ไม่ผ่านเวทนานุสติคุยเรื่องจิตเลยได้ไหม

แล้วพอมีที่ไหนที่เพื่อนพอจะแนะนำให้ผมไปศึกษาที่อื่น
เรื่องเวทนานุนี้ที่ไหนมีอีกหรือไม่ขอรับ
กรุณาช่วยแนะนำด้วยขอรับ

 

กระผมคืดว่าท่านจั่วรัมมี่รอตำรวจแน่เลยขอรับ

 

ปลดป้ายเวปไปเลยขอรับ
เวทนานุสติอธิบายไม่ได้ไปสอนเรื่องจิต

มะหน่อจะมาอีก

 

ทำได้ครับ แต่มันจะหล่น ถ้าไม่ผ่านก่อน ฐานไม่แน่น จากสมาธิตั้งมั่นทุกอิริยาบถในการใช้ชีวิตปกติในกายาฯ เริ่มควบเข้าตัดด้วยวิปัสสนาฯเบาๆ จะเริ่มจับอาการสัมผัสได้ รอยต่อของเวทนาจะอยู่ตรงนี้ แล้วจะเห็นวงรอบปฏิจสมุบาท รางๆ เห็นอาการทำงานของจิตไปพร้อมๆกัน พอเริ่มย้อนต้นใหม่ก็จะชัดขึ้นเรื่อยๆ เป็นอัตโนมัติ ที่ว่า กาย เวทนา จิต ธรรม ได้แค่นี้ครับ ตรงตัดธรรม ยังตอบไม่ได้ ลองดูสิ่งที่คุณชอบ แล้วค่อยๆจับไปครับ เดี๋ยวก้อเจอ

ป.ล. บ่นดังจัง สมาธิดีใช้ได้ครับ ^_^

 

ภาวะ3นา สแกน บนลงล่าง ซ้ายไปขวา ตามกำลังของสติ
เมื่อผัสสะกระทบ
เห็นความแปรปรวน ไม่เที่ยงในฐานที่มั่นอันเดิม เคยสงบ
เช่นโดนด่า โดนพรากสิ่งอันพอใจ
ฐานกาย มันเคยดีๆ ตอนนี้แปรปรวนละ มีสั่น ขบฟัน มีใจสั่น
ฐานเวทนา มีความไม่พอใจ
ฐานจิตมีความคิด มากมายเกิดขึ้น
สติตั้งมั่นดู เราเห็นสิ่งหล่าวนี้เกิดขึ้น

ในทางกลับกัน ถ้าตั้งมั่นไม่อยู่ ก็หลงอารมณ์ จมไปกับโลก กิเลสขี่คอทำชั่วแล้ว ฆ่าคนอื่น ฆ่าตัวเอง

ผลที่เกิด จะงวดเข้าสู่ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เหมือนเกาะไม่ติดในอารมณ์ของใจ น้ำกลิ้งบนใบบอน

ทำไมเป็นขั้นเป็นตอน เพราะจิตละเอียดขึ้นเรื่อยๆ ความแปรปรวนดับเร็วขึ้นเรื่อยๆ คือ ต่อไปเมื่อผัสสะกระทบฐานกายไม่หวั่นไหว
ฐานเวทนาไม่หวั่นไหว
เห็นไหวที่ความคิด แต่ดับไวขึ้นไปเรื่อยๆ

 

พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่นั้นเป็นอย่างไรเล่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อเสวยเวทนาอันเป็นสุขก็ตาม ย่อมรู้ชัดว่าเราเสวยเวทนาอันเป็นสุข เมื่อเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์ ก็ตาม ย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์ เมื่อเสวยเวทนาอันไม่ใช่ทุกขืไม่ใช่สุขก็ตามย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยเวทนาอันไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุข เมื่อเสวยเวทนาอันเป็นสุขเป็นไปกับด้วยอามิสก็ตาม ย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนาเป็นไปกับด้วยอามิส เมื่อเสวยเวทนาอันเป็นสุขปราศจากอามิสก็ตาม ย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนาอันปราสจากอามิส เมื่อเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์เป้นไปกับด้วยอามิสก็ตามย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนาเป็นไปกับด้วยอามิส เมื่อเสวยเวทนาอันเป้นทุกข์ปราศจากอามิสก็ตามย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนาอันปราศจากอามิส เมื่อเสวยเวทนาอันไม่ใช่ทุกขืไม่ใช่สุข อันเป็นไปกับด้วยอามิสก็ตามย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยอทุกขมสุขเวทนาเป็นไปกับด้วยอามิส เมื่อเสวยเวทนาอันไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขอันปราศจากอามิสก็ตาม ย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยอทุกขมสุขเวทนาอันปราศจากอามิส ด้วยอาการอย่างนี้แล ที่ภิกาุเป็นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอันเป็นภายในอยู่บ้าง ในเวทนาทั้งอันเป็นภายนอกอยู่บ้างในเวทนา ทั้งภายในและภายนอกอยู่บ้าง และเป้นผู้มีปรกติพิจารณาเห็นธรรมเป็นเหตุเกิดขึ้น ในเวทนาทั้งหลายนี้อยู่บ้าง เห็นธรรมเป็นเหตุเสื่อมไปในเวทนาทั้งหลาย อยู่บ้าง เห็นทั้งธรรมอันเป็นเหตุเกิดขึ้นและเสื่อมไปในเวทนาทั้งหลายอยู่บ้าง ก็แหละสติ ว่า เวทนาทั้งหลายมีอยู่ ดังนี้ของเธอนั้น เป้นสติที่ดำรงไว้เพียงเพื่อความรู้ เพียงเพื่ออาศัยระลึก ที่แท้ เธอเป็นผู้ที่ตัรหาและทิฎฐิอาศัยไม่ได้ และเธอไม่ยึดมั่นอะไรอะไรในโลกนี้ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชื่อว่าเป้นผู้มีปรกติพิจารณาเห้นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่ แม้ด้วยอาการอย่างนี้----นัยแห่งมหาสติปัฎฐานสูตร -10/332/288...

 

สงสัย หรือ ลังเลในสิ่งต่างๆที่ทำอะครับได้กำหนดไหม
ถ้ากำหนดนะจิมันจะไม่ไหลอย่างนี้
กำหนดเลยตามความเป็นจริง เดี๋ยวจิตมันจะปรุ่งเเต่งไปของมันเอง
เเล้วเดี๊ยวก็เจอครับไม่ต้องไปหาหรอกครับเดี๋ยวมันก็มาหาเอง
ปฎิบัติมาก ๆ เเล้วจะเข้าใจ

 

กราบขอบพระคุณขอรับ

แล้วถามว่าจับเวทนาไปเรื่อยๆ
คือมรรค

ผล

ของเวทนานุสติเป็นอย่างไรหรือขอรับ

 

ถามว่าเมื่อเวทนาไม่ผ่าน
หรือผ่านแล้วว่าจิตไม่หวั่นไหว

เห็นความคิดของตัวเองไปเรื่อยๆ
ละเอียดขึ้นไวขึ้น
ไวเท่าใด

มีพระท่านหนึ่งท่านเรียกว่าจิตอัตโนมัติอธิบายได้อย่างไรหรือขอรับ

ตรงนั้นจติหรือตัวเราเราเป็นจิต
จิตเป็นเรา
หรือเราเป็นอิหยังขอรับ

 

เวทนารู้

แต่ยังไม่ครึ่ง
เมื่อเห็นสุขและทุกมีความเป็นเท่า
บางครั้งเขาหลงมากกว่าครึ่งหรือไม่อย่างไร
ทำอย่างไรให้เขาหลงเท่ากัน


คือสุขครึ่งหนึ่งทุกข์ครึ่งหนึ่ง

แล้วจะก้าวเข้าสู่จิต
ดีชั่วหรือไม่อย่างไร

 

อัตตะมีไม่จ๋งจั๋ยเลย
หากอัตตมาแล้วสงจริงๆ
ความจริงและความลิงเป็นสมมุติ
จะจริงหรือลิงมีทุก

กาย
เวทนา
จิต
ธรรม

หรือไม่อย่างไรขอรับ

 

1 คุณจะสงสัยหรือไม่สงสัยก็กำหนดอย่างเดียวสิ ^^
2 จริงหรือก็ลิงปัญญาคุณจะเป็นตัวตอบเองครับผม ^^

 

กำหนดอย่างไรขอรับ
พอกำหนดแล้วคำตอบจะแสดงออกมาทางปัญญาเลยหรืออย่างไร
แล้วคำตอบที่ได้นั้นเที่ยงหรือไม่
เที่ยงมีไหม
ไม่เที่ยงมีหรือไม่อย่างไร

อย่างไรเที่ยงไม่เที่ยงหรือขอรับ
และตรงนี้สงสัยเรียกเวทนานุสติหรือไม่อย่างไร
หรือสงสัยเป็นเรื่องของจิต

ถ้าไม่ข้ามเวทนามาก่อนแล้วน้าจิตจะรอดไหมขอรับ
เอาง่ายๆรู้สึกฟุ้งซ่าน
กับผลของความฟุ้งซ่านไปอยู่ที่รู้สึกหรืออย่างไร

 

1 กำหนดตามความเป็นจริง ไห้ทันปัจจุบันของจิตครับ
2 กำหนดได้เดี๋ยวจะเห็นเอง ว่า มีอะไรหรือไม่เเละอย่างไร
3 อันนี้ เตือน มะหน่อนะ. อย่าไหล ต้องตามไห้ทัน
4 ผมอยากไห้มะหน่อเหนเอง ผมไม่อยากบอกมะหน่อหมด ไม่อย่างนั้น ปัจจัตตังจะไม่เกิด เเล้วตัวปัญาของมะหน่อจะไม่พ้นไปตามขั้นของมัน. บอกไปเดี๋ยวมันจะไปติด ไปหลง เปนอย่างอื่น เอา จึงไห้เหนเองดีกว่า

 

ไม่ต้องไปเตือนหรอกมั้ง เสียเวลา

ถ้า ตั้งคำถามมาว่า ต้องกายก่อนหรือเปล่า ต้องเวทนาก่อนหรือเปล่า ข้ามขั้นได้ไหม
อะไรทำนองนี้

มันก็ เห็นได้อยู่แล้วว่า เป็นพวกไม่เคยลงมือปฏิบัติ......มัวแต่คิด เปรียบเทียบ

ตอบไป ก็เสียเวลาเปล่าๆ

อยากให้คนชี้แนะ แต่ก็ มัวแต่พูดภาษาประหลาดๆ .... ไม่จริงใจต่อตนเอง
มันก็มีอยู่เคสเดียว คือ แค่มาอวดความคิด ไม่ใช่ เจตนาจะมาถามเอาคำตอบ
เพื่อไปฝึกหัดอะไร

ถ้าเป็นม้า ก็ปลดบังเหียน ปล่อยเข้าป่าไปได้เลย ไม่ต้องพาไปฝึก

 

โอมายกอด
บอดีกอด
แล้วคนที่เลวกว่าท่านท่านเหยียบศรีษะเขาขึ้นมาหรือ
หรือท่านยอมเอาหัวของท่านให้คนอื่นเหยียบเพื่อให้เขาไปรอด

การสร้างปัญญา
สัญญา
อัญญา

ต้องเอาตัวเองเป็นอินดิเคเตอร์ให้คนอื่น...วัด
หรือวิกันละขอรับ
วิไหนหรือ

ยังไม่วิไปล่อพี่วินมอเตอร์ไซด์ข้างซอย
ก็ข้างวิหารอย่างนั้นหรือขอรับ

ปาปโก
ปาปกรรม

 

โรงเรียนมีอีกมาก
อย่าร.ร.แล้วกัน

 

หากทำให้คนเกิดปัญญา
คงกำหนดวิธีคิด
เหมือนพระพุทธองค์ท่านกำหนดขันธ์มีห้า
นิวรณ์มีห้า
ครบสิบตัสสะแปรว่าสิบหรือไม่

และสติปัฏฐานมีสี่
ไม่มีกายไปมีเวทนาได้ไหม
ไม่มีเวทนาแล้วเกิดจิตเลยหรือไม่อย่างไร

แล้วที่เราทำอยู่ทุกวันในการปฏิบัติ
กายไปได้ครึ่งหนึ่งตอนไหนมรรค
แล้วอีกครึ่งตรงไหนผล

แล้วมีผลอย่างไรกับเราในชีวิตประจำวัน
ปัจจุบันไหม
สังเกตุก็เกิดยาไหมที่เอามาแบ่งปัน
สิ่งที่แบ่งปันต้องเป็นชิพไหม

 

เป็นอย่างไรหรือขอรับ
หากเป็นแล้วสื่อเพื่อก่อประโยชน์กับมวลสมาชิกได้หรือไม่