วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พี่บุญทรงที่พี่เล่ามาสิ่งที่เลวร้ายต่างๆที่มันผ่านเข้ามา และพี่ผ่านเข้าไป ถือเสียว่าใช้หนี้เขา ใช้หนี้กรรมไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานในพระพุทธศาสนาหรือการดำรงค์ชีวิตที่มันยากลำบาก ถ้าย้อนกลับไปได้เหมือนเราเล่นเกม ตอนนี้เราพลาดไปแล้ว หากมีโอกาสหยอดเหรียญเล่นใหม่เราก็จะระมัดระวังมากขึ้น ถึงจะแพ้ก็แพ้น้อยลง ก็อยากจะบอกพี่ว่าหลังแต่นี้ไปอดีตที่ผ่านมาเรารู้แล้วว่าเดินแบบใหนมันลำบาก

    คำว่าลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ หรือยอมหักแต่ไม่ยอมงอนั้น บางเรื่องมันไม่เป็นประโยชน์กับเรามันกลับไปเป็นประโยชน์กับผู้อื่นอาศัยมานะทิฐิของเราเป็นเครื่องมือ เราก็เลยกลายเป็นเหยื่อของอะไรต่อมิอะไรไป เป็นเหยื่อล่อให้ท้ายสุดเราก็ไปอบายภูมิ พี่บุญทรงคำว่าปิ้งปลาประชดแมวนั้นพี่ลองหันกลับหลังไปดูนะว่าพี่ปิ้งปลาไปแล้วกี่ตัว ทางที่ดีจากนี้ไปพี่เปลี่ยนมาเป็นปิ้งแมวประชดปลาดูบ้าง หยามได้ฆ่าไม่ได้ ยอมงอไม่ยอมหัก นักเลงก็ต้องมีการถอยมีการหลีก มีการหลบ

    พี่อย่าลืมว่าหน่วยรบพิเศษคอมมานโดที่มีหัวหน้ารบฉกาจฉกรร อย่างพ่อกำนันจันทร์ แห่งบ้านบางระจันทร์อันลือลั่นยังพาพวกเราเผ่นอ้าวไปตั้งหลักฟัดน้ำตาลโตนดแก้คอแห้งกับท่านสมเด็จพระเจ้าพ่อตากสินมาแล้ว เพราะขืนยืนโด่ มีหวังไม่ได้กลับไปเห็นหน้าน้องเมียเป็นแม่นมั่น

    ตอนนี้เราก็เริ่มแก่เฒ่ากันแล้วก็พากันหันหน้าเข้าวัด ฟังธรรมจากสีกาสั่งนาคที่เขาถูกอบรมบ่มนิสัยจริยามารยาทดีมีสกุล ให้เขานั้นสั่งสอน พุทธภูมิอย่างเราๆเนี่ยหลวงพ่อบอกว่ากดหัวกันไม่ค่อยลง มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะกดหัวลงได้ไม่งั้นท่านบอกว่าชูหัวโด่อยู่นั่นแหละมันไม่ค่อยยอมใคร เพราะความที่ชูหัวโด่นั่นแหละบางทีมันถึงได้โด่ไปหาแข้งเขาเข้าให้คอแทบหักมานี่อย่างพี่อย่างผมนี่แหละ

    ที่นี้เมื่อเราไม่ได้พบองค์สมเด็จ แต่เราก็มาพบหลวงพ่อ ที่ท่านกดหัวลงได้ แล้วตอนนี้เมื่อท่านไม่อยู่ แล้วเราก็เริ่มแก่กันแล้วก็น่าจะเอาหัวหลบแข้งเขาเสียบ้าง แล้วจะมีใครสั่งสอนให้หลบได้เล่า โธ่เอ๋ยแล้วจะได้ใครสั่งสอนอบรม มองไปมองมาก็เห็นแต่สีกาที่พอจะเป็นที่พึ่งได้ เพราะถ้าไม่ใช่สีกา ไปให้พระท่านสอน เราก็เสือกจะไปแสนรู้อวดดีกับพระท่านได้อีก ดังนั้นเมื่อเข้าวัดพี่ก็จงให้สีกาท่านสอนสั่งให้นะพี่นะ ลูกผู้ชายชาตรีชาตินักเลงนั้นเก่งกับใครก็ได้ไม่เคยยอมกลัว แต่เมื่อเข้าเขตบ้านนี่ความเก่งต้องวางไว้เสียที่นอกประตูทางเข้าบ้าน ในบ้านนี่ห้ามเก่งจอมยุทธที่เกรียงไกรอย่างไรก็ต้องวางกระบี่ แม้คาวบอยชักปืนเร็วยิงปืนแม่นอย่างในหนังฝรั่งจังโก้ทั้งหลายก็ต้องปลดเข็มขัดปืนจากเอว จะยืนหัวโด่ไม่เคารพสถานที่นี่ ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน ในบ้านน่ะให้รู้ซะบ้างว่าใครเขาเป็นใหญ่ คนเป็นนักเลงมีอำนาจใครๆก็ยำเกรงเมื่อเข้าบ้านถูกเมียใช้ให้ถูบ้านซักผ้าหุงข้าวตักน้ำผ่าฟืนตัวมอมอย่างแมวโดยมีน้องสาวเมียยืนเท้าสะเอวตวาดแว๊ดๆไม่กล้าเถียงสักคำ มันจะเป็นอะไรไปผมว่ามันน่าเอ็นดูดีนะ หลวงพ่อยังบอกว่าคนถ้าอยู่ในโอวาทเมียนี่มักได้ดี
     
  2. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องของบุพาการีนั้นก็หาทางพาท่านให้พ้นสภาพอย่างนั้นเอาในเบื้องต้นก่อนคือหาทางให้ท่านได้ถวายทานก่อนถ้าเห็นว่าอย่างอื่นยังลำบาก เรื่องธัมมะเอาไว้ก่อน สำหรับคนถ้าบารมีต้นพูดอย่างอื่นไม่รู้เรื่องพูดได้แค่ทาน ยังไงๆก็หาทางให้ทำทาน เพื่อความมั่งคั่งในอนาคต ชาติต่อไป

    สองหาทางให้ได้ถวายพระไตรปิฎกไว้เป็นทุนด้านปัญญา

    สามหาทางให้สร้างพระพูทธรูป ซ่อมแซมพระพุทธรูปปิดทองประดับเพชรอะไรก็ว่าไป หาทางหลอกล่อให้เก็บกวาดบริเวรเขตของวัดวาอารามต่างๆ เพื่อที่ต่อไปจะเป็นคนสวยรูปทรงดี

    หนึ่ง คนเราอย่างน้อยถ้าหากว่าเกิดมามีรูปร่างหน้าตาผิวพรรณทรวดทรงดี

    สอง ถ้ามีโภคทรัพย์มากกินใช้อย่างไรกี่ชาติก็ไม่หมด

    สาม มีปฏิภาณปัญญาดี

    สี่ มีเดชอำนาจมาก


    อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมดก็ไม่ลำบากมากถ้าหากท่านยังท่องเที่ยวไปในวัฏสงสารยังไม่เข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด สักวันในอนาคตกาลเมื่อไปเผชิญทุกข์จากเรื่องโน้นเรื่องนี้สะสมไปเรื่อยๆ แม้วันนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเข้าหาพระ สักวันในอนาคตกาลอานิสงค์ที่ได้ถวายพระไตรปิฏกเข้าไว้ก็จะส่งผลให้ท่านมีปัญญาได้ระลึกนึกที่จะเข้าหาพระเอง เราไปเร่งอะไรท่านคงไม่ได้ มีแต่จะก่อเวรภัยให้มากขึ้น

    นักปฏิบัติเบื้องต้นสิ่งที่จะต้องทำต้องมีถ้าจะเอาดีกันตามสายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อก็คือพรหมวิหารสี่เป็นภาคพื้น ด้านเมตตา ความรัก ณ ขณะนี้พี่ก็ทำแล้ว กรุณาความสงสารในท่านพี่ก็ทำแล้ว มุทิตาที่เห็นท่านอยู่ดีมีสุขในบางช่วงบางตอนพี่ก็มีแล้ว สิ่งที่มันเกินวิสัยพี่ก็จงถืออุเบกขาต้องมีขอบเขต ที่มันสุดเขต หลวงพ่อเคยพูดกับลูกทุกคน ว่าพ่อรักลูกทุกคน แต่ก็อย่าให้ถึงกับตามไปนรก นั่นมันตามกันไม่ไหว ตามไปสวรรค ตามไปพรหม ตามไปพระนิพพานนี่ตามได้พอจะตามใจได้ ฉะนั้นแม้เรามีลูกสาวหลานสาวเมื่อลูกยังเล็กๆในบ้านนี่เราจะเข้าห้องใหนออกห้องใหนเวลาใหนก็ได้ตามใจชอบ แต่เมื่อลูกโตแล้วยังต้องมีเขตหวงห้าม เขตของพ่อคือแค่หน้าห้อง รักใคร่เอ็นดูห่วงใยแค่ใหนพ่อก็ยืนได้แค่หน้าห้องเท่านั้น ยิ่งห้องน้องสาวเมียนี่ยิ่งเป็นเขตหวงห้ามพิเศษ นี่เห็นใหมว่าความเป็นพิเศษน่ะมันมีอยู่ตามห้างร้านขายยาทั่วไปแต่พวกฉลาดมากมองไม่เห็น พี่บุญทรงต้องเจริญตัวอุเบกขาให้จงหนักเพราะตัวแหละถ้าเราอ่อนซ้อมเห็นน้องสาวเมียกำลังอาบน้ำที่ในลำคลองถูสบู่ไม่ถึงข้างหลัง ขืนเราลืมอุเบกขาดันไปใช้ตัวกรุณา เข้าไปด้วยความสงสารช่วยถูสบู่ข้างหลังให้โดยมิได้รับอนุญาติจากเมียใหญ่ซะก่อนนี่ แล้วผลมันจะเป็นยังไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 มิถุนายน 2013
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:ที่พี่พูดมา มันถูก ผมผ่านมาแล้วทั้งหมด แต่ จะเล่า ให้ เหล่าพี่น้อง ลูกๆหลาน ได้ฟัง เอาไว้ เป็นอุทาหรณ์ บางช่วงบางตอน สิ่งใดดี เอาไปได้ สิ่งใดเลว ปล่อยทิ้งมันไปครับ พี่พูดเหมือนท่านแม่ สอนผมว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อ เกือบ ๑๐๐ เปอร์ เซ็น ยอมหัก แต่ไม่ยอมงอ ท่านปี ๓๐ กว่าถึงปี ๔๐กว่าๆสอนบ่อย ๆ นี่เขาเรียกว่าปัญาญ ที่พี่พูดมา เดี๋ยวนี้ มันกลับหันหลังให้บ้างแล้วแหละครับ อย่างที่พี่พูดมา บรรณพบุรุษของเรา เป็นตัวอย่างมากมาย ไปไม่ไหวจริง ผมก็ทั้งท้อทั้งถอย หนี มาตั้งหลักใหม่ ให้ใจสบายก่อน มีกำลัง ผมก็ทยานขึ้นไปให้สุดกำลัง ที่มีอยู่


    ผมเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ พยายาม อมรมบ่ม นิสัย พยายาม เปลี่ยนแปลง ตัวเอง ถึงจะแก่ ก็แก่ไว้ลายสักหน่อย ถึงยามอ่อน ก็อ่อนรู้ สู้สู้ลม ไหวพิ้ว ไปตามลม แล้วแต่ มันจะพัดไปทางไหน เมื่อยามแข็ง ก็แข็ง ข้อสำคัญ คนใกล้ตัวนี้ มะมันนตัดยาก ยิ่ง กว่าสิ่งใดๆไกลตัว กว่าจะวางได้ บางครั้ง ข้ามวันข้ามคืนเลย คนไกลตัว เป็นแบ๊บเดียวก็หาย เร็ว ไม่ว่าเสือร้ายใดๆ ข้างนอก ไม่เท่า มารเสือร้ายในใจของเราครับพี่ มันหนัก มากเลย ถ้าตัดได้บ้างก้เบาสบาย ได้ระดับหนึ่ง ตรงนี้ก็ยังว่า แต่สำหรับผม ผมก็มันเป็นกรรมกับตาละปัด ตรงข้ามกับพี่ ก็ต้องบอกของใครของมัน และขอขอบคุณที่ติงเตือนมาด้วยความหวังดีอีกครั้ง เพื่อเก็บไว้เตือนใจ มัน


    อย่างนั้นจริงๆที่ผ่านมา แต่ก็เป็นอดีดไปแล้วครับ เพราะมันแก่ บางเรื่องบางอย่างที่ว่า มา ถ้าถึงเวลามันถึง ทุกอย่างต้องวางลงไว้ บนโลกมิอาจเอาอะไรไปได้สักอย่าง ไม่พี่หรือผม หรือสัตว์ใดๆในโลกนี้ มาเท่าไหร่ มันก็ไปไม่มีเหลือ เหมือน พระพุทธองค์ หรือพ่อบอกกว่าวไว้ เป็นเช่นนั้นเสมอมาครับ


    ที่อื่นไม่จำเป็นผมจะไม่เอ่ย ชื่อ ครูอาจารย์เพราะอะไร ก็เพราะว่า เราทำไม่ถูกใจใคร เขาจะตำหนิ ไปถึงครู บาอาจารย์ มันนึกถึงไปโน่นเลย ยังเป็น คนอื่นมันจะไม่เป็นเทียวหรือ แต่ที่ไหนๆที่เอ่ยบ่อยผมจะพูด และเอ่ยถึง ตรงนี้แหละพี่ เรื่องครูบาอาจารยนี่ ทำให้เป็นกรรม โดยไม่รู้ตัวจริงๆนะครับ ส่วนใหญที่ มองดูเองและคนอื่นเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้ายังไม่ถึงธรรม
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814




    :cool:อ่านแล้วก็ผ่านไป ผมทำมาหมดแล้ว ที่พี่พูดมา มีพระไตรปิฎก อย่างเดียว ที่ร่วมกับเขา บ่อยๆ แต่ยังไม่ได้ สร้างเป็นชุดใหญ่ๆ กับเขาเลยครับ จึงกล้าพูดด้วยความเต็มใจ และจริงใจ ให้เลยไปถึง พี่น้องลูกหลาน เหลน โหลน ผมคงทำได้บางครั้งบางคราวเท่านั้น เรื่องบุพการี เหมือนพี่ว่ามาแล้ว ดังนั้นแล เรื่องครอบครัว ผมตรงข้ามพี่ ไม่เคยสมหวัง บางครั้ง ว่าจะไม่ให้เป็นรายเดือน ยังอดสงสารไม่ได้ จึงต้องตัดใจ ไม่มองความดี มองแต่ความดีของเธอ แต่เรื่อนี้ อย่างที่พี่ว่า บางครั้งเธอเหมือนแบ่งสู้ แต่ไม่ไหวแล้ว มันทั้งแก่เหี่ยว ย่น ได้แต่ ชั่วครั้วคราว ตามอัตภาพ ของอาตมา


    ในตาฟ้าฟาง หูก็คัน ไม่ได้ถนัดนัก ฟันฟาง เหม็นพุกล่อน ไปตามกาลเวลา ของมัน จมูกไม่ดีนัก ลิ้นคอ มันก็ลวน รามไปถึง คอ หัวหลังไหล่ มันเจ็บบ้างปวดบ้าง ไปตามขันทีทรงอยู แต่ส่วนใหญ่ จริงๆ มันปวด ทุกลมหายใจ เข้าออกถ้าได้คุยเรื่องธรรมะหรืออย่างอื่น จะให้หายความเจ็บปวดลงได้มาก บางเหมือนว่ามันไม่เจ็บเลย ลงไปหาขาโน่นพี่ มันยึดหมด ทุกเส้นเอ็น กรูขมขน ตีนยันหัวหัวยันตีน ไม่มีส่วนไหนเลย ที่ไม่เป็น บางครั้ง มันยึดท้องจนตัวเนี้ย ห่ออกมาเลยครับ ต้องทำตัวยืดขึ้นไม่ให้ตัวมันห่อลง
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    มาว่าต่อจากคราวที่แล้ว เรื่องสร้างโบสถ ต่อ อุปสรคมากมาย ตั้งแต่ สร้างโบสถ หลังนี้ ฝนตกต้อนรับ น่าจะเกิน ๒๐ ครั้งขึ้นไป ตกมากบ้างน้อยบ้าง ไกลเกิน ๑๐ ก.ม.เท่านั้นครับ ไกลเกินกว่านั้นไม่มีฝนเลย และมีภาพ อัศจรรย์คนที่ไม่ใช่กายมนุษย์ มาในรูปแบบ มนุย์ ถ่ายรูปติด ก็เก็บภาพไว้ดู หลายอารบั้ม ออกพรรษา มาถึงงานกฐิน สร้างไปถึง คานอกไก่ ด้านบน หลังคา คนจะได้รู้ ว่าเราทำจริง ไวจริง สร้างเร็วจริง จะได้มีกำลังใจ มาช่วยสารให้เต็ม คนก็มาหาเรื่องสารพัด ทั้งเจ้าที่ หลายหน่วยงานครับ กระเหรี่ยงไทย มอญ บางคน มาทำไสเวท ส่งมาหลายที่ และไปเอาพวกพม่า มาทำไสยศาสตร์ แต่ไม่เป็นไร แต่มีคนไทยกระเหรียง บวชเณร มาอยู่ที่วัด จะมาคุยกับผมบ่อยๆ เณรดีๆกับกรายจะเป็นไป พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง กรรมของเขาก็ต้องปล่อย ครับ


    การสร้างของใหญ่ๆ อุปสรรคย่อมเยอะครับ ก่อนที่ จะ ได้งานงานกฐิน ผมหาเจ้าภาพมาหลายที่ เพื่อหาเงินสร้างโบสถ ไปให้ปะติดปะต่อ ไม่ หยุดงาน ทำอย่างต่อเนื่อง เร็วมากครับ สร้างในสมัยนั้น ถือว่าเป็นโสถที่มีเสาร์หาร และใหญ่สุด ของด่านช้าง รวม ๒ เท่าๆกับเนื้อที่โบสถ ๒ หลังเลยเทียวครับ พอดีพวกเจ้าภาพกุฏิ จะไปถวาย กุฏิ ก็เลยนิมนต์พระมา รับกุฏิ ถวายพระ เพราะไม่มีเวลามา ช่างที่นครปฐมเขาก็จะกลับบ้านไปแล้ว จึงพากันไปถวายสรรพเสร็จ แล้วเขาก็กลับกันไปครับ งานกฐินได้ เงิน ๓ แสนบาทกว่าบาท สมัยนั้น ดังไปถึงทั้ง อ.เภอ และอ.บ้านไร่อุทัย เพราะที่นี่ เงินเต็มที่ก็ ไม่เกิน แปดหมื่นบาทเท่านั้น ต่อปี ผมเองก็เริ่มล้ากำลังใจเริ่ม ตก คนหาเรื่องทุกรูปแบบ


    พวกทายกกับเจ้าอาวาสสมัยนั้น คงถูกยุแหย่ เริ่ม ให้คนมาขอเงิน ผมบอก นอกจากสร้างโบสถแล้ว ไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เหมือนย้ายเจดีย์ครับ ถ้าทำเสร็จแล้วเอาไปได้ครับ สร้างอย่างอื่นต่อ เพราะต้องทำตามสัญญาเดิมที่ให้กันไว้ ยืมได้ไปสร้างศาลาให้เสร็จ ผผมให้ยืน หมื่นครึ่งหมื่น จะเอาเท่านั้นเท่านี้ ยืมไปหมื่นสองหมื่บ้าง ตอนหลัง ผมไปขอ มาสร้างจะไม่ให้ ผมบอกไม่ได้ ผลที่สุดให้ไป ครั้งหลังสุด สามพันกว่า ยอมแค่นั้น ถ้าผม บวชพระคงเล่นงานเราแย่เลยครับ และแย่งตำแหน่งเจ้าอาลวาสนี่ทนไม่ไหวแล้ว คงจะหนักกว่านี้ มันสบายที่เป็นเณร โข่งนี่แหละครับ ต่อมาพรรษาที่ ๒ ปี ๓๘ กะว่า ทำค้างไว้ข้างบน หน่อยเดียว ไม่เทพื้นหลังคาด้านหน้าหลัง ด้านชายข้างล่าง ด้าหน้าหลัง เอาไว้ เขาสร้างกันบ้าง จะได้รู้ว่า เงินไม่ได้หามาง่ายๆนัก ผมไม่ช่วยงานกฐิน มาขอผมก็ไม่ช่วย วางตัวเฉยๆ เพราะผมเล่าข้ามไปแยะ ผมได้ บรรจุพระไว้ ใต้ฐานพระ ๘๔,๐๐๐องคืและใส่เกินอีกนิดหน่อย บรรจุอย่างอื่นอีกเยอะ ให้พี่สมานทำให้ ผมไปทำสั่งทำพิมมา เป็นเนื้อผง มี ๒ พิม องคปฐม -องค์ปัจจุบัน ๒ หน้า และอีกพิม องค์ปฐม -หลังหลวงพ่อเรา พี่สมานเอาค่าแรวให้ลูกน้องและ ของผงมาทำ ผมก็เอาผงมาให้หลายย่างเหมือนกันครับ พี่สมาน เอาแค่ ๕๐,๐๐๐บาท ถ้าโรงงาน ประมาณ ๒๕๐,๐๐๐บาทครับ สมัยนั้นนะครับค่าพระ


    สร้างผอบทองคำ ให้เจ้าภาพ และให้คนอื่นร่อมบุญ ใส่พระบรมสารีริกธาตุ เต็ม บรรจุเศียีพระองค์ปฐม องค์ปัจจุบัน ใส่ไม่ได้ ช่างมันไม่ทำไว้ ให้ใส่พระธ่ตุได้ครับเลยขออนุญาติ ให้ไปถวายหลวงพ่อพยุง วัดบรรลัง อ.หนองหย้าไซ สุพรรณ บุรี ท่านมรณะภาพมาหลายปีแล้วครับ เอาพระสพไว้ในโรงแก้วครับ องค์นี้แหละมาเป็นประธานในงานวันหล่อพระครับ มาโปรรดผมถึงบ้าน ถึง ๒ ครั้งที่ผมไปนิมนต์ ปรกติไกลจะไม่ไป ครับ ใกล้ยังไม่ไป แต่ผมท่านมาสงเคราะจริงๆครับ ในงานกฐินวัดท่านผมเอาผัก และฟักทองไปงานฝังลูกนิมิตร ๒ ค้นรถปิ๊กอับ ปิดทอง ปี ๔๐ กับ ๔๑ ควบ ๒ ปี กำลังตกมากขึ้น พวกก็หาเรื่อง มากขึ้ยจึงเริ่มตัดใจอำลา ในการสร้างโบสถ ใกล้เข้ามาเต็มทน มาขอสิ่งต่างๆจากผม ผมตัดใจ บอกบุยข้าวสารช่วย ๒ กระสอบป่าน ๒๐๐ ร้อยโลครับ กฐินได้ไม่ถึงแสน หกหมื่นกว่าเท่านั้นครับ
    คนมันเล่นไม่ซื่อไม่เอาด้วยแล้ว ปล่อยให้พวกมันทำกันบ้าง จะได้รู้ ว่า มันทำกันได้ไหม ครับ


    ผมรีบชิงตัวสึกทันที และเอาพี่น้องมาช่วย ทำต่อ เพราะเงินมันเหลือ หกหมืน ผมเป็นผู้รับเหมา ทำอยูตก ๒ เดือน เอาเงินไปซื้อสีบ้าง ทำเองบ้างก่อนจะอำลาได้ให้ช่างเชียร ทำพิมลวดลายไว้ สองสามพิม ติดเสารืก็ไม่สวยนัก เอาอานิสงฆ์ ให้สารต่อมาทำทีหลังก้แล้วกัน ก่อนจะสึกไปถามหลวงพ่อพยุงแล้ว ทำได้ไหม ท่านตอบทำได้ และเราก็ถามช่างเชียรว่า ทำแค่นี้เอาเท่าไหร่ เราดีดออกมา ถ้าตามนั้น เงินหกหมื่นนี้ไม่พอ เราทำตกเป็นแสน รรมดา ผมชอบ เคยเหมาเหมือนกันใครไม่รู้ไม่สน พระพรหม เทวดา ผีรู้เป็นพอ พอสึกเขาก็หาว่าผมเอาเงินสร้างโบสถไปหมด และพาผู้หญิงไป ด้วยจริงๆ ไม่ได้เป็นไปตามนั้น และปีนี้ไปบวชพระธุดงค์ ที่วัดท่าซุง อีก ๙ วันนี่เห็นไหม

    ผมทำอะไรไม่รอรี ถ้าทำได้ทำเลย ไปเที่ยวภาคเหนือต่อ ไปงานกฐินปีต่อๆไป หลายๆที่
    อยู่เกือบ ๓ ปี แต่งงาน และผมก็อยู่ดูมันต่อ มันปล่อยร้างกันมา ๔ ปี ไม่มีใครสร้างต่อ แต่บอกบุญผ้าป่ากฐิน บอกสร้างโบสถ แต่พวกมันไม่เคย สร้างเลย จนกระทั่งพระไทยกระเหรี่ยง มาเป็นเจ้าอาวาสครับจึงสารเจตนาต่อจนเสร็จบริบูรณื หลายปีแล้วรอการฝังลูกนิมิตร ท่านก็สึกไปแล้ว มีเจ้าอาวาสใหม่แล้ว ลวดลายที่ผมทำไว้ ก็เอาออกหมดทำลายใหม่ให้สวยขึ้น ก็ขอชมเชย เจ้าอาวาสกหลังจากผมสึกแกก็สึกไปปีหนึ่งมาบวชใหม่ไม่มีใครยอมรับแกก็เลยสึกถาวารครับ อะไรๆก็ไม่แน่นอนสักเรื่องครับ เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปในที่สุด เก่าไป ใหม่มา และใหม่ต่อๆมาอีกเป็นเช่นนี้ มาตลอดครับ
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้ขอนำเสนอ รูปหล่อสมเด็จองค์ปฐม สมเด็จองค์ปัจจุบัน อยู่ในองค์เดียวกัน เสาร์ ๕ เดือน ๕ สร้าง ปี ๒๕๕๔ ซึ่ง หลวงพ่อบอกว่า ใครก็ตาม สร้างสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะอนุโมทนา จะมีพระพุทธคุณ ยิ่งเป็นพระอริยเจ้าอธิฐานจิตพระพุทธคุณยิ่งสูงขึ้นไปตามลำดับ ทองเหลืองชุบทอง ทองเหลืองชุบเงิน ทองเหลืองไม่ชุบ เท่ากับมีพระพุทธเจ้าในอดีดถึงปัจจุบันไว้บูชา [/COLOR][/SIZE]ใครมีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา จะมีลาภมาก พระพุทธคุณมีครบทุกด้าน ตามแต่จะอธิฐานเอาตามใจชอบ ถ้าไม่ผิดศิลธรรม ถ้าเอาไปใช้ในทางจี้ปล้น ลักขโมยจะโดนยิงแสกหน้า ใช้ในทางมิตรฉาทิฐฐิจะไร้ผล ป้องกันอัตรายทั้งมวล กรรมนี้ทำบ่อยๆ ก็จะให้ผลในปัจจุบัน ถ้ากรรมหนักให้ผลเร็วมาก ทั้งชั่วและดี ชุด ๓ องค์ ครับ
    โทร 086-169-7786 และ 081-8866-104
    ธนาคาร กรุงไทย สาขา อุทัยธานี ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี บุญทรง ทองคง
    เลขบัญชี 619-0-15742-4<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->



    :cool: นี่ตัวอย่าง สมเด็จองค์ปฐม- องค์ปัจจุบัน พิมนี้ เป็นพิม ที่ ๒ เนื้อ โลหะ พิมแรกของโลก ผมสั่งทำ ๕,๐๐๐ องค์ สั่งหลายเดือน แต่ โรงงานมันทำได้แค่ ๔,๔๐๐ กว่าองค์ประมาณนี้ครับ สั่งทำเนี้ยไม่เคยได้ดั่งใจเลย มีแต่ทำไม่ถึง สั่งนานก็ ไม่ได้ครบ สั่งเร็วเสร็จ ก็ได้ไม่ครบ มันไม่รู้เรื่องอะไร หรือ ท่านให้แค่นั้น กันแน่ครับ นำไปให้แม่ แจก ลูกศิษย์ ลูกหลาน ๗๐๐องค์ ขาด ๙ องค์ และตำรวจทหาร ชายแดน ท่านอยู่โคราช และไปถวายหลวงพี่ วิรัช อีก ๗๐๐-๘๐๐ องค์นี่แหละและถวายนะมิ มหาลาภ รวมแล้ว ๒ ครั้ง รวมแล้ว ตก ๑,๓๐๐องค์หรือ หรือ ๑,๒๐๐องค์ คงมีกว่าอีกไม่มาก พ.อ. กอตติพงษ์ พุทธิมณีอีก ๕๐๐ องค์ ให้นายท่านไปแจก ทหารภาคใต้ ๓ จังหวัด ครับ และถวายงานศพ หลวงพี่สมพงค์ วัดท่าซุง วันเผา อีก นะมิมหาลาภ ปู่สี ๓๐๐ องค์องค์ปฐม-องค์ปัจจุบันอีก อย่างละ ๓๐๐ องคื เป็น ๖๐๐ องค์ แต่ไม่พอครับ และวัดอื่นอีก มากบ้างน้อยบ้าง ร้อย สองร้อย ไม่ถึงร้อยองคื บางที่ก้แค่ เป็นหลักสิบ แล้วแต่ ความเหมาะสมครับ


    โดยเฉพาะ มีอีกพิม หนึ่ง องค์ผอม ไม่มีรูปแบบให้ชม ไม่ได้เอาถ่ายเข้ามาครับ ผมเอง เอาที่เหลือเศษ มาแจกพักพวก ไม่กี่ร้อยองค์ ที่เหลือ ไม่ถึงร้อยองค์ อย่างละ ไม่ถึงร้อย ออกแบบเอง องค์ปฐม ต้นแบบวัดท่าซุง -องค์ปัจจุบัน ต้นแบบ พิษณุโลกครับ แต่ก็ยังไม่ชอบใจ ช่างยังทำไม่สวย เท่าที่ใจอยากได้ครับ ได้ไปขอ แม่ชี สุรินทร์ บอกจะเอามา บอกบุญสร้าง องค์ปฐมทองคำ ๕ นิ้วกับหลวงพี่ติงลี่ เช่ามาอย่างละ ๑๐๐ องค์ เหรียญด้วยครับ รวมเป็น ๒๐๐ องค์ ด้วยเงินผมเอง ๒๐,๐๐๐บาท ๒ หมื่นบาท ในเมื่อ ท่านไม่สร้าง เปลี่ยนเป็น ๙ นิ้วทองคำ ผมบอกไม่ให้แล้ว ผมได้เอาลูกอม ปู่สีไป ๘๐ องค์หรือลูก ให้ลูกศิษย์หลวงพี่ ออกองค์ละ ๑,๕๐๐บาท แล้วนำเงินไปร่วมกับท่าน องค์ ละ๑,๐๐๐ บาท และอีกส่วนหนึ่ง ถ้าออกแล้ว ให้นำไป ร่วม พระพลังแผ่นดิน ที่ อ.ปักธงชัย กับพระเต้ตอนนี้บวชแล้วครับ


    เอาทองคำ ๓ สลึง ได้ไปร่วมสร้าง ไว้กับหลวงพี่ติงลี่ เปลี่ยนเป็น ทองคำ ๙ นิ้วครับ ตอนนี้ ทองยังไม่พอ ถ้า ๕ นิ้วนี้ คงสร้างเมื่อ ๓-๔ ปีที่แล้วๆครับท่านนี่ เหตุการณื ก็เลยเปรี่ยนไปครับ ผมเนี่ย ทำอะไร ถ้าทำคือ ทำ ไม่ทำก็ไม่ทำครับ และได้ให้ไว้ ให้ วัด ก.ม.๘ หรือที่เรียก ชื่อเต็มๆคือ วัดใหม่ ฉายหิรัญครับ อ.ด่าช้าง จ.สุพรรณ ผมไปถามท่าน ผมจะสร้างสมเด็จ องค์-องค์ปัจุบัน เพื่อหารายได้ มาร่วมสร้าง องค์ปฐมพระปฐม หน้าตัก ๓๐ วา หรือ ๖๐ เมตร ทรงชินราชถมที่ไว้แล้ว หมดไป สิบกว่าล้านบาท ครับ ถมหลายเที่ยวครับ ผมสร้างเหรียย ปี เสาร์ ๕ ปี ๕๓ ๑๑,๐๐๐องค์หรือเหรียญ ด้านหน้า เป็นองค์ปฐม ด้านหลัง เป็นองค์ปัจจุบัน และเขียนว่า ด้านองค์ปฐม วัดพระนิพพาน
    ต.ปฐมฤกษ์ อ.มัชฌิมา จ.ปัจฉิมโอวาท และอีกด้านหนึ่ง วัดใหม่ฉายหิรัญ (ก.ม.๘) ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี คณะลูกศิษย์ สร้างถวาย



    เป็นรูปหล่อลอยองค์ อีก ประมาณ ๓,๐๐๐ องค์ แต่ผอมกว่าพิมที่นำมาให้ดูครับ ที่สั่งไว้ไม่เคยได้ดังใจ เนื้อเงินโรงงานเขาเอาองค์ละ ๕๐๐ บาท แต่ เขาบอกอย่างต่ำ ต้องสร้าง๕๐องค์ ขึ้นไปถึงทำให้ ผมบอกไม่เป็นไร ผมเลยบอกเอา ๖๘ องค์และได้ตัดแผ่นน้ำมนต์ หลวงพ่อที่เป็นเงินใหญ่ขนาด ๓ นิ้วคูณ ๓ นิ้ว หลวงพ่อสุทิน วัดสะแก จาร เป็นลูกศิษย์ ปู่ดู่ และหลวงพ่อเรา มาก่อนงานทุกครั้งท่านจะมา ค้างนอนกุฏิ หลวงปู่จง วัดหน้าต่างล้อม หลังโบสถ เพราะว่ามีหน้าต่าง รอบทั้งหลังจึงให้ ฉายาท่านครับผม ที่เราเรียกันแบบนี้ก็เพราะ กุฏิเจ้าอาวาส หลวงพ่อสร้างแต่เจ้าอาวาสตัวจริงไม่ได้ไปอยู่ แต่สร้างแบบฉบับ ของหลวงปู่ปานครับผม ตอนนี้รูปหล่อลอยองคื คิดว่าคงเหลือไม่เท่าไหร่ครับ แต่เหรียญนี่ คงเหลือใกล้ๆหมื่นแหละครับ


    แต่ประสบการณ์ เยอะมาก ก่อนเข้าพิธี ผลที่สุด เนื้อเงินได้มาจริงๆ๓๐ กว่าองค์เท่านั้น โรงงานบอกขาดทุน ผมลอง ตกลง แม้ขาดทุน ก็ต้องทำ แต่ คนมันไม่รับผิดชอบ ไอ้ระยำ บังคับเรา ให้ทำ ๕๐ องคื เราเลยสั่งทำ ๖๘ แต่ทำได้แค แค่ ๓๗-๓๘ องค์เท่านั้น ผมให้ผู้ที่มีคุณ ไว้บูชากันเองครับพี่ และท่านทั้งหลาย ทุกอย่างแม้แต่ ทำความดี เราพร้อมแล้ว ยังไม่ได้ สมความปราถนาเลยนาพี่ มีความผิดหวังอยู่เรื่องย จะสร้างทองคำมาบูชาเองสัก สามองค์ มันไม่รับทำให้ เลยไม่มีครับ งานนี้คนมาร่วมบุญ ประมาณ ๔๐,๐๐๐บาท ผมออกเองใกล้ ๒๐๐,๐๐๐แสนบาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2013
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ อ่านมาหลายวันกว่าจะทัน ขอบพระคุณค่ะ
    (เรามีตะปิ้งนาคนะ ) :(
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:ครับอนุโมทนาสาธุ นี่คนหนึ่งแล้ว มาช่วยยัน ฮ่าๆๆฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆแหมผมก็รอ พี่พีทีโอ ผมต่อเมื่อคืน และมาต่ออีกตอนเช้าครับ เอาไปหล่อพระได้นะครับ ดีกว่า เอาไว้เฉยๆ มันหมดยุกไปแล้ว ขันแตกทัพพีหัก กระปิ้ง เขาเหล่านั้นไม่ไหว้ ขันแตกทัพพีหัก กระปิ้ง แต่เขาเหล่านั้น เขาไหว้พระพุทธเจ้า อ่ะครับ
     
  9. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พี่บุญทรงบุญทานกองการกุศลทั้งปวงที่พี่สั่งสมมาแล้วนั้น ผมและคณะขออนุโมทนาสาธุการทุกอย่าง

    เดี๋ยวมาต่อครับ
    ยังไม่ไดัคุยกับคุณธัมมะสามีเลยงานผมเยอะมาก
     
  10. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    อ้างอิง
    ธัมมะสามี
    แหมพี่ pco_ ครับ มีนางแก้วเยอะๆ เนี่ยไม่ปวดหัวแย่เหรอครับพี่ ผมมีคนเดียวยังโดนแม่เจ้าประคุณอบรมตั้งวันละหลายรอบ แต่ดีหน่อยเขาหาตังค์ให้ไปฟอกไต ถึงด่าก็ยอมตายอยู่กับคนนี้แหละครับ หายากเมียที่หาเลี้ยงผัวครับ ฮ่าๆๆ

    ดีมากแล้วครับที่มีคนคอยอบรม ไม่งั้นเราก็จะเอาดีกันไม่ค่อยได้ มันคอยจะนอกลู่นอกทางแล้วใครก็บอกไม่ค่อยจะได้ซะด้วย ต้องเมียนี่แหละคอยอบรมบ่มนิสัย เรื่องนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังได้เล่าไวัในเรื่องจริงอิงนิทานเล่มพิเศษ ว่าในสมัยเชียงแสนนั้นผู้ใหญ่ก็มักจะให้แต่งงานกันช่วงอายุยังน้อยประมาณสิบหกสิบเจ็ดเขาให้แต่งงานกันแล้วเพราะว่าป้องกันการเจ้าชู้เกินไป เรือถ้าไม่มีนายท้ายไม่มีหางเสือก็แย่ ภรรยาที่รักถ้าหากว่าเป็นคนดีสามารถจะยับยั้งสามีได้เป็นอย่างดี ฉนั้นจึงมีการแต่งงานกัน หลวงพ่อท่านว่าไว้อย่างนั้น ทีนี้ชายไทยที่เป็นลูกผู้ชายชาตรี ชาตินักเลงทั้งหลาย คนจะเป็นนักเลง โบราณเขาห้ามข่มเหงรังแกผู้หญิง มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองดูแลผู้หญิง ถ้าเป็นเมียจะต้องยกย่องนับถือว่าเป็นเมีย ไม่ดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม มอบความเป็นใหญ่ในบ้านให้ แต่โบราณไม่ยักกะห้ามผู้หญิงรังแกผู้ชาย ดังนั้นถ้าประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเลง

    ก็ขอจงได้เข้าใจ ณ บัดนี้ว่า ถ้าหากว่าเห็นผู้หญิงกำลังซ้อม ทุบตี หมัดเท้า เข่าศอก กัดข่วน กระทืบ หรือเหยียบม้ามชายใดอยู่ก็ตาม โดยที่ฝ่ายชายได้แต่อดทนยินยอมแต่โดยดีนั้น ก็หมายความว่าเขากำลังอบรมบ่มนิสัยอย่างถึงพริกถึงขิง ข่า ตะไคร ใบมะกรูด ยอดคนยอดนักเลงอยู่ ชายนั้นเป็นคนดีเป็นคนจริง เป็นคนว่านอนสอนง่าย เป็นคนที่เชื่อฟังพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ และเป็นคนอยู่ในโอวาทเมีย นี่แหละคือชายไทยแท้ใจนักเลง เพราะฉะนั้นชายใดที่อยากได้ดีมีชีวิตก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองต้องให้เมียเป็นคนอบรมบ่มนิสัย ยิ่งถ้ามีน้องสาวเมียช่วยอบรมก็ยิ่งจะช่วยให้เป็นคนดีมากขึ้น

    ทำงานก่อนเดี๋ยวมาต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 มิถุนายน 2013
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:วันนี้จะต่อตรงไหนดีเนี่ย เพราะหัวข้อไม่มีไปดันกระทู้ วัตถุมงคลก็ เน็ตหลุด เลยไม่ดันกระทู้ เลยแวะเข้ามาบ้านพี่ ถึงจะไม่เคิกครื้น เท่าที่ควร แต่ใจผมมันสบายมาก ได้ คุยกับพี่ เพียงแต่ แสลงใจนิดๆครับพี่ เรื่องนางแก้วนี้ ผมรักกับ นางแก้ว นับเป็นสิบๆนาง หน้าตาก็สวย แถมมีฐานะ กับกราย ไม่เคยสมหวัง นางใดเลย ไอ้ที่ดี ก็ไม่ได้ ไอ้ที่ได้ก็ไม่ดี มันมีกรรมต่อกัน จึงมาใช้กรรม ซึ่งกันและกัน น้องนางทุกวันนี้ ก็พอจะอาศัย กันได้ตาม มีตามเกิด อาตมา ชาตินี้ ไม่เคยสมหวังเลย ไม่ได้ดั่งใจปราถนา


    เราเกิดมา ต้องพึ่งตนเอง เสียส่วนใหญ่ จะให้คนอื่นทำแทนบ้าง แต่มีน้อย เพราะคงทำกรรมไว้มาก แต่ก็ดี ไปอย่างนะ จะได้ไม่ประมาท ในชีวีต ทุกอย่างไม่มีอะไร สมหวัง มีแต่ความผิดหวัง ถึงไม่ได้อะไร มันก็เป็น ได้ชั่งครั้ง ชั่วคราว และเป็นพะละวะ ปัจจัย ให้เราได้ ระลึง อยู่เนืองๆ ก้ยังดี ดีกว่าคนไม่มีอะไรเป็นเสบียง เตรียมตัวไว้ ให้พร้อมสัป ถึงเวลา ลาลับจากโลกนี้ จะได้มีที่อยู่ อาศัย บุญหนุนนำพาไป ให้ถึงที่ วิมานทอง วิมานแก้ว และให้ถึงซึ่งนิพพานเอย
     
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ก็ขอจงได้เข้าใจ ณ บัดนี้ว่า ถ้าหากว่าเห็นผู้หญิงกำลังซ้อม ทุบตี หมัดเท้า เข่าศอก กัดข่วน กระทืบ หรือเหยียบม้ามชายใดอยู่ก็ตาม โดยที่ฝ่ายชายได้แต่อดทนยอมแต่โดยดีนั้น ก็หมายความว่าชายนั้นเป็นคนดีเป็นคนจริง เป็นคนว่านอนสอนง่าย เป็นคนที่เชื่อฟังพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ และเป็นคนอยู่ในโอวาสเมีย นี่แหละคือชายไทยแท้ใจนักเลง เพราะฉะนั้นชายใดที่อยากได้ดีมีชีวิตก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองต้องให้เมียเป็นคนอบรมบ่มนิสัย ยิ่งถ้ามีน้องสาวเมียช่วยอบรมก็ยิ่งจะช่วยให้เป็นคนดีมากขึ้น

    ทำงานก่อนเดี๋ยวมาต่อครับ





    :cool: แหมพี่ ถ้าพูดถึงตรงนี้นี่ พี่ ผมน่ะมันตัว คัดค้านเลย เมื่อก่อน ผมน่ะ ไปจีบสาวๆ หลายหมู่ บ้าน กับบ้านดึกๆดื่นๆเที่ยงคืน ตี ๑ ตี ๒ จักยาน คูค่ชีพ ของคนรวย ถือว่าหรูแล้ว ผมน่ะ ชอบคนเดียวสบายใจ ไม่ชอบเที่ยวหลายคน คนมาก มีปัญหาเยอะ อย่างดี นานๆครั้ง ถึงได้ กับคนอื่นหรือพี่น้อง บางวันถึงกับเกืยบสว่าง แม้กระนั้น ถึงเวลา นกกาออกหากิน เราก็ต้องตื่น ไปทำงาน ต่อให้นอนได้ ชั่วโมงเดียวก็ตาม ผมใช้ร่างนี้มามากมายยิ่งนัก เมื่อก่อน ตรุด สงกราน์ ไม่มีงานเหมือนสมัยนี้ เขาไม่ไปไหนกันเลย กับมาเล่นสงกราน์ กันเป็นเดือนๆ เขาป่อยผีป่อยสางกัน ผู้ชายผู้หญิงจะถูก แตะเนื้อกันได้บ้างก็ตรงนี้แหละครับ


    หลังจากนั้น ก็ต้องแอบ จุ๊กกู้กันไม่ให้ใครเห็น อะฮ่าๆฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆเดี๋ยวนี้ ๑๐๐ มันมี ถึงเปอร์เซ็นหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจเลย เดี๋ยวนี้ แม่พวกผู้หญิง ประเภทแม่ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว มันกระโดดขึ้นทัพ ผู้ชายเลย มันกระโดนไม่พอ บางคนงับด้วย อ่ะครับ แม้รุ่นผมในวัยกระทง ก็พอ จะให้ได้เห็นบ้างแล้ว ก็ยังไม่ได้ ขี้ตีน สมัยนี้อ่ะครับ นี่ผมพูดจริงๆ พ่อบุญธรรมผมบอกแกอยู่ บ้าน เช่า หอพัก นักเรียน ปีหนึ่งๆ ยาคุมกำเนิด เป็นลังๆ ที่ต้องเก็บไปทิ้ง อ่ะครับ และอีกนิด เดี๋ยวนี้ มันไม่ทันใจ แม่ผู้หญิง กระแดะ ไปจีบผู้ชายถึงบ้านเลยครับ ตอนสร้างโบสถ มีผู้หญิง ตามน้องชายผมไป เป็นพรวน ตั้งแต่เด็กกว่า ถึงรุ่นเดียวกัน หรือแก่กว่า ไอ้น้องผมก็วัยรุ่น ผู้หญิงก็บอก


    ไอ้หนุมมันตุด เอาผู้หญิงไม่เป็น ว่าบ่อยๆเข้า น้องผมก็เลยฝากแผล ความเป็นตุดให้หลายดอก หลายคน แต่มันก็ไม่อยากทำ แต่จะเป็น ต้อง มีความเมตาแบบพี่ว่ามานั่นแหละครับ ตอนที่ผมสึกนี่ มีหญิงติดพับ สิบกว่าคน ขนาดว่า พาขึ้นรถมาได้ ผ่านป่าเขา เกือบ ๒๐ กิโล ยังไม่กล้าเลย ไอ้ผม มันก็ยังอายอยู่ ทั้งไทยทั้งไทยกระเหรี่ยง มันคงไปพูด กันนี่ไอ้โง่ ผมไปยุ่งกับใคร เป็นว่า มีคนไปยุแตกหมด มันก้เป็นกรรม เน๊าะพี่ เราคงทำมาแบบนี้ไง ของใครของมันเน๊าะ ไม่ว่ากันหรอก มีมาก็มีจาก ผมที่สุด คงลงท้ายด้วยความผิดหวัง ของความรัก จึงพร่ำ สอนตัวเองเรื่อยมา ในด้านของความผิดหวังครับพี่ และทุกท่าน ฟังไว้นะครับ ระหว่าง ๒ ฝ่ายมีแม่ยก กับไม่ค่อยมีแม่ยก มันละฝั่งครับ สมปราถนา กับผิดหวัง ผมกับพี่ พี ที โอ เล่นให้พี่ น้องๆลูกหลานๆ ได้ดูกัน เป็นไงบ้าง ละครโรงนี้ มีอยู่ ๒ โรงใหญ่ ๆ มาเล่าเล่นให้พี่น้องได้ชม เอ่าพี่ว่าต่อยกให้ อารัมบทครับ โยนให้เลยเอ่าเอาไป


    ต่อแถมอีกนิด ผัวเมียเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่พี่มันต่อยตีกัน เพราะน้ำเมานะพี่นะ เล่นการพนันบ้าง มันรักกันแบบพี่ว่า ๑ ในแสนคนนะจะหาได้ยากจริงๆ ที่เห็นมาแต่ยังว่า บางทีแต่งกัน เป็นแสนเป้นล้าน หม้อข้าวไม่ทันดำ ก็เลิดกันเสียแล้ว ส่วนใหญ่ ที่อยู่กันได้ก้ เห็นแก่ ลูก ที่มีความสัมพันกันนาพี่ ส่วนผู้หญิง ในสมัยนี้ มันกระโดด ปั้มผู้ชาย ยุคมันเปลี่ยนไปไงพี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2013
  13. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ขออนุญาตนะคะ ตะปิ้งนาค คืออะไรเหรอคะ
     
  14. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ตะปิ้งนาค คือ อะไรดีล่ะ เรื่องอื่นก็ไม่ถาม พี่บุญทรงว่าไง ตอบว่าไงดี

    คือว่าในสมัยก่อนเมื่อสี่ห้าสิบปีขึ้นไปสมัยก่อนนั้นเสื้อผ้าอาภรณ์ไม่มีมากเหมือนปัจจุบัน แล้วอีกอย่างชาวบ้านชนบทก็ยิ่งมีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มน้อย ขนาดผู้ใหญ่ที่เป็นผูุ้ชายก็นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวกางเกงชั้นในก็ไม่ค่อยมี เสื้อก็ไม่ใส่ ทำงานได้สารพัดในหมู่บ้าน ผู้หญิงก็นุ่งผ้าถุงผืนเดียวถ้ามีครอบครัวแล้วนี่บางคนก็ไม่ใส่เสื้อเปลีอยอก เดินไปเดินมาทั่วบ้านหน้าตาเฉย ยิ่งเด็กๆยิ่งไม่มีเสื้อผ้าใส่จนโตอายุจะสิบขวบจะเป็นสาวแล้วบางทียังไม่นุ่งผ้าก็มี ตะปิ้งนี่ใช้แทนผ้าถุงหรือกางเกง สมัยนั้นเด็กผู้หญิงไม่มีกางเกง มีแต่นุ่งผ้าถุง ซึ่งผ้าถุงที่นุ่งก็จะเป็นผ้าเก่าของแม่ของยายที่เอาผ้าถุงเก่านั้นมาฉีกให้เป็นผืนเล็ก พอนุ่งห่มได้

    ตะปิ้งนั้นทำจากเงินถักทอเป็นแผ่นรูปสามเหลี่ยมบ้าง ห้าเหลี่ยมบ้างมีสายรัดเอว คล้ายกันกับเสื้อยกทรง คือเสื้อยกทรงนั้นใช้ปิดอกข้างบน ตะปิ้งใช้ปิดด้านล่าง ปิดความอายของเด็กผู้หญิงนั่นแหละ ตะปิ้งนาคคือ ตะปิ้งที่ทำจากนาค เป็นโลหะที่มีค่าน้อยกว่าทองคำ แต่มีค่ามากกว่าเงิน คือมีสตางค์มากหน่อยก็ใส่ทอง คนมีสตางค์น้อยลงมาหน่อยก็ใส่นาค มีสตางค์น้อยกว่านั้นก็ใส่เงิน โฮยเหนื่อย โล่งอกกว่าจะตอบได้

    เดี๋ยวมาต่อใหม่โอยเหนื่อย


    พี่บุญทรงหรือใครก็ได้ช่วยทีเดี๋ยวจนมุม
    แหมหายไปหลายวันแล้วนะตะปิ้งนี่นึกว่าลืมไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 มิถุนายน 2013
  15. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    แหะๆๆ ต้องขอโทษจริงๆค่ะที่รบกวน ก็มันไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินน่ะค่ะ ..

    คุณ PCO นี่เป็นผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิงจังนะคะ เท่าที่ได้อ่านมานี่เป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆคนเลย (แต่เรื่องมีนางแก้วหลายคนโดยไม่มีเรื่องปวดหัวนี่ หาได้ยากมากๆค่ะ เรื่องนี้ขอไม่ออกความเห็นเนื่องด้วย ปัญญาที่ไม่มากและกิเลสของปถุชนคนธรรมดาอย่างดิฉันนี่ยังมีอยู่เยอะมาก เลยขอข้ามค่ะ)
    แต่ก็ตามอนุโมทนาในบุญกุศลที่คุณ PCO ได้ทำมาดีแล้วทั้งหมดนะคะ ในเวปฯนี้หน่อพุทธภูมิก็ไม่ใช่น้อยๆค่ะ แต่ก็อาจต้องหาประสปการณ์จากรุ่นพี่กันบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับกรรมที่แตกต่างกันไป ก็ขอเอาใจช่วยทุกๆคนเลยค่ะ

    ส่วนที่คุณลุงบุญพูดมานั้น มันเป็นไปตามยุคสมัยจริงๆค่ะ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงจีบผู้ชายค่ะ ... ยังพอนึกและจำได้ว่า สมัยก่อนๆเวลาสาวๆนั่งล้อมวงกินข้าวกับหนุ่มๆนั้น ปั้นข้าวเหนียวใส่ปากกันไม่เป็นเลย ทั้งๆที่ท้องพี่แกร้อง จ๊ออกก.. แต่ดันบอกว่า "อิ่มแล้วค่ะ หรือว่า ไม่หิว" เดินผ่านคลองยิ่งแย่เลย ผู้บ่าวแซวที เดินขาขวิดตกร่องไปเลยก็มี .. นี่นิสัยสาวๆเขาหน้าบางๆแดงๆนะคะ

    ไม่เหมือนสมัยนี้ที่คุณลุงบุญว่ามาก็ประมาณนั้นเลยค่ะ ผู้ชายนี่วิ่งหนีเลย คำว่าอายนี่มันหากันไม่เจอแล้วค่ะ
     
  16. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
     
  17. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ที่พี่บุญทรงไม่สมหวังในเรื่องความรักเพราะตัวจริงเสียงจริงไม่ได้ลงมาเกิดด้วยหรือเปล่าคะ?
    เดา ๆ น่ะค่ะ แหะ ๆ ... น้องว่า ไอ้เรื่องนางแก้วนี่ ถ้าทำดีไปจนสุด เดี๋ยวมันก็มาเองแหละค่ะ


    ส่วนตัวของน้องก็ไม่เคยสมหวังในเรื่องรัก ๆ นี่เหมือนกัน
    สมัยก่อน พ่อจีบเราอยู่ดี ๆ หันไปฉอเลาะกับสาวอื่นเฉย
    เจอคนเดียวไม่ว่า นี่เจอผู้ชายเป็นอย่างงี้ซะทั้งหมด
    จีบกัน พอใจกันอยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนใจ
    หรือถึงจะรักกันแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่ได้ลงเอย
    เป็นอย่างงี้จนเริ่มแก่ ขายความสดใสน่ารักไม่ได้แล้ว ๕๕๕
    จนหลัง ๆ ถึงมาถึงบางอ้อ ว่าตัวจริงเขาไม่ได้มาเกิดด้วย
    แล้วเขาก็หวง จึงไม่ได้ลงเอยกับใคร...
    ก็อยู่ ๆ ไปค่ะ เป็นโสดก็สนุกดีนะคะ
     
  18. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พี่พีซีโอเจ้าคะ น้องนี่เป็นอะไรไม่รู้
    ตั้งแต่เด็กก็ชอบฟังเรื่องเล่าเก่า ๆ ที่มีมาแต่หนหลัง...
    ชอบฟังชีวิตตอนเด็ก ๆ ของแม่ ... ชีวิตแกนี่ก็ลำบากไม่แพ้ใคร
    ที่ภาคอื่นยังดีนะคะ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว
    แต่ในปี ๒๕๐๔ ที่อิสานก็ยังกันดารและแห้งแล้งอยู่มาก
    อาหารที่แม่กินประจำคือปลาร้า บางปีแล้งจัด
    ต้องขุดไส้เดือนเอามาบีบขี้ดินในตัวออกแล้วย่างกินกับข้าวเหนียว
    ปลาที่หามาได้ก็ต้องทำป่นปลา ใส่น้ำปลาร้าเยอะ ๆ ถ้วยเดียว จ้ำกินกันทั้งบ้าน
    อาหารที่เป็นโปรตีนนี่หายากยังกะหาทอง
    กะปอม กิ้งก่า แย้ กุดจี่ จิ้งหรีด ตุ๊กแก นี่โดนกินเรียบ...
    บ้านก็เป็นแค่บ้านไม้ยกสูงเก่าแสนเก่า
    ฝาบ้านบางด้านก็ไม่มี ลมหนาวพัดกรูมาทีไร ผิวแตกจนเลือดออกซิบ ๆ
    ยิ่งวันไหนต้องนอนเฝ้านา หมาป่าตัวเท่าควายก็ส่งเสียงร้องหอนโหยหวน
    กลัวจนฟันกระทบกันดังกึก ๆๆๆๆ ...

    ฟังแกเล่าแล้วเพลินดีค่ะ มาเห็นกระทู้นี้เลยถูกอกถูกใจแบบบอกไม่ถูก
    เหมือนฟังลุงฟังอาคุยกันชะมัด ...
     
  19. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    วันนี้ที่ทำงานผมมีการทดสอบฝีมือช่างเพิ่มเติม ก็ยุ่งทั้งวันแล้วก็พรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน ก็ยุ่งอีก พอมีเวลาว่างบ้างก็มาเปิดอ่านนี่ เจอเจ้าของตะปิ้งนาคเข้าพอดี ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทักทาย ก็ได้อธิบายเรื่องตะปิ้งให้คุณRungdaoไปเมื่อคืนพอรอดตัวได้อย่างฉิวเฉียดใจหายใจคว่ำ ถ้ายังมีเหลืออยู่ก็เอามาโชว์ก็ดี เฉพาะตะปิ้งนะ คือบางคนนี่ไม่รู้จักจริงๆ

    ขอต่องานก่อนครับ งานเอกสารนั่งอยู่หน้าคอมนี่แหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 มิถุนายน 2013
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:สวัสดีครับทุกๆท่าน ว่าจะไม่เข้าแล้ว เพลีย วันนี้ไปกรุงเทพมา ไปเช้า กลับมาถึง บ้าน เกือบ ๒ ทุ่ม ไม่ได้ไปหาพักพวกนาน เลยเข้าไปหาบางคน และสงเคราะ ซึ่งกันและกัน ตามอัตภาพวันนี้เข้ามารู้สึกจะคึกคัก เป็นพิเศษ นะครับพี่ จะได้ยินกระปิ้ทอง มีคนมีคนมายันนี่ แสดงว่า คนรุ่นเราเน๊ะ ถึงได้มี ถ้าห่างกันไปถึง ๕-๖ปี คงไม่ได้เห็นแล้วอ่ะครับ พวกเรายังดี เป็นคนร่วม สมัย เก่า กับในสมัยใหม่ คนรุ่นหลังไม่มีโอกาศ ได้ยิน และเห็นกับเขา เด็กเดี๋ยวนี้ ออกปุ๊บก็ใส่ เสื้อผ้าแล้ว แสดงว่าเขามีบุญ เขาจึงไม่รู้จักทั้ง ความเหนื่อยยาก พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เมื่อ ใกล้ ๔๐ ปีถึง ๕๐ ปี


    แถวบ้านผม ที่นครปฐม ตามบ้านนอก ก็คงไม่แพ้ สาน หรอกครับ แต่มันพิเศษ ที่ว่า ผมเตรียมไว้ ตอนหน้าฝน ปลาร้า ให้แม่ผม ทำไว้กินหน้า ปีหนึ่งตกสิบไห หรือกว่า หน้าฝน ดักกุ้ง ไว้ทำกระปิ ตก ปี สิบๆไห เหมือนกัน ไม่ต้องไปซื้อ เขา ทั้งหมู่บ้าน พ่อผม มีบ้านเดียว ที่ท่านพ่อ พาลูก ทำไร่ผัก นาๆชนิด หรือกินก็ขาย คนอื่นไม่ทำ ก็มีหลายคน ไอ้ประเภท ชอบลักโขมยกิน พ่อผมเก่งนะ แค่เห็น รอยตีน คน ท่านจะรู้ เลยว่า รอยตีนนี้ ไอ้คนนี้ รอยตีนนี้ ลูกคนโน้น รอยตีน อีคนนี้ ท่านจะรู้หมดแค่เห็นรอย เท่าน
    นั้น จะบอกได้เลย



    ใครมีอะไร ก็มา คุยกันฟังบ้างก็ได้นะครับ หรือสร้างบารมีอะไร ก็มาแลกเปลี่ยนความรู้ได้ให้ได้ อะนุโมทนาสาธุกัน เมื่อก่อน คนตามบ้านนอก เขาไม่มีส้วม บางบ้านก็ทำแบบเวสขี้พระ แต่มีน้อย ส่วนใหญ่ จะไปขี้หลังบ้าน หรือ ตามป่าไม่ไกลนัก ถ้าหม่ไม่ตามไปกิน ขี้ก็แห้ง หรือ แมงตุดจี่ ก็ไปกิน หรือที่ไหน มี ผี กระสือ ชอบกินขี้ ก็จะออกหากิน กลางคืน มีดวงไฟสีเขียวๆ กระพริบๆ เอ่านอกเรื่องอีกแล้วเรา แต่ว่า ขี้นคน นี่ ถ้าแห้งแล้ว สามารถ นำไปทำยารักษา โรค ได้หลายโรคเทียว แต่ผมน่ะ จำไม่ได้แล้วครับ ตอนเด็กๆพ่อ จะใช้ให้ไปเก็บเอามารักษา คนไข้ครับ


    ขี้แห้ง นำมาคั่ว จะหอมฉุยเลยครับ ยิ่งขี้ไก่นี่ พอแห้งแล้ว คั่วก็หอม นำมารักษาโรค ได้หลายชนิด ถ้ายิ่งไข้จับสั่น ดีครับ รักษาได้หลายโรค ผมเนี้ย เคยกินประจำ ถ้าไม่กิน ก็โดนตี ตอนเด็กๆ โรคเยอะผมน่ะครับ บางที คนไข้มาท่านบอก ให้ไปหลังบ้าน ไปเยี่ยวมา ให้ กระลาหนึ่ง เพื่อมารักษาคนป่วย ไม่ให้คนป่วยเห็น เดี๋ยวมันจะกินบ่ลง เอ่า เสือกมานี่อีกแล้วครับ พูดไม่ไพรเราะ ก็อย่าว่ากันนะ ผมพูดแบบไทยเดิม เสียส่วนใหญ่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ค่อยมาต่ออีกทีครับทุกท่านและพี พีทีโอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...