เฟสบุ๊ค เหยียดหยามศาสนาพุทธและพระพุทธเจ้า ทำยังไงดี

งามแบบงามตามวัยครับ รับรองไม่ใช่แบบอายุ18สูงร้อยกว่า 34 24 35 หรอกครับ

อ่ออีกอย่าง
ใครเจริญพรมวิหาร4แบบยังไม่ทันได้ใช้เมตตากรุณาก็กระโดดมาใช้อุเบกขาเลย ไม่ถูกนะครับ เป็นอุเบกขาแบบคนขี้เกียจ ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากสนใจ เห็นแก่ตัวนะครับ

 

เห็นด้วยค่ะว่่าเป็นเสรีภาพทางความคิด

บนโลกใบนี้อาจมีคนอีกมากมายที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย หรือนับถือศาสนาต่างกัน มันเป็นสิทธิและเสรีภาพของเขา เป็นทางเลือกของเขา แต่การที่ใช้เสรีนั้นมันควรมีขอบเขตอยู่บ้าง ไม่มีใครมีเสรีภาพได้เต็มร้อยบนโลกใบนี้ อย่าลืมว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม อยู่ร่วมกันในสังคมก็ควรให้ความเคารพกับเสรีภาพและความคิดเห็นของคนอื่นด้วย ในเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งเขาเชื่อและเคารพสัญลักษณ์นั้น ถ้าใครเห็นต่างก็อาจจะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนั้นๆ ได้ แต่การล้อเลียนเหยียดหยามมันก็เท่ากับเป็นการไปละเมิดเขา ควรบอกให้เขาใช้เสรีภาพในทางที่ผู้เจริญควรทำดีกว่า สงครามศาสนาจะได้ไม่เกิดขึ้น

 

ลูกพุทธะ ย่อมเจริญพรหมวิหาร 4
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=301 align=center><TBODY><TR><TD width=55>เมตตา</TD><TD width=246>ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข</TD></TR><TR><TD width=55>กรุณา</TD><TD width=246>ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์</TD></TR><TR><TD width=55>มุทิตา</TD><TD width=246>ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี</TD></TR><TR><TD width=55>อุเบกขา</TD><TD width=246>การรู้จักวางเฉย</TD></TR></TBODY></TABLE>

งามทั้งกายทั้งใจเลยนะหล่อน...(เอ้ย..เธอ)

 

บอกตรงๆ ว่า ถ้าเจ้าของกระทู้ไม่นำมาคุย ดิฉันก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเพจนี้อยู่บนโลก บางที คิดในอีกแง่ยิ่งตีฆ้องร้องเป่า เรื่องก็ยิ่งดัง คนก็ยิ่งสนใจ และอาจมีคนที่คิดในทำนองนี้ไปรวมกลุ่ม รวมตัวกันมากขึ้น

วางอุเบกขาแบบที่มีเพื่อนสมาชิกแนะนำนั่นก็เห็นด้วยค่ะ
รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เขาไปจัดการกัน ไม่ต้องเข้าไปด่า ถ้าจะเข้าไปคุยก็อย่าจุดเดือดต่ำ ทำใจกว้างๆไว้ ถ้าจูนกันไม่ติดก็ทางใครทางมัน หรือบางคนอาจจะเข้าไปกด Unlike นั่นก็เรื่องของเขา

 

น่านับถือจริง ๆ นับว่าทุกท่านกำลังจะเข้าสู่จิตใจที่ยกระดับสูงขึ้น และกำลังจะเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น ครับ เราต้องเจริญพรหมวิหาร 4 บางท่านอาจจะใช้เมตตามาก่อนก็ถูกครับ เมื่อใช้แล้วจนถึงระดับที่จะต้องนำ กรุณา มาใช้ต่อ และ มุทิตา มาใช่ต่อเนื่อง แต่ถึงคราวที่จะต้องใช้อุเบกขา ก็ต้องใช้ให้ถูกต้อง คราวนี้ผมจะยกตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้นในสังคมที่ออกข่าววันนี้ ก้คือ ข่าวรายงานว่า พ่อแท้ ๆ ข่มขืนลูกในใส้ของตนเอง ถามว่า นี่ก็คือ ความเสื่อมโทรมของศิลธรรมในสังคม ถามว่า เพื่อน ๆ จะใช้ ธรรมอะไรก่อนในหลักพรหมวิหาร 4 ?

ในเรื่องความเสื่อมของศิลธรรม ไม่ได้เกิดเฉพาะกรณีเหยียดหยามพระพุทธศาสนาและกรณีข่าวพ่อข่มขืนลูกนี้เท่านั้น ยังมีอีกมากมายหลายกรณีในสังคม และมักจะเห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว การแสดงความคิดเสรีนะทำได้แต่ต้องมีขอบเขตดังที่คุณ obs2553 กล่าวไว้ บางท่านกล่าวว่า เป็นการล้อเล่นกัน หรือหยอกล้อ ถ้าอย่างนั้นถ้ามีคนนำบุคคลอันเป็นที่รักและเคารพของท่านที่กล่าวว่าล้อเล่นมากระทำอย่างนี้บ้าง ตัวท่านจะคิดเห็นอย่างไร ? เช่น พระมหากษัตริย์ บิดามารดา เป็นต้น ต้องขออภัยที่กล่าวอย่างนี้ และเห็นด้วยกับคุณ obs2553 ว่าอาจจะนำมาพวกที่ไม่ดีเข้ามาอีกมากมาย ผมว่าสมควรจะหาทางแก้ไขได้แล้วนะครับ

เสริมอีกนิด กรรมนะเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ แม้พระพุทธเจ้ามิได้ทรงแสดงออกมาให้ประจักษ์ก็มีเป็นปกติ พระพุทธเจ้าทรงนำความจริงในเรื่องกฏแห่งกรรมมาแสดงให้ทราบเพื่อให้ชาวโลกได้ตระหนัก ดังนั้นแม้จะมีคนไม่นับถือศาสนาเลย หรือนับถือต่างศาสนากรรมก็ไม่ละเว้น ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ! ยกตัวอย่างเช่น ปลูกมะละกอจะได้ผลเป็นกล้วย ย่อมเป็นไปไม่ได้ ปลูกมะละกอย่อมต้องได้ผลเป็นมะละกอ ฉันใดก็ฉันนั้น.....

 

ตกอเวจี แน่ๆ แสดงการใส่ร้ายพระพุทธเจ้า นั้นคือกรรมหนัก

 

เรื่องพ่อข่มขืนลูกในไส้ ในฐานะบุคคลภายนอก (ไม่ใช่ตัวคนกระทำและผู้ถูกกระทำ) ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะต้องใช้ธรรมข้อไหน? รบกวนคุณชัยบวรเฉลยให้ด้วย

รู้แต่ว่าในฐานะคนในสังคมเดียวกัน เห็นควรต้องใช้กฏหมายเข้ามาจัดการเพื่อปกป้องสิทธิเด็ก ให้ผู้กระทำได้รับโทษ

 

เห็นพูดเรื่องอุเบกขา เลยขอแจมด้วย

อาวชฺชิตฺวา ธมฺมพลํ = อุเบกขา

อุเบกขา คือ การพิจารณาในสิ่งที่สามารถทำได้ แล้วทำ
สามารถทำได้ แต่ไม่ทำ ก็ไม่เรียกว่าอุเบกขา
ไม่สามารถทำได้ ไม่มีเหตุอันควร แต่ยังรั้นทำ ก็ไม่เรียกว่าอุเบกขา

เจอเฟซหมิ่นทำอย่างไร?
- เตือนเจ้าของเฟซ
- เจ้าของเฟซไม่สนใจ ก็แจ้งผู้ดูแล
- ผู้ดูแลไม่สนใจ?
- หากมีความรู้ เราก็สร้างเฟซหักล้างข้อกล่าวหานั้น
- หากไม่มีความรู้ ก็ถามผู้ที่มีความรู้มาล้างข้อกล่าวหานั้น
- หากทำจนเห็นว่าห้ามอะไรไม่ได้แล้ว คนเขาจะลงนรก ก็ปล่อยๆ ไปเถอะ ยังมีอีกหลายคนที่อยากจะไปสวรรค์ไปนิพพานกันอีกเยอะ ไปใส่ใจคนกลุ่มหลังดีกว่า

 

ไม่แปลกครับ ผมก็ชาวพุทธแต่ผมไม่ยึดติดในรูป...

เหมือนกับที่คนในศาสนาเราไปด่าอิสลาม ไปแต่งรูปพระเยซู เหมือนกันครับ

เรื่องปกติ แค่ไม่ยึดติด ก็ไม่เห็นจะมีอะไร ?

 

เฮอๆๆๆๆ มาอีกเเล้ว

 

ทำให้รู้ว่า เราเข้าถึงและรู้จริงแค่ไหน เข้าถึงอย่างที่เราพูดออกไปมั้ย

ยังมี เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค ทวิสเตอร์ อื่นๆอีกมากมายที่คุณไม่รู้ ทำได้ร้ายกาจกว่านี้อีก ไม่ใช่

แค่ศาสนานะ....จะเสียเวลาไปตามปิดมันทุกอันเลย หรา.(.OMG.!!! )

เสียเวลาไปป่าว ศีล สมาธิ ปัญญา กันดีกว่า ^__^

สบายๆๆ ใครจะตายก็ปล่อยมัน.. เพราะบุญมีจริง และกรรมก็มีจริง..

​

 

เขาทำกรรมด้วยกายกรรมวจีกรรมมโนกรรม
ใครทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น
อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดกับเค้าเลย
เข้าไปดูมาแล้วและะคิดว่าไม่ต้องเข้าไปดูอีกเป็นดีที่สุด

 

ลองดูมันทำซิครับ ปกติไม่เห้นทำแบบนี้ วันนี้เป็นวันโกหกแห้งชาติ มันเลยถือโอกาสเล่นของสูงเลย ทุกคนในเพจรู้ดี ว่ามันทำแบบนี้เพราะอะไร
https://www.facebook.com/Ruthless.satV2


ลองไปอ่านคอมเม้นดูครับ https://www.facebook.com/photo.php?...13936618.79961.328185533936636&type=1&theater


และรอดูพรุ้งนี้มันจะยังให้ พื้นหลังแบบนี้หรือป่าว

 

นั่นเป็นพวกวัตถุนิยม ที่ตกเป็นทาสของแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์แผนเก่าของนิวตันครับ พวกนี้เชื่ออย่างมั่นใจว่าศาสนาไม่มีจริง เพราะวิทยาศาสตร์ที่เขาเชื่อนั้นไม่ได้บอกว่ามีจริง

พวกนี้มองคนที่นับถือศาสนาว่างมงาย แต่ไม่ยอมหันกลับมามองตัวเองก่อน ว่าตัวเองต่างหากล่ะที่งมงาย พวกนี้ไม่ยอมพิสูจน์ดูให้ดีๆเสียก่อน ว่าจริงๆแล้วศาสนามีจริงหรือไม่? พวกที่เอาแต่เชื่อคนอื่น ไม่ยอมพิสูจน์เอาเองแบบนี้ ไม่เรียกว่าเก๋าจริงในทางวิทยาศาสตร์หรอก

อีกอย่าง พวกนี้ไม่ยอมลืมตาดูโลกตะวันตกที่เป็นต้นกำเนิดของวิทยาศาสตร์เก่าที่ตนเชื่อนักหนา ว่าทุกวันนี้วิทยาศาสตร์แบบวัตถุนิยมกำลังโดนท้าทายอยู่ นับตั้งแต่สมัยไอน์สไตน์เป็นต้นมา วิทยาศาสตร์ตะวันตกก็กำลังโน้มเข้าหาศาสนาพุทธมากขึ้นเรื่อยๆ

เรียกได้ว่าพวกนี้ความรู้แค่หางอึ่ง แต่กลับกล้าที่จะโชว์เกรียนว่างั้น

พวกนี้ส่วนใหญ่มักจะเรียนมาทางด้านสังคมศาสตร์ ไม่ก็มนุษยศาสตร์ มีน้อยครับ สำหรับพวกที่เรียนวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะพวกหลังได้รับข้อมูลที่ทันสมัยกว่าพวกแรก พวกหลังนี่รู้ดีว่าทุกวันนี้วิทยาศาสตร์แบบวัตถุนิยมกำลังเสื่อมอยู่ในโลกตะวันตก และวิทยาศาสตร์ตะวันตกกำลังโน้มเข้าหาพระพุทธศาสนามากขึ้น พวกหลังเลยเชื่อศาสนา ไม่เหมือนสองพวกแรก ที่ได้รับข้อมูลส่วนใหญ่จากวิทยาศาสตร์แผนเก่า (วัตถุนิยม) ก็เลยหลงคิดไปว่าศาสนาไม่มีจริง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะตำราเรียนของสองศาสตร์ใหญ่ข้างต้นในประเทศไทย ยังคงอิงอยู่กับวิทยาศาสตร์แบบเก่าอยู่

ทฤษฎีการเมือง คอมมิวนิตส์ หรือประชาธิปไตย ทุนนิยม ที่พวกนี้อ่านมาและเชื่อว่าจริงนักหนานั้น ล้วนแล้วแต่อิงอยู่กับวิทยาศาสตร์แบบวัตถุนิยม ที่กำลังเสื่อมอยู่ในวงวิชาการตะวันตกทุกวันนี้ทั้งสิ้นครับ

ผมเข้าใจดี เพราะผมเองเมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้ เพราะผมเรียนรัฐศาสตร์ เลยบ้าอุดมการณ์สุดๆ ตอนนั้นผมเชื่อแต่สิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ ศาสนานี่ผมไม่เชื่อเลย ไม่ใช่แค่ไม่เชื่ออย่างเดียว ยังคิดจะทำลายอีก เพราะผมมองว่าศาสนาเป็นสาเหตุของความด้อยพัฒนาของชาติ
ตอนนั้นผมทำหมดครับ ทั้งสร้างเวปหมิ่นศาสนา กล่าวโจมตีศาสนาในที่ต่างๆ เหยียบหนังสือพระ เหตุที่กล้าทำได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะว่าตอนนั้นมั่นใจนักหนาว่าศาสนาไม่มีจริง
แต่พออยู่มาวันหนึ่งตัวเองมารู้ความจริงว่า ศาสนาต่างหากที่มีจริง ส่วนวิทยาศาสตร์ถึงจะจริงก็จริงไม่เท่าศาสนา ความคิดของผมถึงได้เปลี่ยน ซึ่งกว่าผมจะรู้ตัว ก็สายเสียแล้ว ผมมีทุคติเป็นที่ไปค่อนข้างแน่นอนแล้วครับ

พวกนี้ ถ้าสักวันได้รู้ความจริงว่าศาสนามีจริงเมื่อไร กลไกการเอาตัวรอดก็จะทำงานทันทีครับ และพวกนี้จะเข้าใจสิ่งที่ผมพูดนี้

ส่วนเรื่องอุดมการประชาธิปไตยนี่ ผมชอบครับ ผมเห็นด้วยกับอุดมการนี้ ตรงที่มุ่งจำกัดอำนาจผู้ปกครอง ให้ผู้ปกครองต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างกว้างขวาง
แต่สำหรับผมแล้ว ประชาธิปไตยควรจะถูกครอบด้วย "ธรรมาธิปไตย" คือต้องถือเอาความถูกต้องเป็นใหญ่ ไม่ใช่ถือเอาตามเสียงข้างมากเป็นใหญ่ครับ

ผมไม่เห็นด้วยกับเสรีภาพในการหยามหมิ่นศาสนา เช่นเดียวกับเสรีภาพในอีกหลายๆด้านที่อุดมการนี้ให้การรับรอง เช่น เสรีภาพทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น เพราะไม่มีความเป็นธรรมเลย

ถึงแม้ว่าจะมีคนเห็นด้วยกับเสรีภาพดังกล่าวเป็นเสียงข้างมากของสังคมก็ตาม แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี และจะหาทางหยุดยั้งให้ได้

 

กรรมของใครก็ของคนนั้นหล่ะ

 

ใช่ครับศาสนาพุทธ เป็นศาสนาแห่งเหตุผล เป็นศาสนาที่เกิดก่อนวิทยาศาส2000กว่าปี อะไรที่วิทยาศาสต์อธิบาย ตรงกับศาสนาพุทธหมด แม้แต่นักวิทยาศาสชื่อดังของโลกยังยอมรับในพุทธศาสนาเลย

แต่คนเราต่างหากที่เห็นอะไรก็เชื่ออย่างนั้นไม่คำนึงถึงเหตุและผล

เหนพวกนี้ไปยึดติดว่าเป็นพระพุทธเจ้า ตัวแทนพระพุทธเจ้า ปาฏิหาร อภินิหาร คิดว่ารูปวาดรูปปั่นท่านดลบันดาลลาภยศให้ คนทุกข์ก็ตัวเอง

ผมก็ไม่เหนด้วยที่เขาทำแบบนี้ ผมว่าปลงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

 

ถ้าสามารถชักจูงคนที่สร้างภาพพวกนี้มาทำประโยชน์คงจะเป็นการดีมากเลย เพราะเขาเก่งเรื่องการตัดต่อภาพ เขาอาจจะตัดต่อภาพที่เป็นประโยชน์ได้และคุณเจ้าของกระทู้ก็อาจช่วยได้คอยสอดส่องและอย่าใช้อารมณ์ตัดสินตัดสินกันที่เมตตานะครับ พูดกันดีๆให้เขาเข้าใจบางทีเขาอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเข้าใจอะไรผิดๆเราก็ควรให้อภัยเขาไม่ใช่ใส่อารมณ์นะครับ ความดีชนะทุกสิ่งแม้กระทั่งความชั่วที่เยอะนักหนาก็สามารถกำจัดได้ด้วยความดีแต่อย่าเอาความชั่วใส่ความชั่วเดี๋ยวกองกิเลสมันจะถ่มทั้ง2ฝ่ายตายซะก่อน ผมขี้เกียจไปงานศพของทั้ง2ฝ่ายตายเพราะกองกิเลสนะครับ

ความชั่ว+ความโกรธ มาเจอกัน ก็เผาไหม้ทุกสิ่ง เพียงพริบตา

ความดี+ความชั่ว มาเจอกัน ก็ดับไฟทุกอย่าง ให้มอด เพียงพริบตา

 

คงเป็นลูกศิษย์สาวก พระเกษมมั้ง มาเล่นเฟจบุค