ประสบการณ์ฝึกจิตส่วนตัว (หวังว่าจะให้กำลังใจผู้ปฏิบัติธรรมไม่มากก็น้อย)

โมทนาครับ ท่านอ้น

แหม สัมภาษณ์ข้ามมิติกันเลยทีเดียว หาอ่านยากนะนี่

 

อนุโมทนาด้วยนะครับ รออ่านต่อด้วยครับพี่ อิอิ ตามมาหลายวันแล้วครับเลยมาขอเร่งต้นฉบับหน่อยครับ

 

ขอโมทนาบุญกับคุณคำอ้นด้วยนะครับ ^_^ รออ่านต่อนะครับ อิอิ

 

อนุโมทนาสาธุครับ

เป็นบุญนักที่ได้อ่านข้อธรรมะดีๆครับ

 

anumothana ka...really enjoy reading

 

อนุโมทนาครับ ผมชอบบทความของเจ้าของกระทู้มากครับ มีความรู้ใหม่ๆก็เอามาลงให้อ่านบ้างนะครับ สาธุ

 

เอ้า นึกว่าใคร เหอๆ
มาอนุโมทนา พี่อ้นครับ

พี่อ้นจะทำแผนที่สวรรค์หรอครับ แหะๆ (ล้อเล่น)

 

อนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาให้ได้อ่านกันนะคะ

 

อนุโมธนา ด้วยครับ อ่านแล้วตื้นตันมากครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่านนะครับ หากมีเรื่องดีๆอีกก็ขอให้โพสต์เลยนะครับ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ


ได้ความรู้เยอะเลย อ่านแล้วไม่เบื่อ(แต่จะปวดตามากกว่าเพราะเนื้อหาเยอะมาก !)

ยังไง ๆก็รีบปั่นต้นฉบับให้เสร็จนะคะ มีคนรออ่านอยู่ ^__^

 

องค์ที่ ๗

ผม : ไปต่อดีกว่า แว๊บบ
ท่านที่ ๓ : ไม่เจอกันนานเลยนะ หายเงียบเลย
ผม : ติดเรื่องเรียนหนักครับ แล้วก็จำเป็นต้องทิ้งไว้ให้ซาๆก่อน เดี๋ยวจะยุ่ง
ท่านที่ ๓ : วันนี้มีอะไรจงถามมา
ผม : ตามที่เคยถามมาในพระโพธิสัตว์องค์ก่อนๆ จะถามในทำนองเดียวกันครับ หวังว่า..
ท่านที่ ๓ : เราเคยคุยกันแล้วนะ แต่คุยยังไม่เสร็จเธอไม่ได้บันทึกไว้ด้วย เรื่องหลักมีอยู่ 3 เรื่อง เรื่องรองแล้วจะแต่จะบันทึกไว้หรือไม่ ตามที่เคยถาม
ผม : ครับ เรื่องแรก คือ เรื่องปรารถนาโพธิญาณ
ท่านที่ ๓ : ตัวฉันเองนั้น เป็นคนมีบุญมาก ชอบเกิดในวรรณกษัตริย์ และติดตามเหล่าผู้มีบุญมาโดยตลอด ก็เลยปรารถนาตามๆ กันมา ตามวงศาคณาญาติที่เป็นพระโพธิสัตว์เหมือนกัน แต่มิได้ปรารถนาสิ่งใดมากพิเศษหรอก ปรารถนาเพียงนำคนหมู่มากเข้าพระนิพพาน
ผม : หมายความว่า...
ท่านที่ ๓ : ฉันมิได้อธิษฐานบุญพิเศษมากมายเหมือนหลายองค์หรอกนะ ฉันก็สบายๆ แต่ยุคนั้นไม่มีโจรผู้ร้าย อาจมีคนจนน้อยมากๆ ไม่ถึงกับไม่มีเลย แต่ก็ถือว่ามีความสุขตามอัตภาพ เมืองส่วนใหญ่ เป็นป่าไม่ถึงกับแห้งแล้ง มีลำธารอยู่ไม่ไกล คนอาศัยอยู่ไม่หนาแน่นมาก
ผม : อาจเทียบได้กับ ...
ท่านที่ ๓ : ภาษาโลกเขาเรียกว่า ศรัทธาธิกะ สมัยนั้นคนอายุ 350 ปีเป็นกำลัง อาจจะมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ตามแต่กรรมของผู้คน บุคคลใดปรารถนาจะไปนิพพาน เราจักแสดงธรรมให้ไปสู่นิพพานคือความพ้นทุกข์ได้โดยสมหวัง เราจักประกาศแสดงความเป็นไปแห่งธรรมจักรอีกครั้ง จักบังเกิดความสุข ความเจริญแก่ทุกรูปทุกนามตามวาระนั้นๆ ผู้ยังมิได้ประสบพบเราก็จะสามารถรับรู้ได้เมื่อเราได้แผ่ฉัพพรรณรังสีไปถึงแล้ว บุคคลใดนึกถึงเราย่อมเข้าสู่ความสุขความเจริญตลอดจนถึงพระนิพพานได้โดยง่ายตามลำดับ ด้วยบารมีของเราจักมีพระอัครสาวก เอตทัคคะตามมาเปรียบเสมือนแขน ขาและพละกำลัง ของเรา เราจักยัง 3 แดนโลกธาตุให้สว่างไสว เป็นเวลานานในพุทธันดรแห่งเรา
ผม : สาธุๆ เห็นภาพเป็นฉากๆตามเลยครับ
ท่านที่ ๓ : (ยิ้ม)
ผม : แล้วท่านจะลงมาเกิดในยุคนี้ไหม
ท่านที่ ๓ : ยังไม่ได้ลงมาเกิดในยุคนี้ แต่ ได้มาเกิดแล้วสมัยพุทธกาลของ พระสมณโคดมพระพุทธเจ้า สมัยนั้นเป็นวรรณกษัตริย์เป็นหลานของท่าน เป็นลูกคนที่สาม เป็นคนขี้โรค ผอม ไม่แข็งแรง เมื่อทราบว่าพระพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้น ได้เดินลงมาจากเตียงถวายบังคม ณ ที่พื้นของห้องรักษาโรค นำดอกบัว หันไปทางทิศที่พระพุทธเจ้าอยู่ แล้วกล่าวว่า แล้วรำพึงว่า ผู้ประเสริฐที่สุดใน 3 โลกได้เกิดขึ้นแล้วเป็นที่พึ่งของทุกรูปทุกนาม มนุษย์ เทวดา และทุกสรรพสิ่ง ข้าพเจ้าขอบังคมศิโรราบนอบน้อมบูชาท่านด้วยดอกบัวนี้ และในอนาคตกาลโน้นข้าพเจ้าจักขอเป็นเช่นท่าน ว่าได้ไม่นานเกิดปีติอย่างมาก จนเกิดสมาธิรวมเป็นสมาบัติแล้วมีฉัพพรรณรังสีส่งมาที่ตัว …. ปีติมากๆ แล้วก็ได้เสียชีวิตไป เกิดกลิ่นหอมบริเวณนั้นอย่างมาก มีราชรถทิพย์มารับไปสู่สรวงสวรรค์ แล้วก็ได้ทำงานบนโน้นต่อ
ผม : งานของท่านบนสวรรค์คืออะไรครับ
ท่านที่ ๓ : เป็นอีกท่าน ที่คอยเทศน์สอนเทวดาทั้งหลาย และยังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้คัดสรรค์บุคคลต่างๆที่จะมาทำหน้าที่ต่างๆกันไป ....
ผม : อีกหลายๆอย่างผมก็ไม่รู้ครับ
ท่านที่ ๓ : เรื่องของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็จะเข้าใจเองเมื่อเจอแล้ว จะทำนายล่วงหน้าไปไม่ได้
ผม : ครับ แล้วสมัยนี้เป็นยุคสมัยยังไง พระพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองเป็นประการใด
ท่านที่ ๓ : เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของฉันคนเดียว เป็นเรื่องของเหล่าผู้ใหญ่ที่ช่วยกันอย่างมากด้วยในการพยุงพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่ทำนายล่วงหน้าไม่ได้เหมือนกัน รู้แต่เพียงว่าจะไม่ล้มลงไปเท่านั้นก็พอ และจะมีคนอาสามาทำหน้าที่ทางพระพุทธศาสนาต่อเรื่อยๆ .. ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ แต่ก็ช่วยกันอย่างลำบากมาก ทำเป็นทีม และจัดสรรกันอย่างมาก
ผม : แล้วภัยธรรมชาติ
ท่านที่ ๓ : เรื่องนี้เป็นไปตามธรรมชาติโดยแท้ ....
ผม : (ต้องขอโทษที่เล่าเรื่องภัยธรรมชาติได้ไม่หมด เพราะท่านไม่ให้เล่า) ทราบแต่เพียงว่า บางที่น้ำทะเลจะสูงเฉพาะที่เหมือนนาคทำ ...... ทะเลจะแห้งเหือด แล้วจะกลับโหมเข้าฝั่งอย่างแรง คนไทยตายค่อนข้างน้อย
ท่านที่ ๓ : อย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลย สนใจตัวเองดีกว่า ปฏิบัติได้เพียงไหนแล้ว ทำดีเพียงพอแก่ใจแล้วหรือยัง
ผม : แหะๆ ยังครับ แต่ก็พยายามเรื่อยๆ ครับ
ท่านที่ ๓ : คนจะตายก็ตาย คนไม่ตายก็ไม่ตาย .. แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นความตาย การพิจารณาความตายเป็นปัญญาอันยิ่งใหญ่ ในห้วงแห่งธรรมทั้งหมด มีความตายเป็นโจทย์ มีปัญญาเป็นเครื่องแก้ มีทางพานำไปสู่การแก้ปัญหาเรียกว่ามรรค ทั้งหมดทั้งปวงมาจากใจดวงเดียว แก้ที่ใจ
ผม : สาธุครับ เดี๋ยวผมจะกราบลาแล้วนะครับ มีอะไรจะฝากบอกไหมครับ
ท่านที่ ๓ : วันเวลาที่ผ่านไปย่อมมีดีและไม่ดี หากแต่บุคคลผู้มีปัญญา จักมองเห็นและแก้ไขในสิ่งนั้นๆให้ดียิ่งขึ้น ให้เกิดประโยชน์ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ได้ทรงตรัสสอนในสิ่งเดียวกัน คือธรรมอันนำพาให้พ้นทุกข์ เราจะมารออาศัยแต่พระพุทธเจ้าเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรีบขวนขวาย รีบทำในสิ่งที่ควรทำ อย่าเป็นคนขี้เกียจ ให้เป็นคนเสียสละ เดี๋ยวก็จะสำเร็จตามความประสงค์ทุกประการ
ผม : สาธุ ผมจะกราบลาแล้วนะครับ
ท่านที่ ๓ : สาธุ ขอให้สมปรารถนาทุกประการ

 

ยังทำ ทำเป็นทีม อยู่ครับ และนำไปบรรจุองค์พระใหญ่จุดละ 84,000 องค์ ได้ประมาณ 6 ที่แล้วดังภาพ สามารถสอบถามข้อมูลที่รวดเร็วได้ที่ facebook โดยค้นสมาชิกว่า "ทีมสร้างพระผงจักรพรรดิ์ กลุ่มแสงโพธิญาณ"

ถ้าสนใจตามนี้ครับ บัญชี นาย คมกริช เจริญชัย ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี มหาสารคาม ออมทรัพย์ 401-468453-1 (บัญชีทีมสร้างพระกลุ่มแสงโพธิญาณ)

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ
ตอนนี้สวดคาถาจักรพรรดิ์ตอน20.30น.เป็นประจำค่ะ
ถ้ามีบุญจะขึ้นไปปฎิบัติธรรมที่ถ้าเมืองนะค่ะ ตั้งสัจจะไว้แล้ว

 

อ่อ ไม่ได้ไปในวันงานครับ แต่ได้เดินทางไปเชียงใหม่ก่อนวันงาน ฝากพระเพื่อนำไปบรรจุ พร้อมของมีค่าต่างๆแล้วครับ

 

อนุโมทนากับธรรมทานครับ

สิ่งใดที่หวังเพื่อคนหมู่มาก ขอให้สำเร็จด้วยครับ

 

ขอให้ทิดคำอ้น สมปารถนาดังที่ตั้งใจไว้ทุกประการครับผม สาธุ

 

โมทนาด้วยคับ รักทุกคนขอให้รักษาตัว ให้อยู่รอดปลอดภัยนะ

 

...search ไปเรื่อยเปื่อยเพราะช่วงนี้เร่งสะสมแต้มบุญเริ่มพอจะมองเห็นอะไรเป็นอะไรบ้างพอสมควรแก่เหตุผลทางธรรม
...เห็นคนรุ่นใหม่ก็สนใจกันเยอะ บางคนก็สงเคราะห์กันแบบเปิดเผยในสังคมแม้แต่ในสื่อฯต่างๆมากมาย
...กฎแห่งกรรม ในสมัยก่อนก็ดูเหมือนจะเป็นเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุวัยใกล้เกษียณอายุ
...แต่วันนี้มีความหลากหลายมากขึ้นและสื่อสารกันกว้างขวางโดยเฉพาะในโลกไร้พรมแดน
...และก็น่ามหัศจรรย์ที่เทคโนโลยีวันนี้ก็เหมือนการส่งกระแสจิตที่เป็นอักษรมาที่หน้าจอคอมฯ
...จิตใครรับได้ก็ถือว่าความถี่ในการรับสารใกล้เคียงกันจะสนใจกันป็นพิเศษก็อ่านทำความเข้าใจกัน
...ได้มาอ่านพุทธนิมิตสาธยายธรรม ได้ความรู้ในอีกมุมมองหนึ่งที่เหนือความเข้าใจของคนบางกลุ่ม
...แต่สำหรับผมก็ศึกษามานาน จริงบ้าง ปลอมบ้างก็ว่ากันไปแต่เชื่อว่าของจริงมีแน่นอน
...ส่วนมิติที่ 6 พอมีประสบการณ์อยู่บ้างในสมัยวัยย่างเข้าสู่เบญจเพส (25ปี)
...ผมก็เลยนำประสบการณ์ตรงมาเปิดกระทู้ไว้ที่เวบลองไปอ่านกันได้ครับ
...ที่นี่ http://palungjit.org/posts/4999421
...ส่วนกระทู้ของ คุณทิดคำอ้น เป็นสิ่งที่คนบางกลุ่มอาจจะเข้าใจยากแต่ผมว่าเป็นประโยชน์ถ้าเปิดใจให้กว้างในเชิงเหตุผลทางธรรม
...สรุปก็เลยต้องอ่านจนถึงหน้าสุดท้าย
...และเห็นจะเกิดความปิติก็ เรื่องพระอาการประชวรของในหลวงของเรา
...ที่ คุณทิดอ้น ได้ถามพระโพธิสัตว์องค์ที่๒ หน้า2
...เพราะผมก็เชื่อและศรัทธาว่ากษัตริย์ของประเทศไทยมีบารมีที่ยิ่งใหญ่ทุกๆพระองค์
...แต่รัชกาลที่๙ ท่านครองราชย์นานที่สุดกว่า ๖๐ ปีและมีชื่อเสียงระบือนามไปทั่วโลก
...สวดมนต์นั่งสมาธิเสร็จก็อธิษฐานจิตให้ท่านแข็งแรงอยู่ช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยไปนานๆเป็น ๑๐๐ ปี
...อนุโมทนาสาธุ ในสิ่งดีๆที่นำมาเปิดเผยและกิจกรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ตามสัญญาเดิมจากอดีตชาติที่ติดตัวมาครับ

 

ต้องโพสท์ต่อนะครับ จะรอ มันคือการสร้างบารมีอย่างหนึ่งเหมือนกันกับ สร้างหนังสือ
เมื่อมีคนมาอ่านแล้วเค้าเข้าใจ ตัดสินใจปฎิบัติธรรม คุณก็จะได้อานิสงค์ไปเรื่อยๆ
เก็บกินไม่หมดแน่ครับ สาธุในธรรม