทั้งผู้ทำ ผู้จ้าง และผู้ที่รับสมยอมว่ากดทำก็ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเรื่องราวเช่นนี้ความจริงมันก็คือความจริง ไม่มีใครโจมตีหรือกล่าวร้าย แต่มันคือเรื่องราวที่คนระยองเขาทราบดี มีแต่คนจะขายไม่มีคนแขวนด้วยใจมีแต่แขวนเพื่อขายเพราะเขาทราบถึงที่มาที่ไปกันดี ถ้าอยากรู้ลองสอบถามเฮีย จ ดูรู้ว่าทำมาแล้วกลัวขายไม่ได้จึงต้องจัดสรรที่มาให้เซียนจุกเป็นนายหน้า แล้วจะพยายามโยงให้โยมสายเป็นคนรับรอง แต่เรื่องราวมันผิดพลาดที่โยมสายไม่กล้ารับรองได้แต่นิ่งเฉยเพราะทราบดีว่าชุดนี้มันเป็นของใคร แต่หนังสือกลับลงเขียนมัดมือชกว่าโยมสายรับรองแล้วมีรูปถ่ายกำกับประกบคู่ไว้กับลุง ม (คนยกมือ)ด้วย ซึ่งเรื่องราวนี้มันเกิดขึ้นประมาณปีพ.ศ. 2540-41 ลองสืบประวัติกันดูสำหรับคนที่ยังสงสัยไม่เข้าใจ เมื่อเหตุการณ์มันพาไปแล้วฉะนั้นผู้บริโภคหรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงก็ต้องเชื่อจนปัจจุบันเลยเถิดเข้ามาจนวงการในส่วนกลางและในกรุงเทพฯยอมรับการซื้อขายได้ จริงแล้วนี่เป็นเพียงเกร็ดเกร็ดน้อยกันเท่านั้นสำหรับเรื่องราวของหลวงปู่กับการสร้างที่คิดว่ามันพิสดารเกินความจริง ซึ่งฉากละครนั้นยังมีให้กล่าวขานกันมากมาย จงใช้วิจารณญาณในการอ่านกับเนื้อหาที่ใคร่ครวญและไตร่ตรอง เพื่อความถูกต้องและเหมาะสมกันก่อนนะครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เรื่องสีผึ้งของหลวงปู่ทิมนั้นผมแนะนำหลายคนว่าอย่าเป็นเล่นหามันเลย จะโดนหลอกเปล่าๆถ้าให้ฟรีก็รับไว้ได้ เพราะของจริงคงมีกันไม่เท่าไหร่ ปัจจุบันของเสริมของยัดนั้นมากมาย เมื่อก่อนนี้มีเด็กขายพระในเวปให้เฮีย จ ซึ่งใช้ในนามว่าบารมีพ่อแก่ ซึ่งปัจจุบันเลิกเล่นสายนี้ไปแล้วเพราะโดนอานิสงฆ์ของเฮีย จ แห่งพิพิธภัณฑ์บุญญาฯ แกเอาสีผึ้งเก่าที่หาเอาตามสนามพระไปฝากขายให้อุปโลกน์ว่าเป็นของหลวงปู่ซึ่งก็มีหลากหลายสารพัด อยู่ที่ใครจะพลัดหลงเช่าไปจะใช้ได้ผลอะไรรึปล่าวนั้นไม่รู้ ขายกันอย่างเดียว ต่อมาก็มีการอุปโลกน์สีผึ้งผีหุงกันขึ้นมาอีก โดยมีการแอบอ้างยกเอาหลวงตารอดและหลวงตาพูนกันขึ้นมา ถ้าเราคิดตามเหตุผลกันจริงๆนั้นไม่ยาก ลองไปสอบถามเรื่องที่มาที่ไปและเหตุการสร้างให้ดู เฮีย จ เขาจะอธิบายว่ายังไงเพราะที่มามันจบแค่นั้นเอง สงสัยแกคงลืมไปแล้วว่าสีผึ้งโหลนี้เป็นของอาจารย์อื่นแล้วหลอกขายให้กับพิพิธภัณฑ์บุญญา พัทยาไปแล้วมาอุปโลกน์เป็นสีผึ้งผีหุง ลองดูเนื้อหาจริงยังสดอยู่ สงสารคนที่บริโภคไปคงคิดว่าเป็นของหลวงปู่จริง จะเห็นว่าที่ผ่านมามีการเอาสีผึ้งผีหุงจัดเป็นคอนเซ็ตการขายมีการเอาเข้าพิธีพุทธาภิเษกในวัด ถ้าเราลองวิเคราะห์ตามเหตุผลที่ควรพิจารณาแล้ว ถ้าเป็นของหลวงปู่ทิมจริงทำไมต้องเอาไปเสกอีก ในเมื่อของจริงก็ขลังอยู่แล้ว น่าคิดกันไหม อันนี้เรื่องราวของสีผึ้งผีหุงที่มีคนถามมากันมากมาย ถ้าใครชอบก็ไม่ว่า ขอแค่ศรัทธาระลึกถึงหลวงปู่ก็ใช้ได้ผลแล้ว ถึงแม้มีแค่ตัวเปล่าๆก็ตามทีแต่มีจิตที่ระลึกถึงได้มันจะดีเสียยิ่งกว่า

 

เรื่องสีผึ้งผีหุงผมเองเคยได้มาตลับหนึ่งเหมือนกัน เพราะอยากรู้ว่ามันจริงตามที่เขาเล่าเหมือนกันว่าเอาน้ำมันผีมาใส่กันอย่างพิศดารหรือปล่าว ผมเคยเอาไปให้อาจารย์ฆราวาสท่านตรวจสอบทางญาณ ท่านก็บอกว่ามันไม่มีผีมีพรายอะไร มันเป็นแค่สีผึ้งธรรมดาๆ ภายหลังผมเองก็พยายามคิดอย่างถี่ถ้วนว่า สีผึ้งนี่มันเล่นหายากจริงๆมันบ่งบอกอะไรไม่ได้เลย อาศัยแค่ความเชื่อถือเท่านั้น จะดูได้ก็เพียงความเก่าของมัน ถ้าจะเอาไปใช้ไปป้ายก็คงไม่ถูกหลัก สู้หาพระหาวัตถุมงคลมาแขวนจะดีกว่าเป็นไหนๆ ถ้าคิดจะเล่นสีผึ้งก็ควรหาเกจิอาจารย์ที่เรานับถือจะดีกว่าซึ่งก็มีอยู่กันในปัจจุบันมั่นจะได้มั่นใจไม่ต้องมาระแวงกัน

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระไม้แกะยุคแรกของหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ ฝีมือการแกะโดยนายสาย แก้วสว่าง จะเห็นว่าจะไม่ค่อยมีความเรียบร้อยสวยงามเพราะเป็นศิลป์ชาวบ้าน สังเกตุดูรูปแล้วแทบไม่ต้องมีคำบรรยายเลย

 

พระพุทธไม้แกะสวยคลาสสิก เข้มขลังเก่าตามธรรมชาติดี สาธุ

 

วันนี้ไปวัดเนิน นำเงินไปถวายหลวงปู่เกลี้ยง ท่านผ่าตัดใส้เลื่อนเสร็จเรียบร้อย พักผ่อนอยู่ อีกหลายวันกว่าจะกลับครับให้แผลหายสนิทก่อนกันแผลติดเชื้อ ค่อยกลับวัด ไม่ต้องห่วงครับ ยอดเงินที่ถวาย 23300 บาท กับ ผู้ใหญ่ในกระทู้เรา ท่าน รองอุทัย .....ท่านร่วมบุญอุปัฏฐาก พระผู้ใหญ่ที่พวกเราเคารพอย่างสูงอีก 2000 รวมยอดเงินถวายท่าน 25330 บาท ขออนุโมทนาบุญกับญาติธรรมทุกท่านที่ช่วยกันดูแลพระอาจารย์ของพวกเรา หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนิน ชลบุรี ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ สาธุ.....

 

กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ

 

อ่านเรื่องราวแบบนี้ได้ข้อคิดกันดี การลงหาพิ้นที่กับชาวบ้านสามารถเป็นกุญแจไขความจริงไปได้ส่วนหนึ่ง ถึงแม้วงการอาจจะยังไม่ให้ความสนใจใดๆกับเรื่องนี้ แต่ความจริงมันก็ต้องเปิดเผย ซึ่งมันแน่นอนที่มีทั้งคนที่เห็นดีเห็นงามด้วยกับคนที่ศรัทธาจริงและกับคนที่ไม่เห็นด้วยก็น่าจำพวกคนขายพระ ทีนี้อยู่ที่การตัดสินใจของผู้อ่าน ว่าคุณจะเลือกวิถีทางแบบไหน ผมเองคิดว่าดีครับกับความจริง
ที่ควรพิสูจน์กัน

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณตาสายแก้วสว่าง
สวัสดี อ.แก้วสว่าง และพี่ๆ ทีเคารพรักทุกๆท่านครับ
ห่างหายไปนานครับแต่ก็ยังเฝ้าติดตามอยู่เสมอไม่เคยห่างครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

สวัสดีครับคุณsu สบายดีนะครับ เมื่อถึงเวลาร่วมสร้างบุญเราคงได้ไปเยือนเมืองพิษณุโลกและเมืองสุโขทัยกันอีก

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่



พระไม้แกะในยุคแรกนั้น สังเกตการทำให้ดีอุปกรณ์การใช้และการตกแต่งจะมีก็แต่มีดเท่านั้น ความเรียบของผิวเนื้อจะใช้วิธีการใช้มีดเกา ซึ่งมันจะแตกต่างกว่าการใช้กระดาษทรายมาก การสร้างในยุคแรกนั้นจะวิเคราะห์ตามยุคการสร้างได้ไม่ยากเลย ถ้าคิดจะเล่นหาวัตถุมงคลที่เป็นสิ่งธรรมชาติก็ควรวิเคราะห์กันไว้นะครับ

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat พี่รุ่ง คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ