ตอบปัญหาธรรม โดย ดร.สนอง วรอุไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 15 พฤศจิกายน 2013.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ดิฉันมีคำถามที่จะขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ในการที่จะปฏิบัติอย่างไรดีที่ จะสามารถช่วยคุณแม่ได้ เนื่องจากคุณแม่มีลูกหลายคน และมีหลานๆ ที่เกิดมาจากลูกๆ และมีการหย่าร้างของลูกๆ จึงทำให้ท่านเป็นห่วงทั้งลูก และหลานมาก จนกระทั่งปัจจุบันคุณแม่อายุย่างเข้า 73 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถที่จะสงบสุขได้เลย จิตของท่าน จะถูกเหวี่ยงไปตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่ลูก หลาน ชักนำเข้ามาทำให้ไม่สงบได้เลย ดิฉันพยายามปฏิบัติธรรม และอธิษฐานขอให้คุณแม่ได้มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรมบ้าง สักครั้งในชีวิตก็ยังดี แต่คุณแม่จะมีข้อติดว่าไปไม่ได้ เพราะห่วงหลานที่พี่ๆ นำมาฝากให้ดูแลตลอดเวลา และการดูแลหลานก็ดูเหมือนจะสร้างความหงุดหงิด ความเดือดร้อนแก่ท่าน แต่ท่านก็ยังต้องติดอยู่ในวังวนนั้น คือเหมือนจะบ่นว่าเหนื่อย แต่ก็ดูเหมือนอยากทำแบบนั้น แต่สภาพจิตใจของท่านที่เป็นอยู่นั้น แสดงถึงความทุกข์ใจอยู่เนืองๆ

    ปัจจุบันดิฉันทำได้เพียงชวนพูดคุยให้ท่านสบายใจ ถ้าคุยเรื่องธรรมะได้ก็จะคุย เช่นเล่าว่าไปฟังพระอาจารย์อะไรมา แล้วท่านพูดอะไรบ้างให้คุณแม่ฟัง หรือชวนพูดคุยในเรื่องที่จะทำให้ท่านลืมความทุกข์จากเรื่องลูกเรื่องหลานไป ได้แค่ชั่ว ครั้งชั่วคราว พอสักพักท่านก็จะวกกลับไปเรื่องที่ทุกข์อีกเรื่อยๆ บางทีก็พูดซ้ำๆ เรื่องเดิมๆ ตั้งแต่เริ่มปัญหาเล่าได้ทุกครั้ง ไม่รู้จบ ดิฉันนำหนังสือธรรมะให้ท่านอ่านได้บ้าง แต่สายตาท่านไม่ค่อยดีแล้ว และ ถ้ามีโอกาสก็เปิดเทปธรรมะหรือวิทยุธรรมะของสังฆทานธรรมให้ฟังได้บ้าง แต่สังเกตว่าท่านไม่ได้ฟัง เพราะจิตท่านยังวนเวียนคิดอยู่แต่เรื่องปัญหาลูกหลาน พอปิดเทปท่านก็เริ่มพูดวกกลับไปเรื่องเดิมที่ติดพันอยู่นั้นเอง แต่ดิฉันก็ไม่กล้าไปเร่งรัดท่านมากค่ะ

    จึงจะขอรบกวนท่านอาจารย์ช่วยแนะนำดิฉันว่า ดิฉันควรจะทำอย่างไรได้บ้าง ควรจะทำบุญแบบไหนได้บ้างที่ลูก จะสามารถส่งกุศลผลบุญให้คุณแม่ให้ได้โอกาสที่จะเป็นอิสระ ได้ปฏิบัติธรรมหรือได้โอกาสที่จะมีชีวิตที่ไม่ใช่เป็นทาส ลูกหลานไปจนสิ้นชีวิตได้บ้างคะ



    คำตอบ
    สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตน เมื่อหนี้เวรกรรมยังชดใช้ไม่จบสิ้น ผู้นั้นยังต้องทุกข์อยู่ ดังนั้นสิ่งที่ผู้ถามปัญหาคิดจะช่วยแม่ให้ดีที่สุด ณ ขณะปัจจุบันคือ ตอบแทนคุณของแม่ด้วยการประพฤติจริยธรรมของลูกที่ดีต่อแม่ พร้อมทั้งทำตัวเองให้เป็นผู้มีศีล มีธรรม ประจำใจอยู่ทุกขณะตื่น เมื่อใดหนี้เวรกรรมของแม่ที่ต้องชดใช้ให้กับลูกและหลานหมดสิ้นลง และกลับมาศรัทธาในพฤติกรรมของผู้ถามปัญหาแล้ว เมื่อนั้นจึงจะสามารถชวนแม่ให้เข้ามาสู่ธรรมที่คุณประสงค์จะมอบให้ท่าน
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หนูเป็นแพทย์อยู่รพ.รัฐบาลขนาดกลาง ที่รพ.ใช้ยาทั้งของบริษัทในประเทศและต่างประเทศ เมื่อหนูมาอยู่ใหม่ๆ มีตัวแทนขายยาบริษัทต่างประเทศซึ่งมักเป็นผู้หญิงสาวๆ หน้าตาดี พูดจาดี เข้ามาพูดคุยโฆษณาสินค้ายา แรกๆ ก็เอาขอกำนัลเช่นปากกา ตุ๊กตามาให้ ต่อมาก็มีการเชิญไปประชุมฟังวิชาการตามสถานที่ๆ น่าพึงใจหรูหราโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    หนูเห็นว่าหัวหน้าไป หนูก็เลยไปบ้าง คิดว่าเป็นการประชุมวิชาการ แต่ต่อมาพบว่าบริษัทยาเหล่านี้ไม่ได้หวังให้เรามีความรู้อะไรหรอก แต่เขาต้องการโฆษณายา และต้องการความสนิทสนมและผลประโยชน์ และพบความจริงว่า เขาจะเชิญเฉพาะผู้ที่ให้คุณให้โทษแก่ยาของเขาได้ เพราะเพื่อนคนอื่นๆ มิได้ไปเหมือนๆ กัน หนักเข้ามีการเชิญไปต่างประเทศ ฟรี การติดต่อไม่ได้ผ่านส่วนกลางของรพ. แต่จะมาติดต่อเป็นการส่วนตัว งุบๆ งิบๆ กัน มีหมอที่ทำอย่างนี้เยอะมาก

    หนูมีความรู้สึกมานานแล้วว่ามันคือ สินบน ลาภอันได้จากตำแหน่งหน้าที่ แต่เห็นหัวหน้าทำ และใครๆ ก็ว่าเขาเป็นคนดี และเขาก็บอกว่า เราไปประชุมของเขา แต่เราไม่ใช้ยาเขาก็ได้นี่ หนูก็เลยทำตาม ว่าไปก็กิเลสของตัวเองด้วยแหละ หนูทำไปแล้วละค่ะ แต่เป็นเวลา 3 ปีมาแล้วที่หนูไม่รับเชิญอีกเลย หนูกลายเป็นอีสวนกระแส แต่หนูมาคิดดู ก็พบว่ามีหมออยู่จำนวนอีกจำนวนหนึ่ง ถึงจะน้อยที่ไม่เอา แต่ก็มีนะ

    อาจารย์คะ หนูคิดถูกใช่ไหม ถ้าหนูรับเชิญไป แล้วหนูจะเป็นอย่างนักการเมืองท้องถิ่นที่รับซองเงินไหม คือเป็นเปรต การทำแบบนั้นจะได้รับโทษเช่นไร คือไปรับของที่เขานำมาเสนอ เอามาล่อ อย่างแรกที่หนูคิดออกคือสูญเสียการเป็นตัวของตัวเอง และทำอย่างไรเราจึงจะไม่โกรธเมื่อมีคนไปไปประชุม แล้วเราต้องทำงานแทน เพื่อนร่วมงานของหนูหลายคนก็มีความรู้สึกเดียวกัน แต่ไม่ได้พูดออกมา


    คำตอบ
    การไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนอกุศลกรรมเป็นความเห็นถูกของคนดี แต่คนไม่ดีเป็นเรื่องปกติที่ควรประพฤติคนไม่ดีมีจิตเป็นทาสของยศ ของตำแหน่ง ของคำสรรเสริญ ฯลฯ

    ผู้ใดมองชีวิตได้ยาวไกลจะเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นตัวขัด ขวางความก้าวหน้าของชีวิต ทำให้ชีวิตขาดอิสรภาพ ถูกมารดักจับผูกมัดไว้ชั่วคราวแล้วปล่อยชีวิตให้ลงสู่ภพต่ำเมื่อตาย

    ฉะนั้นเมื่อผู้บังคับบัญชามอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติแทน หรือผู้ร่วมงานถูกมารนำตัวไปร่วมอกุศลกรรมแล้วคุณต้องทำงานมากขึ้น ต้องคิดให้ถูกว่าโอกาสเปิดให้เราได้ทำความดีจะได้ทำงานให้เกิดประสบการณ์กับ ชีวิต “ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ” เป็นสัจจธรรมที่จริงแท้แน่นอน
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ดิฉันมีความศรัทธาในปฏิปทาของท่านอาจารย์เป็นอย่างมาก ขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้ค่ะ ก่อนที่ดิฉันจะแยกแยะออกว่าอะไรเป็นของจริง อะไรเป็นของปลอม ดิฉันเหนื่อยยากกับการแสวงหาครูบาอาจารย์อยู่หลายปี ช่วงระหว่างนั้นจะได้หนังสือธรรมะบ้าง, รูปถ่ายพระอาจารย์, ไหมผูกแขน, เส้นเกศา ฯลฯ ทั้งได้ฟรี และเสียเงินเช่ามาโดยการทำบุญ ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ ยิ่งมีมากยิ่งเป็นภาระอย่างยิ่ง จะเผาทิ้งเสียก็กลัวเป็นบาป เป็นเวรกรรม

    กราบขอคำปรึกษาจากท่านอาจารย์ผู้รู้จริงว่าควรทำอย่างไรดีคะ

    คำตอบ
    สิ่งใดที่มีเกินพอสิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์กับตนควรสละหรือบริจาคให้ผู้อื่น ได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ผู้ใดทำได้แล้วถือว่าเป็นการสร้างบุญวิธีหนึ่ง ที่ผู้รู้นิยมทำกัน
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ได้ศึกษาธรรมมะและศรัทธาในพระธรรมของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่าง แท้จริงทั้งที่คิดว่าเอาเงินเอาทองมากองอยู่ตรงหน้าก็จะไม่แลกกลับชีวิต เดิมๆที่ผ่านมาแล้ว (ชีวิตที่ไร้ระเบียบ ไร้สาระ ไร้ประโยชน์) เพราะมีธรรมมะของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องนำทางที่ถูกต้องแล้ว แต่พอไม่ได้ฟังธรรมมะ(เสียงหลวงพ่อเทศ)หลายวันเข้ามันถดถอยมาเหมือนศรัทธา มันเริ่มคอนแคลน เช่น ตอนที่ศรัทธามากๆ แม้ยุงกัดก็จะไล่มันไป แต่พอห่างจากธรรมมะเข้า แม้มันบินอยู่เฉยๆยังตบให้มันตายเลย จึงอยากจะทราบว่าคนอื่นเขาเป็นกันอย่างนี้หรือไม่ และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้างไหมครับที่จะทำให้ศรัทธามันเต็มเปี่ยมตลอดเวลาไม่ ให้มันย่อหย่อนลงไป (อีกกระผมยังทำสมาธิไม่ได้เลยพยายามทำแล้วแต่เข้าสมาธิไม่ได้สักที)


    คำตอบ
    คนที่ไม่ประมาทในธรรมของพระพุทธะ จะเจริญพละ 5 อยู่เสมอ เขาจึงไม่เป็นผู้เสื่อมไปจากธรรม เขาจึงรักษาธรรมของพระพุทธะไว้ได้ ฉะนั้นผู้ถามปัญหาประสงค์จะเป็นผู้ไม่เสื่อมไปจากธรรมที่เคยเข้าถึงได้ ต้องทำตัวเองให้มีศีล 5 คุมใจให้ทุกขณะตื่นแล้วเจริญพละธรรม 5 ประการอยู่เสมอ
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    มันเป็นปัญหาที่เก็บกดไว้ในใจจนแทบจะทนไม่ไหวแล้วครับ เพราะผมมีคำด่าลบหลู่ในใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพระอริยะเจ้า พระรัตนตรัย ทั้งๆที่ในใจกระผม เคารพและนับถือทั้งพระอริยะเจ้า พระรัตนตรัย รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มิได้มีใจที่จะลบหลู่ดูถูกเลยแม้แต่น้อย แต่ใจยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ พอเมื่อใดที่คิดคำด่าในใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลาย ผมก็จะทวนคำพูดในใจกล่าวขอโทษทุกครั้งไป จนมันทรมานแทบทนไม่ไหว เพราะผมกลัวบาปกรรมมากครับ กลัวจะไปตกนรกกลัวไม่ได้บรรลุธรรม กลัวจะไม่ได้เจอพระพุทธศาสนาอีก ทุกวันนี้ทรมานใจมาก เพราะรู้ว่าถ้าไปกล่าวคำหยาบต่อสิ่งศักสิทธิ์ยิ่งต่อพระอริยะเจ้าและยิ่งต่อ รัตนตรัย แล้วเป็นบาปมากๆเลย ผมจะกำจัดคำด่าเหล่านี้ไปจากจิตใจผมยังไงดีครับ ที่ผมอ่านเจอก็มีให้ทำแบบที่ อ.สนอง แนะนำนะครับคือ

    • นำพวงมาลัยดอกไม้ขาวล้วน ธูป เทียน ไปกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย ต่อองค์เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กล่าวถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดปรามาส ผลกรรมที่ได้รับและกล่าวคำปฏิญญาว่า “ บัดนี้ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดแล้ว ขอองค์พระรัตนตรัยได้โปรดผูกโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วย ต่อไปข้าพเจ้าจะไม่กระทำกรรมอันใด ที่จะเป็นเหตุล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อีกต่อไป ”
    • นำตัวเองบวชเป็นโยคีปฏิบัติธรรมนาน 3 เดือน เพื่อชำระจิตวิญญาณให้ปลอดจากมลทิน
    • รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์
    • รักษาสัจจะให้มีอยู่กับใจให้ได้ทุกขณะตื่น

    วิธีการนี้จะทำให้จิตใจกระผมมันหายจากคำหยาบๆต่อสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้ใช่มั้ยครับ
    แต่ถ้าเกิดมันยังเกิดขึ้นอีกละครับ ก็ต้องทำแบบที่อาจารย์แนะนำใช่มั้ยครับ
    สิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย พระอริยะเจ้าพระรัตนตรัย จะรับรู้มั้ยครับว่าใจจริงไม่ต้องการกล่าวคำหยาบในใจเป็นเพียงแค่จิตของผม มันห้ามคิดไม่ได้ แต่ใจลึกๆจริงๆนับถือและเคารพยิ่ง
    ผมมีความปรารถนายิ่งว่าชาตินี้จะพยายามปฏิบัติธรรม ให้ถึงมรรคผมนิพาน ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่หวังสูงเกินไปมากๆแม้ขณะนี้ผมก็ยังเป็นฆารวาสอยู่ ผมก็อธิฐานว่าสักวันในชาตินี้ผมจะมีโอกาสได้สละทุกสิ่งทุกอย่างทางโลกได้ โดยไม่มีภาระทางโลกที่ต้องเกี่ยวโยงกันอีกแล้วและได้เข้าสู่ธรรมขององสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกวันนี้ผมก็พยายามอยู่ในศีล 5 สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน และปฏิบัติธรรมโดยการนั่งสมาธิ

    ขอให้อาจารย์สนอง วรอุไร โปรดชี้แนวทางในผมด้วยครับ ผมดีใจที่ได้พบกัลยาณมิตร เช่นอาจารย์สนองครับ บุญกุศลที่ผมได้กระทำมาโปรด ดลบันดาลให้อาจารย์ สนอง วรอุไร มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และมีอายุยืน เพื่อคอยชี้แนะแนวทางแก่มนุษย์ผู้ยังหลงอยู่ในวัฏสงสารต่อไปนะครับ

    คำตอบ
    ผู้ใดทำตัวเองให้เหมือน “ น้ำชาล้นถ้วย ” การแก้ปัญหาชีวิตจะไม่สัมฤทธิ์ผล และหากผู้ใดทำใจให้เหมือนถ้วยน้ำแล้วปฏิบัติตามคำแนะนำโดยไม่สงสัยด้วยใจ เต็มร้อย ความสำเร็จในการแก้ปัญหาจึงเกิดขึ้นได้กับผู้นั้น
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ดิฉันกราบเรียนปรึกษาอาจารย์ด้วยความเคารบอย่างยิ่ง ที่ต้องการหาทางออกของการแก้ปัญหาทางจิตของดิฉัน ดิฉันถูกแฟนทิ้งไปมีผู้หญิงใหม่ ดิฉันต้องนอนผวากับเสียงที่ตะโกนด่าดิฉีนว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย งี่เง่า ไล่ให้ไปยังไงก้อไม่ไป ไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาเค้าเลย ทั้งๆที่เราคบกันมา 10 ปี ดิฉันดูแลเค้าที่ป่วยมาตลอด 3ปี ที่เค้าป่วยเก็บล้างทำความสะอาด อุจาระ ปัสสาวะ ต่างๆ ทำทุกอย่างเพียงแค่ให้เค้าหายดี แต่เมื่อเค้าหายป่วย เค้าก้อไปทำผู้หญิงอื่นท้อง ไม่นานเค้าก้อเลิกลากับผู้หญิงคนนั้น จากนั้นเรากลับมาคบกันใหม่ และเค้าก็แอบไปคบกับผู้หญิงอื่นอีก และทำเลวๆอีกหลายอย่าง และเค้าก้อจากดิฉันไป กับความทรงจำที่สุดจะปวดร้าว นี่เป็นเวลา 5 ปี แล้วที่ดิฉันต้องนอนร้องไห้และสะดุ้งขึ้นมากลางดึกกับเสียงที่แว่วเข้ามาใน หู จนกระทั่งได้มาศึกษาธรรมะได้ 4 เดือน ดิฉันรู้สึกดีขึ้นมากไม่ได้ยินเสียงนั้นอีกแล้ว ดิฉันดีใจมากคะ จนกระทั่งวันนี้ดิฉันได้รู้ข่าวว่าเค้ามีอนาคตที่ดี มีการงานที่ดี ดิฉันกลับโกรธแค้น ที่คนทำความเลว ทำให้ชีวิตดิฉันต้องทนทุกทรมาน แต่เค้ากลับมีชีวิตที่เจริญ ขึ้น และแล้วดิฉันก้อกลับมาได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง นอนไม่หลับ ได้แต่ร้องไห้ และท้อใจที่จะทำความดี เพราะเหตุที่ว่า ทำดีกับเข้ามากขนาดนี้ ทำไมชีวิตดิฉันถึงได้มีแต่ความเศร้า เหงา ไม่มีมีคู่ ดิฉันสับสน และท้อไม่รู้ว่าจะตั้งสติ เริ่มต้นยังไงดี คิดว่านี่เป็นกรรม และไม่อยากต้องมาชดใช้กรรมกันไปอีกหลายชาติ จะตัดมันออกไปจากจิตใจได้อย่างไร รบกวนอาจารย์แนะนำด้วยคะ

    กราบขอบคุณคะ

    คำตอบ
    ตราบใดที่อกุศลวิบากยังไม่เลิกแสดงผลผู้เสวยวิบากที่มีความเห็นผิด ย่อมประสบกับความทุกข์กายทุกข์ใจเป็นธรรมดา ความทุกข์นั้นจะหมดไปได้ต่อเมื่ออกุศลวิบากหยุดให้ผลหรือผู้รับอกุศลวิบาก ได้พัฒนาจิตวิญญาณตัวเอง จนเกิดปัญญาเห็นแจ้งแล้วใช้ปัญญาเห็นแจ้งส่องนำทางให้กับชีวิต ความมีจิตเป็นอิสระจากความทุกข์จะเกิดขึ้น ดังตัวอย่างของอิสินาสี ผู้ถูกสามีถึงสามคนปฏิเสธที่จะอยู่ร่วม ได้พัฒนาจิตตนเองจนพ้นไปจากความทุกข์ได้หมด
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    เดิมคุณแม่ของหนูมีรายได้พอไม่เดือดร้อน ท่านอายุ72 ลูกที่ยังอยู่กัยท่านก็ให้เงินท่านก็แค่เพียงค่าใช้จ่ายของเค้าเพราะลูกไม่ ได้มีรายได้มาก ส่วนพี่ชายแต่งไปแล้วแต่ปัจจุบันไม่มีงานทำมานาน3 ปีแล้ว ตอนนี้อายุ45 ปี ปัจจุบันแต่งงานแล้วมา 2ปีกว่าแล้ว มีลูก1 คน อายุ 2ปี ลักษณะนิสัยของพี่ชายเรื่องนอนเรื่องใหญ่ นอนดึกเที่ยงคืนขึ้นไป ตื่นสาย 10-11 โมง ช่วงที่มีงานทำชอบไปสาย แต่กลับช้ากว่าคนอื่น เค้าคิดว่าทดแทนกัน ไม่นานก็ออกเพราะเค้าไม่ค่อยอดทนกับงานที่มีความกดดัน พอมีลูกก็ดูแลได้ไม่ดี เช่นลูกร้องไม่ยอมตื่นมาให้นมปล่อยให้ลูกร้องนานมาก(ส่วนแฟนเค้าไปทำงาน) ทำให้แม่หนูห่วงหลานมากเลยชวนเค้ามาอยู่บ้านเดียวกันจนตอนนี้ก็สองปีกว่า แล้ว

    ปัญหาคือ ปัจจุบัน(17/04/08) แม่เริ่มเครียด เพราะข้าวยากหมากแพงภาระที่บ้านเยอะขึ้นเพราะแม่ต้องจ่ายทุกอย่างในบ้าน ในขณะที่แฟนเค้าไม่เคยจ่ายค่าใช้จ่ายในส่วนเฉพาะของตัวเค้าเลย ทั้งที่เค้ามีรายได้มากกว่าแม่หนูอีก (พวกเค้าไม่รู้น่ะว่าที่บ้านเรารู้ว่ารายได้เค้าเยอะ แต่เค้ามักจะบอกว่างานไม่ดีเงินไม่ดี) อยู่ฟรีกินฟรีมาตลอด แฟนเค้าเป็นคนกินดุมากคือเยอะมากๆ ใครเห็นก็งง หนูเห็นแม่เครียดทนไม่ไหว เลยไปคุยกะพี่ชายให้บอกแฟนจ่ายค่าใช้จ่ายเฉพาะของเค้าซึ่งไม่ว่าเค้าจะไป อยู่ที่ไหนก็ต้องมีค่าใช้จ่ายนี้อยู่แล้วเพราะคนเรามันต้องกินต้องใช้เพื่อ ช่วยลดภาระแม่ ทำไมคนมีรายได้ต้องให้คนแก่มาเลี้ยงอีก แต่เค้าบอกว่าเค้าเป็นสามีจะไปบอกให้เฟนจ่ายค่าใช้จ่ายเฉพาะของตัวเมียเค้า ไม่กล้าพูด เป็นสามีต้องมีหน้าที่จ่ายให้แฟน นั้นก็หมายความว่าแม่หนูต้องจ่ายเพราะเค้าไม่มีรายได้ (ในส่วนของตัวเค้าและหลานแม่หนูออกให้อยู่แล้วเพราะเค้าไม่มีรายได้) เค้าบอกว่าที่มาอยู่ที่นี้เพราะแม่เรียกให้มาอยู่เอง เค้าไม่ยอมรับว่าเค้าเลี้ยงลูกบกพร่องแม่เลยต้องให้มาที่บ้าน แล้วเค้าก็บอกว่าหนูมาพูดแบบนี้หนูเป็นคนใจแคบมากๆ เค้าเริ่มไม่ชอบหนูแล้ว หนูเลยหยุดพูดเพราะกลัวทะเลาะกัน แล้วขอโทษเค้าที่ทำให้เค้าเครียด

    คำถาม หนูอยากถามว่าหนูควรทำใจกะเรื่องนี้อย่างไรให้อยู่ได้อย่างเป็นสุข หนูอึดอัดมากค่ะ เพราะต้องอยู่กันอย่างนี้กันไปอีกนานมันเป็นปัญหาที่ต้องเห็นทุกวัน เค้าเบียดเบียนแม่หนูอยู่หรือเปล่า แม่หนูมีโรคเยอะเช่นหัวใจ หนูยิ่งห่วงถ้าเค้าเครียด (แต่ถ้าเค้าออกไปอยู่กันเองเค้าจ่ายได้น่ะค่ะแปลกไม๊ค่ะ)

    ขอขอบพระคุณค่ะที่สละเวลาให้

    คำตอบ
    ที่ถามไปเป็นเรื่องของการาชดใช้หนี้เวรกรรม ระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ ซึ่งต้องชดใช้กันจนกวาหนี้เวรกรรมจะหมดสิ้น เรื่องนี้จึงจะยุติ ส่วนผู้ถามปัญหาในฐานะลูก ผู้รู้เห็นว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้เป็นลูกสาวมีครูดี (ลูกสะใภ้) อยู่ใกล้ เพราะเขาสอนให้ผู้ถามปัญหาได้ปฏิบัติขันติบารมี เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี ให้มากยิ่ง ๆ ขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของอุเบกขาต้องอยู่บนพื้นฐานของการช่วยเหลือผู้เป็นแม่ เท่าที่ตนเองสามารถช่วยได้ ส่วนในเรื่องที่ช่วยไม่ได้ต้องปล่อยวาง แล้วอุเบกขาบารมีจึงจะเกิดขึ้นได้
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หนูนับถือหลวงพ่อฤาษีและเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพรฯ มาก บ้านเพื่อนรักคือบ้านสายลม ส่วนเสด็จในกรมฯ หนูรู้สึกว่ารักท่านมากโดยไม่มีเหตุผล มาทราบทีหลังจากคุณแม่ว่า คุณปู่เป็นนักเรียนของท่าน วันหนึ่งหนูมีทุกข์ได้ไปกราบร่างของหลวงพ่อฤาษีที่ใส่โลงแก้วไว้ที่วัดท่า ซุงเล่าให้ท่านฟังว่า เพื่อนจะลาออกจากงาน หนูเศร้า เช้าวันรุ่งขึ้นแรกทันทีที่ลืมตา มีเสียงทางใจบอกว่า "ตอนมาก็ไม่ได้มาด้วยกัน ตอนไปก็ต่างคนต่างไป ใครจะทำอะไรก็..." จำไม่ได้หมด ตอนแรกคิดว่าคิดไปเอง แต่ก็ยังสงสัยว่า เราจะคิดอะไรฉลาดๆ แบบนี้ได้หรือ กัลยาณมิตรบอกว่าเป็นสัญญาเก่า แต่หนูว่าหนูไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอก

    ต่อมาเวลาหนูมีปัญหา หนูชอบไปจุดธูปเล่าเรื่องยาวให้เสด็จฯ ฟัง คือนิสัยไม่ดี ยังพัฒนาใช้ปัญญาตัวเองแก้ไขปัญหาไม่ออก ก็ได้คำตอบเสมอ แต่เป็นคำๆ สั้นๆ ตอนแรกหนูไม่แน่ใจ และไม่ได้เล่าให้ใครฟังเพราะช่วงนั้นมีเรื่อง หมอประกิตติเผ่าที่มีหูแว่ว ที่ได้ชัดมากเป็นประโยค ก็ตอนที่ไปไหว้เสด็จฯ ที่ศาลายา แล้วทะเลาะกับสามีเรื่อง U-turn พอปักดอกกุหลาบเสร็จ มีคำผุดมาว่า " อีบ้า ที่หลังอย่าดื้อกับสามี" คราวนี้แน่ใจว่าไม่ใช่สัญญาเก่าแน่ๆ

    คำที่หนูได้ยิน ไม่ได้ยินทางหูค่ะ คือมันค่อยๆ เคลื่อนออกมาทางใจ แบบผุดๆ และเร็วมาก แต่ก่อนท่านมาตอนตี 2 จะมีแสงสีขาวๆเงินๆเป็นประกายสีรุ้งสวยมากเลย บางทีเป็นสีเหลืองแบบเสื้อเหลืองในหลวง และครั้งแรกเลยมีกลิ่นดอกเขี้ยวกระแตหอมมาให้ห้อง หนูก้มลงกราบเลย เสียงที่หนูได้ยินทางใจให้คำตอบฉลาดๆ หนูเข้าข้างตัวเองว่าอาจเหมือนที่อาจารย์ว่าคือ มีอาจารย์ดีมาสอน ถ้าเราจูนเครื่องรับเขาได้ เราก็จะติดต่อกับเขาได้ หนูไม่ได้มีเจตนาอวดอ้างอะไร คือช่วงนี้ท่านหายไป หนูคิดถึงท่าน เข้าใจเอาเองว่าช่วงนี้หนูโกรธคน ไม่สามารถสลัดออกจากใจได้ สมาธิเราจึงไม่ดี คำถามของหนูคือ ที่อาจารย์ว่าถ้าเราจูนคลื่นสมาธิให้ตรงกับเขา เราจะรับเขาได้ ความโกรธพวกนี้ จะทำให้คลื่นความถี่เราไม่ดีใช่หรือไม่ แล้วทำไมคนไม่ดีๆ เช่นพวกหมอผี พระเทวทัต ก็มีกิเลสมาก มีพยาบาท ทำไมเขาจึงมีอภิญญา คนมีอภิญญาต้องมีสมาธิละเอียดใช้หรือไม่


    คำตอบ
    กัลยาณมิตรบอกว่าเป็นสัญญาเก่านั้นถูกต้องแล้วการคิดว่า ตัวเองไม่คลาดขนาดนั้น เป็นความคิดที่ผิด (มิจฉาสังกัปปะ) ควรลบให้หมดไปจากใจ

    ส่วนคำที่ผุดออกมาจากการระลึกได้ของจิตว่า “ ทีหลังอย่าดื้อกับสามี ” ก็เป็นสัญญาเกาอีกนั่นเอง

    ความโกรธเป็นกิเลสตัวใหญ่ ใครผู้ใดมีจิตขาดสติ รับเอาสิ่งกระทบที่ขัดใจมาปรุงเป็นอารมณ์โกรธ จะทำให้จิตสูญเสียพลังส่งผลถึงความถี่คลื่นจิตไม่คงที่ ความตั้งมั่นของจิตจะไม่เกิดขึ้นได้

    ปุถุชนสามารถเจริญสมถภาวนา จนจิตตั้งมั่นเข้าสู่ระดับฌานได้เมื่อนำจิตออกจากฌานแล้ว โลกิยอภิญญาย่อมเกิดขึ้นได้ หมอผีหรือพระเทวทัตยังมีสภาวะของจิตเป็นปุถุชน คือยังไม่สามารถกำจัดกิเลส (พยาบาท) ให้หมดไปจากใจได้ ขณะเวลาใดที่กิเลสมีกำลังอยู่เหนือกำลังของสติ พฤติกรรมไม่ดีย่อมเกิดขึ้นได้ ดังที่พระเทวทัตได้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    1.ผมเคยมีสัญญาและสาบานว่าจะรักกันกับคนรักมาก่อนเพราะถ้าไม่ทำตามนั้น ชีวิตจะประสบแต่สิ่งไม่ดี จะมีวิธีใดบ้างครับที่ถอนคำสาบานนั้นเพราะปัจจุบันผมไม่ได้ทำตามนั้นโดยมีคน รักใหม่ และผมได้ปรับปรุงตัวใหม่ว่าจะรักเดียวใจเดียวอยู่ในศีล 5 ครับ

    2.เมื่อตอนบวชเณรได้สำเร็จความใคร่ตัวเองตอนนั้นอายุประมาณ 10 ขวบ บาปมากมั้ยครับ และตอนบวชพระเมื่ออายุ 23 บวชให้พ่อแม่ครับประมาณ 14 วัน เผลอไปดูหนังโป้แค่แว้บเดียว แบบนี้บาปมากมั้ยครับผมรู้สึกสำนึกผิดจะมีวิธีใดบ้างเพื่อให้ผลกรรมเบาบางลง ไม่อยากไปเกิดในอบายภูมิ

    3.ตอนบวชพระและเณร ปัจจัยต่างๆที่ได้พอตอนสึกผมได้นำเงินนั้นมาใช้ส่วนตัวแบบนี้บาปมากมั้ยครับ ปัจจุบันผมได้ทำบุญอยู่เป็นประจำและได้อธิฐานจิตว่าขอใช้หนี้สงฆ์ที่ได้เคย นำเงินมาใช้ แบบนี้จะพอลดกรรมได้มั้ยครับ ขอได้โปรดให้ อ.สนอง วรอุไร แนะนำด้วย

    ผมสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำมาทั้งหมดและตั้งใจจะประพฤติปฏิบัติธรรมไปจน ตลอดชีวิต หากแม้ว่าได้มีโอกาศบวชก็จะขอบวชตลอดชีวิตจะดำเนินตามรอยองค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธ เพื่อสู่ความหลุดพ้น (นิพพาน)


    คำตอบ
    (1) คำสัญญาและคำสาบาน หากได้ร่วมกระทำไว้แล้วกับบุคคลอื่น หากประสงค์จะถอนคำสัญญาและคำสาบาน ต้องไปกล่าววาจาบอกเลิกกับผู้ร่วมกระทำ หากผู้ร่วมกระทำเห็นดีด้วย และยกเลิกคำที่ให้ไว้แก่กัน กรรมดังกล่าวจะเป็นอโหสิกรรม แต่หากผู้ร่วมกระทำไม่เห็นดีด้วย และไม่ยอมยกเลิกกรรมที่เคยทำไว้แก่กันคำสัญญาและคำสาบานยังมีโอกาสให้ผลอยู่

    (2) เป็นบาปทั้งสองกรณี ถามว่าจะบาปมากหรือไม่อยู่ที่ใจเก็บบันทึกข้อมูลกรรมไว้เหนียวแน่นหรือไม่ ผู้มีจิตบริสุทธิ์ทำกรรมใดไว้แม้เพียงเล็กน้อย จิตจะเก็บบันทึกข้อมูลกรรมไว้อย่างเหนียวแน่น

    ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่ในเพศของนักบวชในพุทธศาสนา ต้องนำตัวเอาเข้าปริวาสกรรมแล้วปฏิบัติตามข้อบัญญัติของวินัยสงฆ์ แต่หากอยู่ในเพศฆราวาส ให้ไปขอขมากรรมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่นต่อหน้าพระพุทธรูป แล้วต้องไม่ประพฤติผิดเช่นนั้นอีก กรรมไม่ดีที่ทำไว้ก่อนแล้วจึงจะมีโอกาสหมดไปได้

    (3) ฆราวาสมีเจตนาถวายปัจจัยให้แก่สงฆ์และเณรเพื่อนำไปใช้ในจิตของนักบวช เมื่อสึกมาเป็นฆราวาสแล้วหากได้นำปัจจัยนั้นมาใช้เป็นการส่วนตัวของฆราวาส ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดเจตนารมณ์ของผู้ถวาย หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยพูดไว้ว่า การกระทำเช่นนี้เป็นการ “ ย้ายฐานาเจดีย์ ” ให้ผลเป็นบาป ส่วนจะบาปมากหรือบาปน้อย ให้อ่านคำตอบในข้อ (2) ดังนั้นสิ่งที่ผู้ถามปัยหาได้กระทำลงไปจึงเป็นบาป

    ปัจจุบันผู้ถามปัญหาได้ทำบุญอยู่เป็นประจำ กรรมที่ทำจะให้ผลเป็นบุญ ซึ่งบุญและบาปเป็นคนละส่วนกัน จึงไม่สามารถลดกรรมไม่ดีที่ได้ทำไว้แล้วได้
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    1. หากมีใครมาเบียดเราในชาตินี้ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าว่า ผลที่เกิดนี้ย่อมมีเหตุ นั่นคือ ผมได้เคยเบียดเบียนเขามาก่อน พอผมถูกเขาเบียดเบียนแล้ว หากผมยังผูกใจเจ็บ ต่อเขาในอนาคตก็จะมีเหตุ ให้เรากลับไปเบียดเบียนเขาเป็นเช่นนี้ ไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเลิกผูกใจเจ็บ หรือพ้นจากสังสารวัฏ
    ผมเข้าใจถูกมั้ยครับท่านอาจารย์?

    2. การที่เจ้านายเคี่ยวเข็ญ ให้ทำงานหนักหนาดึกดื่น แม้วันหยุดก็ต้องเสียสละ หนึ่งก็เพราะทำเพื่องาน ผมเป็้นผู้น้อยก็ต้องปฏิบัติตาม และก็รู้สึกคับแค้นใจ รู้สึกเหมือนถูกเบียดเบียนตลอดเวลา อย่างนี้เป็นกรรมที่ต้องชดใช้ใช่หรือเปลาครับ? หรือเป็นความเห็นผิดจึงไปรับผัสสะมาปรุงเป็นอารมณ์ครับ?

    3. เวรอื่น ที่ผมเคยผูกใจเจ็บไว้ในอดีตชาติ มาถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถระลึกได้ จะมีข้อปฏิบัติอย่างไร ที่จะเป็นการประกาศว่า ผมต้องการตัดเวร
    ไม่ขอไปจองเวรอีกพวกเขาเหล่านั้นอีกแล้วครับ?

    ขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์ครับ

    คำตอบ
    เข้าใจถูกครับ ด้วยเหตุนี้พระพุทธะจึงได้ตรัสว่า “ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ”

    เจ้านายเคี่ยวเข็ญให้ทำงานหนักหนาดึกดื่น แล้วรู้สึกเกิดเป็นความคับแค้นใจ นั่นคือผลของกรรมเก่าซึ่งต้องชดใช้ให้หมดไปความคับแค้นใจเกิดขึ้นกับผู้ใด ผู้นั้นมีความเห็นผิดไปจากธรรมผู้ใดทำงานหนักแล้วไม่เกิดเป็นความคับแค้นใจ ผู้นั้นมีความเห็นถูกตามธรรม

    ความต้องการตัดเวร ที่ผู้ถามปัญหาเคยผูกใจเจ็บไว้กับสรรพสัตว์ในอดีตชาติ จะหมดไปได้ ต้องไปกล่าววาจาต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์วา “ นับจากนี้ต่อไป ข้าพเจ้ายกเลิกการจองเวรกับทุกสรรพสัตว์ที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ ”
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ผมได้เรียนการทำสมาธิภาวนาจากวัดแห่งหนึ่ง (ผมไปฝึกที่วัด 3 วันแล้วหลังจากนันไม่ได้ไปอีกเพราะวัดอยูไกล) โดยภาวนา เกศา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ - ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกศา กลับไปกลับมาโดยไม่ต้องสนใจลมหายใน กระผมได้ฝึกอยู่ระยะหนึ่งแต่ไม่ได้ทุ่มเทเต็มที่ ก็ไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไร แต่ช่วงหลังผมอ่านตำราเกี่ยวกับการฝึกสมาธิภาวนามากขึ้น เลยลองเปลี่ยนวิธีภาวนาไปใช้พุทโธตามลมหายใจ หลังจากนั้นผมก็เกิดปํญหาคือ พอภาวนาพุทโธไปได้สักพักหนึ่งใจก็อยากกลับไปภาวนาแบบเดิม ก็เลยออกมาแล้วเริ่มต้นใหม่โดยภาวนาแบบเดิม คือ เกศาฯ พอเริ่มนิ่งใจก็อยากกลับไปภาวนาพุทโธอีก เป็นอย่างนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้วจนเดี๋ยวนี้การปฏิบัติไม่ก้าวหน้าเลยเพราะพอ มีความขัดแย้งขึ้นในใจก็ต้องเลิก

    จึงเรียนอาจารย์ช่วยให้คำแนะนำด้วย
    ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

    คำตอบ
    ส่วนภาวนาต้องมีศีล 5 คุมใจให้ได้ก่อนแล้วจึงเร่งความเพียรในการปฏิบัติจิตตภาวนา ด้วยการเปรียบเทียบบทภาวนาทั้งสองแบบวา การภาวนาแบบไหน ทำให้จิตตั้งมั่น เป็นสมาธิได้เร็ว จริตของผู้ถามปัญหาเหมาะสมกับบทภาวนานั้นให้ใช้บทภาวนานั้นตลอดไปเพียงอย่าง เดียว ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ผิดไปจากธรรม
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    เพื่อนดิฉันตั้งท้องได้ประมาณ 4 เดือนกว่าแล้วแต่เพิ่งไปอัลตราซาวน์มาคุณหมอแนะนำให้เอาเด็กออกเพราะเด็กไม่ สมประกอบ ถึงคลอดออกมาก็ต้องเสียชีวิต เพื่อนก็เสียใจมากแต่คงต้องเอาออกตามคุณหมอแนะนำภายในเร็วๆนี้ เข้าใจว่าเป็นวิบากกรรมของเพื่อนคนนี้
    อยากขอคำแนะนำอาจารย์ค่ะว่ามีวิธีไหนช่วยผ่อนหนักเป็นเบา บาปปาณาที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ได้บ้างคะ จะชวนเพื่อนไปทำ

    ขอบคุณค่ะ

    คำตอบ
    เมื่อใดที่กรรมให้ผลเป็นวิบาก ผู้ทำกรรมต้องเป็นผู้รับวิบากนั้นซึ่งไม่มีใครสามารถช่วยได้ หากผู้ถามปัญหาจะช่วยเพื่อน ต้องทำให้เพื่อนเข้าใจบริหารธรรม และปฏิบัติให้ได้ตามนั้น จึงจะถือว่าช่วยเพื่อนสัมฤทธิ์ผล
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ผมได้ไปตั้งจิตบอกกล่าวกับพระพุทธรูปในวัดแห่งหนึ่งว่า “ ขอให้ข้าพเจ้า สอบได้เข้าไปเรียนปริญญาโทในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วจะนำความรู้และความสามารถที่ได้ มาทำให้ตัวเองดีขึ้น คนรอบตัวดีขึ้น สังคมดีขึ้นจนถึง แผ่นดินดีขึ้น ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าไปเรียนและสำเร็จด้วยเทอญ ” ซึ่งมหาวิทยาลัยประกาศผลสอบออก มาว่าสอบได้

    ตามที่ตั้งจิตกับพระพุทธรูปไว้ ผมคิดว่า ตัวเองดีขึ้นนั้น ดีขึ้นอยู่แล้วตามวิชาความรู้และโอกาสที่ได้มาจากการศึกษาปริญญาโทรอบตัวดี ขึ้นนั้นคือการช่วยเหลือ บิดา มารดา และคนรอบตัวใกล้ชิด เมื่อมีโอกาส สังคมและแผ่นดินดีขึ้นนั้น คือการที่ได้เข้าไปช่วยเหลืองานของพระศาสนา หรือกิจกรรมช่วยเหลือสังคม เช่น ให้ทุนการศึกษา หรือการทำความดีแก่ส่วนรวมเมื่อมีโอกาสขอทราบความคิดเห็นของ ดร.สนอง ว่าความเห็นของผม ถูกต้อง หรือควรเพิ่มเติม หรือแก้ไข ประการใดเพื่อจะได้ไม่ผิดคำที่ได้ให้ไว้กับพระ พุทธรูปพระองค์นั้น ครับ

    กราบขอบพระคุณครับ

    คำตอบ
    คำกล่าวอธิษฐานเป็นการตั้งโปรแกรม เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในทางโลก เพราะการได้เข้าเรียนในระดับปริญญาทา เป็นการพัฒนาสุตมยปัญญาและจินตามยปัญญาให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ปัญญาที่ผู้ถามปัญหามุ่งเน้นพัฒนานั้น นำไปช่วยตัวเองได้ช่วยคนอื่นได้ในทางโลกแต่ช่วยงานของพระศาสนาได้เพียงบาง ส่วน ไม่ถือว่าผิดไปจากคำอธิษฐานที่ให้ไว้กับพระพุทธรูป แต่หากอธิษฐานให้ได้ดวงตาเห็นธรรมแล้วนำตัวเองเข้าปฏิบัติธรรม จะเข้าถึงมรรคผลแห่งธรรมของพระพุทธะได้งานช่วยเหลือพระพุทธศาสนาจะทำได้ถูก ตรง และเป็นผลดีต่อการรักษาธรรมและวินัย มิให้เสื่อมไปจากใจของคนที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับพุทธบริษัทผู้เข้าถึงธรรมได้
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    เพื่อนดิฉันเป็นหมอ และมีความเมตตาสูงมาก คนไข้รายหนึ่งอยู่ ICUหายใจเองไม่ได้ หมอจึงอธิษฐานให้เจ้ากรรมนายเวรหันมาเอาเรื่องหมอแทน รวมถึงเจ้ากรรมนายเวรของคนไข้หนักรายอื่นอีก เจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้นจะรุมทำร้ายหมอจนเป็นอันตรายไหมคะ

    ด้วยความเคารพอย่างสูง

    คำตอบ
    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์พระอรหันตขีณาสพทุกพระองค์ ฯลฯ ล้วนเป็นผู้รู้แจ้งชีวิต และมีเมตตาสูงไม่มีอริยบุคคลผู้ใด อธิษฐานใช้หนี้เวรกรรมแทนเจ้ากรรมนายเวรของบุคคลอื่น เหตุเพราะเจ้าหนี้เวรกรรมตัวเองมีมาก จนไม่สามารถปลดหนี้ได้หมด

    ดังนั้นที่ถามไปจึงเป็นการกระทำที่ทำร้ายตัวเองที่ไม่ฉลาดที่สุด บรรดาพระโพธิสัตว์ที่มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วไม่ประพฤติและไม่แนะนำผู้ อื่นให้ประพฤติเช่นนั้น
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ผมตั้งใจว่าจะเปิดธุรกิจส่วนตัวอย่างหนึ่ง(แม่ลงทุนให้) จึงมีเรื่องสงสัยอยากจะถามท่านดังนี้
    1. หากผมต้องการมีทรัพย์(เงิน)มาก ผมควรนั่งสมาธิ หรือ บริจาคทรัพย์ เป็นทาน แบบไหนจะทำให้เหตุกับปัจจัยลงตัวที่สุดครับ

    2. ผมเพิ่งเรียนจบ อยากให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรื่อง ผมควรปฎิบัติธรรมธรรมข้อใด เพิ่มเติมเพื่อที่จะส่งเสริมธุรกิจที่ทำอยู่ อย่างสุจริต

    3. อนิสงจากการนั่งสมาธิจะทำให้ธุรกิจเราประสบความสำเร็จและมีทรัพย์มากหรือไม่ หรือว่า การบริจาคทานจะทำให้มีทรัพย์มากกว่า
    เพี่เหตุกับปัจจัยลงตัว อย่างถวายยารักษาโรคแก่พระก็ทำให้เราไม่เป็นโรคใช่หรือไม่

    4. แม่ผมชอบไปถวาย brandรังนก แก่พระสงฆ์เป็นประจำ เพราะต้องการให้พระท่านแข็งแรงเพราะพระท่านทานข้าวไม่ค่อยได้ แบบนี้จะได้บุญหรือบาปและควรหรือไม่ควรทำครับ

    ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากๆครับ
    ถ้ามีอะไรที่ล่วงเกินไปผมและครอบครัวขอ ขอขมาท่านอาจารย์ด้วยครับ

    คำตอบ
    (1) ควรทำทั้งสองอย่าง เพราะการให้ทรัพย์เป็นทานเป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 อานิสงส์การให้ทำให้เป็นที่รักของคนหมู่มาก ทำให้มั่งมีในสิ่งที่ให้ การนั่งสมาธิเป็นจิตตภาวนา ซึ่งเป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 เช่นกัน แต่การเจริญจิตตภาวนาเป็นบุญสูงสุดผู้มีบุญประกอบกิจการงานใด ย่อมให้ผลเป็นความเจริญทุกเมื่อ

    (2) ควรมีศีล 5 คุมใจอยู่ทุกขณะตื่น เพราะอานิสงส์ของศีลทำให้เกิดเป็นความมั่งมีในโภคะ นอกจากนี้ยังต้องมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ (พ่อแม่) และผู้มาใช้บริการ(ลูกค้า) ก็เป็นผู้มีพระคุณเช่นกัน

    (3) เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับบุญที่เกิดจากการประพฤติ การบริจาคทานให้กับคนหมู่มาก การถวายทานแก่หมู่อริยสงฆ์หรือปัจเจกพุทธะ จัดเป็นมหาทาน ทำแล้วบุญจะถูกสั่งสมอยู่ในจิตวิญญาณมาก เมื่อใดที่บุญส่งผล ย่อมทำให้มีทรัพย์มาก

    ทุกคนมีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธะ สามารถปฏิบัติธรรม (นั่งสมาธิ)ได้ แต่ผู้ที่เข้าถึงมรรคผลของธรรมมีน้อย เมื่อใดที่บุญให้ผลยังไม่ทำให้มีทรัพย์ (มนุษยสมบัติ) มากเหมือนกับการบริจาคมหาทานซึ่งผู้เข้าถึงธรรมได้จะมีอริยสมบัติมาก

    การถวายยารักษาโรคแก่พระสงฆ์ แล้วตัวเองยังทำบาปอยู่หากแรงของอกุศลกรรมที่ทำในปัจจุบันรวมกับแรง ของอกุศลกรรมที่ทำไว้แต่อดีตส่งผล ผู้นั้นยังต้องรับอกุศลวิบากเป็นโรคภัยไข้เจ็บได้

    (4) การให้สิ่งดีเป็นทาน เช่นอาหารที่ทำให้สุขภาพของผู้รับทาน (ปฏิคาหก) แข็งแรง การให้ทานเช่นนี้เป็นบุญ ควรประพฤติต่อไป
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    กระผมมีเรื่องอยากสักถามเกี่ยวกับอาชีพครับ อยากทราบถึงผลกรรมของอาชีพที่ถูกกฎหมายแต่ผิดศีลและผลของบาปที่จะให้ผลโดยมี อาชีพที่สงสัยดังนี้
    1.ร้านเสริมสวย
    2.ร้านอินเตอร์เน็ต เกมส์
    3.เปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์โดยใช้ soft ware เถื่อน ให้แก่ผู้ใช้บริการ
    4.รับจ้างทำรายงาน ทำโปรเจ็ค ให้กับเด็กนักศึกษาเพื่อส่งงานให้กับอาจารย์
    5.การทำโต๊ะจีนซึ่งก็ต้องมีเหล้าเบียร์ด้วย อาชีพเหล่านี้ถูกกฎหมายแต่ผิดศีลยังไงครับและให้ผลบาปแก่ผู้ประกอบการอย่าง ไรบ้างครับ

    อยากให้อาจารย์สนองโปรดแนะนำแนวทางในการเลือกอาชีพที่ถูกกฎหมายแต่ไม่ผิดศีล เพื่อใช้พิจารณาในการประกอบอาชีพที่ถูกต้อง

    คำตอบ
    (1) การประกอบอาชีพเปิดร้านเสริมสวย ทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย ทำแล้วไม่ผิดศีล แต่ผิดธรรมตรงที่ทำให้ผู้มาใช้บริการบางคน มีจิตเป็นทาสของความสวยงาม ถือว่าเป็นบาป แต่มีผลไม่รุนแรงเท่ากับการประพฤติผิดกฎหมายและผิดศีล หากยังมีความจำเป็นต้องแสวงหาทรัพย์มาจุนเจือชีวิตให้ดำรงอยู่กับโลก สามารถทำได้ต่อไป แต่ไม่ควรลืมประพฤติบุญกิริยาวัตถุ 10 อยู่เสมอ แล้วอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรบ่อย ๆ

    (2) การเปิดร้านอินเตอร์เน็ตเกมส์ ในทางโลกทำให้ผู้มาใช้บริการเกิดความสนุกสนาน บันเทิงใจ แต่ในทางธรรมถือว่าเป็นการส่งเสริมให้กิเลสเข้าสู่จิตวิญญาณของผู้มาใช้ บริการ เป็นบาป แต่ไม่บาปมากเท่ากับประพฤติผิดกฎหมายและประพฤติผิดศีล

    (3) การกระทำในเรื่องเช่นนี้เป็นการประพฤติผิดศีล บาปมากกว่าข้อ (2)

    (4) ผู้รับจ้างทำรายงาน หรือรับจ้างทำโปรเจ๊คให้นักศึกษาเป็นการประพฤติผิดศีลบาปมากกว่าข้อ (2)

    (5) ผิดศีลตรงที่อาชีพนี้ ต้องสั่งเนื้อสัตว์มาปรุงเป็นอาหารเป็นการประพฤติผิดศีลข้อปาณาติบาต ส่วนการให้บริการเหล้า เบียร์ เป็นการประพฤติผิดศีลข้อสุราเมรยะ เมื่อใดที่อกุศลกรรมให้ผลผู้ประกอบกรรมต้องรับอานิสงส์บาปด้วยการเจ็บป่วย และความจำเสื่อมไปก่อนเวลาอันควร

    อาชีพที่ถูกกฎหมาย ไม่ผิดศีลและถูกต้องเช่น ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับค้าขายโลงศพ ค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้าง การค้าขายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง การค้าชายเครื่องคอมพิวเตอร์ ค้าขายโทรศัพท์มือถือ ค้าขายอุปกรณ์บันทึกภาพฯลฯ
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    1. สมัยเด็กของคุณแม่มีคุณยายหนึ่งคนพึ่งไปทำแท้งมา แต่คุณแม่ไม่ทราบ คุณยายวานให้คุณแม่เหยียบขา เหยียบท้องให้ เพราะว่าเด็กยังออกไม่หมด อย่างนี้เป็นกรรมติดตัวรึป่าวแม้ไม่ได้เจตนา ถ้าเป็น จะมีวิธีแก้กรรมอย่างไร

    2. ในสมัยเด็กของดิฉัน เด็กมากจนจำความไม่ได้ คุณแม่เล่าให้ฟังว่าดิฉันเคยดึงคอนกกระจอกตาย ( นกตกลงมาจากรังบนต้นไม้ ด้วยความเด็กจึงไปกำนกเล่นแล้วดึงคอนกหลุด) ด้วยความไม่ตั้งใจ อย่างนี้เป็นกรรมติดตัวรึป่าวแม้ไม่ได้เจตนา ถ้าเป็น จะมีวิธีแก้กรรมอย่างไร

    3. คุณแม่ได้ร่วมหุ้นลงทุนทำธุรกิจแชร์กับอาจารย์คนนึง ที่อยู่ในโรงเรียนที่คุณแม่ขายของอยู่ อาจารย์โกงเงินแม่ ไม่จ่ายต้นทุนให้ เป็นเวลามากกว่า 10 ปีมาแล้ว อยากถามว่าอย่างนี้เป็นกรรมเนื่องมาจากอะไร และต้องทำอย่างไรถึงจะแก้กรรมนี้ได้

    4. ถ้าคุณพ่อมีภรรยาน้อย คุณแม่เป็นทุกข์ใจหลายครั้งที่ฝันซ้ำๆว่าคุณพ่ออยู่กับผู้หญิงคนอื่น ยิ่งทำให้เป็นทุกใจยิ่งขึ้น อยากถามว่าอย่างนี้เป็นกรรมเนื่องมาจากอะไร และต้องทำอย่างไรถึงจะแก้กรรมนี้ได้


    คำตอบ
    (1) ถือว่าเป็นบาปผู้เข้าร่วมกระบวนอกุศลกรรมเมื่อใดที่บาปให้ผล จะทำให้ชีวิตมีปัญหา เช่น เจ็บป่วย ทำกิจการงานใดแล้วเกิดความติดขัด ถูกโกง ขาดทุน วิบัติ ฯลฯ

    (2) สิ่งทำไปโดยไม่มีเจตนาในสมัยที่ยังเป็นเด็กเป็นเรื่องของการจองเวรที่ยังผูก กันไว้ระหว่างมนุษย์กับสัตว์นกได้ก่อเวรเป็นลูกหนี้เวรกรรมกับผู้ทำกรรม เมื่ออกุศลวิบากให้ผลนกจึงต้องตายด้วยวิธีการดังที่บอกเล่าไป ถามว่าบาปหรือไม่ขึ้นอยู่กับนกที่ตายไป หากจิตวิญญาณของนกยังคงผูกเวรอยู่กับผู้ทำกรรม เมื่อใดที่เหตุปัจจัยลงตัวโคจรมาพบกันอีก ผู้ทำกรรมต้องรับอานิสงส์แห่งบาปนั้นบ้าง ฉะนั้นควรทำบุญใหญ่เชื่อปฏิบัติธรรมแล้วอุทิศบุญกุศลให้กับนกไปเรื่อย ๆ จนกว่านะจะเลิกจองเวร โดยมีเครื่องวัดคือผู้ทำกรรม ไม่ระลึกถึงนกที่ตายอีกต่อไป

    (3) นี่เป็นผลของกรรมที่ทำไว้ในข้อ (1) ประสงค์จะแก้กรรมโปรดดูคำตอบในเว็บไซด์ข้อ 728

    (4) เป็นผลของกรรมที่ทำไว้ในข้อ (1) เช่นกัน ประสงค์จะแก้กรรมต้องทำตามเว็บไซด์ข้อ 728

    ข้อ 728

    นักวิทยาศาสตร์เชื่อในความเป็นเหตุผล เมื่อมีเหตุเกิดย่อมมีผลเกิดตามมาหรือผลที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุที่ทำให้เกิด ผู้ที่เข้าถึงธรรมในพุทธศาสนารู้ว่าไม่มีแม้เพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น โดยบังเอิญทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ย่อมมีเหตุที่ทำให้เกิดทั้งสิ้น กรรมวิบาก มีจริง เป็นประสบการณ์ตรงของผู้ตอบปัญหาจึงขออนุญาตแนะนำพระคุณเจ้าว่า การจะให้ปัญหาของพระคุณเจ้าหมดไปสามารถทำได้ 4 อย่างคือ

    1. ยอมรับความจริงของบุพกรรมและยอมชดใช้วิบากของกรรมที่ตามมาทันในชาติปัจจุบัน ชดใช้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าหนี้เวรกรรมจะหมดสิ้น

    2. ทำบุญใหญ่แลกหนี้บุญใหญ่ต้องทำด้วยการปฏิบัติจิตตภาวนาแล้วอุทิศบุญที่เกิด ขึ้นให้กับเจ้าหนี้เวรกรรม (อดีตภรรยาและลูกสาว) ไปเรื่อย ๆ วิธีนี้เป็นการเอาบุญของพระคุณเจ้าแลกกับหนี้บุพกรรมที่เป็นเวรต่อกัน

    3. สร้างความดีหนีหนี้ ด้วยการพัฒนาตัวเองให้มีความเพียรไม่ประพฤติอกุศลกรรมใหม่ให้เกิดขึ้น เพียรกำจัดอกุศลกรรมเก่าให้หมดไปเพียรทำความดีทุกรูปแบบให้มีกำลังหนีทัน อกุศลวิบากที่จะตามมาให้ผลและสุดท้ายเพียรรักษาความดีที่พัฒนาได้ให้คงอยู่

    4. หนีเข้านิพพานด้วยการพัฒนาจิตตนเองหมดอาสวกิเลสแล้วดับรูปดับนามเข้านิพพาน

    ทั้ง 4 ข้อเป็นทางปฏิบัติของอริยบุคคล ในการบริหารจัดการนำพาชีวิตของตนเองข้ามวัฏฏะ คือข้ามไปจากความทุกข์ทั้งมวล
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    จะมีกรณีที่เป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้ที่ยังเป็นฆราวาส สามารถบรรลุอรหัตตผล และสามารถเข้าถึงนิพพานได้หรือไม่ โดยที่ฆราวาสผู้นั้นครองตนโดยไม่ผิดศีล ผิดธรรม ดำเนินชีวิตในสภาพที่มีครอบครัว และปฏิบัติจิตตภาวนาแนวทางสติปัฐฐานสี่ สามารถใช้ปัญญาวิปัสสนาสิ่งต่างๆ และเห็นตามความจริง

    กราบขอบพระคุณค่ะ

    คำตอบ
    เป็นไปไม่ได้ครับ
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    1.นอกจากสวดมนต์ในตอนกลางคืนการถวายน้ำและพวงมาลัย ให้พระพุทธรูป ในห้องพระ จะทำให้ได้บุญมากขึ้นมั้ย
    2.บุญที่ได้จากการถวาย พวงมาลัย+น้ำ คืออะไร
    3.การมีสติจดจ่ออยู่กับกิจกรรมประจำวัน เช่น ทำงาน ก็จอจ่อกับงาน ขับรถ ก็จดจ่อกับรถรอบๆรถเรา อย่างนี้จะเกิดบุญหรือไม่ เพราะเรามีสติจดจ่อและเป็นสัมมาสติ แล้วถ้ามีบุญเราควรอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรได้หรือไม่ เช่น พอเราขับรถ อย่างมีสติ จนไปถึงที่จุดหมาย แล้ว เราก็อุทิศ บุญที่ได้จากการมีสติในการขับรถ ให้เจ้ากรรมนายเวรจะได้หรือไม่

    คำตอบ
    (1) ได้บุญมากขึ้น

    (2) การกระทำถือว่าเป็นอามิสบูชาต่อองค์พระพุทธะ ผลของบุญส่งให้เกิดความเป็นมงคลเกิดขึ้นกับผู้บูชาซึ่งเป็นหนึ่งในมงคล 38

    (3) การกระทำที่บอกเล่าไป เป็นการประพฤติบุญกิริยาวัตถุ 10 ข้อที่ว่าด้วยการภาวนา ประพฤติได้แล้วเป็นบุญ ผู้ใดมีบุญ ผู้นั้นสามารถอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรได้
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ปัจจุบันดิฉันมีเรื่องทุกข์ใจ ที่หาทางปล่อยวางลงไม่ได้ ดิฉันไม่อยากหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย แล้วต้องมาชดใช้อีก 500 ชาติ จึงมาขอความเมตตาจากท่านช่วยชี้แนะแนวทางสว่างให้ด้วยค่ะ

    ดิฉันไม่มีงานทำแถมยังมีหนี้สินที่ต้องใช้ในแต่ละเดือนมากมาย ด้วยความเครียดทุกวัน ๆ มันสะสมมากขึ้นจนทำให้ดิฉันเป็นคนนิสัยใจร้อน ขี้โมโห จนบางครั้งสติตามไม่ทันก็ยิ่งแย่หนักกว่าเดิม แล้วก็ต้องมานั่งเครียดและเสียใจซ้ำลงไปอีกกับการกระทำดังกล่าว เพราะรู้ว่าไม่ดีแต่ไม่มีสติที่จะยั้งอารมณ์ของตนเองได้ วิธีแก้ที่พยายามอยู่ในปัจจุบันก็ได้แต่พยายามอ่านหนังสือธรรมะ และอ่านสิ่งที่ท่านสอนในเว็บแห่งนี้ แต่มันมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นมาที่จิตใจของดิฉัน คือว่าเมื่อดิฉัน มีความตั้งแต่ที่จะทำดี และพยายามจะนั่งสมาธิ และฝึกสติให้ตนเองมีสติมากขึ้น แต่มันมีเหตุเกิดขึ้นคือทำไหมดิฉันจึงเฝ้าหวนคิดแต่เรื่องกรรมเก่า ๆ ที่ทำไปในชาตินี้ตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ว่าจะเป็นกรรมที่ทำมาไม่นานหรือตั้งแต่ยังเป็นเด็ก มันตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา (ไม่ว่าจะเป็นกรรมที่ได้กระทำไปด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือแม้กระทำไปด้วยความไม่รู้เดียงสาเมื่อยังเป็นเด็กที่ยังไม่เข้าใจคำว่า บาปบุญก็ตาม ) นับวันมันจะทวีความหนักขึ้น มันทำให้ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น การฆ่าแมลงวัน การเผาปลวกที่มากินเสาบ้าน การเผาหนูและจิ้งจกที่ติดยางที่คุณแม่ดักไว้ (แต่มันยังไม่ตายดิฉันก็มีหน้าที่ต้องเก็บไปเผา) ดิฉัน จำได้ว่าตอนเด็กขณะที่นำมันไปเผาดิฉันเสียใจมาก ต้องร้องไห้ที่ต้องทำ ดิฉันขอให้มันอโหสิให้ดิฉัน เพราะดิฉันไม่ได้ทำการดักมัน ดิฉันไม่มีเจตนาจะฆ่ามัน แต่ที่ต้องเก็บมาเผ่าไฟเพราะถูกใช้ให้ทำ

    เท่าที่จำได้อย่างแน่นอนตั้งแต่เด็กจนโตดิฉันทำให้สัตว์ต้องตาย สัตว์ใหญ่สุดก็คือ หนู รองลงมาก็จิ้งจก แมลงสาบ ตะขาบ แมลงป่อง แมลงวัน แมลงเม้ายุง มด และอาจจะมีพวกแมลง ๆ ตัวเล็กต่าง ๆ ประปราย แต่ตั้งแต่ดิฉันเริ่มนั่งสมาธิ เรียนรู้เรื่องบาปบุญ ผ่านมาประมาณ 17 ปี กว่า ดิฉันก็ พยายามรักษาศีลข้อที่ 1 ให้ได้แต่ก็ยังไม่ 100% เฉพาะสำหรับยุงและมด อีกทั้ง สำหรับแมลงเม้า ดิฉัน ก็ได้ชดใช้กรรมให้เขาแล้วในชาตินี้

    ขอเล่า ว่าสมัยยังเป็นเด็ก ดิฉันเอากะละมังใส่น้ำไปรองใต้ไฟ ที่แมลงเม้าบินเล่นไฟอยู่ พอมันตกลงมาในกะละมังดิฉัน ก็เล่นด้วยวิธีจับมันกดลงไปในน้ำทีละตัว ๆ พอเห็นว่ามันแน่นิ่งไป ก็จะรีบเอามันขึ้นมาประถมพยาบาลด้วยวิธีเอาผ้าซับน้ำให้ตัวมันหายเปียก แล้วก็เอาปากเป่าลมไปที่หน้ามันเพื่อให้มันได้มีอากาศหายใจแล้วจะได้ฟื้นพอ มันฟื้นดิฉันก็ช่วยชีวิตตัวต่อไป แล้วก็เอาเข็มหมุดมาจิ้ม ๆ โดยจิ้มเฉพาะตามลำตัว แต่ส่วนหัวของแมลงเม้าดิฉันไม่แตะต้อง เพราะกลัวมันเจ็บ ที่ทำไปก็เพราะหมายว่าตัวเองเป็นหมอรักษาคนไข้ ทั้งหมดที่ดิฉัน กระทำไปกับแมลงเม้า ดิฉัน ไม่เคยพูดว่าไม่ได้ตั้งใจ ดิฉันตั้งใจเล่นกับชีวิตเขาอย่างตั้งใจ เพียงความตั้งใจนั้นมันไม่ได้ตั้งอยู่บนฐานของคนที่รู้บาปรู้บุญแต่เล่นไป ตามประสาเด็กเพราะไม่รู้ว่ามันเป็นบาป

    ดิฉันจำได้ว่าเล่นไปไม่กี่ครั้ง ( แต่มันหลายชีวิต ) จนเมื่อตอนอายุ 19 ปี ดิฉัน ก็ไปโดนไสยศาสตร์ถูกเขาทำเข็มเข้าตัว ขณะรักษาตัวก็ต้องทนทุกข์ทรมาน มากตอนกลางคืนก็นอนไม่ได้ เพราะพอจะล้มตัวลงนอนก็หายใจไม่ออก 1 คืน เป็นถึงเกือบ 20 ครั้ง ตอนนั้น ก็พยายามรำลึกให้ได้ว่าทำกรรมใดไว้ ก็หวนนึกได้ว่าก็เคยทำกับแมลงเม้ายังไงเล่า ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ดิฉัน ขอบอกไว้เลยว่ากรรมไม่ต้องรอชาติหน้าจริง ๆ เราทำไปในชาตินี้ก็ได้รับชาตินี้ อาการหายใจไม่ออกทุกวันนอนไม่ได้ต้องชดใช้แมลงเม้าอยู่เกือบ 10 ปี ที่ไปทำเขาโดยเอาเขากดลงน้ำ ดิฉัน เข้าใจความรู้สึกของแมลงเม้าเลยว่ามันทรมานขนาดไหน เหมือนคนใกล้จะจมน้ำแล้วก็ทะลึงตัวขึ้นเพื่อหายใจเหนือน้ำให้ได้ ต้องถูกเขาทำเข็มเข้าตัวเจ็บไปหมดยกเว้นเข็มจะไม่วิ่งขึ้นเลยคอมาที่ส่วนหัว ของดิฉันเลย ก็เพราะตอนดิฉัน เอาเข็มจิ้มแมลงเม้านั้น ดิฉัน จิ้มเฉพาะตามลำตัวแมลงเม้าอย่างเดียว ท่านอื่น ๆ ที่เข้ามาอ่านส่วนที่ดิฉัน เล่ามาถ้าใครคิดจะฆ่าสัตว์ เลิกซะเถอะนะค่ะ เพราะคำว่าขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการ มันยุติกรรมที่จะมาส่งผลจากกรรมที่เราได้กระทำไปแล้วไม่ได้...จากคนสำนึกผิด ซึ่งในปัจจุบันที่ดิฉันทำอยู่ ก็คือเมื่อเห็นแมลงเม้าจมน้ำหรือสัตว์ใดจมน้ำ ดิฉัน ก็จะรีบนำมันขึ้นมาจากน้ำแล้วรีบช่วยชีวิต ไม่ว่าจะกี่นาทีดิฉันก็จะช่วยจนสุดความสามารถ จนกว่ามันจะฟื้น เพราะบางตัวก็ใช้เวลานานเพราะดิฉันก็ไม่ทราบว่าเขาจมน้ำอยู่ ณ ที่นั้น ๆ มานานแค่ไหนแล้ว พอดิฉันช่วยชีวิตได้ 1 ตัว ดิฉันก็บอกว่ากุศลจากการช่วยในครั้งนี้ ดิฉัน จะนำไปช่วยชีวิตดวงจิตอื่นต่อไป

    เล่ามาถึงตรงนี้ขอเสริมอีกนิดว่า มีครั้งหนึ่ง ดิฉันไป พบแมลงปีกแข็ง (ไม่รู้ชื่อแมลง) มันนอนจมในน้ำซันไลท์ผสมน้ำที่ใช้ล้างจาน ดิฉัน ก็คิดว่าโอกาสรอดคงมีน้อยเหลือเกินเพราะเป็นน้ำซันไลท์ผสมน้ำมิใช่น้ำเปล่า อย่างเดียว และท่าทางจะจมมานานแล้ว แต่ดิฉันคิดว่าการที่ดิฉันมาเจอก็ต้องลองช่วยดู ดิฉัน ช่วยเขาอยู่นานเวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที มันไม่มีผลอะไรเลย ดิฉัน รู้สึกเสียใจ แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่า กรรมดีผลในชาตินี้ก็ได้รับแล้ว กรรมชั่วที่ทำไว้ก็ได้รับมาแล้ว เพราะฉะนั้น ด้วยความเชื่อผลของกรรม จึงใช้วิธีสุดท้ายทำจิตให้นิ่งแล้วระลึกว่าด้วยผลของกรรมดีจากการช่วยชีวิต แมลงเม้าที่เคยจมน้ำในวันก่อน ดิฉัน ขอเอากุศลตัวนั้นมาช่วยแมลงตัวนี้ด้วยถ้าเขาไม่ถึงคราวต้องตายจริง ๆ ก็ขอให้กุศลตัวนั้นมาช่วยชีวิตเขาได้ พอดิฉัน อธิษฐานจบภาพที่ดิฉันเห็นมันทำให้ดิฉัน ต้องร้องไห้ออกมา เพราะแมลงตัวนั้นมันกระดุกกระดิกแล้วเริ่มหายใจ แล้วในที่สุดมันก็รอดชีวิต ( ต้องขออภัยท่าน ดร.สนอง ที่ดิฉัน เล่ามามากมาย ก็หวังเพียงว่าจะเป็นประโยชน์เตือนใจหลาย ๆ ท่านที่ได้เข้ามาอ่านบ้างไม่มากก็น้อย ค่ะ )

    คำถามที่ 1) เหตุการณ์ในปัจจุบันที่ดิฉัน ตั้งใจและพยายามจะนั่งสมาธิ ทำไมภาพกรรมที่ดิฉันกระทำไว้กับสัตว์ มันถึงมาเตือนที่ใจให้ดิฉันระลึกถึงอยู่ทุกวันค่ะ (ที่ดิฉันกลัวที่สุดในตอนนี้ คือที่เผาหนูและปลวกที่มากัดกินเสาบ้าน) มันเป็นเพราะดิฉันเครียดหลายเรื่องในปัจจุบันแล้วส่งผลให้จิตใจฟุ้งซ่าน หรือ เพราะเจ้ากรรมนายเวรมาเตือนแล้วว่าถึงเวลาแล้วที่ดิฉันต้องชดใช้เขา (ถัดจากที่ชดใช้แมลงเม้าไปแล้ว) หรือค่ะ หรือเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรเขารู้ว่าดิฉันกำลังจะปฏิบัติธรรมแล้วเป็นการ เตือนว่าพอมีกุศลแล้วอย่าลืมอุทิศบุญกุศลให้เขาค่ะ บอกตามตรงว่าดิฉัน กลัวมาก ๆๆๆ ถ้าเป็นการเตือนว่าถึงเวลาแล้วที่ดิฉันต้องชดใช้เขาเหมือนที่ทำกับเขา ดิฉันกลัวไฟมากที่สุด ดิฉัน ได้อ่านที่ ดร.สนอง แนะท่านอื่นที่ถามว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาอโหสิให้เรา แล้ว เมื่อเราแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ไป แล้วท่านแนะว่าเราจะสามารถรับรู้ได้ที่ใจของเราว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาอโหสิ ให้เราแล้ว ซึ่งดิฉันเข้าใจว่าถ้าเจ้ากรรมนายเวรอโหสิให้ภาพของกรรมที่ทำไว้จะไม่มาหลอก หลอนย้ำเตือนที่ใจของเราอีก (ไม่ทราบว่าดิฉันจะเข้าใจถูกหรือไม่) ดิฉัน จึงกลัวและผวาหนักขึ้นเพราะดิฉัน รู้สึกแต่ว่าเราไปทำกรรมอะไรไว้บ้างมันเรียงรายการมาให้ระลึกได้เลย ท่าน ดร.สนอง ค่ะ ช่วยเมตตาแนะทางที่ดีให้ดิฉันด้วยเถอะค่ะ ว่าดิฉัน ควรจะทำอย่างไรดี ดิฉัน จะสร้างกุศลอย่างไรที่จะส่งทำให้เจ้ากรรมนายเวรเหล่านี้ ให้เขาคลายความทุกข์ความทรมานได้ดีและเร็วที่สุด ดิฉันสำนึกผิดมานานแล้ว แล้วไม่คิดจะหนี แต่ดิฉันได้แต่บอกเจ้ากรรมนายเวรเหล่านี้ว่า ดิฉัน ขอโทษ ดิฉันขอโอกาสให้ได้สร้างกุศลส่งให้เขาแทนการชดใช้ด้วยชีวิตได้ไหม

    คำถามที่ 2) ดิฉัน สังเกตมาตลอดชีวิต เรื่องร้าย ๆ ในชีวิตที่ดิฉันได้รับบางอย่างไม่ได้มาจากกรรมที่ดิฉันกระทำในชาตินี้ ก็แสดงว่าต้องเป็นกรรมที่เคยสร้างไว้ในชาติใดชาติหนึ่ง ซึ่งบางครั้งก็ชดใช้ก่อนกรรมในชาตินี้บ้าง ชดใช้หลังกรรมในชาตินี้บ้าง จึงอยากจะถามว่า กรรมที่คนเราต้องชดใช้แต่ละรายการนั้น มันไม่ได้เรียง 1 , 2 ,3 ของแต่ละรายการของแต่ละชาติใช่ไหมค่ะ แล้วมันเรียงคิวมาให้ชดใช้อะไรก่อนอะไรหลังจากอะไร หรือจากความรุนแรงของกรรมค่ะ

    คำถามที่ 3) ด้วยเหตุตอนเป็นวัยรุ่น ดิฉันเป็นคนพูดมุสาไว้มาก มาคิดได้ก็สายเสียแล้ว ปัจจุบัน ดิฉัน ก็คิดว่าคงกำลังชดใช้กรรมอยู่อีกเรื่อง ด้วยการเป็นฝีที่ต่อมทอมซิล ทุกวันต้องกดหนองตรงคอออกวันละหลายครั้ง ทุกคืนนอน หนองก็ไหลให้กลืนกินไปโดยปริยายทุกวัน ๆ กลิ่นหนองก็ไม่ได้ต่างจากเวลาไปงานศพแล้วเขาวนรอบเมรุเผาศพ แล้วได้กลิ่นน้ำหนองของศพที่นอนอยู่ในโลง (เปรียบเทียบไม่ผิดหรอกค่ะ) เพราะดิฉัน จำกลิ่นได้จากที่เคยไปงานเผาศพมามันไม่ต่างกันเลย มีคนบอกก็ไปรักษา ดิฉัน ก็รู้ตัวว่ามันทำไม่ได้เพราะดิฉันไม่มีเงินรักษา จึงขอถามท่านว่า ดิฉัน จะสร้างกุศลอย่างไรอาการของดิฉันจึงจะดีขึ้นค่ะ

    ทั้งหมดนี้ ขอถามท่าน ดร.สนอง ว่า สำหรับชีวิตของดิฉันที่เล่ามาทั้งหมดตั้งแต่ต้น มันหมายถึงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่สูญสิ้นหมดทุกอย่างแล้วใช่ไหมค่ะ ปัจจุบันมันสายไปแล้วใช่ไหมค่ะ ดิฉัน สำนึกผิดได้แล้ว ระลึกได้ถึงกรรมและผลของกรรมที่ตามมา แต่หาหนทางแก้ไขมันไม่ได้ ได้แต่ขอความเมตตาจากท่านช่วยชี้ทางสว่างให้เดินด้วยเถิดค่ะ


    คำตอบ
    (1) ผู้ใดทำกรรมไว้เมื่อกรรมให้ผลผู้ทำกรรมต้องรับวิบากของกรรมที่ทำ สิ่งที่บอกเล่าไปเป็นอกุศลกรรม เมื่อใดที่กรรมให้ผลจะให้ผลเป็นอกุศลวิบากดังที่ผู้ถามปัญหากำลังได้รับอยู่ ขณะนี้ เจ้ากรรมนายเวรมิได้มาเตือน แต่เขามาทวงหนี้เวรกรรมที่ผู้ถามปัญหาเคยก่อไว้กับเขาซึ่งจำเป็นต้องชดใช้ หนี้เวรกรรมจนกว่าจะหมดสิ้น หรือเจ้ากรรมนายเวรยกเลิกการจองเวร แล้วอกุศลวิบากและการระลึกถึงกรรมเก่าจะยุติโปรดอ่านการบริหารหนี้กรรมจาก ข้อ 728

    สิ่งที่ผู้ถามควรทำคือสร้างบุญใหญ่สุด ด้วยการนำตัวเองเข้าปฏิบัติธรรมตามสำนักปฏิบัติธรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ และก่อนจะจบ course การฝึกต้องขอความเมตตาจากเพื่อนร่วมปฏิบัติธรรมช่วยกันอุทิศบุญกุศลที่แต่ละ คนมีให้กับเจ้ากรรมนายเวรของผู้ถามปัญหาไปเรื่อยๆ จนกว่าอกุศลวิบากจะเบาบางหรือหมดไป และไม่ระลึกถึงกรรมในอดีตที่เคยทำอีกต่อไป และจะดีที่สุด หากผู้ถามปัญหาสามารถพัฒนาจิตตนเองจนเข้าถึงความเป็นอริยบุคคลขั้นต้น นั่นหมายความวา ประตูอบายภูมิได้ถูกปิดตายสำหรับการเดินทางชีวิตของผู้ถามปัญหาได้ตลอดไป

    (2) ผู้ถามปัญหาโปรดไปหาอ่านเรื่องกรรม 12 ทำความเข้าใจได้แล้ว จึงจะรู้ว่ากรรมชนิดใดให้ผลก่อน-หลัง กรรมชนิดใดให้ผลรุนแรง หรือยกเลิกให้ผลฯลฯ

    (3) โรคที่เกิดจากรรมเป็นต้นเหตุ ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการทางแพทย์ปัจจุบัน แต่โรคจะหายได้ต่อเมื่อชดใช้หนี้กรรมจนหมดสิ้นหรือเจ้ากรรมนายเวรยกเลิกการ จองเวร

    ทั้งหมดที่ผู้ถามปัญหาบอกเล่าไปมิได้หมายความว่า ชีวิตได้สูญสิ้นหมดทุกอย่าง เพราะชีวิตยังมีลมหายใจเข้า-ออก ยังมีร่างกายเป็นเครื่องมือให้จิตได้ใช้ประกอบกรรม กรรมไม่ดีก็เคยทำมาแล้วจนปรากฏผลประจักษ์แจ้งกับตนเอง ทำไมไม่ลองทำกรรมดีดูบ้าง เอาวิกฤติของชีวิตมาสร้างโอกาสให้ตัวเอง พัฒนาจิตวิญญาณให้สูงส่งด้วยบุญเลิกนึกถึงอดีตที่ไม่เคยมีใครผู้ใดแก้ไขได้ พระพุทธะ พระมหาโมคคัลลานะ อัมพปาลี อิสิพาสี ฯลฯ ล้วนเคยทำกรรมไม่ดีมาทั้งนั้นท่านเหล่านั้นเลิกเอาใจไปผูกติดอยู่กับอดีต แต่ใช้เวลาในปัจจุบันอย่างมีคุณค่า พัฒนาจิตวิญญาณของตัวเอง จนสามารถนำพาชีวิตไปพบกับอริยสมบัติชั้นสูงสุดได้

    ย้อนกับมาสู่กรณีของผู้ถามปัญหา ยังมีโอกาสสร้างบุญบารมีให้กับตัวเองได้ ด้วยการใช้เวลาที่เหลืออยู่ในปัจจุบันให้เป็นประโยชน์นำตัวเข้าปฏิบัติธรรม แล้วอุทิศบุญให้ถูกตรงตามคำแนะนำ แล้วโอกาสเป็นเจ้าของสวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ แม้อริยสมบัติยังเปิดให้เข้าถึงได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...