ขอถามเรื่องอายุไขหมดอะครับ

คือตอนนี้ผมบวชเป็น สามเณรอยู่อะครับ พอดีมีหมอดูมาบอกทางโทรศัพท์ของแม่ผมว่า เธอทำใจไว้นะ หลังเมษา จะมีเบื้องบน มาเอาร่างของ ผมไป

ผมจะมีทางแก้ รึเปล่าครับ ทำ ไง ผมเครียดครับ

 

แนะนำให้อยู่เฉยๆ

ปฏิบัติธรรมตามวิถีของบรรพชิตไป
ทำไมต้องเชื่อหมอดูด้วย

 

ไม่ต้องกังวลครับ เมื่อท่านยังครองเพศสามเณรอยู่.. แม้จะตายลงไปในบัดนี้ โอกาสจะได้ไปเกิดในภูมิสวรรค์มีสูงมาก....แต่ถ้ากลัวตายเสียแล้ว ตรงนี้ไม่ดีนัก เสี่ยงไปไม่ดีมากเช่นกัน จึงควรรักษาจิตให้กล้าหาญไม่หวั่นไหวอะไรๆที่"ไม่ชอบด้วยเหตุผล" โดยเฉพาะจากหมอดูเลย...

ท่านมีบุญยิ่งนักที่ได้มีโอกาส"พิเศษ"มากจึงถึงกับได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็น"ธงชัยของพระอรหันต์"ทั้งหลาย..ข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนาสาธุการอย่างยิ่งด้วยครับ..

อนึ่ง เมื่อได้โอกาสทองเช่นนี้แล้ว ท่านพึงศึกษาพระธรรมของพระบรมศาสดา ผู้ที่ท่านให้คำปฏิญานว่าจะประพฤติกิจในพระพุทธศาสนาเมื่อตอนบวช เพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งปัญญา อันจะช่วยรักษาท่านให้พ้นจากความหลงหรือเชื่อในสิ่งงมงายไม่มีเหตุผล เช่นการสะเดาะเคราะห์ ดูหมอฯลฯ อันหาใช่ที่พึ่งอันเกษมไม่ ..ดูเถิด เมื่อยังไม่มีใครมาทำนายทายทักอะไรๆ ท่านก็ยังดำเนินชีวิตไปโดยอาการปรกติ มีความผาสุกดี แต่เพียงเพราะได้ยินว่าหมอดูมาบอกอะไรๆเท่านั้น ความผิดปรกติก็เกิดขึ้นฉับพลันทีเดียว...

ปรากฏว่าใจที่เคยดีมีสติสัมปชัญญะอยู่ บัดนี้กลับสั่นไหวด้วยความกลัวยิ่ง ครานี้ สติก็หายไปแล้ว ปัญญาย่อมไม่อาจตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือตนได้...จึงเมื่อขาดสติแลปัญญา ความพลาดพลั้งในการทำพูดคิด ย่อมเกิดตามมาเป็นผล อาจพาตนให้ย่อยยับสอดคล้องไปตามที่หมอดูว่าไว้ได้ไม่ยากทีเดียว...เรียกว่า ทำตนให้สอดคล้องตามคำทักนั่นเอง..กลายเป็นว่าหมอดูนั่นแม่นแท้ แม่นจริงๆ แล้วก็เชื่อหมอดูแน่วแน่ขึ้นไปตามลำดับ จนในที่สุด แม้จะไปใหนๆก็ต้องปรึกษาหมอดูก่อนนั่นแหละ ..เรื่องเช่นนี้มีจริง....

เอาละ ถ้าจะตายจริง ก็ลองยอมดูสักครั้งเถิด เพื่อพิสูจน์ความแม่นของหมอดูรายนี้...ถ้าแกแม่นจริง ฝากบอกคุณแม่ให้นำมาแนะนำผู้ที่กำลังตกทุกข์ในที่นี้โดยพลัน จะเป็นบุญอย่างยิ่งของท่านทีเดียว...

ทีนี้ ท่านถามว่าจะแก้ไขอย่างไร?..ข้าพเจ้าก็รู้สึกเพลียขึ้นมาทันที..เพราะในบรรดาการแก้ไขกรรมหนักๆ..ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมเท่ากับการบวชหรือทรงเพศสมณะแล้ว...ถ้าท่านเป็นฆราวาส ชาวบ้านคงจะแนะนำให้ท่านทำทาน เจริญศีล ภาวนา แต่เมื่อท่านบวชอยู่แล้ว ท่านก็พึงเจริญสมณกิจที่สมควรอย่างดีที่สุดเถิด ย่อมได้เครื่องป้องกันสรรพภัยที่เลิศกว่าอย่างอื่น แต่ถ้าท่านยังไม่ทราบว่า กิจของท่านคืออะไร..

ข้าพเจ้าก็คงต้องกราบเรียนเชิญท่านผู้รู้อื่นๆช่วยกันชี้แจงบอกกล่าวด้วย จะได้เป็นธรรมทานอันเลิศในที่นี้ด้วยครับ..

ขอความเกษมปลอดภัยพึงมีแก่ท่านจขกท ในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อเืทอญ..

 

อยู่ในเพศบรรพชิตถือว่าดีอยู่แล้ว หนทางแก้คือแก้ที่อารมณ์เท่านั้นเอง
ทุกข์เพราะคิด วางเฉย+ปฎิบัติ แล้วดูต่อไปค่ะ

 

- อย่างที่บอกมาผมเห็นเป็นโอกาสดีของคุณฌณรนะครับ เพราะทำให้เราได้มีโอกาศ
เจริญมรณานุสติกรรมฐานเนือง ๆ

- ต่อด้วยให้ใจเกาะพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งไว้ พระพุทธ พระสงฆ์ ท่านตายแล้วไปไหน
หากว่าเราตายแล้วก็ขอตามไปที่นั้น ๆ ด้วย

- มีโอกาสก็นำปัจจัยไปซื้อปลาปล่อยบ้างก็ดีนะครับ อยู่ในเพศผู้ทรงศีลแม้ทำบุญด้วย
ปัจจัยน้อยนิดก็ได้บุญมากกว่า ฆราวาสทำบุญด้วยเงินทองมากมาย

 

ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ

 

กลัวตายให้ดูความตาย ศึกษาเรื่องความตายให้รู้จริงไปเลย จะได้ไปบอกแม่ได้ ว่าอย่าเชื่ออะไรง่ายๆค่ะ

 

เมื่อก่อนใครชวนไปให้หมอดูดวงให้. ก่อนไปก็หัวเราะคุยสนุกเฮฮา. พอดูแล้วพาเครียดทันที. อย่าไปเชื่อคำหมอดูให้ใจเป็นทุกข์เลย. อยูในร่มกาสาวพัสตร์แล้ว. ควรยึดมั่นในพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง. เกิด. แก่. เจ็บ. ตาย เป็นของธรรมดา. อะไรจะเกิดตอนใหนเราก็ไม่รู้. จงอยู่ในความไม่ประมาท ทำวันนี้เวลานี้ให้ดีและมีความสุขก็พอค่ะ

 

อาตมา ขอขอบคุณ คุณโยม ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ให้กับอาตมาในครั้งนี้ ขอให้คุณโยมปราถนาสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้น เจริญพร...

 

อาตมา ขอขอบคุณ คุณโยม ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ให้กับอาตมาในครั้งนี้ ขอให้คุณโยมปราถนาสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้น เจริญพร...

 

อนาคตยังมาไม่ถึง คุณเณรจะเครียดไปทำไม หรือว่ากลัวตาย...
ปัจจุบันคุณเณรเป็นลูกพระตถาคต ปฎิบัติให้รู้จริง รู้แจ้งในธรรม
ที่ควรปฎิบัติในปัจจุบัน จะรู้ด้วยตัวของเราเอง เป็นปัตจัตตัง

อาศัยลมปากของผู้อื่น ว่าเราจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ทักอดีต ทักอนาคตของเรา แล้วปัจจุบันเราไม่รู้ตัวเราเลยหรือ?

เขาทักเราว่าหลังเมษานี้ คิดในความริงว่าหลังเมษาไปอีกนานเท่าไร?
อาจจะนานจนเราแก่เฒ่าจนลืมไปแล้วก็ได้ เราจะต้องคิดอะไร หลังเมษา
ไปก็ยังมีเวลาที่ยาวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด จนถึงวันหนึ่งที่เราไม่อาจล่วงความตาย
ไปได้ นั่นเป็นสัจธรรม


ผู้มีศีลสัตย์ มีอภิญญา ส่วนมากท่านไม่กล่าวกรรมของผู้อื่น
จะมีแต่ปุถุชนธรรมดาที่อวดอ้าง หวังลาภยศ สรรเสริญ เท่านั้นที่จะ
กล้ากล่าวความเท็จ ความวิเศษของตน อย่างไม่กลัวบาป กลัวกรรม...

 

แต่เขาไม่ได้ หวังเงินทองอะไรเลยนะครับ

มีหมอดูมา ทัก พร้อมกันใน 3 คน

 

อย่าคิดมากเลยนะจ้าวคะคุณเณร ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างมากที่หมอดู จะมาทำนายทายทักแบบนี้ ไม่รู้กฎของสวรรค์หรืออย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่ครองผ้าเหลือง เขาไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปก้าวล่วงหนะจ้าวค่ะ...

 

ซื้อปลาที่ตลาดสดมาปล่อย
แล้วก็บริจาคเงินเข้ามูลนิธิชัยพัฒนาครับ

 

ผมมีคำถามจะถามคุณเณรโดยที่ผมมีคำตอบให้คุณเณรเลือก

1. ก่อนตายคุณเณรจะทำอะไร?
- ไปทำบุญสเดาะเคราะห์
- ไปแก้กรรม ต่ออายุ
- ไม่ทำอะไรเลย

2. ถ้าไม่ตายคุณเณรจะทำอะไร?
- บวชต่อไปเพื่อศึกษาธรรมะต่อไป
- ลาสิกขาไปใช้ชีวิตฆราวาสตามปกติ
- ไปขอบคุณหมอดูว่าท่านเก่งดูแม่น

3. ก่อนตายคุณเณรรู้สึกอย่างไร?
- เศร้าหมอง คิดหนัก กลัวตาย
- เป็นสุขเบื้องบนจะมารับไปอยู่บนสวรรค์
- เฉยๆ

4. ถ้าไม่ตายคุณเณรรู้สึกอย่างไร?
- โกรธแค้นหมอดู
- ดีใจที่รอดมาได้
- เฉยๆ

ผมไม่มีเฉลยให้คุณเณร

แต่ผมจะบอกว่าในท้ายที่สุดทุกคนต้องตายหมด จะตายเร็วหรือตายช้า
ก็ต้องตายไม่ว่าคุณเณรจะเลือกคำตอบไหน ลองเจริญสติ พิจารณาตาม
ความเป็นจริงในขันธ์ 5 เพื่อให้เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อรู้ว่าคนเรา
ต้องมี เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา

ไม่ีมีใครหลีกหนีความตายพ้น หมอดูจะแม่นหรือไม่ คุณเณรก็ต้องตาย
คุณเณรจะทำอะไรในความตายที่ใกล้เข้ามานี้ก็สุดแต่จะพิจารณา หาก
ทำแล้วรอดมาได้ คุณเณรจะได้สิ่งหนึ่งที่เรียกว่าความไม่ประมาท ความ
มีสติระลึกได้ว่าจะต่ออายุหรือไม่ต่ออายุก็ต้องตาย ถ้าการต่ออายุมีจริงได้
ดังคำพระ ดังคำบอกต่อ ดังคำเล่าลือ ด้วยวิธีต่างๆนาๆ คุณเณรรอดมา
ได้คุณเณรอาจจะลืมและประมาทต่อความตายว่าเอ่อก็รอดแล้วนี่นาจะ
กลัวอะไร กลัวแบบนี้คือประมาท แม้แต่พระก็ต้องตาย แขวนพระก็ยังตาย
จะหวังสิ่งใดให้ช่วยได้

การทำอะไรต่อมิอะไร ถ้าหวังเพื่อสิ่งเดียว คือ หนีความตาย จะหนีได้
หรือไม่ได้ผมไม่มีความเห็น แต่ผมเชื่อว่าคุณเณรจะได้เห็น สัจจะธรรม
ที่พระพุทธเจ้าสอนด้วยตัวเอง และอาจจะได้คำตอบที่ยังเป็นความหลง
เป็นอวิชชา หรือ ได้สติ เป็นวิชชา ที่สำคัญการบวชนั้นได้บุญใหญ่แล้ว
จะหาบุญใดอีกในร่มกาสาวพัสร์

 

ผมยังไม่อยากตาย

 

ธรรมดาของสังขาร คือ การดับ ไม่มีกลับคืนเป็น เช่นลมหวน เป็นของจริง ขอจงจำ อย่าคร่ำครวญ สิ่งที่ควรเร่งทำ คือ กรรมดี

 

น่าสงสัยอยู่หมอดูทุกคนนี่แปลกรู้วันตาย รู้ทุกเรื่องของคนอื่น แต่ไม่รู้วันเกิด เวลาเกิดของ
คนที่ดูให้ ต่อให้ดูแม่นก็ยังไม่สามารถบอกได้เกิดที่ใด พ่อแม่ชื่ออะไร มีญาติกี่คน ทำบุญ
ทำกุศลมาแล้วเท่าไหร่ ตายแล้วจะไปเกิดเป็นอะไร ตายแล้วคนที่ตายจะไปสวรรค์นรก
แม้แต่วันที่จะตายยังระบุไม่ได้แน่นอน

ถ้าแม่นจริงท่านน่าจะแำก้ปัญหาประเทศชาติได้ก่อนล่วงหน้าเพราะเห็นทุกอย่างในประเทศนี้
เมืองนี้ อย่างสึนามิคนตายตั้งเยอะยังทำนายง่ายกว่า โลกจะแตกก็ทำนายกันไปวุ่นวาย
ด้วยเหตุนี้ในโลกนี้หมอดูควรเป็นคนที่น่าเคารพเลื่อมใสยิ่ง เพราะแก้ปัญหาให้คนได้ทุกคน
แก้ไขวิกฤตชาติบ้านเมืองได้หมดทุกเรื่อง แต่ว่าแก้ไขทุกข์ของตัวเองกลับแก้ไม่ได้

คุณเณรอยู่ในพระพุทธศาสนาไม่ควรไปหลงงมงายกับสิ่งที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้
ถ้าอย่างผมฆราวาสไม่แย่กว่าหรือทุกข์ก็เยอะกว่าพระ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วท่านจะนับถือ
พระพุทธเจ้าเพื่อสิ่งใด

กลัวตายเพราะกลัวกรรมที่ตนสร้างไว้อันนี้เห็นถูก เมื่อได้โอกาสในการบวชคุณเณรอย่าเสีย
เวลาอันมีค่ายิ่ง หมั่นแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรขออโหสิกรรม ตั้งมั่นสัจจะขอประพฤติ
บำเพ็ญบุญและอุทิศกุศลผลบุญนี้ให้เค้าได้ัรับไปเพื่อจะได้อโหสิกรรมต่อกัน ให้ทำด้วยจิต
ที่ตั้งมั่นจริงถ้าต้องตายก็ขอทำจนวาระสุดท้าย อยู่ที่คุณเณรจะทำหรือไม่ อย่างน้อยกรรม
ใหม่เป็นกรรมดีกุศลดีจะได้ส่งให้เค้าเมตตาเราบ้าง และกรรมใหม่ที่เป็นบุญนั้นช่วยหนุนให้
กรรมเก่ายังตามไม่ทัน เจริญสตินึกแต่ปัจจุบันรู้กาย รู้ใจ ไม่ฟุ้งซ่านไปกับความกลัว ด้วย
ความเห็นอันนี้ ด้วยศรัทธาจริงต่อพุทธศาสนา ไม่ได้ใช้ความกลัวตายมาเป็นเครื่องบรรเทา
ทุกข์ กฏแห่งกรรมก็ยังเป็นสัจจะธรรมอยู่ตามจริง

 

กราบนมัสการพระคุณเจ้า ..ที่ท่านยังไม่อยากตายก็ถูกต้องแล้ว..ไม่น่าแปลกใจเลยครับ....แต่ท่านเคยได้ยินมาบ้างหรือว่า ..มีใครบางคนที่คิดว่าตนยังไม่อยากตาย แล้วเขาเหล่านั้นต่างพากันรอดตายมาจนถึงบัดนี้?..

ขอให้ท่านยุติความคิดเรื่องตายไว้ก่อนสักครู่ ..หันมาทบทวนความเป็นไปของท่านก่อน..

โยมเดาว่าท่านคงบวชภาคฤดูร้อน และคงจะสึกในไม่ช้านี้เป็นแน่ ถูกใหมครับ? ถ้าเมื่ิอสึกแล้ว.. หากท่านมีหมอดูเป็นสรณะ ท่านก็พึงติดต่อสอบถามเขาเหล่านั้นว่า จะมีพิธีกรรมหรือการอย่างไรเพื่อความมีชีวิตยืนยงคงต่อไปได้...เมื่อท่านมีศรัทธาในหมอดูเหล่านั้น เขาคงจะยังความสงบใจให้ท่านได้ มากกว่าการอ่านถ้อยคำของเพื่อนๆในที่นี้นะครับ...

อนึ่ง ในขณะนี้เมื่อท่านยังครองจีวรอยู่ ท่านแม้ไม่ศรัทธาหรือมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ก็พึงสำรวมอินทรีย์มิให้ก้าวล่วงไปเกี่ยวข้องกับหมอดูใดๆอันเป็นโอกาสให้เสพส้องข้องแวะด้วยเดรัจฉานวิชา ที่มีโทษมาก...

โยมเห็นว่า ท่านน่าจะมีโอกาสอันประเสริฐที่จะเป็นที่พึ่งของโยมมารดา ด้วยการทำความเห็นของตนและโยมแม่ใ้ห้ถูกตรง ว่า เหตุที่ให้ความตายปรากฏขึ้น มี ๔ อย่างคือ

๑. อายุกขยมรณะ ตายเพราะสิ้นอายุ
๒. กัมมักขยมรณะ ตายเพราะสิ้นกรรม
๓. อุภยักขกมรณะ ตายเพราะสิ้นอายุและสิ้นกรรม
๔. อุปปัจเฉทกมรณะ ตายเพราะกรรมเข้าไปตัดรอน

ไม่ได้จะตายเพราะมีคน๓คนมาทำนาย.. ตรงกัน..


ท่านเมื่อเชื่อหลักกรรมแล้ว ชักชวนโยมมารดาให้ยุติความเชื่อในหมอดูหันมาเชื่อหลักกรรมจะเป็นโอกาสที่ท่านสามารถตอบแทนคุณโยมแม่ได้อย่างแท้จริง๑ แม้การบวชของท่านก็มีอานิสงค์มาก เป็นอุปการะแก่ตนและโยมแม่อย่างมาก๑...ทั้งท่านย่อมเป็น"นาบุญ"อันดีแก่บรรดาญาติโยมผู้มีศรัทนำภัตตาหาร และเครื่องสักการะอื่นๆมาถวาย๑..นับเป็นบุญที่จะประคับประคองท่านมิให้ตกไปในอบายภูมิได้ทีเดียว

บัดนี้ ความตายมารอตรงหน้าแล้ว ท่่านไม่มีทางหลบเลี่ยงได้ ....ท่านพึงทำตนให้เป็นที่พึ่งของตนในโอกาสที่ดีเลิศเวลานี้เสียเถิด ...การเจริญสมณกิจด้วยการประพฤติตามพระธรรมวินัย ก็ดี การถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะก็ดี การประพฤติศีลให้บริบูรณ์ก็ดี การยังเวลาให้ล่วงไปด้วยการศึกษาพระธรรม และเจริญวิปัสนาและสมถะก็ดี...การกวาดลานวัด บูชาพระเจดีย์ ประพฤติวัตรที่สมควรต่อครูอาจารย์ ก็ดี เหล่านี้ล้วนคือที่ึพึ่งของท่าน...มาตรว่าท่านตายลง เมื่อท่านระลึกถึงกิจเหล่านี้ได้ขณะตาย บุญอันดีเช่นนี้จะอุปถัมภ์นำท่านเกิดที่ดีได้...แต่ถ้ามีหมอดูเป็นอารมณ์ขณะตาย จะได้ชื่อว่าหลงทำกาละ ...ชื่อว่าหลงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลยครับ..

ท่านเป็นผู้ที่พิเศษด้วยบุญมากจึงสามารถทราบเวลาว่าจะตายเมื่อไร ในขณะที่คนอื่นๆไม่อาจทราบได้..เมื่อท่านทราบเวลาตายย่อมขวนขวายที่จะเจริญกุศลทั้งปวงให้ถึงพร้อม เพื่อเป็นเสบียงเดินทางต่อในสังสารวัฏ..

โยมขออุทิศกุศลจากธรรมทานครั้งนี้แด่พระคุณเจ้าทั้งหมดจากใจจริงครับ..

 

เจริญพร