วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

http://www.kanlayanatam.com/sara/sara32.htm

 

นำมาลงให้จากข้อความด้านบนนี้ครับ





นับตั้งแต่วันวิสาขบูชานี้เป็นต้นไป ข้าพระพุทธเจ้าจักดำเนินชีวิตตามครรลองแห่งพระธรรมคำ แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังต่อไปนี้
จักยินดีที่ได้ให้ ไม่หดหู่เศร้าหมอง ไม่จองหองเย่อหยิ่ง
นิ่งทำจิตสงบ คบคนดีเป็นมิตร ไม่คิดยกตนข่มท่าน
กิจการงานจะไม่คั่งค้าง วางตนให้เหมาะสม ข่มจิตใจไม่ลุ่มหลง
คงมั่นและกล้าหาญ เกียจคร้านจะงด อดใจไม่ผูกโกรธ
โปรดการรักษามารยาท ประมาทต้องไม่มี ตระหนี่จะขจัด
ปฏิบัติจะไม่ลำเอียง เลี่ยงวิวาทด้วยสติปัญญา อัตตาจะไม่ยึดติด
ไม่คิดผูกพยาบาท สงเคราะห์ญาติตามสมควร ขนขวายทำบุญ
เกื้อกูลบุตรภรรยา ใช้วาจาก่อประโยชน์ เห็นโทษอบายมุขทั้งปวง
ไม่ล่วงเกินเบียดเบียน เรียนรู้อริยสัจจ์ ศึกษาศาสตร์หลากหลายสอนง่ายเป็นนิจ ไม่ติดในโลภสักการ์ ริษยาต้องไม่มี
พรหมวิหารสี่ที่ใจตน คนพาลจะไม่คบหา ศึกษาด้วยอิทธิบาท
ปราศจากมัวเมา เอายุติธรรมเป็นที่ตั้ง ฟังธรรมะเป็นประจำ
คุณธรรมไม่บกพร่อง ยึดครรลองอริยมรรค ดำรงรักษ์จรรยาบรรณ
แบ่งปันลาภที่ได้มา ตลอดเวลาจะดำรงสัมปชัญญะ ละมายาให้สิ้น
ถือศีลห้าเป็นนิจ กิจเป็นบาปจะไม่ยุ่ง มุ่งปัจจุบันกว่าอดีตอนาคต
อดทนต่อสภาพที่เป็นอยู่ เลี้ยงดูพ่อแม่ให้ถ้วนครบ ผู้ที่ควรเคารพจะไหว้กราบ
สุภาพและอ่อนโยน ทำตนสม่ำเสมอ ไม่เผลอลืมสติ
ปิยะวาจาจะรักษา ภาวนาเป็นเนืองนิจ เลี้ยงชีวิตให้พอเหมาะ
บ่มเพาะความซื่อตรง มั่นคงต่อสัจจะ ประหยัดทรัพย์ที่หาได้
ไม่โกรธเพื่อชนะโกรธ ไม่โปรดเอาแต่ขอ ไม่ก่อและจองเวร
ไม่เป็นคนฟุ้งซ่าน ยึดมั่นพระตถาคต จะงดทุจริตทั้งปวง
หลีกพ้นบ่วงทิฏฐิมานะ มีวิริยะในทางที่ถูก ปลูกปัญญาด้วยศีลสมาธิปรารถนาดีและจริงใจ อาศัยในที่อันสมควร ล้วนสดับมาก
แม้ลำบากก็จะกตัญญู มั่นคงอยู่บนทางสายกลาง ไม่เหินห่างจากวินัย
แจ่มใสเป็นเนืองนิจ คิดพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ต่อสู้เพียรเผากิเลส
ขอจงรุ่งเรืองเดชและมั่งมีศรีสุข
จากอานิสงส์ของการตั้งสัจจาธิษฐานนี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าและผู้ที่ข้าพระพุทธเจ้าจักเอ่ยถึงต่อไปนี้ ได้รับอานิสงส์ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์อวิชชาถูกขจัดหมดสิ้น มีพลังแห่งปัญญาเพิ่มพูนขึ้น ขอให้บรรลุความรู้แจ้งและได้ฌานสูงยิ่งขึ้นไป ขอให้พลังแห่งชีวิตเพิ่มพูนขึ้น สามารถเอาชนะมารทั้งหลาย โรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนศัตรูผู้เบียดเบียนทั้งปวง รุ่งเรืองด้วยเดชาและบารมีด้วยเทอญ
<!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --><!-- Counter/Statistics data collection code --><SCRIPT language=JavaScript src="http://us.js2.yimg.com/us.js.yimg.com/lib/smb/js/hosting/cp/js_source/geov2_000.js"></SCRIPT><SCRIPT language=javascript>geovisit();</SCRIPT> <NOSCRIPT></NOSCRIPT>

 

*** ใช้เวลาค้นหาความจริง ****

กว่าพระพุทธเจ้า จะพบ "หลักสัจจะธรรม และ สัจจะ การปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นทุกข์"
พระองค์ ทรงทดลองพิสูจน์หนทางต่างๆ มามากมาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สวัสดีครับ ผมหายไปนานเลย ตอนนี้กำลังซุ่มเงียบอยู่ครับ เผอิญไปเจอข่าวนี้เข้าเลยเอาให้อ่านกันครับ http://www.thairath.co.th/news.php?section=international&content=70618 ลองสังเกตุการแถลงการณ์ของสหรัฐครับ สงสัยจะไม่นานแล้วครับ

 

โมทนากับคุณChdhorn ด้วยครับ

ธรรมมะนั้นปฏิบัติจึงได้รู้ ได้สัมผัสได้ด้วยตนเองเป็นปัจจัตตังครับ

มาช้าแต่ไฟแรงก้าวหน้าเร็ว ก็ปรากฏว่ามีหลายท่านครับ

สำคัญที่ลงมือปฏิบัติครับ

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ เพื่อเป็นกำลังให้พระพุทธศาสนา

 

แจกพระปรียนันท์ดีกว่าซื้ออาวุธไหมเอ่ย

 

เรือดำน้ำ ขนาดใหญ่ก็ไม่มีเงินจะไปซื้อได้ ถ้าซื้อเรือดำน้ำขนาดเล็ก ราคาถูกประสิทธิภาพก็ด้อย ไม่สามารถไปปฏิบัติระยะไกลได้และดำน้ำไม่ลึก เวลากลางวันสภาพอากาศดีจะเห็นเรือที่ดำน้ำได้จากเครื่องบิน อ่าวไทยตื้น มีบางจุดเท่านั้นที่ซ่อนเรือดำน้ำได้ แถวหมู่เกาะอ่างทอง ฝ่ายข้าศึกใช้เครื่องบิบปราบเรือดำน้ำ ลากโซนาร์/ดาวเทียมค้นหาเจอได้ง่ายและปล่อยตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ ก็จมดิ่งลงก้นทะเลเท่านั้น รถถังรุ่น M 60 หนักมากวิ่งลงท้องนาก็จมโคลนเท่านั้นเป็นเป้าให้ข้าศึกยิง บ้านเราก็รถถังขนาดเบาถามพี่คลิกรู้ดี อดีตทหารม้า

 

ปางเมื่อ พระองค์ประมะพุท
ธะวิสุทธศาสดาตรัสรู้อนุตระสะมา-
ธิ ณ โพธิบัลลังก์
ขุนมารสหัสสะพหุพา หุวิชาวิชิตขลัง
ขี่คีรีเมขะละประทัง คชะเหี้ยมกระเหิมหาญ<O
แสร้งเสกสราวุธะประดิษฐ์ กละคิดจะรอนราญ
รุมพลพหลพยุหปาน พระสมุทรทะนองมา
หวังเพื่อผจญวะระมุนิน พระสุชินะราชา
พระปราบพหลหยุหะมา ระเมลืองมลายสูญ<O
ด้วยเดชะองค์พระทศพล สุวิมลไพบูลย์
ทานาทิธรรมะวิธิกูล ชนะน้อมมโนตาม<O
ด้วยเดชะสัจจะวะจะนา และนมามิองค์สาม
ขอจงนิกรพละสยาม ชยะสิทธิทุกวาร<O
ถึงแม้จะมีอริวิเศษ พละเดชะเทียมมาร
ขอไทยผจญพิชิตผลาญ อริแม้นมุนินทร <O

 

*** ทุกสิ่งสำเร็จด้วย ****

ด้วยอำนาจของ "สัจจะ" ที่ทำได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นอกเรื่องนิดครับ

เรียนพี่คณานันท์ หลายวันก่อนผมได้โอนเงิน เข้าบัญชี พิชิตภัยพิบัติ 1999.99 บาท
ขอรบกวน พี่ส่งหนังสือรู้ไส้ ให้สองเล่มด้วยครับ ส่วนเงินที่เหลือ ผมขอร่วมในทุกๆบุญกุศลที่
พี่คณานันท์ ได้กระทำทั้งหมดในชาตินี้ ด้วยครับ สาธุ

สัมฤทธิ์ รุ่งอภิรักษ์กุล
13/5 ถ. มนตรี1 อ.หาดใหญ่ จ. สงขลา 90110

อีกอย่างครับ รบกวนพี่ถามพระให้หน่อยได้ไหมครับว่า ผมควรจะไปสร้างพระพุทธรูป ที่วัดไหนดีที่เค้ายังต้องการ เพื่อบรรเทาบาปบางอย่างที่ผมเคยทำไว้จึงต้องการสร้างคนเดียว ผมมีงบอยู่ไม่เกิน ห้าหมื่นบาทต่อวัด ต้องการสองวัดครับ ขอบคุณครับ

 

วิชชาที่ให้อยู่รอดในภัยพิบัติ (อีกทัศนะของชิวิต)
เนื่องจาก ขัณฑ์ ๕ เป็นของหนักเป็นภาระที่ต้องแบกเป็นทุกข์ที่ปฏิเสธไม่ได้หนีไม่พ้น ขัณฑ์ ๕ จึงไม่เป็นที่ปรารถนาอีกต่อไป แต่เมื่อมันมีมาแล้ว ทรงตัวอยู่
หน้าที่การบำรุงรักษาธาตุขัณฑ์และดำรงธรรมเห่งพระไตรรัตน์จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินต่อจนกว่าจะสุด
การหลีกเลี่ยงภัยจึงเป็นหน้าที่ แต่หลบไม่พ้น ขอให้ยอมรับธรรมชาตินั้น
รูปและร่างกาย ไม่ใช่ของเรา อรูป หรอนาม อันได้แก่ เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ(ตัวรับรู้)ไม่ใช่ตัวตน บุคคล เราเขา สรุป คือขัณฑ์ ๕ ไม่ใช่ตัวตน
ไม่ใช่บุคคลเราเขา จงปลดอาลัยในขัณฑ์ ๕


อยู่ให้้ดี ตายให้จบ

จงวางใจในพระธรรม เชื่อมั่นในคำสอนของพระตถาคต
"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต"

 

ขออนุญาตตอบคุณ
chdhorn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_851119", true); </SCRIPT> ก่อนครับผม

ก่อนอื่นไม่ต้องเรียกผมว่าอาจารย์ครับ เพราะเป็นการเอื้อเฟื้อในธรรมการเห็นกัลยาณมิตรเจริญก้าวหน้าในธรรมเราก็พลอยมีจิตยินดีไปด้วยครับ

ขอตอบข้อที่1.

เริ่มที่การจับลมหายใจจนได้ลมหายใจที่ละเอียดเบาสบาย หากทำได้จนลมหายใจหายไปหมด เลยยิ่งดี (ฌานสี่)

ส่วนกสิณนั้น ให้เริ่มจากกองใดกองหนึ่งให้ได้เสียก่อน

-ฝึกจิตให้จับภาพกสิณต้นที่เราจะฝึกให้ติดตาติดใจ หลับตาก็เห็น ลืมตาก็เห็น กสิณที่เหมาะกับการเริ่มต้นของคุณคือกสิณน้ำ ใจจะได้เย็นขึ้น สงบขึ้น

-กำหนดให้กสิณเริ่มเปล่งแสงสว่างและใสขึ้นเรื่อยๆ
-กำหนดให้กสิณใสสะอาดส่องสว่างเปร่งประกายแพรวพราวระยิบระยับ

จากนั้นให้ฝึกทรงอารมณ์จิตนี้เอาไว้ให้ได้ตลอด และสังเกตุดูว่าลมหายใจหายไปหรือไม่

พอทำคล่องแล้วก็เริ่มไล่กองกสิณ จากกสิณธาตุ(ดิน น้ำ ลม ไฟ) และกสิณสี ไปจนถึงกสิณแสงสว่างและอากาศ จนกระทั่งครบ กสิณสิบกอง

เอายิ่งกว่านั้น ก็เริ่มมาไล่กองกสิณ สลับกองกสิณ

ไล่ฌานในกสิณแต่ละกอง สลับ ถอยหน้าถอยหลังไปจนคล่องนึกปั๊ปจับได้ปุ๊ป

จากนั้น ก็มาฝึกทรงพุทธานุสติควบกสิณ ซึ่งก็คือการจับภาพพระท่านให้ใสเป็นแก้วประกายพรึกอยู่ตลอดเวลา

2.ครูบาอาจารย์ท่านเมตตมาสอนในฝันให้ครับ คาถาถึงตื่นมาจำไม่ได้ แต่ก็ระลึกจดจำเอาไว้ในจิตแล้ว ในอดีตคุณเป็นคนที่เคยฝึกด้านคาถาอาคมมาก่อน

ในชาตินี้ควรหมั่นกราบขอขมาพระรัตนไตรและอธิฐานจิตให้เราตั้งมั่นในสัมมาทิษฐิ และขอใช้แต่วิชชาสายพุทธคุณเพื่อประโยชน์ส่วนรวมในทางสร้างสรรค์ครับ

เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะคุณมีเกณฑ์อภิญญาเช่นกัน

3.การมีคนในบ้านเล่นคุณไสยเอง นี่ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลยมีแต่ทำให้มีแต่ทางเสื่อม หากอธิบายในแง่ของพลังงานในบ้าน พลังความดีและความชั่วก็มาหักล้างห้ำหั่นกันในบ้านทำให้เสียพลังงานในทางสร้างสรรค์ไปอย่างเปล่าประโยชน์

หากทุกคนในบ้านเป็นคนจิตใจดี ใจบุญใจกุศลร่วมใจกันสร้างบุญบารมีความดีให้ยิ่งพลังบุญในบ้านก้ยิ่งเสริมส่งให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปครับ

ทางที่ดีคุณควรช่วยกันอธิฐานจิตให้"เขา" เปลี่ยนเป็นสัมมาทิษฐิ ครับหากทำได้ หรือ อธิฐานให้ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างไป ด้วยการแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ให้บ่อยๆ

อธิฐานขอบารมีพระท่านสร้างเขตสัมมาทิษฐิในบ้านให้ทุกคนในบ้าน ตลอดจนพระภูมิเจ้าที่ ผีบ้าน ผีเรือนในบ้านของเราท่านเป็นสัมมาทิษฐิด้วย ท่านจะช่วยได้มากครับ

3.1การอธิฐานขอบารมีพระท่านครอบบ้านเอาไว้ถูกต้องแล้วครับแต่ในจิตเราต้องกำหนดให้ทรงอารมณ์ใจสูงสุด เห็นพระท่านเป็นแก้วประกายพรึกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถอธิฐานครอบตัวเราหรือบุคคลอื่นที่เราต้องการคุ้มครองได้ด้วยครับ

ทั้งหมดนี้หากไม่เกินกฏของกรรม

3.2และ3.3 ถูกแล้วครับขณะว่าพระคาถาอย่าลืมจับลมหายใจและกำหนดนิมิตรด้วย ระลึกถึงใครให้ท่านมาโปรดในจิตครับ

4."ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเจริญในธรรมถึงขีดสุด ในอนาคตอันใกล้ที่สุดนี้ด้วยเถิด"

มันติดนิดๆครับเป็น

"ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงรวมตัวกันเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึงที่สุดแห่งธรรม ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ อย่างฉับพลันทันใดด้วยเถิด"

ดีไหม.

ขอโมทนาบุญในความตั้งใจในการปฏิบัติธรรมกันของทั้งสองคนพี่น้องด้วยครับ ขอเป็นกำลังใจให้ที่บ้านทุกๆคนได้พลิกจิตเข้าสู่สัมมาทิษฐิ เป็นบ้านแห่งความสุข บ้านแห่งบุญกุศลโดยเร็วครับ สาธุ

 

ขออนุญาตตอบคุณtam220t<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_851255", true); </SCRIPT> ครับ

ขอโมทนาบุญที่ได้ร่วมทำบุญสมทบกองทุนพลังจิตพิชิตภัยพิบัติครับ

"บุญกุศลทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมานับแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติและที่จะบำเพ็ญต่อไปในอนาคต อันได้แก่ ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา สัมมาทิษฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ ขอให้ทุกท่านผู้ตั้งจิตไว้ดีแลวเป็นกุศลแล้ว จงโมทนาและมีส่วนร่วมในบุญในกุศลเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับทุกประการด้วยเทอญ"


หนังสือ"รู้ไส้กำลังจัดทำอยู่ที่คุณกิ๊กครับผม อาจส่งให้ช้านิดหนึ่งครับต้องขออภัยเอาไว้ล่วงหน้าด้วยครับ

เรื่องการสร้างพระถวายเพื่อการชำระล้างใจไถ่บาปนั้น ขออนุญาตแนะนำดังนี้
-เริ่มต้นที่การอธิฐานตั้งจิตถึงพระรัตนไตรก่อน จากนั้นกราบขอขมาพระรัตนไตร และอธิฐานในจิตแจ้งให้ท่านทราบก่อนว่าเรามี จิตเจตนาใดเอาไว้ในการสร้าง ขอพระท่านเมตตาสงเคราะห์ให้ การนี้สำเร็จและพึงได้อานิสงค์สูงสุดด้วยเทอญ

-อธิฐานขอกราบขมาเจ้ากรรมนายเวรที่เราได้ไป....เขาไว้ ไม่ว่าใครถูกใครผิดก็ตาม ไม่เป็นไร เราขอขมาเขาเอาไว้และขอให้เขาโมทนาบุญรวมทั้งอโหสิกรรมให้กันและกันเป็นโมฆะกรรมต่อกันไป ให้เขา รับรู้ รับทราบ โมทนาบูญและไม่ขัดขวาง การสร้างพระครั้งนี้

-จากนั้นก็อธิฐานขอสร้างพระพุทธรูปสององค์ โดยเราตั้งกำลังใจถวายไว้ในพระพุทธศาสนาเพื่อการสืบทอดพระบวรพุทธศาสนาให้ครบ ห้าพันปี ขอสร้างไว้ยังวัดอันเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ พระสงฆ์เป็นพระสุปฏิปันโน และจัดตั้จัดสร้างประดิษฐานไว้ในที่ซึ่งพุทธบริษัทได้มาร่วมใจปฏิบัติธรรมทำสมาธิกัน

ด้วยประการฉะนี้ก็จะราบรื่นและพึงได้อานิสงค์สูงสุด

หากไม่ทราบจะจัดสร้างอย่างไรที่ไหน ถวายวัดใด ผมจะเป็นสื่อกลางประสานกับหลวงพี่โอ วัดท่าซุง ให้ครับ เพราะ หลวงพี่ท่านมีโครงการจัดสร้างพระพุทธรูปถวายยังวัดสายปฏิบัติ ทั่วประเทศ และหากจะให้ดีที่สุดก็จัดสร้างเป็นสมเด็จองค์ปฐมเลยทีเดียว ทั้งสององค์ครับ

รายละเอียดส่งทางพีเอ็มครับ

ขอโมทนาบุญกับอานิสงค์การสร้างพระพุทธรูปทั้งสองพระองค์เอาไว้ล่วงหน้าด้วยครับ สาธุ.

 

อาการของคุณ chdhorn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_852235", true); </SCRIPT> คล้ายๆ กับรุ่นพี่ผมที่รู้จักเลย แต่เขาทำสมาธิมา
ตั้งแต่เด็กๆ ปัจจุบันแค่ไม่คิดอะไรเขาก็เห็นอะไรมากมายอย่างเช่น ผี เทวดา
ฯลฯ ผมว่าถ้าพี่ฝึกทำสมาธิเข้าฌาณแล้วถอนมาอุปจารได้คล่องๆ น่าจะ
ทำให้เห็นอะไรได้อย่างที่ใจนึกเองได้นะครับ เพราะพี่ผมคนนี้เขากำหนดดู
อดีต อนาคต ได้ ฝึกอีกหน่อยน่าจะไปได้ไกลเลยแหละครับ แต่อย่าไปติดอยู่
แค่ฌาณนะครับ ข้ามไปญาณให้ได้ ฝึกสมาธิควบคู่กับสติด้วยจะดีที่สุดเลย

ปล.ความคิดส่วนตัวนะค้าบ ผมยังไม่เก่งอะไร รอผู้รู้จริงมาแนะนำดีกว่า