คิดยังไงกับเรื่องจริงผ่านจอคืนนี้ครับ

เกี่ยวกับวัดวรเชษฐ์ อ่ะครับที่เค้ากล่าวหาว่าผิด และหลอกลวง รวมถึงหลวงพ่อดอกเตอร์ ที่มีบ้าน2หลังเพราะชอบสะสมของเก่าๆ และร่างทรงมากมาย

ซึ่งมันผิดกะคนในบอร์ดที่โพสก่อนหน้านี้นี่นา คิดยังไงกันครับ (good)

 

ก็อัดวีดิโอไว้ วีดิโอมันฟ้องหนิเนอะ ที่เหลือก็ให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน หากดำเนินคดีก็สู้กันชั้นศาล

 

การนำเสนอข่าวทุกวันนี้ ควรฟังหูไว้หูครับ เพราะไม่งั้นเราจะกลายเป็นตัว
อะไรก็ไม่รู้ ถูกเขาจูงไปนู่นมานี่ที ก็ตามเค้าไป ผมฟังข่าวปัจจุบันนี้ผมไม่
ค่อยอยากจะเชื่อซักเท่าไหร่ พวกนี้ชอบขายข่าวให้ได้ไว้ก่อนโดยเฉพาะ
หนังสือพิมพ์

แต่น่าแปลกนะครับที่ สถานโบราณในอยุธยาที่อื่น ขยะรกเต็มไปหมด
กลับไม่ไปดูแลให้ดีก่อน ต้องมามุ่งประเด็นแต่ที่วัดวรเชษฐ์ ซึ่งคนที่
เข้าไปแต่ละกลุ่ม ไปกันเองไม่ได้ชวนกันไป แน่นอนอาจจะมีคนประสงค์
ไม่ดีที่จะเข้าไปทำพิธี แล้วเรียกนักข่าวเข้าไปถ่ายทำ ก็อาจจะเป็นไปได้
เพราะเรื่องนี้ผมดูแล้ว เหมือนจะมีคนที่ไม่ชอบสถานที่โบราณสถานแห่ง
นี้ ก่อนบุคคลดังกล่างจะเข้าไปที่วัดนี้ มันเคยถูกทิ้งร้าง ขนาดที่ว่าคน
ขับรถผ่านไปมายังไม่รู้เลยว่า มันเป็นสถานที่โบราณ เพราะเห็นแต่
เจดี เก่าๆ ด้านหลังที่เป็นเนินสูงๆ ก็เป็นที่ทิ้งขยะ เรียกว่าปล่อยไปตาม
ยถากรรม หรือ เรียกว่าไม่ไปดูแล ปล่อยให้มันอยู่แบบนั้น

แบบนี้เรียกว่าดูแลโบราณสถานเหรอครับ พอคนภายนอกเข้าไป
ก็หาว่าไปทำให้แย่ ผมแค่อยากจะพูดว่า ใครไม่ได้ไปคงไม่รู้หรอก
ฟังแต่ข่าว ดูแต่ในทีวี พวกเสนอข่าวก็สักแต่ว่า ขอไปที เพราะ
เมื่อคืนเค้านำเสนอไวมากๆ เหมือนจะโจมตี คนที่ไปบุกรุกเต็มที่
ทำไมไม่เรียกคนที่เค้าไปทำพิธีมาคุยละ ผมไม่เหนมาสัมภาษณ์
คนที่ไปวัดซักคน ถ่ายมาแต่คนทำพิธี อะไรก็ไม่รู้ แบบนี้เค้าเรียก
ใส่ความอยู่ข้างเดียว ไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย สัมภาษณ์พระอาจารย์
ดร. สิงทน ก็สัมภาษณ์ไปแบบนั้น แล้วก็ไปสืบประวัติท่าน หาว่า
เป็นพระปฏิบัติไม่ดี มีบ้านเป็นของตัวเอง ผมอยากถามว่าพระอาจารย์
ท่านก่อนจะมาบวชเป็นพระ ก็เห็นคำนำหน้าชื่อเค้าอยู่แล้วว่าเป็น ดร.
มาก่อน ส่วนประวัติท่านรวมทั้งหมด ผมก็ไม่ทราบมาก่อนต้องขออภัย

ปล.ความเห็นส่วนตัว ใครจะค้านเชิญครับ เรื่องทำพิธีในวัดนั้น มีกลุ่มคน
กันหลายกลุ่ม การดูแลจึงไม่ทั่วถึง แต่ผมว่าที่ผมไปเค้าไปทำพิธีแบบ
ศาสนาพุทธ แน่นอนครับ ไม่มีเรื่องเข้าทรงแน่นอน ที่เข้าทรงผมเข้าใจ
ว่า เปนกลุ่มอื่น ที่เข้าไปในงานด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มไหน ไม่แน่อาจจะ
เป็นกลุ่มที่จะมาสร้างเรื่องโจมตีวัดก็ได้ เพราะก่อนพิธีจัดงานวันที่ 18 เค้า
ก็มีพิธีแบบนี้มาก่อน ทุกคนมารวมกันแล้วก็จัดพิธี รวมกันหมดเลยไม่มีการ
แยกไปทำพิธีกันเอง แล้วก็พิธีครั้งล่าสุดที่เพิ่งจะจัดผ่านไปคือการทอดกฐิณ
ทำไมไม่ไปถ่ายทำต่อละ รู้หรือไม่ว่า วันนั้นมีคนสำคัญในพระราชวังไปร่วม
พิธีด้วย ผมไม่อาจจะบอกได้ว่าใคร เด๋วจะหาว่าหลอกลวงเอาเปนว่าใคร
ที่ได้ไปก็จะรู้ครับว่าคือใคร ซึ่งท่านมาเองไม่มีใครเชิญ ผมก็งงมากที่
ได้ข่าวนี้ อึ้งเล็กน้อย หึหึ ทีแบบนี้ทำไมไม่นำเสนอละ ไอ้พวกใส่ความ
ในทีวีทั้งหลาย

 

ผมว่าคนที่อุตสาห์เรียนจบมาถึงดร.แล้วมาบวชเรียน แถมเก็บตัวเงียบในวัดร้างที่เหลือแต่เจดีย์ที่ไม่มีใครรู้จัก พอกรมศิลปากรเข้ามาบูรณะแล้วท่านก็เป็นผู้เฝ้า ผู้ดูแลต่อ แต่พอผู้คนแห่แหนเข้าไปวัดมากเข้าๆ ด้วยเหตุผลอื่น กลับกลายเป็นพระท่านจะต้องมาถูกวิจารณ์ถูกพิจารณาโทษจากสังคมว่าจะถูกหรือผิดกระนั้นหรือ

 

พวกนักข่าวมันก็เขียนและทำข่าวตามที่คนจ้างเงินให้มันนั่นแหละ
เพราะภายในวัด ก็มีหลายฝ่ายที่หวังผลประโยชน์ แม้แต่ข่าวเรื่องบั้งไฟพญานาคเหอะแล้วเป็นไง
ก็ยังมีขึ้นอยู่เหมือนเดิม ไอ้พวกนักข่าวไม่มีจรรยาบรรณ มองเพียงมุมเดียว

 

สื่อ คือสิ่งที่ใช้ในการสื่อสารตามความต้องการของผู้ส่งสาร
เป็นสิ่งที่จะต้องถูกใช้ถ่ายทอดข่าวสาร และเจตนาอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ถูกส่งผ่านมาตามสื่อนั้น จะต้องแฝงด้วยเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่งของผู้ส่งอยู่แล้ว

ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่า มนุษย์คนที่ต้องการจะส่งสื่อนั้น มีเจตนาอย่างไร
ยุติธรรมเป็นกลางแค่ไหน
มีความซื่อตรงในการนำเสนอความจริง ทั้งต่อตนเอง และผู้อื่นหรือไม่
ถ้าคนที่ซื่อตรง ไม่คดโกง จิตใจบริสุทธิ์เยี่ยงนั้น เดินอยู่เกลื่อนกลาดทั่วไปในท้องถนน
สื่อที่พวกเราเลือกจะรับฟัง ก็คงจะเชื่อได้ 100 เปอร์เซนต์
แต่ปัจจุบัน มีคนอย่างนั้น มากเท่าไรล่ะ ในโลกใบนี้?

แล้วหากเรายังเลือกที่จะเชื่อตามที่สื่อประกาศออกมา โดยไม่ได้พิจารณาแล้ว
จะถือว่าเป็นผู้มีปัญญาได้อีกรึ?

 

เรื่องคนทรงจะว่าเป็นคนละกลุ่มกันได้ยังไงเมื่อทีวีก็ถ่ายติดพระนั่งอยู่ข้างๆด้วยเเสดงว่าทีมเดียวกัน
ส่วนเรื่องไปสัมภาษณ์คนในงาน รายการเรื่องจริงผ่านจอเค้าอยากได้ข้อมูลอยู่เเล้วเเต่ไม่มีใครตอบไม่มีใครให้ความรวมมือ ถามใครก็ไม่ยอมบอก.
รายการเค้าว่างั้น เเล้วคนไปงานจริงๆว่าไงอีกละทีนี้.


จากคนอยู่ไกลที่อยากรู้.

 

เสนอข่าวด้านโจมตีพระมากกว่า ไม่มีความเป็นกลางครับ

 

ถ้าเอาตามความรู้สึกจริง ๆ ที่ได้ดูเมื่อคืนนี้ ......

มันไม่ใช่กิจของสงฆ์ครับ ยิ่งเห็นมีกุมารทองด้วย ..... เฮ้อ !!!!

แต่ยายชีนั่นก็ไม่เบาหรอกครับ

 

การบวชมี2แบบ
บวชกาย กับ บวชจิต
ผู้ที่เข้าบวชในศาสนามีจุดประสงค์หลากหลาย
อกหัก
หลักลอย
คอยงาน
สังขารโทรม
บวชตามประเพณี
บวชเรียนทางโลกทางธรรม
บวชเพื่อลาภสักการะให้คนกราบไหว้
บวชเพื่อหาความหลุดพ้น
บวชแล้วก็ต้องมีกฏระเบียบมีศิลมีข้อบังคับ
ถ้าอยากหาความดัง อยากช่วยสังคม อยากมีฤทธิ์ มีลูกศิษย์ ควรออกมาเป็นฆารวาส หรือเข้าป่าบำเพ็ญแบบองค์ฤาษีต่างๆดีกว่า

 

ทำอะไรได้อย่างนั้นครับ ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย ไม่รู้ว่าสิ่งใดจริงเท็จปล่อยไปตามวาระกรรมดีกว่า

 

บอกตามตรงว่า ผิด 100% เลยครับ
สิ่งที่พระทำ ไม่ใช้ กิจของสงฆ์ ที่ควรจะทำ
อีกอย่าง พระสงฆ์ เป็นสาวกขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ควรจะ บูชา แต่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ไม่ใช้ บูชา กุมารทอง
ที่ยังขึ้นชื่อ ว่าผี อยู่ดี

 

ผมมองดูแล้วคิดว่า คนทรง ที่เห็นในรายการเรื่องจริงผ่านจอเมื่อคืนนี้ แกล้งทำนะครับ ไม่ได้ทรงจริง อ่ะครับ มีเหรอครับ พูดตัวเลข จำนวนปี แล้วเหมือนหยุดคิด แต่หยุดคิดนานไปสักนิด และดูเหมือนจะพูดหลักพันมาก่อน หลักแสน ด้วย ดูแล้วก็ งง

 

ความเป็นพระ<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O> </O>

<O>ความเป็นพระ คือจิตพราก จากกิเลส<O> </O>
รู้สังเกต ไม่ประมาท ฉลาดเฉลียว<O> </O>
สำรวมระวัง รักษาใจ ไปท่าเดียว <O></O>
เพื่อหลีกเลี้ยว ภัยทั้งสาม ไม่ตามตอม<O> </O><O></O>
จากเรื่องกิน เรื่องกาม และเรื่องเกียรติ<O> </O>
เห็นเสนียด ในร้อนเย็น ทั้งเหม็นหอม<O> </O>
ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่ออมชอม<O> </O>
กิเลสล้อม ลวงเท่าไร ไม่หลงลม<O> </O><O></O>
จิตสะอาด ใจสว่าง มโนสงบ<O> </O>
ทั้งครันครบ กายวจี ที่เหมาะสม<O> </O>
ความเป็นพระ จึงชนะ เหนืออารมณ์<O> </O>
โลกนิยม กระหยิ่มใจ จึงไหว้แลฯ​

</O>

 

อย่างไรก็ดี ควรพิจารณาอย่างผู้มีธรรม

สิ่งใดผิดก็เห็นว่าผิด

สิ่งใดถูก็เห็นว่าถูก

ไม่ขอกล่าวไปให้มาก

ขอลา

 

ได้ไปเวียนเทียนรอบพระเจดีย์เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา มีคนประมาณ 30 คน ก่อนเวียนเทียนหลวงพ่อสนทนาธรรมกับผู้ที่มาเวียนเทียนวันนั้น ท่านสวดพระธรรมจักรกัปปวัตนสูตร และบทสวดมนต์อื่นๆ อีกหลายบท และสนทนาเรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้ากับฆารวาสที่ไปเวียนเทียน พร้อมสอนการนั่นสมาธิ กำหนดลมหายใจ หลังจากนั้นท่านจึงนำเวียนเทียน

ไม่เห็นท่านกล่าวหรือสอนอะไรนอกศาสนาหรือนอกเรื่องเลย เป็นธรรมะล้วนๆ
ในวันนั้นมีคนเฒ่าคนแก่ก็ถามท่านเรื่องธรรมะหลายคน และท่านไม่เคยบอกเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างอะไรทั้งสิ้น

ก่อนจะเชื่ออะไรจากการนำเสนอข่าว ลองไปพบ/เห็น/สนทนา กับท่าน แล้วพิจารณาจากวิจารณญาณของคุณ ที่ได้พบตัวตนของท่านดูก่อน แล้วค่อยตัดสินว่าจริงหรือไม่ เหมือนคุณ narinwet บอก คุณอาจกำลังคิดล่วงเกิน "ผู้มีธรรม"

สุดท้ายต้องบอกว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แต่จากที่ได้ไปพบ/เห็น/สนทนา กับท่าน ไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวนำเสนอ

 

ความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าไม่เหมาะสม ไม่ควรทำ ถ้าหากพระสงฆ์ นำขบวนร่างทรงไปเต้นแร้งเต้นกา หากินภายในสถานที่สำคัญทางโบราณคดี ถึงจะทำที่วัดหรือที่ไหนก็แล้วแต่ เป็นการแหกตาประชาชน หลอกลวงคนที่งมงาย

 

กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับกรรมนั้นคืนสนอง ตามกฎแห่งกรรม ผู้ที่ไม่เคยรู้จักพระอาจารย์หรือไม่เคยไปวัดวรเชษฐ์ ในยามไม่มีงานบวงสรวงแบบที่เป็นข่าวลง ก็มีสิทธิ์คิดไปในทางลบได้ จึงไม่แปลกใจเลยที่มีการโต้แย้งในกระทู้นี้ .......เป็นธรรมดาของสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

อืมม

ไม่ได้ดูครับ

แต่ว่าผมก็เห็นด้วยกะหลายๆท่านน่ะ

เรื่องอะไรหลายๆเรื่องที่เราไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็น ไม่ได้สัมผัส บางทีออกความเห็นไป อย่างดีก็แค่เสมอตัวน่ะครับ

- -"

 

สำหรับผมเองแบ่งเป็น 2 ประเด็นครับ
ประเด็นที่1 เกี่ยวกับตัวพระอาจารย์ ผมเองเคยไปกราบและสนทนากับท่าน 2 ครั้ง ท่านก็เป็นพระที่น่านับถือองค์หนึ่งครับ และส่วนตัวผมเองทุกครั้งที่มีโอกาสผ่านไปอยุธยาก็จะแวะไหว้พระที่วัดนี้เสมอๆ
ประเด็นที่2 เกี่ยวกับการเข้าทรง อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรงครับ แต่ตัวพระอาจารย์จะเกี่ยวข้องหรือเปล่าอันนี้ผมไม่ทราบและไม่วิจารณ์ เพราะอาจจะเป็นบาปไปล่วงเกินพระสงฆ์ ดังนั้นถึงแม้ผมจะไปทำบุญที่วัดนี้บ่อยๆ แต่ก็ปฏิญาณกับตนเองไว้ว่าจะไม่ไปในช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลในวัดนี้ เพราะรับไม่ได้กลับการเข้าทรงครับ ประเด็นการเข้าทรงความเห็นส่วนตัวของผมถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอดีตบูรพกษัตริย์ผู้ทรงมีบุญคุญต่อชาติครับ