ทำไมคนเกิดวันเสาร์ ซึ่งใครๆก็บอกว่าดวงแข็งจึงเห็นผี,โดนผีอำ

... อันนี้เอามาให้ดูนะคะว่าดูแค่วันความจริงไม่พอ ถ้าจะให้ดีต้องดูเวลาด้วยคะ .. คนเกิดวันพุธกลางคืนด้วยอยู่ในเกณ์ ราหู ทำให้ส่วนมากจะมีเซ้นต์ หรือ สัมผัสพิเศษเกือบทุกคนมากบ้างน้อยบ้างต้องดูส่วนอื่นประกอบ

... แต่คำว่า ราหู เป็นเหมือนดาบสองคมที่สนับสนุน และ สามารถทำร้ายเจ้าของดวงได้เหมือนกัน เพราะถ้าหากขาดสติ แล ปัญญา และ ห่างไกลธรรมแล้วนั้น ชีวิตก็จะอยู่ในความ .. ลุ่มหลง มัวเมา .. หาความสว่าง และ สงบสุขในชีวิตไม่ได้เลยจะมีแต่ความสับสนวุ่นวาย และ หากโชคร้ายอยู่ในเกณฑ์ดวงตก ด้วยความแรงของราหูจะส่งเราให้ตกต่ำยิ่งกว่าเดิม ..

... ในทางกลับกัน หากมีอย่างอื่นมาส่งเสริมในด้านดี ชีวิตก็จะพลิกผลันได้อย่างน่าตกใจ ประกอบกับเจ้าตัวแสวงหาแต่ความดีแลธรรมมะ ราหูก็จะส่งเขาให้สูงขึ้นจนคุณอาจจะไม่เชื่อเลยก้ได้คะ ..

.. ราหู สามารถให้ทั้งคุณ และ โทษได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง และ เวลาเป็นองค์ประกอบ ทำให้คนส่วนใหญ่ต่างพากันบูชาราหูเพื่อให้ชีวิตตนดีขึ้น แต่ไม่เคยคิดว่าต่อให้บูชาอะไรก็ตามแต่ตนเองยังทำความไม่ดีอยู่ ก็คงยากที่จะผ่านมันไปได้เพราะไม่มีพลังความดีอะไรมาเกื้อหนุนตนเอง ... คนเกิดวันพุธกลางคืนก้ไม่ต่างกันคะ ..

 

... สิ่งที่จะเตือนคนเกิดวันพุธกลางคืน คือ ด้วยความแรงของวัน ทำให้เป็นคนดวงแข็ง และ หลงไปกับโลกีย์ยได้ง่ายกว่าใคร บวกกับความเจ้าอารมณ์ ใจร้อน ไม่ยอมใครง่าย ๆ หุนหันพลันแล่น ไม่มีความพอดีในตนเอง นักเลงออกแนวบ้าพลัง คล้าย ๆ กับ คนวันเสาร์ ซึ่งถือเป็น คู่มิตรกันนั้น ชีวิตมักจะโลดโผนพอสมควร .. ควรจะมีสติ ไตร่ตรองให้มาก อยู่ในศีลธรรมให้จงดี หัดเป็นคนที่สะกดคำว่ายอมจริง ๆ ให้เป็น จะช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองคะ ให้สมกับที่ท่านรอดตายมาได้แล้วกันนะคะ เพราะคนดวงแข็งส่วนมากจะอยู่กับชาวบ้านเขาลำบากมันข่มเขาไปทั่ว ทั้งนิสัย และ ดวงชะตาด้วยคะ ระวังจะเจอแข็งตัดแข็งนะคะ มีแต่พังกับพัง .. หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างนะคะ

 

คิดเหมือนกันครับ ดุเลยครับ มีครั้งหนึ่งที่ภาคเหนือ ผมเป็นประธานผ้าป่าไปที่นั่น ไปเหนือทั้งทีก็ไปเที่ยวกลางคืน กลับมาวัดก็ดึก ผมหิวก็หาข้าวกิน แล้วผมก็นั่งกินที่โต๊ะหินอ่อน ไฟก็สว่างเพราะวัดมีงานก็เปิดไฟทั่ววัด พักเดียวก็มีเสียงดัง ตุ๊บ ตกลงข้างๆ ที่ผมนั่ง ของนั้นน่าจะหนักประมาณ 100 กิโลได้ เดียวตุ๊บอีกข้าง ไฟสว่างลานวัดก็กว้างแต่มองหาไม่เจอทั้งๆ ที่ตกลงมาห่างกันแค่วาเดียว พักเดียวเขย่ากิ่งไม้ เขย่าแรงมาก ผมวางช้อนดื่มน้ำ จุดบุหรี่ดูด ยืนขึ้นมือชี้ไปที่กิ่งไม้ที่เขย่าอยู่ แล้วผมก็ตะโกนไปว่า " เฮ้ย กูมาทำบุญ เป็นประธานจัดการงานทุกอย่างด้วย นี่ก็ได้มาไม่น้อย ถ้าพวกมึงทำย่างงี้ ทำให้กูกลัว ถือว่าไม่ให้เกียรติกู ปีหน้าไม่ต้องเอา " แค่นั้นล่ะครับ เงียบกริ๊บ หายไปเลย

 

เราก็เกิดวันเสาร์ปฎิบัติคล้ายๆ เจ้าของกระทู้ และเจอแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง ประเภทว่าเจอจากกลัวมาจนกลายเป็นไม่ค่อยกลัวแล้วอ่ะ

 

ขอบคุณคุณกาลีนะมาก ๆ ครับที่แบ่งปันความรู้ให้เป็นทาน ปกติถ้าเจอข้อความอะไรที่เกี่ยวกับพุธกลางคืนก็มักจะหาอ่านอยู่เสมอ แต่ไม่เคยรู้ละเอียดอย่างที่คุณกาลีนะนำมาลงให้อ่านเลย แต่ก็ยังสงสัยตามประสาคนรู้น้อยนะครับว่า ยาม ๑ นั้นเมื่อเทียบกับเวลาในปัจจุบันจะตรงกับกี่โมงกันแน่ เพราะไม่รู้เวลาที่เกิดที่แน่นอน รู้แต่ว่าคืนวันพุธ ครั้นจะไปถามพ่อแม่ ท่านก็ไม่อยู่ให้ถามซะแล้ว
ก็ขอให้อานิสงส์ของการแบ่งปันความรู้ในครั้งนี้ของคุณกาลีนะ จงส่งผลให้ท่านเป็นผู้มีปัญญาที่แตกฉานมีความรู้กว้างขวางในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะครับ

 

... ขอบคุณนะคะ สำหรับพรที่ให้มา .. เราก็อย่างแตกฉานในศาสตร์ต่าง ๆ เหมือนกัน .. แต่เราปัญญามีไม่มาก .. ความจำไม่ดีต้องเปิดตำราเอา .. ของเราอาจจะไม่ค่อยเหมือนใครนะ แต่เราใช้ตัวนี้เทียบเคียงคะ .. อันนี้เป็นของพุธกลางคืนนะคะ แต่สามารถใช้ได้กับทุกวันคะ ...

ยาม ๑ คือ ๑๘.๐๐ ถึง ๑๙.๓๐ น.
ยาม ๒ คือ ๑๙.๓๐ ถึง ๒๑.๐๐ น.
ยาม ๓ คือ ๒๑.๐๐ ถึง ๒๒.๓๐ น.
ยาม ๔ คือ ๒๒.๓๐ ถึง ๒๔.๐๐ น.
ยาม ๕ คือ ๒๔.๐๐ ถึง ๐๑.๓๐ น.
ยาม ๖ คือ ๐๑.๓๐ ถึง๐๓.๐๐ น.
ยาม ๗ คือ ๐๓.๐๐ ถึง ๐๔.๓๐ น.
ยาม ๘ คือ ๐๔.๓๐ ถึง ๐๖.๐๐ น.

 

เริ่มแรกของการเห็นวิญญานก็คือ วันนึงเรานอนหลับกลางวัน(เป็นช่างตัดผม บาร์เบอร์ มันจะมีเก้าอี้ตัดผมแบบว่าปรับเบาะเอนนอนได้) แบบว่าลูกค้ามันเงียบ มีเพื่อนอีกคนนอนอยู่เก้าอี้ข้างๆ ก็นอนไปซักพักนึงหายใจไม่ออก รู้สึกแน่นหน้าอกมาก ก็เลยลืมตาขึ้น

คุณพระช่วย มีผู้หญิงแต่งชุดไทย ห่มสไบสีเขียว(จำได้ติดตา ติดใจจนทุกวันนี้) เขาใช้มือข้างนึงกดหน้าอกตัวเราไว้ ส่วนตัวเขานั้นแบบว่าลอยอยู่บนอากาศ (เรามองเห็นในกระจก เพราะเป็นกระจกบานให่ญมาก) ลอยขนานกับกระจกเลย"แบบว่าน่ากลัวมาก"

เราก็เลยมองไปทางเพื่อนเห็นมันนอนอมยิ้มมองดูเราอยู่ "คือตอนนั้น เรากำลังพยามดิ้นรน ทั้งถีบ ทั้งต่อยมือ อยู่ในอากาศ (เหมือนต่อยอยู่ กับลม) เพื่อให้ตัวเองหลุดจากอาการนั้น คือมันเริ่มจะหายใจไม่ออกอ่ะ

เราก็แบบว่าอะไรว่ะ อยู่ดีๆ ก็มีผีมาแกล้งเรา แถมเพื่อนไม่ช่วยเรียกแล้วยังนอนมองเราอีก คนจะตายอยู่แล้ว สุดท้ายเราก็ดิ้นจนหลุดได้เอง ไอ้เพื่อนตัวแสบก็หัวเราะให่ญ เราก็เลยถามมันว่าทำไมไม่ช่วยเรา มันกับตอบว่า 55555ในที่สุดแก ก็เจอบ้าง

แสดงว่ามันเคยเจอก่อนเรา (แล้วไมไม่เล่าให้เราฟังอ่ะ) ก็เลยมานั่งคุยกันว่า เขาผู้นั้นเป็นใคร สรุปว่าน่าจะเป็น นางไม้ เพราะตึกที่เราทำงานอยู่เป็นแบบกึ่งๆปูน กับไม้ พอวันหยุดเรากับเพื่อนก็เลยไปถวายสังฆทานกัน

ตอนเด็กๆบ้านเรามี เสาตกน้ำมันอยู่ต้นนึง (อยู่ในห้องหลังบ้าน บ้านเราที่ต่าง จ. เป็นบ้านไม่มี5ห้อง เป็นบ้านไม้สมัยเก่า คือเสาบ้านต้นใหญ่มากกก) เราโตมาก็เห็นมีผ้าสีๆผูกอยู่มีหิ้ง ไว้จุดธูป บังเอิญบ้านเรามีห้องเยอะ(เหมือนเป็นเรือน2หลังแฝด มีทางขึ้นลง 2ทาง) แม่ก็เลยแบ่งเรือนข้างหลังให้เช่า

เราก็เห็นมีคนเช่าอยู่ก็เห็นอยู่ไม่ได้นาน เปลี่ยนคนมาเรื่อย บางคนก็รีบย้ายออกโดยยังอยู่ไม่ครบเดือนก็มี แต่บางคนก็เล่าให้แม่เราฟังว่า นอนไม่ได้เลยมีคนมาดึงขา บอกว่าไม่ให้นอน ก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ โดนอำบ้างล่ะ มาเข้าฝันไล่ไม่ให้อยู่บ้าง อะไรทำนองนี้ (ใครมาอยู่ ก็เจออยู่เรื่อยๆ)

แต่มีหนักสุดเป็นลูกจ้างในบ้านแม่เราเอง (คือพื้นที่ติดกับบ้าน แม่เราใช้เปิดเป็น ร้าน ทำประตูยืด,ม้วน,เหล็กดัด,มุ้งลวด อะไรประมาณนี้แหละ) พอคนเช่าอยู่ไม่ได้แม่ก็เลยให้ ลูกจ้างคนนี้เข้ามาอยู่ เยาก็มาอยู่กับแฟนเขา มีอยู่วันนึงเขากินเหล้าไม่รู้เมาอิท่าไหน "ไปต่อว่าแม่นางไม้ ว่าเก่งนักเหรอมึง ใครมาอยู่ก็ไม่ได้ ต่างๆนาตามประสาคนเมา ไม่แค่นั้น พี่ช่างคนนี้ยังไปยืนฉี่รดเสาแม่นางไม้ ขอย้ำว่ายืนฉี่รดเสา ไม่เกิน3วัน พี่ช่างโดนรถชน แฟนเขาทำกับข้าวไม่รู้ทำอีท่าไหน โดนน้ำร้อนลวกซะเละเลย

แต่เราอยู่มาตั้งแต่เกิดจนโตไม่เคยเจอท่าน มีแต่คนอื่นเจอ ครั้งนึงเราต้องมีกิจกรรมใน ร.ร. คือเป็นนางรำแล้วต้องตื่นแต่งตัวกันแต่เช้า เพื่อนๆเราก็เลยต้องมานอนที่บ้านเรากันเกือบสิบคน(บ้านเราอยู่ในเมือง และใก้ลโรงเรียนที่สุด)
ก็นะคะ เด้กผู้หญิงมาอยู่รวมตัวกัน ยิ่งก่วานกกระจอกแตกรังอีก " พอถึงเวลานอน ทีนี้ละสิสำคัญ เราคิดอยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่อง เป็นจริงดังที่คิด เพื่อนบางคนนอนไม่ได้กันเลย" พอมีกิจกรรมอีกเราชวนเพื่อนมาที่บ้าน ก็ไม่มีใครมาอีก

แต่ก็แปลกนะคะ เราอยู่กับแม่เรา สองคนไม่มีใครเจออะไร ก็อยู่กันแบบปกติ
มีแต่คนอื่นเขาเจอกัน(ปัจจุบันแม่ขายบ้านหลังนี้แล้ว)

ยังมีอีกหลายเรื่องค่ะ ไว้จะมาเล่าให้เพื่อนอ่านกันอีก

 

อีกเรื่องนึงนะคะ

คือเราอยู่ กทม. แถว ซ. คลองตัน71 ก็เป็นอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งมีเพื่อนอยู่ห้องถัดไป ใช้ชีวิตปกติมาเรื่อยๆ จนวันนึงเรานอนหลับอยู่ดีๆ ก็รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก ขยับตัวก็ไม่ได้(เราชอบนอนตะแคง) ก็เลยลืมตาขึ้น"พระเจ้าช่วย" เห็นใบหน้าผู้หญิงเป็นเงาดำๆมีผมยาว แต่ตัวเขาเป็นหมอนข้างที่เรานอนกอดอยู่( กลัวมากกก) ก็เลยท่องคาถาชินบัญชร "ไอ้ผีที่เรานอนมองหน้าเขาอยู่ ก็หัวเราะ แถมพูดต่ออีกว่า สวดต่อไปซิ"

พระเจ้าช่วย ผี พูดกับเรา แถมไม่กลัว พระคาถาชินบัญชรด้วย( สยองมากในตอนนั้น) ก็เลยนอนมองกันอยู่ พักนึง ก็เราทำอะไรไม่ได้อ่ะ ในที่สุดเราก็นึกถึง พ่อและแม่ (พ่อ,แม่เราเสียแล้ว)

ทีนี้ก็เลยหลุด พอหลุดได้เท่านั้นแหละ เรารีบใส่เกียร์5วิ่งไปเปิดไฟ บิดลูกบิดประตูออกไปหาเพื่อนทันที พอเห้นหน้าเพื่อนเราก็เล่าให้ฟัง เพื่อนเลยมานอนเป็นเพื่อนเราที่ห้อง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก พอเช้าก็เลยไปถามคนดูแลตึกว่าทำไมเป็นแบบนี้(สยองตรงที่ หัวเป็นคนแต่ตัวเป็นหมอนข้างนี่แหละ แถมยังหัวเราะใส่หน้าเราอีก)

คนดูแลตึกบอกว่าเคยมีคนผูกคอตาย เท่านั้นแหละค่ะ เรารีบย้ายออกวันนั้นเลย

ใครจะไปอยู่ไหว มันหลอนอ่ะ ไม่รู้ว่าคนที่มาอยู่ต่อจากเรา จะเจออะไรบ้าง

 

ต้องขอขอบคุณคุณกาลีนะอีกครั้ง ที่มาให้ความกระจ่าง ทีนี้เข้าใจแล้วครับ
ผมเชื่อว่าถ้าหากได้แบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่น(ที่ไม่รู้)อยู่เสมอ ๆ แล้ว
อานิสงส์นี้จะสะสมเพิ่มพูนทำให้ท่านเป็นผู้มีปัญญามาก
และทำให้ท่านแตกฉานในศาสตร์ต่าง ๆ ที่ท่านปรารถนาได้ในอนาคต

 

ก็เป็นอีกเรื่องนะคะ

เราย้ายมาอยู่บ้านเช่าหลังนึงใน จ. กาญจนบุรี ประมาณเดือน พค.ปี 55 ก็อยู่ปกติสุขดีเรื่อยๆ จนมาถึงคืนหนึ่ง เรานอนหลับได้ฝันไปว่า มีผู้ชายเป็นเงาดำๆ มาร่วมหลับนอนกับเรา(ในความฝันนะคะ)
"ที่มันน่าแปลกก็คือ เรารับรู้ความรู้สึกนั้นได้เพราะมันเหมือนจริงมากๆ" ก็เลยสดุ้งตื่นแล้วก็หันไปมองแฟน(ก็เห็นนอนกรนอยู่) ก็เลยไม่ได้สนใจคิดว่าเป็นแค่ความฝัน

พอเช้ามาเลยเล่าให้แฟนฟัง แฟนก็เลยบ่นว่าเราหมกมุ่นเรื่องอย่างว่าไปรึเปล่าเลยเก็บไปฝัน เราก็บอกว่าไม่ใช่แบบนั้น "ขอย้ำว่า เราไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นเลย" พอดีแฟนเราต้องไปทำงานต่างจ.เราก็เลยต้องอยู่คนเดียว

คืนต่อมาเราก็ฝันแบบเดิมอีก แต่คราวนี้ชายในฝันเปลี่ยนไปค่ะ เขามาแบบขาว หล่อ เลยทีเดียว "ความรู้สึกเหมือนเดิม เป๊ะ คือรู้สึกเหมือนจริงมากๆ"

คืนต่อมาก็มาอีก แต่คราวนี้เปลี่ยนไป(ในฝันนะคะ) เราไม่ยอมเขาแบบว่าหนีสุดชีวิตแต่ก็ไม่รอด "เราโดนข่มขืน" ในฝันเขาข่มขืนเราจนได้

"และก็มีคืนต่อๆไปอีกเรื่อยๆ (ขอย้ำว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ) จนเราทนไม่ไหวเอ๊ะทำไมฝันบ่อยจัง ฝันซ้ำๆแต่เรื่องเดิมๆ ต้องขอบอกว่าตัวเราจะ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ตอนเย็นๆค่ะ ซึ่งไม่น่าจะฝันแบบนี้ได้
มันอดรน ทนไม่ไหวก็เลยเล่าให้พี่ข่างบ้านฟัง พี่เขาก็เลยบอกกับเราว่าเขาเองก็เคยฝันเหมือนกันแต่แค่ ครั้วเดียวก็ไม่ฝันอีก ( แถมยังบอกเราอีกว่า เจ้าที่เขาคงชอบแกมั้งเขาก็เลยมานอนด้วย)

เขาหายไปค่ะประมาณ3-4วัน ก็กลับมาอีก "คราวนี้เป็นตอนกลางวันค่ะ พอดีนอนดู tv แล้วเผลองีบหลับไป" ไอ้เราก็ตกใจนี่ขนาดตอนกลางวันนะยังหนีไม่พ้นอีก ก็ฝันมาเรื่อยๆเกือบ1อาทิตย์

เราทนไม่ไหวก็เลยไปถามคนที่เขาพอมี สัมผัสพิเศษ "พี่เขาบอกกับเราว่า เป็นเจ้าที่ในบ้านเรานั่นแหละ อายุสี่สิบก่วาๆ เขาไม่มีภรรยา เห็นเราอยู่คนเดียวก็เลยมาแกล้ง อีกอย่างนึงเขาชอบที่เรา สวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่สำคัญตอนเราเข้ามาอยู่เราไม่ได้บอกกล่าวเขาก่อน( อันนี้จริงค่ะ) พี่เขาบอกให้เราขึ้นของไหว้ให้เจ้าที่ทุกวันพระด้วย เขาจะให้โชคลาภ"

เราก็ทำตามค่ะทุกวันพระจะมีของไหว้ไม่เคยขาด พอแฟนกลับมาเราก็จุดธูป บอกกล่าวขอ ขมา ท่านกัน 555555 ทีนี้เรารู้ว่าท่านชอบที่เราสวดมนต์ นั่งสมาธิ ใช่มั้ย เราก็ไม่ทำซะเลย(จะได้ไม่มาเข้าฝันเราอีก) ประสบผลค่ะ ท่านหายไปอาทิตย์ก่วาๆก็กลับมา

แต่ท่านไม่ได่มาในฝันนะคะ ท่านมาอำค่ะ นอนไม่ได้ทั้งคืนเลย พอมาคืนที่3 เราก็เลยเอาน้ำมนต์มาพรมห้อง แฟนก็ให้มีดพระเอาใส่ไว้ใต้หมอน ที่คอเราก็คล้องสมเด็จโต (เตรียมพร้อมค่ะ) แต่ก็ไม่รอด ขนาดกำมีดพระไว้ในมือตอนนอน "ตี3เป๊ะ จนถึงเกือบ6โมงเช้า ไม่ต้องได้นอนกัน" (ที่รู้เวลาเพราะ เราเปิดไฟนอน แบบว่าโดนมา2คืนแล้วไง และเราก็อยู่คนเดียวแฟนไปต.จ.ว.เหมือนเดิม)

ชักจะทนไม่ไหวก็เลยไปคุยกับพี่ข้างบ้านคนเดิม พี่เขาก็ถามว่าไปทำอะไรผิดรึเป่ลา (เราก็นั่งคิด.. แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนี่) เราเลยกลับไปถามพี่คนที่เขาเคยดูให้เราอีกครั้งนึง "พี่เขานั่งหัวเราะ เรา แล้วถามเราว่า ทำไมไม่สวดมนต์ เขามาตามให้ไปสวดมนต์ กุมารที่เราบูชาอยู่เขามาตามก่อน พอเจ้าที่เห็นเขาก็นึกสนุกด้วย เลยมาหยอกร่วมกันกับกุมาร(เขารวมพลังกัน) ให้เรากลับไปสวดมนต์เหมือนเดิม

เราก็สวดเหมือนเดิม ก็ยังมาในฝันอีกตามเคย(แต่คราวนี้เราไม่รู้สึกแล้ว เป็นแคาความฝันเฉยๆ) แปลกตรงที่เรา ก็ยังมีอาการ ผีอำ อยู่แม้จะไม้บ่อยก็เหอะ แต่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน "เราก็เอ๊ะจะเอายังไงกับเรา สวดก็โดนไม่สวดก็โดน" เลยคิดจะย้ายบ้านก็เลยคุยกับพี่ข้างบ้านอีก พี่เขาก็เลยเล่าให้เราฟังว่า บ้านนี้น่ะใครๆมาอยู่ได้ไม่นาน จะต้องมีเรื่องมาเล่าให้พี่ข้างบ้านฟังตลอด พี่เขาบอกให้เราอยู่ต่อเถอะ เจ้าที่เขาคงชอบเราจริงๆเพราะเราอยู่ได้นานกว่าคนอื่นๆ"

เราก็เลยยังไม่ย้าย อยู่ๆไปแฟนก็ถูกหวยค่ะ 2 งวด แต่เราก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เวลาเดิมเป๊ะ

" จนในที่สุดเราได้ไปออก รายการทีวีของบริษัท กันตนา ชื่อรายการ หัตถจิต เมื่อวันที่30 มค. 56
อ.หัตถา ท่านก็เมตตาบอกวิธีให้เรามาพูดกับ จิตวิญญาณในบ้านที่เราอยู่ (ขอสงวนคำพูดไว้นะคะ)
อ.ท่านบอกว่าเป็นจิตวิญญาณผู้ชาย อายุ40กว่า จิตดวงนี้เขาไปไหนไม่ได้มีความผูกพันอยู่กับที่นี่
เราจะหลุดพ้นจากเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ก็คือย้ายออกอย่างเดียวเรื่องก็จบ แต่ในเมื่อเราไม่ย้ายก็ต้องอยู่ร่วมกันไป ทุกครั้งทีเราปฏิบัติธรรม เขาจะได้รับบุญไปด้วยเพราะเราจะแผ่เมตตา กรวดน้ำไปให้ จิตดวงนี้มีพลังบุญอยู่แล้วและเขาเห็นเรามาทางบุญเหมือนกัน ก็เลยสื่อถึงกันได้ อ. ท่านขอเรียกว่า " เป็นภูติพิษสวาท เพราะเป็นจิตวิญญาน กับ มนุษย์"

นับจากวันนั้นจนถึง วันนี้ เราก็ไม่ฝันแบบนั้นอีก และก็ไม่โดนอำอีก

แต่วันข้างหน้า ใครจะไปรู้ได้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

55555555555 เรายังเปิดไฟนอนอยู่ตลอด (ยังหลอนๆอยู่ อะนะ)

 

พยายามลงรูป แล้ว มันทำไม่ได้อ่ะคะ

ไว้จะลองใหม่นะคะ

 

น่าจะลงได้แล้วมั้ง ลองใหม่สิ
หาหุ่นพยนต์มาพกไว้บ้างก็ดีนะ

 

ก็ยังไม่ได้อยู่ดี ลองหลายครั้งแล้วคะ ไว้เจอเพื่อนจะให้เพื่อนทำให้ค่ะ

 

คนเกิดวันเสาร์จะอยู่ในข่ายที่เกี่ยวข้องกับโลกวิญญาณสูง แนะนำให้ฝึกสมาธิมากๆ หรือไม่ก็ไปถือศิลที่วัดเขาสมโภชน์ ลพบุรีดูครับ(หลังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) จะได้ชัดเจน ที่สำคัญอยู่แบบคน 3 โลกได้สบายๆ และทำงานไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว ไม่ต้องเชื่อครับ ให้ไปลองดูด้วยตนเองเท่านั้น อย่างน้อย 3 วัน

 

ดูจากวันมันหยาบไปครับ. ลองใช้ดิถีเทียบดู เปรียบกับวัน เสาร์ขึ้นแรมเท่าไหร่ เกิดช่วงเดือนใด ฤดูไหน ธาตุธรรมชาติอ่อนไหวมากไหม ณ ตอนนั้น ปีใด ถ้าเอาละเอียดก็ ดาวโคจรที่ใด ฤกษ์ไหน แล้วเปรียบเอา.

สมมติ
พระเสาร์เปรียบเหมือนงู ถ้าเกิดช่วงเป็นงูเหลือมก็ขี้เกียจ เกิดช่วงพญานาคก็สัมผัสไว เกิดช่วงงูเห่าก็แค้นเครียดโกรธง่าย แต่หน้าตาดี เกิดช่วงงูจงอาง ก็มีฝีมือ ตบะแรงกล้า โมโหโกรธาง่าย เกิดช่วงงูดินก็ไร้พิษสง คนมักถ่มดูถูก เกิดช่วงงูกินปลา พอทำเนาแต่จะเป็นโรค เกิดช่วงงูเขียว สามัญ เป็นกลางๆ แล

เกิดช่วงงูหากิน ก็ทำมาค้าขึ้น เกิดช่วงงูกลับรู ครองถิ่นดี เกิดช่วงงูจำศีล ตบะกล้าแต่คนชอบมาทำร้าย เป็นโรค เกิดช่วงงูลอกคราบ เปลี่ยนแปลงบ่อย อ่อนแอ ไว้ใจไม่ได้โลเล เกิดช่วงงูติดกับดัก ทุกข์ทรมาณ เกิดช่วงงูในตะกร้า เสี่ยงคุดติดคดี มักเป็นข้าเขา บ่ได้เป็นไทแก่ตัว เกิดช่วงงูออกไข่ ลูกหลานเยอะ เส้นสายเยอะ เกิดช่วงงูเกี้ยวกัน เสน่ห์ดี
แล
สมมตินะสมมติ.

 

คนเกิดวันพุธกลางคืน แต่ดั้งเดิมวิชาทักษา เกิดวันพุธกลางวันกลางคืน ใดๆ ให้ใช้ทักษาภูมิพุธ เป็นบริวาร นับเริ่มต้น จะไม่ใช้ภูมิราหูเริ่มต้น เพราะราหูไม่มีวันที่แท้จริง สถิตย์ล่องลอยในอากาศ ไม่ได้ครองที่ใดเป็นพิเศษ นอกจากภพของตน บางอาจารย์จะอ่านภูมิราหูควบด้วย เพิ่มคำทำนายเป็นเคล็ด แฝงเร้นไว้ แต่แกนใหญ่มักทำนายโดยใช้ภูมิพุธเป็นหลัก ที่ไม่เอาราหูมาใช้เพราะ พฤหัสเป็นกาลีแก่ราหู พฤหัสเป็นพระเป็นครู ราหูเป็นผีโขมด. ดั้งเดิมจะไม่เอาตนเองเป็นบริวารของผีโขมด ไม่ถูกกับพระหรอก เพราะนับบริวารที่ภูมิราหู พฤหัสเป็นกาลี เท่ากับเอาพระเอาครูเป็นกาลี แต่จะอ่านแฝงไว้กับพุธ ถ้าทำนายคร่าวๆคนเกิดวันพุธ ไม่ว่ากลางวันแลกลางคืน ต่างมีราหูเป็นศรี แก่ตนเอง มีพฤหัสเป็นเดชแก่ตนเอง. คือ ถ้ากระทำตนมีวิชาความรู้มีธรรมในตน พฤหัสเป็นเดช ก็จะ มีราหูคือผีเป็นศรีคือเป็นที่พึ่งแก่ผี แล ผีนิยมชมชอบ คนเกิดวันพุธทั้งกลางวันแลกลางคืนย่อมถูกกับผี ไปล้างป่าช้า ทำบุญไหว้บรรพบุรุษย่อมเกิดผลดีทันใจ แล แต่คนเกิดวันพุธกลางคืนก็แฝงแอบๆราหูไว้หน่อยหนึ่ง ถือว่าราหูคือรอกของพุธ เช่นหากเกิดวันพุธกลางคืน ยามพฤหัส ช่วง 21:00-22:30 นฺ. ก็จะได้ว่า เป็นยามเดช พฤหัสเป็นเดชแก่วัน. แสดงว่าเกิดมาแล้วมีเดช คือมีความสามารถมาก หลายด้านโดยเฉพาะเดชแบบพฤหัสบดี คือ เก่งด้านสอน จดจำ ชำนาญด้านความรู้ ใฝ่ธรรม หรือไฝ่เรียนรู้ค้นคว้า แฝงราหูหน่อย ก็จะเป็น พฤหัสบดี ราหู คือ ค้นคว้าหรือเก่งด้านผี ด้านเรื่องไสยศาสตร์ เรื่องลี้ลับ หรือวิชาลับแอบแฝงพราง มายา เป็นผู้หญิงก็จะหน้าตาสวยหรือแต่งหน้าเก่ง หรือมีเสน่ห์ดึงดูดได้เก่ง แต่ถ้ามีนิสัยใฝ่ธรรมหรือค้นคว้าวิจัยสงสัยใคร่รู้บ่อยๆ ก็จะประสบปัญหาเรื่องเงิน เพราะเอาเงินไปใช้ลองประสบการณ์อยู่ร่ำไป. ถ้ามีนิสัยติดทางเฮฮา มายา เที่ยวเตร่ เพื่อนฝูง ลับแอบแฝงพราง เน้นไปทางราหู จะมีโรคตรงท้อง และ มักเป็นที่เขม่นของผู้ใหญ่ เจ้านาย เรียนอะไรไม่ค่อยอยากต่อให้สูงๆ เรียนแค่พอสอบได้ จิตใจห่วงเพื่อนฝูง หูเบากับเพื่อน สังคม การพนันเก่ง เสี่ยงโชคดี เดาได้ประมาณนี้ครับ

 

... สาธุคะ เป็นเช่นนั้นจริงแท้คะ .. แต่บางคนก็ยากจะทำใจอยู่ได้นะคะ .. สำหรับคนที่สัมผัสภพภูมิมาก ๆ อาจยอมรับได้ง่ายหน่อย ...

.. วัดเขาสมโภชน์ไม่เคยไปเลยคะ .. แต่เคยผ่านเท่านั้นเองคะ ขอบคุณนะคะ ..

 

.. สาธุกับความรู้จากท่านผู้รู้นะคะ .. ของดิฉันก็ใช้ ตำราพรหมณ์ชาติในการดู .. แต่แบบของท่านนี้มันลึกซึ้งมากกว่าอีก นับถือคะ ..

 

ขอบคุณค่ะ คุณนักรบธรรมที่แนะนำ

คือวัดนี้ เราเคยไปบวชมาแล้วค่ะ มีหลวงคงเป็นผู้ค้นพบการนั่ง สมาธิเปิดกรรม"และใครไปที่นี่ ก็จะสามารถนั่ง สมาธิเปิดกรรมได้ โดยมี พระพี่เลี้ยง และแม่ชีบางองค์ คอยมาดูแล"

มีท่าน มหาทอง เป็นเจ้า อาวาส (วัดนี้จะพิเศษ ตรงที่ สามารถเปิดกรรมได้ ในรูปแบบต่างๆแล้วแต่ บุพกรรมที่แต่ละคนทำ) ที่น่าแปลกคือ จะมีถ้ำอยู่บนเขา ซึ่งปากถ้ำจะเป็น รูเล็กๆ เวลาจะเข้าถ้ำเราต้องมุดเข้าไปค่ะ ภายในถ้ำจะเย็นมากเหมาะแก่การนั่งสมาธิมาก เพราะเงียบสงบ


วัดนี้ ทานอาหารเจค่ะ (จะมีลิงเยอะมากๆคะ) เป็นวัดที่ร่มเย็นดีเหมาะแก่การปกิบัติ ที่นี่จะเน้นทางการ นั่งสมาธิ ตัดกรรม ที่พักของชายหญิงจะแยกกันค่ะ "ส่วนตัวเรานอนใต้วิหารที่ใช้ป

 

เราเคยไปปฏิบัติธรรมมาแล้วค่ะ อยู่ได้เกือบ2เดือน ได้ไปร่วม หิ้วถังปูนสร้างฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แถวๆเขื่อน(คือว่ามันนานหลายปีมาแล้วค่ะ)


ถ้าเพื่อนๆสมาชิกท่านใด สนใจ ธรรมะเปิดโลก นั่งสมาธิตัดกรรมก็ขอเชิญนะคะที่ วัดเขาสมโภช์น จ.ลพบุรี ไปนมัสการสรีระ ของหลวงพ่อ คง กันค่ะ สรีระหลวงพ่อท่านไม่เน่าเปื่อย


ไปขึ้นรถที่ อนุสเสาวรีย์ชัย จะมีป้ายเขียนบอกไว้เป็นรถตู้ค่ะ เขาส่งถึงวัดเลย ตอนขากลับก็มีรถเข้าไปรับในวัดเลยค่ะ (ค่ารถเมื่อก่อนมัน120แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว)
ถ้าใครไม่มีชุดขาว ทางวัดมีให้ยืม

เราเองคิดว่าถ้ามีโอกาสจะกลับไป กราบนมัสการสรีระ หลวงพ่อคงอีกครั้ง ขอบคุณ คุณนักรบธรรมนะคะ