เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ขอบคุณพี่ศนิวารสำหรับคำแนะนำครับผม

เรื่องชวนเพื่อนๆ ไปทางเที่ยวกลางคืนหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกลอฮอล์สำหรับผมไม่มีอยู่แล้ว และไม่มีใครกล้าชวนผมสักเท่าไร เพราะทราบกันดีว่าผมไม่ดื่มและค่อนข้างจะชักชวนให้คนอื่นเลิกดื่มไปด้วย ส่วนในกรณีเพื่อนอาจนำความเดือดร้อนมาให้ ก็จะระมัดระวังให้มากครับ เพราะบางทีอคติและความลำเอียงเนื่องจากเชื่อเพื่อน อาจเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนได้ จะพยายามมีสติไตร่ตรองในเรื่องต่างๆ ให้ดีที่สุดครับ ขอบคุณพี่ศนิวารครับ

 

ดาวเจ้าเรือนสหัชชะคือจันทร์๒ ครับ ผมเลยเอาจันทร์เป็นตัวเอก
แต่ไปลอยเป็นประในเรือนศุภะ
ผมทายว่า เพื่อนชวนไปเสื่อมเสีย และไม่เสื่อมเสียธรรมดา แต่เป็นความเสื่อมที่ทำให้ต้องพลัดพรากด้วย

ส่วนราหูที่เป็นเดชทางทักษา ผมทายว่า น่าจะเป็นที่เชื่อถือของเพื่อนฝูงครับ
ราหูตัวนี้ผมไม่ทายเสีย แต่ความเป็นดาวราหูคือได้หมดไม่เลือกดีชั่ว ถ้าได้เพื่อนดี ก็ดีไป ถ้าได้เพื่อนชั่วก็หลงผิด เสื่อมเสียจนพลัดพรากจากครอบครัว ความมั่นคง ความราบรื่นในครรลองชีวิต

 

เจ้าของดวง ชอบผู้หญิงแบบ คนมีภูมิรู้ ใฝ่กุศล จิตใจโอบอ้อมอารี อดทนอดกลั้น
ดีพอจะอบรมตักเตือนเจ้าชะตาได้ เพราะเป็นแม่พระเหลือเกิน.... จะให้ทายหุ่นด้วยไหม ว่าชอบแบบไหน

 

อั๊ยยะ ถ้าจะพยากรณ์ได้ละเอียดถึงเรื่องนั้น ก็ยินดีรับคำชี้แนะครับพี่

แต่เรื่องสเป็คคนที่ชอบ เป็นตามที่พี่ทิพย์ว่าจริงๆ ครับ ^_____^

 

ราหูอยู่เรือนจันทร์ภพสหัชชะ ตามวิสัยราหูจะย่องเข้ามากินจันทร์ แต่จันทร์หนีไปอยู่ภพศุภะเรือนเสาร์แถมเป็นประอ่อนแอไม่มีกำลัง แถมเสาร์เจ้าเรือนยังเข้าภพปุตตะ เป็นที่น่าสงสัยว่าจะมีเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวเด็กและสตรี อย่ามีกิ๊กเด็ก ๆ ก็แล้วกัน

ราหูบทจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายก็ร้ายฝุด ๆ ได้รอบทับลักค์เมื่อไหร่ ไม่เฮก็โฮ หรือไม่ก็โฮก่อนเฮ บางทีก็เฮก่อนโฮ

ที่ทำนายก็อย่าเชื่อผมให้มากส่วนใหญ่จะ "แถ" ไปเรื่อย ฟังไว้เอาแบบหนุก ๆ ขำ ๆ ก็พอ

 

ในส่วนนี้ น่าจะเป็นจริงตามที่พี่ทำนายครับ สมัยวัยรุ่นโชคดีคบเพื่อนที่ไม่ไปทางอบายมุขเลยทำให้เราไม่ได้มีชีวิตในทางด้านนั้น ผมเป็นคนจริงจังเต็มที่กับเพื่อนฝูง ถ้าได้เพื่อนแย่ๆ ก็คงแย่ไปตามเพื่อนเหมือนกัน

เรื่องความเป็นคนน่าเชื่อถือของเพื่อนฝูง ข้อนี้มีความเป็นไปได้สูง อาจเนื่องจากผมเป็นคนเจ้าเหตุเจ้าผล พูดเก่ง เพื่อนก็เลยอาจจะให้ความเชื่อถือสูง

 

กินเด็กเค้าว่าจะทำให้อายุยืน แต่ถ้ากินเด็กแล้วเป็นโทษภัย อย่างนี้หนีให้ไกลดีกว่าครับพี่ศนิวาร แหะๆๆ

เรื่องราหู เคยได้ยินมาจากหลายคนแล้วว่า ถ้าส่งผลดีก็ดีสุดๆ ถ้าส่งผลร้ายก็ร้ายสุดๆ ก็เลยจะพยายามดำรงตนอยู่ในบุญกุศล พยายามมีศีลให้ครบ เผื่อเวลาหนักจะได้ผ่อนเป็นเบา เวลาดีก็จะได้ดีมากกว่าเดิมครับ

 

จะไม่เตือนหน่อยหรือว่า ยามดีเป็นแม่พระ ยามโมโหโกรธาก็แม่พระเพลิง หรือเทพสงครามดี ๆ นี่เอง มีหวังหัวแบะเสียเงินค่ารักษาตัวแน่ ๆ

 

ไม่เตือนครับ แม่พระนั้นเป็นเป็นสเปคที่ชอบ ไม่ใช่ตัวจริง
ตัวจริงไม่ใช่แบบที่พูดเลย .....ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ (น่าจะยิ่งกว่าของผม+ของพี่อีก)

เรื่องแบบนี้ไม่ต้องเตือน มันรู้ตัวมันเองแหละ........

 

โอ๊ะ ... รู้สึกชีวิตอาจจะตกอยู่ในความน่ากลัวในอนาคตเป็นแน่แ้ท้ ถ้าเป็นเช่นนั้น คงต้องขอคำแนะนำดีๆ ในการเอาตัวรอดจากพี่ทิพย์และพี่ศนิวารแล้วล่ะครับ

 

ขออนุญาตถามเพิ่มเติมครับ

เกณฑ์มีบุตรครับ เนื่องจากแต่งงานมา 4-5 ปีแล้ว ยังไม่มาเสียที

ขอบคุณครับ

 

ตัวจริงเป็นเทพสงครามครับ......ขอให้โชคดี
(พี่ศนิวารว่าไว้นั้น ถูกต้องแล้ว)

 

ข้อสังเกตุจากการดูดวง(ภาพรวม)

๑).ส่วนใหญ่จิตใจดี ชอบทำบุญ

๒).มีความกตัญญู เป็นที่ตั้ง

และ ๓).มีภรรยา ที่ค่อนข้างดุ (รวมทั้งผมและหมอดู เป็นต้น)

และคุณทิพย์ฝากให้โพส

ในกระทู้นี้มีรับราชการอยู่หลายคน จะเหมือนกันหมด
คือมีรายได้จากงานน้อย แต่เป็นเกียรติเป็นศรีให้เห็นในพื้นดวงกันหมดทุกคน

 

ดวงนี้สงสัยจะมีลูกยาก คุณหนุ่มทิพย์ว่าไง

ภพปุตตะมีอาทิตย์สถิตเป็นมหาอุจ มีศุกร์กับพุธร่วมภพแต่ศุกร์ดันเป็นประอ่อนกำลัง ส่วนอังคารเจ้าเรือนหลักดันไปหลบอยู่ภพวินาสแถมมีอังคารเดิมเป็นเจ้า้เรือนรองอีก สงสัยคงจะได้หาลูกบุญธรรมเป็นแน่

ไปขอกับหลวงพ่อโสธรเหอะ หรือที่ไหนว่าขอลูกได้ก็ลองไปขอดู คิดว่าคงจะยาก

ผมก็แถไปเรื่อยอย่าเชื่อมาก บางทีต้องดูดวงฝ่ายหญิงประกอบกันด้วย

 

ผมไปกราบหลวงปู่ฯทีไร หลวงปู่ฯถามถึงแฟนผมทุกที
ถามว่าสบายดีไหม รายได้ดีหรือเปล่า ฯลฯ
สุดท้ายถามว่าเมื่อไหร่จะมีน้อง

พอพาแฟนไปกราบหลวงปู่ฯ ท่านฯก็ให้ไปขอเอากับพระประธานในโบสถ์
ผมก็ไปนั่งมองพระประธาน "หลวงพ่อดอกไม้"
นั่งมองพระฯ พระฯก็มองผม ผมก็มองเมีย เมียก็มองผม
เธอบอก "ก่อนจะขอลูก ขอให้ขยันทำก่อนนะ..."

ยิ่งมาช่วงหลังๆ ยิ่งบ่นบ่อยขึ้น
"ตอนแรกก็วันโกนวันพระ..."
"ต่อมา ก็อธิบดี ธงชัย"
"ตอนนี้ยังมานับวันไข่ตกอีก..."
"สรุปแล้วปีนึงจะทำกี่วัน..."

แต่งงานตอนแก่ มันก็ไม่ดีดังนี้แล.....

..............................................

ดาวเจ้าเรือนปุตตะ คือ๓
เป็นเกษตรอยู่ในภพวินาสน์ มีดาวมฤตยูกุมอยู่ 3+0 คู่อุบัติเหตุ
เกิดวันเสาร์ ดาว๔ เป็นกาลกิณี ลอยอยู่ในภพปุตตะ ทำให้มีช้า มียาก
ดาวอาทิตย์๑ คู่ศัตรูไปลอยอยู่ในเรือนอังคาร
ดาว๖ ไปลอยเป็นประ ไม่ค่อยขยัน

ตอนนี้อายุย่าง30 ๒ เป็นศรี แต่ไปลอยในภพการงาน ไม่เกี่ยวกัน
แต่ถ้าให้เมียจ้างให้ขยันทำ รอบละ 120 แถมกระทิงแดง 1 ขวด ก็ถือเป็นงาน อาจจะประสบความสำเร็จ

ถ้ารอหลังวันเกิด ๓ เป็นศรี ก็พอมีโอกาส
แต่ดาวอังคารอยู่ในเรือนวินาสน์นี้ บทจะติดขึ้นมา ก็ปุ๊บปั๊บไม่ทันตั้งตัว

ปล่อยไปตามธรรมชาติเถอะครับ บทจะมีก็มีเอง
ถือว่าอยู่เป็นเพื่อนกัน.........

........................

ช่วยบันทึกไว้หน่อย
ช่วงเดือนธันวาคม 2557 ดาวอังคารเป็นอุจจ์ แลกเรือนกับดาวเสาร์๗ ที่เป็นราชาโชค กุมกันกับอาทิตย์คู่ธาตุในเรือนวินาสน์
ปุ๊บปั๊บจะได้ข่าวดีหรือเปล่า....เป็นกำลังใจช่วย

 

ขอบคุณพี่ศนิวารครับ

คงต้องหาเวลาไปไหว้และขอพร หลวงพ่อโสธร ตามที่พี่ศนิวารแนะนำครับ

ขอบคุณครับ

 

ผมลืมดูว่าได้อาทิตย์เป็นอุจจ์
พุธ+ศุกร์ เป็นคู่ธาตุ ช่วยเหลือเรื่องเป็นประได้ครับ เจ้าบ่าวอาจขี้เกียจเป็นม้าใช้ แต่เจ้าสาวควบน่าดูเลย...(อันนี้ล้อเล่นนะ)

อาทิตย์ที่เป็นอุจจ์ มาจากเรือนศุภะ ที่แปลว่าอุปการะ ที่พี่ศนิวารทายมานั้น ถูกใจผมมาก และน่าจะเป็นดังนั้นครับ

จะขอลูกบุญธรรมกับพระฯ กับเจ้าฯ ผมก็ไม่ขัดข้อง
แต่ถ้าไปขอกับกิ๊กที่ทำงาน....บ้านแตก

 

ขอบคุณพี่หนุ่มทพิพย์,

จะขยันทำให้มากขึ้นครับ เนื่องจากภรรยา และตัวผมเองทำงานกันคนละที่เจอกันก็ช่วง ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์

คงต้องหายาเสริม(ให้ตัวเอง) เข้าช่วย...

ขอบคุณครับ

 

เรื่องเล่า : เล่าที่มาของคำว่า"ยันฮี"

ตอน : ลอกข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเอามาเล่า

การสำรวจโครงการ

โครงการไฟฟ้าพลังน้ำยันฮี

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งพระนครและธนบุรี มีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 22,000 กิโลวัตต์ เพราะภายหลังสงคราม ประชาชนมีความต้องกาพลังงาน

ไฟฟ้าทวีขึ้นถึงร้อยละ 15 ต่อปี โดยที่ใน พ.ศ. 2495 นั้น เฉพาะเขตจังหวัดพระนคร-ธนบุรี ผลิตพลังงานได้ 30,600 กิโลวัตต์ รวมทั่วทั้งประเทศ

ผลิตไฟฟ้าได้ 53,800 กิโลวัตต์ แม้รัฐบาลจะทำการซ่อมแซมไฟฟ้าที่ถูกระเบิดเสียหายเมื่อตอนสงคราม และติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นใหม่ ก็ไม่

อาจสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนได้อย่างพอเพียง รัฐบาลจึงได้พิจารณาการก่อสร้างแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้นมากรมชล

ประทาน ได้เสนอการผลิตพลังงานไฟฟ้า โดยใช้กำลังน้ำของลำน้ำปิง ที่ตำบลยันฮี จังหวัดตาก โดยเรียกว่าโครงการยันฮี เนื่องจากกรมชลประทาน ได้

ทำการศึกษาและสำรวจรายละเอียดหาตำแหน่งแหล่งผลิตไฟฟ้าเอาไว้แล้วครบถ้วน มีการสำรวจด้านอุทกวิทยา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 ด้านธรณีวิทยา

นั้น ได้สำรวจทั้งภาคพื้นดินและอากาศในปี พ.ศ. 2494 โดยได้จัดทำรายงานขั้นต้น เสนอรัฐบาลในปลายปี พ.ศ. 2495 และเพื่อให้มี ความมั่นใจใน

การดำเนินโครงการมากยิ่งขึ้น จึงได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญจาก U.S. Bureau of Reclamation มาตรวจสอบและจัดทำรายงานขั้นสุดท้าย ซึ่งได้ผลสรุป

ออกมาว่า ไม่มีโครงการใดเหมาะสมเท่าโครงการยันฮี อีกแล้ว โดยประมาณการว่า โครงการยันฮี จะผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 560,000 กิโลวัตต์

สามารถส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังจังหวัดต่าง ๆ 36 จังหวัด ในภาคเหนือ และภาคกลางรวมทั้งจังหวัดพระนครและธนบุรี จะช่วยสนองความต้องการไฟฟ้า

ของประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐในอันที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมรัฐบาลได้ประกาศพระราช

บัญญัติจัดตั้งการไฟฟ้ายันฮีขึ้นในปี พ.ศ. 2500 และการไฟฟ้ายันฮีได้มอบหมายให้กรมชลประทานเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน การศึกษาสภาพ

แวดล้อมตามสภาวะธรรมชาติ นอกจากงานก่อสร้างโครงการเขื่อนภูมิพล ดังที่กล่าวมาแล้ว กรมชลประทานได้ขออนุมัติให้คณะรัฐมนตรีตั้งคณะ


กรรมการนักธรณีวิทยาศาสตร์ขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อทำการสำรวจ ค้นคว้า และศึกษาสภาพความเป็นอยู่ ของพืชและสัตว์ที่อาจเปลี่ยนแปลง ในทาง

ภูมิศาสตร์จากการสร้างอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล และคณะรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติตามเสนอ“คณะกรรมการเพื่อการสำรวจค้นคว้าและศึกษาสภาวะธรรมชาติ

และโบราณคดี ในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล” แบ่งงานสำรวจและค้นคว้าออกเป็น 7 สาขา คือ โบราณคดี พฤกษชาติ สัตวชาติ อุตุนิยมวิทยา ปฐพี

และธรณีวิทยา อุทกวิทยา และสาธารณสุข

1. การสำรวจโบราณคดี โดยนายกฤษณ์ อินทโกศัย รองอธิบดีกรมศิลปากร กรรมการและประธานอนุกรรมการสาขาโบราณคดี

2. การสำรวจพฤกษชาติ โดยศาสตราจารย์ หลวงศรีสามารถวิชากิจ แผนกชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรรมการและประธาน

อนุกรรมการสาขาพฤกษชาติ

3. การสำรวจสัตวชาติ โดย ม.ร.ว. จักรทอง ทองใหญ่ ปลัดกระทรวงเกษตร กรรมการและประธานอนุกรรมการสาขาสัตวชาติ

4. การสำรวจอุตุนิยมวิทยา โดย พลเรือโท จรูญ วิชยาภัย บุนนาค เจ้ากรมอุตุนิยมวิทยา กรรมการและประธานอนุกรรมการสาขาอุตุนิยมวิทยา

5. การสำรวจปฐพีและธรณีวิทยา โดย นายเริ่ม บูรณฤกษ์ รองอธิบดีกสิกรรม กรรมการและประธานอนุกรรมการสาขาปฐพีวิทยาและธรณีวิทยา

6. การสำรวจด้านธรณีวิทยา โดยนายสมาน บุราวาศ รองอธิบดีกรมโลหกิจ กรรมการและอนุกรรมการสาขาปฐพีวิทยาและธรณีวิทยา

7. การสำรวจสภาพทางอุทกวิทยา ของลุ่มแม่น้ำปิงและอ่างเก็บน้ำยันฮี โดย นายบุญชอบ กาญจนลักษณ์ นายช่างหัวแผนกอุทกวิทยา กรมชล

ประทาน กรรมการและประธานอนุกรรมการสาขาอุทกวิทยา ของคณะกรรมการศึกษาสภาพอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล

“แหล่งน้ำของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล คือ แม่น้ำปิง ลุ่มน้ำของแม่น้ำปิงอยู่สุดทางด้านทิศตะวันตกของภาคเหนือ ระหว่างลุ่มน้ำวังในประเทศไทย กับแม่

น้ำสาละวินในประเทศพม่า เป็นลุ่มน้ำที่ล้อมรอบไปด้วยขุนเขา เทือกเขาเทนเนสเซอริมเป็นพืดติดต่อมาจากแคว้นชาน โอบลุ่มน้ำปิงด้านตะวันตก คั่น

ระหว่างแม่น้ำปิงกับแม่น้ำสาละวิน อีกเทือกหนึ่งเข้าโอบด้านทิศตะวันออกของลุ่มน้ำ เป็นที่เกิดของภูเขาที่มียอดสูงสุดในประเทศ คือ ดอยอินทนนท์ ซึ่ง

สูง 2,595 เมตร อยู่ประมาณ 60 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเชียงใหม่ แม่น้ำปิง มีแหล่งกำเนิดในเทือกเขา บริเวณชายแดนทางภาค

เหนือของจังหวัดเชียงใหม่ แล้วไหลลงมาทางใต้ ผ่านหุบเขาในเชียงใหม่ ลงมาเป็นระยะทางราว 250 กิโลเมตร แควสำคัญต่าง ๆ ที่ไหลลงมารวมใน

ช่วงนี้ คือ แม่งัด แม่แตง แม่กวง และแม่ขาล รวมเป็นแม่ปิงซึ่งไหลผ่านหุบเขาระหว่างเชียงใหม่ต่อกับตากลงมาอีกราว 120 กิโลเมตร ในตอนนี้ มีแม่

แจ่ม แม่ลี้ และแม่ตื่น เป็นแควสำคัญที่นำน้ำลงมาสู่ แม่ปิง เมื่อหลุดออกจากช่องเขาแคบ ๆ แล้ว แม่น้ำปิงไหลผ่านทุ่งบ้านนา ซึ่งกว้างประมาณฝั่งละ

2-3 กิโลเมตร เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร บริเวณนี้ จะเป็นทำเลที่เหมาะที่สุด ที่จะเป็นทะเลสาบหรืออ่างเก็บน้ำอันเกิดจากเขื่อนภูมิพล ใต้ทุ่งบ้านนา

ลงมา แม่น้ำปิงเปลี่ยนแนวไปทางทิศตะวันออก ไหลผ่านช่องเขาแคบที่เรียกว่า “ย่านรี” ซึ่งต่อมาเพี้ยนเป็น “ยันฮี” ซึ่งเป็นทำเลที่จะก่อสร้างเขื่อนภูมิ

พล ต่อจากบริเวณนี้ ราว 5 กิโลเมตร แม่น้ำก็ไหลผ่านหลุดพ้นออกจากช่องเขา ไปเข้าที่ราบของอำเภอบ้านตาก และทุ่งตาก กำแพงเพชรจนถึง

นครสวรรค์ ระยะทางจากเชียงใหม่ถึงยันฮี นั้น มีแก่งโดยทั่วไป แม่น้ำไหลเชี่ยวในฤดูน้ำ เพราะมีความลาดชันมากถึง 1 : 1000 ส่วน ทางด้านตาก

กำแพงเพชรนั้น แม่น้ำลาดแบนลง และไหลอยู่บนพื้นทราย มีลักษณะ Braided river คือ มีเกาะและสันดอนทรายที่แม่น้ำพัดพามาทิ้งไว้เป็นตอน ๆ

ความกว้างของแม่น้ำ บริเวณที่ตั้งเขื่อนนั้นกว้าง 90 เมตร แต่เมื่อไหลผ่านเข้าที่ราบกว้างที่สุดถึง 600 เมตร ที่บ้านตาก แม่น้ำปิงได้ไหลบรรจบกับแม่

น้ำวัง ซึ่งมีลุ่มน้ำอีกประมาณ 11,200 ตารางกิโลเมตรเข้ามาด้วยก่อนถึงบ้านตาก”

 

จริงๆแล้วมันก็ทายได้อยู่ดอก ว่าติดปัญหาเรื่องงานด้วย เพราะ


ดาวพุธ ๔ ที่เป็นกาลกิณีลอยอยู่ในภพปุตตะนั้น
มาจากเรือนการงาน และดาว๒ ที่ลอยอยู่ในเรือนการงาน มาจากเรือนมรณะ ที่แปลว่าห่างไกล

ถ้าคนอ่านดวง ละเอียดขยัน จะสามารถทายถึงสาเหตุได้
แต่คนขยันกับผม เป็นคนละคนกันครับ
................

คุณยังได้เจอแฟนอาทิตย์ละตั้งสามวัน
ผมเจอทุกวัน แต่แฟนผมติดละคร....... ตอนนี้มีลำยองเข้ามาอีก...เซ็ง

เรื่องตัวช่วย ก็แล้วแต่คุณเหอะ
ผมลองมาแล้ว........ สู้ละครหลังข่าวไม่ได้ เมียบอกสนุกกว่าเยอะ