ภพภูมิที่ทับซ้อนกันอยู่

คืออย่างนี้ครับ ภาพนี้ถูกลบไปตั้งแต่ถ่ายได้เมื่อ หลายปีก่อน ซึ่งตอนัน้นผมคิดว่า อาจจะเป็นสิ่งไม่ไดีก็ได้ แต่พอ ผมมาทราบอีกครั้งว่าเป็นพยาสดายุ ผมเลยพยายามกู้ข้อมูลมาได้ ซึ่งมันก็ไม่มีลายละเอียดอะไรมากนะครับ ยังไงถ้าได้จะเอามาให้ดูครับ

 

ข้อมูลเรื่องเวลาแล้วก็กล้อง มีแล้วนะครับ ใครว่านกขุนแผน หรือ นกอะไรก็ตาม ให้คำตอบได้ไหมว่า นกอะไรหายในเซี่ยววินาที

1 คือ ข้อมูลการถ่ายภาพของกล้องนะครับ
2 คือ วันเวลาที่ถ่าย ของภาพที่ถ่ายติดนะครับ
3 คือ วันเวลาที่ถ่าย ของภาพที่ถ่ายต่อเนื่องภาพที่ 2
4 คือ วันเวลาที่ถ่าย ของภาพที่ 3 นะครับ

ซึ่งแต่ละภาพมีวินาที บอกนะครับ ใครว่าผมตัดต่อ ขอให้ดูนะครับ

 

ดูแล้วเหมือนเอาสีไปแต้มๆ ให้คล้ายนก
ถ้าพวกเค้ามาจริง รถคุณคงเหาะได้ตามลมที่เกิดจากแรงปีกของพวกเค้าล่ะค่ะ

 

ขอบคุณครับที่ยอมรับฟัง..ก็แค่ร่วมแสดงความคิดเห็นเท่านั้นครับ.
.จะจริงหรือไม่จริง.ไม่ได้เน้นตรงจุดนี้..เรื่องภพภูมิ ณ จะมีจริงหรือไม่มีหรือว่าจะมีมานานแล้วก็ตาม.
.อย่างน้อยเราก็มีข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง คือ ภาษาสมมุติต่างๆที่เราใช้เรียกเป็นสรรพนามแทน
..ส่วนใครจะสัมผัสได้หรือไม่ได้...ก็เป็นเรื่อง เฉพาะส่วนบุคคล ส่วนตัวไม่เห็นประโยชน์ในการที่จะต้องมาโต้แย้งเพื่อหาข้อยุติ ณ จุดนี้..
ผมมองที่เจตนาคุณ มากกว่า.การนำเสนอในเรื่องภพภูมิ ของคุณน้อมนำไป
สู่การพิสูจน์สิ่งต่างรอบตัวเราที่มองไม่เห็นได้ เป็นเหตุให้บุคคล น้อมใจ
ไปในการสร้างความดี ไม่ประมาทในการใช้ชีวิตตรงจุดนี้สำคัญกว่า.
.แต่ในอีกมุมหนึ่ง..ถ้าเรานำเสนออะไรก็ตามที่ออกสู่สาธารณะชน เราต้องเตรียมใจสำหรับคำวิพาก วิจารณ์ ในรูปแบบต่างๆไว้ด้วย..
สิ่งที่เราพูดอาจเป็นสิ่งที่โลกยังไม่พร้อมที่จะรับได้ในตอนนี้
เพราะหาบุคคลที่เข้าถึงได้ยาก...แต่เมื่อเวลาผ่านไป.ภายใต้คำพูดเดียวกัน
ของคุณ ณ เวลาปัจจุบันนี้ จะกลายเป็นสิ่งธรรมดาที่โลกยอมรับและเป็นปกติ
สำหรับมนุษย์ทุกคนก็เป็นได้..
เรื่อง คนไม่เชื่อภพภูมิ ไม่เชื่อ เรื่องบุญ เรื่องบาป ส่วนตัวพอมีประสบการณ์บ้าง.เคยช่วยบุคคลรู้จัก และใกล้ชิดมาแล้วหลายคน
สิ่งหนึ่งที่บุคคลเหล่านั้นพอเปลี่ยนภพภูมิไปแล้ว เชื่อ คือเรื่อง บุญและบาป
เพียงแต่ว่าสายเกินไปสำหรับชาตินี้จุดนี้พอทำให้เข้าใจคุณได้.
และก็แปลกนะครับบางเรื่องทั้งๆที่มีเขียนไว้ในพุทวจนหรือในพระไตรปิฏก.
มีพระอริยะระดับครูบาร์อาจารย์ท่านก็เคยพูดไว้หลายท่าน ส่วนตนเองก็นับถือพุทธศาสนา นับถือศาสดาองค์เดียวกันแท้ๆ.ก็ยังไม่มีความเชื่อเป็นทุนเดิม จะเพราะเหตุอะไรก็ตามแต่.ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

และสิ่งที่คุณต้องทำใจยอมรับอย่างหนึ่งคือ สิ่งที่เห็น.
การเห็นอาจจะเห็นได้จริง แต่สิ่ง
ที่เราเห็นจะจริงหรือไม่จริง เพราะสาเหตุใดจุดนี้ต้องลองตรองดูร่วมด้วย.
ส่วนแบบที่ คุณ นำมาลง ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกครับ ในการพิสูจน์
มีคนทำได้และรู้เรื่องดีเป็นหมื่นๆคน...
แต่สำคัญว่าผู้ที่เห็นได้พิสูจน์ได้..จะมาพูดให้คุณฟังหรือเปล่า.
.เพราะเค้ามองว่าเป็นเรื่อง
ธรรมดาและยังไม่ใช่ประเด็นหลักทางพุทธศาสนา..แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการ
น้อมนำจิตใจให้เข้าสู่เส้นทางสายหลักได้ ผมเลยมองว่าคุณเป็นคนใช้พอสมควร.ผมเน้นเจตนาที่คุณนำเสนอ
มากกว่าจะมองว่าสิ่งที่คุณนำมาเสนอจะจริงหรือไม่จริง.
แต่ต้องอยู่ภายใต้เหตุและผลทางด้านสังคมและวัฒนธรรมร่วมด้วย.
หวังว่าคงพอเข้าใจที่สื่อนะครับ
​

 

คุณให้เค้าวิจารณ์ เค้าก็วิจารณ์กัน สมอง ความคิด ความเชื่อมันแต่ละคนมีมาไม่เท่ากันอยู่แล้ว เราก็รับฟังไว้ว่าเค้าวิจารณ์ยังไงบ้าง ส่วนเชื่อไม่เชื่อ อยู่ที่มุมมองความคิดของแต่ละคน

แต่ผมเป็นคนที่ชอบและเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว และอ่านที่คุณพิมพ์มา ผมไปในทางเชื่อมากกว่าครับ ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คงไม่ใช่นกธรรมดาแน่ ถ้าหายตัวได้และตัวใหญ่ขนาดนั้น

 

มาช่วยกันวิเคราะห์ดูนะจ๊ะ เริ่มจากเวลาที่ถ่ายนะ
ตามที่ท่าน จขกท ได้ชี้แจงไว้ว่าภาพทั้ง 3 ถ่ายกันแบบต่อเนื่อง
แต่ดูจากการเคลือนที่กระจายตัวของเมฆแล้ว คิดว่าใช้ระยะเวลาพอสมควรเลย

จากขอมูลเวลา
รูปแรก เวลา 12:20:26
รูปสอง เวลา 12:20:50 (ต่างจากรูปแรก 24 วินาที)
รูปสาม เวลา 12:21:50 (ต่างจากรูปสอง 1 นาที)

ดังนั้น 24 วินาทีถ้าเป็นนกมันคงบินไปไหนต่อไหนแล้ว



Note: จากรูปแรกจะเห็นว่าถูกแก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Adove Photoshop 7.0 เมื่อ 25/04/2013
แต่คิดว่าเข้าไปเพื่อใส่ Logo รูปพญาครุฑ เท่านั้นเอง

 

สนับสนุนครับ ใครไม่เคยมีประสบการณ์ก็จะบอกว่าไม่มี ไม่เชื่อ แต่หากว่ามีประสบการณ์ตรงเขาจะยืนยันนอนยันว่าเป็นเรื่องจริง หากใครอยากรู้อยากเห็นผมบอกเลยว่า นั่นคือกิเลส ไม่มีทางที่เห็นได้ เพราะเอากิเลสเป็นตัวตั้งแล้ว หากจิตคุณสะอาด สว่าง และสงบ ก็จะเข้าถึงและเห็นรับรู้ได้ครับ
โมทนาสาธุ
ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

 

จริงๆแล้วถ้านกตัวนี้อยุ่หลังก้อนเมฆจะมีความน่าเชื่อถือกว่าแต่ว่าถ้ามองดูจากระยะห่างแล้วนกตัวนี้จะอยุ่ใกล้กันพื้นดินมากทำให้นกดูตัวใหญ่
ความคิดของผมนะ

 

แล้วคุณเคยเจอเค้าจริงๆหรือเปล่าครับ หรือเพียงแค่ความคิดของคุณเอง

 

ขอบคุณนะครับที่เข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรมากมายที่ผมต้องไปอธิบายอะไรเยอะแยะกับเรื่องนี้ เพราะผมก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องเหล่านี้ เพราะจุดประสงค์ของผมคือ บอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่ได้พบเจอด้วยตัวเอง และมีหลักฐานภาพประกอบเท่านั้น ส่วนสิ่งที่อยากรู้คือ ว่าสิ่งที่ถ่ายได้นี้เป็นอะไรกันแน่เท่านั้นครับ ถึงจะได้คำตอบหรือไม่ได้คำตอบยังไง มันก็แค่ผ่านไปเหมือนกระแสลม เดี๋ยวมันก็ว่างเปล่าครับ สาธุครับ

 

ผมก็ไม่รู้จะอธิบายคุรยังไงนะครับ เพราะภาพจากล้องจริงๆ มันถูกลบไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว พอผมทราบว่าที่ได้เคยเห็นคืออะไร ผมก็พยายามกู้ข้อมูลกลับมาซึ่งจริงๆแล้วถ่ายไว้เกือบสิบรูป แต่เห็นว่าไม่สำคัญอะไรเลยลบทิ้ง แล้วอยากจะบอกอีกอย่าง ว่าเลยจากภาพที่เห็นออกไปมันเป็นท้องฟ้าโปร่งไม่มีเมฆ ซึ่งผมก็ไม่มีรูปอื่นแล้วที่จะเอามาให้ดูเพราะมันกู้ข้อมูลคืนมาได้เพียงเท่านี้ ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ นะครับ เพราะผมก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรที่จะโกหกพวกคุณ

ซึ่งถ้าหากคุณคิดว่าเป็นนกธรรมดา ก็ช่วยหาตัวอย่างข้อมูลมาให้ผมดูด้วยนะครับ

 

ถ้าผมจงใจแต่งรูปจริง ผมคงจะแต่งให้สวยกว่านี้ไปแล้วหละครับ แต่นี่มันถ่ายติดโดยบังเอิญ ครับ เข้าใจใช่ไหมครับว่า เป็นความบังเอิญ ซึ่งผมก็บอกแล้ว หากคุณคิดว่าเป็นนก นกอะไรตอบผมหน่อยนะครับ หาภาพของนกแบบนั้นให้ผมดูด้วยนะครับ จะขอบพระคุณมาก

 

ผมเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วหละครับ ผมคิดถึงเรื่อง เต่าคุยกับปลา แล้วก็เรื่อง ที่พระท่านมักจะสอนเตือน ฆารวาส เรื่องบาป บุญ คุณ โทษ ว่ามีจริง กรรมมีจริง ถึงขนาดนั้น ก็ยังมีคนไม่เชื่อท่านอยู่ดี นับประสาอะไรกับผม ซึ่งเป็นคนธรรมดาที่ออกมาพูด
ส่วนสุดท้ายนี้ หากใคร เชื่อผมก็อนุโมทนา นะครับ ส่วนผู้ไม่เชื่อ ผมก็อนุโมทนาเช่นกันครับ สาธุครับ ขอให้ทุกท่านอยู่ดีมีสุข อย่าได้มีทุกข์เลยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขั้วของดอกอะไรซักอย่าง ปลิวมาติดหน้ากล้องป่าวครับ

 

โลกใบนี้มีสิ่งลี้ลับอยู่มาก มิติที่ซ้อนทับกันก็มีเช่นกัน..สาธุค่ะ

 

555 ตลกดีนะครับ 555

 

นกบั้งรอกใหญ่

นกบั้งรอกใหญ่ Phaenicophaeus tristis ( Green-billed Malkoha ) เป็นนกตัวไม่เล็กหางยาวที่มักพบกระโดดไปมาตามกิ่งไม้ ความยาวจากปลายปากจรดปลายหางของนกชนิดนี้คือ 52-59.5เซ็นติเมตร โดยเป็นความยาวหางไปแล้วราว 38 เซนติเมตร ลำตัวยาวเพรียว ปากสีเขียวอ่อนค่อนข้างหนา หนังรอบตาสีแดงสด หัว คอ หลังคอเป็นสีเทา หลังและตะโพกสีเข้มขึ้นมาอีก ปีกและขนหางสีดำเหลือบเขียวเข้ม ปลายขนหางที่ไล่กันลงไปเป็นสีขาว ทำให้มองดูจากด้านหน้าแล้วเป็นบั้งสีขาวๆลดหลั่นกันลงไป นกตัวผู้และตัวเมียคล้ายคลึงกัน


ที่มา: Bloggang.com :

 

คิดว่าไม่ใช่ นกมาคอร์ จริงๆเจ้าคะเพราะดูจากลักษณะการบินกับรูปทรงปากจะงุ้มลงไม่เหมือน พญาสดายุ ลูกของพญาครุฑ

 

จัดให้เจ้าคะ ส่วนตัวคิดว่ามันคือนกบั้งรอกใหญ่ ตามที่คุณ dong2002 แนะนำไว้
ดูรูปแล้วตัวเค้าใหญ่ใช่ได้เลย หนูพยายามหารูปที่นกบั้งรอกใหญ่บินก็ได้มา
แต่เป็นรูปถ่ายด้านข้างพอใช้แก้ขัดได้ เลยลองเอามา Scale down สัดส่วนเดิม
แล้วลองเอามาบินข้างๆเทียบกับ พญาสดายุ ดูแล้วก็มีส่วนใก้ลเคียงกันมากจ้า
ยังไงก็ฝากรูปไว้พิจรณาด้วยนะจ๊ะ

แต่โดยส่วนตัวแล้วจากข้อมูลข้างต้น 80% หนูว่ามันก็คือเจ้า บั้งรอกใหญ่ นั่นเอง

 

แต่ผมอยากจะถามคำถามซักหน่อยนะครับ คือ
1. พระอาทิตย์ทรงกลด คุณคิดว่ามีรัศมี กี่กิโลเมตร เพราะเห็นกันได้ทุกมุมเมือง
2. ต้องใช้เลนส์ไวน์เท่าไหร่จึงจะเก็บภาพได้หมด
3. ระยะที่คนยืนถ่ายรูปเพื่อให้ได้ภาพ วงรอบของพระอาทิตย์ทรงกลดน่าจะห่างจากพระอาทิตย์กี่กิโลเมตร
4. คุณคิดว่านกตัวนั้น บินสูงเท่าไหร่จากระยะการถ่าย
5. ปกตินกบั้งรอก ที่ว่า บินสูงที่สุดแค่ไหน
6 หากเป็นนกบั้งรอกจริง ทำไมจึงถ่ายไม่เห็นลักษณะ ลายละเอียดเหมือนที่คุณนำภาพมาเปรียบเทียบ หากลองซูมไปให้สุดก็น่าจะเห็นรายละเอียดอย่างที่นำภาพมาเปรียบเทียบได้บ้างนะครับ
7.นกอะไรอยู่บนอากาศโดยไม่กางปีกรับลมพยุงตัว แถมภายใน 24 วินาทีหายตัวไปได้
8. ภายใน24 วินาที ในระยะความสูงขนาดนั้น นกต้องกระพือปีกกี่ครั้งจึงจะหลุดจากรัศมีพระอาทิตย์ทรงกลดหรือหลุดจากเฟรม หากเป็นเครื่องบินจะหลุดหรือยังครับภายใน 24 วินาที ลองเทียบกับเวลาเรามองเครื่องบิน เวลาบินในอากาศนะครับ
ยังไงก็ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูล
หมายเหตุ แต่อยากให้ลองเอาภาพข้างล่างนี้ไปซูมขยายดูให้สุดๆไปเลยนะครับ อยากรู้ว่าเห็นรายละเอียด อย่างไรบ้าง