คุยกับผีตัวที่ ๑๔ ผีคุณย่าน้อยผู้หึงหวงสามีและบ้าน

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย JeTo2008, 23 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    คุยกับผีตัวที่ ๑๔ ผีคุณย่าน้อยผู้หึงหวงสามีและบ้านffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เขียนนับย้อนหลังไปประมาณ ๑๑ ปี ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ที่วัดแห่งนั้นผู้เขียนได้พบกับคุณปู่คนหนึ่งอายุตอนนั้น ๙๒ ปีแล้ว แต่ท่านยังดูแข็งแรงเหมือนคนอายุ ๗๐ กว่าๆ เพราะท่านยังเดินเหินคล่องมาก เรามีโอกาสได้สนทนาธรรมมะกันเพราะท่านนิยมชมชอบในตัวผู้เขียนที่อายุยังน้อยแต่นุ่งขาวห่มขาวประพฤติธรรม ท่านได้เล่าเรื่องราวอะไรมากมายสมัยท่านเป็นมัคคทายกของวัดที่ผู้เขียนไปทำบุญ และเรื่องราวสมัยเป็นสัปเหร่อให้ฟังด้วย ผู้เขียนเป็นคนชอบฟังเรื่องราวจากคนเฒ่าคนแก่อยู่แล้วเพราะเราจะได้รู้เรื่องราวในสมัยที่เรายังไม่ได้เกิดมาว่าเป็นอย่างไร ท่านเล่าให้ฟังหลายเรื่อง ฟังแล้วก็เพลินดี แล้วท่านก็วกกลับมาถามเรื่องของผู้เขียนบ้าง ผู้เขียนก็เล่าให้ท่นฟังคร่าวๆเกี่ยวกับเรื่องราวการปฏิบัติธรรมและเรื่องแปลกๆที่ผู้เขียนได้ประสบมา ท่านก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนที่สุดเมื่องานบุญที่วัดได้เสร็จสิ้นลง คุณปู่ท่านนั้นก็เชิญผู้เขียนไปเยี่ยมบ้านพร้อมกับเล่าเรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ แม้ในเวลาปัจจุบันนี้ก็ยังมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นอยู่ตลอดจนลูกหลานไม่ค่อยกล้าไปเยี่ยมที่บ้านขณะที่เป็นเวลากลางวันยังไม่ค่อยกล้าไปกลางคืนเลยไม่ต้องพูดถึงไม่เคยมีใครกล้าไปนอนที่บ้านหลังนั้นอีกเลยนับตั้งแต่วันที่คุณย่าน้อยได้เสียชีวิตไป ความจริงแล้วท่านเองก็เคยพบเจออยู่บ่อย ท่านไม่กลัวเพราะย่าน้อยรักท่านมาก แต่กับคนอื่นหรือโดยเฉพาะกับเมียท่านอีกหลายคน อ่อ ลืมบอกไปว่าท่านมีภรรยาหลายคน คนที่ตายนี่เป็นคนสุดท้ายอายุห่างกับท่านประมาณ ๓๐ กว่าปีเห็นจะได้แต่อายุสั้น ท่านเล่าให้ฟังว่าภรรยาคนนี้รักท่านมากที่สุด ตอนมีชีวิตก็ขี้หึงมากไม่ยอมให้ใครมาใกล้ท่านเลย ผู้หญิงทุกคนแม้แต่พี่น้องเพื่อนฝูงก็อย่าหวังได้เข้าใกล้ ย่าน้อยไล่ตะเพิดออกไปจากบ้านเสียหมด คุณปู่เองท่านก็เบื่อหน่ายมากแต่จะทำไงได้ก็ต้องทนเอาแต่ก็ไม่ได้คิดว่าย่าน้อยจะอายุสั้น ขณะที่ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟัง ย่าน้อยได้ตายไปประมาณ ๕ ปีแล้ว ท่านจึงขอให้ผู้เขียนช่วยไปที่บ้าน เพื่อช่วยดูให้หน่อยว่าย่าน้อยยังอยู่และเรื่องแปลกๆทั้งหลายเป็นฝีมือย่าน้อยจริงหรือไม่ ผู้เขียนตอนนั้นรู้สึกเห็นใจในความทุกข์ของท่าน ก็เลยยอมไปที่บ้านท่าน บ้านของท่านห่างจากวัดประมาณ ๑๐ กิโลเห็นจะได้ พอไปถึงก็มีอาการแปลกๆ ลมแรงแบบไม่มีเหตุผล ประตูหน้าต่างก็เปิดปิดเองเสียงดัง คนที่ไปด้วยกัน ๓-๔ คนมีคุณปู่ และหลานๆท่าน ต่างรู้สึกเหมือนกัน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายโมง พอไปถึงอาการที่ผู้เขียนสัมผัสได้ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร แต่ก็ได้นั่งพักและพูดคุยเรื่องของย่าน้อยและความเฮี้ยนของท่านอีกสักพักหนึ่ง แล้วคุณปู่ก็พาไปที่ห้องนอนของย่าน้อยที่ยังคงสภาพเดิมข้าวของทุกอย่างยังอยู่ที่เดิม ไม่มีใครกล้าเข้าไปวุ่นวายเลย เรื่องเข้าไปนอนไม่ต้องพูดถึง ทุกคนต่างรู้กิตติศัพท์ความเฮี้ยนของย่าน้อย ปู่เล่าให้ฟังว่าบางคนที่มาหาปู่ยังยืนรออยู่ที่ริมรั้วบ้านโน่นไม่กล้าเข้ามาขอให้ปู่ออกไปหาที่ริมรั้วแล้วก็รีบพูดธุระเสร็จแล้วก็รีบไปเลย เพราะกลัว ผู้เขียนจึงบอกไปว่า “ไม่เป็นไรครับคุณปู่เดี๋ยวผมจะลองดูครับถ้าเป็นคุณย่าน้อยก็คงน่าจะพอคุยกันได้” แล้วบอกให้ทุกคนรออยู่ข้างนอกจะขอเข้าไปในห้องลำพังคนเดียว โดยให้ทุกคนรออยู่ข้างนอก แล้วผู้เขียนก็เปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไปในห้องเพียงคนเดียว ขณะที่เข้าไปในนั้นความรู้สึกเหมือนมีเงาดำๆสูงใหญ่ถึงหลังคา มันกระพือเข้ามาหาผู้เขียนเป็นระลอกเป็นระลอก ลักษณะคล้ายๆผู้หญิงใส่ชุดนอนผ้าพริ้วๆพัดไสวไปมา สีดำ อ่อ คุณปู่ท่านบอกว่าย่าน้อยชอบใส่ชุดนอนสีดำ หน้าต่างที่ปิดอยู่มีเสียงกระทบกระแทกกันดัง ตึงตัง ตลอดเวลา ผู้เขียนตัดสินใจลงนั่งกรรมฐานเข้าสมาธิ เมื่อเข้าสมาธิแล้วผู้เขียนก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งอายุราว ๖๐ ปี ผมยาวสยายแผ่กว้างดวงตาดุดันโกรธขึ้งแสยะยิ้มน่าสะพรึงกลัวแสดงกิริยาเกรี้ยวกราด ไม่พอใจ และขับไล่ผู้เขียน พร้อมกับมีเสียงดังมาว่า “มึงมาที่นี่ทำไม มึงจะมาลองดีกับกูหรือ” ไม่พูดเปล่าส่งเสียงหัวเราะพร้อมเสียงหวีดที่ดังมากเพื่อจะทำให้ผู้เขียนกลัว แต่ผู้เขียนยังเฉยอยู่ ผีคุณย่าน้อยยังแสดงฤทธิ์ต่อ ตอนนี้เธอแสยะยิ้มพร้อมแยกเขี้ยวยิงฟันทำท่าเหมือนจะเข้ามากัดผู้เขียน ผู้เขียนก็ยังเฉยอยู่ ผีคุณย่าน้อยเมื่อเห็นผู้เขียนเฉยก็เอามือทั้งสองข้างของแกที่มีเล็บมือยาวมากและมีสีดำมะเมื่อม ยื่นมาบีบที่คอผู้เขียน เวลานั้นผู้เขียนยอมรับว่าตั้งแต่เจอผีมาหลายๆตัวนี่นับเป็นอีกตัวที่เฮี้ยนไม่เบา แต่เรื่องกลัวนั้นไม่มี ถึงเวลานี้ผู้เขียนจึงพูดขึ้นว่า “เหนื่อยเปล่าคุณย่าน้อย อย่าทำอย่างนี้เลย ท่านทำอะไรผมไม่ได้หรอก หยุดเถอะ ผมไม่กลัวท่านหรอก เรามาคุยกันดีกว่า ผมอยากรู้เรื่องราวของท่าน” ผีคุณย่าน้อยผงะถอยออกไปเมื่อได้ยินผู้เขียนพูดด้วย แล้วก็พูดเสียงดังใส่ผู้เขียนมาว่า “แล้วมึงจะเอายังไง มึงมาวุ่ยวายกับกูก่อน ถ้ามึงไม่รีบออกไปกูจะฆ่ามึง” ผู้เขียนยิ้มแล้วก็พูดตอบไปว่า“ก็ผมบอกย่าแล้วไงว่า ท่านฆ่าผมไม่ได้เอาหล่ะถ้างั้นผมจะขอถามอะไรคุณย่าหน่อยก็แล้วกัน”“มึงจะถามอะไรกู กูไม่มีอะไรจะพูดกับมึง” แววตาและสีหน้าของผีคุณย่าน้อยนั้น ยังดุดันน่ากลัว ผมเผ้าเวลานี้ยุ่งเหยิง กระจัดกระจาย เสมือนมีลมพัดให้พลิ้วไหวตลอดเวลา แม้แต่น้ำเสียงตอนพูดก็ไม่มีความป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย ผู้เขียนจึงเริ่มถามไปว่า “คุณย่าน้อยครับ คุณย่าก็ตายมาตั้งหลายปีแล้วทำไมยังไม่ยอมไปเกิดยังภพภูมิใหม่ของตัวเองหล่ะครับ” ผู้เขียนถามต่อ “อยู่อย่างนี้ลำบากลำบาก หิวก็ไม่ได้กินมีแต่ความทุกข์สถานะตอนนี้ของคุณย่าจัดเป็นพวกสัมภเวสีนะครับ” ผีคุณย่าน้อยไม่ตอบกลับมองผู้เขียนด้วยแววตาที่เกรี้ยวกราดดุดันมากขึ้น พร้อมกับตวาดออกมาว่า “มึงอย่าเสือกเรื่องของกู” ไม่พูดเปล่าด้วยอำนาจแห่งจิตที่มีโทสะอยู่เต็มเปี่ยมผีคุณย่าน้อยจึงบันดาลลูกไฟหลายสิบลูกให้พุ่งเข้ามาหาร่างของผู้เขียน ลูกไฟที่พุ่งเข้ามากพอกระทบถูกร่างของผู้เขียนซึ่งในเวลานี้มีลักษณะเป็นทิพย์เพราะอยู่ในสมาธิกายทิพย์มีรัศมีปกป้องตัวเองตามธรรมชาติ ลูกไฟทั้งหลายนั้นจึงแตกกระจายกระเด็นออกไปแล้วรวมตัวกลับเป็นลูกๆตามเดิมแล้วพุ่งเข้าหาร่างผู้เขียนใหม่ ด้วยอำนาจแห่งฤทธิ์ของไฟโทสะ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรผู้เขียนได้ ผู้เขียนจึงบอกไปว่า “หยุดเถอะคุณย่าน้อย ไม่มีประโยชน์หรอก พลังของคุณย่าเป็นอำนาจฝ่ายต่ำ เกิดจากความโกรธเคียดแค้นชิงชัง แม้จะมีอำนาจในการทำลายล้างก็จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรกับพลังแห่งเมตตาอันบริสุทธิ์ที่ผมมีต่อคุณย่าน้อยได้หรอกจิตของผมไม่ได้มีความโกรธเกลียดคุณย่าน้อยเลยแต่ที่มาเพราะว่าอยากจะช่วยปลดทุกข์ให้คุณย่าเท่านั้น มันจึงมีแต่ความบริสุทธิ์ใจ พลังจึงเป็นพลังที่บริสุทธิ์ และที่คุณย่าเห็นเป็นรัศมีเป็นสีหลายสีนั้นเป็นพลังแห่งการบำเพ็ญบารมี พลังของคุณย่าจึงไม่สามารถทำอะไรผมได้ พูดง่ายๆก็คือพลังแห่งความชั่วไม่สามารถทำอันตรายต่อพลังแห่งความดีได้นั่นเอง คุณย่าพอเข้าใจไหมครับ”“กูไม่เข้าใจ กูไม่รู้เรื่อง กูรู้แค่ว่ากูอยากจะรอผัวกูเท่านั้น ที่กูอยู่ที่นี่เพราะกูจะรอผัวกู ถ้าผัวกูตายเมื่อไหร่กูก็จะได้อยู่กับผัวกู มึงเข้าใจมั้ย”“แต่มันทำให้คุณย่าน้อยต้องลำบากนะครับ หนำซ้ำลูกหลานก็หวาดกลัวกันไปหมด คุณย่าน้อยไม่รู้เหรอครับ “กูรู้ และกูก็ต้องการอย่างนั้น กูไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวายที่นี่ และไม่ต้องการให้ไอ้อีหน้าไหนมายุ่งกับผัวกู”“ตกลง ถึงยังไงคุณย่าก็จะไม่ยอมที่จากที่นี่ไปใช่มั้ย”“เออ ตราบใดที่ผัวกูยังไม่ตาย แม้กูต้องลำบาก ต้องอดอยาก ต้องทุกข์ทรมานแค่ไหนกูก็จะรอ มึงมันมีดี กูถึงทำอะไรมึงไม่ได้ แต่ถึงมึงจะดีกับกูยังไงกูก็ไม่ต้องการทำอย่างที่มึงอยากให้กูทำ กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น มึงกลับไปซะเถอะแล้วบอกผัวกูด้วยว่ากูจะรอ แล้วบอกกับไอ้อีทั้งหลายว่าอย่ามายุ่งกับผัวกูเด็ดขาดไม่งั้นจะหาว่ากูไม่เตือน” เวลานี้ผู้เขียนรู้สึกถึงความเกรี้ยวกราดที่ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จึงพูดกับผีคุณย่าน้อยไปว่า “ผมเข้าใจแล้ว ผมคงทำได้เท่านี้ ยังไงแล้วผมก็ต้องขอโทษคุณย่าน้อยด้วยที่ผมมารบกวนคุณย่าน้อย ถ้าคุณย่าน้อยมีความตั้งใจอย่างนั้น ผมก็คงต้องยอมรับ และเห็นใจคุณย่าน้อยด้วยนะครับ” ผีคุณย่าน้อยตอบว่า"ไม่เป็นไร มึงไม่ต้องมาขอโทษกู มึงไม่ได้ทำอะไรกู แต่มึงไปจากที่นี่ จากห้องของกูนี้ได้แล้ว”“ครับ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้หล่ะครับ โชคดีนะครับคุณย่าน้อย” แล้วผู้เขียนก็ออกจากสมาธิแล้วก็เดินออกมาจากห้องนอนของคุณย่าน้อย แล้วก็มาเล่าเรื่องราวต่างที่เกิดขึ้นให้คุณปู่วัย ๙๒ ฟังทั้งหมด คุณปู่ก็รู้สึกสงสารคุณย่าน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่พูดออกมาเบาๆว่า “รออีกหน่อยนะคงไม่นานเท่าไหร่แล้วหล่ะ เฮ้อ! เอา เอา เอาเป็นว่ายังก็ต้องขอขอบใจคุณมากนะที่มาช่วยคุยกับย่าน้อยเค้าให้ ทุกคนจะได้สบายใจ เพราะได้รู้ความต้องการของผีย่าน้อยเค้าแล้ว”“ถ้างั้นไม่มีอะไรแล้วผมก็ขอตัวลากลับเลยนะครับ”“อ้าว จะไปเลยเรอะ อ้าวได้ ยังไงก็ขอบใจมากนะ“ไม่เป็นไรครับ ถ้ามีโอกาส ผมคงได้มาแวะเยี่ยมปู่บ้างคงไม่ว่านะครับ” พูดจบผมก็ยกมือไหว้เป็นการลาตามธรรมเนียมไทย ตั้งแต่นั้นมาจนวันนี้ผมก็ไม่เคยไปที่นั่นอีกเลย ป่านนี้คุณปู่ท่านก็คงเสียชีวิตไปแล้ว และถ้าเป็นอย่างผีคุณย่าน้อยก็คงออกจากบ้านหลังนั้นไปเกิดยังภพภูมิใหม่ของตนแล้ว และคงมีความสุขตามอัตภาพของตนในภพภูมินั้น ท่านผู้อ่านทั้งหลาย คิดๆไปแล้วก็น่าสงสารผีคุณย่าน้อย เพราะคำว่ารักคำเดียวต้องยอมทนทุกข์ทรมาน และยังไม่มีใครเข้าใจ ทุกคนพากันหวาดกลัวไปต่างๆนาๆ เพราะไม่รู้ความจริง ที่ท่านหลอกเพราะแค่ไม่อยากให้ใครไปรบกวนท่านและคนที่ท่านรักเท่านั้น ท่านไม่ได้อยากจะฆ่าใครเลย จริงมั้ยครับ บางทีที่เรากลัวผี และคิดไปต่างๆนาๆว่าผีจะทำอย่างโน้นอย่างนี้เรา ผีจะมาเอาชีวิตเรา อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ ความไม่เข้าใจทั้งหลายล้วนเกิดจากความไม่รู้ทั้งสิ้น ความไม่รู้นั่นแหละที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเรียกว่า อวิชชา มนุษย์ส่วนใหญ่อยู่ด้วยอวิชชา อยู่กับอวิชชา ชีวิตจึงเต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่ต้องอะไรแค่ได้ยินว่าที่นั่นที่นี่มีผีก็กลัวก็ทุกข์แล้ว ก็เพราะว่าขาดความรู้ความเข้าใจในความจริงแห่งธรรมชาติทั้งหลาย ความทุกข์ง่ายๆจึงเกิดขึ้น ไม่ต้องไปพูดเรื่องอื่นๆที่สารพัดทุกข์เลย เรื่องง่ายยังเข้าใจยากแล้วเรื่องยากๆจะเข้าใจได้อย่างไร เป็นอันว่าแทนที่เราจะกลัวผี เราลองมาสงสารบรรดาผีทั้งหลายกันบ้าง เปลี่ยนมุมมองเปลี่ยนทัศนคติ ความคิด ความเชื่อที่ผิด มาอยู่ทางด้านที่เข้าใจและเห็นถูก ตามความเป็นจริง ชีวิตที่เคยมีแต่ทุกข์ ก็อาจจะไม่ทุกข์ เมื่อไม่มีทุกข์ สุขก็ตามมาเอง ไปกันใหญ่แล้วเดี๋ยวไม่จบ เอาเป็นว่าขอให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายอยู่ให้เป็นสุขกันนะครับ แล้วพบกันใน คุยกับผีตัวที่ ๑๕ นะครับ <O:p></O:p>
     
  2. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    อ่านเรื่องอื่นๆก่อนหน้า

    PaLungJit.com - ผลการค้นหา

    ตอบสำหรับข้อความของคุณรักปู่ ที่มาพบเจอกัน

    วันนี้ได้รับความรู้จากพี่เจโต ขอบคุณที่พี่เสียสละเวลามานั้งคุยกันนะครับ
    วันนี้ผมเองก็ไม่ได้เตรียมคำถามอะไรไปเลย มานั่งนึกดูถามไปปนกันไปหมด เรื่องงาน เรื่องเทวดา เรื่องประวัติพี่ เรื่องอาจารย์ของพี่ เรื่องทานศีล สมาธิ

    ปนกันไปหมดสุดแท้แต่ผมสงสัยอะไรตอนนั้น แต่เรื่องศีลนี้สำคัญ คือมานั่งนึกดูตัวเองลืมสนใจเรื่องศีล แต่ไม่ใช่ว่าผมจะเป็นคนไม่ดีนะพี่ แต่เราไม่ได้สมาทาน คือไม่ได้นึกถึงคือมองข้ามศีลไปเลย ทาน ไปสมาธิเลย ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆ

    วันนี้ได้อะไรจากที่คุยกันบาง

    1. ถามเรื่องพระเครื่อง
    -เราควรจะทำดีปฏิบัติดีด้วยตนเอง พระเครื่องเป็นหลักยึดเบื้องต้นสำหรับเราที่ยังมีกำลังอ่อนอยู่ ถ้าเราปฏิบัติได้แล้วบารมีแสงและพลังจะแผ่ออกไปจากกายเราเอง (การบ้านข้อแรกผมเข้าใจแบบนี้ถูกเปล่า)

    2.เรื่องของ ทาน ศีล สมาธิ (ภาวนา)
    - ทั้ง 3 ข้อต้องทำไปด้วยกันถึงแม้นว่าเราจะรู้ว่าระดับบุญของสมาธิจะมีมาก แต่เราก็ยังคงหิว ยังต้องอาศัยทาน แต่สิ่งที่เราลืมกันคือศีล ลืมกันมากที่สุด
    (การบ้านข้อสองผมเข้าใจถูกเปล่า)

    3.เรื่องของนิทานฤาษี กับพระราชา
    -การขอพึ่งบารมีของอีกบุคคลหนึ่งบางครั้งเขาก็ทำให้เพื่อไม่ให้เราเสียใจและเสียศรัทธาแต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ตัวเราทั้งหมดถ้าเราไม่ดีแล้ว คำพรและฤทธิ์ทีทำให้ไปก็ไรความหมาย ดังนิทานพระราชาไปขอพรฤาษี (การบ้านข้อสาม ผมเข้าใจถูกเปล่า)

    4. เรื่องนี้ผมดีใจที่สุดครับ
    - ผมดีใจที่ได้รวมบุญกับพี่เจโต คือถึงแม้นจะเป็นเงินที่น้อยไปหน่อยนะพี่ แต่ผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่า จะไปทำบุญอีกให้สม่ำเสมอ เพื่ออาศรมเพื่อผู้ปฏิบัติ เป็นการช่วยเหลืองานกุศลของพี่อีกแรง แต่คงเป็นแรงน้อยๆนะครับ (คำพรสุดท้ายประทับใจมากครับขอบคุณสำหรับกระแสแห่งเมตตาที่พี่มีให้)

    ที่คุณรักปู่เข้าใจนั้นถูกแล้วครับ อยากคุยกับเจโตโทร. 0807714669
     
  3. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    โอ้ววว เรื่องเล่าที่รอคอย...ขอบคุณที่เอามาให้อ่านอีก..



    อนุโมทนา สาธุ..ค่ะ!!~
     
  4. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
  5. ยิ้มให้กับทุกวัน

    ยิ้มให้กับทุกวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +183
    อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ

    จะรออ่าน คุยกับผีตัวที่ 15 นะคะ

    _______________________________
    เกิดมาทั้งชีวิต คุณทำอะไรดีดีเพื่อใครบ้างหรือยัง
     
  6. Banlangboon

    Banlangboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +274
    น่าสงสารย่าน้อยจังเลยค่ะ
     
  7. โอมธนกฤต

    โอมธนกฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2009
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +3,984
    อนุโมทนาท่านเจโตที่นำเรื่องดีๆมาเล่า ปูเสื่อรอผีตัวที่ 15 ต่อไปครับ
     
  8. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    ชอบอ่านจังเลยค่ะ ได้รู้ในสิ่งที่ไม่รุ้ด้วย อนุโมทนาค่ะ
     
  9. เศษสตางค์

    เศษสตางค์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +49
    โหรออ่านจนลืมไปแล้วนะเนี้ย ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยว่างเข้าเว็บพลังจิตสักเท่าไร
     
  10. แสงประไพ

    แสงประไพ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +19
    รออ่านผีตัวที่ 15คะ
     
  11. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +425
    ขอบคุณที่นำมาเล่าให้อ่านครับ

    น๊าน นาน..เลยกว่าจะออกมาที่ละเรื่อง

    สงสารคนรอหน่อยเต๊อะ
     
  12. xushukung

    xushukung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +465
    ความไม่เข้าใจทั้งหลายล้วนเกิดจากความไม่รู้ทั้งสิ้น ความไม่รู้นั่นแหละที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเรียกว่า อวิชชา มนุษย์ส่วนใหญ่อยู่ด้วยอวิชชา อยู่กับอวิชชา ชีวิตจึง
    เต็มไปด้วยความทุกข์


    อนุโมทนาครับ
     
  13. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    พบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์

    เชิญพบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.- ๑๗.๐๐ น ณ.เรือนธรรม ตั้งอยู่ที่บริเวณ ถนนตัดใหม่สามัคคี-ติวานนท์ ปากเกร็ด สนใจโทร.๐๘๖๕๔๒๒๔๘๖
     

แชร์หน้านี้

Loading...