ในบารมีทั้งสิบท่านคิดว่าตนเองบำเพ็ญเด่นในเรื่องใดมากที่สุด เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Norlnorrakuln, 7 พฤศจิกายน 2013.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    เรามาแชร์ประสบการณ์ดีๆเพื่อเป็นกรณีศึกษา ให้เพื่อนสมาชิกและผู้ที่เข้ามาอ่าน
    ได้รับประโยชน์จากการบำเพ็ญของท่าน จะได้เกิดกำลังใจสั่งสมคุณงามความดีสืบต่อไปครับ
    :cool:
     
  2. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    สำหรับผม น่าจะเป็นความเพียร (วิริยะ)
    ดูเหมือนความเพียรเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ
    และเป็นจุดที่ทำให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จ
    ไปสู่การสร้างบารมีอย่างอื่นๆให้สำเร็จด้วย
    เช่น ถ้าเราคิดว่าภพชาตินี้บำเพ็ญขันติบารมี
    เมื่อโดนรบเร้ามากๆเข้า ขันจะแตก
    แต่ก็ด้วยความเพียร ทำให้ยืนหยัดอยู่ได้
    เพียรที่จะอดทนอดกลั้นให้ได้โดยไม่ย้อท้อ
    หรือจะเป็นบารมีอย่างอื่นก็เช่นกัน
    ถ้ามีความเพียรก็สามารถฝ่าฟันไปได้แน่นอน
    สำหรับผมในสิบแบบ ให้ภาษีที่วิริยะมากที่สุดครับ

    ส่วนตัวแล้ว ถ้ามิได้ความเพียร
    ก็ไม่สามารถมาได้ถึงวันนี้
    ความเพียรเป็นแรงขับให้เราไปถึงจุดหมายได้
    ขาดความเพียร ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
     
  3. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ปัญญาบารมีครับ
     
  4. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เมตตาบารมีจร๊าา
    ปล.เห็นอะไรรันทดจิตใจอ่อนแรง.แต่ไม่ชอบกับความไม่ยุติธรรมจร๊าา ขันติไม่ค่อยทำงานด้วยจร๊า (ยิ้มๆ)
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ของเรามาครบทั้ง ๑๐ บารมี แต่ว่าด้วย บารมี วิริยาธิกะบารมี ทุกๆตัว มาสนับสนุนหมด ไปดูตัวอย่าง ตอนที่ พระพุทธเจ้าของเรา บำเพ็ญ บารมี ๑๐ ชาติสุดท้าย แต่ละชาติ ท่านจะแจง ทุก บารมี เช่น ชาตินี้ นำหน้าด้วย ปัญญาบารมี ตัวอื่นก็มาหนุนพร้อมกันไป และชาติที่ ๒ ศิลละบารมี ชาติที่ ๓ ขันติ เรียงไปตามลำดับ จนครบ ๑๐ ชาติ สุดท้าย ลงด้วย ทานมหาบารมี บริจาค ลูกเมียให้เป็นทาน บริจาคทุกๆอย่างจริงๆ ของท่าน เป็นประมัตถบารมี เป็นบารมี ๓๐ ทัต ท่านบำเพ็ญมาจนนับชาติไม่ถ้วนแล้ว


    เราๆท่านๆ ต้องรู้จัก การเรียนรู้ ทั้งปริยัติ และปฏิบัติ ในการสร้างบารมี ไม่จำเป็นต้องไปสอบ แบบทางโลก ให้เรียนรู้ ไปในทางแนวปฏิบัติ การปฏิยัติ เป็นทางเดิน ของการปฏิบัติ ถึงแห่งความเป็นจริง ขี้เกียจพูดแล้ว ไปก่อนครับสวัสดี
     
  6. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    สาธุครับ

    ทุกคนเกิดมาก็ล้วนต้องบำเพ็ญทุกอย่างครับ
    ไม่ใช่ว่าเกิดมาชาตินี้ เช่นอุเบกขา
    พ่อแม่จะเดือดร้อน พี่น้องกำลังจะตาย
    ไม่สนใจ อุเบกขามันอย่างเดียว
    เมตตาไม่เอา กรุณาไม่สน
    มันก็ไม่ใช่
    เพียงแต่ว่า หลักๆในภพชาตินี้
    เราเด่นในบารมีอันไหนมากที่สุด
    เราชอบให้ทาน หรือชอบรักษาศีล
    มักจะบำเพ็ญข้อไหนบ่อยๆ
    ทำได้อย่างสบายใจไม่อึดอัด
    เป็นตัวตนของเราจริงๆ
    ไม่ได้ว่าด้วยเรื่องทศชาติบารมีบำเพ็ญ
    นี่คือจุดประสงค์ของคำถามของ จขกท ครับ

    ส่วนตัวผมก็เหมือนกับท่าน
    คือไม่ได้เน้นด้านใดเป็นพิเศษ
    โอกาสอำนวยให้บำเพ็ญอย่างใด
    เราก็บำเพ็ญอย่างนั้นไป
    แต่ถ้าให้มองความสำคัญ
    ผมก็ให้ที่วิริยะเหมือนกับท่าน
    เพราะวิริยะนั้นคือความเพียร
    และความเพียรแฝงอยู่ในทุกการบำเพ็ญบารมี
    เราสร้างบารมีนั้นๆสำเร็จได้เพราะมีความเพียร
     
  7. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    อาจารย์นั่งสมาธิท่านหนึ่ง ได้บอกไว้ว่า ทำด้านทานบารมี มามาก
    แต่เก็บไว้หมด

    ชาตินี้ ก็ทำด้าน ทาน และ ด้านอื่น ๆ อีก
    เราทำอะไร ให้สังเกตตัวเองดู
     
  8. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    สำหรับคุณงามความดีลำดับต้นๆของเรา จะไล่เลี่ยกันแยกกันไม่ค่อยออก
    เมตตาบารมี ใจอ่่อนสงสารคนเป็นที่หนึ่งเห็นอะไรสภาพไม่ดี ไม่ว่าคนหรือสัตว์ต้องเข้าไปช่วยเหลือ ศีล(สีละ)ละอายเกรงกลัวต่อบาปไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังคน ทาน(ทานะ)ทำมาก ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และคนทั่วไป ไม่คำนึงว่าเค้าจะให้คุณให้โทษเราให้โดยไม่จำกัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤศจิกายน 2013
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    สาธุ ผมว่าท่านอ่านห้วข้อ ของผมไม่เข้าใจนะท่าน ถ้าคุณอ่านให้ดีๆ เข้าใจให้ลึกๆ ผมพูดมามันคุมหมดแล้ว คน จะเป็นจะได้ เขารู้จัก บารมีกัน เป็นชาติ เริ่มต้นแล้ว ก็ตาม บารมีตัวไหนนำหน้า ตัวอื่น ก็ตามมา เรื่องบารมี ว่าตั้งแต่ เขาเริ่ม ปราถนาโน่น ทำหรือยัง ถ้ายัง ก็เข้าใจยาก ถ้าทำแล้ว พูดมาแค่นี้ น่าจะเข้าใจนะ ไม่ต้องพูดซ้ำอีก ปรานาสาวก ทำแบบสาวก ปรานา พุทธภูมิ ทำแบบพุทธภูมิ ปรานาพระปัจเจ ทำตามแบบพระปัจเจ แค่ให้ทาน ตัวเดียว ถ้าไม่มีปัญญา มันให้ได้ไหม ในขณะให้ทาน คุณไม่มีศีล ในขณะนั้น มันให้ไม่ได้หรอก อ่านให้เข้าใจนะครับ เดี๋ยวจะเขว


    ในขณะให้ทาน ถ้าคุณ ไม่มี เมตตา มันให้ไม่ได้หรอก ในขณะ ให้ทาน ถ้าคุณ ไม่ ขันติ มีวิริยะ มีเนกขัมมะ คำว่าเนกขัมมะ ใช่ว่า จะเป็นนักบวช เสมอไป คนที่มีลูกเมีย ก็มีเนกขัมมะ ได้ ถ้าทำความเข้าใจให้ถูก การตั้งใจ จะให้ทาน มันก็เป็นการ อธิฐาน บารมีได้ อุเบกขา วางเฉย คนอื่นมาขอทาน เราไม่มีให้ เรานึกในใจ เมื่อมีโอกาศ เราจะให้ การให้ ก็ต้องดู ฐานะเราพอ สมควรให้ใครก่อน ถ้าจะให้ศรัทตรู มันคงให้ไม่ได้หรอก มันต้องให้ สัตว์ ที่ควรสงเคราะ หรือคนใกล้ชิด บารมี ๑๐ เขาเริ่มทำกัน โน่น เริ่มต้นนู้นแล้ว


    จะเป็นบารมี ต้น กลาง หรือ ปลาย มันขึ้นต้น ด้วยบารมี ๑๐ ไปตามขั้นตอน ของมัน มันมี หยาบ กลาง และละเอียด ปีกย่อยไม่คิดนะ คำสอนของพระพุทธเจ้า ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันข์ หรือ แปดหมื่น สี่พันหัวข้อ แค่พุทโธ ตัวเดียว มันแยกปีกย่อยไปได้ เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนเป็นล้านๆ ครูบาอาจารย์ท่านกล่าว แค่นั่ง พรรณนาความดีของพระพุทธเจ้า จนอายุ ๑ กัป ยังไม่หมดเลย แค่นี้นะครับ พูดมากไป ไม่เกิดประโยชน์ครับสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  10. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    เช่นกันครับ :cool:
    เพราะถนัดใช้เหตุผลเป็นผู้นำในการสั่งสมทัสสะบารมี ^_^
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สำหรับเราเมื่อมีเมตตาบารมี จึงมีอธิษฐานบารมี เมื่อมีอธิษฐานบารมีจึงมีศีลบารมี ทานบารมี เนกขัมมะบารมี ในการทำศีลบารมี ทานบารมี เนกขัมมะบารมี จึงต้องมีขันติบารมี วิริยะบารมี ปัญญาบารมีและอุเบกขาบารมี เพื่อยังสัจจะบารมีที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้

    จะเห็นได้ว่าทุกบารมีล้วนโดดเด่นพอๆ กัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ เพราะทุกบารมีล้วนเกื้อกูลสนับสนุนในการสร้างบารมีเพื่อพระโพธิญาณ แต่อันดับหนึ่งก็คือ "เมตตาบารมี"
     
  12. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ว่าแล้ว เมตตาบารมีสำคัญสุด(ยิ้ม)
     
  13. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ต้องระวังคู่ปรับของเมตตา อย่าให้แผงฤทธิ์บ่อยๆ ^_^
     
  14. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    555++ อะไรเหรอ?คู่ปรับเมตตา (หัวเราะ)
     
  15. InvisibleForce

    InvisibleForce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +659
    โทสะ เป็นคู่ปรับ เมตตา.. แต่คู่ปรับ หนูมาดี ใช่ ท่านหน่อนรคุณหรือป่าว^^
     
  16. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ว่าแล้ว ต้องเป็นตัวนี้(โทสะ) แต่ดิฉันไม่ได้โทสะนะคะ ก็แค่ชี้แจง.เอ่อ..คุณเข้าใจผิดแหล่ะ คุณเหมียวเป็นเพื่อนที่น่ารักมว๊ากก คู่ปรับของดิฉันไม่ได้อยู่แถวนี้ค่ะ
    555++
    ปล.ดิฉันสงสัยตัวเองค่ะ ดิฉันขี้สงสารสิ่งมีชีวิิตทุกชนิด แต่ทำไมดิฉันไม่อดทนเลยล่ะคะ? งงงง.
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อย่าไปยึดติดตำราหรือบุคคลตัวตนกันให้มาก ท่านนักปฏิบัติผู้มีปณิธานทั้งหลาย ปฏิบัติให้ได้ ปฏิบัติให้เข้าถึงความเป็นพระ แล้วท่านจะรู้เอง ตำราและครูบาอาจารย์เป็นแค่แผนที่เท่านั้น แต่การเดินทางจะถึงหรือไม่ อยู่ที่ตัวท่านเอง

    สุดท้ายแล้วก็มีเพียงจิตเดียวท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสาร อยากช่วยเขาต้องช่วยตัวเราให้ได้ก่อน มิเช่นนั้น ก็เอากิเลสตัณหาอุปาทานไปช่วยกิเลสตัณหาอุปาทานกันอยู่ทุกวันอย่างนี้แหละ มิได้ตำหนิใครหนอ เท่าที่เห็นๆ มามักจะเป็นเช่นนั้น
     
  18. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ปัญญาเป็นตัวนำแล้ว จะทำให้สำเร็จกิจทุกอย่างโดยราบรื่น และรวดเร็ว
    บางเรื่องที่บางคนมองว่าเป็นเรื่องยาก แต่ผู้มีปัญญาสามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

    เมื่อมีปัญญาเป็นตัวนำ จะทำให้ตัวอื่นถึงพร้อมอย่างรวดเร็ว และสมบูรณ์
    อนุโมทนาสาธุกับท่านทั้งหลายผู้มีธรรมครับ
     
  19. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ไม่เด่นเรื่องอะไรเลย ยังหาสิ่งใดดีมิได้
     
  20. นะมัตถุ โพธิยา

    นะมัตถุ โพธิยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +2,268
    ทุกวันนี้ เน้นการทำงานเพื่อสังคมส่วนรวม คือ

    งานบำรุง-รักษาพระพุทธศาสนา
    เช่น การไปช่วยงาน/ทำประโยชน์ที่วัด เกือบทุกวัน

    งานสาธารณประโยชน์
    เช่น การไปช่วยงานที่มูลนิธิ/สมาคมการกุศล อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน

    การทำงานเพื่อส่วนรวม ๑ งาน เป็นการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ได้ครบทุกตัวใน ๑ งานนั้นๆ

    แต่ส่วนบารมีตัวใดจะเด่น ก็แล้วแต่ลักษณะของแต่ละงาน เช่น

    ๑. นำกฐินไปถวายที่วัด ทานบารมีเด่น
    ๒. ชักชวนหมู่คณะถือศีล๕,๘ในวันพระ ศีลบารมีเด่น
    ๓. ชักชวนหมู่คณะไปที่วัดถือบวชชีพราหม์๗วัน เนกขัมมะบารมีเด่น
    ๔. บรรยายธรรมะที่วัด ปัญญาบารมีเด่น
    ๕. จัดวางเก้าอี้จำนวนมากเพื่อรอรับแขกงานบุญวัด วิริยะบารมีเด่น
    ๖. ล้างส้วมวัด ขันติบารมีเด่น(อดทนต่อกลิ่นเหม็น)
    ๗. รักษาระเบียบวินัยของวัด สัจจะบารมีเด่น
    ๘. นำญาติโยมวัดนั่งสมาธิ อธิษฐานบารมีเด่น
    [นั่งสมาธิเป็นทำจิตให้ตั้งมั่นในอารมณ์เดียว จึงจัดเป็นอธิษฐานบารมี(ความตั้งใจมั่น)]
    ๙. พยาบาลพระอาพาธ/ช่วยบริการคนชราที่มาวัด เมตตาบารมีเด่น
    ๑๐. โดนญาติโยมวัดหรือพระตำหนิ/ตักเตือนเมื่อทำงานบกพร่อง อุเบกขาบารมี

    สรุป:
    ทุกคนที่หมั่นไปทำงานเพื่อสังคมส่วนรวมบ่อยๆ
    จะสามารถทำบารมี๑๐ เด่นได้ครบทุกตัว

    ขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละงาน ดังยกตัวอย่างแล้วข้างต้น
    เพราะการทำงานเพื่อสังคมส่วนรวม จะมีงานหลากหลายรูปแบบให้ทำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...