เลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชนมีผลต่อชีวิตเราจริงหรือป่าวครับ

เลขโทรศัพ เลขประจำตัวประชาชน เลขนู่นนี่นั่น
นำมาบวกลบกันบ้าง มีผลต่อชีวิตของเราจริงหรอครับทุกท่านคับ
ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพบ้างไรบ้าง มีอิทธิพลต่อชีวิตเราจริงหรืิป่าวครับ
ทุกท่านช่วยชี้แนะผมทีครับ

ขอบคุณครับ ไม่รู้ผิดห้องหรือป่าวครับ(k)

 

คิดว่าให้ผลแค่ 10% ค่ะ ส่วนมากอยู่ที่ฐานบุญมากกว่าค่ะ
ยกตัวอย่างที่ให้ผลมากอันหนึ่งคือ "บ้านเลขที่"
บ้านฝั่งตรงข้ามดิฉัน เลขไม่ดีเลยค่ะ (ออกแนวแตกหักวุ่นวาย)
แต่เขารวยมากทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมัน และน้ำท่วมปี54
น้ำไม่เข้าบ้านเขาเลยสักนิด นับถือเลยว่าฐานบุญแกใหญ่จริง

สรุปว่า ถ้าทำแล้วสบายใจ ก็ทำไปเถอะค่ะ แต่ผลมากน้อยอยู่ที่
วาสนาจริงๆ

 

ไม่มีผล อะไรหรอกครับ
มันเป็นการรวบรวมสถิติ,การวิจัย ของบางกลุ่มเท่านั้นเองนะครับ ลองอ่านนี้ดูนะครับ

"กัมมุนา วัตตติ โลโก"

สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม

อุทฺเทส กมฺมปจฺจโย เพราะมีเจตนาตั้งใจเป็นปัจจัย

กัมมปัจจัย หมายถึงการกระทำของจิตใจที่เป็นเหตุให้เกิดผล หรือให้สำเร็จกิจในหน้าที่ของตนเรียกว่า "กรรม"

ดังพุทธภาษิตกล่าวไว้ในอังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาตว่า...

"เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ เจตยิตฺวา กมฺมํ กาเยน วาจาย มนสา"

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า เจตนาคือตัวกรรม สัตว์ทั้งหลายที่ทำกรรม ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจก็ดี ย่อมมีการปรุงแต่ง คือคิดนึกก่อนแล้วจึงทำ

ดังจะเห็นได้ว่าการกระทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ จะเป็นกุศล หรืออกุศลก็ตาม ต้องอาศัยเจตนาเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้าในการกระทำนั้นๆ ฉะนั้น เจตนาจึงเป็นตัวกรรม หรือเป็นหัวหน้าของสังขารขันธ์ทั้งหลาย

กัมมปัจจัยที่กล่าวว่า เป็นปัจจัยให้เกิดผล ก็เพราะทำหน้าที่เพาะพืชพันธุ์ให้เกิดผลในอนาคต เรียกว่า พีชนิธานกิจ คือ ทำกิจสั่งสมพืชเชื้อเพื่อให้งอกต่อไปในอนาคต เป็นนานักขณิกกัมมปัจจัย

พุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ถือการกระทำเป็นใหญ่ เป็นกรรมนิยม ซึ่งผิดกับศาสนาอื่นที่ถือเทวนิยม เป็นต้น เพราะเข้าใจว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นด้วยการบันดาลของเทพเจ้า

แต่ส่วนของพระพุทธศาสนาถือว่า สัตว์ทั้งหลายจะดีหรือชั่วย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเอง ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับผู้อื่น หรือขึ้นอยู่กับวงศ์ตระกูล เพราะการทำดีทำชั่วต้องทำด้วยตนเอง ไม่ใช่มีผู้อื่นมาทำให้ได้ เหตุนี้สัตว์ทั้งหลายจึงมีกรรมเป็นของตน เรียกว่า...

กมฺมสฺสโกมฺหิ เมื่อทำกรรมไว้อย่างไร ก็ต้องรับผลของกรรมนั้นตามที่ทำไว้

กมฺมทายาโท คือเป็นทายาทของกรรมที่ทำแล้ว จึงจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในที่ต่างๆกัน

กมฺมโยนิ คือมีกรรมเป็นกำเนิด และกรรมที่ทำแล้วยังจะติดตามไปทุกหนทุกแห่ง จะไม่สูญหายไปใหน

กมฺมพนฺธู คือมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ แม้พ่อ-แม่ญาติพี่น้อง ก็ไม่ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์วงศ์ญาติที่แท้จริง คือชาตินี้เป็นญาติกัน แต่พอตายแล้วก็แยกย้ายกันไป แต่ส่วนกรรมที่ทำแล้วย่อมจะติดตามตนไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพาน.

ถ้าทำกรรมดีก็เหมือนมีวงศ์ญาติที่ดี ญาติดีก็จะอุปถัมภ์ค้ำชูให้มีความสุข ความเจริญ แต่ถ้าทำกรรมชั่ว ก็เหมือนมีวงศ์ญาติที่ชั่ว ญาติชั่วก็จะติดตามล้างผลาญให้เป็นทุกข์เดือดร้อนเรื่อยไป กรรมจึงเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์โลก

กมฺมปฏิสรโณ เพราะเมื่อกรรมชั่วให้ผลอยู่ แม้ญาติพ่อ-แม่พี่น้องตลอดจนผู้มีอำนาจราชศักดิ์ ก็ไม่อาจช่วยให้พ้นจากทุกข์ได้ แต่ถ้ากรรมดีให้ผลอยู่ แม้ใครจะคิดร้ายทำลาย ชีวิตก็ไม่อาจถูกทำลายได้เลย.

อีกนัยหนึ่ง ท่านเปรียบกรรมคือการทำกุศล อกุศล ส่วนผลคือวิบาก เปรียบเหมือนเงา เมื่อมีคนที่ใหนก็ต้องมีเงาที่นั่น คือมีกรรมก็ต้องมีวิบากรับผล.

​

 

สิ่งภายนอกเหล่านี้ ไม่มีผลอะไรต่อชีวิตของท่านหรอก นอกเสียจากการกระทำ(กรรม) ของตัวท่านเอง ลองศึกษาปฏิบัติตาม คำสอนของพระศาสดา ตถาคต ดูนะครับพุทธวจน ดาวน์โหลด รอสักครู่

 

มันเป็นตัวบอกอย่างหนึ่งแค่นั้นแหละ

 

คุยกันเล่นๆนะอย่าจริงจัง ผมว่ามันก็อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้นะ ถึงแม่จะไม่น่าเชื่อที่ตัวเลขพวกนั้น(สัมพัน)กับชีวิตเรา อ่านดีๆนะ ผมไม่ได้บอกว่าตัวเลขมีผลต่อชีวิต แต่บอกว่าสัมพันธ์ ตามความคิดผมนะผมคิดว่าเราต่างหากที่ก่อให้เกิดตัวเลข ไม่ใช่ตัวเลขก่อให้เกิดเรา แต่เราสามารถถอดตัวเลขย้อนกลับมาเพื่อดูตัวเราได้ อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าสอนเราแค่ใบไม้กำมือเดียวนะจากต้นไม้ทั้งต้น

ปล. เพื่อความบันเทิงเท่านั้นโปรดใช้วิจารณญาน
ปล2. หวังว่าจะไม่มีใครอินเกินไป ผมแค่แสดงความคิดเห็นตามหัวข้อเท่านั้น

 

อย่าถามว่าให้ผลหรือไม่คะตัวเลขทุกอย่างที่อยู่ในชีวิตคุณคือตัวที่บ่งบอกความเป็นทุกอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ ร้อยเปอร์เซนต์ เลยคะ และแก้ไม่ได้ อย่างเลขวันเกิด เลขบ้านอย่างนี้มันแก้ได้ทีไหน นอกจากถ้าชีวิตเปลี่ยน มุมมอง ความเป็นอยู่เปลี่ยน ถ้าชีวิตคุณเปลี่ยน คุณก็จะได้จับพลัดจับผลู่ไปได้อยู่ที่ใหม่ มีตัเลขใหม่

 

เป็นเราต่างหากที่ใช้ตัวเลขเหล่านั้นเป็นเครื่องมือในชีวิตประจําวันของเรา,ตัวเลขนั้นเป็นสิ่งสมมุติที่สร้างขื้นมาเพื่ออํานวยความสดวกให้แก่พวกเราอย่างเช่น ใช้ในการสื่อสาร,บอกจํานวนปริมาณฯ
ที่ว่ามีผลทางด้านการใช้ชีวิตของเรานั้นก็มีส่วนอยู่(ถ้าไม่มีตัวเลขคงวุ่นวายน่าดู)
แต่ก็มิได้มีผลอะไรกับดวงชะตากรรมของเราหรอก,ทุกอย่างขื้นอยู่ที่เราเป็นผู้กําหนดไม่มีอะไรใหญ่เกินกว่ากรรมที่เราทําไปได้...

 

คนที่ไม่สนใจก็ไม่มีผลอะไรครับ
เช่น คนโบราณ คนป่า ยังไม่มีตัวเลขใช้

ตัวเลขมักกลายเป็นแพะรับบาป เมื่อไม่รู้จะโทษอะไรเป็นเหตุแห่งโชคร้าย

 

ตัวเลขมีผลต่อชีวิตเราหรือเปล่าก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ที่ควรสนใจก่อนนั้นคือความเชื่อมีผลต่อชีวิตคนเราหรือเปล่า ถ้าเราเชื่อว่ามันมีผล มันจะมีผลมากขึ้นไหม และถ้าเราเชื่อว่ามันไม่มีผล มันจะมีผลน้อยลงไหม หรือมันเป็นในทางตรงกันข้าม หรือไม่มีผลกับชีวิตเลย เพราะถ้าความเชื่อมีผลมากกว่าตัวเลขก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปสนตัวเลข สนใจตัวความเชื่อของเราดีกว่า แต่ถ้าความเชื่อไม่มีผลเลย ตัวเลขมีผลมากกว่าก็ค่อยไปสนใจตัวเลข

 

เป็นการบอก ลักษณะของตัวบุคคล เหมือนเวลา ตกฟากนะ น่าจะประมาณนั้นนะ
เหมือนกรรมเก่า เขาให้มา ทั้งดี ชั่ว ปะปน เพื่อ
ได้ศึกษาพระธรรมเพื่อ หนีภัยในวัฎฐ คะ

 

มีผลสิคะ คิดตามหลักความเป็นจริงนี่ละ

 

หลักกิโลเมตร
เป็นตัวบอกระยะทาง ไม่ได้เป็นตัวกำหนดระยะทาง

 

คิดว่าตัวเลขต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตคนคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเลขวันเดือนปีเกิด
เลขที่บ้าน เลขโทรศัพท์ ก็คงจะคล้ายๆ ลายมือหรือโหงเฮ้ง ซึ่งเป็นเครื่องหมายบอกวิบากกรรมคนคนหนึ่งคร่าวๆ

เนื่องจากมนุษย์เราเกิดมาด้วยความไม่รู้วิบากกรรมของตนเอง ธรรมชาติจึงอาจให้สิ่งเหล่านี้มาเพื่อเป็นสัญญาญเตือนให้มนุษย์ได้ฉุกคิด แก้ไข ปรัปปรุงชะตากรรมของตัวเอง

สิ่งเหล่านี้จึงไม่ได้เป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตคนเรา แต่เป็นคล้ายแผนที่วิบากกรรมเก่า
ส่วนเราจะสามารถล่วงรู้ความหมายแห่งสัญญลักษณ์ต่างๆ ได้ตรงและมากน้อยมากแค่ไหนนั้น ภาษาหมอดูว่า "แม่น"
ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการตีความของผู้นั้น

คิดว่าอย่างนั้นนะ

 

จากที่ผมอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเลขศาสตร์

อนุภาพของตัวเลขยิ่งใหญ่มาก อิทธิพลของตัวเลขสามารถครอบงำทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ อานุภาพของตัวเลขเรียกว่า "พลังจักรวาล"

ซึ่งเกิดขึ้นจากกลุ่มดาว ๑๐ ดวง ที่อยู่ในระบบสุริยะจักรวาล ดึงดูดสังเคราะห์ซึ่งกันและกัน อานุภาพแห่งการดึงดูดสังเคราะห์แปรสภาพเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ ๓ ประการ

๑, พลังงานแม่เหล็ก
๒. พลังงานไฟฟ้า
๓. พลังงานวิทยุ

เราจะสังเกตได้ว่าอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันจะสื่อด้วยอานุภาพของตัวเลขทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์ บัตรเครดิต ดูทีวี และอื่น ๆ เราจะใช้ตัวเลขเป็นตัวกำหนด ถ้าเราใช้ตัวเลขได้ถูกต้องสิ่งที่เราปราถนาก็จะได้ดั่งใจ

ชีวิตของเราก็เช่นเดียวกันจะต้องมีตัวเลขกำหนด

สีรระร่างกาย เปรียบเหมือน รถยนต์
เลขต่าง ๆ ที่เราใช้เป็นประจำ เช่นเลขทะเบียนรถยนต์ เลขเบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ เปรียบเหมือน คนขับ

ถ้าเรามีรถยนต์ดีแต่มีคนขับไม่ดี รถก็คงไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ (เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ควรจะเปลี่ยนคนขับรถใหม่)

 

ทำไมฝรั่งต่างประเทศไม่เห็นเชื่อตัวเลขโทรศัพเลขบ้านกันเลยหละครับ

 

มีเหมือนกันนะ
เช่นเลข 13 เป็นเลขแห่งโชคร้าย เลขซาตาน เลขอาถรรพ์
เลข 7 เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ ดูอย่างทีมฟุตบอลดังของฝรั่ง คนจะได้สวมเสื้อหมายเลข 7 จะต้องเป็นตัวเล่นเด่นของทีมเท่านั้น
ลองอ่านกระทู้นี้ดูซิ
สัญญาณของเทพ ที่ผ่านมาทางตัวเลข - หน้า 2 - PaLungJit.org

 

อนุโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะ นางสาวอยู่จ๊ะคนนี้ทำบุญตลอดดดดดดดดดด สาธุสาธุ สาธุ

 

ใช่เลยครับ

 

ชีวิตมนุษย์ กับ จตุราริยสัจ

มนุษย์เป็นอันมาก ได้ยึดถือเอาที่พึ่งผิด ๆ มนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมาก ถูกความกลัวคุกคามเอาแล้ว ย่อม ยึดถือเอาภูเขาบ้าง ป่าไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์บ้าง สวนศักดิ์สิทธิ์บ้าง รุกขเจดีย์บ้าง ว่าเป็นที่พึ่งของตน ๆ : นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันทำความเกษมให้ได้เลย, นั่นไม่ ใช่ที่พึ่งอันสูงสุด;
ผู้ใดถือเอาสิ่งนั้น ๆ เป็นที่พึ่งแล้ว ย่อมไม่หลุดพ้นไป จากทุกข์ทั้งปวง ได้. ส่วนผู้ใด ที่ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งแล้ว เห็นอริยสัจทั้งสี่ ด้วยปัญญาอันถูกต้อง คือ เห็นทุกข์, เห็นเหตุเป็นเครื่อง ให้เกิดขึ้นของทุกข์. เห็นความก้าวล่วงเสียได้ซึ่งทุกข์, และเห็นมรรค ประกอบด้วยองค์แปด อันประเสริฐ ซึ่งเป็นเครื่องให้ถึงความเข้าไปสงบ รำงับแห่งทุกข์ : นั่นแหละคือ ที่พึ่งอันเกษม. นั่นคือ ที่พึ่งอันสูงสุด; ผู้ใดถือเอาที่พึ่งนั้นแล้ว ย่อมหลุดพ้นไปจาทุกข์ทั้งปวง ได้แท้.

- ธ. ขุ ๒๕/๔๐/๒๔

เลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชนมีผลต่อชีวิตเราจริงหรือ?

พระตถาคตทรงตรัสว่า:
สุข ทุกข์นั้น เป็นส่วนแห่งกรรมที่เกิดขึ้นแล้วด้วยผัสสะ
เกิดเพราะอาศัยเหตุปัจจัยในการเกิดขึิ้้นและดับไปเพราะหมดเหตุปัจจัยนั้น
(เป็นของไม่เที่ยง อาศัยกันและกันในการเกิดขึ้น มีความเสื่อม ความสิ้นไป ความจางคลายไป และความดับไป เป็นธรรมดา)

แต่เพราะความที่สัตว์มีอวิชชาและตัณหา ถึงทับแล้วซึ่งอุปาทานและทิฏฐิว่า
นี้อัตตาของเรา ย่อมถือเอานามรูปและวิญญาณว่านี้เป็นเรา

หากละเสียซึ่งอุปาทานในขันธ์ทั้งหลายนี้เสียได้
ถอนความเห็นว่าเป็นตนเป็นตนของออกเสีย
พิจารณาเห็นขันธ์ทั้งหลายโดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อ
สัตว์ย่อมพึงข้ามฝั่งจากที่ที่ไม่ใช่ฝั่ง(สังขตธรรม)
ย่อมแลเห็นว่าสังขารทั้งหลายนั้นไม่ใช่ตัวตน
ไม่เข้าถึง ไม่ถือเอา ไม่ถึงทับซึ่งตัณหาและอุปทานในสังขารทั้งหลายนั้น
ไม่ลังเลและไม่สงสัยว่า
เมื่อจะเกิด ทุกข์เท่านั้นย่อมเกิด
เมื่อจะดับ ทุกข์เท่านั้น ย่อมดับ
(ทุกข์ที่นี้หมายถึง อุปาทานในสังขารทั้งหลาย ได้แก่อุปาทานใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
​