เหตุใดพุทธในประเทศไทยจึงเชื่อเรื่องอภิญญา แต่พุทธในอินเดีย ปฏิเศท อภิญญา

อย่างแรกต้องกล่าวขอโทษไว้นะที่นี้ หากคำถามของข้าพเจ้าไม่เป็นสิ่งบังควร หรือ เป็นการกระทบกระเทียบต่อผู้ใด

เอาละเริ่มคำถามเลยดีกว่า จากการที่เราๆท่านๆต่างก็รับรู้กันมาว่าศานาพุทธ อุบัติขึ้นในอินเดีย โดยสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นชาวเนปาล เชื้อสายอินเดีย และในชาดก ตลอดจน พระไตรปิฏกก็มีการกล่าวถึงคุณวิเศษปาฏิหาร ต่างๆ แม้ในสายหลวพ่ออค์ต่างๆก็มีการกล่าวถึงอภิญญา อภินิหาร ไม่ว่าจะการเดินบนน้ำทะเล หายตัวไปอีกที่ หรือ การรักษาด้วยยาวิเศษ การใช้พลังจิตควบคุมเปลี่ยนแปลงอากาศ ฯลฯ ซึ่ง คอนเซพ เรื่องอภินิหารเป็นสิ่งที่คนไทยพุทธรู้กันท่วนหน้า ว่ามีพระสงฆ์ผู้กล่าวอ้างว่าตนทำได้ แต่กระนั้นก็มิเคยมีหลักฐาน หรือมีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ว่าพระท่านเหล่านั้นสามารถกระทำอภินิหารได้จริง? เช่นการบอกว่าเคยไปป่าหินมพาร ก็ไม่มีหลักฐานว่าได้ไปจริงๆ หรือมีคนเห็นหรือไปด้วยกัน? แต่เป็นเพียงการบอกกล่าวโดย หลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา ท่านต่างๆ เพียงแต่ปากเล่า

กระทั้งราวอาทิตย์ก่อน ข้าพเจ้าได้ไปพบกับกระทู้ของสมาชิกท่านนึงที่โพสต์เรื่อง พระอาจารย์ อนิลมาน ผู้กล่าวว่าเป็น ลูกหลานตระกูลเดียวกับพระพุทธเจ้า และในช่วงหนึ่งของรายการที่พิธีกรได้ถามท่านถึงเรื่อง อภิญญาอภินิหารที่ปรากฏอยู่ในชาดก ท่านอนิล ฯ ผู้ซึ่งเป็นลูกหลานแท้ๆของพระพุทธองค์เอง ได้ตอบว่า "สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องแต่งขึ้นในภายหลัง ไม่มีจริง เป็นแค่การแต่งให้ดูยิ่งใหญ่ มีพงศวดารน่าสนใจ" ข้อนี้เลยทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกขเว่ ว่าถ้าเช่นนั้นดิฉันจะเชื่ออะไรได้ ถ้าแม้แต่พระไตรปิฏก ก็เป็นเรื่องแต่งขึ้น? เพราะใครเล่าจะมารู้ดีเท่ากับลูกหลานพระพุทธองค์เอง ที่แน่นอนว่าต้องสืบทอด
ศานา มาใกล้ชิด และรู้ตื้นลึกหนาบางมากกว่าคนนอก สิ่งที่ท่าน อนิล ฯ กล่าวทำให้ข้าพเจ้านึกถึง นิกาย วิเวกนันทา ของ อินเดีย ที่ ท่าน วิเวกฯ เป็นผู้นำศาสนาฮินดูมาตีแผ่ให้เข้ากับสังคมยุคใหม่ ตอนหนึ่ง ในประวัติ ท่าน วิเวก นั้น เป็นลูกเศรษฐีชาวอินเดีย ที่ จบการศึกษามาจากเมืองนอก ท่านก็เช่นเดียวกับคนอื่นๆ คือ สงสัยว่า อภิญญา อภินิหาร ที่ล่ำลือกันในศาสนาฮินดูมีจริงไหม ท่านจึงได้เข้าไปหาอาจารย์ พราหมณ์ ท่านนึงที่นั่งสมาธิอยู่


และถามว่า "ท่านนั่งหลับตาอยู่เช่นนั้นได้เห็นเทพเจ้าองค์ใดๆ แล้วหรือ ยัง" อาจารย์จึงลืมตาขึ้นและตอบว่า "เห็นชัดเหมือนกับที่เห็นหน้าเธอนี้แหละ" และท่านก็สรุปว่า จะเห็นนิมิต หรือไม่เห็น มันอยู่ที่ใจ ถ้าคิดว่าเห็น เราก็เห็นแล้ว ไม่ได้ยากอะไร ทำให้ ข้าพเจ้าเห็นความเหมือนกันของแนวคิดของอาจารย์ ฮินดู ของท่านวิเวก ที่เหมือนกันกับ ของท่านอนิล ฯ พระสงฆ์ ที่เป็นลูกหลานพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นชาวเนปาล ซึ่งได้กล่าวกับพิธีกร คุณ กฤติ อีกที ว่า "ลองคิดถึงบ้านซิ" คุณกฤติ ก็ตอบว่า "ครับ ผมคิดถึงบ้านแล้ว" และท่านอนิล ฯ ก็กล่าว ขึ้นว่า "เห็นไหม จิตก็กลับไปบ้านแล้ว" นั้นแสดงให้เห็นว่า แนวคิดเรื่องสมาธิ อภิญญาของ พุทธ ทางสาย อินเดีย เนปาลนั้นเป็น เรื่องของ ปรัชญา เสียมากกว่า ศาสนา หรือ พิธีกรรม ที่เรามานั่งเรียน ฝึกสมาธิกันยาวนาน เช่นนี้ และต้องสั่งสมกันมาแต่ชาติก่อน เพือจะได้เป็นผู้วิเศษ หรือได้ อภิญญา ซึ่งก็ไม่เคยเห็นพระท่านที่ว่าทำได้จริง เช่น ให้พญานาคมาลอยอยู่แม่น้ำตรงหน้า ก็ยังไม่เคยมีหลักฐานหรือเห็นกันต่อน้าพยานลักฐาน? ....ในขณะที่ทางอินเดีย เนปาล นั้นชื่อต่างจากเรา ถ้าเช่นนั้นแล้วข้าพเจ้าขอถามว่า อย่างนี้แล้วข้าพเจ้าควรจะเชื่อ พุทธของทางใด ระหว่างพุทธของปะเทศไทย ที่ครูบาอาจารย์สอน ฤทธิ์ อภินิหาร หรือ พุทธแบบ อินเดีย เนปาล แบบ ท่าน อนิล ฯ หลานแท้ๆพระพุทธเจ้าที่กล่าวว่า พุทธเป็น ปรัชญา?

 

ทีหลังอ่านกฏห้องอภิญญาXP ก่อนจะตั้งกระทู้นะคับคุณ
http://palungjit.org/threads/ห้อง-อภิญญา-xp-มีไว้เพื่ออะไร-และ-ควรอ่านก่อนจะตั้งกระทู้ใหม่.57437/

ส่วนอภิญญาของจริงนั้นมีอยู่ ผมเจอกับตัวแล้วการหยั่งรู้ของจริง เช่นผมฝันเห็นไร จะพูดไร คิดไร ไปทำไรมาเมื่อ10ปีก่อน พระท่านรู้ได้ทันทีโดยที่ผมไม่ต้องบอก และสามารถถ่ายทอดให้คนอื่นทำตามได้เป็นร้อยเป็นพัน อภิญญาของจริงจากการทำสมาธินั้นมีอยู่ เพียงแต่น้อยคนที่ถึงก็เท่านั้น สังเวชนียสถานที่สามารถพบปะกันได้ เคยได้ยินไหมนั่นแหละสำหรับคนที่ถึง ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต

ผม1ทิตย์ขึ้นปฐมฌาน 2ทิตย์เนวสัญญายตนะฌานด้วยวิปัสนากรรมฐานนี้
http://palungjit.org/threads/เข้าฌาน-แล้วระลึกชาติ.363781/

และผมไม่ได้มาเพื่อข่มใคร เพียงแต่กล่าวความจริงก็เท่านั้น ใครแนะนำให้ผู้อื่นบรรลุ ญาน ฌาน อภิญญา6 ได้ผมก็โมทนาด้วย

 

ท่านไม่ได้ให้เราเชื่อครับเพราะฉะนั้นไม่ต้องเลือกว่าจะเชื่อทางไหน แต่ท่านให้ปฏิบัติครับ แล้วจะรู้ได้เฉพาะตน

 

ถูกต้องเลยคับ ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้งมงายแต่สอนให้ทำให้แจ้งด้วยตนเช่นฝึกวิปัสนากรรมฐานจนบรรลุ ญาน ฌาน อภิญญาขั้นสูงจนถึงอภิญญา6อันเป็นโลกุตระธรรมเพียงแต่สมัยนี้คนถึงน้อย ส่วนอภิญญานั้นคนที่ได้จริงย่อมเห็นกันได้ไม่ใช่วิสัยของคนทุศีลหรือปุถุชนจะเห็นได้โดยง่าย

 

ชาวพุทธส่วนหนึ่งในประเทศไทยก็ปฏิเสธปาฏิหาริย์ครับ

เรื่องที่คุณว่ามาทั้งหมด ผมเข้าอยู่ในหมวด เหมาโหลถูกกว่า
คือ อ้างอิงบุคคลแค่ไม่กี่คน แต่เหมารวมเอาทั้งหมด

เช่น การที่มีคนกล่าวว่า พระไตรปิฏกมีส่วนที่แต่งขึ้นใหม่
คำถามที่เราควรสนใจเป็นอันดับแรกคือ เขาเอาอะไรมาเป็นหลักฐานการแต่งขึ้นใหม่...

การโยงอะไรนั้นต้องระวัง โดยเฉพาะเรื่องตรรกะเหตุผล
ซึ่งพระพุทธเจ้าก็เตือนแล้วว่าอย่าปลงใจเชื่อ(ทันที)แม้ว่าจะมีเหตุมีผล
เช่น ร่มกับฝนตก
แม้ว่าจะพกร่ม ก็ไม่ได้หมายความว่าฝนจะตก
หรือการที่ฝนตก ก็อาจจะไม่ได้พกร่ม
แต่ร่มกับฝนตกก็เข้ากันดีอยู่ไม่ใช่เหรอ...?

หรืออย่าง อานิสงส์ของการทำทาน ทำไมคนทำทานไม่รวยสักทีละ...?
แล้วคนที่บาปทำกรรมทำไมรวยนัก...
เรื่องดูไม่เป็นเหตุเป็นผลอะไรเลย
นี่แหละถึงต้องระวังเรื่องคิดตามเหตุตามผล

ต้องใช้คำว่า รู้..
ต้องรู้... รู้จริงๆ

อภิญญามีจริงมั้ย...? รู้จริงหรือยัง...?

 

ท่านเจ้าของกระทู้ สงสัย ในเรื่องอภิญญา เหตุใดไม่ปฏิบัติให้รู้เองเห็นเองละ จะมัวแต่สงสัยแล้วจะได้อะไร หากไม่ลงมือปฏิบัติให้รู้เองเห็นเอง หลักสูตรในพุทธศาสนาก็มีสอนเอาไว้อยู่แล้ว

 

อภิญญาคือความรู้ยิ่ง นั้นไม่สามารถใช้ปัญญานึกคิดเอาเองได้เป็นอจินไตยเกินตรรกะความนึกคิดมนุษย์จะนึกคิดได้เองเฉกเช่นสภาวะนิพพาน แต่ผู้ปฏิบัติจริงสงบแล้วบรรลุญานฌานเป็นต้นจนถึงอภิญญาย่อมเข้าใจและรู้ได้ เหมือนเช่นโลภโกรธหลงใช้เครื่องตรวจได้ไหมก็ไม่ได้ ท่านจะบอกว่าไม่มีเพราะมองไม่เห็นก็ไม่ได้ เพราะมันมีแต่มองด้วยตาเนื้อไม่เห็น แต่เข้าฌานใช้อภิญญาดูได้

 

สวนทางคำสอนพระพุทธเจ้าจังๆ เลย...

ไปพิจารณาดูนะ ว่าผิดตรงไหน ใบ้ให้แล้วนะว่าผิดส่วนไหน

 

ตัวนายสวนทางสินะ อินทรบุตรสวนทางกับพุทธเจ้าเที่ยวจับผิดโน้นทีคนนี่ทีโดยที่ไม่เคยดูตนในตนและยังไม่รู้แจ้งดี บำเพ็ญกรรมฐานให้พองามเผื่อจะได้รู้แจ้งในญาน ฌาน อภิญญาจะได้ไปตอบในกระทู้ต่างๆได้อย่างมั่นใจ อย่าได้แก่แต่ตัวเลยแก่ความรู้ดีกว่าอินทรบุตรพระอริยะเจ้าย่อมสรรเสริญ และบรรฑิตย่อมรู้

 

ต้องบอกว่า มีคนหลายประเภทมากในโลกนี้ และก็ใช่ว่าคนที่เป็นลูกเป็นหลานจะเก่งเหมือนต้นตระกูลไม่ คนบางคนเชื่อทั้งๆที่ไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยิน แต่มันก็น่าเชื่อถือนะ(ประมาณนี้) แต่มีน้อยคนในประเทศนี้ที่เชื่อเพราะการได้ฝึกและปฎิบัติ ถ้าไม่ลองด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อนะครับอย่าเพิ่งปฏิเสธว่ามันไม่มีหรือเป็นไปไม่ได้ ทุกวันนี้ผมก็พิสูจน์คำสอนพระศาสนาอยู่ครับจะได้ไม่ต้องไปถามใครอีก

 

วิปัสนากรรมฐานที่ผมบอกก็ไม่ได้ให้ใครเชื่อ แต่ให้พิสูจน์ด้วยตนเองเพราะผลมันฟ้องในตัวมันเองอยู่แล้ว ผมได้และคนอีกเป็นพันได้หรืออาจจะหลักหมื่นเพียงแต่ผมไม่รู้ก็เท่านั้น

 

คือที่ผมเขียนข้างบนผมตอบให้กับเจ้าของกระทู้เค้านะครับ อ่านให้ดีๆนะครับ

คนเก่งย่อมถ่อมตน คนโง่ย่อมอวดตน เหมือนดั่งไฟที่เผาตัวมันเอง ใจตัวเองรู้ตัวเองที่สุด เราจะบอกในสิ่งที่เรารู้ไปก็ไม่มีใครเข้าใจหรอกครับเพราะธรรมไม่เสมอกันเพียงแต่ว่า เมื่อ เวลาของเขามาถึงเท่านั้น ได้แค่ให้กำลังใจเขาไปอย่างเงียบๆเท่านั้น ถ้าฉลาดในธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วมาเถียงกัน ผมขอโง่ดีกว่าครับจะได้ไม่ต้องไปกล่าวหาหรือเถียงใครเขา เมื่อท่านมาถูกทางแล้วก็อย่าให้เสียเวลาเปล่าครับเร่งปฏิบัติให้ได้จะได้ไม่ต้องมากวนคนอื่นต่อไป (ถ้าท่านไม่ตอบกลับแสดงว่าท่านผ่านบททดสอบครับ ดูจากพศ.ที่สมัครแล้วรู้สึกว่าเจนจัดทีเดียว) ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมก็กำลังฝึกตัวผมเองอยู่เหมือนกันเลยไม่ค่อยมาตอบกระทู้ได้แต่เข้าไปฟังใน บอร์ดเสียงอย่างเดียว เพราะหลังๆบอร์ดข้อความชักจะไปกันใหญ่ ขอโทษจริงๆด้วยความเคารพ:'( ผมงงจริงๆฝึกวิปัสสนาแล้วได้อภิญญา เคยเห็นแต่ฝึก สมถะภาวณาแล้วได้อภิญญาทำให้จิตมีสมาธิขั้นสูง แต่วิปัสสนามีแต่ได้ปัญญาแก้ปัญหารู้ทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ รู้ทางพ้นทุกข์ ดับทุกข์ได้ใช้สมาธิเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น http://palungjit.org/threads/สมาชิกควรให้เกียรติกันและกัน.370715/

 

ภาวนามานานจิตเต็มไปด้วยขยะเที่ยวแต๋วอยู่ก็เยอะ เหอะๆ สายพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ใครมาก่อนหรือมาหลัง อยู่ที่ใครถึงก่อนคือบรรลุอริยะบุคคลมี โสดาบันจนถึงอรหันต์ขีณาสพเป็นต้น และมีคุณธรรมสูงส่ง(ในระดับจิตไม่ใช่แค่ภายนอก)

คนที่เต็มไปด้วยมานะทิฐิโมหะปฏิบัติผิดๆหลอกตัวเองและผู้อื่นว่าจะบรรลุได้หรอ เหอะๆ วาระของพระอรหันต์ไม่ใช่การละเมอนึกคิดและหลอกตัวเองจะไปถึงได้ด้วยประการทั้งปวง ได้อภิญญาแล้วไปดูพวกหลอกตัวเองว่าไปอยู่ไหนกันนะ ขนาดคนสรรเสริญเป็นแสนยังเอาไม่อยู่ ยิ่งลงลึกบอกภายในจิตเต็มไปด้วยขยะโสโครก บุคคลปฏิญานตนว่าเป็นพรหมจรรย์แต่ไม่ใช่พรหมจรรย์ เน่าในสางได้ยากเป็นผู้ทุศีล ภายนอกมีวาจาสงบก็ บุคคลนั้นจะบรรลุได้หรือ ?

 

ท่านเชื่อ คนที่กล่าวอ้างว่า เป็นหลานพระพุทธเจ้า แล้วไม่เชื่อคัมภีร์ที่มีการศึกษาสืบทอดมาจนบัดนี้ น่าขำ.. ท่านเคยไปดูพุทธศาสนาในเนปาลบ้างไหม ในเนปาลเหลืออะไรเป็นร่องรอยให้ภูมิใจและยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่งได้จริงๆ ความมั่นคงทางศาสนาของเนปาล ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของไทยหรือพม่า ผมเชื่อพระไตรปิฏกที่ศึกษาสืบทอดกันมา แต่ผมไม่เชื่อลมปากของคนๆหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่า มีดีแค่ไหน

 

นอกจากไม่เชื่อ แล้ว ทางด้านนั้นๆ

ยังมีความคิดว่า พูดว่า พระพุทธเจ้า โดนยาพิษจากนาย ... อีกด้วยละ

เคยดูสาระคดีมา เหอๆ

.

 

เอาแล้วไง การเป็นลูกของพระพุทธเจ้า นี่ง่ายๆ พระโสดาบันขึ้นไป พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ ขอเล่าหน่อยมันยาวนิดหน่อย มีพระองค์หนึ่ง ได้เดินใกล้ๆพระพุทธเจ้า แล้วคิดว่าเราอยู่ใกล้พระพุทธเจ้าแล้ว พระพุทธเจ้าทราบความคิดเลย บอกว่า จักรวาลอันที่ใหญ่แล้ว ท่านยังอยู่ไกลจากเรามากนัก เพราะว่าอะไร เพราะว่า ท่านไม่ได้เห็นความเป็นพระพุทธเจ้า เห็นแค่กายเนื้อของเรา ก็แค่นั่น แล้วพระพุทธเจ้าก็เทศน์ต่อเทศน์วิธีให้เห็นพระองค์ ( ผมจําไม่ได้ท่านเทศน์อะไรโทษที แต่จําได้คร่าวๆ ว่า ขันธ์5ไม่เที่ยง) แล้วก็ถ้าเห็นความดีของพระพุทธเจ้า ก็เหมือนได้เห็นพระตถาคต (ประมาณนี้นะครับ ถ้าอยากอ่านฉบับเต็ม หาเอาครับ หลวงพ่อฤาษี ผมก็จําชื่อเรื่องไม่ได้) ขนาดพระอรหันต์ที่ไม่มีฤทธิ ท่านก็ไม่ปฎิเสธเรื่องอภิญญา สมมุติคนไหนไปแก้คําพูดของพระพุทธเจ้า แล้วทําให้คนเข้าใจผิดนี่น่ากลัว




เอ่อผมมีเรื่องเล่าจากตัวผมเอง ตอนนั้นผมได้ฌานสมาบัติ ฌานนี่บาลีแปลว่า หยั่งรู้ ความรู้สึกผมตอนนั้น ฉลาดมาก จิตหลักแหลมจริงๆ แล้วยายผมไม่เชื่อ (ตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อตัวเองทําไมเหมือนกัน) ยายผมถามว่ายายอายุเท่าไหร่ ผมก็บอกว่า 74(ประมาณนี้จําไม่ได้นานมาแล้ว)แต่ผมไม่ได้ตอบทันทีนะครับแต่กําหนดจิตก่อน ยายอึ้งเลย ดันถูก แล้วผมตอบนี่ไม่เดาแน่ มันมีความรู้สึก ผมกําหนดจิต (วิธีกําหนดจิตก็มองหน้ายาย แล้วนึกว่า ยายอายุเท่าไหร่ แล้วมันรู้สึกอย่างงั้นก็ตอบเลย) อันนี้ไม่ได้โกหกหรืออย่างใดนะครับ แต่ตอนนี้ฌานไรพวกนี้ หายหมดหละ อภิญญานี่หมดไปแล้ว ความชั่วผมท่วมหัวเลย หายนี่ไม่ไช่แปลว่าไม่มีนะ แปลว่ามันเสื่อมกิเลสผม มันสิงในจิต ต้องรวบรวมกําลังใจ

แต่ผมเล่าไป คุณก็คงไม่เชื่อหรอก แนะนําสร้างอภิญญาเอง หรือไปหาคนที่มีอภิญญา (ท่านนักบวชฤาษีไรพวกนี้ก็ได้) ขอให้โชว์ฤทธิ์ให้หน่อย

 

.. กาลีนะขอตอบแบบคนความรู้น้อยนะคะ แต่เป็นความคิดของตนเอง ..

.. กาลีนะเข้าใจว่า ศาสนาพุทธ คือ ศาสนาที่พิเศษกว่าทุกศาสนา ส่วนที่เด่น คือ สติปัญญา .. .ปรัชญาของชีวิต ส่วนเรื่อง อภิญญาปาฏิหารต่าง ๆ กาลีนะเชื่อว่ามีคะ มันเป็นส่วนของพลังจิตของคนเรา มากน้อยแตกต่างกันไปอยู่ที่การฝึกฝนของแต่ละคน .. ทุกสิ่งทุกอย่างในพระไตรปิฏกนั้นตามที่เรียนมาและเข้าใจมาตลอดคือ รวบรวมขึ้นมาหลังพระพุทธเจ้านิพพานไม่ใช่หรือคะ อาจมีเกินมีขาดบ้างเป็นธรรมดาแต่ก็ผ่านการตรวจทานมาแล้วทั้งสิ้น ถ้าจะใหดีน่าจะดูเริ่มต้นจากต้นฉบับเดิมที่เก่าที่สุดน่าจะดีนะคะ กาลเวลาผ่านไปการเสริมแต่งอาจมี และ การที่เป็นลูกหลานของพุทธองค์ก็ใช่ว่าท่านเหล่านั้นจะสำเร็จในธรรม หรือ อภิญญา เสมอไป

... อันพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ คือ สอนให้ละวางสู่ความสงบของจิตใจเรา ไม่เน้นเรื่องฤทธื์อะไร เพราะเรื่องฤทธิ์มันเป็นเรื่องของพวก ฤษี พราหม ฯ มากกว่าไม่ใช่เหรอคะ .. กาลีนะเข้าใจแบบนี้คะ ...

 

อภิญญาเป็นผลพลอยได้จากการภาวนาชำระจิตตามแต่ละดับละเอียดของจิตและปราศจากกิเลส
ถ้าจิตเต็มไปด้วยขยะกิเลสหนาเป็นผู้ทุศีลปฏิญานตนว่าพรหมจรรย์แต่ไม่ใช่พรหมจรรย์ ต่อให้ภายนอกกิริยาสงบ ก็เอาอภิญญาในการละเมอไปก่อนและหาอบายให้ตน? เหอะๆ