อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
     
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
     
  8. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    ทานให้อร่อยคร๊าบบพี่วรรณ ช่วงนี้เจอกันเวลาเดิม
     
  9. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    การสวดมนต์ไหว้พระนั้นต้องเริ่มด้วย การสวดขอขมา
    สวดด้วยอานุภาพของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (สวดพุทธคุณ อิติปิโสฯ)
    แล้วจึงสวดพระคาถาต่างๆ

    หมั่นสวดด้วยเจตนา คือตั้งใจจริง จะบังเกิดผลเป็นอานิงส์แก่ตนเอง

    จาก หนังสือ 84ปี หลวงพ่ออุตตมะ หน้า 418
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    หลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้ว รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อจะมีอยู่ 3 รุ่นที่ทางวัดได้สร้างออกมา มีรูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อรุ่น 5 เนื้อโลหะชุบทอง ออกปี พ.ศ. 2536 เป็นรุ่นที่นำรุ่น 3 และ 4 ไปถอดพิมพ์แล้วมาหล่อเป็นรุ่น 5

    ปี 2538 เป็นรูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อยืน สร้างไว้แจกผู้ทำบุญในงานทำบุญครบรอบหลวงพ่อมรณภาพปีที่ 3

    และหลังสุดปี 2553 รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อยืนออกให้บูชาพร้อมรูปเหมือนหลวงพ่อเงินไหลมาเทมาในกล่องเดียวกัน เป็นเนื้อโลหะชุบทองผสมชนวนหล่อสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ เข้าพิธีพุทธาภิเษกวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2553 เป็นวันเสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 เป็นวันธงไชยกฐินวัน เป็นฤกษ์งามยามดีเป็นมหามงคลเสาร์ห้าใน 100 ปีมีเพียงวันเดียวมีดาวบนท้องฟ้าโคจรในตำแหน่งที่สวยงาม และยังเป็นวันพระจันทร์เด่น พระศุกร์เด่น ส่งผลให้เป็นเสาร์ห้าวันนั้นเป็นเสาร์ห้ามหาเศรษฐี คือ โดดเด่นในเรื่องของ โชคลาภ วาสนา เมตตา มหานิยม

    รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อยืนและรูปเหมือนหลวงพ่อเงินไหลมาเทมามหาลาภในกล่องเดียวกันยังคงมีให้เช่าบูชาที่วัดและที่บ้านซอยสายลมอยู่นะครับ เป็นพระเครื่องอีกรุ่นนึงที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครพูดถึงกันเท่าไหร่


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    แก้วจักรพรรดิ์องค์พี่และองค์น้องของหลวงพ่อตกทอดมาถึงหลวงพี่อนันต์นำมาเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกของที่วัดทุกครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2014
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]
    [​IMG]

    รูปหล่อลอยองค์ยืนหลวงพ่อปี 2553 ผมนำไปชุบเงินเองภายหลังครับ งานชุบออกมาไม่ค่อยดีว่าจะเอาไปชุบทองคำขาวทับไปอีกทีครับ
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702

    อัพเดทแล้วจะไปละครับ ^_^
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    [​IMG]


    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 13 หน้า 27)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2014
  14. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (2)

    เป็นผู้มีความขยันและอดทน

    ในสมัยที่ท่านยังเล็กๆ อายุ ๓-๔ ขวบ ท่านมีโรคประจำตัวคือโรคลมสันนิบาต
    ลมเปี่ยวลมกัง ต้องนั่งทุกข์อยู่เป็นวันเป็นคืน เดินไปไกลก็ไม่ได้
    วิ่งก็ไม่ได้เพราะลมเปี่ยว ตะคริวกินขากินน่อง เดินเร็วๆ ก็ไม่ได้ ต้องค่อยไปค่อยยั้ง
    เวลาอยู่บ้านต้องคอยเลี้ยงน้อง ตักน้ำติดไฟไว้คอยพ่อแม่ที่เข้าไปในป่าหาอาหาร

    ในช่วงที่ท่านมีอายุได้ ๕-๑๐ ขวบ ท่านต้องเป็นหลักในบรรดาพี่น้องทั้งหมด
    ที่ต้องช่วยงานพ่อแม่มากที่สุด เวลาพ่อแม่ไปไร่ไปนาก็ไปด้วย
    เวลาพ่อแม่ไปหากลอยขุดมัน หาลูกไม้ในป่า ท่านก็ไปช่วยขุดช่วยหาบกลับบ้าน
    บางครั้งพ่อแม่หลงทางเพราะไปหากลอยตามเนินดอยเนินเขา
    กว่าจะหากลอยได้เต็มหาบก็ดึก ขากลับพ่อแม่จำทางไม่ได้ ท่านก็ช่วยพาพ่อแม่กลับบ้านจนได้

    ครั้นถึงหน้าฝน พ่อแม่ออกไปทำนา ท่านก็ติดตามไปช่วยทุกอย่าง
    พ่อปั้นคันนาท่านก็ช่วยพ่อ พ่อไถนาท่านก็คอยจูงควายให้พ่อ
    เวลาแม่ปลูกข้าวก็ช่วยแม่ปลูกจนเสร็จ

    เสร็จจากหน้าทำนา ท่านก็จะเผาไม้ในไร่เอาขี้เถ้า ไปขุดดินในถ้ำมาผสมทำดินปืนไปขาย
    ได้เงินซื้อข้าวและเกลือ บางครั้งก็ไปอยู่กับลุงน้อยเดชะรับจ้างเลี้ยงควาย
    บางปีก็ได้ค่าแรงเป็นข้าว ๒-๓ หาบ บางปีก็เพียงแต่ขอกินข้าวกับลุงพอตุนท้องตุนไส้ไปวันๆ

    พอถึงเวลาข้าวออกรวง นกเขาจะลงกินข้าวในนา
    ท่านก็จะขอพ่อแม่ไปเฝ้าข้าวในนาตั้งแต่ เช้ามืด กว่าจะกลับก็ตะวันลับฟ้าไปแล้ว

    เป็นผู้มีความกตัญญู

    หลวงปู่มีความกตัญญูมาตั้งแต่เด็ก ท่านช่วยพ่อแม่ทำงานต่างๆ ทุกอย่างเท่าที่ทำได้
    ตั้งแต่อายุได้ประมาณ ๕ ขวบ ท่านก็ช่วยพ่อแม่เฝ้านาเลี้ยงน้อง
    ตลอดจนช่วยงานทุกอย่างของพ่อแม่ เมื่อเวลาที่พ่อแม่หาอาหารไม่ได้
    ท่านก็จะไปรับจ้างชาวบ้าน แถบบ้านก้อ ทำความสะอาด หรือช่วยเฝ้าไร่นา
    เพื่อแลกกับข้าวปลาอาหารมาให้พ่อแม่และน้องๆ กิน

    ในบางครั้ง อาหารที่ได้มา หรือที่พ่อแม่จัดหาให้ ไม่เพียงพอกับคนในครอบครัว
    ด้วยความที่ท่านมีนิสัยเสียสละ และไม่ต้องการให้พ่อแม่ต้องเจียดอาหารของท่านทั้งสอง
    ซึ่งมีน้อยอยู่แล้ว ออกมาให้ท่านอีก ท่านจึงได้บอกว่า "กินมาแล้ว" เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ
    แต่พอลับตาผู้อื่น หรือเมื่อผู้อื่นในบ้านหลับกันหมดแล้ว ท่านก็จะหลบไปดื่มน้ำ
    หรือบางครั้งจะหลบไปหาใบไม้ที่พอจะกินได้มาเคี้ยวกิน เพื่อประทังความหิวที่เกิดขึ้น
    ซึ่งผู้เขียนได้รับฟังมาจากน้องของท่านว่า

    "หลวงพ่อเติบโตขึ้นมาโดยพ่อแม่เลี้ยงข้าวท่านไม่ถึง ๑๐ ถัง
    แต่ท่านในสมัยเป็นเด็ก กลับหาเลี้ยงพ่อแม่ มากกว่าที่พ่อแม่หาเลี้ยงท่าน"


    ที่มา: ธรรมจักร
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    อรุณสวัสดิ์เช้ามืดวันอาทิตย์ครับคุณปู คุณโญ พี่ตี๋ใหญ่ พี่รุ่ง คุณเอ๊ะ คุณชาญ คุณบอย คุณภัทร์ คุณตุ้ม คุณนอร์ คุณเอ็ม คุณนาย คุณเคี้ยว คุณโอ๊ต น้องนิก และทุกๆท่านครับ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2014
  16. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    น้อมกราบหลวงพ่อฤาษี -/\-

    ยามใดที่ลูกมีปัญหา ก็มักจะได้รับคำสอนจากหลวงพ่อเสมอ


    แม้พ่อจะจากไปแล้วก็ไม่เคยทอดทิ้งลูกหลาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2014
  17. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ช้าง พี่รุ่ง คุณบอย นอร์ น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว น้องนิก คุณตั้น คุณกันตปัญโญ คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณEYEOFVENUS และพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
  18. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    พระครูสุทธิวัตรสุนทร (บุญ สุสฺมโณ) วัดบ้านนา ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระผู้ถือสันโดษเป็นยิ่ง


    โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์

    คนเก่าในเมืองระยองแทบสิ้นคึกเมื่อสิ้นหลวงปู่ทิม หลายคนพยายามมองหาพระเก่งเพื่อเพิ่มความคึก เล็งแลกันอยู่นานศิษย์รุ่นเก่าแก่ของหลวงปู่ทิมก็กระซิบกับผมว่า มีพระเก่งอยู่รูปหนึ่งนิสัยใจคอคล้ายกับหลวงปู่ทิม ความเก่งความชำนาญชาญเชี่ยวในเชิง ‘ฤทธิ์’ ก็ไม่น้อยไปกว่าหลวงปู่ทิมเท่าใดนัก

    ผมรีบกระซิบคืน “ใครครับ” ท่านว่า “หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา”

    เมื่อผมไปเยี่ยมน้องสะใภ้ที่ ต.ซำฆ้อ ใน อ.แกลง ก็ได้ยินมารดาของสาวเจ้าเล่าความขลังของเกจิรูปหนึ่งให้ฟังว่า...

    มีครอบครัวคนทำสวนยางใกล้บ้านครอบครัวหนึ่ง มีลูกเป็นเด็กทารกอายุไม่กี่เดือนอยู่ด้วย แต่ก่อนร่อนชะไรเจ้าตัวเล็กก็ไม่มีปัญหา แต่หลังจากที่พ่อไปทำสวนยางใหม่กลับมาลูกน้อยก็ร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็กลุ้มจนนอนไม่หลับ

    แต่ ‘โชคดี’ ยังให้ความเอ็นดูผู้เป็นพ่ออยู่บ้าง

    วันหนึ่งของทำสวนยาง ผู้พ่อก็พบผ้ายันต์สีขาวผืนหนึ่งตกอยู่ในสวนของตน ไม่ทราบที่ไปและไม่ทราบที่มา แต่เมื่อเป็นรูปพระในฐานะที่เป็นคนพุทธก็ต้องให้ความเคารพไว้ก่อน ด้วยความไม่รู้จักมักจี่กับเจ้าของยันต์ก็เลยเอายันต์นั้นแปะไว้ที่หน้าบ้านตน

    ‘โชคดี’ ยังเป็นของเขาอยู่อีก

    เพราะนับจากวันที่ยันต์ปริศนามาอยู่ร่วมชายคา หนูน้อยเสียงดีก็เป็นอันหยุดร้องสนิทราวกับปิดสวิทซ์เครื่องเทป ยังความปลาบปลื้มยินดีให้พ่อแม่เป็นอันมาก

    แต่ ‘โชคร้าย’ ก็ใช่ว่าจะหนีไปไกล

    เมื่อวันหนึ่งของทำสวนยาง ผู้แม่ก็ล้มพับลงไปท่ามกลางป่ายาง ครั้นใครหลายคนจะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหล่อนก็กลับลุกพรวดพราดทำตาขวาง พลางลุกขึ้นกรีดร้องเผ่นโผนออกจากสวนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หมู่พวกจึงพากันทิ้งงานกวดตามหลังอย่างตระหนกตกใจ

    พอเจ้าหล่อนห้อตะบึงมาถึงบ้านก็ทำท่าจะวิ่งตรงเข้าประตูไป และก่อนที่จะเป็นดังนั้น ความอัศจรรย์ก็พลันเกิด เมื่อเธอหยุดกึก พลางจับจ้องไปที่ผ้าผืนน้อยสีขาวหน้าบ้านชนิดตาไม่กระพริบ แล้วทรุดฮวบลงกับพื้นพลางร้องไห้คร่ำครวญเหมือนจะขาดใจ

    หมู่พวกที่ตามมาถึงก็พากันระส่ำระสายจะเข้าช่วยก็ไม่กล้า เพราะดูท่าแล้วมันไม่ใช่เรื่อง ‘ธรรมดา’ พอผู้เป็นสามีเข้าไปจับเนื้อต้องตัวเพื่อสอบถามเรื่องราว เจ้าหล่อนกลับสวนมาว่า

    “ฉันไม่ใช่เมียแก”

    เอาละสิ อยู่กันจนมีลูก จู่ ๆ มาบอกไม่ใช่เมีย ถึงตอนนี้ชาวบ้านชาวช่องก็พากันมารุมล้อมประสา ‘ไทยมุง’ คนเฒ่าคนแก่พากันซุบซิบให้ความเห็น

    “ผีเข้าแหง ๆ”

    หลายคนแสดงตนเป็นผู้รู้ คอยปลอบประโลมจนคนผีเข้าคลายทุกข์โศกลงบ้าง คนผีสิงก็ปริปากว่าตนชื่อ ลำดวน (นามสมมุติ) ถูกฆ่าตายแล้วฝังเอาไว้ในป่ายาง ทุกข์ทรมานมากทั้งมืดทั้งหนาว คิดถึงลูกมากแต่ไปหาไม่ได้ เพราะตนถูกผู้ฆ่าเอากระโหลกไปให้คนมีวิชาทำพิธีสะกดวิญญาณ แล้วไปฝังในสวนยางจึงไปไหนไม่ได้ พอได้ยินเสียงเด็กเลยคิดถึงลูก จึงมาที่บ้านทุกวันเพื่อมาเล่นด้วย แต่ตอนนี้รักเด็กคนนี้มากจึงอยากเอาไปอยู่ด้วย

    ได้ยินอย่างนี้ผู้เป็นพ่อก็สะดุ้งตากลับ

    แล้วก็ใจชื้นขึ้นเป็นกอง เมื่อเมียรักชี้ไปที่ผ้าสีขาวแล้วเอ่ยว่า แต่ตอนนี้เข้าไปหาเด็กไม่ได้แล้วเพราะกลัวผ้ายันต์นี้มาก คนทำเก่ง ร้อนมาก สู้ไม่ได้ พอเห็นแม่เด็กเดินมาใกล้ ๆ จึงเข้าทับเพื่อมาหาเด็กเข้าใจว่าจะเข้าบ้านได้ แต่ก็เข้าไม่ได้อีก คิดถึงลูกเหลือเกิน

    จากนั้นคนผีเข้าก็ร้องไห้คร่ำครวญต่อไปอีก เป็นที่เวทนานัก ชาวบ้านจึงถามชื่อแซ่ เธอก็บอกเล่าให้ฟังหมด ถามถึงฆาตกรเธอก็เล่าด้วยความแค้นเคืองได้ความว่า คนฆ่าคือสามีของตัวเองที่เกิดไปมีเมียน้อยแต่ไม่รู้จะหนีไปอย่างไร จึงเอาจอบตีเมียตอนทำครัวจนสลบ ผัวเข้าใจว่าตายแล้วจึงเอายางรถยนต์เก่ามาซ้อน จับตนขึ้นนั่งแล้วเผาทั้งเป็นที่หลังบ้านของตัวเอง

    แล้วผัวตัวแสบก็ไปแจ้งความทำทีว่าถูกโจรปล้นแล้วฆาตกรรมภรรยา ปรากฏว่าแผนสำเร็จด้วยดีสามีใจโหดเลยรอดตัว ได้ขายสวนยางและบ้านช่องให้คนอื่น ก่อนที่จะหอบผ้าผ่อนไปอยู่กับเมียที่ต่างตำบล

    ทุกคนได้ฟังก็ต่างสงสาร รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะช่วยเหลือทุกทางจนวิญญาณแค้นพอใจแล้วออกจากร่างไป สิ่งที่ตามมาคือการทำบุญงานใหญ่อุทิศให้ผี และการตามสืบเรื่องผ้ายันต์จนได้ความว่าเป็นของ

    หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา

    ทุกบ้านเลยเป็นอันมีผ้าขาวผืนน้อยติดกันพรึ่บไปหมด


    [​IMG]

    [​IMG]

    ผมเห็นว่าเรื่องนี้แปลกดีเลยนำมาเล่าสู่กันฟัง ผมเองก็ได้ไปดูใกล้ ๆ กับที่เกิดเหตุ พบว่าเปล่าเปลี่ยววังเวกดีพิลึก ก็น่าหรอกที่ผีจะดุ

    ใช่ว่าหลวงปู่จะเก่งกล้าสามารถในเรื่องผีอย่างเดียวเมื่อไร ยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า ก็ประจักษ์กันมามากต่อมาก ขนาดฟันกันฉับ ๆ หน้าศาลาวัดบ้านนาก็มี แต่ไม่มีใครได้เลือดใคร เพราะมีพระหลวงปู่กันทุกคน

    พูดถึงความสันโดษอันเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่นั้น ผมขอยกนิ้วให้เลย ท่านสันโดษจริง ๆ ไปไหนมาไหนไม่ต้องประคองทั้งที่มีอายุถึง 93 ปีแล้ว ผมพบท่านครั้งแรกท่านก็ลุกหนีเลย สาเหตุเพราะผมมาผิดเวลา บอกกันก่อนเลยว่าท่านจะรับแขกตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยง ขณะรอท่านถ้าเป็นเวลาฉันห้ามชวนคุย เวลาลุกอย่าเข้าไปประคอง เพื่อนผมเคยหวังดีตั้งท่าเข้าไปหา ท่านว่า

    “ไม่ต้องก็ได้มั้ง”

    เพื่อนผมเลยจ๋อยไป ท่านไม่ใคร่ให้ความสนิทใคร ไม่เอาใจใคร เป็นตัวของตัวเองที่สุด

    หลังเที่ยงท่านจะเข้ากุฏิเงียบ หรือไม่ก็เอนหลังลงแถว ๆ หน้ากุฏิท่าน แต่อย่าเข้าไปคุยเชียวหนา นอกจากท่านจะเป็นฝ่ายทักก่อน หรือรอจนกว่าจะ 4 โมงเย็นอันเป็นเวลารับแขกไปเรื่อยสิ้นสุดที่ 5 โมงเย็น หากพรวดพราดเข้าไปพูดคุยอาจเป็นเหตุให้มี ‘ฟ้าผ่า’ แบบไม่มี ‘เค้าฝน’ ก็เป็นได้ ด้วยท่านถือเรื่อง กาละ และ เทศะ

    ท่านชอบทดสอบคนโดยให้เหตุผลว่า ถ้าเขาต้องการพบเราจริง เขาต้องรอได้ แต่เราเองกว่าจะมาถึงทุกวันนี้เราก็ต้องใช้ความอดทน ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้จะไปทำอะไร

    บางคน ท่านเดินผ่านหน้าไป-ผ่านหน้ามาถึงครึ่งชั่วโมง ท่านก็ยังไม่ทัก แต่คนนั้นมาบ่อยรู้แกวท่านจึงนั่งเฉย ๆไม่ทักท่านก่อน สักพักท่านก็นั่งลงแล้วเอื้อนเอ่ย “มีธุระอะไรหรือ” แต่ถ้าใครคนนั้นหมดความอดทนถามท่านก่อนที่ท่านจะเป็นฝ่ายถาม การสนทนาวันนั้นเป็นอันจบ

    นี่คือพระที่ไม่ประจบโยม

    ครั้งหนึ่งที่ท่านอาพาธด้วยโรคเกี่ยวกับหลัง ผมจึงเอาน้ำมันเลียงผาไปถวายท่านกับคุณสุมิทธิ์ ติสโส ขณะที่ท่านนอนตะแคงซ้ายคุยกับผมอยู่นั้น คุณสุมิทธิ์ก็เกิดความสงสารท่านจับใจคิดขึ้นมาว่า “เออหนอ...หลวงปู่ตั้ง 90 กว่ายังต้องมาเจ็บมาทรมาน ถ้าผมแบ่งความเจ็บมาจากหลวงปู่ได้บ้างสักครึ่ง ผมก็จะทำ” เมื่อจบห้วงความคิดนั้น หลวงปู่ก็พูดลอย ๆ ขึ้นว่า

    “ความเจ็บป่วยเป็นของเฉพาะตัว ใครจะมาช่วยแบ่งเบาก็เป็นไปไม่ได้ นอกจากเจ้าของจะช่วยเหลือตัวเอง”

    คนงงคือผม เพราะผมกำลังคุยกับท่านเรื่องถนนไปบางแสน จู่ ๆ ท่านก็ปรารภเรื่องอะไรไม่รู้ งง!! แต่คนที่ปีติคือคุณสุมิทธิ์ เพราะเขาได้ประจักษ์ชัดว่า ท่านเก่งจริง

    หรือใครว่าการรู้ความคิดคนอื่นเป็นของธรรมดา!

    วัตถุมงคลที่เหลืออยู่เป็นรุ่นที่ 5 ในชีวิตท่าน เรียกว่ารุ่น ‘ซ่อมอุโบสถ’ ด้วยแต่เดิมทางวัดหมายใจจะซ่อมโบสถ์ที่ชำรุดทรุดโทรม ทว่า ความโทรมของโบสถ์มีมากเกินกว่าจะซ่อม จึงตัดสินใจเปลี่ยนโบสถ์เก่าเป็นวิหารไปเสีย แล้วสร้างโบสถ์ใหม่เสียเลย รุ่น ‘ซ่อม’ เลยกลายเป็นรุ่น ‘สร้าง’ โดยฉะนี้แล

    ใครเช่าพระรุ่นนี้โชคดีนัก เพราะพระสร้างมาแต่ปี 2537 เมื่อเข้าพรรษาปี 37 ท่านอธิษฐานพระชุดนี้ให้ตลอด 3 เดือน เมื่อล่วงมาถึงปี 2538 ปรากฏว่าพระจำหน่ายไม่หมด หลวงปู่ก็เอาเข้ากุฏิเสกอีกตลอดพรรษาปี 38

    บัดนี้ล่วงเข้าพรรษาปี 2539 พระเครื่องทั้งหลายจะไม่มีจำหน่ายบนศาลาเลย ใครคิดไปเช่าช่วงนี้ขอให้ล้มคิดนั้นเสีย เพราะพระอยู่ในกุฏิท่านทั้งหมด ท่าน ‘ซ้ำ’ ให้อีก 3 เดือนตลอดพรรษาปี 39

    พิถีพิถันดีไหม?

    ออกพรรษาปี 39 ค่อยไปเช่าละกัน เสกมาแล้วตั้ง 9 เดือน เรียกว่ายอดที่สุด ผมเช่าจนเกือบไม่มีตังค์กินหนมแล้ว กระซิบก่อนว่า พระกริ่งรุ่น 2, เหรียญเงินลงยา, พระสมเด็จดำ (พิมพ์ปรกโพธิ์) แน่นอนนัก

    อย่าลืมแวะเวียนไปวัดหนองจระเข้ด้วยนะครับ ที่นั่นเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน ท่านอยู่ที่นั่นมาก่อนจะไปอยู่วัดบ้านนา วัตถุมงคลที่นั่นมากมายตาลายเลยแหละ สวย ๆทั้งนั้น ขลังมากด้วย เพราะท่าน ‘เต็มใจ’ ทำมาก ถ้ามีโอกาสจะเขียนให้ทราบอีกทีว่า ‘ขลัง’ อย่างไร...

    ขอความสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านครับ

    ที่มา: บทความ-เรื่องราวน่ารู้ นวรัตน์ ดอทคอม
     
  19. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญรุ่นซ่อมอุโบสถ หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา

    ได้ไปเช่าตามรายแทงหลังออกพรรษาปี39 จึงเป็นพระ 3ไตรมาส พร้อมได้เข้ากราบหลวงปู่ที่วัดบ้านนา
     
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ;aa44 อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับคุณเอ๊ะ พี่ตี๋ พี่วรรรณ พี่ปู และทุก ๆ ท่าน...

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...