อยากทราบว่าต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นพระอรหันต์ได้คะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 8 กันยายน 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ดิฉันเชื่อว่าคำถามนี้มันค่อนข้างยากที่จะตอบเพราะการที่ใครสักคนจะตอบได้ก็ล้วนมาจากการอ่าน การได้ยินมาตามทฤษฏีทั้งสิ้น และน้อยคนนักที่กำลังมีชีวิตอยู่ในโลกขณะนี้ที่บรรลุอรหันต์แล้ว........ที่ถามไม่ได้เพราะอยากเป็นอรหันต์แต่ก็ได้ยินได้ฟังคนอื่นๆพูดกันมาว่า จะหนีทุกข์ ตัดกิเลส ได้อย่างถาวรณ์ ก็มีแต่ต้องเป็นพระอรหันต์ แล้วเท่านั้น

    จึงอยากทราบว่าการเป็นอรหันต์นั้น ต้องเกิดจากการฝึก ห้ามตัวเองทำนั้นทำนี้ เช่นห้ามรู้สึกว่าอาหาอร่อย ห้ามรุ้สึกว่า เพลงที่เพราะ กลิ่นนี้หอม สถานที่นีสวย ฯลฯ


    ซึ่งดิฉันสงสัยว่ามันจะทำได้อย่างไร อย่างบางเรื่อง เช่น การที่เราย้อนกลับไปยังสถานที่ หรือเจอเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์ นึกถึงคนรู้จักที่สูญเสียชีวิต การปฏิบัติธรรมสามารถระงับให้เราเศร้าน้อยลง...... แต่ก็ไม่สามารถทำให้ รู้สึกหายเศร้าไปร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังเช่น ถ้าเปรียบก็คือ ลบความทรงจำทิ้งไปทั้งหมด หรือ ลืมนั้นแหละ ถึงจะสามารถทำให้ความเศร้าหายไปได้อย่างบริบูรณ์


    ดังนั้นการจะทำให้เข้มแข็ง ได้ขนาดนั้นต้องมีทางเดียวคือ การบรรลุอรหันต์ดิฉันอยากทราบว่า ทำได้อย่างไรบ้าง เป็นไปได้หรือที่เราจะสามารถบรรลุอรหันต์ได้ภายในชาตินี้ เพราะเวลาที่ดิฉันไปขอคำนะนำจากผู้ใหญ่เช่นคุณแม่ ท่านก็บอกว่า มันเป็นไปไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าท่านยังต้องสะสมมาเป็นแสนๆล้านชาติ
     
  2. Deep Blue

    Deep Blue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +887
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้
    อย่างนี้ ตลอด ๗ ปี เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
    พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑
    ๗ ปี
    ยกไว้ ผู้ใดผู้หนึ่งพึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ตลอด ๖ ปี ... ๕ ปี ... ๔ ปี ... ๓ ปี ...
    ๒ ปี ... ๑ ปี เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ พระอรหัตผลใน
    ปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑ ๑ ปียกไว้ ผู้ใดผู้
    หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ตลอด ๗ เดือน เขาพึงหวังผล ๒ ประการ
    อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่
    เป็นพระอนาคามี ๑ ๗ เดือนยกไว้ ผู้ใดผู้หนึ่งเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้ อย่างนี้
    ตลอด ๖ เดือน ... ๕ เดือน ... ๔ เดือน ... ๓ เดือน ... ๒ เดือน ... ๑ เดือน ... กึ่ง
    เดือน เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ พระอรหัตผลในปัจจุบัน
    ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑ กึ่งเดือนยกไว้ ผู้ใดผู้หนึ่ง
    พึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ตลอด ๗ วัน เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใด
    อย่างหนึ่ง คือ พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็น
    พระอนาคามี ๑ ฯ

    ����ûԮ�������� �� - ����ص�ѹ��Ԯ�������� �
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    คุณแม่ตอบถูกต้องแล้วครับ การฝึกห้ามตัวเองทำนั้นทำนี้ เช่นห้ามรู้สึกว่าอาหารอร่อย เพลงเพราะ กลิ่นหอม ที่นี้สวย ฯลฯ ลองพิจารณาใหม่เช่นพิจารณาว่า อาหารอร่อย ฯลฯ นี้เป็นเพราะใจเราเข้าไปหลงหรือเพลินกับสิ่งนั้นๆ เอง ความจริงเรารู้หรือไม่เห็นสิ่งๆ นั้นก็มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ จิตต่างหากที่เข้าไปหลงยึดว่าอาหารอร่อย กลิ่นหอม รูปสวย เปลี่ยนจากการห้ามความคิดเป็นแยกเราออกมาเป็นผู้รู้ เป็นผู้ตามดูสิ่งๆ นั้น อร่อยรู้เฉย ไม่อร่อยรู้เฉย ฯลฯ สนุกกว่าเยอะครับ
     
  4. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    คนในนี้ไม่มีใครตอบได้ หรือทำได้หรอก ถ้าทำได้เขาคงไม่มานั่งเล่นเน็ต
     
  5. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เรื่องรูปสวย รสอร่อย เพลงเพราะ นั้น เป็นการเปรียบให้ฟังเฉยๆนะคะ แต่กรณีที่ดิฉันเผชิญอยู่ คือ ตัดเรื่องความ คุ้นเคยเคยชินไม่ได้ เช่นติดที่ ติดของ สภาวะแวดล้อมเก่าๆเดิมๆ คนรู้จักที่คุ้นเคยเก่าๆเดิมๆอย่างหมอน อย่าผ้าห่มก็ชอบของเก่าไม่เปลี่ยน ตอนนี้ดิฉันเกรงว่า ถ้าย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย และต้องไปเจอ สถาณะการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้ นึกถึงเพื่อนที่ตาย ก็กลัวจะคิดขึ้นมาอีก แม้ตอนนี้จะทำใจได้แล้วนะคะ
     
  6. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ขออนุญาติตอบนะครับ ผมอาจจะตอบถูกหรือไม่ถูก แต่จะตอบตามความรู้ที่ได้ศึกษาเรียนรู้มานะครับ : การฝึก การปฏิบัติ เราจะไปห้ามไม่ได้หรอกครับ คือไม่ใช่ห้ามดู ห้ามฟัง ห้ามคิด แต่ให้เราเผชิญหน้าแล้วต่อสู้ด้วยต่างหากละครับ แต่อยู่ที่ว่าจิตเรามีพลังแค่ไหนที่จะสู้กับกิเลส เราห้าม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราไม่ได้หรอกเพราะต้องสัมผัส ผัสสะสิ่งเหล่านี้อยู่ทุกวัน ผู้ปฏิบัติจึงต้องฝึกเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส โดยต้องฝึกตามขั้นตอน ทาน ศีล ภาวนา การที่เราภาวนาไม่ดี ก็ย้อนกลับไปดูว่าศีลเราบริสุทธิ์หรือยัง อริยมรรคมีองค์ 8 เราสมบูรณ์ไหม สัมมาวาจา พูดเพ้อเจ้อ ส่อเสียด หยาบคายอยู่ไหม สัมมาอาชีพ ขายเหล้าสุรา เล่นพนัน หวย ไหม รวมไปถึงข้ออื่นๆในรายละเอียดให้ครบ 8 ข้อ จากนั้นการภาวนา มีสมถะ และวิปัสสนากรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน ก็คือการฝึก มหาสติปัฏฐานสี่ ก็คือการรู้กาย เวทนา จิต ธรรม คือให้รู้ และพิจารณาให้แยบคายเพื่อให้เกิดปัญญา ถ้าเราห้ามคิด ห้ามตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ไม่เกิดปัญญา จิตก็ไม่ไถ่ถอนอวิชชาความหลง การเผชิญกับกิเลส ถ้าเราไม่เคยฝึก เช่น เมื่อเราเห็นรูปสวย คนสวย หล่อ จิตก็เกิดชอบไม่ชอบ ติดใจ เกิดตัณหา แต่ถ้าเราฝึก เราก็คิดพิจารณาว่า รูปไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ มารวมตัวกันชั่วคราว เช่นกันกับ เสียง กลิ่น รส อารมณ์ ความคิดที่เกิดขึ้น ก็ต้องเผชิญหน้า และพิจารณา ไม่ใช่เผชิญเพื่อให้เกิดความหลงและชอบ ไม่ชอบ... แล้วเราก็ต้องไปทำความรู้จักกับ นิวรณ์ 5 ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อจะได้ระงับทัน ไปศึกษาสังโยชน์ 10 ประการว่ามีอะไรบ้าง แล้วค่อยๆฝึกเพื่อตัดสังโยชน์ทีละตัว เราคงทำไม่ได้ทีเดียว 10 ตัว แต่ พระอริยบุคคล มีลำดับต้น ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป พระโสดาบัน จะไม่ลงอบายภูมิอีกแล้ว และจะเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติก็จะบรรลุนิพพาน ซึ่ง สังโยชน์ที่พระโสดาบันท่านละได้แล้ว 3 ตัวแรกคือ วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัยต่างๆ เช่น สงสัยว่า พระพุทธเจ้ามีจริงไหม พระธรรม พระอรหันต์มีจริงไหม นรก สวรรค์ กฏแห่งกรรม นิพพาน มีจริงไหม เราจะปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมได้ไหม , สีลัพพตปราปาส การถือศีลแบบลูบๆคลำๆ การคิดว่าแค่ถือศีล ไม่ภาวนาก็บรรลุธรรมได้ ให้ละ ต้องมีศีลบริสุทธิ์ทั้งกายวาจาใจ ตลอดชีวิต , และสักกายทิฐิ คือ ความยึดมั่นในร่างกาย ตัวตน มีทิฐิ มีตัวกูของกู เปรียบเทียบ เราเขา นี้ของเรา นั่นของเขา นี่พ่อแม่เรา นี่แขน ขาเรา นี่รถของเรา ทั้งที่จริงแล้ว ก็เป็นกระดูก กล้ามเนื้อ เป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ มาประชุมกันชั่วคราว นี่คือ สังโยชน์เบื้องต้น 3 ตัวแรก แล้วก็ฝึกต่อไป สังโยชน์ พยาบาท, กามราคะ ถ้าตัดสังโยชน์ 3 ข้อต้น และทำให้พยาบาทกับกามราคะเบาบางลงได้มาก ก็บรรลุธรรมเป็นพระสกิทาคามี มาเกิดอีกชาติเดียว, และถ้าตัดสังโยชน์ 5 ข้อต้นได้ขาด ก็บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี จะไม่มาเกิดแล้ว จะเป็นพรหมและพัฒนาจิตต่อจนบรรลุนิพพานในชั้นพรหม
    .
    เพิ่มเติมนะครับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเคยกล่าวว่า พระโสดาบัน ยังมีความโกรธ แต่จะไม่อาฆาตไม่คิดทำร้ายใคร คือโกรธเฉยๆแล้วจบไป ยังมีความโลภ แต่จะไม่คดโกงไม่ขโมย คืออยากได้ แต่หามาด้วยสัมมาอาชีพ เป็นต้นครับ ดังนั้นค่อยๆทำไปค่อยๆฝึกเหมือนนักกีฬา ถ้าเราไม่เคยฝึกอยู่ดีๆจะไปสู้กับกิเลสก็เหมือนมือสมัครเล่นไปสู้กับนักกีฬาระดับโลก ก็แพ้วันยังค่ำ ต้องฝึกไปเรื่อยๆตามขั้นตอน ออกกำลังกายได้ ก็ต้องออกกำลังจิตได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  7. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ก็คิดงั้นนะคะ บางทีก็คิดว่าการปฏิบัติเองโดยขาดไอดอล ครูบาอาจารณ์ไม่มี และก็ยังไม่เคยเห็นใครทำได้เป็นตัวอย่าง มันก็ทำให้ลังเล อยู่เหมือนกันว่าเราจะทำสำเร็จไหม เพราะขนาดคุณแม่ท่านยังบอกว่าไม่ได้เลย คนเป็น อรหันต์นั้นมีแต่พระนับตัวได้น้อยมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ดิฉันว่าถ้าไม่บวชพระนี้มันทำได้ยากมาก เพราะเราต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับคนธรรมดาในสังคมในแต่ละวันที่ไม่มีศีลธรรม อย่างเช่น การกดดันจากครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง และดิฉันตัวคนเดียวอีกอยู่ต่างประเทศ บางทีมันก็รู้สึกว่าคนรอบตัวเราไม่มีใครมีเมตตาหรือ เป็นคนดีเลยสักคน แต่ละคนพยามบีบเราเรื่องเงินหมด สงสารแต่พ่อแม่ที่ท่านต้องมาจ่ายเงินเยอะๆช่วยดิฉันกับหนี้ที่ดิฉันไม่ได้เป็นผู้สร้าง แต่เพราะคนอื่นที่ดิฉันไม่เข้าใจว่าจิตใจพวกเขาทำด้วยอะไร แต่ก็พยามคิดเสมอ ชาติก่อนเราคงไปทำอะไรคนอื่นไว้เยอะ แต่ตัวดิฉันนะไม่เคยเป็นห่วงหรอกคะ สงสารแต่พ่อกับแม่นะคะ......พ่อกับแม่ท่านอยากให้ดิฉันสู้ เพราะท่านลงเงินช่วยไปเยอะ แต่ดูจากภาพการแล้วดิฉันว่ามันมีแต่แพ้นะคะ เลยไม่รู้จะทำยังไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  9. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    การจะหายเศร้ากับบางเรื่องที่ทำร้ายจิตใจเรามาก เวลาก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราหายสนิทได้ อย่าเรื่องที่ทำให้เราทุกข์หรือเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่มากในตอนประถมกับตอนมัธยม มันไม่ได้มีความสำคัญกับเราเลยในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหนจะมีซักกีีคนที่เก็บมาคิดถึงตอนนี้ ถ้าเราสามารถที่จะฝึกจิตให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจชีวิต ก้าวข้ามอุปสรรคใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เราก็จะก้าวข้ามความทุกข์ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เหมือนกับผ่านเวลาอย่างรวดเร็ว คุณอาจจะเริ่มทำสมาธิก็ได้เพราะบางครั้งคุณก็สังเกตว่าเมื่อทำทำสมาธิเวลาก็เหมือนจะผ่านไปเร็วมาก หรือจะทำวิปัสสนาก็ได้เพราะเมื่อไหร่ที่คุณพบเวทนาที่ไม่ชอบใจ แล้วคุณเป็นแต่เพียงผู้ดู ไม่ปรุงแต่งคุณจะพบว่าเวทนาเหล่านั้นดับลงเร็วเป็นพิเศษ ถ้าคุณสามารถทำใจแบบนั้นได้ตลอดบางทีเรื่องราวบีบคั้นในชีวิตมันก็อาจจะสิ้นสุดลงเร็วเหมือนกัน
     
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ดิฉันไม่ได้อาฆาตใครทั้งสิ้นคะ แต่แค่คิดมากเล็กน้อย ที่พ่อกับแม่ต้องมาโดนคนอื่นเอาเปรียบเอาเงินท่านเป็นแสนๆแต่ละเดือน ทั้งที่ท่านก็เกษียรแล้ว และทำงานพิเศษ และที่ท่านทังสองต้องมาเสียเงินเยอะแยะมากมายอย่างนั้นมันเป็นเพราะความดวงซวย และอ่อนแอ ของดิฉัน ถ้าดิฉันสามารถเลวได้กว่านี้ คงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้
     
  11. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    ถ้าอยากบรรลุจริงๆละก้อ เข้าวัดศึกษาพระไตรปิฎก หรือข้อวัตรในการกำจัดกิเลส บวชชีโกนหัว ตัดทุกๆอย่าง ครอบครัวญาติมิตร บำเพ็ญบารมีธรรมอย่างเดียว นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้ายังห่วงนั้นห่วงนี้ ถือว่ายังไม่เริ่มจริงๆจังๆครับ ที่เข้าไปบวชก้อเพราะว่าต้องการ คุ้มกิเลส ค่อยๆชำระกิเลส ไปทีละน้อยละน้อย อีกอย่างเพษนักบวช คือเพษที่ประพรพรหมจรรย์ได้ดีที่สุด กว่าการครองเรืองหรือฆารวาส ตอนนี้คุณก้อว่าคุณปฎิบัติแล้ว แต่จริงๆไม่ครับ คุณยังมีที่นอนอุ่น หิวเมื่อไรก้อกินได้ ไม่เคยบังคับตัวเองจริงๆชะที นอนปูเสื่อมีหมอนใบหนึ่ง มีผ้าห่มกันหนาวนอน3ทุ่มตื่นตี4ลุกมาทำสวดมนต์ กินวันละมื้อ หรือ2มื้อก่อนเที่ยง ห้ามมีมือถือห้ามดูทีวี นั่งสมาธิหรืออยู่กับตัวเองให้มากที่สุด นั่งสมาธิ9ชั่วโมงต่อวัน คุณทำได้ไหม ตอนนี้คุณสุขสบายทุกอย่างเงินก้อมี อยากเป็นนะได้ใครก้ออยากเป็น แต่ทำจริงนะไม่มี หรือน้อย คนปฎิบัติจริง นะเข้าไม่มีเวลามาเข้าเวบเล่นเน็ตเล่นคอมเหรอครับ เข้าถือว่าเสียเวลา อันนี้ตอนผมบวชนะผมทำประมาณนี้ รับรองคุณเอ๋ยมันแน่ ขนาดผมเคยเป็นทหารฝึกอย่างโหดมาแล้วฝึกแต่กายและใจให้ทรหดแต่โดนเขาบังคับ แต่เป็นพระไม่ได้ฝึกแบบทหารจริงแต่เราต้องบังคับใจตัวเอง อันนี้แหละยากกว่าโดนเข้าบังคับอีก เพราะเราจะทำตามใจตัวเอง และการฝึกทั้งกายและใจนะยากกว่าฝึกทหารอีกนะครับ ผมถึงรู้คนสมัยก่อนเข้าถึงว่า ใครเคยเป็นทหารแล้วเป็นพระ ถือว่าคนนั้นสุขแล้วโดยสมบูรณ์ พอแค่นี้ก่อนนะครับ รอผู้รู้ท่านต่อไป ขอบคุณครับ
     
  12. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ข้าพเจ้าขอแนะนำให้ท่านเข้าศึกษา ปฏิบัติ คำสอนแท้ๆของพระพุทธเจ้า ( พุทธวจน) ถ้าท่านสงสัยไม่เข้าใจ ปรึกษา พุทธวจน : วัดนาป่าพง
     
  13. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ที่บอกไปทั้งหมดนั่นไม่เชื่อหรือ?
     
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    คงต้องเล่นนะคะเน็ตนี้ความจริงไม่อยากเล่นเลย อีกอย่างดิฉันไม่ได้อยู่ปะเทศไทยคะ ดิฉันเรียนภาษาดัชต์อยู่ ที่ต่างประเทศ ครอบครัวของดิฉันที่ต่างประเทศเสียชีวิตหมด ดิฉันยังโดนไล่ออกจากโรงเรียน ให้ศึกษาเองทางเวปไซต์ เพื่อไปสอบ ที่โดนไล่เพราะเข้าเรียนน้อยครั้ง เพราะมีปัญหาทางครอบครัว ที่โดนฆ่า ในประเทศนี้นอกจาก ร้านค้าที่พูดคุยกันสองสามคำเวลาซื้อของ ก็มีเพียงทนายความลูกครึ่งนิโกรปากร้ายที่ เขาอ้างเป็นมูลนิธิ ช่วยเหลือ เยาวชน แต่ ก็ทำงานไปแบบด่าเราไปเป็นภาระตลอดเพราะ เขาเป็นทนายด้วย แต่เขาได้เงินในกรณีดิฉันน้อยเพราะถือว่าช่วยเพื่อมนุษยธรรม นอกจาก ผู้หญิงท่านนี้แล้ว สงสารดิฉันมั้งเถอะคะ ก็ไม่ได้พูดกับใครเลย เป็นวันๆ, เคยมีเพื่อนผู้หญิงสองคน ก็คนที่แนะนำทนายให้ แต่มาแตกกันเพราะพวกเขาคิดไม่ซื่อกับเรา

    ขนาดแม่ดิฉันยังว่าดิฉันว่าไม่ค่อยมาออนไลน์ในคอม เป็นห่วง กลัวเดี๋ยวเราหายไปป่วย และเกือบตายแบบคราวก่อนหรือเปล่า ดิฉันก็ตอบว่า ไม่ค่อยมาออนไลน์เพราะปฏิบัติธรรม อีกอย่างไม่อยากเสวนากับแม่เพราะพูดเรื่องทนายแล้วทะเลาะกันทุกที และดิฉันคนกลาง อย่างเช่นเขาจะเอา พัน ยูโร ในหนึ่งเดือน ดิฉันมาบอกแม่ก็บอกว่า เยอะเกิน แบ่งสองเดือนแบบปกติเถอะ แต่ทนายเขาจะเอาไป วาเคชั่นปีใหม่


    คุณรู้ไหมวันปีใหม่ คือ วันที่ดิฉันช้ำใจมากที่สุด คนเขาจุดพุเลี้ยงกันทั้งซอย ปาตี้กันสนุกสนาน ดิฉันก็นั่งอยู่ในบ้านคนเดียว ปีที่แล้วยังดีมีแมว เป็นเพื่อน ปีนี้แมวโดนตำรวจริบไปหมดเลย เพราะญาติของเพื่อนที่ตายมีกุญแจบ้านดิฉันและไขให้ตำรวจเข้ามาเอาแมวของดิฉันไป แม้แต่ไอ้ตัวแก่อายุยี่สิบปี ซึ่งรักมากและเลี้ยงมานานก็โดนเอาไปด้วย

    คือ ดิฉันมาเล็งเห็นว่าคนส่วนใหญ่ พอเวลาจะเอาประโยชน์ ใช้คำว่าญาติมาอ้าง เพื่อหาประโยชน์จากเรา แต่ แค่อาหารสักมื้อ เราขอเขากินเขายังไม่ให้เลย

    จะมาบังคับไม่ให้เล่นเน็ตแล้วไปนั่งสมาธิตลอดวัน กับบ้านที่มีอดีตคนถูกฆ่า และไม่ได้พูดกับใคร คุณคิดว่า จะบรรลุหรือจะบ้า คะ เขียนไปหลายกระทู้แล้ว ว่า นั่งสมาธิมากๆ ผีก็รบกวนอีกและเหมือนยิ่งทำให้เราเชื่อมโยงและดึงเอา เหตุการณ์ในอดีขุดขึ้นมาอีก และขุดขึ้นมานานกว่านั้นถึงคนที่มาอยู่ที่นี้ซ้ำๆก็ตายในสภาพเดียวกันหมด ดิฉันมีเรื่องเล่าเยอะกว่านี้เอาเป็นว่าจะเล่าในกระทู้ผี แล้วกัน

    และตอนนี้เงินทองก็ใช้จ่ายเท่าเก่าไม่ได้ เพราะมีหนี้จากคนที่เป็นกุนซือให้เราเขาแนะนำให้ไปทำนั้นทำนี้ แต่มันผิดพลาด จนมีหนี้ขึ้นมา โดนคุมเรื่องการเงินอีก ซื้อได้แต่อาหาร ไม่ใช่หนี้ดิฉันก่อเองเลยสักบาทคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  15. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ยังปฏิบัติอยู่คะแต่สองสามวันมานี้ปฏิบัติไม่ค่อยได้เพราะป่วย ถ้าหายแล้วจะปฏิบัติต่อ
     
  16. torelax9

    torelax9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +527
    เข้มแข็งไว้นะ อย่างน้อยก็มีพวกเราชาวเว็บพลังจิตเป็นมิตรคุณเสมอ คุย offline อย่างงี้แหล่ะดีแล่ว ไม่ค่อยได้คุยกับคนข้างบ้านก็มีข้อดี จะได้มีเวลาฝึกสมาธิ วิปัสสนา บรรลุพระอรหันต์เร็วขึ้น
    หากกลับมาอยู่เมืองไทยก็ดีนะ สำนักปฏิบัติธรรมที่บรรยากาศคล้ายเมืองนอกก็มีแยอะแยะ เขาใหญ่ วังน้ำเขียว ภาคเหนือ กลับมาไวๆนะ จะได้อยู่ใกล้พ่อแม่
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    กำหนดสติไปเรื่อยๆ นะ การปฏิบัตินี้ ปฏิบัติได้ตลอดเวลา ทุกที่ ทุกเวลา

    ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ก็ปฏิบัติได้ตลอดเวลา ทำให้ต่อเนื่อง แล้วจะเห็นผลเอง
     
  18. Moderator6

    Moderator6 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +3,721
    เป็นกำลังใจให้คุณ Duchess ครับ

    ฟังเรื่องคุณ Duchess คนทั่วไปคงไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง แต่บางทีเรื่องเหล่านี้มันก็ยิ่งทำให้เราเข้าหาทางธรรม เห็นทุกข์ อีกเห็นคุณค่าของการปฏิบัติและการหลุดพ้นนะครับ ตรงนี้ผมมองว่าเป็นความโชคดีอย่างมหาศาลของคุณ Duchess
     
  19. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ขอเป็น ๑ ในกำลังใจให้คุณ Duchess ขอให้อาการป่วยหายไปพร้อมกับความทุกข์เศร้าที่มีอยู่โดยเร็วพลันอย่างน่าอัศจรรย์นะคะ..

    ไม่ว่าจะอย่างไร ขออย่าได้พะวงกับเรื่องตัวตน ทำยังไงจะได้เป็นอรหันต์ ??
    เพราะย่อมไม่ใช่หนทางแห่งการละสักกายทิฏฐิ หากคุณ Duchess ปฏิบัติและเข้าใจ และเห็นได้ด้วยตนเองดังนี้แล้ว ไม่ควรเรียกร้องผลลัพธ์ แต่จงสร้างเหตุอย่างถูกวิธี เพียงแค่ไม่คิดว่า สุข-ทุกข์ มาจากตนและผู้อื่นทำ เพียงคิดและประพฤติได้เช่นนั้นจริง ชีวิตจะพ้นจากความโกรธเกลียดพ้นจากการถูกกิเลสครอบงำ หรือพ้นทุกข์ไปเป็นมหาปฐพี และฉลาดที่จะสร้างผัสสะภายในจากเจตนาที่ดีมีความสุข แค่นี้ก็เอิบอิ่มฉ่ำเย็นเป็นสุขแล้ว..นะคะ ^^
     
  20. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ละลายอัตตาได้หรือไม่ ไม่ติด ว่า สิ่งนั้น ถูก ผิดได้หรือ ไม่ มองเห็นไตรลักษณ์

    แล้วพิจารณ์ ธรรมะ ที่ เกิดอยู่ ตรงหน้าได้หรือไม่ ไม่ติด สุข ได้หรือไม่

    ไม่ยึด ดี ไม่ถือ ดี ไม่ติด ดี ไม่อวด ดี ก็จะเห็น คำว่า ดี เอง

    เพราะฉะนั้น หนทาง อีกยาวไกล แต่จุดมุงหมายคือทางเดี่ยวกัน

    สาธุเจริญธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...