เพื่อการกุศล " พระลีลาแพร่บุญ " โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ ครั้งที่ ๖ ......หมดเขตร่วมบุญแล้ว

คุณภวายุตม์ สุทธยาคม-คุณดวงใจ สายไทยและครอบครัว
ร่วมสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่3 ถึง ครั้งที่10
ครั้งละ 1 ชุด รวมเป็นเงิน 1200 บาท

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ _/|\_

 

ขออนุญาตแจ้งการโอนเงินร่วมบุญอีกครั้งครับ (จากโพสที่ 1927และ1928)

คุณชูชัย แสวงสุขสันต์ 1,500.-
คุณคำรูญ สุจิตจร 1,500.-
คุณภวายุตม์และคุณดวงใจ 1,200.-

เป็นจำนวนเงินเท่ากับ 4,200.-

 

รับทราบครับ ขอโมทนากับ
คุณชูชัย แสวงสุขสันต์ และครอบครัว
คุณคำรูณ สุจิตจร และครอบครัว
คุณภวายุตม์ สุทธยาคม-คุณดวงใจ สายไทยและครอบครัว

ที่ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ และพี่75cents ที่ช่วยประชาสัมพันธ์งานสร้างพระฯ ถ้าหากพอมีเวลาว่างในวันปั๊มพระ เรียนเชิญพี่75cents และทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุครั้งที่3-10 ครั่งละ1ชุดรว่ม8ครั้ง โอนทั้งหมดแล้ว 1200 บาท
หลักฐานทางsms ที่อยู่ทางpm อนุโมทนา

 

รับทราบครับ

ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุครั้งที่ ๓ -๑๐ ครั้งละ ๑ ชุดรวม ๘ ครั้ง

ขอโมทนาด้วยครับผม

 

พรุ่งนี้แล้วนะครับ แล้วมีแบบไม่ตัดปีกด้วยหรือเปล่าครับ
ผมกำลังหาพระที่มีรูปธรรมจักรอยู่ในองค์พระด้วย
ได้สมใจละครับ

 

ครับผม ถ้าพี่อยากได้แบบไม่ตัดขอบ ผมจะได้สั่งช่างไม่ต้องตัดขอบให้ครับ (หรือโทร.086 133 7341 )

ครั้งนี้ได้ครบล่ะครับเสมาธรรมจักรเลย

 

นำภาพพระพิมพ์ " เสมาแก้ว " ที่ปั๊มเสร็จแล้วมาให้ชมกันก่อนนะครับ ส่วนภาพและรายละเอียดในวันนี้ขออนุญาตนำมาให้ชมกันภายหลังนะครับ











เปรียบเทียบขนาดของ " เสมาแก้ว "กับเหรียญหนึ่งบาท

 

ทำบุญ 6 ชุดครับ

 

สวัสดีครับโดยเบื้องต้นเเจ้งว่าจะทำการบรรจุกรุในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2556 นี้ ตรงกับวันพระขึ้น 8 ค่ำเดือน 12 ที่วัดกะพังสุรินทร์ จังหวัดตรัง

 

อีกงานที่จะเเจ้งครับวัดสำราญมีการจัดสร้างพระพุทธรูปประจำวัดจำนวน 100 องค์เเละเหรียญ เนื่องในโอกาสการตั้งวัดครบ 100 ปี งานนี้พี่ผาแดงเป็นผู้อัญเชิญครูบาอาจารย์ โดยขณะนี้มีรายชื่อคือ

หลวงพ่อเพี้ยน

หลวงพ่อสม

จัดเสกวันที่ 27 ตุลาคม 2556 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 8 ค่ำเดือน 11 ใครสะดวกเรียนเชิญครับ

ปล.ผมจองพระพุทธรูปประจำวัด 1 องค์เเล้วเหลืออีก 99 องค์ครับ อิอิ

 

รับทราบครับ

ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ จำนวน ๖ ชุด

ขอโมทนาด้วยครับ

 

ตรงนี้ต้องท้าวความหลังกันนิดหนึ่งครับ วัดสำราญเป็นวัดที่ทางโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ นำพระที่จัดสร้างในครั้งที่ ๑ (ภาคกลาง จ.ลพบุรี )ไปบรรจุไว้เมื่อ ๒๒ พ.ย.๕๕ ที่ผ่านมา วัดสำราญนี้เป็นวัดที่ชาวบ้านร่วมจิตร่วมใจร่วมมือกันสร้างขึ้นมานานแล้ว และได้รับพระราชทานเขตวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖ ซึ่งจะครบ ๑๐๐ ปีในเดือนตุลาคม ๕๖ ที่จะถึงนี้

ซึ่งทางวัดสำราญนี้มี "หลวงพ่อหิน" เป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำวัดที่ชาวบ้านรอบวัดและพื้นที่ใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือกันอย่างมาก “ หลวงพ่อหิน ” เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกสร้างขึ้นโดยแกะสลักจากหินทรายละเอียดสีเขียว เดิมทีท่านประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถของวัดบันไดหิน(ปัจจุบันอยู่ทางด้านทิศใต้ ติดกับสถานีรถไฟลพบุรี)

" หลวงพ่อหิน " นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากอีกองค์หนึ่งของ จ.ลพบุรี เพราะจากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่นั้น มีบรรดาวัดต่างๆที่เห็นความงดงามขององค์หลวงพ่อหินต่างก็มากราบอารธนาเพื่อจะนำไปประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถบ้าง ตามหอสวดมนต์บ้าง ยังวัดของตัวเองนั้น ไม่ว่าจะกระทำอย่างใดก็ไม่สามารถเคลื่อน ย้ายไปได้สักวัดเดียว

ต่อมาหลวงพ่อฉาย (จำฉายาไม่ได้) ชิตสุข อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๑ (ที่ทำเนียบบันทึกไว้) ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๐ ถึง พ.ศ. ๒๔๖๘ ท่านทราบข่าวนี้ ก็ไปอารธนาเพื่อนิมนต์มาวัดสำราญ ปรากฏว่าว่าสามารถขยับองค์ท่านได้ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันต่อเป็นตะเฆ้ เพื่อรองรับองค์ท่าน โดยใช้ชาวบ้านจำนวนมากช่วยกันลากและจัดองค์หลวงพ่อหินท่านนอนหงายแล้วหันพระเศียรไปทางทิศตะวันตก ปรากฏว่าดึงกันจนเชือกขาดก็ไม่สามารถลาดตะเฆ้ที่รองรับท่านขยับได้

จึงต้องเริ่มทำพิธีอารธนากันใหม่โดยครั้งนี้ หันพระเศียรท่านมาทางทิศตะวันออก ปรากฏว่าครั้งนี้สามารถเคลื่อนย้ายท่านได้อย่างสะดวก เมื่อลากมาถึงทางที่จะแยกเข้าสู่วัดที่จะต้องลากผ่านวัดเชิงท่า ปรากฏว่าไม่สามารถลากมาได้อีก ต้องทำพิธีอารธนากันใหม่ว่าจะขอไปวัดสำราญ ปรากฏว่าสามารถลากได้อีกครั้ง

เมื่อมาประดิษฐานอยู่ที่หน้าพระอุโบสถใหม่ๆนั้นมีผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยมากราบไหว้และนำน้ำมาขออธิฐานเป็นน้ำมนต์แล้วนำไปอาบและดื่ม ก็ปรากฏว่าโรคภัยไข้เจ็บนั้นหายได้อย่างปลิดทิ้ง จึงมีผู้คนเลื่อมใสกันมากขึ้นนอกจากนั้นแล้วก็มีผู้ที่มากราบไหว้ขอลาภผลก็ปรากฏว่าได้สมปราถนา จึงมีผู้ที่ทราบกิติศักดิ์ในความศักดิ์สิทธิ์ของท่านก็มากราบไหว้บูชาและปิดทองท่านกันอยู่เสมอๆ

เนื่องในวาระ ๑๐๐ ปีนี้ ผมเองก็ได้เข้าไปช่วยทางวัดในเรื่องของการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น " สมโภช ๑๐๐ ปี " ของทางวัดสำราญ ตั้งแต่เรื่องออกแบบ มวลสาร ฯลฯ ซึ่งก็เป็นอีกหลายรูปแบบที่ทางวัดสำราญ ยังไม่เคยจัดสร้างมาก่อน (ในรอบสี่สิบกว่าปีที่เริ่มสร้างรุ่นแรก ในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นต้นมา )เช่น เหรียญรูปเหมือน พระผงรูปเหมือน เหรียญเม็ดแตง ล๊อคเกตหลวงพ่อหินรุ่นแรก ผ้ายันต์หลวงพ่อหินรุ่นแรก และรูปหล่อหลวงพ่อหินบูชา ขนาด ๕ นิ้ว (ที่ตั้งใจให้เหมือนหลวงพ่อหินองค์จริงมากที่สุด เพราะการสร้างรูปหล่อ ๒ ครั้งที่ผ่านมานั้นชาวบ้านจะบ่นกันว่าไม่ค่อยเหมือนหลวงพ่อหินสักเท่าไหร่ ) รายการนี้จัดสร้าง ๑๐๐ องค์ครับ

นี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งครับที่ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไหร่นัก ซึ่งก็จะแลดูเหมือนว่า สำหรับพระบรรจุกรุในครั้งที่ ๓ (ภาคใต้ )จะดูเงียบๆ เพราะนอกจากงานประจำคือรับราชการทหารแล้วผมก็ยังทำสวนผสมไว้ด้วย บางทีหน้าฝนแบบนี้หญ้าขึ้นเร็วมากก็ต้องแบ่งเวลาเข้าไปดูแลสวนบ้าง

สำหรับเมื่อวันที่ ๑ ก.ย.๕๖ ที่ผ่านมานั้นนอกจากจะเป็นวันปั๊มพระนำฤกษ์ของโครงการสร้างพระบรรจุกรุฯ ครั้งที่ ๓ แล้วก็ถือโอกาสนี้พาเจ้าอาวาสวัดสำราญท่านเข้าไปตำหนิติชมและสั่งแก้ไขหุ่นรูปหล่อหลวงพ่อหินบูชา ขนาด ๕ นิ้ว ที่ทางช่างขึ้นหุ่นขี้ผึ้งไว้ พอดีน้องป็อปที่ไปช่วยงานวันปั๊มพระนำฤกษ์ มาเห็นหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อหินเข้าก็เกิดชอบใจเลยสั่งจองไว้ ๑ องค์

ส่วนงานพุทธาภิเษกของทางวัดสำราญนั้นจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๑.๓๒ น.มหัธโนฤกษ์ ส่วนรายนามพระคณาจารย์ที่นิมนต์มาร่วมอธิฐานนั้น น่าจะลงตัวประมาณกลางเดือนนี้ครับ ซึ่งก็จะได้นำพระบรรจุกรุครั้งที่ ๓ นี้เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วย ๑ พิธีแน่นอนครับ

 

มาครบเลยพี่ผาแดง ขอชมรูปหน่อยครับพี่ ทั้งรูปจริงและรูปหล่อใหม่

 

สำหรับบรรยากาศและรายละเอียดของวันปั๊มพระ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ ก.ย.๕๖ ที่ผ่านมานั้น หลังจากลดขนาดภาพแล้วจะทยอยลงให้ชมกันต่อไปครับ เมื่อวานนี้หลังจากเสร็จเรื่องธุระเรื่องปั๊มพระนำฤกษ์แล้วก็คุยกับช่างต่อเรื่องของวัตถุมงคล " สมโภช ๑๐๐ ปี " ของวัดสำราญต่อ กลับมาถึงบ้านก็เกือบทุุ่ม ก็เร่งเอาเฉพาะภาพพระพิมพ์ "เสมาแก้ว " ที่ปั๊มเสร็จแล้วมาให้พี่ๆน้องๆ ที่ติดตาม โครงการสร้างพระบรรจุกรุ ฯ ได้ชมกันก่อน เมื่อเช้าก็ต้องขับรถเข้ากรุงเทพ ไปเข้าประชุมเรื่องงานมาอีก กลับถึงบ้านเกือบสี่โมงเย็นแล้ว คืนนี้น่าจะได้ชมภาพกันครับ

 

รบกวนขอรายละเอียดร่วมบุญอีกครั้งครับ เพิ่งหาทางเข้าเว็บได้เมื่อไม่นานนี้เอง

 

โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์

ขอเชิญ

ร่วมสร้างพระเนื้อตะกั่วบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ ( ภาคใต้ ) จำนวน ๘,๔๐๐ องค์ ​

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อเป็นพุทธบูชาและพุทธานุสสติ

๒. เพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา

๓. เพื่อไว้ใช้เป็นทุนในการบูรณะหรือซ่อมแซม ศาสนวัตถุ เช่น โบสถ์, ศาลา ฯลฯ ของวัดที่ได้รับพระที่ร่วมกันจัดสร้างขึ้นมานี้ไปบรรจุไว้ในอีกอย่างน้อย ๓๐ ปีข้างหน้า

๔. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถ, ดวงพระวิญญาณอดีตองค์บูรพกษัตริย์ไทยและเพื่ออุทิศส่วนกุศลนี้ให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษนักรบไทยทุกๆท่านที่ได้ร่วมปกป้องแผ่นดินไทยนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน


นับตั้งแต่อดีตหลายร้อยปีที่ผ่านมา การสร้างพระเพื่อบรรจุกรุนิยมกระทำกันมาโดยตลอด นับเนื่องแต่สูงสุดคือองค์มหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ เหล่าขุนนาง คหบดี หรือแม้แต่พระสงฆ์ , ฤาษี ที่เป็นผู้นำในการจัดสร้างพระเพื่อบรรจุกรุ โดยอาจเป็นไปตามเชื่อคตินิยมว่าเป็นการสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ตามที่องค์พระสมณโคดมได้ทรงกล่าวไว้ และเพื่อเป็นการสะสมทุนบุญให้กับตนเองและหมู่คณะหรือสร้างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบิดามารดา ครูบาอาจารย์หรือผู้มีพระคุณก็ตาม

ในบรรดาพระกรุที่มีการขุดพบกันหลายสิบหลายร้อยกรุ ดังที่เราๆท่านๆ ได้มีโอกาสรู้จักพบเห็นหรือได้ครอบครองมาบูชากันนั้น นิยมจัดสร้างด้วยวัสดุหลากหลายประเภท เช่น เนื้อดิน เนื้อผง เนื้อโลหะ เป็นต้น โดยในการสร้างพระเนื้อโลหะเองนั้น ก็ยังมีการแยกเป็นหลายประเภท ตามฐานะของผู้มีศรัทธาจัดสร้างตั้งแต่เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนาค เนื้อชินเงิน เนื้อตะกั่ว เป็นต้น

ในจำนวนพระกรุที่ผ่านกาลเวลามานานแสนนานนั้นโดยที่บางกรุอาจมีอายุหลายร้อยถึงเกือบพันปีนั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเนื้อวัสดุที่สร้างจากเนื้อตะกั่วนั้น จะสามารถทนทานต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเนื้อตะกั่วเองนั้น จากประสบการณ์ของผู้มีความรู้ส่วนใหญ่ได้อธิบายไว้ว่าเป็นวัสดุที่เมื่อนำมาสร้างเป็นองค์พระแล้วเสกได้ดี คือเต็มเร็ว และอยู่ได้นาน แถมตัววัสดุเองก็มีราคาไม่สูงมากนัก จึงเป็นวัสดุประเภท “ ดี ทน ถูก ”

ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นคือเหตุผลที่ทางโครงการฯ ได้เลือกใช้เนื้อตะกั่วในการจัดสร้างพระบรรจุกรุในครั้งนี้

 

รูปแบบการดำเนินงาน

โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุรวม ๘๔,๐๐๐ องค์ ได้แบ่งโครงการฯ นี้ออกเป็นทั้งหมด ๑๐ ครั้งย่อยๆ โดยในแต่ละครั้งจะทำการสร้างพระครั้งละ ๘,๔๐๐ องค์ เพื่อนำไปบรรจุตามวัดต่างๆทั้ง ๕ ภาค คือ

๑. ภาคกลาง จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์ (บรรจุแล้ว ๑ ครั้ง จ.ลพบุรี )

๒. ภาคเหนือ จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์ (บรรจุแล้ว ๑ ครั้ง จ.เชียงใหม่ )

๓. ภาคใต้ จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์

๔. ภาคตะวันออก จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์

๕. ภาคตะวันตก จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์

วัดที่ได้รับพระที่ร่วมกันจัดสร้างขึ้นมานี้ไปบรรจุกรุไว้ จะต้องเก็บรักษาพระนี้ไว้เป็นเวลาอย่างน้อย ๓๐ ปีและหากเมื่อใดที่มีศาสนวัตถุภายในวัดชำรุดทรุดโทรมและขาดซึ่งปัจจัย ทางวัดสามารถทำการเปิดกรุนำพระที่บรรจุไว้นี้ออกมาให้ประชาชนเช่าบูชา แล้วนำปัจจัยที่ได้มาไว้ใช้เป็นทุนในการบูรณะซ่อมแซมต่อไป

เพื่อให้การสร้างพระบรรจุกรุในครั้งนี้ถูกต้องตามแบบโบราณกาลคือให้ทั้งดีในและดีนอก

ดีในคือ ดีนับตั้งแต่เนื้อวัสดุที่ใช้ในการสร้าง จึงต้องมีการลงอักขระเลขยันต์ในแผ่นชนวนจากภิกษุผู้ทรงคุณหลายๆท่านหรือได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านมาแล้ว

ซึ่งก่อนที่จะทำการจัดสร้างพระบรรจุกรุในครั้งที่ ๑ (ภาคกลาง จ.ลพบุรี ) ที่ผ่านมาแล้วนั้นได้ดำเนินการเรื่องแผ่นชนวนจารอักขระจากพระเถราจารย์ทั่วประเทศจำนวน ๑๖๖ องค์ แผ่นจารจากอาจารย์ฆราวาสและวัตถุมงคลเนื้อตะกั่วที่มีเพื่อนสมาชิกร่วมบริจาคมาอีกประมาณ ๑๐๐ ชิ้น

และเมื่อได้แผ่นชนวนทั้งหมดมาแล้ว ได้นำไปขอความเมตตาจากพระครูโสภณสิริธรรม (ลป.สม สุชีโว ) วัดโพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ท่านเสกชนวนมวลสารเมื่อ ๒๑ มิ.ย.๕๕ ก่อนที่จะนำไปหลอมรวมกันเมื่อวันที่ ๒๓ มิ.ย.๕๕ โดยท่านพระครูโสภณสิริธรรม (ลป.สม สุชีโว ) วัดโพธิ์ทอง ท่านเมตตาเป็นประธานในการหลอมชนวน เมื่อหลอมชนวนมวลสารทั้งหมดน้ำหนักรวมกันแล้วกว่า ๑๘๐ กิโลกรัม และได้แบ่งออกเป็นสิบส่วน เพื่อนำมาใช้เป็นชนวนหัวเชื้อในการสร้างพระทั้ง ๑๐ ครั้งต่อไป

ต่อมาเมื่อมีการจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๒ ( ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ) ก็ยังได้แผ่นจารจากพระคณาจารย์มาเป็นชนวนมวลสารเพิ่มเติมอีก รวมทั้งสิ้นจำนวน ๒๐๙ องค์ และวัตถุมงคลเนื้อตะกั่วอีกหลายรายการ

สำหรับครั้งที่ ๓ (ภาคใต้ จ.ตรัง ) มีแผ่นจารจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศ เพื่มขึ้นรวมทั้งสิ้น ๒๔๓ องค์

ดีนอกเมื่อจัดสร้างเป็นองค์พระเสร็จเรียบร้อยจะให้มีการเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก อย่างน้อย ๓ พิธี และอธิษฐานจิตเดี่ยวอย่างน้อย ๙ องค์ ก่อนที่จะมีพิธีการบรรจุลงกรุต่อไป

 

พุทธลักษณะที่จัดสร้างในครั้งนี้

พุทธลักษณะของพระที่ร่วมกันจัดสร้างขึ้นนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างโบราณและปัจจุบัน

โบราณคือพิถีพิถันในการจัดสร้างตั้งแต่เนื้อหาและการปลุกเสกหรืออธิฐานจิตเรียกว่าให้ดีทั้งในและดีทั้งนอก

ปัจจุบันคือยุคนี้เป็นเรื่องของความรวดเร็วด้วยมีเครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัย จึงจะใช้วิธีปั๊มขึ้นมาเป็นองค์พระ


พิมพ์ที่จะจัดสร้างในการบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ นี้ จะสร้างเป็นพิมพ์เสมาและใช้ชื่อรุ่นนี้ว่า “ เสมาแก้ว ”


เป็นพิมพ์ใบเสมา ขนาดประมาณ ๑.๘ ซม.x ๒.๕ ซม.หนาประมาณ ๒ มม.

เสมา หมายถึง เขตกำหนดความพร้อมเพรียงของสงฆ์หรือเขตชุมนุมแห่งสงฆ์

แก้ว โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่เคารพนับถือยิ่ง หรือใช้ประกอบคํานามให้หมาย ความว่าสิ่งนั้นมีค่ามาก หรือดีเยี่ยม


รวมความแล้ว “ เสมาแก้ว ” คือเขตชุมนุมแห่งสงฆ์อันมีค่าควรเคารพยิ่ง

 

ด้านหน้า

- เป็นรูปพระพุทธปางมารวิชัย ประทับนั่งในพระอิริยาบถขัดสมาธิไขว้พระชงฆ์ หงายฝ่าพระบาททั้งสองข้าง พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำลงที่พระชานุแบบเข่านอก

- ประทับบนฐานบัวบานจำนวน ๒ ชั้นๆละ ๗ กลีบ ภายใต้โค้งก้านดอกบัวซ้ายขวาและมีรูปธรรมจักรที่ยอดบนสุด

- ฐานใบเสมามีอักขระขอม คำว่า นะ มะ อะ อุ เป็น แก้ว ๔ ดวง ใช้สำหรับหนุนธาตุ

นะ แก้วมณีโชติ หนุน ธาตุน้ำ

มะ แก้วไพฑูรย์ หนุน ธาตุดิน

อะ แก้ววิเชียร หนุน ธาตุไฟ

อุ แก้วปัทมราช หนุน ธาตุลม