อยากสอบถามเรื่องนิพพานคะ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 3 กรกฎาคม 2013.

  1. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อ่อ....สะพานอยู่กับตัวเอง ครับ

    ทอดเข้ามาแล้วยืดออกไปใหม่ได้ ไม่เป็นไร
    แต่ไม่ให้พวกปทปรมทะ ครับ


    เรื่องที่ รร.ของลูก

    เราต้องทำการป้องปรามครูโรคจิต ไม่ให้ใช่ลูกเราเป็นเครื่องระบายอารมณ์
    สมัยเราก็เคยโดนที่ รร. เดียวกันนี้ แต่คนละคน คนละสมัย


    ขอบคุณท่านอินทรบุตร นะครับ
     
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    ดิฉันจะไปนิพพานชาตินี้คะ ขี้เกียจมาสำลัก กะอักกะอ่วน เวลาจะตาย เพราะเคยเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาหลายครั้งแล้ว ทรมาน และน่ากลัวมากคะ เวลาร่างกายมันพยามต่อสู้จะอยู่ต่อเฮือกสุดท้าย
     
  3. ในฝัน131

    ในฝัน131 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +1,726
    โดยส่วนตัวแล้วชอบนะที่กระทู้ไหน มีการแสดงความคิดเห็น โต้เถียงกัน (จะเข้าข่ายโรคจิตหรือเปล่าไม่แน่ใจ....หรืออาจจะว่าบ้าก็ได้ไม่ว่ากัน...)

    อ่านแล้วสนุก/ไม่เบื่อ/มีรสชาติ/มีแง่คิด/มีมุมมองต่างๆที่เราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน

    เวลามีการโต้เถียงกัน/ขัดแย้งกัน สังเกตุบ้างๆไหมว่า. กระทู้ที่มีความขัดแย้งกัน
    มักจะมีเสน่ห์กว่ากระทู้ที่เดินเรื่องเรียบๆๆ

    ได้เข้ามาฟังเขาคุยกัน/เถียงกัน
    ฟังมากๆเลยทำให้. เราฉลาดขึ้น.


    โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความขัดแย้งอยู่ในตัวเองเสมอ ขัดแย้งกับตังเอง
    คนรอบข้าง ครอบครัว สังคม.....อื่นๆๆอีกมากมาย

    พอมาเจออะไรๆที่มันขัดแย้ง. เลยโดนใจ
     
  4. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273
    นิพพานัง ปรมังสุขขัง
    นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สุขจากการละวางทั้งรูปและนามได้ละเอียดที่สุด คงต้องเป็นเรื่องเฉพาะผู้เข้าถึง ที่จะอธิบายกันเป็นภาษาใจแก่กันและกัน ภาษาทางโลกสมมุติ มีเพื่อให้เกิดกำลังใจแก่ผู้ยังเข้าไม่ถึง ให้มุ่งไปให้ถึงเท่านั้น จะถูกตรงเลยคงไม่ได้ ผมก็คนหนึ่ง ท่องเสมอ ๆ ว่า "นิพพานัง สุขขัง" ถึงก็ชั่ง ไม่ถึงก็ช่าง ทำไปเรื่อย ๆ ขอให้เพียรพยายามอย่าหยุดก็พอ ครับ สาธุ
     
  5. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273
    ธรรมะนั้น ลองเป็นผู้ดูดีกว่าครับ และ ....เรื่องคนกระทบกระทั้งกันนั้น ผมเลิกไปเยอะแล้ว จะเรียนรู้ได้เร็วกว่ามาก โดยเฉพาะบิดา มารดา เถียงไม่ได้เด็ดขาดเชียว มรรคผลจะไม่มีเลย *-*
     
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว อย่างไรก็แก้ไขไม่ได้ แต่ผู้ที่รู้แล้ว ย่อมแยกออกว่า สิ่งใดเป็นอดีต สิ่งใดเป็นปัจจุบัน
     
  7. ประพน

    ประพน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2013
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +2,358

    ขอบคุณครับ เราเห็นพวกคุณแย้งกันด้วยเหตุผลของแต่ละคน ก็สนุกดีครับ(ได้ความรู้อีกตั้งเยอะ) ถ้าคุณคิดว่าทะเลาะกันอยู่จะไปนิพพานในชาตินี้ได้หรอครับ(เห็นคุณบอกจะไปนิพพาน)
     
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อาจจะไปไม่สำเร็จก็ได้คะแต่ว่าอยากไป
     
  9. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273
    ยังเห็นความตายน่ากลัว ผมฟังพระอาจารย์สายปฏิบัติสอนมา ว่า "ควรเห็นการเกิดน่ากลัวครับ การตายไม่น่ากลัวเลย" ... บุคคลที่เห็นความตาย และระลึกถึงความตายได้ดี กำลังสมาธิจะต้องดีพอ แล้วจะไม่กลัว แต่เช่นนี้เป็นสมถะ ในมรณานุสสสติ .... ส่วนเห็นแล้วกลัวการเกิดนั้น จะเริ่มเป็นตัวปัญญาแล้ว

    เวลาตายทุกขเวทนาจะมากครับ ให้เรามีจิตสงสารคนที่จะตายก่อน แผ่เมตตาก่อน และใจสบาย ๆ เราพิจารณามรณานุสสติต่อ จึงจะมีผล หากเห็นเขาจะตาย แล้วกลัว แสดงว่าเรากลัว(ตัวเรา)ตายครับ เป็นอัตตาที่ยึดอยู่ยังไม่คลายตัว และปรากฎชัดเวลาเห็นความไม่เที่ยงขึ้นมาบ้าง มันก็น้อมเข้ามาคิดที่ตัวเรา จึง เห็นว่าตัวเราจะตาย ... แต่พิจารณาไม่ได้ ขออภัยนะครับ ที่พูดออกไปแบบนี้
     
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    ดิฉันไม่ได้กลัวตายคะ ท่านเข้าใจผิดแล้วคะ ถ้ากลัวตายดิฉันคงไม่เคยฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ตายนะคะ ที่ว่ากลัวนี้ หมายถึงเห็นอากัปกิริยาของคนเวลาตายมันดูน่ากลัวต่างหากคะ หรือท่านจะเถียงว่าไม่น่ากลัว คะ และหลักๆที่คนกลัวกัน ถ้าคนเราเกิดมาเป็นอำมตะ ก็คงไมมีใครกลัวการเกิดหรอกคะ ถ้าเกิดมาแล้วมันไม่ตาย คนที่ดิฉันเห็นตายไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีใครตายแบบสงบสักคนนอกจากยายดิฉันที่หลับตายไปเฉยๆ แต่ท่านได้ฌาณ 8 เลยไม่สงสัยทำไมท่านไม่ทรมาน นอกกะนั้นคนอื่นๆ ตายโหดทุกคน กว่าวิญญาณมันจะหลุดออกไปได้ สภาพนี้น่าเวทนามาก ......... และทุกันนี้ก็ได้ร้องขอให้ทนายความ ส่งจดหมายขอหมอ ให้ช่วย กระทำ ยูทานาเซีย ให้ แต่ ทนายไม่ยอมทำเพราะเขาคงไม่อยากมีส่วนเกี่ยวกับการฆ่าคน & ติดที่แม่ของดิฉันนี้แหละคะ ท่านไม่ยอมให้ดิฉันตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2013
  11. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ยิ่งอ่านยิ่งน่ากลัวนะครับ แสดงว่าจิตใจมีทุกข์มาก จนถึงกับอยากตาย
    ธรรมดาคนเราต่างก็รักชีวิตตนกันทั้งนั้น ยิ่งคนที่ฆ่าตัวตายก็รักชีวิตตน เพราะไม่อยากทุกข์บ้าง รักตัวเองจนประชดคนอื่นที่ไม่รักเราบ้าง ผิดหวังจนหาทางออกไม่เจอก็เพราะรักตนเอง จนต้องฆ่าตัวตายด้วยความรักตนเองนี่แหละ
    หากเรามีทุกข์ แต่ไม่ยอมรับว่าเราทุกข์ใครจะช่วยเราได้ ในเมื่อตัวเราเองยังหลอกตัวเอง นักปฏิบัตินั้น แม้ใจกระเพื่อมนิดเดียวก็ต้องบอกว่าใจเป็นทุกข์แล้ว ไม่ใช่ยังหลอกตัวเองว่าสุขสบายดีอยู่ ด้วยการอวดว่าตนมีเสื้อผ้าดีๆ มีอาหารดีๆ กิน มีที่อยู่ดีๆ นั่นเป็นเรื่องภายนอกทั้งสิ้น ส่วนภายในใจรุ่มร้อน นั่งตรงไหนก็ไม่เป็นสุข นอนก็ครุ่นคิด ยืนก็ครุ่นคิด เดินก็ครุ่นคิด จนหาความสงบไม่เจอ เพราะเจ้าของใจ เอาใจไปเป็นทาสให้กับกิเลสใช้สอย
    หากเอาใจให้ธรรมใช้สอยแล้ว จะต้องวางใจเป็นกลาง แล้วพิจารณาตามความจริงว่า ใครๆก็ตาย ไม่จำเป็นต้องอยากตายก็ตาย หน้าที่ที่มีอยู่คืออะไรที่ควรทำ เอาชีวิตที่มีนี้ สร้างบุญบารมี ด้วยการเป็นประโยชน์ให้คนอื่น โดยเริ่มต้นจากครอบครัวไปจนถึงสังคมรอบตัว สำรวจลงไปสิว่าเกิดมานี้เราทำประโยชน์อะไรให้คนรอบข้างมากน้อยแค่ไหน ถ้ายังน้อยอยู่ก็สร้างเพิ่มเติม จะได้ไม่เป็นคนเปล่าประโยชน์ มองเห็นประโยชน์ของคนอื่นให้มากกว่าตน จิตใจจะได้เบิกบานขึ้น คนทีมีโลภะมาก ทำอะไรก็นึกถึงแต่ตนเป็นหลักนั้นจิตใจห่อเหี่ยว เป็นพวกทุกขตเข็ญใจ แม้มีทรัพย์มากมายหมื่นล้านแสนล้านก็ไม่มีความสุข
    ยอมรับทุกข์ สำรวจทุกข์ของตนแล้ว หาหนทางแก้ไข ดำริที่จะออกจากกองทุกข์ในแบบที่เป็นอยู่ จึงจะพอมีทางไป ถ้าจมอยู่ แช่อยู่ จะเอาอะไรไปคิดอ่านหาหนทางแก้ไข มันคิดไปเพ้อไปว่าสักวันจะไปบวช สักวันจะฆ่าตัวตาย แต่ปัจจุบันไม่รู้จักว่าควรทำอะไร ก็ช่วยอะไรไม่ได้
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    ดิฉันเคยมีความสุขคะ แต่ตอนนี้ไม่มีทางจะกลับไปมีความสุข ได้เท่าก่อน อีกแล้ว จะไม่ให้ทุกได้ยังไงละคะ มนุษย์ที่ดิฉันรักมากที่สุดในโลกนี้ ตายไปแล้ว
    มันมีอะไรหลายอย่างมากมาย คุณก็พูดเหมือนแม่ของดิฉันไม่มีผิดแม้แต่คำเดียว แต่คนพวกนั้นจะเข้าใจอะไรในเมื่อ สิ่งที่มันเกิดกับดิฉันมันไม่ได้เกิดกับแม่ของดิฉันหรือ คุณ พอที่จะมาว่าคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่า ฉันเจออะไรมาบ้าง และทุกวันนี้ก็ยังประสบอยู่ แต่ก็ช่างเถอะเล่าเป็นร้อยรอบ ให้คนในเวปนี้ฟัง แต่คุณคงไม่ได้อ่าน
     
  13. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    เพิ่งฟังท่านจิตโตเทศน์เรื่องอารมณ์นิพพิทาญาณแตกต่างจากอารมณ์เบื่อหน่ายชีวิตจนจิตเศร้าหมองและคิดสั้น ฆ่าตัวตายหรือไม่อย่างไร
    นิพพิทาญาณในสายวิปัสสนาญาณ เริ่มต้นจากการมองความจริง
    ส่วนคนที่เบื่อหน่ายแล้วเศร้าหมอง คิดอยากทำร้ายตัวเอง อยากหนีไปไกลๆ ไม่ได้เกิดจากการมองความจริง แต่เกิดจากการสูญเสียซึ่งตัณหา ตัวตัณหามันไม่สมใจไม่เป็นดังที่เขาคิดชีวิตก็เลยเหมือนกับว่าหมดแล้ว ก็เลยเบื่อหน่าย อยากตายทำลายชีวิตตัวเอง หนีไปไกล ๆ ก็ได้
    อารมณ์เบื่อเหมือนกัน ใช้ศัพท์เดียวกัน แต่ตัวต้นเหตุไม่เหมือนกัน ลงท้ายก็เลยไม่เหมือนกัน
    ที่มา : ปกิณกะธรรม การปฏิบัติไม่ต้องยึดแบบเสมอไป (๒๒ มิ.ย. ๕๖)
    ธรรมะบ้านสบายใจ | ธรรมะบ้านสบายใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2013
  14. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    เป็นกำลังใจให้ครับ

    DuchessFidgette มีศีลธรรมอยู่แล้ว ลองอ่านเรื่อง จริต 6 ดูสิครับ
     
  15. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    คนในบอร์ดนี้นี้อ่านภาษาไทยไม่ค่อยจะรู้เรื่องกัน แม้ บอกว่าเคยฆ่าตัวตายนานมาแล้ว ตอนนี้ไม่ได้พูดว่าจะฆ่าตัวตายสักหน่อย ส่วนตอนที่ดิฉันฆ่าตัวตายอะนะ คือ มันรู้สึกสงสาร คนที่ตาย ว่า เราช่วยเขาไม่ได้ ถ้าเขาไม่มีความสุข ไปไหนไม่ได้แล้ว นอนเป็นศพอย่าเดียว เราก็ไม่สมควรจะอยู่เสวยสุขต่อ อันนี้เป็นนิสัยของดิฉัน แต่ตอนนี้ื ไม่อยากฆ่าตัวตาย แต่อยากตายเฉยๆเบื่อกับชีวิตคนที่ รางวัลชีวิตไม่มี แต่ต้องมาคอยนั่งแก้ไขปัญหา คนเดียว คนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยก็แต่เอแต่เงิน โกหก บอก ได้เงินไปจะช่วยนั่นนี้ แต่ถึงคราวก็ เราแก้ปัญหาเองอีก เรื่อง ชีวิตดิฉันมันยาวและซับซ้อนมาก พวกคุณที่มานั่งพิมพ์กันในเวปนี้ยังดี มีญาติพี่น้อง มี คู่ มีลูก มีเพื่อน...... ดิฉัน ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว และอยู่ต่างประเทศ ในประเทศที่กฏต่างๆเคร่งครัดมาก แม้แต่บางทีป่วยจนลุกไม่ขึ้นหมอก็ยัง ไปหาไม่ได้ เพราะไม่มีใครหามส่ง รพ ก็คือถ้าป่วยก็ต้องนอนอย่างเดียวให้มันหายเอง ชีวิตแบบนี้มันน่าอยู่ต่อซะที่ไหน

    :z9 ราตรีสวัสดิ์ เช้าแล้วเดี๋ยวจะไปนอน
     
  16. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    กรรม เป็นสิ่งที่เราจะต้องรับ

    ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือ กรรมไม่ดีครับ

    เคยมีผู้ปฎิบัติ มองเห็นกรรมที่จะต้องเจอ แล้วพยายามเปลี่ยนแปลง

    ส่วนมากยังต้องเจอมากกว่าเดิม

    สำหรับผม ผมใช้วิธี สร้างกรรมดีให้มากเข้าไว้ ทาน ศีล สมาธิ

    ทาน ทำเกือบทุกวัน ศีล ตั้งใจถือ สมาธิ ทำเกือบทุกวัน

    แล้วก็มองทุกอย่างตามความเป็นจริง เพราะว่าแต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเช่นกันครับ

    พยายามทรงอารมณ์ พรหมวิหาร 4 แต่ผมจะเมตตาตัวผมเองก่อนครับ
     
  17. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    ท่าน Hastin เป็นคนมีบุญนะคะ ทำได้ครบทั้ง ทาน ศีล สมาธิ ดิฉันมีแต่ ศีล ส่วนสมาธิ ก็ไม่ค่อยได้นั่งคะตั้งแต่มาต่างประเทศ เพราะ ถ้านั่งก็มีเรื่องผีเข้ามา ส่วน ทาน ก็ไม่ได้ให้ใครที่เหมาะสม นอกจากพกคนไม่ที่น่าเลือดขูดรีดขูดเนื้อ ดิฉันมีสองอย่างที่ตัดไม่ได้ ทำให้มีทุกข์ คือ เป็นห่วง และคิดถึงคนตายที่ล่วงลับ กับ กรรมที่ต้องชดใช้ คงจะมาจนกอดีตชาติ ทำให้ดิฉันไม่ สามารถตัดกิเลส บ่วง ที่ผูกพันธ์ให้ตัวเอง กลับปรารถนาจะอยู่ในที่ที่ไม่เป็นสุข ไม่มีเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง หรือ กัลยาณมิตร ถ้าดิฉันยอมกลับมาอยู่เมืองไทย ทุกอย่างก็จะเรียบง่าย แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเอง ยอมทนอยู่ในที่ที่ไม่ใครช่ว ยเหลือ หรือพึ่งพาได้ เพียงแค่เพราะเป็นเมืองนอก ดิฉันจึงอยากอยู่มากกว่าเมืองไทย
     

แชร์หน้านี้

Loading...