ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ครับ ท่าน อ.มนัส โอภากุลพ่อของพี่แอ๊ด คาราบาว หรือ คุณยืนยง โอภากุล เป็นปรมาจารย์ที่น่านับถือมาก ๆ ครับ แต่ตอนนี้ท่านได้จากโลกนี้ไป ขึ้นไปไหว้พระบนสวรรค์แล้วครับ ในวงการพระเครื่องหาคนดี ๆ อย่างท่านยากส์ครับ

 

...อ้าว..ตาย..หะ...
ตกข่าว..พี่ไม่รู้เรื่องเลย..ขออภัยท่านผู้อ่านท่านอื่นด้วย
...ผมออกนอกวงการไปนาน...ไม่ค่อยได้ติดตตามข่าวคราว..
...ขอบคุณ..กำธรน้องรัก..ที่ช่วยบอก.....
.....ถ้าหมดท่านนี้แล้ว...สรุป..ท่านอื่นไม่ต้องไปหาหรอก..

 

.................
..หวัดดี..เดินตามพระ..TEERA..น้องรุ่ง..และ..กำธรน้องรัก..
..........................
...ต่อจากตอนที่แล้ว.....
............................
..............................................................
......หลายคน..ก็สงสัยว่า...เอ้าแล้วเค้ากะยังไง..ถึงได้..ปีกที่ยื่นออกมาใกล้เคียงกัน...
ในเมื่อ..มันมองไม่เห็นกรอบพิมพ์..แล้ว...ก็ไม่ยาก....เพียงแค่...ขีดลากแนวขนานกับกรอบพิมพ์
ไว้..เช่นให้ห่างออกมาเท่าๆกันซัก..ครึ่งหุน(๑/๑๖นิ้ว)...เวลากดพิมพ์แล้ว..ก็พยายามให้ดินที่กด
อยู่ประมาณเส้นนี้...แค่นี้..ปีกพระก็จะยื่นออกมา..เท่าๆกัน..โดยประมาณ..โดยที่พระจะติดพิมพ์
ทั้งหมดแน่นนอน...แต่เวลากดจริงๆ...มันก็ทำได้..แค่บางส่วนของพิมพ์..เนื่องจากต้องทำเป็น
จำนวนมาก..จะมาไล่ทุกจุดก็ไม่ไหว............
.............นี่จึงเป็น..สิ่งที่ซ่อนอยู่..ของพระรอด....
..คือจริงแล้วมันเป็นเรื่องธรรมชาติ..ในการทำงาน...ที่ต้องการความสะดวก..และ..รวดเร็ว...
....ท่านผู้อ่าน..ก่อนอื่นต้องเอาใจเขา..มาใส่ใจเราก่อน...ต้องนึกถึงว่า..ถ้าเราเป็นคนกดพิมพ์..
...มันจะเกิดอาการอะไรบ้าง...ต่อให้มีคนมาสับเปลี่ยนก็ตาม..แต่รับรองว่า..แต่ละคาบที่ทำ..
..คงต้องกด..เป็น..ร้อยองค์แน่..ถึงจะได้พัก..มีคนมาเปลี่ยน.....
.........งานแบบนี้..เวลาก็เป็นเครื่องกำหนดส่วนนึง..ก็คือ..เมื่อดินผสมพร้อมที่จะทำแล้ว....
..ก็คงต้องลงมือ..ทำต่อเนื่องให้เสร็จ...ดังนั้น..จะทำมาละเลียดทำอยู่ไม่ได้..ก็ต้องใช้ความเร็ว
ด้วย..รวมถึง..คุณภาพงาน..ก็ต้องออกมาดีด้วย.....
....ดังนั้นถ้าคุณเป็นช่างกดพระ...คุณก็คงอยากทำให้แบบ..ทีเดียวจบ..คือ..
.....กด..ได้อย่างรวดเร็ว...กดทีเดียว...แกะพระ..ออกจากพิมพ์....พอดี..ตามาตรฐานที่ตั้งไว้..
...แล้วองค์ประกอบ...ที่จะทำให้เป็นอย่างงั้นบ้าง...ก็ลองมาดู
๑. ดิน.ที่คุณหยิบ..๑ ก้อน..ควรจะเป็นปริมาณ..พอดี..ที่..จะทำออกมาได้..ดี..ไม่มากไป
น้อยไป.......
...........อันนี้มันไม่ยาก..เพราะ..แรกๆมากไป..ล้นไปเยอะ..อาจต้อง..มาตัดปีก...หรือ..ไม่งั้นก็ต้อง
ปั้นหลังอูมๆ..จะได้..ไม่ต้องตัดปีก...น้อยไป..อันนี้..ต้องถอดพระออกมาก่อนเลย..เพราะถ้าใช้
วิธี..เอาดินอีกก้อน..มากดเติมให้เต็ม..เนื้อพระ..จะสมานกันไม่ดี..แค่เอาไปตาก..พอน้ำระเหยไป
..เนื้อพระส่วนแรกกับส่วนที่สองก็จะเริ่มแยก...พอเอาไปเผาก็เรียบร้อยเลย..เนื้อทั้งสองส่วน
อ้าออกจากกัน..พระเสีย......เพราะเวลาก่อนกด..นั้นผู้กด..ที่หยิบดินมาก็ต้องนวดดินอีกครั้ง..
จนแน่ใจว่า..เนื้อสมาน..เพื่อให้เนื้อสมานเป็น หนึ่งเดียว
..................ต่อตอนหน้า.................

 

พี่มดนี่เก่งจริงๆครับ ผมแอบเข้ามาอ่านบ่อยๆ นับถือจริงๆเลยครับ

 

***ขอสนับสนุนอีกหนึ่งเสียงครับ ***

 

...........
...ขอบคุณครับ..สำหรับ..คำชม..คุณมะบอม....
...เรื่องเก่ง..นี่..ผมขอรับ...ครึ่งเดียว......
..ถ้าอึดนี่แหละ..แน่นอน...ก็เพราะผมไม่เก่งอะไร..เพียงแต่
..ถ้าผมสงสัย..ผมกัดไม่ปล่อย..ผมต้องรู้ให้ได้..และ..ต้องลองทำด้วยตนเอง..ให้ได้..ผมถึงจะเชื่อมั่น...คนเก่ง..อาจคิดเร็วกว่าผม...
..ผมคิดนาน..และ..คิดทุกแง่ทุกมุม..เพื่อปิดกั้น..ความผิดพลาด
..และความบกพร่อง..ในความคิดนั้นๆ..เท่านั้นเอง....
....อีกอย่างคือ..ผมมีต้นทุนดี..เพราะเล่นพระ..มายาวนานมากกว่า ๔๐ ปี..เห็นอะไร..มาเยอะ..และไม่เชื่อใครง่ายๆ..มาตั้งแต่เริ่มเล่นพระ
...สงสัยตลอดเวลา...อาวุธประจำกาย..คือ..ความกลัว....
...กลัวผิดพลาด...เพราะมันจะบั่นทอน..ความเชื่อมั่นของตนเอง

 

..................
........................
......"รารัก"....ไม่ใช่.."รา"...และ..ไม่ใช่.."รัก".......
.........แต่นักเลงพระ..รัก..เพราะ..ถ้าไม่มีมัน......
...............คุณต้องอกหัก...แน่นอน..........
......ไว้ว่างๆ....จะเล่าให้ฟัง............

 

พี่มดเป็นคนรอบคอบและเก๋าเกมมากครับ จะรอติดตามอ่านผลงานอยู่เนืองๆครับผม

 

เรียนพี่ท่าน
ติดตามมาทุกตอน และชอบเรื่องราวของหลวงพ่อทองศุข พอดีใด้เมียบ้านท่าตรงข้ามวัดตะโนดหลวงนั่นแหละ ที่บ้านลูกหลานห้อย ลพศุขกันทุกคนผมเองก็ใด้ตระกรุดโทนมาจากพ่อตายังใช้เดินทางรอบโลกมาหลายครั้ง

ตอนนี้ขอรบกวนท่านพี่อยากใด้ความรู้พระกรุนาดูนพอจะไห้วิทยาธานความรู้กับข้าน้อยบ้างใหมครับ

 

.....ยินดีต้อนรับครับ..คุณbigkk..
..ขอบคุณครับ..ที่ติดตามอ่าน.....
.....นี่ก็เป็น ๑ ใน..หลายกรุ...ที่ผมไม่ถนัดครับ....
...เพราะ..สมัยก่อนนะ..ไม่ใช่หาดูง่ายๆ..ไอ้ที่แปลกคือ...
..คนไม่ค่อยชอบห้อย..แต่ชอบเก็บไว้..นี่เรื่องจริงนะ...
ไม่รู้ทำไม...ความจริงผมก็..สนใจ..ทั้งพุทธศิลป์..และ..ความเก่าแก่..
..ก็นับว่า..น่าจะเก่าสุดของ..ภาคอีสานมั้ง..(ทวาราวดี)..
...ไอ้ผมมันประเภท..ถ้าได้ดูแค่รูป..แถม..เห็นตามแผงที่ไม่สามารถ
ไว้วางใจได้เต็มที่..ผมเลยคิด..ว่า..กูไม่สนซะดีกว่า...
....ยิ่งสมัยก่อน..เน็ตไม่มี..ภาพลงก็ไม่ค่อยชัด...
....นั่นแหละครับ..ขออภัยด้วย..แล้วเมื่อสมัยก่อนนะ..ขนาด
ตามแผง..ยังหาดูยากด้วย...ก็เลยบ็ายบาย..

 

.........
...หวัดดี..น้องรุ่ง..มะบอม..และ..กำธรน้องรัก..
..............................
....ต่อจากตอนที่แล้ว........
...........................

.....................................
..........................................................
....คนโบราณ..และ..มีความเป็นช่าง..มีSENSE..ของทักษะเหนือ..คนยุคนี้มากมาย...
...เขาทำ..๕-๖ องค์..ก็คงกะได้พอดีแล้ว......
...๒. กดไม่กี่ครั้ง..ก็ติดพิมพ์ได้ทั่วถึง..ไม่ต้องมาเสียเวลาปั้นตบแต่งอะไร...
..ก็แน่นอน..ถ้ามัวมาประดิษฐ์ประดอย..ก็เสียเวลาโดยใช่ที่...และพระ..อย่าง..พระรอด..
เรียกว่า..สัดส่วนแปลก..กว่า..พระพิมพ์อื่น....
........เพราะ...พระพิมพ์อื่นๆ..นั้น..มีทั้ง..แบบที่เรียกว่า...
.........นูนต่ำ..(LOW RELIEF)..เช่น..กำแพงเม็ดขนุน..ทุ่งเศรษฐี....
.........นูนสูง..(HIGH RELIEF)..อย่าง..ถ้ำเสือ....
...แต่นี่..เป็น...VERY HIGH RELIEF..คือ..แทบจะเป็น..ROUND RELIEF หรือ..รูปลอยตัว
...อยู่แล้ว..เพียงแต่..เหมือนกับ..พระนั่งพิงผนัง..อะไรซักอย่าง...
...คือ..พยายามทำให้..สัดส่วน...เหมือน ๓ มิติจริงๆ..ดังนั้น..ส่วนที่เป็นบัลลังก์..หรือ
ฐานพระ..จึงยื่นออกมาเหมือนจริงตามหน้าตัก(ตำแหน่งเข่าเป็นตัวกำหนด)พระที่นั่งขัดสมาธิเพชร
...ส่วนไอ้ที่จะให้เหมือนไม่ได้ก็คือ..ต้องทำเป็นเหลี่ยม..เพราะทำเป็น..โค้งไม่ได้..
..เพราะจะถอดพิมพ์..ไม่ได้เท่านั้น.......
.........แต่คงเป็นด้วยผลจากความบังเอิญ..จาก..ขั้นตอน..การถอดพิมพ์..การจับพระ..เอามาตาก..
...มันทำให้...สิ่งที่นักเลงพระสมัยก่อน..และ..สมัยนี้บางคน..ข้องใจว่า..มันเป็นได้ยังไง...
....หรือ..เขาทำได้ยังไง...เพราะสิ่งนี้..จะไม่เกิดกับ..พระพิมพ์ไหน..หรือ..กรุไหน....
...........เก็บไว้ก่อน....แล้วผมจะมาเล่าเอา...ทีหลัง...นี่ก็คือ..๑ ใน..สิ่งที่ซ่อนอยู่..ในพระรอด...
.......................................................
...ดังนั้น..ช่างกด..ก็จึงจะรู้ด้วยทักษะ..ของตัวเอง..ว่า...ปริมาณดิน..เฉพาะที่ส่วนฐาน..จะมากกว่า
ส่วนบน..องค์พระ..เป็นเท่าตัว...จะต้องคลึง..รูปร่างดินในมือ..ให้เหมาะสม..(จะเป็นแบบไหน...
จะมาว่า..รายละเอียดภายหลัง...อย่าสงสัยว่าทำไม..ผมรู้..เพราะ..ผมลองทำมาเป็น..สิบๆครั้ง..)
.....เรียกว่า..กดลงไปครั้งเดียว..และ..กดแต่งอีก..ไม่กี่ที..ก็เรียบร้อย...ไม่เสียเวลา...
.....๓. ไม่ต้องไปเสียเวลา..ในการตัดปีก..พระ..หรือ..ตบแต่ง..ปีกให้พอดีองค์พระ...
................อันนี้..ต้องใช้ทักษะ..จริง...แต่มันเป็นผลพลอยได้..มาจาก..ข้อแรกคือ..เมื่อ
ดินที่เขาใช้ในการ..กด..ต่อ ๑ องค์เหมาะสม..แล้ว..มันก็จะช่วยในข้อนี้ไปในตัว....
.....แต่ในข้อที่สามนี้สำคัญ..ที่สุด..และ..เป็นที่มาของ..เรื่องนี้...และ..เป็นหัวใจ..ของเรื่อง..
.......มันเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่..อย่างที่นักเลงพระทั่วๆไป..ไม่ทราบที่มา..ว่า..ทำไม..ต้องทำแบบนั้น
....แล้ว...สาเหตุที่ทำให้เป็นอย่างนั้น..เพราะอะไร...แต่นักปลอมพระ..ทราบดี....
.....................ต่อตอนหน้า.......................

 

มารอชมครับพี่

 

สวัสดีครับคุณครู _/\_
สาระความรู้เข้มข้นมากครับ เก็บเอาไปคิดต่อยอดได้อีกเยอะแยะเลยครับ ^__^

 

***มารอชม ครับ พี่***

 

.......
..อ้าวหายไปไหน..นานเลยเรา....
...ก็มาช่วยเขียน..ระหว่างที่..สวนพลูเขายังไม่ว่าง..แค่นั้น..
...............ไอ้เรื่อง..สาระข้น..นี่มันเหมือน..MOTTO..
...ของครู..และ..กระทู้นี้อยู่แล้ว..ถ้าจะมาเขียน..แบบน้ำล้างถ้วยกาแฟ..
...หรือ..หลวมโพรก..หรือ..เขียนแนวคล้ายๆ..ชาวบ้านนะ..
...ต่อให้..เป็นเรื่องที่ออกมาขัดตาทัพ..แบบนี้..
.....ครูก็ไม่เอาหรอก...ฉะนั้นมันต้องออกมาเข้มข้นแบบ..ESPRESSO
......เท่านั้น..เพื่อคงคุณภาพของตัวเอง...

 

อ่านเสร็จได้กลิ่นกาแฟลอยมาแต่ไกลเลยครับ ^__^
ลืมรายงานครับว่าตอนนี้ผมแขวนเก๋งจีนองค์เดียวเดี่ยวๆมาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ตอนแรกก็คิดว่าคงจะเด่นแค่เรื่องเหนียวอย่างเดียว แต่พอได้ลองแล้วรู้สึกถูกโฉลก และรับรู้ได้เลยว่าเก๋งจีนมีอะไรดีๆมากกว่าเรื่องเหนียวอีกเยอะแยะเลยครับ ขอบพระคุณคุณครูที่แนะนำให้รู้จักพระวัดเก๋งจีนนะครับ ^__^

 

สวัสดีครับคุณอา...และสมาชิกทุกท่านมาติดอ่านบทความความรู้ สาระดีๆเหมือนเดิมครับ

 

......
...ดีมาก..และ..แสดงความยินดีด้วย....
...ครูเอง..ห้อยพระเก๋งจีน..ตั้งแต่ได้รับมา..จนสิบกว่าปีถึงจะเปลี่ยน....
.....เราไม่ต้องอิง..กระแส..สำหรับ..พระที่เราจะเอาไว้ติดตัว..
....คุณภาพ...สำคัญที่สุด...
......ลองใช้SENSE..ดูง่ายๆ..ว่าพระ..เขาเอาแปะไว้..ผนังโบสถ์
.......แล้ว..ผู้ปลุกเสก..จะไปปลุกเสก..เรื่อง..คงกะพัน..หาพระแสงทำไม
.........จริงๆคือ..ครูว่า..จะเน้นเรื่อง..คุ้มครอง..ป้องกันสิ่งชั่ว(..อันตราย
...กันคุณไสย..สิ่งอัปมงคล..ภูติผี..)..และ..สิริมงคล
.......เป็น..เรื่องหลัก.....
....แต่ถามว่า...พระที่ดังๆ..เร็วมันจะไป..เรื่องอื่นได้ยังไง...ก็แค่นั้น
..........เรื่องนั้น..มันโดดเด่น..ชัดเจน...เพียงแต่คนลืมคิดไปว่า
.....ไอ้คงกะพัน..หรือ..มหาอุตม์....จริงๆ..มันก็..คือ..คุ้มครอง..ป้องกัน
........................................
.....ให้เราระวัง..หมั่นตรวจตรา..ที่..คอของพระ..ถ้าเริ่มมีรอยร้าว..และ..ขยายตัวขึ้น..ต้องรีบแกะออก..แล้วครูแนะนำให้..เอา..กาวช้างติดที่ด้านหลัง..ตรงตำแหน่ง..คอ..หยอดไว้เฉยๆ..แล้วทิ้งไว้..ให้แห้งแข็ง...
....คราวนี้..ไม่ต้องกลัวเรื่อง..คอหัก..ต่อไป..และ..ไม่บดบังความสวย..ด้วย(เพราะอยู่ด้านหลัง)...นี่เป็นคนอื่น..ไม่มีแถมแบบนี้นะเนี่ย...
...เพราะ..เราเป็น..ลูกศิษย์ตัวจริง..เลยแถมให้

 

............
..หวัดดี..น้องรุ่ง..กำธรน้องรัก..Mastertestศิษย์ครู..และ..เฉียวฟงหลานรัก......
.............................
...ต่อจากตอนที่แล้ว............
..........................
..................................................................
......นักปลอมพระ...เขาก็ต้องพยายาม..คิดและคิดว่า..เขาเป็นคนที่กดพิมพ์..และมันจะเกิด
อะไรขึ้นบ้าง...ผมเคยพูดถึงหลายครั้งของ..จิตวิญญาณของคนประเภทนี้..และ..ก็คล้ายๆผมด้วย
...เพียงแต่..พวกนี้..ทำแล้วได้เงิน..แรงจูงใจเลยเยอะ...ต่างกับผม..แค่..ผมทำแล้ว..ไม่ได้เงิน...
แต่แรงจูงใจ..มันฝังติดตัวมาตั้งแต่เล็ก..คือขี้สงสัย..ชอบค้นคว้า..และ..ชอบทดลอง.....
................มันก็คือ..ทำตัว..เหมือนนักสืบคดีฆาตกรรม..นี่เอง..ไปถึง..ที่เกิดเหตุ..ก็เก็บข้อมูลเท่าที่
จะหาได้..ค้นคว้า..และ..ปะติดปะต่อ...ตัวนักสืบ..เขาก็ต้องพยายามคิด..แบบ..ฆาตกร..จะได้ทราบว่า
..ขั้นตอน..เป็นยังไง..ใช้อาวุธยังไง..อะไร...ขั้นตอนในการฆ่า..เป็นยังไง..เพียงแต่..ของผมง่ายกว่า
ตรงที่..ไม่ต้องหาว่า..ฆาตกรเป็นใคร...หาแค่ว่า..ใช้อาวุธ..ยังไง..ทำให้เกิดแผลแบบนั้น....
...ขั้นตอนในการ..ฆ่า..เป้นยังไง...แค่นั้นก็พอ..........
...........เรียกง่ายๆว่า..คือ..การย้อนรอยอดีต..นั่นเอง....แต่การที่จะแน่ใจได้ว่า..ที่เราคิดถูกหรือไม่..
ก็ต้องทดลองทำ...ซึ่งผม..ทำอยู่เป็นประจำ..บางครั้งที่คิดไว้ก็ไม่ถูกเสมอไป..เพราะทดลองทำแล้ว
...ไม่ใช่..แต่จริงๆแล้ว...น้อยครั้งมาก..ที่จะคิดแล้วไม่ถูก..เพียงแต่ตอนที่เราทดลอง..มันได้รายละเอียด
เพิ่มเติม..ที่เราคิดไม่ถึง..แถมมาด้วย.....
.....องค์ประกอบ...หลักฐาน...ก็คือ...
........๑. ที่มาในสภาพที่เสร็จแล้ว...คือ..กดพิมพ์เป็นองค์พระ...ตากให้แห้ง..แล้วเผาเรียบร้อย
องค์พระ...รายละเอียด..สัดส่วน..เนื้อพระ..ร่องรอยที่ปรากฎ..และ..ลักษณะพิเศษ..เฉพาะ
ตัว...เป็นยังไงบ้าง...เก็บข้อมูลไว้ในสมองให้หมด....
.........๒. สืบเนื่องมาจาก ๑ องค์ประกอบ..ที่จะได้เป็น..ข้อ ๑. ต้องมีอะไรบ้าง....
...ดินที่คัดเลือกผสมน้ำ..คลุกเคล้าจนได้ที่..นิ่มกำลังดี...
...แม่พิมพ์หิน(หินสบู่..หรือ..หินลับมีด)....
...คนที่ทำการกดพิมพ์...
...ที่ตากพระ..ก่อนเผา...
...เตาเผา....
.....เอา ๑ และ ๒ มาจินตนาการ..สร้างภาพในสมอง..โดยอาศัยประสพการณ์..ที่เคยทำพระ
ดินเผา..มาก่อน...เข้ามาผสมโรง....แล้ววิเคราะห์...ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงถึง...ทั้ง ๓ ข้อ..ของตอนที่
ผมอ้างถึง..ตอนที่แล้วด้วย..นั่นคือ..เรื่องจริง..ของการกดพิมพ์พระจำนวนมากๆ..ในครั้งเดียว
....เอามันมาคลุกเคล้ากันทั้งหมด....สำหรับ..คนอื่นอาจจะปวดหัว..แต่..สำหรับผม..มันเรื่องปกติ
....ใครที่เป็นแฟนประจำผมจะทราบว่า...ผมจะคิดทุกขั้นตอนในหัว..ออกมาก่อน..ไม่ใช่ทำไปคิดไป
...พอคิดว่า..มัน..โอเค..ถึง..จะพิสูจน์ทาง..ปฏิบัติ..ลองของจริงต่อ....
...............ต่อตอนหน้า...................

 

***ตามมาศึกษา ตอนดึกครับ พี่***