สามีไม่ยอมแยกออกมาจากบ้านพ่อแม่ ทำยังไงดี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย minniejung, 28 เมษายน 2013.

  1. minniejung

    minniejung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +11
    ทำอย่างไรดีค่ะ สามีไม่อยากแยกออกมาอยู่ด้วยกัน2คนค่ะ คือถ้าเราย้ายเข้าไปยู่กับครบครัวเค้า ความรู้สึกเราคือมันไม่ส่วนตัว คนเยะแล้ว วุ่นวาย แล้วแม่เค้าเป็นคนแบบพูดได้ทั้งวัน จนคนใบ้านเค้ารำคาณ เราเป็นสะไภ้ เรารุ้ว่าต้องเก้บความรู็สึกไว้ แต่บางทีมันก้ต้องมีขีดจำกัด เราอาจจะว่าหรือทำอะไรไม่ดีลงไป คือเราอยากได้ความสงบ อยากได้ความเป็นส่วนตัว บ้านเค้าก้ตั้ง4คนเข้าไปและ พอเราเข้าไปก็เป็น 5 คน คือเค้ากำลังสร้างบ้านใหม่ ทุกคนใบ้านเค้ามีสิทธิ์คิดอยากได้อะไร ห้องคาราโอเกะ ห้องนั่งเล่นห้องคอม สวนเป็นแบบนี้ ทางเข้าเป็นแบบนี้ แต่เราไม่มีสิทธิ์คิดอะไรเลยเพราะเราเป็นคนนอก ถ้าเราซื้อบ้านเอง แยกมาอยุ่ด้วยกันเราก็มีสิทธิ์คิดถึงสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ยากได้ บ้านเขามีพี่สาว 1 คน แต่พี่สาวเขา โตจนทำงานแล้วก้ยังไมไม่เคยช่วยพ่อแม่ ทำงานบ้าน เสื้อผ้าที่ใส่ไปทำงาน แม่เขาก็เป็นคนซักให้ ทำให้ รีดให้ แม่เขารับผิดชอบงานบ้านทุกอย่าง ทั้งทำกับข้าว งานบ้าน ถ้าเราย้ายเข้าไปเราก็คงต้องทำแบบนั้นรับผิดชอบของทุกคนใบ้านททั้งพ่อแม่เขา พี่เขา ของสามีเราแล้วของเราอีก เราคิดว่าเราทำไม่ไหว เราคิดดูแล้วเราทำใจไม่ได้ที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านสามี แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี ช่วยเราคิดทีค่ะ ว่าเราควรทำยังไงดี
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    หาผัวใหม่ครับ...

    ผัวคนนี้มีคุณสมบัติแบบนี้ หากคุณไม่พอใจ ควรจะหาใหม่

    เพราะตอนผมหาเมีย ผมก็เลือกแล้วเลือกอีก ที่จะหาคนที่จะเข้ากับบ้านผมได้
    ใครที่ท่าทางจะเข้าไม่ได้ ผมก็เลิกครับ
    เพราะมันง่ายกว่าที่จะหาคนที่ใช่
    ดีกว่าหาคนที่ไม่ใช่ แล้วไปเปลี่ยนให้เขาเป็นคนที่ใช่
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ไม่ย้าย ก็อยู่คนเดียว ตัวคนเดียวได้ครับ

    ไม่ต้องไปคิดมาก

    อยู่คนเดียวตามปรกติ ไม่ต้องย้ายเข้าเหมือนที่ผ่านๆมา

    หาบ้านเป็นของตัวเอง แล้วก็ วางแผน หาทางให้ ฝามี ย้ายออกมาอยู่ด้วยกัน 2 คน

    .

    ไม่ใช่ว่า หาบ้านของตัวเองแล้ว มีคนอื่นๆ เข้ามาร่วมเดี่ยวก็มีปัญหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2013
  4. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ.... ลองคุยกับแฟนอีกซักครั้งซิค่ะ เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน


    คงต้องค่อยๆคุยกันไปก่อน อธิบายถึงความกังวลใจของคุณที่มีให้ แฟนคุณฟัง ถ้าเขารับฟังก็เป็นเรื่องที่


    น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง.....แต่ถ้าเขาไม่รับฟังก็คงต้อง หาทางปรับตัวให้อยู่ร่วมครอบครัวใหญ่ให้ได้


    คงพูดอะไรไม่ได้มากนะคะ... ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้นะคะ...สู้ๆ
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เรื่องนี้ เป็นตัวอย่างของคู่รักที่คิดจะแต่งงานกัน ควรคุยและตกลงกันให้ได้ก่อนตัดสินใจแต่งงานว่า สามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกฝ่ายหนึ่งหรือจะแยกออกมาสร้างรังรักของตนเป็นเอกเทศมิฉะนั้น หลังแต่งงานแล้วเกิดมีเงื่อนไขให้เลือก อาจเป็นปัญหาใหญ่ได้ ..

    ท่านจขกท พิจารณาดูว่า สามีเป็นคนประเภทติดพ่อแม่พี่น้องแจหรือเปล่า หรือเขาเป็นลูกชายคนเดียวในบ้านที่ต้องรับผิดชอบครอบครัวตามประเพณีแบบจีน หรือเขาเป็นคนรักสบายไม่อยากไปดิ้นรนเสียเงินสร้างเรือนหอของตน..เหตุผลเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อความฝันของท่านจขกท ทั้งนั้น ...

    เรื่องนี้ ท่านจขกท คงได้ทราบเหตุผลของเขาในการไม่ย้ายออกจากครอบครัวใหญ่แล้ว ท่านพึงพิจารณาความเหมาะสมของเหตุผลนั้น หากท่านเห็นว่าไม่ใช่เหตุผลที่ดีก็ควรชี้แจงข้อดีข้อเสียตามจริง ที่เกี่ยวข้อง

    ท่านพึงทำให้เขามั่นใจว่าการย้ายออก ไม่ใช่เรื่องการหลบหลีกหนีห่างไปใหน ยังสามารถแวะเวียนไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนกันได้ตามโอกาส ท่านไม่ได้มีจุดประสงค์ตัดเขาขาดจากการครอบครัวใหญ่..ทั้งการออกมาย่อมลดภาระที่แม่จะต้องเหน็ดเหนื่อยในงานบ้านเพื่อครอบครัวของท่าน เเละเมื่อย้ายออกครอบครับของเขาจะมีที่ว่างเพิ่มไม่แออัด...ในอนาคตหากท่านและสามีมีลูก ก็จำต้องมีห้องเพื่อลูกๆได้อยู่ ...ฯลฯ หาเหตุผลดีๆของการแยกย้ายออกไปแสดงให้เขาเห็น ..

    ชักจูงให้เข้าใจ หากและเมื่อเขาไม่สนใจจะทำตาม ก็ลองเสนอเงื่อนไขว่า ท่านจขกท อาจแยกไปอยู่บ้านพ่อแม่ อาทิตย์ละ xxวัน หรือตามที่เห็นควร ...กล่าวเหตุผลเพื่อลดความตึงเครียดอึดอัดของตนให้เขาทราบ..ค่อยๆปรับให้เข้าหากันได้ด้วยความอดทน เพราะใหนๆก็ตัดสินใจร่วมชีวิตกันแล้ว เมื่อมีปัญหาก็ต้องคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป บางทีเราก็ต้องโอนอ่อนผ่อนบ้าง ในไม่ช้าเขาอาจเห็นใจเข้าใจและเกรงใจ ยอมผ่อนอ่อนตามเราบ้าง ลองดูครับ..

    ขอให้สำเร็จตามประสงค์ด้วยความราบรื่นครับ
     
  6. tim

    tim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +1,526
    คิดให้ดีๆนะ ไปเป็นคนรับใช้ ไม่สนุกนะ
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เมื่อคุณคิแล้วว่าจะแต่งงานกับเขา ใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา คุณก็ต้องเข้ากับครอบครัวเขาได้ครับ.....

    โดยกปกติครอบครัวของสังคมไทยเป็นครอบครัวใหญ่นะ ไม่ใช่ครอบครัวเดี่ยวอย่างครอบครัวฝรั่ง ที่แต่งแล้วก็ย้ายออก.....
     
  8. 789654561

    789654561 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +333
    บอกตรงๆ คุณไม่เหมาะกับครอบครัวนี้คะ ไม่น่าจะเลยเถิดจนมาเป็นสามีภรรยากัน ตอนนี้คุณก็ละเลงระบายป้ายสีแม่กับพี่สาวเขาแล้ว จะทำใจให้เป็นสุขคงยาก ส่วนจะทำอย่างไรก็คิดพิจารณาดูนะคะ
     
  9. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เขาควรจะอยู่กับแม่เขา ถูกต้องแล้ว
    ถ้าคุณชอบแยกบ้าน หาสามีฝรั่งดีกว่า
    วัฒนธรรมเอเชียเป็นครอบครัวขยาย
     
  10. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    บ้านเขามีกันแค่สี่คน ถ้าลูกชายแยกออกมาก็เหลือแค่สาม ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่และหาวิธีประนีประนอมก่อน

    การแยกมาอยู่สองคนก็มีข้อเสีย ต่อไปมีลูกก็ต้องจ้างคนใช้ซึ่งอาจจะไว้ใจยาก และเด็กที่อยู่กับปู่ย่าช่วยดูแลก็มีส่วนดี

    เรื่องเสื้อผ้า งานบ้านก็อาจจะคุยกันว่าเขารับได้แค่ไหน บอกไปตรงๆ เช่น เสื้อผ้าก็อาจจะจ้างร้านซักรีด และขอห้องหรือบริเวณที่เป็นส่วนตัวบ้าง ถ้าเป็นบ้านมีบริเวณก็ขอปลูกบ้านแยกออกมาอีกหลัง คือบอกเขาไว้ก่อนครอบครัวเขาก็อาจจะยอมปรับเข้าหากัน
     
  11. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701

    สรุป ความคิดเห็นข้อนี้ดีที่สุดครับ

    แม่ผัวก็ปากมากไม่ดี พี่สาวผัวก็เห็นแก่ตัว
    ไปซื้อบ้านอยู่เอง 2 คนผัวเมีย ก็ไม่มีปัญญา
    คุณเข้ากับครอบครัวฝ่ายชายไม่ได้
    หาผัวใหม่ดีที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2013
  12. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นด้วยคนค่ะ ว่าเหตุผลใดที่ทำให้สามี ไม่ยอมย้ายออกมาอยู่ส่วนตัวเช่นว่า

    - สามีคุณอาจจะเป็นห่วงคุณแม่ของเขา
    - มีเงินกงสีช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านและครอบครัว
    - เอ..หรือว่าท่าน จขกท.มีเสน่ห์เย้ายวนน้อยไปนิดนุง อิอิ แซวค่ะ

    อยากให้คิดว่าการที่เราตกลงปลงใจ แต่งงานกับใครสักคน นั่นหมายถึงคุณต้องรักและดูแลเอาใจใส่เขาไปตลอด จนกว่าจะแยกย้ายกันไปไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง " รักฉันเหรอ..ก็ต้องรักหม่ามี๊ ป่าปี๊ ฉันด้วยนะเออ " แม่เขาก็เหมือนแม่ของเรา แม้ว่าจะไม่ใช่ ในเมื่อเราก็ได้รับลูกชายท่านมาเป็นสามีเรา เราก็คือลูกสาวท่านคนนึง(คือลูกสะใภ้) ความเป็นส่วนตัวนั้นขึ้นอยู่ที่ใจค่ะ แสดงว่าเป็นคนที่ยังติดสุข ติดทางโลกอยู่ละซีคะ !! ดิฉันก็คิดว่าคุณ จขกท. ก็น่าจะใช้ชีวิตส่วนตัวมาพอสมควรแล้ว จนมาสิ้นสุดเอาเมื่อแต่งงาน คิดว่าคุณ ต้องปรับจิตปรับใจค่ะ คิดว่าการที่ได้เข้ามาอยุ่ร่วมกับแม่สามีช่างพูด ก็เป็นงานท้าทายอยู่เหมือนกัน (แม่ผัว-ลูกสะใภ้/ลูกเขย-พ่อตา) เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาไม่รู้กี่ยุคต่อกี่ยุค ท่านพูดมากพูดเยอะ ก็ถามท่านไปเลยว่า คุณแม่ไม่เหนื่อยหรือคะ หรือไม่ก็พูดก่อนที่ท่านจะพูด พูดให้เยอะกว่าท่าน ซักช่วงนึง คิดว่าท่านคงไม่อยากเจอหน้าคุณอีกละ แต่อีกแง่มุมนึง ก็ขอให้เอ็นดูท่านเถิดค่ะ คนชราน่ารักจะตายไป..เอาใจใส่ท่านให้เสมือนแม่ของเรา..วันนึงสมบัติทุกอย่างจะตกเป็นของลูกสะใภ้คนนี้คนเดียว 555 (*) (อย่าเครียดค่ะ) อยากให้มองและพิจารณาทุกอย่างที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ด้วยเหตุและด้วยผล อย่าเอาแต่ใจตน ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วคุณก็จะมีความสุข แม้ว่าสถานที่จะไม่อำนวยความสุขกายสบายใจให้คุณก็ตามค่ะ:'(


    อยากจะแนะนำแบบ วิน-วิน ก็คือ คุณย้ายเข้าไปอยู่บ้านสามีเถอะค่ะ รับรองว่าเขาของคุณ จะร๊ากคุณและเกรงใจคุณนะคะ ก่อนจะย้ายเข้าไปก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่างานบ้านคุณจะทำเท่าที่ต้องทำในฐานะสะใภ้ ถ้าถึงขั้นโอชินเหมารวมเหมือนบุฟเฟ่ละก็ แนะนำให้กรี๊ดไปเลยค่ะ เท่าที่กำลังคุณพึงมี หรือทำงานบ้าน และการบ้านกะไม่ต้องทำ:p


    ชีวิตที่ไม่มีความสุข อาจเป็นเพราะได้สร้างกรอบเกณฑ์ไว้มากเกินไป คับแคบเกินไป ยึดมั่นในความเชื่อความคิดส่วนตนมากเกินไป ทำให้ไม่อาจเปิดรับความคิดหลายหลายจากภายนอก และเมื่อความคิด ความเชื่อ ความเคยชินถูกรุกล้ำ จึงเกิดคลื่นต้านขึ้นในหัวใจ ทำให้เราต้องลุกขึ้นมาปกป้อง และตอบโต้เพื่อรักษาที่มั่นทางความคิด และความเชื่อที่เรามีอยู่นั้น..

    เราอาจจะลืมไปว่าทุกสิ่งในโลกล้วนมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรอบเกณฑ์ที่เคยมีอาจจะเหมาะสมกับช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความคิดอ่านบางอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย...และเมื่อวันเวลาผ่านไป ชีวิตย่อมจำเป็นต้องเรียนรู้ เพื่อการปรับตัว เพราะในโลกนี้ไม่มีใครหรอก ที่จะคิดถูกคิดได้ไปเสียทุกเรื่อง และการเปลี่ยนแปลงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า... เปิดใจให้กว้าง พร้อมที่จะรับสิ่งแปลกใหม่เข้ามาในชีวิต พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สร้างสรรค์ เราก็จะอยู่ในเวลาปัจจุบันอย่างมีความสุขมากขึ้น...ขอให้คุณ จขกท. ใช้สติพิจารณาให้รอบคอบนะคะ เอาใจช่วยค่ะ..(rose) ^^
     
  13. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ผมพูดตรง ๆ จะโกรธก็ได้ไม่ว่ากัน สามีของคุณน่ะชินกับการอยู่ในแบบของเค้า ในแบบที่คนรอบ ๆ ตัวเค้าเป็นคนของเค้า เผลอ ๆ ก็อาจมีกงสีส่วนกลางด้วย เค้าคงไม่ชินกับการที่จะต้อง "รับผิดชอบเต็มตัว" กับชีวิตคู่ ถ้าคุณไปอยู่ในบ้านเค้าอย่างไรคุณก็เสียเปรียบ พูดมากพูดตรงก็ไม่ได้ เพราะไปอยู่ในนั้น

    แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คุณคือคนที่จะเลือกทางเดินของตัวเอง ไม่ใช่สามี แม่สามีหรือครอบครัวรอบ ๆ ตัวเค้า ไอ้เรื่องที่คุณไม่พอใจน่ะคุณคิดเองเออเองทั้งนั้น ยังไม่รู้เลยว่าจะเจอจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเจอจริง ๆ คุณก็ควรที่จะ "กล้า" และ "ซื่อสัตย์" กับตัวเอง สิ่งใดที่คุณเห็นว่ามันเกินไป ไม่ใช่หน้าที่ คุณก็ปฏิเสธ ถ้าคุณมีขอบเขตของตัวเองและตั้งใจจะรักษาไว้ มันไม่มีใครมาแหยมคุณได้หรอกครับ มีแค่ว่าคุณจะใจอ่อนเองเท่านั้นแหละครับ

    อ่อ อยากให้การหาสามีคนใหม่เป็นทางเลือกสุดท้ายนะครับ เพราะคาดว่าคุณก็จะลงเอยกับผู้ชายอีกคนที่ลักษณะคล้าย ๆ กัน ถ้าคุณไม่เปลี่ยนทัศนคติของคุณเองครับ
     
  14. ติดบ่วง

    ติดบ่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +771
    ผมชอบคำตอบนี้ครับ ตรงประเด็นมากๆ
    อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้นึกถึงใจเขาใจเราครับ สามีคุณเขาก็รักแม่ของเขา แม่ของเขาจะเลวจะชั่วเขาก็เป็นผู้มีพระคุณให้กำเนิดและเลี้ยงดูสามีของคุณซึ่งเป็นลูกของเขามาครับ แต่ถ้าคุณรับตรงนี้ไม่ได้ก็ต้องบอกเลิกกับสามีไปครับ จะไปหาคนใหม่หรือยังไงก็ว่ากันไป แต่ผมว่าถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรือเลวร้ายจนเกินไปนักคนที่รักกันบางครั้งก็ต้องเสียสละแบ่งรับแบ่งสู้กันบ้างครับ ถ้าไม่งั้นผมว่าเป็นแค่ความใคร่แค่ตัณหาครับ ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่เราถูกใจแต่ฝ่ายเดียว เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นควรจะต้องอยู่คนเดียวผมว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ ลองทบทวนดูนะครับ

    สรุปคือ ถ้าุคุณรักสามีก็ต้องยอมอยู่ร่วมกับครอบครัวเขา แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ารักตัวเองมากกว่าก็อยู่คนเดียวหรืออยู่กับคนที่ตามใจคุณได้ทุกอย่างครับ ขอให้พบทางออกที่ดีที่สุดละกันนะครับ
     
  15. sazukia007

    sazukia007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +710
    ชอบ ตรงตัวดี
     
  16. แก้วกัลลยา

    แก้วกัลลยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +570
    ดูแล้วคุณเป็นคนชอบความเป็นส่วนตัวมาก..ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไป
    ลองเข้าไปอยู่ก่อนดีมั๊ยค่ะ ....บางที่อาจไม่ใช่อย่างที่คุณคิด
    เชื่อแน่ว่า...คุณเองก็พอจะรู้ว่าใครเป็นอย่างไร
    การที่แม่ซักผ้าให้พี่สาวคนโตของสามีคุณนั้น...อาจเป็นเพราะคุณแม่พอใจและมีความสุขที่จะทำให้มากกว่า...เพราะลูกสาวต้องทำงานประจำอยู่แล้ว

    เปิดใจให้กว้างคะ..สามีดูแลเราได้...เราก็น่าจะดูแลพ่อกับแม่เขาได้นะค่ะ
     
  17. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,448
    เห็นด้วยค่ะเปิดใจให้กว้าง..ลองดูค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ^^.. ยิ้มมมมมม
     
  18. พงพัน

    พงพัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +478
    จริงๆแล้วเรื่องอย่างนี้มันต้องปรากฏออกมาให้เห็นตั้งแต่ก่อนตกลงปลงใจกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัยใจคอ หรือเรื่องส่วนตัวรวมไปถึงเรื่องสภาพแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากได้แต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรที่จะยอมรับสภาพนั้นเสียดีกว่าถ้ายังรักเขาอยู่และไม่ต้องการหาคนใหม่ ผมว่าเป็นเพียงข้อเสียเพียงเล็กน้อยมากๆถ้าเขาเป็นคนดีมากๆและรักคุณแล้่วข้อเสนอแฟนคุณเพียงเท่านี้ก็ถือว่าคุ้ม แต่หากคุณใจไม่เย็นพอและไม่สามารถยอมรับที่คุณจะเข้าไปเป็นสะใภ้ในบ้านกับแวดวงพี่ๆน้องๆ ซึ่งการกระทำอย่างอื่นๆที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน หรืออาจจะมีสร้างความลำบากใจให้บ้างก็ขอให้ลองปรับตัวดูก่อนถ้าไม่ได้ถึงขนาดจะฆ่าจะแกงกันก็ทำหูไปนาตาไปไร่ อันไหนทำให้ได้ก็ทำทำไม่ไหวก็ตอบปฏิเสธไปคือทำให้ดีสุดความสามารถของคุณดูจนกว่าจะไม่ไหวจริงก็ค่อยมาปรึกษากับแฟนว่าจะเอายังไง คนเป็นผัวเมียกันมีอะไรหันหน้าเขามาปรึกษากันดีกว่าที่จะไปรีบตัดสินใจบุ่มบ่ามแนววัยรุ่นใจร้อน กว่าคนสองคนจะมาพบกันมารักกันตกลงกันเป็นผัวเมียสร้างครอบครัวที่ดีนั้นไม่ใช่ง่ายๆ พลาดพลั้งลงไปมีแต่คุณเองที่จะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า ใช้สติและปัญญาความอดทนให้มากจึงจะรักษาความเป็นครอบครัวไว้ได้ แต่หากคุณตัดสินใจว่ายังไงๆก็ไม่ได้หรือจะไม่ทำอย่างที่เขาของคุณร้องขอแล้วละก้อ เส้นทางของคุณกับเขาคนนั้นก็มีแนวโน้มว่าจะล่มเอาได้ แล้วในอนาคตข้างหน้าคุณพร้อมที่นับหนึ่งกับคนใหม่แล้วหรือยังและหากว่าถ้าคุณต้องไปพบกับสภาพเดิมๆหรือแย่ยิ่งกว่านั้นละคุณจะทำอย่างไรหรือจะตั้งท่าจะหนีเช่นดังกรณีเช่นนี้อีกอย่างนั้นหรือ ซึ่งหากมันออกมาเป็นผลแย่แล้วมันยากถึงยากมากๆที่จะมีรีเทิร์นแม็ทช์ให้แก้ตัวระหว่างคุณกับเขา แล้วคุณจะมาเสียใจที่ตัดสินใจพลาดบ่นตบท้ายด้วยคำว่า"รู้งี้ยอมไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า" อันนี้เป็นประสบการ์ณตรงของผมกับแฟน(ผมก็ไม่ยอมย้ายออกเหมือนกับที่แฟนคุณทำกับคุณเหมือนกัน)ไม่ได้นึกคิดเอาเอง การตัดสินใจเป็นของคุณแต่ขอให้เชื่อเถอะ"คนดีพระคุ้มครอง ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"ถ้าคุณตั้งมั่นในคุณความดีอย่างแท้จริงเรื่องเพียงแค่นี้สบายอยู่แล้ว
     
  19. akilis

    akilis สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +8
    ชีวิตเดียวคุณจะทำอะไรก็ได้ แต่ชีวิตคู่ต้องอดทนครับ
     
  20. dee_lovelycat

    dee_lovelycat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +13
    ปัจจุบันเราก้อมีชีวิตแบบนี้ค่ะ สามีไม่ยอมสร้างบ้านเพื่ออยู่กันเป็นครอบครัว ตอนนี้ลูก 9 ขวบกว่าแล้ว สามียังอยู่บ้านพ่อแม่เค้า ที่หนักกว่านั้นตอนเราท้องแม่สามีให้เราเอาเด็กออก พอเราไม่เอาออก ก้อใช้ทุกวิธีเพื่อไม่ให้เค้ามาดูแลเราตอนเราท้อง เค้าอ้างว่าลูกชายเค้าต้องดูแลพี่สาวเค้า ตั้งแตท้องเดือนที่ 4 เค้าไม่เคยมาหาเลยคะ ปัจจุบันสามีก้อยังดูแลพี่สาวเค้าอยู่ เพราะพี่สาวเค้าลาออกจากงานอยู่บ้านเฉยๆ จริงๆพี่สาวเค้าก้อมีครอบครัวแล้ว แต่แม่เค้าเป็นห่วงเพราะบ้านสามีพี่สาวเค้าค่อนข้างปัญหาเยอะ เรื่องติดยาเสพย์ติดและน้องสาวที่เอาแต่แต่งตัวหาแต่คนรวยๆ เราเกลียดบ้านทางสามีมากๆคะ เราเคยว่าว่าเค้าไร้จรรยาบรรณความเป็นพยาบาล และไร้มนุษยธรรม เหตุคือเรื่องให้เอาเด็กออกและการห้ามลูกชายมาเลี้ยงดูลูก เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา สามีไม่เคยจ่ายค่านม ค่าเทอม ค่าข้าวลูกเลยคะ แต่มีตังค์ให้แม่และพี่สาว แม่่เค้าบอกว่าก้อเค้าพี่น้องกัน แต่ก้อเหมือนกรรมนะคะ พี่สาวเค้่ามีลูก แต่กลับต้องเสียเงินเพื่อฝากเข้าโรงเรียนอนุบาลแถวติวานนท์ เหมือนอะไรที่ได้มาง่ายก้อเสียไปง่าย ตั้งแต่วันนั้นที่ทะเลาะกันแรง สามีมีความรับผิดชอบ จ่ายค่าเทอมลูกเป็นครั้งแรก และอื่นๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเค้าก้อคงรักลูกเช่นกัน แต่มีเหตุที่ต้องใช้เวลา พูดจากใจเลยคะว่าหมดความนับถือกับแม่สามีจริงๆคะ เค้าด่าโดยใช้คำพูดต่ำๆ ด้วย ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ เราบอกว่าเราเกลียดเพราะเค้าเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่น่าเคารพ ไร้จรรยาบรรณและมนุษยธรรม ทุกวันนี้ปลง พยายามจะปล่อยวางและเลิกจองเวร แต่ก้อยังทำไม่ได้ซักที อาจเป็นเพราะสามีไม่ยอมหย่า เราขอเค้าหย่าคะ เราทุกข์มากทั้งๆที่เค้ารักแม่เค้ามาก รักจนไม่รู้ว่าแม่ทำลายความสุขของลูกตัวเอง และที่สำคัญเราก้อเกลียดและแค้นแม่กับพี่เค้ามากที่มาบอกให้เราทำแท้ง และกีดกันไม่ให้สามีมาอยู่ มาดูแลลูก มีชีวิตครอบครัวเหมือนคนอื่นๆเค้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...