วิธีทำให้ปอบแสดงตัว..อันนี้ฟังเพื่อนมาอีกทีนะครับ

อีกนิดนึง คือมีญาติคนนึงแกเพิ่งเสียไปเมื่อไม่นานมานี้ เขาว่ากันว่าแกมีของบางอย่างที่ทำให้แกเป็นปอบ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า คือมีคนเคยเห็นอะไรแปลกๆอยู่ในเขตบ้านแก หลังจากแกเสียไป หนึ่งในลูกสาวของแกที่แยกครอบครัวไปอยู่อีกหมู่บ้านก็นำของนั้นไปด้วย ก็รอฟังข่าวคราวว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแปลกๆกับเขาหรือเปล่า ตอนที่ญาติคนนี้มีชีวิตอยู่แกจะรักลูกสาวคนนั้นมากกว่าใคร และนิสัยสองคนนี้ก็เหมือนกันอยู่อย่างนึงคือโลภมากและขี้เหนียว พอแกเสียชีวิตไปหมอนที่แกเคยเย็บไว้หลายๆใบก็ปรากฎว่าแกซ่อนเงินไว้ในนั้นเพียบเลย... (ไม่รู้เกี่ยวกันกับชื่อกระทู้หรือเปล่านะ ก็เล่าสู่กันฟังจ้า...)

 

.... ฟังดูก็มีความเป้นไปได้คะ เพราะการจะมี หรือ จะเป็น ปอบ นั้นพวกของอาถรรพ์บางอย่างก็ทำให้เป็นได้คะ ใครที่ครอบครองมันก็จะอยู่และแฝงกินคนนั้น หรือ คนใกล้ชิด หรือ ออกไปหากินข้างนอก .. เพราะอุปนิสัยพวกนี้ชอบไม่เหมือนกัน แต่ส่วนมากจะเหมือนคนที่เป็นเจ้าของมันนั้นแหละคะ .. ต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย

 

ส่วนผมไม่ได้ฟังใครมา ฟังจากปอบเอง
นั่งคุยกับเขา อยอกเขา...แล้วก็ทดสอบเอง..

 

หมู่บ้านผมไม่มี บือบ้าน อะไรทั้งนั้นเลยครับ แต่ของพวกนี้ก็ลดน้อยลงตามคนที่เรียนลดน้อยลง แต่ผมก็ไม่เคยเจอตัวเป็นๆสักทีครับ ที่เจอบ่อยก็พวกแสงลอยใด้ ออกหากบหาเขียดทีไร
เจอทุกทีเจอจะๆคาตาพุ้งหนีหายไปต่อหน้าก็เคยเจอมาแล้ว

 

เมื่อกลางเดือน ตุลาคม น้องๆ มาจากโคราช
มากัน 3 คน ทั้ง 3 คนเล่าว่า ที่อำเภอมีปอบอยู่ 2 ตน

 

.... เก่งจังเลยนะคะ .. แสดงว่าคุณ Than_2012 ก้คงจะเรียนวิชามาพอตัวเลยนะคะ ... คงมีอาจารย์ดี ๆ คอยแนะนำสอนสั่งความรู้ และ วิชาให้ถึงทำได้ขนาดนี้ .. เพราะปกติคนธรรมดา หรือ พวกมีเทพเทวดาสูง ๆ รักษาก็ทำแบบนี้ไม่ค่อยได้ .. ถ้าไม่ได้เรียนวิชาคาถามาไม่มีครูคงทำไม่ได้ .. เพราะวิสัยพวกนี้ไม่ค่อยเป็นมิตรกับใครนอกจากพวกเดียวกัน .. หรือ ผุ้ที่มีอำนาจมากกว่า ...

.... กาลีนะ เองยังไม่กล้าหยอกพวกนี้เลยคะ ... แสดงว่าคุณเก่งจริง ๆ ขอแสดงความนับถือนะคะ ... แล้วยังไงที่บอกไว้ จะรับปากได้ไหม๊คะ ... รับปากกับ " กาลี " ได้ไหม๊คะ ถ้าคุณจะมาบ้านจริง ๆ นะคะ .. เพราะ กาลีนะ ไม่ได้รังเกียจคนที่หวังดีอยากช่วยให้หมู่บ้านของ กาลีนะ พ้นทุกข์หรอกนะคะ .. ยินดีต้อนรับในน้ำใจไมรตรีอันดีที่คุณเสนอให้มาคะ ...

 

.... ก็ดีแล้วคะ .. ของพวกนี้มันเปลี่ยนเจ้าของได้ .. เพราะบางชนิดอาศัยอยู่ในสิ่งของอาถรรพ์ต่าง ๆ เวลาเจ้าของมันหนีไปแล้วมันก็จะอยู่ในของอาถรรพ์นั้น ๆ และ ออกหากินเองในรูปแบบของพรายต่าง ๆ ... หรือ เจ้าของมันยกของอาถรรพ์นั้นให้ใครไปมันก็จะไปอยู่กับคนนั้นแทน ... หรือ บางพวกก็ตายไปกับเจ้าของเลยก็มี ... มันมีหลายชนิด

.... กาลีนะ เคยเห็นกับตาเนื้อไม่กี่ครั้งเองคะ เคยเห็นเปรต 3 ตัวครอบครัว ตอนอายุ 12 .. อายุ 17 เคยเห็นนางตะเคียนที่วัดภูย่าอู่ที่บ้านผือตอนเดินขึ้นไปเพื่อฝึกสมาธิกับพระอาจารย์ทองใบแต่มันแค่แว๊บเดียวจริง ๆ พอนั้งสมาธิก็ได้ยินเสียงคนเดินด้านหลังสองคน เสียงสไบ สัมผัสได้ว่าเป็นน้ำหนักของเท้าคนเดินย่ำบนพื้นดินนิ่ม ๆ สองคนเดินสวนกันไปมา ... แต่พอลืมตาแล้วหันกลับไป .... ไม่มีใครนอกจากต้นยางใหญ่ขนาดสี่ห้าคนโอบสองต้นคู่กันด้านหลังห่างไปแค่สองเมตร กับ อาจารย์ที่โรงเรียน ส่วนคนอื่น ๆ นั้งสมาธิแยกกันไปคนละมุม .. คนที่เดินมีเพียงพระอาจารย์ทองใบ กับ รองเจ้าอาวาส ที่ห่างจากที่ กาลีนะ นั้งเกือบห้าสิบเมตร .. ตกกลางคืนมานอนกันที่โรงทานก้เคยเห็นแค่เป็นพระสององค์มาเดินสำรวจนักเรียนที่มาบวชภายในอาคารซึ่งปิดประตูหมด ( แต่เพื่อนบอกว่าจะเจอแบบนี้ทุกรุ่นที่มากันไม่แปลก ) กับตอนกลับบ้านแล้วกำลังจะนอนในห้องเปิดไฟนอนหลับตาอยู่แต่ต้องลืมตาขึ้นมาดูเพราะมีเสียงคนเดินเข้ามาในห้องนอนที่ล็อคประตูไว้เห็นพระอาจารย์ กับ รองฯ เดินเข้ามาแล้วท่านมายืนยิ้มให้ที่ปลายเตียง ... โชคดีก่อนจะสึกออกมาท่านได้กรุณาดูดวงให้ลูกศิษย์บางคน กาลีนะ ก็อยู่ในผู้โชคดีเหล่านั้นด้วย ... แต่สมัยนั้นไม่เชื่อคะ

... แล้วตอนที่โตมาทำงานแล้วก็เคยเห็น ตอนไปบวชแก้กรรมที่วัดสวนแก้ว กับ พระอาจารย์เพิ่ม รองเจ้าอาวาส ฯ ก็เป็นหญิงสาวแขกใส่ชุดส่าหรีสีแดงสดทั้งตัวชุดสวยงามมากมายืนยิ้มให้ กาลีนะ ตรงประตูศาลาใกล้ กับ พระประธานแล้วเรียกชื่อ .. ซึ่งตอนนั้น กาลีนะ เพิ่งสวดมนต์ทำวัดเสร็จ และ พระอาจารย์ท่านให้นั้งสมาธิแค่ 15 นาที ภาพ และ เสียงที่ได้เห็นได้ยินนั้นเป็นตอนที่ลืมตาจากสมาธิพอดี .. แต่ภาพชัดมาก ๆ พอพยายามเพ่งดูก็หายไป .. เท่าที่จำได้ก็มีประสบการณืเพีบงแค่นี้แหละคะ ไม่เยอะ ...

.... ด้วยเหตุนี้เองทำให้ กาลีนะ กลัวการนั้งสมาธิ เป็นคนสมาธิสั้นด้วย และเพราะเป็นคนที่ใจร้อนมาก ๆ เหมือนมีไฟลุกพรึ๊บขึ้นในตัว .. ถ้าโกรธมาก ๆ จะรู้สึกขนหัวลุก .. หูอื้อ .. และ มักทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว เรียกว่าโมโหร้ายเลยดีกว่า ... พระที่ท่านเมตตาเลยสอนให้ฝึกจากการ " ทำทานบารมี " ก่อนเมื่อใจมีเมตตา ค่อยมาเรื่อง " ศีล " ต่อไปเรื่อย ๆ แต่พัฒนาการของ กาลีนะ ช้ากว่าชาวบ้านคะ ... แต่ก็จะพยายามต่อไป

 

ฮ่าาาาๆ คุณกาลีนะ
ผมไม่ได้เก่งกาจหรอกครับ เพียงแต่ไม่กลัว คือ ตอนนั้นผมอยากกินนึ่งไก่ ผมจะไปซื้อบ้านของเขา เพราะไก่เยอะดี มีหลายรุ่นให้เลือก ส่วนบ้านคนอื่นเขาไม่ค่อยขาย อีกอย่าง ผมเป็นเพื่อนกับลูกสาวของเขา เรียนประถมด้วยกัน และผมก็ไม่กลัวด้วยครับ ห้าวๆ ตามวัยของของผมนั่นแหล่ะ ส่วนอาจารย์ตอนนั้นยังไม่มีหรอก ที่ไม่กลัวเพราะพ่อกะแม่ไม่เคยสอนให้กลัว รวมกับคนรอบข้างเป็นหมอธรรม หลายคน หมอธรรมบางคนชอบไปทำธุระกลางคืน ไม่รู้เป็นไรเขาจะมาชวนผมไปเป็นเพื่อนอยู่บ่อยๆ .. กลางคืนก็ไปช่วยพ่อกับแม่ต้มเหล้าเถื่อนในป่าช้า ฮ่าาาา ตำรวจไม่กล้าเข้าไปจับ ไม่มีไรทำก็เดินสำรวจป่าช้าดึกๆ นั่นแหล่ะ มีอะไรดังก็อกๆ แก็กๆ ผิดปกติล่ะก็ อย่าแหลมหน้ามาสุ่มสี่สุมห้าก็แล้วกัน เปรี้ยงแน่ๆ ถ้าคุณจะไล่ผี แต่คุณยังกลัวผี แล้วจะไล่ได้ยังไง..
แล้วผมจะรับปากอะไรกับกาลีนะล่ะครับ บ้านคุณอยู่โคราชหรอ

*** อย่าที่ผมกล่าวไว้หลายกระทู้ ดวงจิตที่ตั่งมั่นที่สำคัญ ส่วนคาถาก็คือ การภาวนา

 

ครับ คุณนั่งสมาธิคุณภาวนาว่ายังไง
การนั่งสมาธิ แล้วเห็นโน่น เห็นนี่ แต่ก่อนผมก็เป็น แต่ทุกวันนี้ผมเปลี่ยนเป็นแนวสติปัฏฐาน 4 เอาสติไว้ที่ตัวเองตลอด ไม่ได้เอาสติไว้กับสิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่ได้ยิน แนวนี้จะทำให้สิ่งที่คุณกลัวหายไป

สงสัยสอบถามได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ

 

ขอเรียนรู้เรื่องปอบ ด้วยคน ค่ะ คุณmistersak12 คุณThan_2012 คุณกาลีนะ

แถวทางบ้าน จะมีข่าวปอบปรากฏตัวอยู่เป็นระยะ

คนเก่าแก่โบราณเล่าสืบต่อกันมาว่าปอบจะตกทอดจากบรรพบุรุษสู่รุ่นลูกหลาน

จนปัจจุบันจะมีปอบออกมาจับกินไก่ชาวบ้านเลือดสดๆ ปรากฏให้เห็น

ให้รู้ว่า ฉันนะ ปอบนะ ยังมีอยู่ในโลกนะ ประมาณนี่เลย

... ปล่อยไก่สดๆเลือดสาด ทิ้งไว้ แล้วหายวับไปกับตา


อยากทราบเหมือนกันค่ะว่า เราจะมีวิธีกำจัดปอบให้หมดไปได้อย่างไรบ้าง คะ

อืม... ส่วนการเรียกให้มาปรากฏตัว ไม่เอาแล้วล่ะ เหอๆๆๆๆๆ

 

..... ไม่นั้งคะ

... กาลีนะ ไม่ได้นั้งสมาธิคะ ... แต่เจริญสมาธิแบบอื่นแทนคะ ... ที่เล่านั้น คือ สมัยก่อนคะ ... เพราะรื่องในปัจจุบัน กาลีนะ จะไม่ค่อยเอามาลงเล่า .. จะคุยเฉพาะในบ้านฯ กับพี่ ๆ น้อง ๆ ในห้องเท่านั้นคะ ... อาจจะมีปรึกษาพี่ ๆ บางท่านในพลังจิตบ้างส่วนมากจะอ่านที่คนอื่นเขาแนะนำกันมากกว่า เพราะ กาลีนะ ไม่เน้นเรื่องสมาธิ ( ไม่ขอกล่าวถึงเหตุผล แล้วกันนะคะ ) เอาแค่ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมก็พอ ... ถ้าบางช่วงที่มันเลยไปจนเหลือแต่ความว่าง นิ่ง .. เห็นพี่ ๆ เขาบอกว่าการทรงอารมณ์ ฌาณ ประมาณนั้น.. ก็จะลดลงมาเพราะ กาลีนะ ยังต้องใช้ชีวิตแบบคนปกติอยู่ .. ก็ได้พี่ ๆ ในบ้านเป็นคนแนะนำให้ .. คุณธันก็รู้จัก กาลีนะ อยู่แล้วนี้คะ .. คนที่แนะนำคุณธันในบ้านก็คนเดียวกันกับที่สอน กาลีนะ นั้นแหละคะ .. เราเคยเจอกันบ่อยตอนดึก ๆ เพียงแค่ช่วงนี้คุณหายไปแค่นั้นเอง ...

... " จริต " ของคนเราแต่ละคนแตกต่างกันไปคะ .. ตามสิ่งที่มี และ ของเก่า ที่สะสมมา .. อยู่ที่ว่าเราอยากเข้าถึงมันไหม๊ ... จุดประสงค์ของเราต้องการอะไร .. มันไม่เหมือนกันหรอกคะ .. ทุกคนมีหน้าที่ .. มีวาระแห่งตน .. มีความต้องการไม่เหมือนกัน ... การนั้งสมาธิไม่ถูกจริตของกาลีนะหรอกคะ

... ไฟ ย่อมเป็น ไฟ อยู่วันยังค่ำ .. ความสงบนิ่งอาจดีสำหรับหลายคน .. แต่ไม่ใช่ จริต ของ กาลีนะ คะ ... การได้ยินได้เห็นมันเป็นธรรมดาของผู้มีความสามารถเป็นพื้นฐานการเริ่มต้นให้อยากเรียนรู้สุดแต่ปัญญาของแต่ละบุคคล .. แต่การรู้จักแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ให้ออกมันต้องใช้สติ + ปัญญา ... สิ่งใดจริง สิ่งใดลวง ... เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ กาลีนะ จะต้องแสวงหาความรู้มาเพิ่มเติมให้กับตนเอง .. และ ถ่ายทอดประสบการณ์ต่าง ๆ ในอดีตให้คนที่สนใจจะค้นหาได้มีตัวอย่างแนวทางในการค้นหา " ตนเอง "

.... ขอบคุณนะคะ ถ้าติดขัดสิ่งใดคงต้องได้รบกวนแน่นอนคะ ...

 

.... ปอบ มันมีหลายแบบนะคะ ... ร้ายกาจสุดน่าจะพวก ปอบวิชา .. เพราะพวกนี้นอกจากจะ มีวิชาเก่งกล้าติดตัวแล้ว อาถรรพ์วิชายังเพิ่มพลังให้พวกเขาได้ด้วย ... แล้วยังไม่รู้ว่า "หัวหน้าปอบ " พวกนั้นเป้นพวกแก่วิชา แก่อาวุโส หรือ เปล่า เพราะบางตัวก็อยู่มานานมาก ๆ เป็นพันปีแบบที่พี่ระมิงค์เคยโพสไว้ .. ระดับนั้นปราบยากคะ .. แต่พวกนี้จะไม่ยุ่งกะใครมั่วซั่วและไม่กินก็ได้คะ ไม่เหมือนพวกปอบบริวารอันนั้นกินแบบตายอดตายอยากเลยทีเดียว ...

.... ส่วนมากแถวบ้าน กาลีนะ ก็จะไปเชิญพระในอำเภอใกล้ ๆ มาช่วยปราบคะ แต่ก็ไม่หมดเพราะ ตัวแก่ยังอยู่ และ ก็มีที่หนีไปอยู่ที่อื่นช่วงเขาจับก็มี พวกนี้เจ้าเล่ห์ และ แอบซ่อนเก่งคะ ... ปอบมันไม่ซื่อบื้อนะคะ ... ถ้าคิดจะจัดการกับเจ้าของมันก็ยาก เพราะกฏหมายมีอาจเกิดปัญหาได้ง่าย ๆ ไม่เหมือนสมัยก่อนนะคะ .. ส่วนมากเขาจะ " ป้องกัน + ขับไล่ " สะมากกว่าคะ ... คนที่เชี่ยวชาญ และ เก่งจริงแบบกำราบได้หมดสมัยนี้หายากคะ .....

 

ไล่ได้ด้วยกำปั้นง่ะ
ต่อยทั้งกลัว ๆ นี่แหละ

 

สาธุคะ ....


.... วิธีนี้เคยทำตอนสักอายุ 16 คะ 5555555 แต่ได้ผลนะคะตอนนั้น .. แต่ตอนต่อยนี้เราต้องรวบรวมสติให้อยู่ที่หมัดเท่านั้น .. คิดแค่ว่าจะต่อยมันให้ได้ทำได้แล้วใส่เลยคะ เพียงเสี้ยวนาทีต้องตั้งสติให้ได้คะ ... 55555

 

มันก็ไล่ด้วยกำปั้นใด้จริงๆเหละครับแต่ว่าคนถูกต่อยจะล้มหลือคนต่อยจะล้มเอง
ของพวกนี้ขึ้นอยู่กับจริตใครจะแน้กว่ากัน เท่าที่ฟังๆทั้งพระทั้งผู้ใหญ่ที่รู้จัก
ของพวกนี้มักจะไม่ค่อยให้เรามาเห็นในโลกแห่งความเป็นจริงทั้ง ปอบ ทั้งคุณไสย์ส่วนใหญ่จะมาเล่นเราในฝันซะมากกว่า 5 ทุ้มถึงเทียงคืนนี้เเหละส่วนมากจะเจอเวลานี้หลับตาเป็นโดน จะต้องว่าคาถาในฝันแล้วต่อยหลือผลักออกไปแต่ถ้าสมาธิเราไม่พอก็ผลักไม่ไปเหมือนกำลังเอามือดันกำแพงเหล็กอยู่ยังไงยั่งงั้น
ถ้าอ่อนหน่อยก็กระเด่นออกไป สู้กับของพวกนี้มันไม่ยาก ที่ยากตรงเตรียมใจ
กับการข่มความกลัวให้ใด้นี่สิยากกว่าแม้แต่ผู้เขียนเองก็ยังไม่สามารถที่จะข่มความกลัวใด้เลยคนที่โดนเล่นงานส่วนใหญ่ใช่ว่าจะสู้ไม่ใด้แต่ไม่สู้เลยมากกว่าเพราะมัวแต่กลัวถ้าคุณเจอของพวกนี้แล้วไม่รู้จะสู้ยังไงให้จำคาถาบทนี้ไว้
พึงระลึกถึงคุณ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ พระพทธเจ้า แล้วท่องแค่ ''นะโมตัส นะโมตัส นะโมตัส"สั้นๆแต่ใช้ใด้ผลจริงไม่เชื่อไปใช้ดูนะครับ

 

..... ใช่คะ

... พวกนี้เขาไม่ค่อยมาให้เราเห็นในโลกของความเป็นจริงเท่าไหร่หรอกคะ .. ถ้ามาก็แค่สัมผัสได้ถึงพลังแต่ถ้าแบบมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อนั้นยากคะ นอกจากพวกมี ตาทิพย์ หรือ มีของเก่ามาก่อนเป็นทุน .. มันเปลืองพลังงานพวกเขาโดยใช่เหตุคะ ... ไม่เหมือนในฝันมันง่ายกว่ากันเยอะเลยคะ ... เจอกันแบบไม่ต้องมีกายเนื้อ .. ทีนี้ก็ต้องมาดูว่าจะสู้กันแบบไหน ซึ่ง ๆ หน้า ตัวต่อตัว หรือ พวกมากลากไป ... ก็ค่อยว่ากัน ... แต่พูดถึงสู้ในฝัน หรือ นิมิตรมันส์กว่าเยอะคะ ... " กายหยาบข้อจำกัดมันเยอะ แถมไม่คล่องตัวด้วย หาอุปกรณืเสริมก็ลำบาก .. ในนิมิตรแค่นึกถึงมันก้ได้เลย .. แค่เราต้องคุมจิตเราให้ได้ก้พอ " สำหรับคนอื่นไม่รู้เป็นไงแต่ กาลีนะ ได้ทุกรูปแบบถ้าเขาจะมารังแกเรานะคะ แต่ไอ้จะไปหาเรื่องนั้นไม่นิยมคะ ... เพราะเรื่องแบบนี้มันก็มีกฏของภพภูมิเหมือนกัน .. ไม่อยากหลับแล้วไม่ตื่นอีกเลย ... เห้อ ๆ ไม่คุ้มคะ .. แล้วคนส่วนมาก ไม่ว่าหมอผี พวกเล่นคุณฯ พวกร่างทรง .. ไม่ค่อยรู้ว่าถ้าเราไปก่อเรื่องใครก่อนแล้วจะเกิดผลยังไง .. เผลอ ๆ วิชาหายหมดก็มีนะคะ แบบว่าค่อย ๆ เสื่อมลงไป ... เพราะมันมีเทพอยู่ประเภทหนึ่งที่สามารถ " ล้าง แก้ ทำลาย " ได้อยู่แต่มันก็ขึ้นกับบารมีของผู้ครอบครองด้วย ... พุดมากเด้วงานงอกอีก ... เอาไว้ในฐานที่เข้าใจคะ .

 

ที่บอกนี่คือต่อยไปแล้ว
เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน