ช่วยด้วย...โดนด่าอีกแล้ว T^T

เข้าใจว่าน้องกำลังเครียดเรื่องเงินและงาน ยิ่งโดนด่ายิ่งกดดัน ช่วงนี้ต้องใช้กำลังใจสูงมากเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ป้าเองก็เจอมาทุกรูปแบบ แต่ก็บอกตัวเองเสมอว่า กรูต้องเอาดีให้ได้

อย่าโทษตัวเอง อย่าซ้ำเติมตัวเอง พยายามยืนด้วยตัวเองให้ได้ เข้มแข็งให้มากๆนะจ๊ะ

 

สู้ๆนะคุณเมธาวี เราก็เคยเป็นเรื่องแบบนี้แหละอาจจะเบากว่าคุณ
สักวันฟ้าเปิด วันนั้นจะเป็นวันของคุณ สู้ๆนะ Fighto catt1
ขอถามนิดนึงคุณเรียนจบด้านไหนมาคะ อยากรู้ ทำงานอะไรอยู่ ??

 

ขอบคุณคับ

 

-นั่นละเป็นเหตุผลนึงทำให้คุณพ่อน้อง ด่า แบบสุดๆ (คือนิสัยคนเรา ถ้าไม่มีปมอะไรในใจ จะไม่ "ด่า" แบบสุดๆ เสียดสีกันตลอด เพราะ พ่อน้อง รัก และหวังในตัวน้องไง หวังให้เป็นผู้ชาย
**น้องเป็นผู้ชาย แต่เป็นเกย์ มันห้ามไม่ได้ ( born to be ใช่ปะไม่ได้ตามแฟชั่น น้องพยายามปิดสุดๆแล้ว) พี่เข้าใจว่า น้องพยายามปิดแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ ผู้ชายด้วยกัน ดูออกค่ะ ยิ่งคำด่า คนอื่น เกิดมาวิปริตผิดเพศ อะไรต่างๆนาๆ พ่อกระทบตัวน้องค่ะ
ทำให้พ่อ กระแทกมา ให้ไปบวชเสีย (เข้าใจว่า บวชแล้วน้องจะได้หายจากตรงนี้ หรือพ่อจะไม่ได้เห็น ห่างตาไปเสีย)

เรื่องน้อง ทำให้พี่คิดถึง ลูกพี่ลูกน้องคนนึง พี่ดูออก ตั้้งแต่พี่ ยังเป็นเด็กประถมแล้ว (แต่ไม่รู้ว่า เรียกอะไร) เขาไม่พูด เหมือนคนหยิ่ง ท่าไม่ออก แต่ไม่สุงสิงกับใคร ไม่อยากเจอะหน้าใคร

เขาตั้งใจเรียนสุดๆ สอบ tofel ให้ได้คะแนน ไปอเมริกาได้( แม่เขาพอรู้ค่ะ ยอมรับได้ และตั้งใจส่งไปอเมริกา) ตอนนี้เขาไม่กลับแล้ว "ใช้ชีวิตเอง ส่งเงินกลับมาให้แม่ (แต่ไม่ให้พ่อนะ)" พ่อเขายอมรับไม่ได้ พูดเสียดสีเรื่องเล็กน้อยประจำ


พี่คิดว่า เขาเหมือนน้อง ที่ไม่สุงสิงกับใคร ฯลฯ เพราะมีปมตรงนี้ หน้าเขาจะเฉยอยู่ตลอดเวลา ดูหยิ่ง ทำให้ไม่กล้าเล่นด้วย เขาขยัน ประหยัดมาก ทำงาน ตอนอยู่อเมริกา เสียภาษี ผ่อนบ้านได้แล้วที่อเมริกา ทำให้เขาใกล้จะเป็น citizen ของอเมริกาแล้ว

เขาทำวิกฤติให้เป็นโอกาส เขาทำอะไร ๆ ได้ดีว่า คนเพศที่ 1-2 เขาทำให้แม่ภูมิใจมาก และยิ่งรับได้ แม้ลูกเขาจะเป็นแบบนี้

ถ้าพี่ให้กำลังใจ คงต้องบอกว่า น้องต้องไม่เลือกงาน (ลูกพี่ลูกน้องพี่ จบโทอเมริกาค่ะ แต่ไปล้างจาน สุดท้ายจับงานที่มีรายได้ เอาฝรั่งมาเป็นลูกจ้างได้)

เริ่มปฎิบ้ติธรรมได้เลยน้อง การเกิดมาแบบนี้ born to be แบบนี้ ถือเป็นกรรมอย่างนึง ที่เราต้องก้มหน้ารับ แต่จะรับแบบไหน
แบบมีความสุข ทำให้คนยอมรับได้ หรือจะรับกันไปนานๆ (พี่ก็กรรมมากเยอะค่ะ แถมวิบากพูดจาไม่มีน้ำหนักด้วย ผลมาจากกรรมที่ทำไว้ด้วยกัน แต่เมื่อก่อนพี่ไม่มีคอมไว้ระบายค่ะ ร้องไห้อยู่คนเดียว น้องยังดีกว่าพี่ค่ะ) ของน้องแค่โดนด่า (ถ้าใจน้องไปทุกข์กับคำด่า)

ทางโลก น้องต้องขยันงานมากกว่านี้ การปฎิบัติธรรม ทำให้เราบารมีสูงขึ้น ใช้กรรมได้ไว้ขึ้น โอกาสเจอะอะไรดีๆ จะมากขึ้น

 

คำว่า ทุกข์...ในความหมายเชิงพุทธนั้นแปลว่า "สภาวะทนได้ยาก" และยามใดที่เราพบกับสิ่งที่ยากจะฝืนทน ยามนั้นเราย่อมต้องหาทางออกหรือหาวิธีการบางอย่าง เพื่อปลดปล่อยหรือทำให้หลุดพ้นจากทุกข์นั้น...แต่อยากให้เข้าใจนะคะว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง..ล้วนเป็นการถักทอของเหตุปัจจัย และย่อมจะจางหาย.. เสื่อมไปในเวลาใดเวลาหนึ่งที่เหมาะสม..

เพราะชีวิตนี้..ไม่เคยมีอะไรที่แน่นอน บางคนถูกกลั่นแกล้ง บีบคั้น หรือกระทั่งถูกทำร้ายจากใครก็ตาม แม้ว่ามันจะเจ็บปวด ก็ขอให้คิดเถิดว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ย่อมต้องกลายเป็นอดีตที่มีค่า และแทนที่เรามัวคิดจะต่อว่า..โชคชะตา มีอคติต่อโลก..ขอให้กลับมาปรับความคิดความเชื่อของตัวเองน่าจะดีกว่า..

มีหลายคำสอนของครูบาอาจารย์ที่ดิฉันชื่นชอบ และใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตอยู่มากมาย และที่ชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือ "อย่ามัวแต่หวังให้โลกนี้..มีแต่ความยุติธรรมเลย เพราะโลก จะยุติธรรมกับเราได้ ก็ต่อเมื่อ มีความเหมาะสมเพียงพอ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่เราเคยทำหรือสร้างมันมาตั้งแต่ชาติปางไหน ไม่รู้ต่อกี่ภพกี่ชาติ"

ฉะนั้น แม้ว่าโลกเราทุกวันนี้จะอยู่ยากขึ้นทุกวัน เราเลิกใช้ชีวิตแบบตั้งรับ..แล้วลุกขึ้นมาเติมไฟให้กับตัวเองอาจทำให้ชีวิตเรากระชุ่มกระชวยขึ้นกว่าที่เคยเป็นและอาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ตามมาก็เป็นได้นะคะ..

รางวัลที่เราสามารถให้กับตัวเราเองได้มีทั้งที่เป็น "รางวัลรูปธรรม" และ "รางวัลในใจ" ยังไงดิฉันก็ขอให้ปัญหานี้ของท่าน จขกท ถูก "วาง" ลงให้ได้โดยเร็วพลันเถิด..สาธุค่ะ^^

 

ท่านเจ้าของกระทู้ครับ ยังมีหลายท่านและหลายคนที่แย่กว่าท่านครับคิดอย่างนี้ ท่านจะได้มีกำลังสู้ต่อ นอกจากเรื่องของผมแล้ว ยังมีเพื่อนที่สนิทกันกับผมก็เจอเหมือนกัน มันคอยบ่นตลอดเวลาไปช่วยงานกับครอบครัว(เพื่อนผมทำกิจการเรือลากอวนกับครอบครัว)ถ้าครั้งไหนเพื่อนมันต้องไปทำงานคุณพ่อของมัน เพื่อนผมมันจะชอบมาบ่นๆกับผมว่า กูโดนอีกแล้ว เดี๋ยวพอไม่ได้ดั่งใจมันก็โดนเหวี่ยงใส่ น้องๆของมันคนอื่นรู้ทันจะชิ่งหมด แต่มันเป็นลูกคนโตก็ต้องรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น ก็ต้องคอยรับตรงนี้ไป จริงๆมันทำงานประจำเป็นวิศวะ แต่ที่บ้านให้ลาออกมาช่วยกิจการมันก็ยอมลาออกจากงานมา เนื่องจากคุณแม่ของมันสุขภาพไม่แข็งแรง มันเริ่มเรียนรู้งานใหม่ๆแต่คุณพ่อกลับไม่ยอมสอนงาน ว่าจะให้จัดการอะไรตรงไหนบ้าง กลับบอกว่าให้เรียนรู้เอาเองเดี๋ยวก็เป็น แต่พอไม่ได้ดั่งใจมันก็โดนด่า แถมคุณพ่อของเพื่อนคนนี้ยังไปกู้เงินมาขยายกิจการโดยไม่จำเป็นเพียงเพราะอยากแข่งกับคนอื่น เป็นหนี้ร่วม20ล้านทั้งๆที่กิจการที่ทำอยู่ก็อยู่รอดแล้ว แล้วก็จะหลุดหนี้เก่าอยู่แล้ว แล้วช่วงหลังกิจการขาดทุนบ่อยๆลูกน้อง(คนงานพม่า)ที่ทำงานดีๆเก่งก็หนีไปอยู่กับเถ้าแก่คนอื่นหมด ไม่รู้ว่าคุณพ่อของเพื่อนคนนี้ชอบโมโหใส่ลูกน้อง หรือด่าลูกน้องรึเปล่า แถมคุณพ่อยังใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายอีก มันก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะที่บ้านใครค้านไม่ฟัง พูดไปก็มีแต่โดนด่า เพื่อนผมกับคุณแม่ของเพื่อนก็ได้แต่เครียด กลัวว่าจะพลาดแล้วล้มละลาย เพราะเงินที่กู้มา คนในครอบครัวเป็นคนที่เซ็นค้ำกันหมด มันก็บ่นอีกว่ากลัวพ่อจะแอบไปกู้เงินเขามาอีก

ทุกครอบครัวมีปัญหากันทั้งนั้นหละครับ ไม่ใช่ท่าน จขกท.คนเดียวที่เจอหรอกนะครับ มองไปรอบๆตัวท่านจะเห็นคนที่แย่กว่าท่านครับ ตัวตนของท่านบางคนไม่ยอมรับ แต่ผมเชื่อว่าสักวันต้องมีคนเข้าใจและยอมรับครับ ที่สำคัญต้องพยายามสร้างความดีครับ
ผมก็เจอนะกับไอ้เรื่องทำคุณบูชาโทษเนี่ย ทุกวันนี้ก็ยังเจอ เจอบ่อยสุดก็เรื่องไม่รักษาคำพูด โดยเฉพาะเรื่องการทำมาหากิน สัญญาอย่างดีสุดท้ายกลับลำกลับคำเสียอย่างนั้น ทุกวันนี้ก็ยอมรับว่ายังเจ็บกับคำด่าและถากถางอยู่ แต่ก็คอยให้กำลังใจตัวเอง บอกตัวเองว่าอย่าไปสนใจ เพราะคนเราถ้ายังไม่บรรลุมันต้องมีจิตตกกันทุกคนหละครับ แต่จะมากน้อย หรือมีสติควบคุมตัวเองรึเปล่า อย่างน้อยบอกกับตัวเองว่า "ถ้าชีวิตยังต้องทำคุณบูชาโทษอยู่แสดงว่ายังใช้หนี้กรรมไม่หมด" ทำเท่าที่ตัวเองมีกำลังมากพอ เท่านี้หละครับ
.......ขอให้ผ่านไปได้ครับ