เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 15 ธันวาคม 2012.

  1. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  2. เบนซ์ rayong

    เบนซ์ rayong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +975
    ผมเคยไปถามพระอาจารย์สาครที่วัดหนองกรับดูเหมือนกันท่านบอกว่าพระเครื่องของหลวงปู่ที่ท่านเห็นเป็นพระเนื้อขาวๆออกหนาๆมีหลายพิมพ์ที่กดกันที่วัดละหารไร่แต่ท่านจำไม่ได้ว่ามีพิมพ์ใดบ้างแต่ที่ท่านจำได้เห็นจะเป็นพิมพ์ขุนแผน ท่านก็บอกว่าพระที่เห็นกดทำกันในตอนนั้นก็ไม่เหมือนกับที่เขาเล่นหากันทุกวันนี้เลย ตอนนั้นทำให้ผมเริ่มแปลกใจมากเหมือนกัน
     
  3. รอยพยัคฆ์

    รอยพยัคฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +197
    กราบหลวงปู่ทิมครับ
     
  4. naygood

    naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    แหะๆ ดูดีครับ
     
  5. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    "คนส่วนมากยังมีความเชื่อว่ามีผู้ดลบันดาล เช่น ดลบันดาลให้เกิดภัย ดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ เป็นต้น แต่ทางพระพุทธศาสนาได้แสดงว่า คนมีกรรมเป็นของตน จะมีสุขหรือทุกเพราะกรรม ก็เปลี่ยนให้คนมากลัวกรรมกันอีก เช่นเดียวกับที่เคยกลัวผู้ดลบันดาล เมื่อคิดถึงก็คิดเห็นไปคล้ายกับเป็นตัวทุกข์มืด ๆ อะไรอย่างหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัว ผู้เงือดเงื้อจะลงโทษ กรรมจึงคล้ายผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกเข้าใจในทางร้ายอยู่เสมอ เมื่อได้ดีมีสุขก็กลับกล่าวว่าเป็นบุญบารมี กรรมจึงไม่มาเกี่ยวในทางดีตามความเข้าใจของคนทั่วไป "
    [​IMG]
     
  6. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  7. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  8. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    พระประธานมาถึงวัดแล้ว ที่เศียรองค์พระจะบรรจุพระสารีริกธาตุหากใครจะร่วมบริจาคไว้ก็ดีครับ พระเกศท่านเจ้าอาวาสเก็บไว้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2014
  10. โอ๊ตดี้

    โอ๊ตดี้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    315
    ค่าพลัง:
    +1,797
    แล้วที่มีคนไปสัมภาษณ์หลวงพ่อสาครหล่ะครับ ?

    ทสัมภาษณ์ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จาก คมชัดลึก
    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ศิษย์เอกของ "หลวงปู่ทิม อิสริโก" อดีตเกจิอาจารย์ ชื่อดังแห่งวัดระหารไร่ จ.ระยอง ต้นตำรับ
    "ขุนแผนผงพรายกุมาร" อันลือลั่นสนั่นวงการ พระเครื่อง ได้เมตตาให้สัมภาษณ์พิเศษ ทีมข่าวพระเครื่อง"คม ชัด ลึก" เกี่ยวกับการ สืบทอด วิชาคาถาอาคมต่างๆ จากหลวงปู่ทิม ตลอดจนการสร้างศาสนวัตถุ โดยเฉพาะ "พิพิธภัณฑ์ยันต์" แห่งแรก และแห่งเดียว ในเมืองไทย
    เชิญติดตามอ่าน กันได้โดยพลัน...

    ไม่ทราบว่า หลวงพ่อไปร่ำเรียนวิชากับ "หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่" ได้อย่างไรครับ?

    อาตมาเป็นคนที่นี่ (บ้านหนองกรับ อ.บ้านค่าย อยู่ห่างจากวัดระหารไร่ประมาณ 10 กิโลเมตร) ไปหาท่านครั้งแรก ตอนนั้นอาตมาอายุประมาณ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยม ก็เข้าไปอยู่ที่วัดระหารไร่ ไปกินนอนที่วัดเลย ไปรับใช้หลวงปู่ทิม โดยได้ขออนุญาตจากทางบ้านแล้ว

    ตอนนั้น หลวงพ่อรู้ได้อย่างไรว่าหลวงปู่ทิมมีวิชาคาถาอาคมแก่กล้า เพราะหลวงปู่ทิมก็เพิ่งมีชื่อเสียงในช่วงที่ชราภาพมากแล้ว ซึ่งตอนที่ หลวงพ่อได้เจอท่าน ตอนนั้น หลวงปู่ทิมก็ยังไม่แก่เท่าไหร่ ใช่มั้ยครับ?

    อาตมาก็ดูจากที่ท่านปฏิบัติ อาตมาดู และเห็น เรื่องอย่างนี้ มันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณ ของแต่ละคน

    เมื่อตอนที่หลวงพ่อได้พบกับ "หลวงปู่ทิม" ครั้งแรก ตอนนั้นหลวงพ่อ รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?

    ท่านปฏิบัติดี อาตมาเห็นแล้วก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มีความรู้สึกว่าหลวงปู่ทิม ไม่ใช่พระธรรมดา จึงได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน โดยโยมพ่อกับโยมแม่ได้ ถวายอาตมาให้เป็น "บุตรบุญธรรม" ของหลวงปู่ทิม จากนั้น จะขออะไร จะเรียนอะไร ก็จะได้ทั้งหมด เพราะปกติท่านจะไม่ค่อยถ่ายทอดวิชาให้กับใคร

    ทำไม "หลวงปู่ทิม" จึงไม่ค่อยยอมถ่ายทอดวิชาให้ใครง่ายๆ ล่ะครับ?

    ท่านกลัวว่าเมื่อถ่ายทอดวิชาให้คนที่เรียนไปแล้ว กลัวไม่เอาไปใช้จริง
    สมัยนั้น คงจะมีผู้คนมาขอเรียนวิชากับหลวงปู่ทิมเยอะสิครับ ก็เยอะ แต่หลวงปู่ท่านจะดูลักษณะคนด้วยว่า ใครจริงจังจะศึกษา คาถาอาคมก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเรียนไปแล้วไม่เอาจริงไม่มีความสนใจ และไม่เอาไปใช้ มันทำให้เสียเวลาในการแนะนำหรือสอน ท่านก็จะหมดกำลังใจ คือ การที่ท่านจะท่องจำนั้นไม่ไหวแล้ว หรือบางครั้งเรียนไปแล้วไม่เอาไปใช้ ก็ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกับอาจารย์ผู้สอนไปด้วย ดังนั้น ท่านจะดูคน ถ้าคนไหนจะเอาจริงๆ ก็ต้องมีความเพียรจริงๆ

    นานมั้ยครับหลวงพ่อ กว่าที่หลวงปู่ทิมจะยอมถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อ?

    ไม่นาน เพราะว่า ท่านดูจากลักษณะว่า มีแววเอาจริง

    มีแววอย่างไรครับ?

    ท่านคงเห็นว่าอาตมาเอาจริง และมุ่งมั่น โดยให้อาตมาไปเขียนผ้ายันต์มา 1 บททุกวัน และก็บอกว่าให้ไปท่องจำ โดยจะต้องจำให้ได้ พอท่องจำได้แล้วก็มาท่องให้ท่านฟัง

    จากนั้น ทำอย่างไรต่อครับ?

    เมื่อเขียนบทที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เริ่มเขียนบทที่ 2 พอเขียนเสร็จแล้วก็มาทบทวนท่องให้ท่านฟังอีก ท่องจนกว่าจะจำได้ ท่านก็จะให้ท่องจำทุกบท ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 4-5 ปี

    หลวงพ่อทำแบบนี้อยู่กี่ปีครับ?

    จำไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่านานหลายปีเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ทำให้อาตมาจำคาถาได้เยอะ และทำให้อาตมาจำได้ดี แต่คาถามีอยู่เยอะมาก ก็จำได้ไม่ได้ทั้งหมดหรอก มันมากมายกว่าที่เราจะจำได้ จึงได้มีการซิกแซกอาจารย์เลยท้าพูดกันง่ายๆ เลย

    ?ทำอย่างไรครับหลวงพ่อ?

    พออาจารย์เผลอเราก็แอบเอาตำราเข้าห้องเลย เพราะเรารู้ว่า ตำราเล่มไหนเราเขียนไปแล้ว เราก็จะไม่ เขียนซ้ำ จะเอาหยิบไปวางไว้เอง ท่านไม่รู้หรอก เราก็เขียน เล่มต่อไปอีก พออาจารย์เผลอ เราก็เอาไปไว้ที่เดิม แล้วเอาเล่มใหม่ มาเขียนต่ออีก แต่สิ่งที่เราเรียน และท่องจำ มาทั้งหมดนั้น เราเข้าใจทุกอย่างแล้ว พออาจารย์รู้ ท่านก็ถามว่าเอาตำราไปใช่ไหม เนื่องจากแกสังเกตจากกองที่ตั้งหนังสือ มันไม่เรียงกัน เราก็ยอมรับว่าใช่ แต่ก็ได้บอกท่านว่า ตำราที่เรียนกับอาจารย์ ด้วยวิธีการท่องจำอย่างเดียวคงไม่ไหว เพราะมีมากมายเหลือเกิน จึงต้องลอก จากอาจารย์เก็บไว้ ท่านก็ไม่โกรธ เพราะว่าท่านเข้าใจว่าเราเอาไปก็ต้องได้ใช้ ในที่สุด ท่านก็บอกว่า ท่านก็เรียนมาแบบนี้เหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าอย่างนั้น
    เราก็ตีจบไปเลยว่า เราไม่ผิด (หัวเราะ)

    แล้วหลวงปู่ทิม ท่านไปเล่าเรียนวิชามาจากที่ไหนครับ?

    หลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ที่เป็นศิษย์สายเดียวกับหลวงปู่ทิมก็มี หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม และหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก

    หลวงปู่ทิมเคยพูดถึงเรื่องอภินิหาร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ให้หลวงพ่อฟัง บ้างมั้ยครับ?

    อันนี้ ท่านไม่เคยพูดให้ฟังเลย

    แล้วหลวงพ่อไม่ถามหลวงปู่ทิมบ้างเลยหรือครับ ว่าวิชาคาถาอาคมต่างๆ ที่เรียนมานี้ มีความศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ อย่างไร?

    อาตมาก็ถามเหมือนกัน แต่ท่านไม่บอก ท่านบอกว่าก็ทำไปแล้วจะรู้เอง
    ขอให้ฝึกจิตใจของตัวเองไปให้สงบ เดี๋ยวก็รู้เอง คนอื่นจะรู้ด้วยไม่ได้
    นอกจากตัวเอง

    แล้วหลวงพ่อเคยเห็น "อภินิหาร" ของหลวงปู่ทิมบ้างไหมครับ?

    ไม่เคยมีนะ เห็นท่านเป็นพระธรรมดาๆ รูปหนึ่งเท่านั้น และท่านก็เป็นพระเงียบๆ แต่ก็พอคุยได้เหมือนกัน จริงๆ จะว่าไม่มีในเรื่องอภินิหารเลยก็ไม่ใช่นะ ก็มีเหมือนกัน

    มีอภินิหารอย่างไรครับหลวงพ่อ?

    ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน ประมาณบ่ายโมง แกเอาผ้าพาดบ่าไปสรงน้ำ
    สมัยก่อนวัดระหารไร่จะมีบึง และเป็นป่าเยอะ ไม่เหมือนปัจจุบัน แกก็ไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เราก็จะเข้าไปคุยด้วย เพราะเห็นว่าท่านนั่งตากลมอยู่คนเดียว จากนั้นก็ได้นั่งคุยกันไปคุยกันมาตามอัธยาศัย คุยกันเป็นชั่วโมงเหมือนกัน แล้วแกก็หยุดคุย จากนั้น แกก็เอามือแหย่ลงไปในน้ำแล้วก็ดีด 2-3 ครั้ง ครู่เดียวปลาก็วิ่งมาเป็นฝูงเลย

    ปลาวิ่งมาหาหลวงปู่ทิมเป็นฝูงเลยเหรอครับ?

    ปลาหลายชนิดได้ว่ายมาหาแกนั่นแหละ อาตมาไม่ว่าอะไร ก็นั่งดูเฉยๆ
    ท่านก็ดีดอีก ปลาก็วิ่งเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ด้านหน้าที่มีแต่ปลาทั้งนั้น ท่านก็ไม่ว่าอะไรเฉยอย่างเดียว เสร็จแล้วสักพักก็ขึ้นไปบนศาลา อาตมาก็ไม่ได้ถามอะไรท่านในตอนนั้น หลังจากนั้นประมาณ 2-3 อาทิตย์ อาตมาจึงได้เข้าไปนั่งพูดคุย กับท่านด้านนอกกุฏิ ระหว่างคุยไปคุยมา พอได้จังหวะดี เห็นแกอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส จึงได้ถามท่านว่า
    "หลวงพ่อวันที่ฉันได้นั่งคุยกับหลวงพ่อ อยู่ริมบึงวันนั้น เพราะเหตุใดปลาถึงวิ่งมาหาได้?" ท่านก็บอกว่า"มันมาดูเรามั้ง" ท่านก็ว่าอย่างนั้น (หัวเราะ) อาตมาก็ถามท่านต่อว่า ผมก็เดินมาหลายครั้ง แต่ไม่เห็นปลามันวิ่งมาดูเลย ผมว่าหลวงพ่อต้องมีอะไรสักอย่าง เมื่อคุยไปคุยมาท่าน
    ก็ว่าไม่มีอะไรหรอก แต่เราก็ตื้ออยู่นาน เมื่อถามไปถามมา ก็บอกว่ามี
    มีอะไรครับ ก็มีคาถา เป็นคาถาเรียกงูเรียกปลา จากนั้นก็คุยเรื่องอื่นต่อไป เพราะรู้แล้วว่ามีแน่ จากนั้น พออาตมาบวชมาได้ 2-3 พรรษา ก็ได้ขอวิชานี้กับท่าน ขอนับสิบครั้งเห็นจะได้ แต่ก็ไม่ให้

    ทำไมหลวงปู่ทิมจึงไม่ยอมถ่ายทอดวิชานี้ให้หลวงพ่อล่ะครับ?

    เพราะว่าคงหวงวิชา แต่ที่ขอแล้วก็เฉย ถ้าแกตอบว่า อย่าเอาเลย เราก็คงไม่ตอแยแน่ จนในที่สุด เมื่อแกใกล้จะมรณภาพ แกถึงบอกว่า วิชานี้อย่าเอาเลย ขอให้ติดตัวแกไป

    เพราะอะไรครับหลวงพ่อ?

    ถ้าคนเอาไปใช้ไม่มีสัจจะ ก็จะอันตรายมาก เพราะวิชานี้ไม่ได้ใช้เรียกปลาเท่านั้น สัตว์ทุกชนิด ถ้าตั้งใจจะเอา ก็จะได้ทุกอย่าง แม้แต่คนก็สามารถเรียกมาได้ ถือเป็นคาถาที่อันตราย เพราะถ้านำใช้ไปในทางไม่ดี ก็อันตรายมาก สาเหตุนี้ ท่านจึงไม่ยอมให้ใครเลย แกบอกว่าอย่าเอาเลย แต่อย่างอื่นแกให้ทุกอย่าง จริงๆ เราเสียดายก็เสียดาย แต่แกบอกอย่าเอาเลย พอตกกลางคืนก็เอาอีกนะ ถามแกว่า ไอ้วิชาที่ว่านี้มันเป็นอย่างไร ผมอยากรู้วิชาที่ดีมันว่าอย่างไร ถึงผมได้ ผมก็ไม่เอาไปใช้หรอก และจะไม่ให้ใครด้วย แกก็บอกว่า คนเราเอาแน่นอนที่ไหนได้ อนิจจังของคนไม่แน่นอน ในยามถูกใจก็ดี ในยามไม่ถูกใจก็ดี

    แสดงว่าหลวงปู่ทิมกลัวจะมีคนนำคาถานี้ไปใช้ในทางไม่ชอบ?

    ใช่ อาจมีการนำไปใช้อย่างไม่ถูกไม่ต้อง ความมุ่งหมายของแกรู้ ฉันก็แทงใจแกถูก (หัวเราะ) ถ้าให้ฉันแล้วเรื่องของเรื่อง คือ แกกลัวฉันจะสึก และมันมีเขียนไว้ในสมุดข่อย แกก็ทำลายทิ้งไป แต่เราเห็น ก็หยิบเอามาต่อกัน ผิดบ้าง ถูกบ้างแต่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ฉันสันนิษฐานว่า คาถานี้ ไม่น่าจะเกิน 5 คำ

    แล้วพระ "ขุนแผนผงพรายกุมาร" ล่ะครับ หลวงปู่ทิมท่านทำอย่างไรครับ?

    ขุนแผนนี้ท่านได้มาสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2517 ช่วงก่อนที่แกจะมรณภาพไม่กี่ปี ที่ทำก็เพราะมีไวยาวัจกรของวัด แกก็คิดว่าจะทำขุนแผน จึงไปปรึกษากับหลวงปู่จะทำอย่างไรดี แกก็ไม่บอก กลุ่มพวกนี้ก็หัวใสอยู่แล้ว
    ก็ไปเอาแบบที่จะสร้างขุนแผนมาให้ท่านดูว่าควรสร้างแบบไหนดี
    แบบนี้ได้ไหม แบบนั้นได้ไหม ในที่สุดก็จึงได้สร้างขุนแผนขึ้นมา
    เพื่อจะได้นำเงินมาก่อสร้างบำรุงวัด เนื่องจาก เมื่อก่อนบริเวณวัดแห่งนี้เป็นป่าทั้งนั้น


    ตอนนั้น หลวงปู่ทิมปลุกเสกขุนแผนผงพรายกุมาร นานแค่ไหนครับ?

    ท่านปลุกเสกคนเดียว ประมาณ 1 อาทิตย์เศษๆ แล้วเขาก็เอาออกมาใช้กัน

    วิชาการสร้างขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ก็ตกทอดมาถึงหลวงพ่อด้วยใช่มั้ยครับ?

    อาตมาก็ได้เรียนกับท่านมา และได้มาแบบท่านไม่ได้หวงเลย อาตมาไม่ได้อย่างเดียว คือ คาถาที่เรียกปลาเท่านั้นแหละ อย่างผงพรายกุมาร อาตมาก็ได้จากท่านมาบางส่วน ก็ขอท่านไว้หลังจากที่ท่านทำพิธีปลุกเสก เพราะตอนนั้น อาตมาก็ช่วยเขาทำอยู่ด้วย แต่ก็ได้มานิดเดียว ค่อนๆ ตลับยาหม่องเล็กๆ พออาตมาสร้างพระขุนแผน ก็เอาผงพรายกุมารที่ได้มาใส่เป็นเชื้อ แล้วก็จะหาผงอย่างอื่นเอามาผสมกัน

    หลวงพ่อก็ทำได้ แต่ไม่ทำ

    ทำได้ เนื่องจากวิชาเหล่านี้เรียนมาทั้งนั้น แต่ไม่ทำ อะไรที่เกี่ยวกับผีเป็นไม่เอา จะเป็นสีผึ้ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่เอา มันจะเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นได้ เพราะถ้าทำไม่ดี คนๆ นั้นอาจถึงขั้นวิปริต เสียสติไปเลย ส่วนพระขุนแผน พวกผงพรายกุมารนั้น ต้องเรียกว่าคนทำ คือ หลวงปู่ทิมท่านเก่ง ท่านบังคับอยู่เลย ท่านเสกบังคับไว้เสร็จเลย ฉะนั้น คนที่จะทำต่อไป ถ้าไม่แน่จริงอย่าไปทำ มันเป็นอันตรายถือว่าเล่นกับผีนะ เดี๋ยวเสกบังคับไม่ได้ ก็ยุ่งเลย

    แล้วคาถาที่หลวงปู่ทิมเสกบังคับเอาไว้ ไม่มีเสื่อมบ้างหรือครับ?

    มันไม่เสื่อมหรอก เหมือนโบราณเขาว่าไว้ว่า ถ้าทำได้แน่จริง ดีจริงๆ มันไม่เสื่อมหรอก เช่นเดียวกับเพชรที่ตกไปในตม เอาขึ้นมาล้างมันก็คือเพชร ไม่เสื่อมหรอก

    ได้ข่าวว่า ตอนนี้ หลวงพ่อกำลังจะสร้าง "พิพิธภัณฑ์ยันต์" ขึ้นมาที่วัดหนองกรับ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรครับ?

    ก็จะสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างก็จะเป็นกุฏิ ไว้ต้อนรับญาติโยมที่เดินทางมาทำบุญที่วัด ชั้น 2 ก็จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนชั้น 3 จะใช้เป็นที่เก็บวัตถุมงคลต่างๆ ที่ได้ปลุกเสกแล้ว พิพิธภัณฑ์นี้จะใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปีได้ อาตมาคาดว่า เดือนพฤษภาคมปีนี้จะเสร็จสมบูรณ์

    พิพิธภัณฑ์ที่ว่านี้ เมื่อเสร็จแล้วจะเป็นแบบไหนครับ?

    จะทำเป็นที่เก็บเฉพาะ "ยันต์" เท่านั้น จะเป็นยันต์ขนาดใหญ่ที่ดูแล้วสวยงาม เป็นยันต์ที่อาตมาเขียนเองทั้งหมด ส่วนใหญก็เป็นยันต์ที่ได้เรียนมาจากหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ก็มียันต์ หนุมาน ยันต์ชูชก และเป็นยันต์พวกดาวเดือน ฯลฯ ยันต์ต่างๆ ก็จะมีอยู่ในตำรา ลอกจากตำราแล้วเอาไปปั้นติดผนังเลย และคิดว่าถ้าปั้นจะแลดูขลังกว่า จะนูนออกมาสวยกว่า โดยจะมีการเขียนตัวหนังสือออกมาก่อน แล้วเอามาแกะตัวหนังสือทำแม่พิมพ์เลย แล้วเทเป็นตัวๆ ไปเลย ก ข ค ง จ ธ ท น ฯลฯ ไอ้เส้นยันต์เราก็เทเป็นร่องๆ ไป ประมาณ 40 ซม. หรือ 30 ซม.

    การเขียนยันต์ หลวงพ่อเรียนจากหลวงปู่ทิมท่านเดียวเลยเหรอครับ

    อาตมาก็ไปเรียนกับอาจารย์เรียง อยู่ที่กรมศิลปากรด้วย ก็ไปเรียนกับท่านตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี สมัยนั้น ท่านอาจารย์เรียงมาทำงานอยู่แถวชลบุรี ท่านก็เริ่มให้ฝึกตั้งแต่การแกะสลักไม้ หลังจากนั้นก็ได้ฝึกเขียนยันต์ ส่วนใหญ่จะให้หัดเขียนเป็นลายไทย พวกลายกนกต่าง ๆ ก็เรียนอยู่กับอาจารย์เรียง ประมาณ 5 ปีเห็นจะได้ ก็เป็นพื้นฐานในการเขียนยันต์ต่างๆ ในเวลาต่อมา

    เครื่องรางของขลังต่างๆ มีประโยชน์อย่างไรบ้างครับหลวงพ่อ

    ให้เป็นพุทธานุสติ ให้มีการระลึกถึงสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ระลึกนึกถึงคุณงามความดี ไอ้ประโยชน์ของเขามันมองไม่เห็น แต่กรณีฉุกเฉิน มันก็สามารถทำให้เราแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ ไปได้ หรือบางครั้งจากหนักก็ให้เป็นเบาได้ เรื่องแบบนี้พูดยาก ขึ้นอยู่กับความเชื่อ หรือคนต้องประสบเอง

    ในทางกลับกัน เครื่องรางของขลังต่างๆ มีโทษบ้างมั้ยครับ?

    ถ้านำไปใช้ในสิ่งที่ผิด ก็จะเกิดโทษ เช่น คนที่ได้เครื่องรางของขลัง ไปแล้วคิดว่าตัวเอง ดีแล้ว เหนียวแล้ว คงกระพันแล้ว ก็เกิดความประมาท บางทีก็ไปหาเรื่องหาราวคนอื่น อย่างนี้ก็เป็นโทษ แต่ถ้าคนเรา เอาเครื่องราง ของขลังเอาไปใช้อย่างไม่ประมาท เอาไว้คุ้มครองตัวเอง เอาไว้เป็นที่ระลึก เป็นพุทธานุสติ คงไม่มีปัญหา

    ข้อมูลจาก
    ทีมข่าวพระเครื่อง "คม ชัด ลึก"

    มีทั้งจริง ... และเท็จหรือครับ ... ???
     
  11. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    สวัสดีครับ เมื่อวานได้จัดพระบูชาและเรียงเบอร์ชื่อ ขาดพระไป 2 องค์และไม่ได้ เขียนนามสกุล 4 องค์ ผมขอให้พระมาถึงผมก่อนจะรีบแก้ไขพระให้ด่วนด้วยการทำแผ่นชื่อนามสกุลแปะติดหลังพระด้วยกาวติดโลหะ สมาชิกมารับเองก็หลายท่านเมื่อวานนี้ วันนี้ซื้อกล่องมาบรรจุพระ แล้วจะรีบนำไปส่ง ช่วงเย็น ให้ คาดว่าไม่น่าเกิน 1 สัปดาห์ จะหลุดก็ไม่มากพอดีติดงานกฐิน กฐิน เดือนหน้าวันเสาร์นะครับ งานรื่นเริงทั้งหมด ยกเลิก เหลือแต่ทอดกฐิน เนื่องจากอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ให้สมเด็จพระสังฆราช ที่สิ้นพระชนน์ เรียนเชิญนะครับ วันเสาร์ที่จะถึงนี้ ร่วมทอดกฐินด้วยกัน
     
  12. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    "หลักฆราวาสธรรม 4 นี้ จะสอนให้คนเรารู้จักการดำเนินชีวิตทางโลกอย่างผู้ประสบความสำเร็จ ซึ่ง ฆราวาสธรรม ประกอบด้วย 2 คำ "ฆราวาส" แปลว่า ผู้ดำเนินชีวิตในทางโลก ผู้ครองเรือน และ "ธรรม" แปลว่า ความถูกต้อง ความดีงาม นิสัยที่ดีงาม ฆราวาสธรรม ประกอบด้วยธรรมะ 4 ประการ คือ สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ โดยหลักธรรม 4 ประการนี้ มีความสำคัญต่อการสร้างตัวของฆราวาสมาก"

    [​IMG]
     
  13. เมืองโบราณ

    เมืองโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +4,649
    "ท่านกลัวว่าเมื่อถ่ายทอดวิชาให้คนที่เรียนไปแล้ว กลัวไม่เอาไปใช้จริง
    สมัยนั้น คงจะมีผู้คนมาขอเรียนวิชากับหลวงปู่ทิมเยอะสิครับ ก็เยอะ แต่หลวงปู่ท่านจะดูลักษณะคนด้วยว่า ใครจริงจังจะศึกษา คาถาอาคมก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเรียนไปแล้วไม่เอาจริงไม่มีความสนใจ และไม่เอาไปใช้ มันทำให้เสียเวลาในการแนะนำหรือสอน ท่านก็จะหมดกำลังใจ คือ การที่ท่านจะท่องจำนั้นไม่ไหวแล้ว หรือบางครั้งเรียนไปแล้วไม่เอาไปใช้ ก็ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกับอาจารย์ผู้สอนไปด้วย ดังนั้น ท่านจะดูคน ถ้าคนไหนจะเอาจริงๆ ก็ต้องมีความเพียรจริงๆ"

    "ทำได้ เนื่องจากวิชาเหล่านี้เรียนมาทั้งนั้น แต่ไม่ทำ อะไรที่เกี่ยวกับผีเป็นไม่เอา จะเป็นสีผึ้ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่เอา มันจะเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นได้ เพราะถ้าทำไม่ดี คนๆ นั้นอาจถึงขั้นวิปริต เสียสติไปเลย ส่วนพระขุนแผน พวกผงพรายกุมารนั้น ต้องเรียกว่าคนทำ คือ หลวงปู่ทิมท่านเก่ง ท่านบังคับอยู่เลย ท่านเสกบังคับไว้เสร็จเลย ฉะนั้น คนที่จะทำต่อไป ถ้าไม่แน่จริงอย่าไปทำ มันเป็นอันตรายถือว่าเล่นกับผีนะ เดี๋ยวเสกบังคับไม่ได้ ก็ยุ่งเลย "

    ถ้านำไปใช้ในสิ่งที่ผิด ก็จะเกิดโทษ เช่น คนที่ได้เครื่องรางของขลัง ไปแล้วคิดว่าตัวเอง ดีแล้ว เหนียวแล้ว คงกระพันแล้ว ก็เกิดความประมาท บางทีก็ไปหาเรื่องหาราวคนอื่น อย่างนี้ก็เป็นโทษ แต่ถ้าคนเรา เอาเครื่องราง ของขลังเอาไปใช้อย่างไม่ประมาท เอาไว้คุ้มครองตัวเอง เอาไว้เป็นที่ระลึก เป็นพุทธานุสติ คงไม่มีปัญหา

    กราบหลวงพ่อสาครครับ จะเห็นว่าหลวงปู่ท่านมีจิตที่เลือกเฟ้นกับลูกศิษย์ที่ได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆได้ เพราะวิชาอาคมนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่จะถ่ายทอดกันง่ายๆ ถ้าทำไม่ดีหรือไม่มีความจริงจังอาจจะมีผลสะท้อนถึงตัวผู้เป็นอาจารย์ได้ หลวงพ่อสาครท่านเคยกล่าวไว้เหมือนกันว่าหลวงปู่ท่านไม่สอนวิชาอาคมให้กับใครง่ายๆเลย เคยมีมาหาหลวงปู่กันหลายคนแต่ก้ต้องกลับไปเพราะหลวงปู่ท่านไม่สอนให้กับใครเวันเสียแต่ใครที่อยู่ใกล้กันหลวงปู่ท่านก็ให้เป็นคาถาไปใช้เท่านั้น เรื่องวัตถุมงคลที่เราแขวนใช้นั้นหลวงพ่อสาครท่านก็กล่าวเป็นเช่นเดียวกันว่า ต้องตั้งอยู่ด้วยความไม่ประมาท แขวนพระเพื่อเป้นพุทธานุสสติกันเท่านั้น
     
  14. เมืองโบราณ

    เมืองโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +4,649
    สำหรับข้อมูลที่มาที่ไปของผงพรายกุมารที่หลายท่านอาจจะมีความรู้สึกที่แตกต่างกันที่วิเคราะห์กันอย่างไม่จบ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในเชิงลึกในการสอบถามกับหลวงพ่อสาครมีบทคำถามอยู่ที่ว่า แล้วผงพรายกุมารที่หนังสือเขียนมาว่า นายสายไปเอามาจากผีอีส้มที่ป่าช้าแห่งหนึ่ง กับอีกเล่มหนึ่ง เขียนว่าหลวงปุ่ทิมท่านใช้ให้หมอหลาบไปผ่าท้องเอากระโหลกที่ป่าช้าวัดละหารใหญ่ มีวันหนึ่งได้ไปเรียนถามหลวงพ่อสาครว่าพอจะทราบข้อมูลดั่งนี้ไหม หลวงพ่อท่านก็ส่ายหน้าว่าหลวงปุ่ท่านไม่ทำดั่งเช่นนั้นหรอก หลวงปู่ท่านไม่เล่นผีสาง และวิชาจินดามณีที่ร่ำลือว่าสามารถเรียกเนื้อเรียกปลาได้นั้นหลวงพ่อสาครท่านเล่าว่าหลวงปู่ทิมท่านไม่เคยสอนให้กับศิษย์คนใดเลย
     
  15. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  16. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    **กราบอนุโมทนาบุญด้วย ขอรับ***
     
  17. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***กราบหลวงปู่ทิม โยม สาย
    สวัสดีครับ ท่านโมท และ ทุกๆท่าน คิดถึงทุกๆท่านครับ
    ขอให้ทุกๆท่าน จงร่ำรวย รุ่งเรือง ปลอดภัย นะครับ***
     
  18. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    หวัดดีครับท่านรุ่ง สบายดีนะครับ
     
  19. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***กระผม สบายดีขอรับ เพราะได้ บารมี หลวงปู่ ท่าน คุ้มครอง ครับ ***
     
  20. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    ขออภัยอีกครั้ง ช่วยแจ้งที่อยู่ ของท่านที่ยังไม่ได้รับพระ เข้า พีเอ็มผมด้วยครับ ทยอยจัดส่งไปเรื่อยๆๆครับ
    พีเอ็มเก่า เยอะมาก รบกวนบอกเบอร์พระกับที่อยู่มาด้วยนะครับ เพื่อความรวดเร็ว
    กำหนดการทอดกฐิน วันเสาร์ที่ 2 พย 2556 ช่วงเช้า งดงานรื่นเริงทั้งหมด อาจจะจัดงานสวดพระพุทธมนต์แทน ให้พระอาจารย์ลอยตัดสินใจ ประมาณ บ่าย 1 โมง รอสมาชิกมาร่วมพิธีกฐินและฉลองพระประธาน ถ้ามีเวลาว่าง เรียนเชิญครับ งานเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...