ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่างนี้

Sheldan Nidle - February 18, 2014

9 Kan, 7 Zac, 10 Caban
Selamat Jalwa! We return! A number of events are secretly happening. The cabal’s intent is to ignore us and force some kind of retribution. This led to such an action a few days ago. These devious scalawags absolutely refuse to alter the structure of corruption and immorality. It is a policy that reflects how governments work and how those in control get richer and richer. As to the masses, a general contempt can be observed. The habits and beliefs of the cabal are ingrained in them by the time they assume any important position in this hierarchy of power. There is now a counter-action that is literally squeezing them and forcing a much different result. The full extent of their corruption and arrogance cannot be fully explained, and they will be hoisted on their petards. A process will be set in motion to make it possible for a great prosperity to be redistributed to you. Our liaisons are working diligently to explore a most needed set of protocols that will swiftly lead to a global currency reset.

เหตุการณ์จำนวนหนึ่งกำลังเกิดขึ้นอย่างลับๆ, ฝ่ายมืดกำลังเพิกเฉยต่อเราและกำลังใช้อำนาจในเชิงการแก้แค้น, ซึ่งนำไปสู่การแสดงออกมาในแบบสองสามวันที่ผ่านมา, คนพาลที่ไม่จริงใจเหล่านี้ปฏิเสธการแก้ไขโครงสร้างของการคอรัปชั่นซึ่งขาดศีลธรรมอย่างแท้จริง, มันคือนโยบายที่สะท้อนว่าวิธีการปกครองแบบเก่านั้นทำให้คนที่มีอำนาจรวยขึ้นเรื่อยๆ, ฝ่ายมืดได้ยึดติดแน่นอยู่กับความเคยชินและความเชื่อต่างๆในความมั่นใจกับตำแหน่งที่สำคัญในอำนาจในแต่ละระดับขั้น, ตอนนี้มันถึงเวลาในการเกิดปฏิกิริยาตอบโต้เพื่อจะปลดปล่อยอิสรภาพจากพวกเขาและกำลังผลักดันให้เกิดผลที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างมากมาย, กระบวนการนี้จะถูกก่อตั้งขึ้นในญัตติเพื่อที่จะทำให้มันเป็นไปได้สำหรับความเจริญมั่งคั่งที่สง่างาม ซึ่งจะได้ถูกจัดสรรให้กับคุณ. การประสานงานต่างๆของเรากำลังแข็งขันในการสำรวจการก่อตั้งของระเบียบการต่างๆที่จำเป็นที่สุด ซึ่งจะถูกนำไปใช้อย่างฉับพลันในการปรับระบบเงินตราโลกใหม่

The currency reset is a natural process to set up a certain level of agreed-upon value between the world’s nations. This is a basis for global trade, and in the end, the start of an operation that is scheduled to lead to a precious metal-backed monetary system. Included in this reset is the use of new banking regulations such as “Basel III.” This revised structure will expand the distribution of various prosperity packages. The intent is to reform the current system of “haves” and have-nots” and replace it with a worldwide spread of prosperity. The old system of income taxation needs to be revamped. A debt jubilee will be declared and the old corrupt system put to rest. This new system will redo the globe’s infrastructures and establish a new foundation that takes advantage of now suppressed technologies. This will later be added to by our off-world devices. Then your world can move out of its present technological dilemma and prepare for a new consciousness.

การปรับระบบเงินตราเป็นกระบวนการทั่วไปที่จะจัดตั้งระดับที่แน่นอนของข้อตกลงของราคาที่ใช้กันระหว่างประเทศทั่วโลก, มันเป็นพื้นฐานของการค้าขายแลกเปลี่ยนทั่วโลก, และในสุดท้ายแล้ว, การเริ่มต้นของการปฏิบัติการที่ถูกวางกำหนดการไว้แล้วในการนำไปสู่ระบบเงินทองล้ำค่า "Metel-backed monetary system". สิ่งที่รวมอยู่ในการปรับค่าใหม่นี้ด้วยคือการใช้ระเบียบการธนาคารต่างๆใหม่ อย่างเช่น "Basel |||". โครงสร้างที่แก้ไขใหม่นี้จะขยายวงของการแจกจ่ายหีบห่อต่างๆแห่งความเจริญมั่งคั่งนานาประการ, เจตนานี้เพื่อที่จะปฏิรูประบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันของ "ความมีต่างๆ" และ"ความไม่มีต่างๆ" และแทนที่ด้วยความเจริญมั่งคั่งที่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง, ระบบเก่าของการเก็บภาษีรายได้จำเป็นต้องถูกปรับปรุงใหม่, ระบบใหม่นี้จะปรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของโลกใหม่ และก่อตั้งรากฐานใหม่ที่จะทำให้เกิดเทคโนโลยีต่างๆที่ตอนนี้ถูกปิดบังไว้, สิ่งนี้จะถูกเพิ่มเข้ามาทีหลังโดยกลไกต่างๆของเราจากนอกโลก. หลังจากนั้นโลกของคุณจะสามารถขยับไปข้างหน้าจากภาวะวิกฤติของเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่จะเตรียมการสำหรับความตระหนักรู้ใหม่อย่างชัดแจ้ง.

Our arrival is to be a watershed for you, and we will introduce you to a whole host of beliefs and technologies. Right now, you possess the ability to solve your energy and water crises and to set up a method that can allow each individual to actually “legislate” for their respective country. Education thus becomes the vital key to your immediate future. A good teacher becomes a most valuable resource. This resource, currently limited, can be vastly expanded by use of the Internet and the spread of advanced digital technologies. These technologies can provide for the quick spread of literacy and the introduction of an immense library of information. This will be the foundation for consciousness-based neural networks that will swiftly replace the computer-based Internet. This introduction of previously unknown technologies will lead you to discover your extra-terrestrial origins and you will begin to grasp why you were sent here in the first place. This can make our introductions much easier for you to accept.

การมาถึงของเราจะเป็นเหมือนสันปันน้ำสำหรับคุณ, และเราจะแนะนำคุณสำหรับเทคโนโลยีต่างๆ, ตอนนี้คุณเป็นเจ้าของความสามารถในการแก้ปัญหาพลังงานของคุณ และปัญหาวิกฤติต่างๆของน้ำ และเพื่อที่จะก่อตั้งวิธีที่เปิดโอกาสให้แต่ละคนสามารถมีส่วนในการออกกฎหมายอย่างแท้จริงของผู้คนในแต่ละประเทศ. ด้วยเหตุนี้การศึกษาจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับอนาคตของคุณ, ครูที่ดีจึงกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด, ซึ่งทรัพยากรครูตอนนี้ถูกจำกัดไว้ โดยการศึกษาถูกขยายวงอย่างกว้างขวางโดยการใช้อินเตอร์เน็ตและการแพร่กระจายของเทคโนโลยีดิจิตอลต่างๆที่ล้ำหน้า. เทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้สามารถกระจายการเรียนรู้ออกไปอย่างรวดเร็ว และแนะนำให้รู้จักกับห้องสมุดแห่งข้อมูลที่กว้างขวาง, สิ่งนี้จะเป็นรากฐานของการตระหนักรู้โดยมีพื้นฐานอยู่ที่ระบบเครือข่ายต่างๆที่เชื่อมกันโดยเส้นประสาท, ซึ่งจะแทนที่คอมพิวเตอร์ที่มีพื้นฐานของระบบอินเตอร์เน็ตอย่างทันที. การแนะนำเทคโนโลยีนี้ที่ไม่รู้จักมาก่อนนี้ จะนำคุณไปสู่การค้นพบต้นกำเนิดต่างๆที่เกี่ยวกับโลกอย่างพิเศษ, และจะเริ่มเข้าใจว่าทำไมคุณถูกส่งมาที่นี่ในสถานที่แรก. สิ่งนี้สามารถทำให้การแนะนำต่างๆของเราง่ายขึ้นมากสำหรับคุณที่จะเข้าใจและยอมรับมัน

This process is a means for you to easily return to full consciousness. You represent a series of intertwined generations of humanity that were chosen by Heaven for this first contact. We came knowing this and initially understood that this contact was to occur under the direction of Heaven and her earthly emissaries. This procedure took nearly 25 years to commence formally. We are all starting to learn about one another and are just beginning to see how we are to intermesh. Disclosure, which is ready to start, is simply another significant node in this process. You are literally waking up just before a grand disaster made your extinction inevitable. We come to alter this grave possibility and return you to the Light. What is now happening is the formal start of Heaven’s retort to the dark and the fulfilling of a sacred prophecy first pronounced by Archangel Michael nearly an eon ago. Hosanna! Hosanna! Hosanna!

กระบวนการนี้ได้มุ่งไปเพื่อคุณจะได้กลับไปสู่ความสำนึกรู้อย่างสมบูรณ์โดยง่าย. คุณเป็นตัวแทนของหลายๆชุดของรุ่นต่างๆของมนุษยชาติที่ประสานเข้าด้วยกัน ซึ่งถูกเลือกมาจากสวรรค์เพื่อการติดต่อครั้งแรกนี้. เรารู้เรื่องนี้และในขั้นต้นการติดต่อถูกเกิดขึ้นภายใต้ทิศทางของสวรรค์และทูตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโลก, ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเกือบ 25 ปีในการเริ่มต้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ, เราทั้งหมดกำลังเรียนรู้อีกสิ่งหนึ่ง และเริ่มเห็นวิธีที่เราจะทำงานประสานกันอย่างเปิดเผย, ซึ่งพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นขี้น, เหลือขั้นตอนที่สำคัญของการเชื่อมต่อที่จะทำให้ง่ายขึ้นอีกขั้นตอนเดียว. คุณกำลังตื่นขึ้นอย่างแท้จริงก่อนที่ภัยพิบัติใหญ่หลวงจะเกิดขึ้นและทำให้คุณสูญพันธุ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้. เรามาเพื่อเปลี่ยนแปลงความเป็นไปได้ของความร้ายแรงนี้ และปลุกคุณให้กลับคืนสู่แสงสว่าง. สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้คือการเริ่มต้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะของสวรรค์ในการโต้ตอบกับฝ่ายมืด และการเติมเต็มคำทำนายที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แถลงไว้ครั้งแรกของประมุขทูตสวรรค์มิคาเอล ที่ผ่านมาเกือบจะกัลป์แล้ว (กัลป์ = ระยะเวลาที่ยาวนานเกินกว่าจะวัดได้ :ผู้แปล)

Hallelujah! We are your Ascended Masters! We arrive with good news! Events are now ongoing that will release elements to assure your prosperity and manifest new governance. Those who desire to retain the present creaky system have lost, as their associates side with the new monetary and financial system. The new currencies, the gold backing and new international banking rules will forge the foundation for the release of the two-step prosperity funds. These operations will enforce now sequestered legislation to bring out the various provisions of “N.E.S.A.R.A.” These rules will cause a domino-like effect to alter governance and return it to the people. In this milieu, governance will aid the Light and allow formal disclosure to occur. This new environment will also permit us to begin a series of worldwide lessons about your most dearly kept perceptions.

ข่าวดีจากเราคือ เหตุการณ์ต่างๆตอนนี้กำลังต่อเนื่องไป ซึ่งจะปลดปล่อยสภาพแท้จริงต่างๆของธรรมชาติ เพื่อที่จะทำให้มั่นใจถึงความรุ่งโรจน์ของคุณ และเปิดเผยการจัดการโลกใหม่. ระบบเงินตราใหม่ต่างๆ, การธนาคารทอง และกฎระเบียบต่างๆใหม่ของการธนาคารระหว่างประเทศ จะบุกบั่นเพื่อสร้างรากฐานสำหรับการปล่อยออกไปซึ่งทุนต่างๆที่มั่งคั่งแบบ 2 ขั้นตอน (two-step prosperity funds) การดำเนินการต่างๆนี้จะเป็นผลบังคับให้กฎหมายตอนนี้ถูกแยกออกไป และนำมาซึ่งความหลากหลายของข้อกำหนดของ “N.E.S.A.R.A” กฎระเบียบต่างๆเหล่านี้จะทำให้เกิดปฏิกิริยาโดมิโน่ เพื่อแก้ไขการบริหารปกครองต่างๆซึ่งจะกลับคืนไปสู่ประชาชน. สภาพแวดล้อมทางสังคมใหม่นี้, การบริหารปกครองจะช่วยเหลือแสงสว่างและอนุญาตให้การเปิดเผยอย่างเป็นพิธีการได้เกิดขึ้น. สภาพแวดล้อมใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้เริ่มต้นบนเรียนต่างๆของโลกด้วย เกี่ยวกับความเข้าใจที่ถูกเก็บไว้อย่างที่สุดของคุณ

Life in your reality is based mostly upon a dark logic that has been somewhat successful in blocking out the ways of the heart. Spirit is so important and vital to whom you are. Our guidance is first to restore the true ways of Spirit and to teach you what lies ahead when you physically reunite with Heaven. This new society is based upon personal sovereignty, freedom and prosperity. It is filled with responsibilities that will become quite real to you as you start to live in this new realm. This new life requires that we give you a gentle yet truthful exposure to what you will encounter. Our primary task is to guide you and to supervise what Heaven expects of you. This new realm is to be founded upon you successfully carrying out your joint responsibilities. Hence, this initially leaves much to teach you about the inner workings of this new reality.

ชีวิตในโลกของคุณทุกวันนี้ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับตรรกวิทยาของฝ่ายมืด, ซึ่งประสบความสำเร็จในการปิดกั้นเส้นทางต่างๆของความรัก. วิญญาณนั้นสำคัญมากกับความเป็นตัวคุณ, การนำทางของเราเริ่มด้วยการล้างค่าใหม่กับเส้นทางทั้งหลายแห่งความจริงของวิญญาณ และสอนคุณให้รู้ถึงสิ่งที่กำลังรออยู่ข้างหน้าบนเส้นทางที่จะกลับมารวมกันใหม่อีกครั้งกับสวรรค์. สังคมใหม่นี้อยู่บนพื้นฐานของความมีอำนาจอธิปไตยของตนเอง, มีอิสรภาพและความรุ่งโรจน์. มันจะถูกเติมด้วยความรับผิดชอบต่างๆที่จะกลายเป็นความจริงสำหรับคุณขณะที่คุณเริ่มต้นการใช้ชีวิตอยู่ในยุคใหม่นี้. ชีวิตใหม่นี้จำเป็นที่ต้องเราต้องบอกความจริงอย่างเปิดเผยกับสิ่งที่คุณจะต้องเผชิญ. งานหลักของเราคือนำทางให้คุณและดูแลจัดการความคาดหวังที่สวรรค์มีต่อคุณ. วงรอบใหม่นี้จะเกิดขึ้นอย่างสำเร็จจากการร่วมมือกันในความรับผิดชอบต่างๆที่มาบรรจบกัน. จากนี้ไป, การเริ่มต้นนี้จะเริ่มด้วยการสอนคุณอย่างมากมายเกี่ยวกับการทำงานต่างๆจากภายในของความเป็นจริงใหม่นี้

You are beginning to realize the immensity of what is expected for you. All of the preliminary physical changes are accompanied with alterations to your consciousness. Thus, what you believe or feel about this current reality is changing. Added to these feelings is the apparent slowness with which this reality is transforming. This has caused some frustration. Bear in mind that Heaven does indeed possess a plan. Be ready to act when appropriate and understand that this too is quickly coming to a rightful conclusion. Events, as we stated previously are underway. These events will alter how the wealth and power in this realm are distributed. The dark’s influence is lessening and the means to thrust them into the dustbin are working according to plan. You do not have much longer before all of the dark’s madness is gone! Huzzah! Huzzah! Huzzah!

คุณกำลังเริ่มต้นการตระหนักรู้อย่างกว้างขวางของสิ่งที่ถูกคาดหวังไว้กับคุณ. ทุกๆการจัดแจงขั้นต้นในการเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์ถูกดำเนินไปพร้อมๆกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆของจิตสำนึกรู้ของคุณ. ด้วยเหตุนี้, สิ่งที่คุณเคยเชื่อและรู้สึกเกี่ยวกับความจริงในปัจจุบันนั้นกำลังเปลี่ยนไป, ความรู้สึกต่างๆถึงความช้าอย่างเห็นได้ชัดกับความจริงที่กำลังเปลี่ยนแปลง. ซึ่งทำให้เกิดความผิดหวัง. โปรดจำไว้ว่าสวรรค์เป็นเจ้าของแผนงานอย่างแท้จริง. และพร้อมแล้วที่จะแสดงเมื่อสมควร และเข้าใจถึงความช้านี้ ซึ่งบทสรุปของความถูกต้องกำลังมาอย่างรวดเร็ว. เหตุการณ์ต่างๆ, ขณะที่เราได้เริ่มดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว. เหตุการณ์เหล่านี้จะเปลี่ยนอำนาจและความมั่งคั่งในวงรอบนี้ให้ได้ถูกแจกจ่ายออกไป. อิทธิพลของฝ่ายมืดกำลังน้อยลง และความตั้งใจในการผลักดันพวกเขาลงไปสู่ถังขยะกำลังเป็นไปตามแผนงาน.

Today, we continued with our weekly messages. Much is now ready to happen. Be prepared to expect great things to occur. The world that you have long known is starting to fall apart. New currencies and new regulations are ready to begin manifesting, and this will quickly lead to new governance! Know, dear Ones, that the countless Supply and never-ending Prosperity of Heaven are indeed yours! So Be It! Selamat Gajun! Selamat Ja! (Sirian for Be One! and Be in Joy!)

สิ่งมากมายพร้อมแล้วที่จะเกิดขึ้น, โปรดจงเตรียมพร้อมและคาดหวังถึงการเกิดขึ้นของสิ่งต่างๆที่สง่างาม. โลกที่คุณรู้จักมาอย่างยาวนานกำลังจะแยกจากไปแล้ว, ระบบเงินตราใหม่และกฎระเบียบใหม่ต่างๆ พร้อมที่จะเริ่มต้นเปิดเผยแล้ว, และนี่จะนำไปสู่ระเบียบโลกใหม่อย่างรวดเร็ว.

Website: Sheldan Nidle - February 18, 2014

 

^___^ อ่านแล้วชื่นใจยิ่งค่ะ
ขอให้อานิสงส์นี้ย้อนกลับแก่ท่าน ช่วยเกื้อหนุนให้ท่านบรรลุสัจธรรมดังใจปรารถนาในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย เทอญ _/\_


นับว่าเป็นโชคดีของผู้ที่สนใจค่ะ ที่มีผู้เมตตาจัดทำสิ่งดีๆแบบนี้ขึ้นมา เป็นประโยชน์มหาศาลทำให้ง่ายต่อการศึกษามากขึ้นเยอะทีเดียวค่ะ

 

บังเอิญจังค่ะ เพิ่งได้กลับไปอ่านโพสต์นี้ ของคุณชยุต
แถมตัวเองดันเริ่มต้นประโยค ของโพสต์ต่อจากคุณชยุต ด้วยคำว่า "ไม่ตัดสินอะไร"
อิอิ^_____^ ตื่นเต้นเล็กน้อย


ความรู้สึกส่วนตัว อีกอย่างที่อยากพูดค่ะ
เรื่องแนวทางปฏิบัติในชีวิตประจำวันของแต่ละคน อันนี้ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวพูดได้ค่ะว่าวิธีไหนดี แต่พูดไม่ได้ว่าวิธีไหนไม่ดีค่ะ(ไม่อยากตัดสินเพราะตนไม่ได้เข้าไปมีประสบการณ์ตรง ไม่ได้เข้าไปเห็นหรือศึกษาอย่างจริงจัง) เอาแค่แต่ละคนปฏิบัติเพื่อปรารถนาสิ่งใด ไม่ว่าจะนิพพาน หรือ ฯลฯ แล้ววิธีนั้นปฏิบัติแล้วได้ผลจริงเข้าถึงได้จริง ก็เป็นอันว่าใช้ได้สำหรับเราค่ะ (แต่เสี่ยงหน่อยเท่านั้น เพราะควรจะต้องมีเครื่องวัดสอบความสำเร็จได้)

สำหรับข้อความต่างมิติที่มีึคนมีน้ำใจช่วยแปลมาให้ได้อ่าน ต้องขอบคุณที่ยังมีมาให้อ่านอยู่เรื่อยๆค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ^ ^

 

ข้อความจากหมู่บ้านในนิทา่น
ส่งถึง กระต่ายป่า ข้างวัด ฝากให้ ท่านอโศก 555

จาก http://palungjit.org/threads/new-new-age-plus-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0-grand-mission.518704/page-2

 

expression : ถ้าเป็นในบริบททั่วไป ก็จะคือการแสดงความรู้สึกออกมา หรืออะไรก็ตามแต่
แต่ถ้าเป็นข้อความจากหลายๆรูปธรรมแล้ว เขาจะใช้ในบริบทต่อไปนี้บ่อยมาก
เช่น expression of Love, expression of SELF, expression of God
ซึ่งมันจะไม่ได้หมายความว่าแสดงอะไรออกมาแล้วนะ มันจะหมายความว่า สิ่งนั้นหนะ
แสดงตัวตนออกมาในรูปของ...(มนุษย์ หรือ พวกเรา) มากกว่า
เช่น you are our expression of SELF ชาว Arcturian ชอบพูดคำนี้
ซึ่งถ้าจะแปลให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด แม้ว่ามันจะไม่ตรงตามดิกชินน่ารี่นัก ก็ตาม
ก็จะได้ว่า "พวกคุณคือตัวตนส่วนหนึ่งของพวกเรา" หรือ
"พวกคุณคือตัวตนภาคหนึ่งของพวกเรา" ก็ได้ สรุปว่า..ก็คือคำว่า "ตัวตน" นั่นแหละ
แต่ก็อย่าไปยึดติดกับศัพท์บัญญัตซะจน ไปลากเอาคำว่า ego มาเกี่ยวข้องด้วยหละ


manifestation : ในความหมายที่แท้จริงของข้อความจากต่างมิติ คำนี้ไม่มีคำไทยแปล
แต่คำที่ใกล้เคียงมากที่สุด ที่ผมใช้ประจำ ก็น่าจะเป็น "การเนรมิต" ออกมา
สู่โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพของเรา คือ..หลักการณ์พื้นฐานที่พวกเขาหมายถึง ก็คือ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่ในโลกทางกายภาพของเรานี้ (ยกเว้นจิตวิญญาณของพวกเรา)
มันจะมาจากการถูกเนรมิตออกมา จาก ความคิด+อารมณ์ความรู้สึก ของเราทั้งสิ้น
คือมันไม่มีอยู่จริงในรูปแบบของกายภาพมาตั้งแต่ต้น แต่มันอยู่ในรูปแบบของ
ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ทั้งมวล ที่แทรกอยู่ในแมทริกซ์ของมิติที่ 3 นี้
ที่พร้อมจะถูกเนรมิตออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเรา
ด้วยความคิดและอารมณ์ความรู้สึกของเรานั้นเอง

reality : จะมีความหมายว่า ความแท้จริง เรื่องจริง หรืออะไรแบบนั้นน้อยๆมากๆ
ในข้อความจากต่างมิติ เพราะว่า ถ้าจะบอกว่าแท้จริง หรือ อะไรแบบนั้น พวกเขาจะใช้คำพูดอื่นๆ
แต่โดยความหมายที่พวกเขาต้องการสื่อสารจริงๆ ตามที่ผมเข้าใจ ในบริบทที่พวกเขาใช้ก็คือ
"โลกแห่งความเป็นจริง" ซึ่งผมรู้สึกว่ามันมีความหมายกว้างกว่าคำว่ามิติ เพราะว่ามิติ
ก็คือโลกแห่งความเป็นจริงหนึ่งๆที่มีระดับคลื่นความถี่แตกต่างกัน เช่น มิติที่ 1 - 12 เป็นต้น

ส่วนโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันจะออกมาได้ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ตามความหมายแบบมนุษย์เรา
คือจะหมายถึงมิติที่เป็นแนวตั้ง (พูดแบบมนุษย์เรา) กับโลกคู่ขนาน
และ โลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางเลือกอื่นๆ ที่อยู่ในแนวนอนระดับเดียวกับ
โลกแห่งความเป็นจริงหลักหนึ่งๆก็ได้

ซึ่งถ้าจะขยายความตรงนี้ ก็ต้องไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในกระทู้นี้แล้วหละครับ

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ.492683/

continuum : ผมหาศัพท์ที่จะเอามาใช้กับคำๆนี้ไม่เจอเลย เพราะว่าผมรู้สึกว่า
มันจะหมายถึง จะว่าเป็นสภาวะและสถานที่ก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ใช่สภาวะและสถานที่ก็ไม่ใช่
มันคือที่ๆและสภาวะที่ไร้กาลเวลา ที่ทุกสรรพสิ่งเชื่อมต่อกันหมด ปราศจากการแบ่งแยก
จะว่ามันคือความเป็นหนึ่งเดียวก็ใช่ แต่คำนี้เขาจะใช้คำว่า the One ซึ่งในบริบทที่จำเพาะเจาะจงลงมา
the One จะหมายถึงพระเจ้า

personage : หมายถึงตัวตน ที่จิตวิญญาณสร้างขึ้นมา
หรือ "ร่าง" ที่ใช้เป็นยานพาหนะของจิตวิญญาณ อะไรแบบนั้นหนะครับ
คำนี้จะเจอเฉพาะในข้อความของ Mathew Words เท่านั้น

etheric body : คือกายแห่งพลังงาน กายหนึ่ง ที่อยู่ติดกับกายเนื้อและกายทิพย์ (astral body)
แต่บางทีก็ขึ้นอยู่กับผู้พูดหรือผู้สื่อสารมาด้วยแหละ ว่าจะใช้คำไหน
หรือจะแจกแจงให้มันละเอียดลงไปแค่ไหน ดังนั้น บางที ก็จะใช้ปนๆกับคำว่า astral body
แต่ผมมักจะยึกตามนิยามของข้อความจากชาว Arcturian ครับ เพราะเข้าใจได้ชัดเจนดี

astral body : กายทิพย์ เป็นคำที่เขาใช้เรียกรวมๆ แต่หมายถึง ทั้ง Emotional body,
Mental body and Spiritual body

ลองเข้าไปอ่านเรื่องราวพวกนี้ได้ในกระทู้ข้างล่างนี้นะครับ ทั้งสองกระทู้เลย

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ.492683/

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...นรกและสวรรค์ตามความเชื่อของบางศาสนานะ.502598/

soul = จิตวิญญาณ
spirit = วิญญาณ

ลองอ่านข้อความต่อไปนี้ดูนะครับ

"ในระดับ “เอกภพ” (Cosmic) หรือในระดับ “สรรพจักรวาล” (Omniverse) แล้ว
พวกคุณคือ “วิญญาณ” (Spirit) ซึ่งก็คือ ”เหลี่ยมมุม” (facet) หนึ่ง หรือ “รังสี” (Ray) หนึ่ง
ของแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ (Divine Essence) ที่ถูกส่งออกมาจากใจกลางของหัวใจของ
“พระผู้สร้างสูงสุด” (the Supreme Creator)

ในระดับนั้น พวกคุณจึงมีความตระหนักรู้ที่เต็มเปี่ยมและสมบูรณ์ว่าพวกคุณคือใคร
และมีความเชื่อมต่ออยู่กับพระผู้สร้างสูงสุดอย่างไร
พวกคุณจะมีความตระหนักรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
และรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเป็นอย่างดี"

“วิญญาณ” (Spirit) หรือ “จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์” (Divine Consciousness)
อาศัยอยู่ภายใน “จิตวิญญาณ” (Soul) ของพวกคุณเอง มันคือ “แก่นแท้แห่งชีวิต” (Essence of life)

ที่มาของเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณและจิตวิญญาณที่ว่านี้ อยู่ในกระทู้ข้างล่างนี้นะครับ

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ิตวิญญาณ-วิญญาณ-และ-จิตวิญญาณ-คืออะไร.345161/

............................

 

แถมบ้าง...เดี๋ยวจะน้อยหน้า...



ARCHANGEL GABRIEL 2014
Daily Message –Sun, Feb 13, 2014
วันที่โพสท์ _Thu ,20/2/2014
ผู้แปล: อจิตตะ

เรามาร่วมสนทนาในเรื่องของคุณประโยชน์ของ“ความรัก”
ที่รู้จักกันในด้านของ”ความซื่อสัตย์”กันดีกว่า…
เพราะคุณประโยชน์ในด้านนี้จะสามารถส่องผ่านไปยังแต่ละจิตวิญญาณ
ที่มีปฏิสัมพันธ์ร่วมอยู่กับผู้อื่นในชีวิตประจำวันของพวกเขา…
คุณประโยชน์ที่เห็นได้เด่นชัดจากปฏิสัมพันธ์นี้
ก็สืบเนื่องมาจากความเต็มอกเต็มใจในการแสดงออกของเหล่าปัจเจก
ด้วยการนำเสนอ...เพื่อช่วยคนรอบข้างพวกเขา
และกับภาระกิจที่พวกเขาต้องเกี่ยวข้อง
ซึ่งเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะแสดงออกซึ่งความเป็นมิตรให้แก่ผู้อื่น...

คุณประโยชน์นี้เป็นสิ่งที่เหล่าปัจเจกผู้ที่ใช้มุมมองของ”ความรัก”
นำมาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารออกไปของพวกเขา
ซึ่งก็เป็นความเชื่อของเหล่าปัจเจก
ที่รู้แจ้งในคุณประโยชน์ของคำพูดและการกระทำของพวกเขา
เพื่อที่จะทะนุถนอมและรักษา“มิตรภาพ”ให้คงอยู่ตลอดไป
เพราะเหล่าปัจเจกล้วนรู้ดีว่า ”มิตรภาพ”นี้
จะเป็นสิ่งที่สามารถพึ่งพาได้เสมอตราบเท่าที่มัน ”ยังอยู่”...

คุณประโยชน์นี้จะพบเห็นมากที่สุดในความสัมพันธ์ของครอบครัว
ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพวกเขา
ซึ่งสมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างล้วนให้ความไว้วางใจ
และพร้อมจะให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเสมอ
เพราะสมาชิกในครอบครัวต่างก็รู้ดีว่า
นี่คือหนึ่งในผู้ที่จะสลายอุปสรรคต่างๆ ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น...
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายเพียงใด...
และคุณประโยชน์ของความรักนี้จะส่องผ่านเข้าไปในทุกๆกิจกรรม
ของปฏิสัมพันธ์ในสมาชิกครอบครัวและในหน้าที่ความรับผิดชอบ

และเมื่อแต่ละปัจเจกรู้ว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ทั้งหมดของครอบครัวพวกเขา
จะให้การสนับสนุน และเป็นกำลังใจ
ในยามที่พวกเขาต้องเคลื่อนไปสู่ความรับผิดชอบต่อโลกภายนอก
ก็ทำให้พวกเขารู้ซึ้งถึงคุณค่าของการเชื่อมั่นในตนเอง
ทั้งยังมีความสุขที่ได้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นภารกิจของพันธสัญญาใดๆก็ตาม
“พวกเขามิได้โดดเดี่ยว”อีกต่อไป...

และในระหว่างที่เหล่าปัจเจกกำลังจัดการกับคุณประโยชน์ที่อยู่ภายในนี้
กลุ่มชนและผู้คนในกลุ่มต่างก็รู้ดีว่า...
สามารถให้ความไว้วางใจในหน้าที่และกิจกรรม
ที่ต้องใช้ความขยันหมั่นเพียรเพื่อความสำเร็จของงาน
ที่จะยังประโยชน์ที่ดีกว่าทั้งของสมาชิกและกลุ่มชนของเหล่าปัจเจกนี้...
ซึ่งผลสำเร็จอันยอดเยี่ยมมากมายของเหล่าปัจเจกหลายคน
ก็เพราะการรู้แจ้งในวิธีการนี้
และยังนำมาซึ่งประโยชน์แก่เหล่าปัจเจกทั้งหลาย
ที่อยู่ในกลุ่มชนนั้น ๆ ด้วย
อีกทั้งยังได้ร่วมกันสร้างสัมพันธภาพในด้านดีให้เกิดขึ้น
และรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาได้รู้อยู่ภายใน
กับการที่สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มได้ลงมือทำอย่างเต็มที่
ด้วยการมีส่วนร่วมในเส้นทางแห่ง”ความรัก”
ซึ่งรวมไว้ในความตื่นเต้นและมีชีวิตชีวา
จากพลังความร่วมมือร่วมใจของคนในกลุ่มที่เป็นไปในด้านดี
และเต็มไปด้วยความหมายของประสบการณ์นั้น ๆ
ที่มีต่อผู้คนทุกผู้ทุกนามในกลุ่ม...

คุณประโยชน์ของ”ความรัก”ที่รู้จักกันในด้านของ"ความซื่อสัตย์"นี้
ยังคงอยู่ในระบบความเชื่อของเหล่าปัจเจกทั้งหลาย
ตามที่พวกเขาได้กำหนดกับความเชื่อของพวกเขา
ว่าให้ตั้งอยู่บนฐานของ”ความซื่อสัตย์”ซึ่งพวกเขาต้องการรู้แจ้งภายในด้วยตัวเขาเอง
และเหล่าปัจเจกก็จะใช้คุณประโยชน์นี้ในการแสดงออก
และเปิดเผยสิ่งที่รู้แจ้งในชีวิตประจำวันของพวกเขา...
พวกเขาจะให้ความเคารพต่อความเชื่อมั่นของตัวเอง
ตราบเท่าที่ยังคงเป็นจริงกับพวกเขาในการเปิดแนวทางใหม่
ที่จะสามารถเคลื่อนไปสู่เส้นทางที่ดีกว่า
และเพื่อสิ่งที่ต้องการจะเป็นของพวกเขาบนโลกใบนี้...

ซึ่งในขั้นตอนนี้จะทำให้เหล่าปัจเจกจำนวนมาก
มีความเจริญก้าวหน้าในภูมิปัญญาและความรอบรู้
และ "บรรลุซึ่งภาวะที่สมบูรณ์"
ซึ่งเป็นทักษะที่สมบูรณ์ในขีดความสามารถและพรสวรรค์
ที่จะนำพาไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของ”กลุ่มปัจเจก” ต่อไป
ดังนั้น....พวกเขาก็จะใช้สิ่งเหล่านี้ในการสร้างโลกที่ดีกว่า
ให้แก่เหล่าปัจเจกที่อยู่รอบๆตัวพวกเขาด้วย...

ถึงแม้ความรุ่มร้อนดั่งไฟต่องานและกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในกิจกรรมของพวกเขาเกิดขึ้นบ่อยครั้งในแต่ละวัน
แต่ความเชื่อในคุณประโยชน์ที่สูงกว่าซึ่งอยู่ภายในของพวกเขา
ซึ่งบัดนี้ได้ถูกส่งไปยังผู้คนรอบๆตัวพวกเขา
และยกระดับจิตวิญญาณของทุกคนที่ได้เข้ามาติดต่อสื่อสาร
จะช่วยทะนุถนอมให้คุณประโยชน์ของ”ความรัก”นี้
จากทุกสิ่งที่พวกเขาพูดและกระทำ
อันจะส่งผลต่อโลกใบนี้ นั่นคือ "บุญกุศล และ เมตตาจิต"
ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้เดินตามในเส้นทางของคุณประโยชน์นี้
สู่ภายในความเป็นปัจเจกของพวกเขา
เพื่อการอยู่ร่วมกันกับเหล่าสรรพสิ่ง...
และนี่ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุดที่ถูกสร้างขึ้น
เพื่อการมีส่วนร่วมกับสภาพแวดล้อมของพวกเขาบนโลกใบนี้.......

I remain ever your loyal companion.

I AM Archangel Gabriel

©2014 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and websites are included.

 

ขอเสริมอีกนิด...

คำว่า expression จากข้อความเหล่านี้ มักแทนถึง
การปรากฏเกิดคุณสมบัติและ/หรือคุณลักษณะออกมาได้ ไม่ว่าจะทางนามธรรมหรือรูปธรรม แล้วแต่บริบท
ดิชั้นมักใช้คำว่า การสำแดงออก ในการแปลข้อความเหล่านี้

คำว่า reality จากข้อความเหล่านี้ มักแทนถึง
สภาพความเป็นจริง ไม่ว่าจะมนุษย์จะรับรู้อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับบริบท เช่น สภาพความเป็นจริงทางกายภาพ สภาพความเป็นจริงทางพลังงาน

คำว่า continuum จากข้อความเหล่านี้
ให้ไปหาวีดิโอภาพเคลื่อนไหว Fractal ในยูทูปดู แล้วจะพอมองออกว่ามันเป็นอย่างไร
มันจะต่อเนื่องอย่างเป็นนิรันดร์ไม่รู้จบ โดยการที่ส่วนหนึ่งเป็นส่วนของอีกส่วนหนึ่งต่อไปเรื่อยๆ
ใหญ่สามารถเป็นเล็ก เล็กสามารถเป็นใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไม่สามารถแยกขาดแบบเบ็ดเสร็จไปได้
ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าใจจักรวาลได้ด้วยสิ่งที่มีและเกิดและเป็นอยู่ในโลกของเรา

คำว่า personage จากข้อความเหล่านี้ มักแทนถึง
ตัวแสดง ของ soul อันมีรูปลักษณ์ คุณลักษณะ คุณสมบัติ ตามที่ soul ต้องการที่จะใช้นำมาแสดงบนเวทีโลก เวทีจักรวาลและเอกภพ คล้ายกับการเป็น ปางๆหนึ่ง

Spirit จากข้อความเหล่านี้ มักแทนถึง
consciousness(จิตสำนึกรู้) และ/หรือ life force(พลังชีวิต) ที่ Soul ต้องมีประกอบไว้ด้วยเสมอ ไม่เช่นนั้นจะปราศจาก ความเป็นชีวิต(Being)
ดังนั้น Spirit สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตัวของ Spirit เองด้วย มีคุณสมบัติเฉพาะเพื่อฟังก์ชั่นบางอย่างของเอกภพได้ เช่น Kryon เป็นต้น
จาก The Law of One มนุษย์เราจะถูกเรียกว่า mind/body/spirit complex
ที่แน่ๆ Spirit จากข้อความเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่า ผี อย่างแน่นอน :boo: 555

Soul จากข้อความเหล่านี้ มักแทนถึง
มนุษย์ หรือ สิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของ God กับ The Creator ซึ่งใช้สร้างประสบการณ์ในทุกรูปแบบ ในทุกมิติ หรือในทุกๆอย่าง
เป็นสิ่งประกอบของหลายๆอย่างรวมกันขึ้นมา เพื่อใช้สร้างประสบการณ์

 

เยี่ยมมากครับคุณโซ่ อธิบายได้เข้าใจง่าย
และกระจ่างแจ้งกว่าผมมากเลย


................................................................................

 

มีเรื่องราวอันหนึ่ง และ มีข้อความจากต่างมิติอยู่ข้อความหนึ่ง
ที่ผมคิดอยู่นานแล้ว ว่าควรจะเอามาเล่าให้ฟังหรือเปล่า
หรือว่า มันถึงเวลาที่จะเอามาโพสต์หรือยัง อะไรแบบนั้นหนะครับ

ก็สรุปว่า..โพสต์เลยดีกว่า..เพราะว่ามันอาจจะพอมีประโยชน์กับคนอื่นๆบ้างก็ได้
คือมันเป็นประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองหนะครับ
และแต่ไหนแต่ไรมา อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้ว และก็บอกเสมอมาด้วย
ว่าตัวผมเอง ก็เป็นแค่นักเรียนคนหนึ่ง บนเส้นทางสายนี้
เหมือนๆกับทุกๆท่านที่กำลังอ่านอยู่นี้เหมือนกัน
และตัวผมเอง ก็กำลังเรียนรู้ ฝึกฝน แก้ไข ชำระสะสาง และวิวัฒน์
ไปพร้อมๆกับทุกๆท่านในที่นี้เหมือนกัน ดังนั้น ผมจึงไม่ได้รู้มากไปกว่าท่านเลย

และดูเหมือนว่า "ความรู้สึกจากข้างใน" ของผม
และข้อความจากต่างมิติบางข้อความ ก็บอกให้ผม/พวกเรา
แบ่งปันประสบการณ์ที่เจอะเจอมา ให้แก่กันและกันฟังด้วย
เพราะว่าในช่วงเวลาสำคัญของช่วงต้นๆ
ของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของโลกแบบนี้
พวกเราทุกๆคนซึ่งกำลังอยู่ท่ามกลางกระบวนการนี้อยู่ ไม่ขั้นใดก็ขั้นหนึ่ง
ก็จะมีปัญหา อุปสรรค ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ
และปัญหาหรืออาการอื่นๆ ที่แปลกใหม่ หรือที่ทำให้ไม่เข้าใจ,
ไม่แน่ใจ หรือ สับสน เกิดขึ้นมาได้ ดังนั้น การมีคนที่เข้าใจมาคุยด้วย
หรือมีคนที่เป็น หรือ มีอาการเหมือนๆกัน มาคุยด้วย
ก็อาจจะทำให้ช่วยทุเลาเบาบางความวิตกกังวลไปได้บ้าง

และนี่แหละ ถึงเป็นที่มาของเหตุผลว่าทำไม ผมถึงเอาเรื่องราวส่วนตัวของตัวเอง
มาเล่าให้ทุกๆท่านฟัง ในกระทู้นี้อยู่บ่อยๆไงหละครับ

........................................................

 

เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา
ผมได้มีโอกาสกลับบ้านนอก และได้ไปปลีกวิเวกอยู่ในสถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง
เป็นวัดป่า ติดหมู่บ้านที่ผมอยู่ และติดภูเขาด้วย
เป็นสถานที่ที่มีธรรมชาติร่มรื่น แม้ไม่สวยงามมากนัก
แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีระดับความสั่นสะเทือนของพลังงานที่สูงพอสมควรทีเดียว
เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ ยังไม่ได้แปดเปื้อนพลังงานด้านลบจากมนุษย์มากนัก
และก็ เป็นสถานที่ๆพระท่านใช้ปฏิบัติธรรมอีกด้วย



การได้ไปอยู่ในสถานที่ๆมีระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของพลังงานที่สูงบ้าง
เป็นครั้งคราวนี้ ท่านเมตาตรอน และ ท่านอื่นๆ แนะนำให้เราทำนะครับ
เพราะว่า มันจะช่วย "เปลี่ยน" ระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของสนามพลังงานของเราได้

และผมก็ได้พบกับประสบการณ์ที่ช่วยเปลี่ยนระดับความสั่นสะเทือนของผมได้จริงๆ
จนทำให้ปัญหา และ ความทุกข์ใจ เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวบางอย่าง
ที่ผมกำลังประสบอยู่นั้น แทบจะมลายหายไปเลยหละครับ

ก็น่าแปลกดีเหมือนกันครับ..จนทำให้ผมเริ่มเข้าใจได้วับๆแวมๆแล้วหละว่า
้อ้อ..ที่เขาบอกว่า "change your vibration, change your life" นั้น
หรือ "เมื่อคุณเปลี่ยนระดับความสั่นสะเทือนของคุณ ชีวิตของคุณก็จะเปลี่ยนไป" นั้น
มันเป็นอย่างไร

แล้วก็..อย่างที่ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ หรือเคยฟังเทศน์
ของพระนักปฏิบัติบางท่านก็ไม่รู้นะครับ จำไม่ได้แล้ว ประมาณว่า..

"เมื่อถึงที่ของมัน หรือเมื่อถึงวาระที่เหมาะสมของมัน
จิตของเรา มันก็จะวางไปเอง โดยที่เราไม่ต้องไปบังคับให้มันวางเลย"

อะไรแบบนั้น..นี่แหละ ผมเลยเพิ่งถึงบางอ้อว่า อ๋อ..มันคงเป็นคล้ายๆอย่างนี้กระมัง
คือ เมื่อระดับความสั่นสะเทือนของ "ระบบ" ทั้งระบบของเรา
เปลี่ยนไปแล้ว เรื่องราวต่างๆที่มีระดับความสั่นสะเทือน "ต่ำ" กว่าของเรา
มันก็จะไม่สามารถมาส่งผลกระทบต่อเราได้มากแบบเต็มๆเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
และเพราะฉะนั้น ความคิดของเรา ความรู้สึกของเรา มันก็เลยจะไม่ไปจดจ่อ
อยู่กับเรื่องนั้นๆมากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว อะไรแบบนั้นกระมังครับ



กลไกการ "เปลี่ยน" ที่ว่านี้ ท่านเมตาตรอนอธิบายไว้ว่า...

"ในกรณีที่ผู้ที่ไม่ใช่คนในพื้นที่นั้น เดินทางไปยังจุดที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานเหล่านั้น
เช่น ภูเขาแชสต้า, ทะเลสาบติติกาก้า, เซโดน่า, อาแคนซอส์ หรือ Glastonbury เป็นต้น
หลายๆคนอาจจะรู้สึกได้ว่า มีพลังงานที่เข้มข้นรุนแรงโอบล้อมอยู่รอบๆ
ซึ่งระดับความสั่นสะเทือนของมัน จะสูงกว่าระดับความสั่นสะเทือน
ของพลังงานของสนามพลังออร่าของพวกเขาเองอย่างมาก ซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคย
ดังนั้น สำหรับบางคนแล้ว แต่อาจจะไม่ใช่ทุกคน ภายใน 3 – 7 วัน
ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็ง และความยืดหยุ่นของสนามพลังออร่าของคนๆนั้น

สนามพลังออร่าของคนๆนั้น จะปรับตัวให้เข้ากับความกดดันที่แตกต่างกันนั้น
โดยใช้กระบวนการออสโมสิส (osmosis) เพื่อให้เกิดความสมดุลขึ้น

สนามพลังออร่าจะสร้างรอยรั่วขึ้นมาในตัวเอง
เพื่อให้พลังงานไหลเข้าและออกจนเกิดความสมดุลขึ้นได้

และถ้าไม่เป็นแบบนี้แล้ว การลัดวงจรของสนามพลังออร่าก็จะเกิดขึ้นในที่สุด
ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรงขึ้น
จนกว่าสนามพลังออร่าสามารถปรับตัวให้เข้าสู่ความสมดุล และคงที่ ได้อีกครั้งหนึ่งโน่นแหละ
อาการนี้จึงจะหายไป

ในกรณีที่ย้ายที่อยู่จากที่ๆมีระดับพลังงานต่ำกว่า เข้าไปอยู่ในที่ๆเป็นจุดประสานมิติ
ที่มีระดับพลังงานสูงกว่าอย่างมาก กระบวนการปรับตัวของสนามพลังออร่านี้
อาจจะใช้เวลานานถึง 6 เดือน หรือเป็นปีเลยทีเดียว

พวกคุณที่ย้ายไปอยู่ในแถบภูเขาแชสต้า และเซน่าจะเข้าใจเรื่องนี้กันดี

แต่สำหรับผู้ที่เพียงเดินทางมาชั่วคราว การปรับตัวของสนามพลังออร่าของพวกเขา
อาจจะเสร็จสิ้นภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์ หลังจากที่กลับไปสู่ที่เดิมแล้ว

กุญแจสำคัญมันอยู่ที่ระดับความถี่ของการสั่นสะเทือนของสนามพลังออร่าของพวกคุณเอง
และจงอย่าอยู่ที่นั่นนานจนเกินไป หากสนามพลังออร่าของพวกคุณยังไม่สามารถทนทาน
ต่อระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่านี้ได้

แต่พวกเราก็ไม่ได้บอกนะว่า การไปเยื่ยมเยือนจุดที่เป็นจุดประสานมิติ
หรือจุดศูนย์รวมพลัง (Power node) เหล่านี้ จะไม่มีประโยชน์

แต่ในทางตรงกันข้าม การขยายตัวและการพัฒนาสูงขึ้นแบบนั้น โดยภาพรวมแล้ว
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และค่อนข้างจะเป็นประโยชน์ และมีความจำเป็นอย่างมากด้วย
เพื่อที่จะทำให้ “ผิวหนังใหม่” ของพวกคุณถูกสร้างขึ้น และมีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น
และก็มีความเป็นหลากมิติมากขึ้นด้วย

จุดศูนย์รวมพลังงานเหล่านี้ จะช่วยเร่งให้เกิดกระบวนการดังกล่าวนี้

เพราะฉะนั้น พวกคุณจึงควรจะเดินทางไปเยี่ยมเยือนมันบ้าง จุดประสานมิติเหล่านี้
จะทำหน้าที่เหมือนเป็น “ตัวเร่ง” ให้กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณเกิดเร็วขึ้น
และจะช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่พวกคุณ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น
ที่มีระดับพลังงานสูงขึ้นเรื่อยๆนี้ พวกคุณเห็นไหม?"

ที่มา: http://palungjit.org/threads/ข้อควา...องออร่า-จากคลื่นรบกวน-การบิน-และอื่นๆ.287075/

 

ผมเห็นด้วยครับ คิดอยู่นานแล้วว่า ถ้าใครคิดว่าเข้าถึงมิติที่ 5 ได้แล้วน่าจะมาแบ่งปัน
ประสบการณ์ให้คนอื่นได้รู้ด้วย สำหรับผมประสบการณ์ล่าสุดเริ่มจะดื่มเหล้าไม่ได้แล้ว
ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนดื่มได้เป็นปกติ ตอนนี้พอดื่มแล้วรู้สึกเหมือนพลังบางอย่างถูกบล็อก ทำให้หมดแรงไปเลย ผมวิ่งวันละ 1500 เมตรทุกวัน

 

และในระหว่างที่พักอยู่ในวัดนั้น 9 คืน 8 วัน
ก็มีปรากฎการณ์ synchronicity เกิดขึ้นกับผมเป็นระยะๆ

ตัวอย่างเช่น ร่างกายผมก็จะมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ
และ/หรือระดับพลังงานของที่นั่น ตลอด 7 วันแรก

และรวมถึงเรื่องความฝันของผมด้วย ที่ช่วยตอบคำถามของผม
ได้อย่างกระจ่างแจ้งเลยทีเดียว จนทำให้ผมสามารถปล่อยวางลงได้อย่างมาก

คือ..ประมาณว่า ช่วงก่อนหน้านี้ ราวๆสองสามปีก่อนหน้านี้ จนมาถึงไม่กี่สัปดาห์มานี้
ผมมีปัญหาเรื่องสัมพันธภาพอย่างมาก แต่มันเป็น "ปัญหาศักดิ์สิทธิ์" ครับ
หรือที่ต่างมิติใช้คำว่า "Divine Discomfort"
เพราะว่ามันเป็นไปเพื่อวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของตัวผมเอง

เพราะว่า ตัวผมเองมีปัญหาแบบที่หลายๆคนอาจจะมีด้วยเหมือนกัน
คือเป็นคนขี้หึง เป็นคนขี้หวง เป็นคนที่อยากครอบครองคนที่เรารัก
เป็นคนที่รักแบบมีเงื่อนไข อยากเปลี่ยนแปลงคนที่เรารัก
ให้เป็นเหมือนอย่างที่เราต้องการ และ ฯลฯ อะไรแบบนั้น แถมเจ้าชู้อีกด้วย

ซึ่งก่อนหน้านั้น ผมยังนึกไม่ออกเลย และมองไม่เห็นทางจริงๆ
ว่าผมจะแก้ไข หรือ อย่างน้อยจะทำให้นิสัยด้านลบพวกนี้
มันทุเลาเบาบางลงได้อย่างไร

แต่พอผมมาเจอกับ "น้อง" คนหนึ่งเข้า โอ้โห..เรื่องอะไรที่ผม "กลัว"
ที่ผมหวั่นไหว หรือ หวาดหวั่นว่า ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นนั้น ..ผมเจอมาหมดเลย
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่คบกันมานี้ ผมโดนมาสารพัดเลยครับ 555
จนทำให้ ในช่วงแรกๆนั้น เป็นทุกข์ เป็นร้อนกับเรื่องพวกนี้อย่างมาก
เพราะว่าก็..ยังรับไม่ได้..แต่ก็เพราะว่ายังรักอยู่ ก็เลยยังเลิกรักไม่ได้ด้วย

แต่ว่า "เส้นทางรัก" ของผมกับน้องคนนั้นหนะ มันเป็นเส้นทางตัน
ที่ผมจะเดินไปต่อก็ไม่ได้ จะถอยหลังกลับมาก็ไม่ได้ด้วย
มันก็เลยบังคับให้ผมต้องเผชิญอยู่กับสถานการณ์เหล่านี้ต่อไป
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่พอ "โดน" นานเข้าๆ และบ่อยครั้งเข้าๆ ผมก็เริ่มชินชา
และยอมรับได้มากขึ้นๆ และจนทำให้รู้สึกว่า เดี๋ยวนี้ ผมหึงน้อยลง
หวงน้อยลง อยากเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเขาน้อยลง
และอยากเปลี่ยนแปลงเขาน้อยลงด้วยนะครับ
เพราะว่าผมเริ่มยอมรับเอาคำว่า "ช่างหัวมัน"
มาใช้ในชีวิตของผมมากขึ้นแล้วนั่นเอง

เออ..มันก็มีทางเป็นไปของมันเหมือนกันนะ แบบงงๆ แบบไม่รู้ตัวครับ

และก็ พอนึกย้อนหลังกลับไป ดูเหตุการณ์แห่ง "ความบังเอิญ" ทั้งหลาย
ที่ทำให้ผมกับน้องคนนั้นได้พบกัน และ ที่ทำให้ผมและน้องคนนั้น
ได้เรียนรู้ และ ได้สอนบทเรียนให้แก่กันและกันนั้นแล้ว
ผมจึงเชื่อว่า มัน "ไม่ใช่ความบังเอิญแต่อย่างใดเลย"
เพราะว่ามันลงตัวไปซะหมดทุกอย่างเลยหละครับ

ในความรู้สึกลึกๆของผม ผมรู้สึกมาตั้งแต่แรกพบ และรู้สึกอยู่ตลอดเวลา
ว่าเจ้าน้องคนนี้หนะ มันต้องมีอะไรไม่ธรรมดาเกี่ยวข้องกับผมอยู่
ในระดับจิตวิญญาณอย่างแน่นอนเลยทีเดียว เพราะว่าบางที ก็ดูเหมือนว่า
เจ้าน้องคนนี้ มันสามารถรับรู้ถึงระดับพลังงานความคิด-ความรู้สึกของผมได้ด้วยซ้ำไป
แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันหลายกิโลเมตรก็ตาม

และบางทีพวกเรา อาจจะเคยทำพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ร่วมกันเอาไว้ ตั้งแต่ก่อนลงมาเกิดก็เป็นได้ ฮิฮิ

และเพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงอดทน
คบกับน้องคนนี้มาได้จนถึงสามปีแบบนี้ยังไงหละครับ

คือสิ่งที่น้องคนนั้นปฏิบัติต่อผม หรือ ทำให้ผมเห็น หรืออะไรก็ตามแต่
ที่ทำให้ผมเป็นทุกข์ ไม่ชอบ และ เจ็บปวดนั้น เชื่อไหมครับ
ว่ามันก็คือสิ่งเดียวกัน และ คือนิสัยเดียวกัน และปรากฎการณ์เดียวกัน
กับที่ผมเป็น/ผมทำอยู่ เป๊ะๆนั่นเอง

เห็นไหมหละครับ มันเป็นอย่างที่ต่างมิติพูดเอาไว้เลยว่า

"ประสบการณ์ชีวิตของเรา
ล้วนเป็นภาพที่สะท้อนออกมา
จากภายในของเราเองทั้งสิ้น"

ดังนั้น ผู้คน เหตุการณ์ วัตถุธาตุทางกายภาพ และ ประสบการณ์ต่างๆ
ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสอดคล้องกับภายในของเรา
มันจึงถูกดึงดูดเข้ามาหาเรา โดยอัตโนมัติ ยังไงหละครับ

และเพราะฉะนั้น อะไรในตัวผม ที่ผมมีอยู่/เป็นอยู่ และอาจจะไม่รู้ตัว
ก็เลยถูกฉายออกมา ถูกสะท้อนออกมาจากข้างใน แล้วไปดึงดูดเอา
ผู้คน และ เหตุการณ์เดียวกันนั้นเข้ามาในชีวิตของผมเอง
เพื่อที่จะสะท้อนให้ผมได้มองเห็นมันชัดๆ เพื่อที่ผมจะได้ปรับปรุงแก้ไข
และชำระสะสาง และ ปลดปล่อยพวกมันไปในที่สุดยังไงหละครับ

เพราะว่าผมหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ เพราะว่ามันกำลังปรากฎต่อหน้าผมแบบจะๆอยู่
และเพราะว่ามันกำลังทำให้ผมไม่ชอบ และเป็นทุกข์อยู่ในขณะนั้นๆนั่นเอง
อะไรแบบนั้นหนะครับ

ดังนั้น มันก็เลยเหมือนเป็น fight บังคับ ที่ผมจะถอยก็ไม่ได้ จะหนีก็ไม่ได้
ก็เลยต้องก้มหน้าก้มตาชกลมชกแล้ง สู้ และ บุกตะลุยไปอย่างเดียวเลย 555

ช่วง 4 วันแรกที่ผมไปปลีกวิเวกอยู่ในวัดป่าดังกล่าวนั้น
ผมเฝ้าครุ่นคิดอยู่ว่า ผมจะทำอย่างไรกับปัญหาสัมพันธภาพของผมกับน้องคนนี้ดี
ดังนั้น ช่วงที่ผมเดินจงกลมเท้าเปล่าอยู่นั้น
ผมเลยอธิษฐานของให้เหล่าทวยเทพผู้นำทางของผม ช่วยชี้แนะให้ผมด้วย

แล้วพอคืนวันที่ 4 ผมก็ได้รับคำตอบในความฝันของผมอย่างชัดเจน
จนทำให้เช้าวันรุ่งขึ้น ผมรู้แล้วว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไป
กับสัมพันธภาพรักนี้

yimmyimmyimmyimm
....................................................

 

ในคืนที่ 4 ผมฝันไปว่า ผมกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์โรงหนึ่ง
ซึ่งมีคนนั่งดูอยู่เต็มโรงไปหมด แต่คนดูทั้งหมดนั้น ล้วนเป็นคนที่รู้จักผม
หรือเป็นคนที่ผมรู้จักทั้งนั้นเลย เช่น อาจารย์สอนสมัยมหาลัย และเพื่อนๆ
และ ญาติพี่น้อง เป็นต้น

ในโรงภาพยนตร์ ตรงจุดที่ตรงข้ามกับจอหนัง ตรงชั้นคนนั่ง ชั้นบนสุด ตรงกลางเลย
กลับมีโพเดี้ยมอยู่อันหนึ่ง ซึ่งโพเดี้ยมก็คือคอกเล็กๆที่เวลาเขาขึ้นไปปราศัยอะไร
เขาก็จะเข้าไปพูดอยู่ในคอกนั้นหนะนะครับ

และอย่างที่บอกแล้ว ว่าคอกโพเดี้ยมนั้นหนะ มันตั้งอยู่ตรงชั้นคนนั่ง ชั้นบนสุด
ตรงจุดกึ่งกลางโรงหนังพอดีเลย ไม่ได้อยู่บนเวที หรือหน้าจอหนังแต่อย่างใดเลย
ซึ่งในคอกฯนั้น มีคนอยู่สองคน กำลังยืนหันหน้าไปทางจอหนังอยู่
และตรงด้านหน้าของเจ้าโพเดี้ยมอันนั้น มันก็ถูกต่อเติมออกมา เป็นเก้าอี้ตัวเตี้ยๆอยู่ตัวหนึ่ง
และผมตัวเอง ก็กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวที่ว่านั้นแหละ

และบนจอหนัง แทนที่จะเป็นการฉายภาพยนตร์ กลับเป็นการฉายภาพ
ของคอกโพเดียมอันนั้นแทน ซึ่งก็สรุปว่า ทุกคนในโรงหนังนั้น
กำลังดูภาพของพวกเราสามคน ที่อยู่ใน และ นั่งอยู่หน้าโพเดียมนั้น
ทำการแสดงอะไรบางอย่างอยู่

คนสองคนที่อยู่ในโพเดียมนั้น ร้องเพลง "เต็มใจให้" ของ ศุ บุญเลี้ยง
ให้ตัวผมและให้ทุกๆคนฟัง จนจบเพลง แล้ว พอจบเพลง ผมก็ปรบมือให้
และทุกคนก็ปรบมือตาม

นึกออกไหม๊ครับ ว่าเพลง "เต็มใจให้" นั้น มันร้องว่าอย่างไร ?

"ฉันรู้ ควรรักเธออย่างไร เพราะรู้ความจริงเป็นเช่นไร
ฉันรักรักเธอ เพราะใจอยากให้ ใช่รัก เพียงเพื่อครอบครอง
ไม่เคยร้องขอรักตอบ ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด
เพียงเธอรับรู้ มีฉันคอยห่วงใหญ่ สิ่งนั้นมันมากมายเกินพอ"

ฯลฯ

เห็นไหมครับ ว่าคำตอบมันชัดมากเลย ว่าผมจะต้อง "เปลี่ยน" ความรักของผม
เป็นความรักแบบไม่มีเงื่อนไขให้ได้เท่านั้น ไม่ว่าน้องคนนั้น มันจะเป็นอย่างไรก็ตาม
หรือจะรักผมหรือไม่ก็ตาม ฯลฯ

และในขณะที่กำลังฝันฉากนี้อยู่ มันก็ยังมีฝันซ้อนขึ้นมาอีกสองฉากด้วยนะครับ

ฉากแรก เป็นฉากที่ว่า ผมกำลังอยู่ในห้องแล็ปกับเพื่อนๆและอาจารย์อยู่
อาจารย์เป็นผู้หญิง และกำลังสอนพวกเราทำกับข้าวอยู่
โดยอาจารย์ใช้กะทะใบหนึ่ง ผัดอะไรซักอย่างอยู่บนเตาไฟก็ไม่รู้
เพราะว่าไม่มีใครมองเห็นของในกะทะได้
เพราะว่าอาจารย์ใช้ถุงดำคลุมกะทะทั้งใบเอาไว้

แล้วสักพักหนึ่ง อาจารย์ก็ใช้มีดตัดแบ่งของในกะทะให้กับนักศึกษาทีละคนๆ
โดยตัดแบ่งให้ไปทั้งถุงดำอย่างนั้นแหละ แต่ว่าบางส่วนของสิ่งที่ตัดแบ่งไปให้นั้น
หลายคน ก็เห็นว่ามันยังไม่สุกดี ก็เลยทิ้งบางส่วนไว้ในกะทะต่อไป คนแล้วคนเล่า

และพอมาถึงผม ซึ่งเป็นคนสุดท้าย อาจารย์ก็เอาถุงดำออก
และก็ตักแบ่งส่วนที่เหลือทั้งหมด ให้กับผมหมดเลย
ซึ่งทุกๆส่วนของสิ่งที่อยู่ในกะทะนั้น รวมถึงสิ่งที่คนอื่นๆทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้
เพราะเห็นว่ามันยังไม่สุกดีด้วยนั้น บัดนี้ กลับสุกพอดีกินหมดเลย
และสามารถมองเห็นได้หมดเลย ว่ามันมีทั้งเนื้อกุ้ง เนื้อไก่ และปลาหมึกด้วย
หอมน่ากินเชียว

รู้ไหมครับ ว่าสัญญลักษณ์และหมายความของความฝันฉากนี้
มันหมายความว่าอย่างไร..

มันก็หมายความว่า สถานการณ์ใดๆก็ตาม ที่เรายังไม่รู้
ที่เราเห็นว่า มันไม่ดีไม่งาม เพราะว่ามีถุงดำปิดไว้อยู่นั้น
มันก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะต้องแย่ตามที่เราคิดและเข้าใจเสมอไป
เพราะว่าเมื่อมันถึงเวลาของมันแล้ว เราก็จะรู้เองนั่นแหละว่า
มันเป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของเราเองทั้งหมดทั้งสิ้น

ดังนั้น เราแค่จะต้องรอคอยให้ถึงวาระของมัน รอคอยให้มันสุกได้ที่ก่อนเท่านั้นเอง

และสำหรับฉากที่สองของฝันที่แทรกเข้ามาก็คือ ผมฝันไปว่า
ผมกำลังอยู่ในห้องทำงานห้องหนึ่ง ซึ่งทุกๆคนสวมสร้อยคอทองคำกันหมดเลย
แม้แต่เด็กส่งเอกสารก็ด้วย

และตัวผมเองกำลังสวมสร้อยคอทองคำเส้นใหญ่อยู่เส้นหนึ่ง
และในตู้เอกสารในห้องๆนั้น ก็มีเอกสารเก็บเอาไว้อยู่หลายชุด
ทุกๆชุดล้วนเขียนระบุปีที่เก็บเอาว่า "ปี 2014" หมดเลย

ความหมายในฝัน ของการสวมสร้อยคอทองคำสำหรับผมก็คือ
"การมีคู่" หรือ "คนรัก" ซึ่งนั่นก็แปลว่า คนรักที่ผมปราถนาที่จะเจอนั้นหนะ
บัดนี้ ผมก็ได้เจอแล้วไง และนั่นก็คือเจ้าน้องคนนั้นนั่นแหละ
เพียงแต่ว่า มันอาจจะไม่ใช่คู่รักในแบบที่จะได้อยู่ร่วมกันแบบคนอื่นๆเท่านั้นเอง

และก็อย่างที่ผมรู้สึกมาโดยตลอดว่า การมาพบกัน และได้มีประสบการณ์รักร่วมกัน
ของผมกับเจ้าน้องคนนี้หนะ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใดเลย
มันอาจจะเป็นพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณอย่างหนึ่ง ที่ผมกับน้องคนนี้
ได้ทำเอาไว้ร่วมกัน ก็เป็นได้ เพื่อช่วยให้ผม สามารถยกระดับ
ความรักแบบมีเงื่อนไขของตัวเอง ให้ไปเป็นแบบไม่มีเงื่อนไขให้ได้
และเพื่อให้ผม สามารถก้าวข้ามนิสัยขี้หวง ขี้หึง และ อยากเป็นเจ้าของ ของตัวเองไปให้ได้

และในทางกลับกัน ผมก็มีส่วนช่วยน้องคนนี้ในเรื่องของวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณด้วย
และเพราะฉะนั้น เด็กคนนี้ จึงมีความพิเศษและสำคัญไปไม่น้อยกว่าผมเลย
มันถึงได้มาเป็น "คู่ชก" และ "คู่ปรับ" ให้กับผมได้ เห็นไหมหละครับ..

เพราะมันเป็นหน้าที่ และ บทบาทการแสดงของเขา ที่เขาลงมาเกิด
เพื่อมาแสดงบทบาทนี้กับเรา ซึ่งก็เพื่อช่วยเหลือเรานั่นเอง

ในฝันของผม ผมยังมีความรู้สึกอีกนะครับว่า ผมหนะเป็นนักเรียนหัวดื้อคนหนึ่ง
และผมก็กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยปีที่ 4 เทอมแรกอยู่ ใกล้จะขึ้นเทอมสองแล้วด้วย
และดังนั้น โปรเจ็กที่ผมเลือกที่จะทำ ก็เลยต้องยากเป็นพิเศษกว่าใครเขา
เพราะว่าผมชอบความท้าทาย ว่างั้นเถอะ ดังนั้น ผมจึงเลือกที่จะมีประสบการณ์กับ
เรื่องราวความรักที่เจ็บปวด และเป็นไปไม่ได้แบบนี้ อะไรแบบนั้นหนะครับ

แต่ยังไม่สะใจพอนะ ในฝันนั้น ผมยังออกปากพูดมาอีกว่า เดี๋ยวเทอมสองนี้
จะทำโปรเจกที่พิศดารกว่านี้อีก คือจะปรุงอาหาร แล้วใส่ปลาร้าเข้าไป 4 รสชาติเลย
เพื่อให้มันพิศดาร ซึ่งน้อยคนจะกินได้ หรือ กินลง อะไรแบบนั้นหนะครับ
ซึ่งมาถึงตอนนี้ ตัวผมเองก็ยังนึกไม่ออกเลยนะครับ ว่าผมจะเจอเหตุการณ์อะไรอีกบ้าง
เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆแบบนี้ เพราะว่ามันจะประมาณว่า ผมนั่นแหละ ที่เป็นคนเลือกเอาความยาก
และความท้าทายแบบนี้มาเล่นเอง และ มาเรียนรู้เอง ฮิฮิ..สะใจดีไหมหละครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ในฝันนั้น เพราะว่าปี 2014 นี้ เป็นปีที่ผมจะเรียนจบในหลักสูตรนี้แล้ว
ดังนั้น มันก็อาจจะเป็นเหมือนกับข้อความจากต่างมิติหลายๆข้อความ
ที่กล่าวเอาไว้ว่า ปี 2014 นี้ ใครที่ผ่านกระบวนการชำระสะสางมาเยอะแล้ว
ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ ปีนี้ ก็จะได้พักผ่อนซะที
เพราะว่ามันจะเบาบางลงมากแล้ว อะไรแบบนั้นหนะครับ

ก็หวังว่ามันคงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆนะครับ

............................................
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=gfYwS0blgJY]เต็มใจให้ ศุ บุญเลี้ยง - YouTube[/ame]
เพลง : เต็มใจให้
ศิลปิน : ศุ บุญเลี้ยง

ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร เพราะรู้ความจริงเป็นเช่นไร
ฉันรักรักเธอ เพราะใจอยากให้
ใช่รักเพียงเพื่อครอบครอง

ไม่เคยร้องขอรักตอบ ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด
เพียงเธอรับรู้ มีฉันคอยห่วงใย
สิ่งนั้นมันมากมายเกินพอ

ขอเพียงได้คิดถึง แค่นี้ก็สุขใจ
แม้เธออยู่ไกลแสนไกล
แม้ใครอยู่ข้างเธอ

ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร จึงยอมเข้าใจทุกอย่าง
ไม่ช้ำไม่เสียใจ ไม่เคยบาดหมาง
ทุกอย่างเต็มใจให้เธอ

ขอเพียงได้คิดถึง แค่นี้ก็สุขใจ
แม้เธออยู่ไกลแสนไกล แม้ใครอยู่ข้างเธอ

ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร จึงยอมเข้าใจทุกอย่าง
ไม่ช้ำไม่เสียใจ ไม่เคยบาดหมาง
ทุกอย่างเต็มใจให้เธอ
ไม่ช้ำไม่เสียใจ ไม่เคยบาดหมาง
ทุกอย่างเต็มใจให้เธอ...

............................

 

อ่านเรื่องคุณชยุตแล้วนึกถึงตัวเองครับ เต็มใจให้เธอเสมอ อ่า อ่า

 

มันมีข้อความจากต่างมิติอยู่ข้อความหนึ่ง
ที่มาตอนที่ผมร้องขอคำชี้แนะไปพอดีเลย
แล้วพอวันรุ่งขึ้น เปิดเวปขึ้นมาก็เจอข้อความนี้พอดีแล้ว
ซึ่งพออ่านดูแล้ว มันก็จะรู้สึกซาบซึ้งใจ
ราวกับมามันถูกส่งมาเป็นคำตอบให้กับเราโดยเฉพาะเลยหละครับ

และผมก็ได้แปลเอาไว้ตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้โพสต์
เพราะกะ่ว่าจะรอให้ "ผลการพิสูจน์" ปรากฎออกมาซะก่อน

คือ..ในช่วงที่ผมกำลังอยู่ในระหว่างการปลีกวิเวกอยู่นั้น
ผมก็ได้ร้องขอคำชี้แนะอะไรบางอย่างเพิ่มเติมไปด้วย จากทวยเทพทั้งหลาย
และข้อความที่ผมกำลังจะโพสต์ต่อไปนี้ก็มาพอดีเลย

สรุปย่อๆของข้อความนี้ก็คือ ถ้าเราอยากจะเสริม หรือ ใส่พลังงานเข้าไป
ให้กับสถานการณ์ใดๆในชีวิตของเรา เพื่อให้มันเข้มแข็งขึ้น
หรือมีมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ก็ให้เรา "ใส่แสงสว่าง" เข้าไปให้มัน

ซึ่งผมก็ได้ทดลองมาหลายวันแล้ว ในสองสานเรื่อง
ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็คือเรื่องเงินๆทองๆนี่แหละครับ
โดยที่ผมทดลองจินตนาการไปว่า มีแสงสว่างจากจักระที่ 4 ของผม
แผ่ออกมาสู่กระเป๋าสตังค์ของผม ที่ผมกำลังถืออยู่ในมือ
จนมันสว่างไสวไปหมดเลย เพื่อที่จะให้มันมีมากขึ้น
หรืออะไรทำนองนั้น

อันที่จริงแล้ว ผมตั้งใจจะใช้ผลการถูกล็อตเตอรี่ที่เวียดนามนี่
เป็นตัวพิสูจน์หนะครับ เพราะว่าที่นี่ ล็อตเตอรรี่ออกทุกวันๆหละ 2-3 จังหวัดด้วย
คือแต่ละจังหวัดก็จะมีการออกล็อตเตอรรี่เป็นของตัวเองหนะครับ
โดยเวียนไปเรื่อยๆ ทุกๆวัน วันละ 2-3 จังหวัดอะไรแบบนั้น

ดังนั้น ผมจึงมองว่า โอกาสที่จะถูกมันก็เลยมีอยู่ทุกวัน
อันนี้ไม่คิดเป็น % ของความน่าจะเป็นนะครับ
เพราะว่ามันก็ต้องมีน้อยเป็นธรรมดา
แต่ผมมองในแง่ของ กฎแห่งการดึงดูด และ synchronicity
ที่เรียกกันว่า การสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
อะไรทำนองนั้นมากกว่า

แต่จนป่านนี้ผมก็ยังไม่ถูกเลยซักครั้ง ฝึกมาก็ร่วม 20 วันแล้ว
(แต่บางวันก็ลืมฝึกก็มี)

แต่เมื่อสองวันก่อน ทางบริษัทที่ผมกำลังทำงานอยู่นี้
เรียกให้ไปรับเงิน 5 ล้านด่องเวียดนาม ซึ่งก็ราวๆ 7000 บาทไทย
เพราะว่าเป็นเงินรางวัลอายุงานครบ 5 ปี หนะครับ
ซึ่งเงินก้อนนี้ผมรู้มาก่อนแล้วหละว่าผมจะได้
แต่ก็นึกว่าเขาโอนรวมไปกับเงินเดือนและโบนัสให้เรียบร้อยแล้ว
เลยไม่คิดว่าจะได้รับมาเป็นเงินสดแบบนี้

และ..ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่การถูกล็อตเตอรรี่อย่างที่ผมตั้งใจเอาไว้ก็ตาม
แต่ผมก็อยากจะขอถือว่า นี่ก็เป็นโชคอย่างหนึ่งของผมด้วยเหมือนกัน
อันเกิดจากผลของการดึงดูด/การฝึกตามวิธีดังกล่าวนี้
เพื่อที่จะจูงใจให้ตัวผมเอง เชื่อมั่นมากขึ้น ในพลังอำนาจ
ของ "แสงสว่าง" หนะนะครับ

............................................

 

ข้อความสื่อสารจากต่างมิติ
เรื่อง ทำให้แสงสว่างเกิดขึ้นจากภายใน แล้วแผ่ออกมาสู่ภายนอก
(Lighting Up From The Inside Out)

วันที่: 4 กุมภาพันธุ์ 2014
ผู้รับสาส์น: Ann

ที่มา:
Lighting Up From The Inside Out | IN SERVICE TO SPIRIT




(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

เพื่อนๆที่รักทั้งหลาย พวกเรารักพวกคุณเหลือเกิน

ในหัวใจของพวกคุณ มันจะมีประกายแห่งแสงสว่าง
ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ต้นตอของตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเองอยู่
มันคือแสงสว่างแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า
มันคือพลังงานอันบริสุทธิ์ที่ไม่มีใครยิ่งกว่า
ซึ่งเป็นที่ๆพวกคุณถือกำเนิดมา
มันคือแสงสว่างที่สร้างสรรค์พวกคุณขึ้นมา
และมันก็คือแสงสว่างที่ๆพวกคุณจะต้องกลับเข้าไปสู่ ในสักวันหนึ่ง

มันคือแสงสว่างที่คอยชี้นำทางให้แก่พวกคุณอยู่
มันคือแสงสว่างที่เยียวยารักษาพวกคุณ
และคอยย้ำเตือนพวกคุณอยู่เสมอว่า แท้ที่จริงแล้วพวกคุณเป็นใคร

จงใช้เวลาสักครู่ เพื่อสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ
แล้วจินตนาการว่าแสงสว่างอันนี้
มันกำลังสว่างไสวเรืองรองอยู่ภายในหัวใจของพวกคุณ
และมันก็กำลังสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆอยู่

จงจินตนาการว่า ความสว่างไสวของมัน
กำลังแผ่ขยายออกมามากขึ้นเรื่อยๆอยู่
จนเต็มทรวงอกของพวกคุณ แล้วล้นทะลักออกมา
นอกขอบเขตของร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ออกมาสู่โลกภายนอก และกำลังขยายขอบเขตออกไป
กว้างไกลมากขึ้นเรื่อยๆๆ และสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆๆด้วย

จงจินตนาการว่า แสงสว่างอันนี้
มันกำลังค้นหาพื้นที่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความหนาแน่น ทึบตัน
หรือที่กำลังเกร็งไปด้วยความกลัวอยู่

จงจินตนาการไปว่า มันกำลังไปทำให้บริเวณเหล่านี้
หรือจุดที่มืดบอดเหล่านี้ ค่อยๆอุ่นขึ้น แล้วสูญสลายไปในที่สุด

จงจินตนาการไปว่า แสงสว่างที่ว่านี้ กำลังสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกๆครั้งที่พวกคุณสูดลมหายใจเข้าไปอยู่

ดังนั้น เมื่อพวกคุณหายใจเข้า จงยินยอมให้มันสว่างไสวมากขึ้น
และเมื่อหายใจออก จงยินยอมให้สิ่งใดก็ตาม
ที่มีระดับความสั่นสะเทือนน้อยกว่าแสงสว่างอันนี้
ถูกปลดปล่อยออกไป

คราวนี้ ให้นึกถึงสถานการณ์ใดก็ตามของตัวเอง
ที่พวกคุณปราถนาที่จะเยียวยารักษามัน หรือช่วยเหลือมัน
หรือทำให้มันดีขึ้น ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องของสัมพันธภาพ
หรือเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน
หรือเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ที่พวกคุณกำลังใฝ่ฝันที่จะมี-จะเป็นอยู่
ซึ่งชอบเรื่องไหนก็ให้จินตนาการถึงเรื่องนั้น

แล้วคราวนี้ ก็ให้จินตนาการไปว่า
พวกคุณสามารถเด็ดเอาประกายแห่งแสงสว่างอันนี้
ออกมาจากหัวใจของตัวเองได้ประกายหนึ่ง
แล้วนำเอาไปวางไว้ในสถานการณ์ที่เลือกมานั้นๆ

ซึ่งถ้าเป็นเรื่องของสัมพันธภาพ ก็ให้จินตนการไปว่า
พวกคุณนำเอาประกายแห่งแสงสว่างอันนี้
ไปวางไว้ในพลังงานที่อยู่ระหว่างพวกคุณสองคน

แต่ถ้าเป็นเรื่องทางด้านการเงิน ก็ให้จินตนาการไปว่า
พวกคุณนำเอาประกายแห่งแสงสว่างอันนี้
ไปวางไว้ในบัญชีธนาคารของตัวเอง หรือในธนบัตรของตัวเอง

(หมายเหตุ: หรือเอาไปวางไว้ในกระเป๋าสตางค์
หรือตะกร้าใส่เงิน หรือลิ้นชักเก็บเงิน หรือตู้เซฟ
ฯลฯ ก็ได้ – ผู้แปล)

แต่ถ้ามันเป็นเรื่องของสถานะ
หรือสิ่งที่ต้องการจะมี-จะเป็นหละก็ ก็ให้จินตนาการไปว่า
พวกคุณนำเอาประกายแห่งแสงสว่างอันนี้
ไปวางไว้ในสิ่งนั้นๆแทน

แล้วจากนั้น ที่รักทั้งหลาย ตอนที่พวกคุณหายใจเข้า
และทำให้แสงสว่างของตัวเองสว่างไสวมากขึ้นอยู่นั้น
ก็ให้พวกคุณจินตนาการไปว่า ประกายแห่งแสงสว่างอันนี้
ก็กำลังสว่างไสวเรืองรองมากขึ้นตามไปด้วยด้วย
และก็กำลังไปทำให้สิ่งที่พวกคุณปราถนา
ที่จะมี-จะเป็นในชีวิตเหล่านั้น สว่างไสวมากขึ้นตามไปด้วยด้วย

เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว
เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณทำให้แสงสว่าง, ความรัก,
ความสงบสุข, ความเบิกบานของตัวเอง
มีเพิ่มมากขึ้นแล้ว ก็เท่ากับว่า
พวกคุณ ได้ทำให้แสงสว่างของสิ่งที่พวกคุณปราถนาเหล่านั้น
มีมากขึ้นตามไปด้วย โดยปริยาย

จงจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกเดี๋ยวนี้เลย
ให้นานที่สุดเท่าที่พวกคุณต้องการ
แล้วจงยินยอมให้แสงสว่างอันนี้
กลายเป็นเชื้อเพลิงแผดเผาความมืดมิดใดๆ
ที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อ, ในจิตใจ, ในหัวใจ, ในจิตวิญญาณ,
หรือในชีวิตของพวกคุณให้หมดไป

และเมื่อใดที่พวกคุณเติมเต็มแสงสว่างอันนี้ให้กับตัวเองแล้ว
ทุกๆแง่มุมของชีวิตของพวกคุณ
ก็จะถูกเติมเต็มไปด้วยแสงสว่างอันนี้ด้วย เช่นเดียวกัน

จงทำสิ่งนี้บ่อยๆ แล้วจงคอยดูชีวิตของพวกคุณเปลี่ยนไป
เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของพวกคุณ
จะเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างง่ายดายกว่า
ถ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงจากข้างใน ไปสู่ข้างนอก

ขอให้พระเจ้าประทานพรให้แก่พวกคุณ
พวกเรารักพวกคุณมากเหลือเกิน


The Angels

...........................

 

ขอบคุณเป็นอย่างมาเลยครับ ผมงงกับเรื่องการใช้แสงสว่างแบบนี้มาตั้งนาน ตอนนี้
เข้าใจแจ่มแจ้งเลยทีเดียว

 

ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

SaLuSa, February 21, 2014

You are present on Earth at a most important time, and as Lightworkers many of you have specific roles to play to help manifest the changes. Each of you volunteered to serve the Light at such an important time, and be assured that every contribution is essential to the whole. Providing you can stay focused on your task, you will be doing your bit to help bring about the changes that are essential to manifest the Light. It is a fact that because so many individuals are helping in this way, that the dark Ones are losing their battle to maintain their rule. Although they concentrate on the larger picture, we have them under total observation and are fully aware of their plans. Our combined efforts will eventually result in a bloodless coup that will force the dark Ones to accept their defeat. They will be totally overwhelmed by the progress made by us, and we know exactly when to play our hand.

ตอนนี้คุณอยู่ในช่วงที่สำคัญที่สุดของโลก, และขณะที่ผู้ทำภารกิจแสงทั้งหลายกำลังมีบทบาทตามลักษณะเฉพาะทางต่างๆของแต่ละคน, ในการแสดงบทบาทของผู้ช่วยเหลือและเปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น. แต่ละคนอาสาที่จะสนับสนุนแสงสว่างในช่วงเวลาที่สำคัญนี้, โปรดจงมั่นใจว่าทุกๆการสนับสนุนนั้นสำคัญต่อกันทั้งหมด. การจัดเตรียมให้คุณได้ใช้ชีวิตโดยสามารถเพ่งความสนใจไปกับภารกิจแสงสว่าง, คุณจะกำลังทำทีละน้อยในการช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่สำคัญเพื่อที่จะเปิดเผยถึงแสงสว่าง, มันคือข้อเท็จจริงที่ว่า เป็นเพราะผู้เป็นปัจเจกมากมายกำลังช่วยเหลือในเส้นทางนี้, ขณะที่ฝ่ายมืดต่างๆกำลังสูญเสียยุทธการของพวกเขาในการรักษาไว้ซึ่งกฎต่างๆ, ถึงแม้ว่าพวกเขาจะให้ความสนใจไปที่ภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น, เราก็สามารถสังเกตการณ์พวกเขาได้ทั้งหมด และรู้ทราบถึงแผนการต่างๆของพวกเขาอย่างละเอียด. ความพยายามต่างๆของฝ่ายแสงสว่างที่มารวมเข้าด้วยกันจะเป็นผลให้ในท้ายที่สุดเกิดผลสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์โดยไม่เสียเลือดเนื้อ, ซึ่งจะบีบให้ฝ่ายมืดต่างๆยอมรับความพ่ายแพ้ของพวกเขา. พวกเขาจะถูกทำให้พ่ายแพ้ทั้งหมดโดยความก้าวหน้าไปของแผนงานของเรา, และเรารู้อย่างละเอียดว่าเมื่อไหร่จะถึงตาเราที่จะรุกคืบต่อไป

The situation upon Earth is demanding a lot from you, but bear in mind that there are immense changes taking place. You may rest assured that the outcome is known by us and indeed often set up with our help. So do not be distracted by what is happening around you, knowing that a successful outcome has already been planned. We are obviously aware that the dark Ones will fight to the bitter end, but we have matters under control and we will not allow them to get out of hand. For karmic reasons we cannot interfere in some matters that have to play themselves out to clear outstanding responsibilities.

สถานการณ์บนโลกกำลังต้องการความช่วยเหลือจากคุณทั้งหลายอย่างมาก, โปรดจำไว้ว่า กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารมากมายเกิดขึ้น. โปรดวางใจในผลลัพท์ที่เรารู้ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น และบ่อยครั้งจริงๆที่เราช่วยเหลือให้มันสำเร็จไปที่ละขั้นแล้ว. ดังนั้นโปรดอย่าไขว้เขวกับอะไรที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวคุณ, โปรดรู้ว่าผลลัพท์ที่ประสบความสำเร็จได้ถูกร่างแบบแปลนไว้แล้ว. เราสังเกตได้ว่าฝ่ายมืดต่างๆกำลังต่อสู้กับจุดจบที่น่าขมขื่น, มีเรื่องมากมายที่อยู่ในการควบคุมของเราแล้ว และเราจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปได้. สำหรับเหตุผลต่างๆทางเคราะห์กรรม, เราไม่สามารถเข้าไปยุ่งในบางเรื่อง ที่พวกเขาต้องรับผิดชอบกรรมของพวกเขาที่ยังไม่ได้ชำระ

As the vibrations begin to lift upon Earth some of you will find that your psychic powers increase, and that generally you are becoming more intuitive. It will help you to decide what to do when faced with a number of choices, and you will be able to go forward with confidence. Remember that we are also on hand and never far away if you require some help. However, do not try to anticipate exactly how it would be given or when, simply accept that we will do what is best for you. We have the advantage of being able to see the larger picture and act accordingly. Sometimes for example we need to introduce changes in your life, and getting them into place can be difficult. Humans seem to have a strong mindset and do not always welcome change.

ขณะที่การสั่นสะเทือนต่างๆเริ่มที่จะยกระดับขึ้นบนโลก, คุณหลายๆคนจะพบว่าพลังงานต่างๆทางจิตวิญญาณนั้นเพิ่มขึ้น, ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคุณจะสามารถหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณได้มากขึ้น. มันจะช่วยคุณในการตัดสินใจว่าจะทำอะไรเมื่อต้องเผชิญกับทางเลือกต่างๆ, และคุณจะสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ. โปรดจำไว้ว่าเราเตรียมพร้อมเสมอ และไม่เคยไปไหนไกลเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือบางอย่าง. อย่างไรก็ตาม, โปรดอย่าพยายามคาดหวังล่วงหน้าอย่างชัดเจนเกินไปว่าคุณจะได้รับการช่วยเหลืออย่างไรและเมื่อไหร่, โปรดยอมรับในความเรียบง่ายว่า เราจะทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ. เรามีความล้ำหน้าทางรูปธรรมชีวิตที่สามารถเห็นภาพในมุมกว้างและกระทำให้สอดคล้องกัน. ยกตัวอย่าง: เราจำเป็นที่จะต้องแนะนำการเปลี่ยนแปลงต่างๆในชีวิตของคุณ, และรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆไปสู่สถานการณ์ที่ยากขึ้น. เพราะมนุษย์ทั้งหลายคล้ายจะมีหลักความเชื่อที่แข็งแกร่ง และมักจะไม่ยินดีต้อนรับการเปลี่ยนแปลง.

Time is still speeding up but you are now getting used to coping with it. It means being better organized and making full use of it. In the future you will live in an entirely different time, where the day to day chores that you now experience will no longer be necessary. Most of your needs will simply be provided by pure thought and it will be instantaneous. Even now you often unknowingly project powerful ones that do bring you the results you desire. That is why we already advise you to carefully watch your thoughts, as you have more power than you presently realise. In time you will be able to control them, and at a certain high level of vibration nothing less that positive ones would enter your mind. Already those souls on the path of Light are subconsciously or consciously working towards a condition which excludes anything of a negative nature.

เวลายังคงเร่งความเร็วขึ้น, แต่คุณตอนนี้กำลังคุ้นเคยกับมันและรับมือได้. มันหมายถึงกำลังถูกปรับระบบให้ดีขึ้น และเปิดระบบทั้งหมดด้วย. ในอนาคต คุณจะอยู่ในเวลาที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง, ที่ซึ่งวันที่ผ่านไปทีละวันอันน่าเบื่อต่างๆที่คุณกำลังมีประสบการณ์อยู่ตอนนี้จะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป. ความจำเป็นต่างๆส่วนใหญ่ของคุณจะถูกจัดเตรียมอย่างเรียบง่ายโดยความคิดที่บริสุทธิ์ของคุณ และมันจะเป็นเช่นนั้นในพริบตาเดียว. แม้ว่าตอนนี้คุณจะยังไม่รู้ถึงกำลังอำนาจทางความคิดที่จะนำคุณไปสู่ผลลัพท์ต่างๆที่คุณปราถนา. นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้แนะนำให้คุณเฝ้าดูความคิดต่างๆของคุณอย่างระมัดระวัง, ขณะที่คุณมีพลังงานมากขึ้นกว่าที่คุณเคยตระหนักไว้เมื่อเร็วๆนี้, ไม่ช้าก็เร็วคุณจะสามารถควบคุมพลังงานต่างๆของคุณได้, และในระดับที่ชัดแจ้งของการสั่นสะเทือนขั้นสูงนั้น จะไม่มีอะไรที่น้อยกว่าความเป็นด้านบวกต่างๆที่จะเข้าสู่จิตใจของคุณ, วิญญาณต่างๆที่อยู่บนเส้นทางแสงสว่างแล้วนั้น, ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวล้วนกำลังทำงานไปสู่สภาวะ ที่ซึ่งปราศจากอะไรก็ตามที่มาจากธรรมชาติด้านลบ.

If what is expected of you sounds difficult or demanding, be assured that all changes will manifest when you are ready. No one will rush you into phases of upliftment until you are, and much help is always available to you. The fact that you are here at this most important time, is in itself a sufficient indication of your ability to make adequate progress Needless to say, every contribution is helping the Light to manifest and spread the knowledge that will establish the truth of your history and the future that awaits you. We have told you many times that nothing happens by chance that impacts upon your life. All happens for a reason and is intended to further your progress towards the Light.

ถ้าอะไรที่ถูกคาดหวังกับคุณดูเหมือนยากเกินไป, โปรดมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะปรากฏให้เห็นเมื่อคุณพร้อม. ไม่มีใครจะเร่งเร้าคุณให้เข้าสู่ระยะต่างๆของการยกระดับจนกระทั่งคุณเข้าสู่เอง, และความช่วยเหลือมากมายนั้นเตรียมพร้อมไว้แล้วเสมอสำหรับคุณ. ความจริงที่คุณอยู่ที่นี่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนี้, ความจริงนั้นอยู่ในความสามารถที่เป็นตัวชี้บอกที่เพียงพอในตัวของคุณเอง ที่คุณจะสามารถก้าวหน้าไปได้เองถึงขั้นที่เพียงพอโดยไม่จำเป็นต้องพูดเลย, ทุกๆการสนับสนุนกำลังช่วยเหลือแสงสว่างเพื่อที่จะเปิดเผยให้เป็นที่ปรากฎและแพร่กระจายความรู้ที่จะก่อตั้งความจริงในประวัติศาสตร์ของคุณ และอนาคตที่กำลังรอคุณอยู่. เราได้บอกคุณหลายครั้งว่า ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นและเข้ามากระทบชีวิตของคุณโดยบังเอิญเลย. ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมีเหตุผล และมุ่งหน้าไปสู่ความก้าวหน้าที่มากขึ้นไปอีกของคุณเพื่อไปสู่แสงสว่าง.

We will confirm once again that President Obama is playing a major role in bringing the Light to Earth, and in a holding position that will ensure the truth comes out. More importantly he is also playing a balancing game between the dark and Light, until the time is right for the next great step to be taken. As you must realise from past experience, we have inexhaustible patience and no move is made until the outcome can be assured. After such a long time working to turn the tide, we are not going to make any errors now that the finishing line is in sight. Your patience has worn thin at times, but we have been overjoyed at the rising levels of understanding that you have achieved.

เราจะยืนยันอีกครั้งว่า ประธานาธิบดีโอบาม่ากำลังแสดงบทบาทที่สำคัญ, ในการนำพาแสงสว่างมาสู่โลก, และในตำแหน่งหน้าที่ที่จะทำให้แน่ใจว่าความจริงจะปรากฎ. ที่สำคัญมากกว่านั้นคือ เขาจะทำให้เกมส์มีความสมดุลระหว่างฝ่ายมืดและฝ่ายแสงสว่าง, จนกระทั่งเวลานั้นที่ถูกต้องเหมาะสม สำหรับขั้นตอนต่อไปที่สง่างามจะได้เกิดขึ้น. ขณะที่คุณต้องตระหนักจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีต, ว่าเรามีความอดทนที่ไม่รู้จักสิ้นสุด และไม่ย้ายไปไหนจนกระทั่งผลลัพท์สามารถเป็นที่แน่ใจ. หลังจากที่ผ่านมาอย่างยาวนานในการทำภารกิจ, เราจะไม่ทำอะไรที่มันผิดพลาดตอนนี้ เพราะเส้นชัยนั้นอยู่ข้างหน้าแล้ว. ความอดทนของคุณลดลงไปบางครั้งบางคราว, แต่เราได้กำลังดีใจเหลือเกินกับระดับความเข้าใจต่างๆที่สูงขึ้นที่คุณได้ลุล่วงไปแล้ว.

I am SaLuSa from Sirius, and pleased to tell you that we have tight control over the activities of the dark Ones. If you get the impression that we do not, be aware that by seemingly allowing them to proceed with their plan, we are setting them a trap. By the time they realise how they have been fooled, it will be too late for them to recover. Then at last we shall have the stage to ourselves and rapidly proceed with the changes that have been long awaited. It will be a most exhilarating time with great happiness and joy.

ฉันคือ SaLuSa จาก Sirius, และรู้สึกยินดีที่ได้บอกคุณว่า, เราได้ควบคุมอย่างกวดขันบนกิจกรรมต่างๆที่เสี่ยงต่อการก่อชนวนของฝ่ายมืดทั้งหลาย. โปรดรู้ว่ามันอาจดูเหมือนเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ทำตามแผนของพวกเขาให้สำเร็จ, แต่เราได้สร้างกับดักไว้แล้ว. เมื่อนั้นฝ่ายมืดจะรู้ว่าพวกเขาติดกับดักเอง, และมันจะสายเกินไปที่จะแก้ไข. และในที่สุด เราจะคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่รอคอยมานานแล้ว. มันจะเป็นเวลาที่เบิกบานใจด้วยความสุขที่งดงามและสนุก.

Thank you SaLuSa.
Mike Quinsey
Website: Mike Quinsey - SaLuSa, February 21, 2014

 

.............
เราจะยืนยันอีกครั้งว่า ประธานาธิบดีโอบาม่ากำลังแสดงบทบาทที่สำคัญ, ในการนำพาแสงสว่างมาสู่โลก, และในตำแหน่งหน้าที่ที่จะทำให้แน่ใจว่าความจริงจะปรากฎ. ที่สำคัญมากกว่านั้นคือ เขาจะทำให้เกมส์มีความสมดุลระหว่างฝ่ายมืดและฝ่ายแสงสว่าง....

+++ขอเป็นกำลังใจให้ท่านประธานาธิบดี ทำงานให้สำเร็จโดยเร็ว+++

 

Demystifying The New Age - Part 1

Demystifying The New Age - Part 1 > Kryon

Kryon เจ้าเก่าเจ้าเดิมเชิญเสพได้เต็มที่เช่นเคย

pig_ballet