สงสัย เรื่องร่างทรง

คือมีอยู่วันนึงผมไปธุระกับพรรคพวก แล้วเขาขอแวะลงไปธุระที่ตำหนักร่างทรงเจ้าแม่ตะเคียนที่เพื่อนคนนั้นเขานับถืออยู่ ผมเลยลงไปด้วย ก้อเจอผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ เพื่อนผมเขาเรียกแม่(เป็นร่างทรงเจ้าแม่ตะเคียน) ผมก็เลยยกมือไว้ตามธรรมเนียม แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับจ้องมองหน้าผมแบบถมึงทึง สายตาเกรี้ยวกราดมาก แล้วพูดจาแบบยั่วโมโหมาก แต่ผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร ก็ยิ่งไม่พอใจหนักเข้าไปอีก เขาพูดคุยกันซักพักก็กลับผมก็ค่อนข้างงงๆ เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน (ตัวผมเองเพื่อนเคยชวนให้ไปที่ตำหนักอยู่บ่อยๆแต่ผมปฏิเสธไป เพราะชอบไปสายวัดป่าเพื่อปฏิบัติมากกว่า) รบกวนผู้รู้ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ (ที่บ้านนับถือครูมโนราห์มาหลายชั่วคน เป็นไปได้มั้ยที่ทำให้ไม่ถูกจริตกัน) ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นครับ

 

ก็ไม่ถูกกันนั่นแหละ

 

สำพะเวสีบางจำพวกอยู่มานานนอกจากนี้ยังมีจิตเป็นมิจฉาธิฐิ โดยมากจะเป็นพวกผู้หญิงอาศัยอยู่ตามต้นไม้ และพวกนี้นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่และชอบทำกร่างใส่มนุษย์ เช่นพวกนางตานี นางตะเคียน ฯลฯ

 

ประมาณว่าร้อน เพราะทนบารมีครูเทพเทวาอาจาร์ยที่ท่านคุ้มครองคุณอยู่ไม่ได้

 

ข้าพเจ้าเคยป่วยด้วยอาการแปลกๆ
วันหนึ่งมีโอกาสได้เจอบุคคลหนึ่งด้วยความบังเิอิญ ซึ่งสามารถรักษาอาการป่วยของข้าพเจ้าได้ บุคคลผู้นี้มีบุคลิกสะอาด สงบ และมีศีล มีเมตตา พูดจาไพเราะสุภาพ ไม่ได้แสดงอาการข่มขู่ อวดอ้างว่ามีอิทธิฤทธิ์ิ กร่างใส่ผู้ป่วยอย่างใดเลย วิธีการรักษาก็แสนง่าย ไม่เห็นต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย เมื่อรู้จักกันไปนานๆ ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านเรียนวิชาจากเทพ ข้าพเจ้าพิจารณาจากความสามารถและสิ่งที่เห็นก็คิดว่าคงเป็นไปได้


มาดูอีกราย คนนี้มีคนแนะนำให้ไปรักษา และข้าพเจ้าอยากพิสูจน์ว่า ถ้าเป็นหมอคนอื่นจะสามารถรักษาข้าพเจ้าหายได้ไหม การพบเจอผู้มีวิชาและมีคุณธรรมจะเป็นเรื่องง่ายหรือยาก

ข้าพเจ้าก็เลยลองไปเจอ บุคคลนี้อ้วดอ้างว่ามีหูทิพย์ตาทิพย์ แต่เขาก็สามารถทำนายอะไรหลายอย่างได้ตรงเกี่ยวกับบ้านของข้าพเจ้า (ซึ่งเป็นเรื่องในอดีตและตัวข้าพเจ้าไม่รู้เมื่อข้าพเจ้ากลับไปถามแม่ แม่ก็บอกว่าจริง)

เขาบอกว่าข้าพเจ้าโดนอะไรหลายอย่างมาก ต้องแก้หลายอย่าง และบอกว่าต้องใช้เวลานานหมอเหนื่อยมาก มีค่าใช้จ่ายนะ อย่างแรกต้องไปแก้อาถรรพ์ที่บ้าน อย่างที่สองต้องสะเดาะเคราะห์เสริมดวง แล้วค่อยทำการรักษาอาการป่วย

ข้าพเจ้าบอกว่าข้าพเจ้าอยากรักษาอาการป่วยอย่างเดียวได้ไหม เมื่อข้าพเจ้าถามกลับไปอย่างนี้ เขาโกรธมาก และว่าข้าพเจ้าเป็นคนเข้าใจยาก ว่าเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ให้ทำตามที่บอกอย่างเดียว ให้เชื่อหมออย่าอวดดี เจ้านี่ใจเเข็งเหมือนผู้ชาย ใจร้อน อวดดื้อถือดี และว่าข้าพเจ้าอีกมากมาย ข้าพเจ้าก็เออ เออ ค่ะ ค่ะ แต่เหมือนเขาจะรู้ จึงพูดว่าคนเราเจอหมอแล้วถ้าไม่มีบุญกุศลก็ไม่ได้รักษา ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับต้นทุนบุญกุศลของแต่ละคนนะ บังคับกันไม่ได้หรอก (สังเกตุว่าประโยคนี้พวกหมอร่างทรงพวกนี้จะชอบนำมาใช้ข่มขู่ลูกค้า)

แต่ข้าพเจ้ายอมเป็นคนบาป ไม่อยากยุ่งเกียวข้องแวะกับคนแบบนี้เลย

 

แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับจ้องมองหน้าผมแบบถมึงทึง สายตาเกรี้ยวกราดมาก แล้วพูดจาแบบยั่วโมโหมาก
-------

คุณว่า ประโยคนี้ ร่างทรงนั้นเป็นจริงหรือเปล่าล่ะ ทรงต่างๆ ที่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บำเพ็ญบารมี ประกอบด้วยพรหมวิหาร 4 จะทำกริยาอย่างนี้หรือ ทำเพื่ออะไร ให้คนรู้สึกกลัว จะได้เคารพหรือ

เราเคยเข้าไปลัทธินึงด้วยความอยากรู้ และไม่ทราบว่ารับธรรมะคืออะไร พอไม่เข้าไปอีก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ฝาก แช่งให้เราตกนรก ที่ไม่ยอมทิ้งงาน ทิ้งลูก เข้าไปฟังคำโอวาท (ตอนนั้นยอมรับว่า กลัวตกนรก แต่มาโพสต์ถามในพลังจิตล่ะ)
เลยยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่า สถานที่ที่เราไปนั้น เป็นของปลอม

ร่างทรงของจริงมี แต่หากพิจารณาโดยรวมๆ แล้ว ควรเชื่อด้วยเหตุผลว่า ที่เราเข้าไปนั้น ของจริงหรือปลอมก็จากกริยาคำพูดนั้นล่ะ
ตามตำหนักต่างๆ ถ้าเข้าไป ให้ระวังพวกของแถมกลับมาด้วยนะ ถ้าเขาถูกใจเราอาจจะตามมาอยู่ด้วยก็ได้นะ

 

ร่างทรงไทยที่เห็นๆกันอยู่ 90 % เป็นของปลอม คนแกล้งบ้าง ผีเร่ร่อน สัมภเวสีบ้าง อสุรกายบ้าง เปรตบางจำพวกบ้าง ที่มาเข้าคน ส่วนอีก 9 % เป็นพวกภูมิเทวดา ระดับล่างๆ ส่วนอีก 1 % เป็นเทพจริง ส่วน 0 % คือพรหม พรหมไม่จำเป็นต้องเข้าร่างใคร แต่สื่อพูดทางจิตไปคนก็รับรู้แล้ว แต่ก็ 0.01% ที่จะมาเกี่ยวกับมนุษย์ และก็ตามโอกาส ตามวาระด้วย เข้าใจยังครับ ผมเจอร่างทรงถ้าไม่มีกฎหมายทำร้ายร่างกาย ผมกล้าถีบหงายเลยแหละ

 

ร่างทรงที่เคยเจอจริงๆส่วนมากจะเจอของเทียมเป็นส่วนใหญ่ และในบางรายที่เห็นตามพิธีกรรมต่างๆเห็นแล้วยังมีแต่พวกอสุรกายบางทีเห็นเป็นเงาดำๆคลุมอยู่ บางรายประทับร่างพูดร่ายบ้าออกมาเหมือนคนพูดภาษาอังกฤษไม่ชัดตอนไปพิธีสัตนาคาไปดูเฉยเห็นแล้วฮาแตกมากเลย จะพูดก็กลัวสาวกรุมกระทืบเลยแอบพิมข้อความให้เพื่อนดูบอกว่าสงสัยป้านี้เมาควันธูปแน่ๆเพื่อนก็ว่าจริงแถมกลั้นหัวเราด้วย ตรงที่ดิฉันนั่งอยู่ธูปลอยมาพอดี เริ่มพิธีทีไรเต้นแถมพูภาษาแปลกๆสั่งได้อีกยิ่งกว่ากับข้าวตามสั่งบ้าชัดๆ แต่ทรงเทพจะไม่ค่อยประทับทรงบ่อยนะคะดูจากจริตใช้ความรู้สึกสัมผัสก็จะรู้ค่ะว่าอันไหนจริิง หรือปลอม

 

เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมพวกที่อ้างตัวมี ญาณ มีองค์ มี ความสามารถทางจิตพิเศษ มักจะมีแต่ ตุ๊ด เกย์ และกะเทยที่ดังๆกันแต่ละคน หรือ่าพวกนี้ช่างจินตนาการ คิดเพ้อฝัน

 

โดนใจมากครับ ผมก็สงสัยเหมือนกัน

 

เรื่องทรงเจ้าเข้าผีทั้งหลาย โดยส่วนมากแล้ว จะเป็นพวกสัมภเวสีร่อนแร่เสีย 99% มากกว่า(อันนี้ได้ความรู้มาจากผู้ปฏิบัติคะ เค้าเห็นนั่งยองๆกินของเส้นไหว้ เส้นหมี่งี้ ห้อยคาปากเลย) เค้าบอกว่า อย่ายุ่งอย่าเข้าไปข้องเกี่ยว ให้ทำเฉยๆ เข้าไว้ เพราะผีพวกนี้ ตอนเป็นมนุษย์ ไม่มี หิริโอตัปปะ คือ ความละอายต่อบาป ตายไปไม่มีภพ ไม่มีภูมิที่จะไป จึงร่อนแร่ไปเรื่อยๆ หากินกับของเส้น ต่อให้เป็นเทพเค้าก็คงไม่ค่อยมาวุ่นวายกับพวกมนุษย์สักเท่าไหร่ เพราะเค้าก็อยู่กับสังคม และสภาพแวดล้อม หรือ เค้าอาจจะมีหน้าที่การงานของเค้า ซึ่งย่อมดีกว่าโลกมนุษย์อย่างมากมาย ทำไมถึงพวกนี้ถึงอยากเป็นร่างทรางกันนัก ก็เพราะ มันหากินง่ายไม่ลำบาก ดีกว่ามานั่งทำงานอาบเหงื่อ ได้ก็เงินมาก็ไม่พอใช้ หลอกลวงชาวบ้านไปวัน เดี๋ยวเงินก็มา จนท้ายสุด คนทรงร่ำรวย มีบ้านหลังใหญ่ มีรถขับ มีกินมีใช้อย่างอุดมสมบูรณ์ไปยันผัว ยันลูก ยันหลาน ไม่ต้องไปทำกินให้ลำบากที่ไหน แต่คนไปหาคนทรง สาวก ลูกศิษย์สิ ก็จนเอาๆ

อยากรู้ว่ามีพวกไหนบ้าง ใครสนใจลองตามอ่านดูลิงค์ได้ที่นี่


บ้านสวนพีระมิด: นางอุบลมันบ้าไปแล้ว

วิถีอนุตตรธรรม: ลัทธิอนุตตรธรรมคืออะไร

พลังแสงทิพย์บ้าๆ บอๆ: พระบิดาประทานแสงทิพย์



หลอกขายดวงแก้ว

 

ผมว่าท่าน จขกท.กลับไปถามเขาเลยดีกว่าครับ ค่อยๆพูดกันนะครับว่าไม่พอใจอะไรหรือไม่ก็อย่าไปสนใจเขาเลยดีกว่าอย่าไปยุ่งกะเขา

 

เคยพบกับประสบการณ์เรื่องร่างทรงมาพอสมควร

1. บางร่างก็ไม่ได้ทรงอะไร แต่อยากเป็นร่างทรง คือแกล้งทำทีว่ากำลังทรง หรือประเภทพวกอยากมีองค์

2. บางร่างทรงจริง แต่เป็นแอบอ้างชื่อ องค์เทพที่มีชื่อเสียง เช่น ทรงพระพฆเนศร์ เจ้าแม่กาลี ทรงสมเด็จโต ทรง. ร.5

3. บางร่าง ทรงองค์เทพจริง อาทิเช่นเจ้าแม่กวนอิม มาประทับทรง ท่่านจะแสดงบารมีของท่าน โดยจะมีลูกศิษย์ลูกหา มากันมากมาย ผู้คนต่างศรัทธามาช่วยกันบริจาคเงิน สร้างโรงเจ สถานธรรม สร้างตำหนัก และเมื่อสร้างสำเร็จแล้ว องค์เจ้าแม่กวนอิมก็จะไม่มาลงทรง โดยให้ลูกศิษย์ของท่านมาสร้างบารมีลงทรงแทน และจะเป็นแบบนี้แทบทุกองค์

คือตอนแรก ท่านจะทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ ร้อยเปอร์เซนต์ แต่พอนาน ๆ เข้า ก็จะทายอะไรไม่ค่อยแม่น เพราะว่าท่านไม่ได้มาลงแล้ว โดยองค์เจ้าแม่ก็จะไปทรงสร้างบารมี สร้รางโรงเจ ตำหนักที่อื่นต่อไป

 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงตรัสไว้ว่า"พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์ ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง ร่ายมนต์ให้
มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอทรงกระจก เป็นหมอทรง
หญิงสาว เป็นหมอทรง เจ้าบวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหม ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ. ฯลฯ"
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 14
ดังนั้นผมไม่เคยเชื่อร่างทรง ไม่ว่าร่างทรงอะไรก็ตามเพราะไม่ใช้หนทางมิใช่ที่หลุดพ้นมิใช่ที่พึ่งที่แท้จริง

 

เท่าที่เจอคือพวกอยากมีองค์ มีเยอะครับ จุดเริ่มต้นคือการทำนายทายทักของหมอดู คนที่ไปดูหมอส่วนมากหมอจะชอบทายว่ามีบางสิ่งติดตามคอยคุ้มครองช่วยเหลือ ให้ทำบุญไปให้เค้าบ้าง รับเค้าไปอยู่บ้าง บางคนฟังรู้สึกกลัวได้แต่ทำบุญให้แล้วอฐิฐานให้ไปผุดไปเกิด

ส่วนบางคนอยากองค์มีเป็นทุนเดิม พอเจอแบบนี้เลยเชื่อหนักเลย อุปทาน ทึกทัก จนมีอาการทางจิตที่เรียกว่า คนหลายบุคลิก เดี่ยวคิดว่าตัวเองเป็นเทพบ้าง เป็นเจ่าแม่ เจ้าพ่อ

 

เพื่อนผมเมื่อก่อนก็ปกติกินเหล้าร้องเพลงจีบหญิง หลังจากที่ไปคบกับคนที่ปฏิบัติทางจิต เลยไปครอบครูสักยันต์มาเต็มตัว เปลี่ยนเป็นคนละคนต่อมาแกมีอาชีพเสริม คือ การไปตั้งศาลหรือไปเป่าสังข์ในพิธีอะไรต่างๆ มักแขวนพระพวงโต เศียรฤษี และจะสะพายย่ามซึ่งในนั้นจะเป็นพระเครื่องเป็นร้อยๆองค์ มีดหมอ และเครื่องรางอีกหลายอย่าง สะพายอยู่ตลอดเวลาที่ทำภารกิจอยู่ ...เหตุผลของแกคือกลัวฝ่ายตรงข้ามปล่อยของเขาใส่ แต่ถ้าอยู่ปกติก็จะสวมสร้อยพระสองเส้น พระเครื่อง 1 เส้นและครูของแกที่เป็นฤษี เทพ อะไร ต่อมิไร สารพัด แกบอกกลัวของ ...และยังมีพี่อีกคนแกชอบปฏิบัติธรรมพอเจอหน้าผมที ก็คุยแต่การนั้งสมาธิและต่อสู้กับผีที่คนข้างบ้านไม่ถูกกันเลี้ยงและส่งมาแกล้งแก ....เราก็ดูคนข้างบ้านของแกก็ปกติๆก็แค่ไม่ถูกกัน ก็มีแต่แกนั้นแหละไม่ค่อยปกติ..ผมเห็นคนที่ปฏิบัติธรรมแถวบ้านผมมักจะมีค่านิยมกันแบบนี้ปฏิบัติกันเพราะเล่นของหรือเป็นร่างทรง มีองค์อะไรพรรนี้ ...หาที่ปฏิบัติภาวนา เพื่อความหลุดพ้นตามแนวพุทธแท้ๆ ไม่ค่อยเจอเลย คนปฏิบัติมักจะแอบแผงมาในแนวนี้เสมอสงสัยดูหนังแนวจอมขมังเวทย์เยอะไปหน่อย....

 

มาหาความรู้เพิ่มเติมคะ

 

พวกร่างทรงที่หากินบนความทุกข์ของคนอื่นนี่แย่จริงๆค่ะ
ถ้าเขาไม่ลำบากจริงๆเขาคงไม่หาที่พึงกันหรอกค่ะ
หากินด้วยการซ้ำเติมความทุกข์ของผู้อื่น น่าจะไปลงนรกกันให้หมด

ถ้าแค่มองแล้วหายได้ หมอคงตกงานไปตามๆกันหมด
เดี๋ยวเราจะไปเปิดสำนักมั่ง

ท่านหญิงแม่ รียา .... มองหน้าแม่สิลูก ... หายแล้วใช่มั๊ย
ลูกศิษย์ควายส่ายหน้า ..... ขาที่ปวดเหรอคะท่านหญิงแม่
ท่านหญิงแม่รียา ..... ม่ายช่ายยย แม่หมายถึงเงินในกระเป๋าลูก ที่หายมาเข้ากระเป๋าแม่ ... ม่ายช่ายขาที่ปวด 55555555

ขำๆนะคะ เราเองก้อเชื่อนะ ว่ามีจริง แต่บางพวกก้อออกอภินิหารเกิ๊น