บาปไหม ค้าขาย โกหกลูกค้า

ไปซื้อเสื้อผ้า คนขายบอกว่า เป็นของฮ่องกง เป็นของอเมริกา เป็นของญี่ปุ่น และตนเองเป้นผู้นำเข้ามาเอง


ข้อเท็จจริืง คนขายไปซื้อมาจากตึกใบหยก เจ้าของร้านเป็นคนฮ่องกง แสดงว่าเป็นของฮ่องกง บางร้านเจ้าของเป็นฝรั่งอเมริกา แสดงว่า่เป็นของอเมริกา บางร้านคนญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ ก็แสดงว่าเป็นของญี่ปุ่น คนขายซื้อมาแล้วก็หิ้วสินค้าเอาเข้ามาในร้าน ก็เลยบอกว่าเป็นผู้นำเข้า

พูดเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจผิด บาปไหมครับ

 

ผู้มีเจตนาในการหลอกลวงผู้อื่น ย่อมสะสมสิ่งนั้นลงในจิตตนเอง และในอนาคต จิตของตนที่สะสมอกุศลกรรมไว้นั้นแหละ จะนำพาความทุกข์มาสู่ตนเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

ท่านเมตตาเล่าให้ฟังครับ

ครูอาจารย์องค์หนึ่งท่านชอบธุดงค์ตามป่า..ชายแดน

วันหนึ่ง..ชาวกะเหรี่ยงคนหนึ่งเอาน้ำผึ้งมาถวายท่าน

หลังท่านรับ..ท่านถามว่า " ของปลอมหรือปล่าวว๊ะ "

กระเหลี่ยงคนนั้นตอบว่า "ไม่รู้ผมไปเอามาจากในป่า

ถ้าปลอมน่ะผึ้งมันทำ ผมแค่ไปเอามา " ท่านว่า

" ดูซิดู..ดูมันตอบ "

 

ตั้งคำถามเอามุมมองของคนขาย อาจไม่เห็นอะไรมาก
บางทีอาจมีข้ออ้าง หรือหาเหตุมารับการกระทำนั้นได้อีกว่านิด ๆ หน่อย ๆไม่เป็นไร

ลองเปลี่ยนมุมมองเป็นลูกค้าก็จะได้คำตอบแล้ว
ถ้าไปซื้อของแล้วเจอพ่อค้าแม่ค้าบอกว่า ของนำเข้าจากญี่ปุ่น อเมริกา
แต่ภายหลังรู้ว่าไปเอามาจากแถว ๆ ใบหยก
เป็นคนซื้อจะรู้สึกยังไง
(ต่อให้ไม่เดือดร้อนเรื่องราคา แต่เครดิตความน่าเชื่อถือมันก็ไม่มีแล้ว)

" ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้ว แม้น้อยนิดก็ไม่ควรทำ เพราะความชั่วทั้งหลาย เมื่อกระทำแล้วย่อมส่งผลเป็นความทุกข์ ความเดือดร้อน"

ที่เห็นว่าน้อยนิด แต่ทำน้อยนิดบ่อย ๆ มันฝังอยู่ในจิตเป็นอาจิณณกรรม

 

-*- ง่ายๆสั้น แค่คิดจะพูด จะทำ ในสิ่งไม่ดีมันก็บาปและครับ อยู่ที่ว่าบาปมากบาปน้อย

 

ผมเคยแกล้งถามคนขายบางคนถึงราคาทุนของสินค้า คนขายสินค้าบอกกับผมเลยว่า ของในร้านเยอะ ต้องดูบิลไม่รู้ว่ามาเท่าไร ของมาแต่ละรอบ ราคาไม่ค่อยเท่ากัน บางทีมาถูกมาแพง มาถูกก็ขายถูก มาแพงก็ขายแพง แล้วแต่ล็อต

รู้สึกฟังดูดี มีมารยาท

 

ขออนุญาติครับ.

ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะพบกับคนแบบไหน

ผมเห็นใครคนหนึ่ง..เขากล้าโชว์ราคา

ต้นทุนกับลูกค้าครับ(ถ้าถูกถาม)..และส่วนที่เกิน

เขาอธิบายได้..โดยถูกแยกเป็น2ส่วน

มีค่าดำเนินการ..กับกำไร

ส่วนค่าดำเนินการประกอบด้วย

- ค่ารถ

- ค่าน้ำมัน

- ค่าโทรศัพท์

- ค่าแรงส่วนตัว

- ค่าที่พัก

- ค่าเช่าที่

- ค่าพนักงาน (ถ้ามี)

- เบ็ดเตล็ด

ส่วนกำไรจะบวกกี่%ก็แล้วแต่ครับ

ผมเห็นเขาผมยังรู้สึกว่า..เขาไม่ได้ขาย

เฉพาะสินค้า..แต่ยังให้ความจริงใจแก่ลูกค้าด้วยครับ.

 

ความเข้าใจของคนทั่วไป คำว่า ของฮ่องกง ของอเมริกา ก็ย่อมหมายความว่า
ของชิ้นนั้น เป็นของที่มาจากประเทศ ฮ่องกง หรือ อเมริกา
การพูดอย่างที่พูดมาเป็นทำนอง ศรีธนญชัย คือ พูดจริงแต่ความหมายไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกันทั่วไป

การดูว่าบาปหรือไม่ ก็แค่ถามตัวเราเองว่า หากใครมาบอกเราแบบนั้นแล้วภายหลังเราทราบความจริง เราจะโกรธเคืองหรือไม่

 

ช่ายๆๆ พ่อค้าแม่ค้าก็กินข้าวเหมือนกับเราน่ะแหละ

 

ความจริงใจทางการค้า นั้นไม่จำเป็นต้องบอกไปเสียทั้งหมดว่าต้นทุนเท่าไร อะไร อย่างไร
เพราะเป็นข้อเสียมากกว่า หากว่ามีคนมาถามว่า พ่อเราชื่ออะไร แม่เราชื่ออะไร ญาติพี่น้องชื่ออะไร เบอร์โทรอะไร วันเกิดอะไร แบบนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องบอกไปเสียทั้งหมดหรือ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลส่วนตัว เราไม่บอกไม่ได้หมายความว่าเราไม่จริงใจ
การค้าขายก็เช่นเดียวกัน หากว่ามีคู่แข่งมาหลอกถามเรา เราแสดงความจริงใจไปด้วยการบอกข้อมูลทั้งหมดก็เท่ากับเราบอกความลับทางการค้าให้กับเขาไป ก็เรียกว่า พ่อค้าโง่ ไม่ใช่พ่อค้าจริงใจ
หรือถ้ามีลูกค้าทั่วไปมาถาม เราบอกไปเสียหมดก็อาจจะทำให้เขาไปต่อรองกับพ่อค้าคนอื่นได้ ระบบราคาต่างๆย่อมเสียหายไป เพราะเราคิดว่า เราต้องจริงใจ บอกไปเสียทั้งหมด
คุณธรรมของพ่อค้าแม่ค้า คือ สรรหาของดีมีคุณภาพ ไม่ใช่เอาของย้อมแมวมาขาย ขายราคากลางๆไม่หลอกลวงลูกค้า ไม่ถือโอกาสค้ากำไรเกินควร เท่านั้นก็เพียงพอ ไม่ใช่ไปบอกความลับทางการค้า หรือบอกเรื่องส่วนตัวแล้วไปคิดว่าเป็นความจริงใจ
เรื่องของการค้า คือ ผู้ซื้อมีความพอใจในราคา ไม่ใช่เรื่องของการไปล่วงรู้ราคาต้นทุนแล้วจึงค่อยซื้อ
ไม่ใช่เรื่องของการรู้ว่าพ่อค้าได้กำไรเท่าไร ถ้ากำไรมากไปเราไม่ซื้อ แบบนั้นก็ไม่ใช่นะครับ

 

โดยส่วนตัว ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่ง ไม่ได้คิดมากอะไร พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องเอากำไรเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าขายแล้วไม่เหลือกำไรเอาไว้ใช้ไว้กิน แล้วจะขายของให้เหนื่อยเล่นฟรีๆทำไม เพราะพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องกินต้องอยู่เหมือนกัน อยู่ที่เรา ถ้าเห็นว่าเขาค้าขายเกินกำไรเราก็อย่าไปซื้อซิ ไม่เห็นยาก ส่วนจะบาปหรือไม่ขึ้นอยู่เจตนาของคนขาย ขายเพื่อหวังรวยโดยไม่คำนึงสิ่งใด ขอให้ได้เงินเยอะๆ อันนั้นบาปแน่ๆ

 

ทุกการกระทำ จะส่งผลอย่างตรงไปตรงมาที่สุด
ไม่ใช่หน้าที่ของเรา หรือใคร ที่จะมาชี้ มาตัดสิน หรือคิดว่าเขาสมควรได้รับผลของการกระทำนั้นๆอย่างไร

มันเป็นไปตามที่มันเป็นนั่นแหละวิถี

 

เอที่เห็นอย่างเช่น บ.อิตาเลี่ยนไทย (มหาชน)

และยังมียักษ์ใหญ่อีหลาย บ.คุณรองไปขอที่เขา

เรียกว่า BOQ หรือใบประมาณราคาเขาดูซิครับ

ก็เห็นเขารวยเอาๆ.

 

ถ้าจะว่ากันไปนะคะ จะว่าคนขายของฝ่ายเดียวก็คงจะไม่ได้ เพราะลูกค้าที่ซื้อบางคนก็เยอะค่ะ อยากจะซื้อแบบว่าไม่ให้เขามีกำไรเลย ต่อซะจนอยากจะยกให้ฟรีๆ เลย..แต่ดิฉันไม่ใช่แม่ค้าค่ะ แค่อยู่ในแวดวงผู้ซื้อผู้ขายมาบ้าง..

ความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญ และศีลข้อ ๔ ในคหสต. นั้นดิฉันว่าขาดง่ายที่สุดค่ะ อีกปัจจัยนึงก็คือสังคมและการงานที่ทำอยู่ด้วยค่ะ ส่วนใหญ่แล้วสมช.ที่นี่เป็นผู้มีศีล เป็นผู้รู้และเป็นนักปฏิบัติกันอยู่แล้ว ควรเลี่ยงหรือแนะนำผู้อื่นให้ประกอบอาชีพใดๆ ที่ไม่ทำให้ศีลด่างได้ก็คงจะดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ ^^

 

คนดี ...ทำกรรมดีได้ง่าย แต่ทำกรรมชั่วยาก

คนไม่ดี..ทำกรรมดียาก แต่ทำกรรมชั่วได้ง่าย

สาธุ..ครับ

 

อาชีพสำหรับฆราวาสนั้น บอกตรง ๆว่า เรายังไม่เคยเห็นอาชีพไหน ใสบริสุทธิ์ จนไม่ด่างศีลเลย (ถ้ามีช่วยแนะนำที)
แม้ พนง.รับเงินเดือน บางครั้ง ก็ต้องโกหกเจ้านาย ว่า มาสายเพราะอะไร(ถึงไม่ถูกว่า)
เรื่องกำไรขาดทุน เป็นเรื่องปกติ สำหรับคนทำการค้า
ทำการค้าแล้ว โดนเก็บภาษี มีใครบ้าง เสียภาษีได้ครบ โดยไม่มีใจ "อยากคิดวิธีลดภาษีลง" บางคนถึงกับเลี่ยงภาษีไปเลย
ไม่ก็กล่าววจีกรรม

เราถึงว่า เราเอง ยังไม่เคยมีซักวันที่ศีลไม่ด่าง มีแต่ ทำยังไง ถึงผิดน้อยที่สุด

หรือถ้าคนขายจริงใจมากๆ แสดงว่า ยังไม่เคยเห็น ประเภทพ่อค้าหน้าซื่อแต่จับไม่ได้
คนที่รวยมากๆขั้นเศรษฐี เรายังไม่เคยเห็นคนไหน ได้เงินมาแบบบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซนเลย มีแต่ ผิดน้อยหรือผิดมากเท่านัันเอง

 

คิดว่าคุณคงเข้าใจผิด เกี่ยวกับความเป็นพ่อค้าและบริษัทนะครับ
และคงเข้าใจผิดเรื่องใบประเมินราคา และ ราคาสินค้า
และเข้าใจผิด เกี่ยวกับความโปร่งใส ความจริงใจ และข้อมูลความลับทางการค้าครับ
ลองแยกความแตกต่างดูก่อนครับ

 

ที่บ้านก็ค้าขายมา 20 กว่าปีแล้วครับ

แรกๆ..ก็คู่แข่ง2-3 ราย..แต่ตอนนี้

ก็ยืนหยัดอยู่รายเดียวนี่แหละ..ติดขัด

ให้เชื่ออีกต่างหาก (ความเชื่อถือน่ะครับ)

เลยสบายกินยาวไป ตามที่ติงมาแล้วจะเก็บ

ไว้พิจารณาทบทวนใหม่อีกครั้ง ขอบคุณครับ.

 

จงใจโกหกก็บาป เท่ากับโกหกเลยนะว่าตัวเองนำเข้าทั้งๆ ที่รับมาจากที่อื่น
การขายของมันก็ต้องมีกำไรเป็นเรื่องธรรมดาปกติคนที่ค้าขายก็บวกค่านั่นนี่เพิ่มอยู่แล้วตามกลไกการขายนั่นละ

 

ถ้าเจอแบบนี้ ติงจะเป็นลูกค้าประจำเลยค่ะ