คุณมีจิตสัมผัส-ความผูกพัน-สื่อพลังพุทธะ พลังเทพหรือไม่

อยากได้รูปคับผม

ผมอยากได้พระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕ ในเครื่องครองราชย์ ทรงประทับอยู่ในท้องพระโลง ไหมครับ คือผมนิมิตเห็นภาพนี้บ่อยมากแต่ หามาไว้บูชาม่ายได้เลยคับ
(ความอยากคือกิเลสของมนุษย์ ถือรู้ตัวว่าเป็นกิเลสแต่ก็อยากได้ครับผม(b-deejai) )

 

ขอบคุณในความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
ของทุกท่าน นะครับ
โมทนาสาธุครับ

 

พระแม่นาคิน(พระแม่สามโลก)...พระแม่อุมาเทวีอีกปางหนึ่ง...

***โอม มาตา มัลชา เดวี***

 

มี3รูปอ่านะคับ

 

-แต่รูปพระแม่นาคินรูปนี้ดูแล้วขนลุกหมดเลยครับ-
ส่วนรูปท่านปูท่านย่า (รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแบบบอกไม่ถูกครับ)ผมไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร

 

นาคา นาคี นาคิน

---รบกวน คุณ white rose. ช่วย ลงภาพ นาคิน แบบเต็มองค์ จ้า ...(เห็น พระองค์ ท่านเต็ม ไม่มีผ้า ปิด น่ะ..)

ภาพ แสง เขียวๆ จากในถ้ำเขาทะลุ กลางคืน

นาคิน 5 เศียร ...


-----ขอขอบคุณ มากครับ สำหรับ ภาพ / และ คำแนะนำ ท่านนาคิน---

 

องค์คุรุปัทมสมภพ

พระผู้กำเนิดจาก ดอกบัว ๕ สี ซึ่งกำเนิดมาจาก กาย วาจา ใจ ความลับ ขององค์สมเด็จพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์มารวมกันจึงให้กำเนิดเป็นดอกบัว ๕ สี เป็นที่มาแห่ง
องค์ คุรุปัทมสมภพ......

พระคาถา แห่งองค์คุรุปัทมสมภพคือ....

*** โอม. อา. ฮุง. เบญจา. กู. รู. เป. มา. สิทธิ. ฮุง.***

คุรุปัทมสมภพ ธิเบตเรียก กูรูรินโปเช่ ชาวพุทธวัชรยานถือว่าพระองค์เป็นพุทธเจ้าองค์ที่ 2 พระองค์ทรงเป็นวัชรนิรมานกายของพระอมิตาภะพุทธเจ้า วัชรธรรมกายของพระองค์คือวัชรธรรมกายของพระพุทธเจ้าทั้งปวง พระองค์เป็นผู้นำพุทธศาสนาเข้าสู่ธิเบตและดินแดนในแถบหิมาลัย ในพระสูตรวัชรยาน ได้บันทึกไว้ ว่าพระพุทธศากยะมุนีพุทธเจ้าได้สั่งพระอานนท์เถระเจ้าไว้ว่าหลังพระองค์ปรินิพาน 8 ปี ให้พระอานนท์รับบุรุษผู้หนึ่งจากแคว้นอุทยานเป็นศิษย์ให้ถ่ายทอดธรรมทั้งสิ้นให้ ด้วยว่าท่านผู้นั้นจะเป็นผู้จรรโลงพุทธศาสนาต่อไปจนถึงยุดสุดท้าย ท่านก็คือ "องค์คุรุปัทมสมภพ"หรือกูรูรินโปเช่นั่นเอง ในช่วงเวลา800ปี ในอินเดียบางช่วงท่านก็ปรากฏขึ้น บางช่วงท่านก็หายไป จนกระทั่งก่อนจะเข้าธิเบตจากการเชื้อเชิญจากกษัตริย์ไตรซองเดสเซนตามคำแนะนำของพระศานตรักษิต ท่านเป็นคุรุผู้บรรลุแห่งมหาวิทยานาลันทา ทรงความรู้ความสามารถ อิทธิปาฏิหาริย์ในพุทธตันตระยานอย่างถ่องแท้ หลังจากที่ท่านได้เข้าธิเบตแล้ว ทำให้ประชาชนในธิเบตและในแถบเทือกเขาหิมาลัยหันมาเป็นชาวพุทธและพุทธตันตระยานจะเป็นพุทธศาสนาที่รุ่งเรือง มั่นคงไปทั่วโลกในยุดต่อไป

ความหมายในเครื่องทรงขององค์กูรูรินโปเช่
ขนนกยอดหมวก ที่สุดในการบรรลุแห่งยานทั้งสาม หีนยาน มหายาน วัชระยาน
หมวกดอกบัวสามกลีบ สัญลักษณ์การบรรลุตรีกาย ธรรมกาย สัมโภคกาย นิรมาณกาย
อาทิตย์และจันทร์บนหมวก ศูนย์รวมแห่งพลังและปัญญา
ใบหน้าดุ การชนะอุปสรรคทั้งมวล กำราบ หมู่มาร และสิ่งชั่วร้ายทั่วสกล
สร้อยสังวาลย์ สัญลักษณ์แห่งธรรมะอันไม่มีข้อจำกัด เพศ วัย สถานะบุคคล ปฏิบัติได้และสำเร็จได้
เสื้อชั้นในสีขาววับๆแวมๆ วัชระยานซึ่งแนบชิดกับองค์ท่าน ไม่เปิดเผยตลอดเวลา
เสื้อคลุมสีฟ้า มหายาน
จีวรชั้นนอก หีนยาน ปัจเจกพุทธยาน
คทา สัญลักษณ์แห่งพลังและปัญญา หรือปางยับยัม
สามง่ามยอดคทา ความสามารถในการชนะ โลภ โกรธ หลง
เปลวเพลิงบนสามง่าม เพลิงผลาญสามพิษ โลภ โกรธ หลง
หัวกระโหลกบนคทาแห้ง ธรรมกาย
หัวกระโหลกเริ่มแห้ง สัมโภคกาย
หัวกระโหลกสด นิรมาณกาย
วัชระบนคทา ความแข็งแกร่งมั่นคงแห่งการบรรลุ
กล่อง กระดิ่ง เสียงทิพย์ปลุกสรรพสัตว์จากความหลับไหลในอวิชชา
ถ้วยกระโหลกบรรจุน้ำอมฤต น้ำอมฤตเพื่อความสงบ ระงับ และหลุดพ้น
วัชระในมือขวา ตัด เจาะ ทะลุ ทะลวง สู่พุทธภาวะ
ขาซ้ายยกขึ้น ความหลุดพ้นจากวัฏฏ
ขาขวายื่นออก การช่วยสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นทั่วสกล


[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT]

 

องค์คุรุปัทมสมภพอีกภาพหนึ่ง...ค่ะ...




[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT]

 

นี่คือภาพวาดองค์คุรุปัทมสมภพ..ที่บรรยายไว้ข้างต้นทั้งสีเสื้อและเครื่องประดับ
ตรงกันเลยค่ะ...




[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT]

 

ภาพองค์คุรุปัทมสมภพอีกภาพค่ะ...



[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT]

 

ตอบคุณ นาคา...

นาคา นาคี นาคิน

---รบกวน คุณ white rose. ช่วย ลงภาพ นาคิน แบบเต็มองค์ จ้า ...(เห็น พระองค์ ท่านเต็ม ไม่มีผ้า ปิด น่ะ..)

ภาพ แสง เขียวๆ จากในถ้ำเขาทะลุ กลางคืน

นาคิน 5 เศียร ...

------------------------------------------------------------------------

พระแม่นาคิน เป็นอีกปางของพระแม่อุมาเทวี เทวรูปนี้สั่งตรงมาจากประเทศอินเดียค่ะ

พระแม่ ปางนี้งามมากๆ...
มีนาคราช 5 เศียรอยู่เหนือเศียรพระองค์ท่าน
ร่างกายเป็นเทพสตรีผู้งามเิลิศ
มีปีก 2 ปีก
ส่วนตั้งแต่เอวลงมาเป็นนาคราช
พระหัตถ์ทั้ง 2 ข้าง อุ้มหอยสังห์
อยู่ได้ทั้ง บาดาล พื้นดิน และ อากาศ

 

ภาพองค์คุรุปัทมสมภพอีกภาพค่ะ...

 

ประวัติโดยย่อของคุรุปัทมสมภพ


คุรุปัทมสมภพหรือกูรูริมโปเช พระผู้เป็นศูนย์รวมแห่งกาย วาจา ใจ ลับของพระอมิตาภะพุทธเจ้าพระอวโลกิเตศวรและพระศากยมุนี-พุทธเจ้าหลอมรวม
เป็นหนึ่งเดียวบังเกิดเป็นมหาศักดาวัชรนิรมานกาย ท่านทรงเป็นพระผู้สยบเหล่ามารให้รู้แจ้งในสันดานชั่วแห่งตน ทำให้บังเกิดศรัทธาธรรม ทรงปรากฏเป็นวัชรกายหกภูมิเพื่อโปรดสรรพชีวิตในแต่ละภูมิให้ได้บรรลุวิมุตติ
ถึงการหลุดพ้นเด็ดขาด
เมื่อพระศากยมุนีพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานผ่านไป 8 ปี ในวันที่ 10 เดือน 7 ตามจันทรคติทิเบต คุรุปัทมสมภพท่านได้ถือกำเนิดเองบนดอกบัว 5 สี กลางทะเลสาบธนโกษะแคว้นอุฑิยานในอินเดียตะวันตกท่านกำเนิดจากการแบ่งภาค
ของพระอมิตาภพุทธเจ้ามิได้กำเนิดจากครรภ์ของสตรีใด พระราชาอินทรโพธิผู้ครองแคว้นอุฑิยาน ได้สถาปนาให้เป็นพระโอรสสืบทอดพระราชบังลังก์เมื่อเติบโตขึ้นได้รับการเตือน
จากพระวัชรสัตต์โพธิสัตว์ จึงสละราชสมบัติออกบรรพชามอบตนเป็นศิษย์ในพระอานนท์เถระได้รับการ
ถ่ายทอดธรรมตามคำบัญชาของ
พระพุทธเจ้าที่เคยสั่งพระอานนท์เถระไว้ล่วงหน้าในขณะรับสิกขาบทจากพระ-อานนท์นั้น
พระบริรักษ์ธรณีพุทธมารดาได้เสด็จมาถวายไตรจีวร สรรพพุทธทั่วทศทิศสำแดงกายปกปักษ์คุ้มครองร่วมอนุโมทนาสาธุการได้เข้าปฏิบัติสมาธิ ณวนาโกษะเพื่อศึกษาพุทธสูตรธรรมแล้วจึงเหาะเหินเข้าสู่พุทธเกษตรแห่งพระสมัตรภัทรพุทธเจ้า เพื่อรับการถ่ายทอดอทิพุทธตันตระธรรม พระวัชรสัตต์โพธิสัตว์ทรงเสด็จมาถ่ายทอดมหาโยคะตันตระธรรมองค์คุรุฯ สามารถบรรลุสูตรธรรมและตันตรธรรมลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวจนรู้แจ้งสำเร็จ
ซึ่งพระอมิตายุสตถาคตอนุตตรสัมโพธิญาน
คุรุปัทมสมภพ ด้วยประสงค์ที่จะปราบปรามสรรพชีวิตที่มีทิฐิอันแข็งแกร่งยากที่จะโปรดให้บรรลุธรรมได้ ทำให้ต้องสำแดงกายดุร้ายที่มีเดชะบารมีแกร่งกล้า เหล่ามารร้ายนอกศาสนาต่างสยบยอมสวามิภักดิ์ทั้งสิ้น ท่านถ่ายทอดพระธรรมโปรดสรรพชีวิตทั้งหลายในอินเดียเนปาล เป็นเวลาถึงแปดร้อยกว่าปี ด้วยพระปัญญาและพระเมตตาควบคู่กัน ต่อมาภายหลังได้รับการอัญเชิญจากกษัตริย์ ฑิโซงเดเชนให้เสด็จไปประดิษฐานพระพุทธศาสนาในทิเบตในราว พ.ศ. 1300 คุรุปัทมสมภพทรงมีบทบาทสำคัญในการสยบมารร้ายที่คอยขัดขวางการเผยแพร่พระธรรม ทรงให้พรและปลุกเสกสถานที่ต่างๆในทิเบต จนพระพุทธศาสนาสามารถประดิษฐานและรุ่งเรืองสุดขีดถึงปัจจุบัน ชาวทิเบตต่างสักการะท่านเสมือนหนึ่งพระพุทธเจ้าองค์ที่สอง
องค์คุรุฯได้กล่าวไว้ว่า“อาตมามิได้ไปหรือมา ผู้ที่มีศรัทธาอาตมาจะสำแดงให้เห็นตรงเบื้องหน้าและถ่ายทอดพระธรรมให้ ทุกเดือนวันที่ 10 อาตมาจะมาสอดส่องดูแลเหล่าสาวกทั้งหลาย”
เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระอมิตาภพุทธ-เจ้าและพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ การปฏิบัติบูชาพระองค์จะทำให้ผู้นั้นพัฒนาจิตสู่การหลุดพ้นได้อย่างรวดเร็ว
กูรูริมโปเชได้แบ่งภาคร่างออกมาเพื่อโปรดสรรพสัตว์เป็นปางต่างๆที่สำคัญได้ 8 ปาง คือ

[FONT=&quot] 1. อูจิน ดอร์เจ ชัง[/FONT]​

​

​

[FONT=&quot] คุรุปัทมสมภพ ต้องการแสวงหาหลักคำสอนที่ง่ายต่อการ เข้าใจและมีผลในทางปฏิบัติอย่างฉับพลัน จึงได้เดินทางสู่พุทธภูมิชั้นสูงสุด ณ.ที่นั่นพระวัชรสัตโพธิสัตว์ได้สาธยายว่า เสียงทั้งหมด คือ มนตรา ปรากฏการณ์ คือ ศูนยตาหลังจากเรียนรู้มหาโยคะตันตระคุรุฯ ได้ปฏิบัติหลักแห่งสัจจะธรรมเข้าสู่ญาณสมาบัติแห่งสมาธิทั้งสามและสัมฤทธิ์ผล โดยพิธีพุทธตันตระ สำเร็จซึ่งภูมิที่ 9 คุรุฯได้รับสมญานามว่า อูจิน ดอร์เจชัง [/FONT][FONT=&quot]–วัชระธรแห่งอุฑิยาน

[/FONT]

​

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT]
​

 

[FONT=&quot] 2 . กูรู ศักเกีย ซิงเก[/FONT]​

​

​

[FONT=&quot] คุรุปัทมสมภพ ในช่วงที่เป็นพระโพธิสัตว์สุมิตรา ได้เดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อรับการอุปสมบทจากพระอานนท์มหาเถระ ผู้ซึ่งได้สอนหลักแห่งพุทธสูตรายานจากการหมุนธรรมจักรครั้งแรกของพระพุทธเจ้า นั่นคือ อริยสัจจ์ 4 ปฏิจจสมุปบาทพระอภิธรรมและพระวินัยต่างๆท่านได้ศึกษาต่อหลักธรรมแห่งการหมุนธรรมจักร ครั้งที่ 2 และที่ 3 ด้วย หลังจากสำเร็จหลักธรรมแห่ง การหมุนธรรมจักรครั้งที่ 4ท่านได้รับสมญานามว่ากูรู ศักเกีย ซิงเก [/FONT][FONT=&quot]–ราชสีห์แห่งศักยะ[/FONT]

​

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT] ​

 

[FONT=&quot] 3 . เปมา เจียลโป[/FONT]​

​

​

[FONT=&quot] หลังจากคุรุปัทมสมภพได้กำเนิดขึ้นเองกลางทะเลสาบธนโกษะ กษัตริย์อินทรโพธิแห่งแค้วนอุฑิยาน ได้อัญเชิญทารกน้อยจากดอกบัวกลับสู่พระราชวัง พระองค์ทรงสถาปนาให้เป็นพระราชโอรสมงกุฎราชกุมารเติบโตขึ้นสืบทอดราชสมบัติเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ปกครองประเทศ ด้วยปัญญาสมบูรณ์ซึ่งทศพิธราชธรรม ทั้งแคว้นอุฑิยานจึงเจริญรุ่งเรืองสุดขีด กษัตริย์อินทรโพธิได้จัดให้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิง ภาสัทธราคุรุฯ ทรงใช้ชีวิตเป็นกษัตริย์แห่ง แคว้นอุฑิยาน อยู่ถึง 5 ปี ได้รับสมญานามว่า [/FONT]เปมา เจียลโป – กษัตริย์จากดอกบัว

​

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT] ​

 

4. เปมา จุงเน​

​

​

คุรุปัทมสมภพ เดินทางไป ชาโห เพื่อเผยแพร่พุทธธรรมตามคำนิมนต์ของเจ้าหญิง มันดารวา ข่าวลือในทางไม่ดีได้แพร่ออกไป กษัตริย์แห่ง ซาโหได้สั่งจับคุรุฯ และจุดไฟเผาท่านทั้งเป็น เมื่อกษัตริย์แห่งชาโห ไปตรวจดูที่กองเพลิง พระองค์พบว่ามีแสงสีรุ้ง 7 สี ปกคลุมบริเวณนั้นอยู่ กองเพลิงได้กลายเป็นทะเลสาบเล็กๆ กลางทะเลสาปมีเด็กน้อยอายุ 8 ขวบนั่งอยู่บนดอกบัว โดยมีกลุ่มหญิงสาวล้อมรอบคอยดูแล และหญิงสาวทั้งหมดมีหน้าตาคล้ายเจ้าหญิงมันดารวา ด้วยความสำนึกผิด กษัตริย์แห่งชาโหจึงคุกเข่าลงขอขมา คุรุฯ ได้สืบทอดราชสมบัติเป็นกษัตริย์ ชาโหต่อไปและได้รับสมญานามว่า
กูรู เปมา จุงเน – ผู้ซึ่งเกิดจากดอกบัว

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT]
​

 

[FONT=&quot] 5. ญิมา โอะเซระ[/FONT]​

​

​

[FONT=&quot] ในสุสานแห่ง ภัยทรา คุรุปัทมสมภพอาศัยอยู่ท่ามกลางกองเพลิงในสุสานที่ซึ่งมีภูตผีกินแทะซากศพ ในขณะเดียวกัน ก็มีเทพประหลาดซึ่งมีตัวเป็นจามรี มีหัวเป็นสิงห์โตและมีขาเหมือนนางนาคอาศัยอยู่ ซึ่งจะถือคฑาที่แขวนด้วยซากศพมนุษย์ คุรุฯ หันหลังให้กับพระสถูปเจดีย์แห่งเขาโพตาละสอนและเผยแพร่พุทธธรรมแก่เหล่าฑากินีเป็นเวลา 5 ปี จนได้สมญานามว่าณิมา โอะเซระ [/FONT][FONT=&quot]– แสงสว่างแห่งพระอาทิตย์ [/FONT]

​

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT] ​

 

[FONT=&quot] 6. ดอร์เจ ดรอโล[/FONT]​

​

​

[FONT=&quot] คุรุปัทมสมภพ แปลงเป็นปางพิโรธที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งปาโร ตักจัง ภูฐาน เพื่อสยบและปราบเทพเทวดาทั้งหมดในบริเวณนั้นให้มาเป็นผู้พิทักษ์พระคัมภีร์ [/FONT][FONT=&quot]“เตมา”[/FONT][FONT=&quot]และมอบหมายให้มีหน้าที่ดูแลคำสอนลับต่างๆ จนกว่าจะมีลูกศิษย์ของท่านที่ถูกกำหนดไว้ในอนาคตมาค้นพบท่าน ได้รับสมญานามว่า
ดอร์เจ ดรอโล [/FONT][FONT=&quot]– วัชรผู้โอบอ้อมสรรพสัตว์[/FONT]

​

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT] ​

 

[FONT=&quot] 7. โลเดน โชดเซด[/FONT]​

​

​

[FONT=&quot] คุรุปัทมสมภพ ขณะพำนักอยู่แคว้นแคชเมียร์ ได้พยายามช่วยชายขอทานคนหนึ่งที่ไปฆ่าคนมา เนื่องจากความหิวโหยและถูกส่งตัวมายังสุสานที่คุรุฯ อาศัยอยู่ ด้วยความไม่จริงใจต่อคุรุฯ สุดท้ายถูกสัตว์ป่าดุร้ายในสุสานฉีกร่างกินทิ้งท่าน ได้รับสมญานามว่าโลเดน โชดเซ [/FONT][FONT=&quot]– ผู้ซึ่งเข้าถึงสัจจะธรรมโลก[/FONT]

​

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...[/FONT]
​

 

[FONT=&quot] 8. ซิงเก ดราดก[/FONT]​

​

​

[FONT=&quot] เมื่อพวกเติกติกะ แห่งอินเดียใต้ พยายามทำลายพุทธธรรม คุรุปัทมสมภพ ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์สามารถสยบพวกมารนอกศาสนาทั้งหมดชูธงแห่งชัยชนะสำหรับธรรมะท่านได้รับสมญานามว่าซิงเก ดราดก [/FONT][FONT=&quot]– ผู้ซึ่งสอนด้วยเสียงแห่งราชสีห์[/FONT]​

​

[FONT=&quot][/FONT]​

​

[FONT=&quot]ขอขอบคุณ...โรงเจอี่ธงกั๊กอ๊วง ที่กรุณาให้ข้อมูลและถ่ายภาพ...
[/FONT] ​

​