วิธีปราบอสูรกายร่างทรงทำอย่างไร

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย รักพระพุทธ, 11 มิถุนายน 2013.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    พูดถึงวิธีปราบภายนอกยังใช้ไม่ได้ผลหรอกครับ
    เราต้องปราบสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของเรา คือการทำให้จิตใจขอเราเข้มแข็งไม่อ่อนแอ(ด้วยการหมั่นเจริญสมาธิ รักษาศีล เจริญจิตภาวนา)
    สิ่งที่ไม่ดีภายนอกถึงจะครอบงำจิตใจของเราไม่ได้!

    พวกนี้เขาเก่งนะครับ เขาสามารถรู้ได้ว่าใครจิตตกอ่อนแอ เขาก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้เราเป็นสาวกของพวกเขา

    เคยแนะนำกัลยาณมิตรท่านหนึ่งให้ฝึกสมาธิทำจิตใจให้เข้มแข็ง อย่าหวาดกลัวหรือตกใจกับเรื่องอะไรง่ายๆ เพราะเราเป็นเจ้าของกรรมดีและกรรมชั่ว ไม่ใช่ว่าไปรับขันธ์ร่างทรงมาแล้วจะทำให้กรรมนั้นๆอันตรธานหายไป....คนเรานี้ก็แปลกเวลาเจอความทุกข์แล้วมักหาวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ

    ลองแก้ด้วยการฝึกสติเจริญสมาธิและวิปัสสนากรรมฐานครับ ไม่เพียงแต่เอาชนะสิ่งที่ไม่ดีภายนอกได้ เรายังได้กุศลจิตเป็นมงคลชีวิต เป็นวาสนาบารมีติดตัวอีกด้วย!
     
  2. อรูปฌาน

    อรูปฌาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +485
    ขอถามหน่อยนะครับว่าคุณกับร่างทรงที่ว่าพบกันได้อย่างไร
     
  3. poom101

    poom101 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +40
    ขันธ์ห้าเป็นสิ่งที่พระพุทเจ้าให้ล่ะให้ปล่อยวาง
    เรายังจะไปรับมาอีกหรือ ตอนนี้ขันธ์ห้าอยู่กะเราครบห้าแล้ว
    จะไปรับมาอีทำไม มีแค่นี้ก็ปล่อยวางยากมากแล้ว
    ตถาคเต เอกัญตคโต อภิปปสันโน เชือในพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว จบ
     
  4. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    ตามนี้เลยค่ะ
     
  5. พญาเสือดาว

    พญาเสือดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +503
    ผมก็เคยเจอเเบบนี่เหมือนกันเเต่ไม่สนใจ สิงที่ผมสนใจที่สุดคือพระนิพพานครับ คือความสุขที่สุดครับ เกิด เเก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ เกิดเป็นคน เทพ เปรต ๆลๆ ย่อมมี่ทีไปคือการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีที่สุดครับ
    ผมอยากฝากอะใรนิดนึงนะครับไม่ใด้ลบหลู่ คนที่ร่างทรงเทพต่างๆ ใครเคยเห็น เหาะ ลงนรก โชอภิญญาห้าให้เห้นบ้างครับหรือตัดสอนะรรมที่เคยรับฟังมาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห้นเเต่สวนมากทำตัวไร้สาระไม่มีประโยชณ์ เพราะเทพที่เกิดในยุคนี่สวนมากน่าจะใด้รับฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเเน่นอน ทำให้คนอย่างเรานี่บรรลุธรรมไม่ดีกว่าหรือได้บุญมากด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2013
  6. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... ตั้งแต่อ่านมาสองหน้าแล้ว เห็นได้ชัดว่า " ยังคงมีความเข้าใจในเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนกันเท่าไหร่นะคะ มีอยู่ไม่กี่ท่านที่พูดได้ถูกต้องใกล้เคียงมากที่สุด " บางทีพวกเราน่าจะมีการเรียบเรียงความเข้าใจกันใหม่ก็ดีนะคะ เพราะรู้สึกจะสับสนกันเหลือเกิน ... แค่คำว่า ร่างทรง กับ คนมีองค์ มันก็ต่างกันมากแล้วนะคะ ..
     
  7. พญาเสือดาว

    พญาเสือดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +503
    เเต่ผมรู้อย่างเดียวคนมีองค์หรือร่างทรงก็ต้องมี่ทีไปที่เดียวกันครับ
    ร่างทรงคือคนที่บอกมีองค์เทพลงมาประทับเเต่สวนมากคือผี
    คนมีองค์ความหมายคือมีเทพคุ่มครองอาจจะเป้นบุญเก่าที่ทำร่วมกันมาก็เป็นได้เเต่ไม่ลงประทับร่างกายครับ

    เเต่ผมรู้อย่างนึงเทพเกียจกินมนุษย์เพราะมนุษย์ชอบกินเนิ่อสัตว์อันนี่พระพุทะเจ้าเคยตัดสอน
     
  8. karnrujee

    karnrujee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5

    ขอบารมีท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณสิ...ท่านคุมอยู่...
     
  9. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... อันนี้กาลีนะเอามาฝากนะคะ .. ลองอ่านก่อนพิจารณาก่อนนะคะ .. ไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมด เพราะกาลีนะเองก็ถูกทักว่ามีองค์มาตั้งแต่เกิดแต่ก็ไม่เคยคิดจะเป็นร่างทรงกับเขา .. ยังเป็นคนธรรมดาเดินดินขี้เหม็นเหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าใคร ..แค่อาจจะมีภพภูมิมาสัมผัสบ้าง แต่ก็ไม่ได้แปลกไปจากหลาย ๆ คนในเว็ปนี้หรอกคะถือว่าธรรมดา ... จำได้ว่าสมัยสาว ๆ ก็อยากรู้อยากเห็นตามประสาแต่ก็มีการค้นคว้าศึกษาเพื่อกันตัวเองโดนหลอกเหมือนกัน เอาง่าย ๆ คือ กลัว ... ก็พอเอามาเล่าสู่กันฟังประมาณนี้แหละคะ

    .... คนมีองค์

    ... หมายความได้ถึง คนที่มี องค์พระ หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาคุ้มครอง หรือมีความเกี่ยวพันกับชีวิตมาตั้งแต่เกิด อาจจะเป็นพันธะสัญญาแต่ชาติปางก่อน หรือทำบุญกุศลมามาก ทำให้เกิดมาชาตินี้เป็นคนที่สามารถสื่อจิตไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นคนที่ไม่มีองค์มาแต่กำเนิด แต่อาศัยการฝึกฝนจิต นั่งสมาธิ สวดมนต์บูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนสามารถสื่อจิตถึงเทพเจ้าได้ เมื่อคนมีองค์แล้ว ไม่หมั่นฝึกจิต สวดมนต์ นั่งสมาธิ การรับรู้สื่อจิตไปถึงองค์ก็จะค่อยๆหายไป กลับมาเป็นคนที่ ไม่มีองค์ ไปในที่สุด...

    ร่างทรง

    .... คือ คนที่ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือสามัญชนทั่วๆไป ด้วยการแสดงอิทธิฤทธิ์ เช่น อมควันธูป เดินลุยไฟ เหยียบหนาม เสกของ จัดสร้างวัตถุมงคลระดับต่ำ ทำนายทายทัก รักษาโรค ทำไสยศาสตร์ เล่นของดำ โดยส่วนใหญ่มักจะแอบอ้างพระนามของเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ดูยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์

    สรุป ... คนมีองค์ ไม่จำเป็นต้องเป็น ร่างทรง... ร่างทรง อาจจะ ไม่มีองค์ เลยก็ได้ (ผู้ที่เข้าข่ายหลอกลวง) คนมีองค์ ไม่จำเป็นต้อง รับขันธ์ เพราะการรับขันธ์ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดูแม้แต่น้อย ถ้ามีคนทักว่า มีองค์ ก็ให้เฉยๆไว้ อย่าหลงเชื่อ... คุณอาจจะมีองค์จริง หรือไม่มีองค์ ก็ไม่มีใครทราบ และไม่จำเป็นต้องทราบ... อย่าไปเสียเงินค่าพิธีแม้แต่บาทเดียว เพราะถ้าเสียเงินครั้งแรกจากการรับขันธ์..คุณจะโดนของเขมรทันที...และต้องเสียไปเรื่อยๆจนหมดตัวในที่สุด!! ขอให้กลับไปสวดมนต์ภาวนาบูชาพระอย่างเดิม ไหว้พระก็ไหว้ที่บ้าน อยากไหว้นอกบ้านก็เข้าวัดหรือเทวสถานไปเลยจะดีกว่า
     
  10. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ถ้าไม่หายใช้บทนี้เลยครับ

    บทสวด กะระณียะเมตตะสุตตัง
    นี้เลยครับรองดูหายไหม

    ๑. กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ . . . . . . . ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ
    สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ . . . . . . . . . . . . สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี
    กิจที่คนฉลาดในสิ่งที่มีประโยชน์ และมุ่งหมายจะบรรลุทางสงบ จะพึงทำก็คือ เป็นคนกล้า, เป็นคนซื่อ, เป็นคนตรง, ว่าง่าย, อ่อนโยน, ไม่เย่อหยิ่ง

    ๒. สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ . . . . . . . .อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติ
    สันตินท์ริโย จะ นิปะโก จะ . . . . . . . . อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ
    เป็นผู้สันโดษ, เลี้ยงง่าย, มีภาระกิจน้อย(ไม่วุ่นวาย), คล่องตัว(ไม่ยึดติดกับความสุขจนไม่เป็นอิสระ), ระมัดระวังการแสดงออก, รู้ตัว, ไม่คะนอง, ไม่คลุกคลีในตระกูลทั้งหลาย

    ๓. นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ . . . . . เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
    สุขิโน วา เขมิโน โหนตุ . . . . . . . . . . . . สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
    ไม่ประพฤติสิ่งที่วิญญูชนตำหนิติเตียนได้, พึงแผ่เมตตาจิตว่า ขอสัตว์ทั้งปวง จงมีความสุขกายสบายใจ มีความเกษมสำราญเถิด

    ๔. เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ . . . . . . . . . . . . .ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา
    ทีฆา วา เย มะหันตา วา . . . . . . . . . . .มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา
    ขอสัตว์ทั้งหลายบรรดามี ที่เป็นสัตว์ตัวอ่อน หรือตัวแข็งก็ตาม เป็นสัตว์มีลำตัวยาว หรือลำตัวใหญ่ก็ตาม มีลำตัวปานกลาง หรือตัวสั้นก็ตาม ตัวเล็กหรือตัวโตก็ตาม

    ๕. ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา . . . . . . . . . เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร
    ภูตา วา สัมภะเวสี วา . . . . . . . . . . . . .สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
    ที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม ที่อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้ก็ตาม ที่เกิดแล้ว หรือกำลังหาที่เกิดอยู่ก็ตาม ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงนั้นจงสุขกายสบายใจเถิด

    ๖. นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ . . . . . . . . .นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ
    พ์ยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา . . . . . . .นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ
    บุคคลไม่พึงหลอกลวงผู้อื่น ไม่ควรดูหมิ่นเหยียดหยามใคร ๆ ไม่ควรมุ่งร้ายต่อกันและกัน เพราะมีความขุ่นเคืองโกรธแค้นกัน

    ๗. มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง . . . . . . . . . . อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
    เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ . . . . . . . . . . . . . . มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
    คนเราพึงแผ่ความรักความเมตตา ไปยังสัตว์ทั้งหลายหาประมาณมิได้ ดุจดังมารดาถนอม และปกป้องบุตรสุดที่รักคนเดียวด้วยชีวิตฉันนั้น

    ๘. เมตตัญจะ สัพพะโลกัส์มิง . . . . . . . . .มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
    อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ . . . . . . . . . . อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
    พึงแผ่เมตตาจิต ไม่มีขอบเขต ไม่คิดผูกเวร ไม่เป็นศัตรู อันหาประมาณไม่ได้ ไปยังสัตว์โลกทั้งปวงทั่วทุกสารทิศ

    ๙. ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา . . . . . . . . . . . สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
    เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ . . . . . . . . . . พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
    พึงเจริญเมตตาจิตนั้นไม่ว่า จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน ตลอดเวลาที่ตนยังตื่นอยู่ พึงตั้งสติ อันประกอบด้วยเมตตานี้ให้มั่นไว้ บัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า การอยู่ด้วยเมตตานี้ เป็นพรหมวิหาร (การอยู่อย่างประเสริฐ)

    ๑๐. ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา . . . . .ทัสสะเนนะ สัมปันโน
    กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง . . . . . . . . . . . . . .นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ
    ท่านผู้เจริญเมตตาจิต ที่ละความเห็นผิดแล้ว มีศีล มีความเห็นชอบ ขจัดความใคร่ในกามได้ ก็จะพ้นจากทุกข์ได้แน่แท้

    สวดจบ ก็ รอง อธิฐานจิตดูครับ ขออำนาจ พระพุทธเจ้า พระธรรมะเจ้า พระสังฆเจ้า จงบรรดา บุญข้าพเจ้าให้แก่ เจ้ากรรมนายเวร สัมภเวสี วิญญาณมิจฉาทิฏฐิ ด้วยเถอะ สาธุ
     
  11. narapat

    narapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +718
    เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ต้องการอะไรจากมนุษย์
    มีแต่มนุษย์นั่นแหล่ะที่เอาเทวดาไปแอบอ้าง
    พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ปฏิเสธเรื่องเทพ พรหม
    พระอริยะสงฆ์ท่านไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน
    เทพ พรหมคอยช่วยเหลือให้การสนับสนุนต่อท่านเหล่านั้น
    เทพ พรหม หวังเพียงให้มนุษย์ช่วยกันสร้างความดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มิถุนายน 2013
  12. narapat

    narapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +718
    บนสวรรค์
    เกิดเป็นเทวดาอยู่พบแต่ความสุข
    ในนรก
    มีแต่พานพบแต่ความทุกข์ทรมาน
    ทั้ง2ภพนี้ไม่สามารถเอื้อเฟื้อแบ่งบุญแบ่งบาปให้ผู้อื่นได้
    แต่เกิดเป็นมนุษย์สามารถเลือกทำดีและทำชั่วได้
    เกิดเป็นมนุษย์สามารถแผ่บุญกุศลไปแดนเทพแดนพรหมแดนยมโลกได้
    เมื่อได้เกิดเป็นมนุษย์ให้ตั้งใจสร้างสมบุญกุศล สร้างสมบุญบารมี
    หมั่นทำความดี ทาน ศีล ภาวนา
    ละโลภ โกรธ หลง
    เพื่อหนทางอันเป็นที่สุดตามที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ให้นิพพานสมบัติไว้
    นิพพานังปรมังสุขัง
    สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. esperboy

    esperboy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +14
    คุณไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ไม่มีใครหรือเทพองค์ใดพาคุณเข้านิพพาน หรือพาพ้นอบายได้ ให้พึ่งแต่พระรัตนตรัยเท่านั้น ชีวิตนี้แม้จะเป็นฆราวาสก็ขอตายถวายเป็นพุทธบูชา เมื่อก่อนผมก็ใหว้หมดนะ เทพองค์ใหนดีองค์ใหนขลังแต่ตอนนี้ผมเลิกหมดแล้วใหว้แต่พระรัตนตรัยยึดเป็นสรณะ อย่างอื่นผมก็ใหว้แต่ไม่เป็นสรณะเพราะไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
     
  14. Sathu2516

    Sathu2516 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +29
    สิ่งสำคัญที่สุดคือ ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะสูงสุดก่อน การรับขันธ์นั้นต้องพิจารณาด้วยปัญญา ถ้ารับมาบูชาในคุณงามความดีของเทพองค์นั้น ผู้ซึ่งเคยผูกพันกับคนรับมา ก็ให้เคารพบูชาและระลึกถึงคุณงามความดีของท่านเช่น พระพิฆเณศเป็นเทพแห่งศิลปะวิทยาก็บูชาท่า่นในฐานะที่ท่านเป็นตัวแทนแห่งวิชาความรู้นั้น เจ้าแม่กวนอินเป็นเทพแห่งความเมตตากรุณา ก็ให้บูชาและระลึกและนำคุณงามความดีของท่านทั้งหลายมาปฏิบัติแต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องไม่ขัดต่อคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยสงฆ์ เท่านี้ก็ถือว่าเป็นการบูชาทั้งพระรัตนตรัย และความดีของเทพเหล่านั้นแล้ว
     
  15. narapat

    narapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +718
    สุดยอดครับ เราบูชาความดีของท่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. LLeawadee16

    LLeawadee16 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    น่าจะไปหาสุวัณภูมิปกรณัมอ่านกันบ้างก้อดีนะ เผื่อจะเข้าใจบ้าง
     
  17. OrangeHP

    OrangeHP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +160
    ใครมีวิธีบ้าง ผมไปรับมาแต่ไม่อยากได้แล้ว เพราะเบื่อ รู้สึกว่าตัวเองเป็นขี้ข้าพวกนี้ ปัจจุบันห่างแล้วไม่ไปร่วมอะไรทั้งสิ้น



    ในตัวผมมี 2 อย่าง
    1.ขันธ์ที่ไปรับมาจากที่อื่น ของที่อื่นที่ไปรับมาผมไม่เอาใดๆทั้งสิ้นไม่อยากยุ่งเกี่ยวใดๆทั้งสิ้น **** ทำอย่างไรจะถอนขั้นธ์ โดยไม่กลับไปให้คนครอบทำพิธีอีก


    2.สิ่งที่ติดมากับตัวตั้งแต่เกิด อันนี้ไม่เป็นไรผมรับไว้เป็นสิ่งที่ดีครับ
     
  18. visonj2

    visonj2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +631
    ถ้าเขาทักว่ามี แล้วจริงๆมันมีหรือไม่มีก็ตาม ถ้าจะให้ชัวร์คือ กำลังใจเราตอนนี้ขอพึ่งพระรัตนตรัยอย่างเดียวแล้ว ก็ควรจะปฏิเสธ เพราะการมีองค์เทพนั้นมันเรื่องของอดีต สัญญาเขาตามมาจากอดีตชาติ มันไม่จำเป็นว่าอดีตเคยเกี่ยวข้องกัน ในปัจจุบันก็ต้องทำสัญญาผูกพันกันต่อกับเทพองค์นั้น ไปถึงอนาคตที่ไม่มีที่สิ้นสุด

    อันดับแรก แนะนำวิธีง่ายๆเลย คือ

    สวดมนต์..พุทธธังสรณังคัจฉามิ...-สมาทานศีล5 เสร็จแล้วพูดว่า(ถ้าตำหนักเขาให้ขัน หรือสิ่งของมาให้ยกขึ้นมา)อธิษฐาน ด้วยอานิสงส์ผลบุญจากการสวดมนต์สมาทานศีล และการภาวนาในวันนี้ ถ้าข้าพเจ้าเคยรับขันธ์มาก็ดี หรือ มีกรรมใดกับเทพ พรหม เทวาองค์ใดก็ดี ขอแม่พระธรณีมาเป็นพยานว่า ขันธ์ทุกขันธ์ที่ข้าพเจ้าเคยรับมา และองค์เทพชื่อ...นี้ ไม่มีส่วนในชีวิตของข้าพเจ้า ขอแม่พระธรณีเป็นพยานว่าข้าพเจ้าขออโหสิกรรม ตั้งแต่เวลานี้ วันนี้เป็นต้นไป และหากเทพ พรหม เทวา องค์ใดจะมาผ่านร่างของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่อนุญาตให้ผ่านร่าง ...พูดไปทุกวัน สวดมนต์ทุกวัน มันจะคลาย

    ทีนี้ถ้าเขาให้ของมาด้วย เช่นให้ขัน ให้พาน ดอกไม้ กรวย หรือบางทีให้พระเครื่อง หรือสิ่งของอะไรมา ให้ไปที่ริมคลอง ริมแม่น้ำก็ได้ เราก็ยกขันหรือของนั้นขึ้นมาแล้วก็พูดตามที่บอกข้างต้นอีกที และเอาของลอยไปตามน้ำ พูดแถมท้ายด้วยว่าลูกขอฝากพระแม่คงคา แม่พระธรณี นำสิ่งนี้กลับคืนไปหาเจ้าของ เเค่นั้นแหละ ลองดูนะ --->ไปทำตอนกลางวันล่ะ เดี๋ยวกลัวผีแย่.555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2013
  19. tahanlaoboy

    tahanlaoboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +131
    คุณกำลังโดนเขาลองใจถ้าจะเอาชนะก็ให้ชนะตัวเองคือไม่กลัวไม่กลัวเขาไม่กลัวเรา สรุปแล้วไม่กลัวตายศึกษาให้เห็นตายจนเรารู้สึกว่าอยากตายหรือตายเมื่อไร่ก็ใด้ วิธีทำให้เบื่อโลกก็คือศึกษาร่างกายทำให้มันเห็นทุกข์และโทษของการร่างกาย มีกายทิพย์ไปใหนก็สดวก พุดไปก็ไม่จบโลกเป็นของหน้าเกลียดที่สุด
    คนเราร่างกายก็สกปรกใจก็สกปรกผู้มีศิล5ถึงศิล311ก็ดีจิตใจยังสกปรกอยู่ถ้าเปรียบเรากับพระอริยะเจ้าแล้วเราก็คือหนอนในส่วมผมเห็นแล้วหน้าสงสารตัวเองมากเพราะว่าเราหลงว่าเรามีศิลแล้วว่าเราดีความคิดหนี้อย่าให้มีในจิตของผู้ปฎิบัติเลย เราไปเห็นสำหนักปฎิบัติธรรมของหลวงพ่อมหาฤาษีลิงดำในความฝันแล้วถึงกับร้องให้เพราะเราเห็นจิตของเราสกปรกยิ่งนักในสำหนักของท่านมีพลังแห่งความสอาดบริสุทธิมากท่านบอกว่าเราอยู่ไม่ใด้เพราะขืนอยู่ไปในที่นั้นจะทำให้การปฎิบัติธรรมของเราจะลำบากขึ้นไปอีก ท่านบอกว่าอีก15ปีมาใหม่
    ขอให้นักปฎิบัติจงคิดให้มากและศึกษาให้เห็นจริงเถิดแล้วจะเขาใจธรรม
    Dhamma is the Physics
     
  20. thexjeab

    thexjeab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +685
    เอาใจช่วยครับขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีนะครับ มีแต่สิ่งดีเข้ามาในชีวิตครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...