ติดตามสถานการณ์ "ซีเรีย" สงครามจะขยายขอบเขตหรือไม่???

555 ทำให้ผมนึกถึงชาวต่างชาติที่มาลองวิชาพระอาจารย์วัดถ้ำเลย

 

ถ้าจะรบกันจริงๆ ก็ให้ผมปลดประจำการก่อนเหอะ ตอนนี้เป็นนาวิกโยธินอยู่ มันคงมีผลกับประเทศไทยแน่ๆ

 

ทหารที่ตายในหน้าที่ถือเป็นเกียรติสูงสุด
โดยเฉพาะกำลังพลระดับไอ้เณร(ต้องตาย
เพราะอยู่แนวหน้า)ส่วนนายทหารระดับ ผบ.
ที่ตายในสนามรบจัดว่าซุ่มซ่าม บ้าบิ่น
มากกว่าความกล้าหาญ

 

โอบามาชี้ “ส่งมอบอาวุธเคมีซีเรียให้นานาชาติ” อาจเป็นทางออก แต่ยังไม่ทิ้งแผนถล่มดามัสกัส

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ต่อพิธีกร คริส วอลเลซ ณ ห้องสีน้ำเงินภายในทำเนียบขาว เมื่อวานนี้(9)

เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าข้อเสนอของรัสเซียที่ระบุให้ซีเรียส่งมอบคลังอาวุธเคมีให้อยู่ในความดูแลของผู้สังเกตการณ์นานาชาติ อาจเป็น “ทางออก” ที่ช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์และหลีกเลี่ยงแผนโจมตีของสหรัฐฯได้ ทว่าตนจะยังผลักดันให้สภาคองเกรสรับรองมาตรการถล่มดามัสกัสต่อไป เพราะเชื่อว่าคำขู่ใช้กำลังเท่านั้นที่จะทำให้ผู้นำซีเรียยอมประนีประนอมอย่างจริงจัง

โอบามา ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NBC วานนี้(9)ว่า “สิ่งที่ผมปรารถนามาโดยตลอดก็คือการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการทูต” แต่ถึงแม้ว่าประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด จะยอมตกลงส่งมอบคลังอาวุธเคมีแก่นานาชาติ ก็ยังไม่ช่วยสลาย “ความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกอยู่ในสังคมซีเรีย”

“แต่หากเราบรรลุเป้าหมายอันจำกัดนี้ได้โดยที่ไม่ต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ผมก็ยินดีที่จะให้เป็นเช่นนั้นมากกว่า” ผู้นำสหรัฐฯ เผย

โอบามา ยังกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ CNN ด้วยว่า “เป็นไปได้ที่เราจะพบทางออก” แม้แผนนี้อาจจะเป็นเพียงกลยุทธ์หลีกเลี่ยงการถูกโจมตีของ อัสซาด ก็ตาม

“เราจะได้ข้อสรุปกันในที่สุด... จอห์น เคร์รี (รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงภายในของผมทั้งหมดจะหารือกับรัสเซียและนานาประเทศ เพื่อดูว่าเราจะหามาตรการใดๆที่จริงจัง และบังคับใช้ได้จริงบ้าง”

ขณะเดียวกัน ส.ว.แฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ก็ได้ขอเลื่อนการพิจารณาร่างอนุญาตปฏิบัติการโจมตีซีเรียอย่างจำกัดออกไปก่อน จากเดิมที่มีกำหนดพิจารณาในวันพรุ่งนี้(11) เพื่อให้บรรดา ส.ว. มีเวลาพิจารณาแผนการที่รัสเซียเสนอมา

อย่างไรก็ตาม คาดว่าวุฒิสภาจะโหวตร่างมติดังกล่าวได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาอย่างน้อย 60 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียง และแม้ว่าพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโอบามาจะครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนตามที่ต้องการหรือไม่ เนื่องจากแผนดังกล่าวถูกต่อต้านทั้งในและนอกพรรค

โอบามา เน้นย้ำตลอดมาว่า อัสซาด ซึ่งพยายามปกป้องฐานอำนาจของตระกูลที่ปกครองซีเรียมานานถึง 4 ทศวรรษ จะต้องถูกลงโทษที่นำแก๊สพิษทำลายระบบประสาทออกมาใช้ในเขตอิทธิพลของฝ่ายกบฏ จนทำให้พลเรือนเสียชีวิตไปกว่า 1,400 ศพ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม

จุดพลิกผันของสถานการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้สื่อข่าวในกรุงลอนดอนคนหนึ่งได้สอบถามรัฐมนตรี เคร์รี ว่า มีสิ่งใดหรือไม่ที่รัฐบาลอัสซาดจะสามารถเสนอหรือทำเพื่อให้สหรัฐฯ ไม่โจมตีซีเรีย ซึ่ง เคร์รี ก็ตอบว่า “มีแน่นอน ถ้าเขายอมส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้นานาชาติภายในสัปดาห์หน้า ส่งมาให้หมดทุกชิ้นโดยไม่ชักช้า และให้นานาชาติเข้าไปตรวจสอบด้วย แต่เขาคงไม่ทำอย่างนั้นแน่”

หลังจากนั้นไม่ถึง 5 ชั่วโมง เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียก็ได้เสนอแผนที่คล้ายคลึงกับคำพูดของ เคร์รี ต่อคณะผู้แทนซีเรียที่เดินทางเยือนกรุงมอสโก ซึ่ง วาลิด มูอาเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ก็ได้แสดงท่าทีชื่นชมแผนการที่รัสเซียเสนอมา แต่ยังไม่เอ่ยอย่างชัดเจนว่า ดามัสกัสพร้อมจะปฏิบัติตามจริงๆหรือไม่

ลาฟรอฟ ยังเรียกร้องให้ซีเรียทำลายคลังอาวุธเคมีทั้งหมด เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ขององค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW)


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 กันยายน 2556

 

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังไม่เห็นข้อดีของการถล่มซีเรีย
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556 เวลา 07:30 น.

ในขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กำลังเดินสายออกรายการโทรทัศน์ เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนหันมาสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีทางทหารของวอชิงตัน ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังคงไม่เห็นประโยชน์จากการใช้กำลังทางทหารต่อดามัสกัส


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ว่าผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในสหรัฐ โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นร่วมกับสำนักวิจัยโออาร์ซี รวบรวมความคิดเห็นโดยใช้วิธีสอบถามทางโทรศัพท์กับกลุ่มตัวอย่าง 1,022 คน ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย. ปรากฏว่า 80% เชื่อว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน แต่ไม่ต้องการให้สภาคองเกรสผ่านร่างหลักการใช้กำลังทางทหารเพื่อ "ลงโทษ" ฝ่ายดามัสกัส เนื่องจาก 70% มองว่า ทำไปก็ไม่ได้ประโยชน์ สหรัฐไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายกิจการภายในของซีเรีย

นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างตั้งข้อสงสัยด้วยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ จะสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เป็นเหมือนในอิรักและลิเบียได้จริงหรือ ดังนั้น หากสภาคองเกรสอนุมัติร่างมติเรื่องการโจมตีทางทหาร 55% ตอบว่าจะคัดค้าน และอาจมีการชุมนุมประท้วงตามมา

โพลที่ออกมาแสดงให้เห็นด้วยว่า โอบามาเป็นผู้นำสหรัฐที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในเรื่องการใช้กำลังทหารน้อยที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว โพลของซีเอ็นเอ็น ร่วมกับสำนักวิจัยแกลลัปและหนังสือพิมพ์ ยูเอสเอ ทูเดย์ ระบุ ชาวอเมริกัน 56% เห็นด้วยที่สหรัฐจะกำหนด "เขตห้ามบิน" ในลิเบีย ซึ่งเป็นช่วงการบริหารประเทศสมัยแรกของโอบามา

ขณะที่โพลของซีเอ็นเอ็นและแกลลัป สำรวจความคิดเห็นประชาชน 1 เดือนหลังเหตุการณ์ 9/11 พบว่า 86% ต้องการให้รัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ใช้กำลังทหารจัดการกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ และ 64% เห็นด้วยต่อการที่บุชจะส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าไปยังอิรัก เมื่อปี 2546

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2542 ซึ่งตรงกับสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน 43% เห็นด้วยที่สหรัฐจะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) แล้วเปิดฉากโจมตีทางอากาศในโคโซโว

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังไม่เห็นข้อดีของการถล่มซีเรีย | เดลินิวส์

 

สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 10 ก.ย. 9.30 น.)
สหภาพยุโรปเสียงแข็งเรียกร้องให้รัฐบาลโอบามารอผลการพิสูจน์การใช้อาวุธเคมีจากสหประชาชาติ แม้จะกล่าวทำนองว่ารัฐบาลอัสซาดน่าจะเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี ในขณะที่รัฐบาลโอบามายังพยายามหว่านล้อมให้คนทั้งโลกเห็นความร้ายแรงของเหตุการใช้อาวุธเคมี

คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท 10 ก.ย. 9.30 น.)
นักวิเคราะห์บางคนเห็นว่ารัฐบาลโอบามาจะเสียหน้าอย่างยิ่งหากแพ้โหวตในสภา บั่นทอนภาพลักษณ์ประธานาธิบดี ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาหลายคนจะยกมือสนับสนุนการโจมตีซีเรียในที่สุด

คุณ Radhika Miller นักเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามของ ANSWER Coalition กล่าวว่า ลูกระเบิดที่อเมริกาทั้งในที่ต่างๆ ทั่วโลกจะระเบิดที่ประเทศของเรา ในขณะที่ชาวอเมริกันจำนวนมากยังตกงาน หลายคนได้รับความยากลำบากจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลกลับใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปกับการโจมตีทางทหารในดินแดนที่ห่างไกล “พวกเราต่อต้านสงครามไม่ใช่เพราะเป็น isolationists แต่เพราะลูกระเบิดที่ทิ้งลงในซีเรียจะสังหารประชาชน เราไม่อนุญาตให้รัฐบาลฆ่าประชาชนในนามของเรา”
คุณ Medea Benjamin ผู้ร่วมก่อต้านองค์กรต่อต้านสงคราม Code Pink กล่าวว่าสัปดาห์นี้ชาวอเมริกันจะได้พิสูจน์ว่ารัฐสภาฟังเสียงของประชาชนหรือเดินหน้าให้ทำสงครามอีกครั้ง “สงครามนี้ไม่ช่วยประชาชนซีเรีย ไม่ช่วยคนอเมริกัน และจะไม่ส่งเสริมนิติธรรมระหว่างประเทศ” และการโจมตีซีเรียเป็นเรื่องผิดกฎหมายถ้าสหประชาชาติไม่ให้การรับรอง
ผลสำรวจล่าสุดของ CNN/ORC International poll พบว่าชาวอเมริกันกว่าร้อยละ 70 ไม่ต้องการให้รัฐสภาอนุมัติโจมตีซีเรีย การโจมตีไม่ก่อประโยชน์ต่อประเทศ และสหรัฐฯ ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองซีเรีย
ชาวอเมริกันกว่าร้อยละ 70 แสดงความเห็นว่าการโจมตีไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น ยกตัวอย่างกรณีการรุกรานอิรัก เหตุการณ์อาหรับสปริงในลิเบีย อียิปต์ ที่ไม่เห็นว่าอเมริกาจะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้
Keating Holland CNN Polling Director กล่าวว่าต่อให้รัฐสภาสนับสนุนประธานาธิบดีก็ไม่ช่วยให้ประชาชนจะลดแรงต่อต้าน “การอนุมัติจากคองเกรสมีส่วนช่วยโอบามาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คนส่วนใหญ่ยังต่อต้านการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายในซีเรีย” “ถ้าคองเกสอนุมัติให้ใช้ปฏิบัติการทางทหาร ชาวอเมริกันร้อยละ 55 จะต่อต้านการโจมตีดังกล่าว”

Sergei Lavrov รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ เห็นว่าหากสหรัฐฯ โจมตีซีเรียจะทำให้ผู้ก่อการร้ายเพิ่มจำนวนมากขึ้น การแก้ปัญหาจะต้องเน้น “การเคารพกฎหมายระหว่างประเทศและข้อตกลงต่างๆ ต้องนำรายงานเรื่องการใช้อาวุธเคมีทุกชิ้นมาพิสูจน์ค้นหาความจริง” และอ้างถึงเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ “Carla del Ponte ที่เคยพูดว่าฝ่ายต่อต้านเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี”

รัฐบาลรัสเซียเสนอให้หน่วยงานระหว่างประเทศเข้าควบคุมอาวุธเคมีของซีเรียแลกกับที่สหรัฐฯ จะไม่โจมตีซีเรีย ประธานาธิบดีบารัก โอบามาเห็นว่าแนวทางดังกล่าว “น่าจะช่วยผ่านทางตันได้” ด้านวุฒิสภาเลื่อนการลงมติญัตติโจมตีซีเรียในวันพุธออกไป เพื่อพิจารณาข้อเสนอจากรัสเซีย
Sergei Lavrov รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศกล่าวเสริมว่า รัสเซีย “ได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวแก่ นาย Walid al-Moualem (รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศซีเรีย) แล้ว หวังว่าจะได้รับคำตอบในทางบวกโดยเร็ว”
ส่วนนาย Walid al-Moualem กล่าวตอบรับทันทีว่า “ยินดีรับพิจารณาข้อเสนอของรัสเซีย บนพื้นฐานความห่วงใยชีวิตของประชาชนของรัฐบาลซีเรียและความมั่นคงของประเทศ”

วิเคราะห์: (อัพเดท 10 ก.ย. 9.30 น.)
วิเคราะห์ประเด็นทางการเมือง:
1. คาดการณ์คองเกรสจะอนุมัติหรือไม่
สองสามวันก่อนหน้านี้การคาดการณ์คำถามว่าที่คองเกรสจะอนุมัติหรือไม่ ยังมีการตีความในสองทิศทาง
ฝ่ายแรกเห็นว่า ด้วยแรงต้านจากอียู จากผลโพลล์ที่ชี้ว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่อยากให้โจมตี น่าจะเป็นแรงกดดันให้รัฐสภาไม่ผ่านร่างญัตติ
อีกฝ่ายเห็นว่า รัฐบาลโอบามายังสู้ไม่ถอย พยายามล็อบบี้สมาชิกรัฐสภา อ้างเหตุผลหลายข้อที่มีจุดประสงค์ขอการสนับสนุนจากประชาชน นายเคอร์รีเดินสายของการสนับสนุนจากชาติพันธมิตร
แต่สถานการณ์ล่าสุดอาจเป็นจุดพลิกผัน เมื่อประธานาธิบดีโอบามาเห็นดีเห็นงามกับข้อเสนอของรัสเซียที่เสนอให้หน่วยงานระหว่างประเทศเข้าควบคุมอาวุธเคมีของซีเรีย คองเกรสถึงกับเลื่อนการลงมติออกไป (แบบยังไม่มีกำหนดการใหม่) เพื่อพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว

2.ทางเลือกของคองเกรส
ดังที่วิเคราะห์ครั้งก่อนว่า คองเกรสมีทางเลือกหลักคือลงมติอนุมัติกับไม่อนุมัติ การที่จะไม่อนุมัติก็มีเหตุผลต่างๆ นานาที่สามารถอ้างได้ ข้อเสนอของรัสเซียกลายเป็นเหตุผลข้ออ้างล่าสุดเพื่อให้คองเกรสไม่ต้องอนุมัติโจมตีซีเรีย ข้อสรุปที่ยังอยู่ระหว่างการหารืออาจออกมาว่าขอโอกาสหน่วยงานระหว่างประเทศไดทำงานก่อน หากผลการทำงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ไม่น่าจะควบคุมอาวุธเคมีซีเรียได้จริง ค่อยมาพิจารณาญัตติโจมตีซีเรียใหม่อีกรอบ
หากรัฐบาลอเมริกายังต้องการโจมตี น่าจะปัดข้อเสนอรัสเซียตั้งแต่ต้น อ้างว่าเป็นวิธีการที่ไม่ได้ผล เพราะรัฐบาลอัสซาดอาจปกปิดไม่เปิดเผยอาวุธเคมีทั้งหมด หรืออาจผลิตขึ้นมาใหม่ในอนาคต ฯลฯ

เห็นได้ว่าทั้งประธานาธิบดีโอบามา สมาชิกสภาคองเกรสจำนวนหนึ่งพยายามเลี่ยงการโจมตีซีเรีย ดังที่เคยวิเคราะห์ว่าการพิจารณาของคองเกรสน่าจะเป็นสัญญาณสุดท้ายแล้ว หากคองเกรสพิจารณาให้โอกาสหน่วยงานระหว่างประเทศ เท่ากับว่าความคิดโจมตีซีเรียรอบนี้ยุติแล้ว

โดย
ชาญชัย คุ้มปัญญา
10 กันยายน 2013

 

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 03:26 น. ข่าวสดออนไลน์


ความขัดแย้งในซีเรีย ผลกระทบตลาดน้ำมัน

เศรษฐกิจติดดิน
ธนาคารไทยพาณิชย์


สถานการณ์ในซีเรียส่งผลกระทบต่อความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ ราคาน้ำมันดิบปรับระดับสูงขึ้นกว่า 15% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเหตุการณ์ในซีเรียเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น เกิดเป็นประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศที่หลายฝ่ายต้องการให้จัดการกับรัฐบาลซีเรียขั้นเด็ดขาด

ซีเรียไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจึงไม่ได้เกิดจากปัจจัย พื้นฐาน แต่เป็นด้านจิตวิทยา โดยปกติซีเรียมีการผลิตน้ำมันดิบคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.4% ของ การผลิตทั่วโลก ใกล้เคียงกับไทย

หากซีเรียถูกโจมตีโดยสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ เบรนต์อาจพุ่งสูงถึง 125 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และถ้าสงครามขยายออกไปกระทบผู้ผลิต และ ผู้ส่งออกน้ำมันในภูมิภาคโดยเฉพาะอิรักซึ่งเป็น ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ 1 ใน 10 ของโลกและมีพรมแดนติดกับซีเรีย จนเกิดวิกฤตปริมาณน้ำมันขาดแคลน เป็นไปได้ว่าราคาน้ำมันเบรนต์ อาจทะยานขึ้นไปถึง 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันน่าจะเพิ่มสูงขึ้นแค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะกลุ่มประเทศ OECD คงต้องมีแผนปล่อยสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์เพื่อผ่อนคลายความตึงตัวของอุปทานน้ำมันโลก

สำหรับราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นกรณีเกิดการโจมตีในซีเรียจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมัน เชื้อเพลิงในภาคขนส่งในไทยอาจปรับเพิ่มขึ้น 3-4 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้า โดยประเมินอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปี 2013 จะปรับขึ้น 0.2-0.5% ไปอยู่ที่ระดับ 2.5-2.8% ในกรณีเกิดสงครามในซีเรียจนทำให้ราคาน้ำมันดิบทะยานไปถึง 125-150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศและนโยบายการเงินที่ไม่อาจลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัว โดยในปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวเพียง 3% ชะลอลงจาก 6.5% ในปีก่อนหน้า หากราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นอีกจะยิ่งทำให้การบริโภคและการใช้จ่ายภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่อง

นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวด เร็วจะทำให้การลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปได้ยากปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

 

ส.ว.สหรัฐเลื่อนลงมติเรื่องซีเรีย
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556 เวลา 08:53 น.

วุฒิสภาสหรัฐมีมติเลื่อนการลงมติร่างหลักการใช้กำลังทางทหารต่อรัฐบาลซีเรียออกไปก่อน จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ จะเสร็จสิ้นการชี้แจง "เหตุผล" ต่อสาธารณชน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่านายแฮร์รี ไรด์ ประธานฝ่ายเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต แถลงว่า การพิจารณาแทรกแซงทางทหารในซีเรียถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แม้ฝ่ายรัฐบาลจะยืนกรานว่า เป็นปฏิบัติการในวงจำกัดก็ตาม

ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบ ขอให้มีการเลื่อนอภิปรายและลงมติออกไปก่อน จากเดิมที่กำหนดเอาไว้ในวันพุธที่ 12 ก.ย. นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐและทีมงาน ได้มีโอกาสชี้แจงอธิบาย "ความจำเป็น" ให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจอย่างละเอียด

ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐประกอบด้วยสมาชิกทั้งสิ้น 100 คน การจะผ่านหรือไม่ผ่านร่างหลักการใด จำเป็นต้องได้รับเสียงข้างมากในการลงมติไม่ต่ำกว่า 60 เสียง

ถ้อยแถลงของไรด์มีขึ้นไม่นาน หลังนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงเรียกร้องให้ซีเรียยอมมอบอาวุธเคมีให้อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรสากล เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีทางทหารของสหรัฐ แม้โอบามาจะออกมาแสดงความชื่นชมต่อท่าทีล่าสุดของมอสโก แต่กลับกล่าวด้วยว่า ยังเชื่อไม่ได้เต็มร้อย

ส.ว.สหรัฐเลื่อนลงมติเรื่องซีเรีย | เดลินิวส์

 

"โอบามา" ยอมรับอาจพ่ายโหวตสภาคองเกรสเรื่องบุกซีเรีย
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556 เวลา 10:28 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ยอมรับว่า รัฐบาลอาจเป็น "ฝ่ายแพ้" ในการลงมติของสภาคองเกรสเพื่อพิจารณาร่างหลักการใช้กำลังทหารต่อซีเรีย แต่ยังปฏิเสธจะเผยถึงแผนการณ์ในอนาคต


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่าสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เป็นสื่ออเมริกัน 1 ใน 6 แห่ง ที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย ซึ่งผู้นำสหรัฐกล่าวในตอนหนึ่งว่า คำขู่เรื่องการเปิดฉากโจมตีทางทหารของวอชิงตันน่าจะใช้รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เริ่มฉุกคิดและกลับไปตั้งหลักอีกครั้งว่า ควรจะก้าวต่อหรือถอยหลัง จนกระทั่งรัสเซียออกมาเรียกร้องให้อัสซาดยอมมอบอาวุธเคมีให้กับองค์กรสากล เขาถือว่าเป็นสัญญาณบอกเหตุที่ดีมาก แต่สถานการณ์ในภาพรวมยังคงวางใจไม่ได้เต็มร้อยอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงคำถามที่ว่า เขาจะเดินหน้าแผนการใช้กำลังทางทหารในวงจำกัดต่อหรือไม่ หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส โอบามากล่าวในเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ว่า "ยังไม่ได้ตัดสินใจ" แต่เผื่อใจเอาไว้แล้วว่า ร่างหลักการที่เสนอไปอาจไม่ผ่านการอนุมัติก็ได้ ผู้นำสหรัฐยืนยันด้วยว่า เขาไม่เคยออกมาแสดงความมั่นใจว่าจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาคองเกรส

"โอบามา" ยอมรับอาจพ่ายโหวตสภาคองเกรสเรื่องบุกซีเรีย | เดลินิวส์

 

ผู้นำซีเรียเตือนสหรัฐรับมือ "ทุกรูปแบบ" หากคิดจะเป็นฝ่ายบุก
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556 เวลา 11:19 น.

ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ยืนกรานปฏิเสธเรื่องการใช้อาวุธเคมีสังหาประชาชนของตัวเองเมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมกับเตือนให้สหรัฐรับมือ "ทุกรูปแบบ" หากยังไม่ล้มเลิกความคิดจะโจมตีประเทศของเขา


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย เปิดโอกาสให้ ชาร์ลีย์ โรส พิธีกรรายการข่าวชื่อดังของสหรัฐ เข้าไปสัมภาษณ์ถึงภายในทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงดามัสกัส ถือเป็นสื่ออเมริกันรายแรกในรอบ 2 ปี ที่ได้สัมภาษณ์ผู้นำซีเรียต่อจากสถานีโทรทัศน์เอบีซี

เทปบันทึกการสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งได้รับการออกอากาศในรายการ "ดิส มอร์นิง" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ก่อนที่แบบเต็มจะถูกนำเผยแพร่ผ่านทางช่องพีบีเอส ซึ่งผู้นำซีเรียกล่าวเตือนให้ทางการสหรัฐเตรียมรับมือทุกรูปแบบ ซึ่งอาจเป็นเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัดสินใจใช้กำลังทางทหารรุกรานซีเรีย พร้อมกับเตือนว่า รัฐบาลดามัสกัสจะไม่เป็น "หมาก" คอยเดินตามเกมของสหรัฐเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นการสื่อทางอ้อมถึงอิหร่านและกลุ่มนักรบหัวรุนแรงฮิซบอลเลาะห์

ต่อข้อซักถามเรื่องการใช้อาวุธเคมี อัสซาดยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนกว่า 1,400 ศพ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. แต่ปฏิเสธจะกล่าวชัดเจนว่า รัฐบาลดามัสกัสมีอาวุธเคมีอยู่ในครอบครองจริงหรือไม่

เมื่อผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ผู้นำซีเรียต้องการฝากอะไรถึงโอบามาและทางการสหรัฐ ซึ่งปักใจเชื่อแทบจะเต็มร้อยว่า ดามัสกัสเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี อัสซาดกล่าวในเชิงท้าทายให้วอชิงตันนำสิ่งที่คิดว่าเป็น "หลักฐาน" ออกมาแสดงต่อสาธารณชนอย่างโปร่งใส เนื่องจากท่าทีของสหรัฐที่ผ่านมาทำให้เขาพอจะอนุมานได้ว่า แท้จริงแล้วโอบามาและทีมงานไม่มีหลักฐานแบบเป็นรูปธรรมที่จะมาเอาผิดเขาได้


ผู้นำซีเรียเตือนสหรัฐรับมือ "ทุกรูปแบบ" หากคิดจะเป็นฝ่ายบุก | เดลินิวส์

 

สหรัฐฯผ่อนท่าทีถล่มซีเรีย น้ำมันโลกเริ่มลด


ราคาน้ำมันในตลาดเอเชีย เริ่มปรับตัวลดลง หลังสหรัฐฯ ผ่อนปรนท่าทีจ้องถล่มซีเรีย โดยการรับข้อเสนอรัสเซีย ที่ให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีในครอบครองทั้งหมด...

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียเช้านี้ ขณะที่ความกังวลต่อแนวโน้มว่า สหรัฐฯ จะโจมตีซีเรียลดลงแล้ว หลังสหรัฐฯ เปิดทางยอมตามแผนของรัสเซีย ที่จะให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีในครอบครอง

โดยราคาน้ำมันดิบ WTI นิวยอร์ก สัญญาส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 90 เซนต์ มาที่บาร์เรลละ 108 ดอลลาร์ 62 เซนต์ ในการซื้อขายช่วงเช้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เดือน ต.ค. ลดลง 83 เซนต์ เป็น 112 ดอลลาร์ 89 เซนต์

ทั้งนี้ รัสเซียได้เรียกร้องให้ซีเรียยอมมอบอาวุธเคมี เพื่อที่สหรัฐฯ จะได้ไม่โจมตีตามข้อกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีกับประชาชน โดย ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ แต่ยังไม่ทิ้งทางเลือกในการใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรีย.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 10 Sep 2013

 

เมื่อวานมีคนบอกว่าเป็นวันที่มงคล 1000ปีมีครั้ง เป็นวันที่9 เดือน 9 ปี 9 (คือ 2+5+5+6=18 แล้ว 8+1 ได้ 9 ช่างคิดเนอะ)

 

วันที่ 9 เดือน 9 ที่ผ่านมาเลขดีมาก
ผมเลยตื่นนอนประมาณ 9 โมงเพื่อมารับวันใหม่ ... เกือบเริ่มจ๊อบงานแรกของวันไม่ทันแหน่ะ ...
... ฮ่า ฮ่า ...

^_^

 

ก่อนอื่นเห็น Avarta ของคุณเดินดงแล้ว

รู้สึกหิวขึ้นกลางดึกขึ้นมาทันที
ท่าทางน้ำพริกกะปิครกนี้คงเด็ดขาด...ซี๊ดซ๊าดสุดหัวใจ...

ขอบคุณมิตรรักแฟนเพลงทุกท่านที่ติดตาม นะครับ

น้า Mythi ได้โพสต์คลิปวีดีโอที่ 103 แล้ว
แจ้งว่าช่วงนี้ผู้คนบนพื้นโลกไม่ให้ความสำคัญของ
การเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ เพราะบอกไปหลายครั้ง
ก็ยังทำเฉยๆอยู่ (ลองเข้าไปดูคลิปจะมีคนนอนอยู่กับโต๊ะทำงาน)

ก็คงปล่อยให้ผู้คนลิ้มรสภัยพิบัติกันไปบ้าง
เผื่อว่าผู้คนลดน้อยลง โลกนี้คงจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ดังนั้นน้าแกก็จะเฉยๆเหมือนกับ Nirvana นี่แหละ

ยิ่งตอนนี้สารกัมมันตภาพรังสีรั่วออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ที่ฟูกูชิมะลงไปในมหาสมุทร พรรคพวกของน้าก็วางเฉยเหมือนกัน
อีกไม่นานก็คงรู้ว่าจะเดือดร้อนกันขนาดไหน

แล้วส่วนนึงที่ไม่โพสต์ก็เพราะเบื่อแก๊งค์ปาหิน
นี่ดีว่าไปปาที่กระทู้ปู่อินทร์ เลยโดนผู้มีจิตศรัทธา
ประชาทัณฑ์ซะ....อ่วมไปเหมือนกัน...................

เอาเป็นว่าข้อมูลก็เหมือนกับที่เคยโพสต์ไปแล้วนั่นแหละ ครับ
ทีนี้ขึ้นอยู่กับว่าท่านสมาชิกจะคิดอ่านอย่างไร
กับชีวิตในอนาคตอันใกล้นี้เท่านั้น

 

สงสัยข่าวจะมาจากแหล่งเดียวกัน....

 

จริงๆน้า Mythi ไม่ได้บอกว่าก๊อตซิลล่าจะมาถล่มญี่ปุ่น

Nirvana แค่บอกใบ้ว่าประเทศแรกที่จะโดนเป็นประเทศไหน
จะบอกไปตรงๆเด๋ยวงานเข้า หน่ะครับ

จริงๆชาวบ้านที่นั่นก็รู้ชะตากรรมดี
แต่ไม่รู้จะทำงัย ไม่รู้จะหนีไปไหน
ก็ต้องนอนรอโชคชะตาอยู่ที่นั่นแหละ

บ้านเรามีที่ทางจะขยับขยายได้มากมาย
แต่ผู้คนก็ยังทำทองไม่รู้ร้อนเหมือนที่น้า Mythi บอก
ดังนั้นชีวิตของท่าน รับผิดชอบกันเอาเอง ครับ

 

(ความเห็นส่วนตัว)
เรื่องนี้มีนัยยะซ่อนเล้นหลายอย่าง
ซึ่งสหรัฐได้เตรียมการต่างๆไว้เรียบร้อย ที่จะสร้างภาพให้คนทั้งโลกเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
ชั่งน่าสงสารประเทศซีเรียยิ่งนักที่ตกเป็นเหยื่อในความโลภของสหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีหลายประเทศที่ตกเป็นเหยื่อในผลประโยชน์ที่สหรัฐต้องการมาแล้ว

สงครามเกิดขึ้นแน่หากซีเรียไม่ยินยอมมอบทรัพยากรที่ประเทศซีเรียมีให้แก่สหรัฐ

 

ฮิวแมน ไรท์ส วอตช์ แฉหลักฐานรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมี
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556

กลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อดับ ฮิวแมน ไรท์ส วอตช์ เผยรายงานยืนยันหลักฐาน กองทัพรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบหลักฐานที่เก็บมาได้จากที่เกิดเหตุ และดูอาการของผู้เสียชีวิต


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากนิวยอร์ก ซิตี ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อดัง ฮิวแมน ไรท์ส วอตช์ หรือเอชอาร์ดับเบิลยู แถลงวันนี้ว่า กองทัพรัฐบาลซีเรียดูเหมือนต้องถูกประณามสำหรับเหตุการณ์โจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน โดยในรายงาน 22 หน้าที่ออกโดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนของสหรัฐ สรุปว่า หลักฐานที่มีอยู่ ชัดเจนว่า กองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด โจมตีด้วยอาวุธเคมีในครั้งนี้

กลุ่มฮิวแมน ไรท์ส วอตช์ เปิดเผยหลักฐานหลังจากมีการวิเคราะห์หลักฐานจากการโจมตีด้วยจรวดในเมืองกูมา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งข้อมูลที่เก็บได้จากแหล่งโจมตี, ชิ้นส่วนเศษซากต่าง ๆ จากอาวุธที่ใช้ และอาการของเหยื่อ ซึ่งหลักฐานชัดเจนว่า ทหารรัฐบาลซีเรีย ยิงจรวดติดหัวรบอาวุธเคมีโจมตีชานกรุงดามัสกัส นอกจากนี้ เอชอาร์ดับเบิลยู ยังระบุด้วยว่า จรวดและฐานยิง ที่ใช้ในการโจมตี ก็รับรู้กันว่า มีเพียงกองทัพรัฐบาลเท่านั้นที่ครอบครองและใช้มัน

รัฐบาลสหรัฐ แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,400 คน เป็นเด็ก 400 คน ถูกโจมตีด้วยก๊าซทำลายระบบประสาทซาริน ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกมาขู่ใช้ปฏิบัติการทางทหารลงโทษรัฐบาลซีเรีย

ฮิวแมน ไรท์ส วอตช์ แฉหลักฐานรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมี | เดลินิวส์