ช่วยด้วยค่ะ นั่งสมาธิไม่ได้ค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Cpnnan29, 11 กรกฎาคม 2013.

  1. Cpnnan29

    Cpnnan29 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +18
    นั่งสมาธิมาหลายครั้ง พอสมาธิเริ่มนิ่ง หัวใจจะเต้นเร็วและแรงมากค่ะ รู้สึกได้เลยค่ะ เกิดจากอะไรค่ะ
    จะเป็นอะไรไหมค่ะ และควรทำอย่างไรต่อไปค่ะ
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    มันเต้นของมันปกติแบบนั้นแหละ เพียงแต่เมื่อก่อนไม่เคยสัมผัสได้ เพราะสภาวะอื่นมันบังหมด ก็ทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นครับ
     
  3. โอสถฤาษี

    โอสถฤาษี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +234
    กะมาถูกทางแล้วนี่ครับ คนไม่รู้จะกลัวแล้วก็เลิกนั่งไปเลยก็มี สภาวะก่อนแยกจิตออกจากกายก็จะเป็นเช่นนี้ เพียงแต่บางคนหนักเบาไม่เหมือนกัน ถ้านั่งแล้วรู้สึกอย่างนี้น่าจะนั่งจับลม พุทโธ รึเปล่าครับ ถ้ารู้สึกกลัวหรือไม่กล้าฝึกต่อ ลองเปลี่ยนมาจับภาพพระดูก็ได้นะครับ จะได้ให้ท่านเป็นครูบาอาจารย์ในการนั่งสมาธิไปในตัว แต่ถ้านั่งแล้วไม่ถูกจริตก็นั่งแบบเดิมไป แต่ให้ทำใจข้ามไป ไม่ไปยึดเกาะมันไว้ พอรู้สึกใจเต้นแรงก็ให้จับอารมณ์ว่าเราจะข้ามมันไปเหมือนเดินข้ามลำน้ำเล็กๆ แล้วไม่ต้องไปจิตนาการต่อนะครับ ว่าเดินข้ามไม่พ้น - -* มันจะเดินข้ามหรือจะเดินลุยก็ให้รู้แค่อารมณ์ว่าเราข้ามไปแล้ว เจริญในธรรมครับ อนุโมทนาด้วย ใกล้ผ่านละ ^.^
     
  4. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    นั่งเฉยๆเป็นมั้ยครับ
    ลองนั่งเฉยๆดูก่อน แล้วก็ว่าพุทโธๆๆ สัก สิบครั้ง ในสิบครั้งนี้ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น
    เอาแค่นี้ให้ได้ก่อน
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เกิดจาก จิตไม่เคยชิน ไม่เคยรู้จัก ความสงบ สงัดจากนิวรณ์
    จากกามคุณ5(รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส) มาก่อน

    พอมาเจอ ความสงบ สงัด ที่เป็น สุขใจ ที่ต่างกันออกไปแบบ
    สุขโลกๆ(สุขจากการคุย สวนเสเฮฮา แอ๊บแบ๊ว เทคดราม่าอารมณ์
    นางเอก ฯลฯ) มันก็เหมือน " รักแรกพบ " ขึ้นมา

    พอเจอครั้งแรก ความสุขที่มีเหตุมาจากความสงัด จิตมันตื่นเต้น

    ทีนี้

    จิต มันไม่ใช่คน ตัวตน บุคคล เรา เขา

    เวลาจิตมันเจอ สิ่งที่ใช่ ที่สมควรแก่ธรรม และ ความที่ไม่ใช่ ของๆเรา
    ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ เป็นเพียง ธาตุที่แล่นเข้าไปจับสัมผัส "ความสงัด"
    บางประการได้ จิตมันก็เลยมีเหตุให้เกิด " รักแรกพบ " ด้วยตัวจิตเอง

    ไม่เกี่ยวกับคนภาวนา

    เวลาคุณไป แย่ง หรือ พยายามจะ ฉกฉวย ผลงานภาวนา ว่า ตัวกูนี้หนอ
    ได้อะไรมา เสียอะไรไป ก็เลย รู้สึกว่า.....มันไม่มีเหตุมีผล

    กลายเป็นว่า ไปต่อว่า จิต ที่ได้สัมผัสความสุขอันเกิดจากความสงัด

    แต่ ความสุขนั้นกลายเป็นเรื่องของจิต ไม่ใช่เรื่องของ คนภาวนา

    พอมันไม่ได้เป็นเรื่องของคนภาวนา ก็เลย สำคัญไปว่า มันไม่มีเหตุไม่มีผล

    ทั้งๆที่ จิตเขากำลังเสพคุ้นสิ่งที่ดี กำลังได้รับการอบรม

    ดังนั้น

    ไม่ต้องไปถามว่า มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ

    ให้วางใจร่มๆ เอาศรัทธาต่อพระพุทธองค์ นำหน้าไปเลย แล้วอย่า
    ไป ทวงถามว่า ฉันได้อะไรค่ะ ฉันเป็นอะไรค่ะ ฉันเสียอะไรไป
    หรือเป่าค่ะ ............. ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของจิต ที่จะน้อม
    ไปสู่ความสงัด ความสุข

    ทำไปเรื่อยๆ ก่อน ยกเห็นความเป็น อนัตตาของจิตด้วยศรัทธา
    ถวายให้พระพุทธองค์นำพาไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันว่า

    หลังจากความสงบ สงัด มันมีความเป็น กลางต่อการเห็นความแปรปรวน
    มีจิตตั้งมั่น กำจัดอภิชญา และ โทมนัสในกาลก่อนๆ ได้หรือไม่อย่างไร
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG]
     
  7. Tonsoon

    Tonsoon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +14
    อ่านความคิดเห็นท่านผู้รู้จากข้อความข้างบนนี้แล้ว ลองนั่งสมาธิใหม่ และสังเกตว่าเหมือนเดิมหรือไม่ ค่อยๆเป็นไปวันละ 5-10 นาที แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้นไปวันละ5นาที พยายามด้วยความเพียรต่อไปครับ
     
  8. Cpnnan29

    Cpnnan29 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +18

    ขอบคุณค่ะ จะนำไปฝึกค่ะ
     
  9. Cpnnan29

    Cpnnan29 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +18

    ขอบคุณมากๆค่ะ จะพยายามฝึกต่อไปค่ะ
     
  10. Cpnnan29

    Cpnnan29 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +18
    นั่งเฉยๆยังไม่เป็นค่ะ จะเป็นช่วงที่สมาธิเริ่มนิ่งค่ะ

    ขอบคุณค่ะ จะนำไปปฏิบัติค่ะ
     
  11. BobTL

    BobTL Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +79
    ............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2014
  12. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    เวลาคุณอ่านหนังสือ และรู้สึกว่า รู้เรื่องเข้าใจดี

    ใจจดจ่ออยู่กับเนื้อความในหนังสือ

    นั่นละ คุณมีสมาธิแล้ว (คุณทำสมาธิ อยู่กับปัจจุบัน ณ ขณะนั้น)

    คุณจะไปตื่นเต้น ตุ๊บๆ ตั๊บๆ ทำเพื่อ??
     
  13. ธราธิป3854

    ธราธิป3854 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +8
    กำหนดรู้ไปเลยสิครับ เป็นการเจริญสติไปในตัว ถ้าจิตไปจับอยู่ที่ใจ ก็กำหนดรู้ว่า ใจเต้นหนอๆ ๆ ไปเรื่อยๆ
     
  14. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    727
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,505
    <object width="400" height="315"><param name="movie" value="//www.youtube.com/v/N6xNpbS_ex0?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="//www.youtube.com/v/N6xNpbS_ex0?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="400" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object> <object width="400" height="315"><param name="movie" value="//www.youtube.com/v/wBF51ftnD-s?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="//www.youtube.com/v/wBF51ftnD-s?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="400" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กรกฎาคม 2013
  15. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ เป็นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย อยู่นั้นเป็นอย่างไรเล่า ...............ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุเป็นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายคือ นิวรณ์ห้าอย่างอยู่ นั้นเป้นอย่างไรเล่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในกรณีนี้ ภิกษุ รู้ชัดซึ่ง กามฉันทะอันมีอยู่ภายใน ว่ามีอยู่ .......รู้ชัดซึ่งกามฉันทะอันไม่มีอยู่ในภายใน ว่าไม่มีอยู่ รู้ชัดซึ่งการเกิดขึ้นแห่งกามฉันทะที่ยังไม่เกิดขึ้น ว่าเกิดขึ้นอย่างไร รู้ชัดซึ่งการละกามฉันทะที่เกิดขึ้นแล้ว ว่า ละไปแล้วอย่างไร รู้ชัดซึ่งการไม่เกิดขึ้นอีกแห่งกามฉันทะที่ละแล้ว ว่าไม่เกิดขึ้นอีกอย่างไร(ในกรณีแห่งนิวรณ์ คือ พยาบาท ถินนะมิททะ อุทะัจจะ กุกุจจะ วิจิกิจฉา ก็มีข้อความที่ตรัสว่า ภิกษุรู้ชัดทำนองเดียวกันกับในกรรีแห่งกามฉันทะนิวรณ์ ข้างบนนี้) ด้วยอาการอย่างนี้แล ที่ภิกษุเป็นปรกติพิจารณาเห้นธรรมในธรรมทั้งหลาย อันเป็นภายในอยู่บ้าง ในธรรมทั้งหลายอันเป้นภายนอกอยู่บ้าง ในธรรมอันเป้นทั้งภายในและภายนอกอยู่บ้าง และเป้นผู้มีปรกติพิจารณาธรรมเป็นเหตุเกิดขึ้น ในธรรมทั้งหลาย อยู่บ้าง เห้นธรรมเป็นเหตุเสื่อมไป ในธรรมทั้งหลายนี้อยู่บ้าง เห็นทั้งธรรมเป็นเหตุเกิดขึ้นและเสื่อมไป ในธรรมทั้งหลายนี้อยู่บ้าง ก็แหละสติ ว่าธรรมทั้งหลายมีอยู่ ดังนี้ของเธอนั้น เป็นสติที่เธอดำรงไว้เพียงเพื่อความรู้เพียงเพื่ออาศัยระลึก ที่แท้เธอเป็นผู้ที่ตัรหาและทิฐฐิอาศัยไม่ได้ และเธอไม่ยึดมั่นอะไรอะไรในโลกนี้ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชื่อว่าเป้นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นธรรมธรรมในธรรมทั้งหลาย คือ นิวรณ์ห้าอย่างแม้ด้วยอาการอย่างนี้...........................................ภิกษุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย คือ อุปาทานขันธิ์ห้าอย่างอยู่ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีปรกติพิจารณาเห้นธรรมในธรรมคืออุปาทานขันธิ์ห้าอย่างอยู่ นั้นเป็นอย่างไร เล่า ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห้นว่า รูปเป็นอย่างนี้ เหตุเกิดให้เกิดรูปเป็นอย่างนี้ ความสลายแห่งรูปเป้นอย่างนี้ เวทนาเป็นอย่างนี้ เหตุเกิดแห่งเวทนาเป็นอย่างนี้ ความสลายแห่งเวทนาเป็นอย่างนี้ สัญญาเป็นอย่างนี้ เหตุเกิดแห่งสัญญาเป็นอย่างนี้ ความสลายแห่งสัญญาเป็นอย่างนี้ สังขารทั้งหลายเป้นอย่างนี้ เหตุเกิดแห่งสังขารทั้งหลายเป็นอย่างนี้ ความสลายแห่งสังขารเป็นอย่างนี้ วิญญานเป็นอย่างนี้ เหตุให้เกิดวิญญานเป็นอย่างนี้ ความสลายแห่งวิญญานเป็นอย่างนี้ดังนี้ ด้วยอาการอย่างนี้แล ที่ภิกษุเป็นผู้มีปรกติ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย อันเป็นภายในอยู่บ้าง ในธรรมทั้งหลายอันเป็นภายนอกอยู่บ้าง ----(คำที่ละไว้เหมือนตอนท้ายของหมวดนิวรณ์ จนถึงคำว่า---ไม่ยึดมั่นอะไรในโลกนี้) ภิกษุทั้งหลายภิกษุชื่อว่า เป้นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย คือ อุปาทานขันธิ์ห้าอย่างอยู่แม้ด้วยอาการอย่างนี้---(อริยสัจจากพระโอาฐ์ ท่านพุทธทาสหน้าที่ 1226)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2013
  16. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า มาร มารดังนี้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไร เล่า จึงถูกเรียกว่ามาร พระเจ้าข้า .....................ราธะ เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญานมีอยู่ จะพึงมีมาร มีผู้ให้ตาย หรือว่าผู้ตาย ราธะ เพราะฉนั้นในเรื่องนี้ เธอจงเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาน ว่าเป็นมาร เห้นว่าเป็นผู้ให้ตาย เห็นว่าผู้ตาย เห็นว่าเป็นโรค เห็นว่าเป็นหัวฝี เห็นว่าเป็นลูกศร เห็นว่าเป็นทุกข์ เห็นว่าเป็นทุกข์ที่เกิดแล้ว ดังนี้ พวกใดย่อมเห็น รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญานนั้น ด้วยอาการอย่างนี้ พวกนั้นชื่อว่า ย่อมเห็นโดยชอบแล .............ข้าแต่พระองคืผู้เจริญ สัมมาทัสนะ(ความเห็นชอบ) มีอะไรเป็นประโยชน์ที่มุ่งหมายเล่า พระเจ้าข้า..............ราธะ สัมมาทัสนะ มีนิพพิทา(ความเบื่อหน่าย) เป้นประโยชน์เป็นที่มุ่งหมาย...............ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็นิพพิทา(ความเบื่อหน่าย) มีอะไรเป็นประโยชน์เป็นที่มุ่งหมายเล่า พระเจ้าข้า ..............ราธะ นิพพิทาแล มีวิราคะ(ความจางคลายไป) เป้นประโยชน์เป็นที่มุ่งหมาย....................ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็วิราคะ มีอะไรเป็นประโยชน์เป็นที่มุ่งหมายเล่าพระเจ้าข้า...................ราธะ วิราคะแล มีวิมุติ (ความหลุดพ้น)เป็นประโยชน์เป็นที่มุ่งหมาย...................ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็วิมุติ มีอะไรเป็นประโยชน์เป็นที่มุ่งหมายเล่าพระเจ้าข้า ราธะ วิมุติแล มีนิพพาน เป็นประโยชน์เป็นที่มุ่งหมาย...............ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ นิพพานมีอะไรเป้นประโยชน์เป้นที่มุ่งหมายเล่าพระเจ้าข้า .............ราธะ เธอได้ถามเลยปัญหาเสียแล้ว เธอไม่อาจจับฉวยที่สุดของปัณหาได้ ราธะ ด้วยว่าพรมจรรย์ ที่ประพฤติกันอยู่นี้แล ย่อมหยั่งลง สู่ นิพพาน มีนิพพานเป้นที่สุดท้าย----ขนธ.สํ.17/231/366(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาสหน้าที่422-423)
     
  17. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    คุณไปเอาจริงเอาจังกับการเพ่งลมหายใจเข้าออกมากเกินไปเลยเคลียดหัวใจเลยเต้นแรงนะคะเวลานั่งอย่าไปคิดอะไมาก ไม่ต้องไปเอาจริงเอาจัง คิดว่าลองนั่งดูเฉยๆ เดี๋ยวพอนั่งไปนานๆ มันจะสบายและ ลมหายใจจะเบาจนหายไปเลย และมันจะนิ่งแบบไม่อยากเลิกนั่ง ทำนองนั้น
     
  18. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    วิตกมากไป
    วิจารณ์ให้มากตาม
    พิจารณา
    ปิติที่เกิด
    สงบหรือฟุ้ง
    สุขหรือทุกมาขัง

    ลองนั่งลืมตาดูเฉยๆก่อนจับลมหายใจด้วยพอเข้าที่ลองหลับตา
    มารตัวเล็กๆเองขอรับ
    แต่ท่านต้องระวังเพราะท่านตื่นเต้น
    หากไปดูไปรู้อะไรแล้วไปเต้นตื่นตามอีกยุ่ง
    ดูเฉยๆ
    รู้เฉยๆ

    เขาดูเขารู้กันมาก่อนเรามากมายแล้วเราพึ่งมาดู
    หรือไม่อย่างไรขอรับ
     
  19. Cpnnan29

    Cpnnan29 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +18


    ค่ะ จะฝึกไปเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  20. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ธรรมชาติมันเป็นยังงั้น มันก็เป็นยังงั้นของมัน โยคีพึงรู้ตามที่มันเป็น ถ้าไปทำไปคิดให้มันเป็นตามความยึดความอยากของตัวเอง ความต้องการของตัวจึงขัดแย้งกับธรรมชาติ

    ยกตัวอย่างให้ดู ธรรมชาติคือฝนมันตก เราก็รู้ว่ามันตก (รู้ตามที่มันเป็น) แต่ฝนตก เราไม่ชอบไม่ต้องการให้ฝนตก เพราะ....ฝนนั้นก็กลายเป็นขัดกับความต้องการของตัวเอง

    นิพพานคืออะไร ? - Wunjun Group
     

แชร์หน้านี้

Loading...