พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ขอบคุณพี่โสระมากครับ
    โมทนาสาธุ
     
  2. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    โมทนาบุญครับน้องเอ ขอให้หายไวๆครับ เมื่อตั้งใจแล้วต้องได้ไปแน่
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">palungjit.org > พลังจิต > ศูนย์ ประชาสัมพันธ์ </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ธรรมทาน - วิทยาทาน</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอเชิญร่วมสร้างทานบารมีกับหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโนและหลวงปู่ทองดี อนีโฆ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=95155

    ขอเชิญร่วมสร้างทานบารมีทำบุญถวายพระและวัตถุมงคลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโนและพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองดี อนีโฆ ไว้แจกเป็นทานบารมีในงานบุญต่างๆ

    โดยทางท่านอ.จเร ได้แจ้งความประสงค์จัดสร้างกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโนและพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองดี อนีโฆ ไว้ดังนี้

    1.จัดสร้างพระพิมพ์ ถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโนไว้แจกเป็นทานบารมีในงานบุญต่างๆ จำนวน 84,000 องค์
    2.จัดสร้างผ้ายันต์ ถวายพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองดี อนีโฆ ไว้แจกเป็นทานบารมีในงานคล้ายวัดเกิดและงานบุญต่างๆ จำนวน 2,550 ผืน
    <!-- / message --><!-- sig -->

    รายละเอียด ติดตามได้ในกระทู้นะครับ

    โมทนาสาธุกับ อ.จเร และน้องกวงด้วยครับ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=751529#post751529

    โบสถ์หินอ่อนงดงามที่ "วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม"
    http://www.nairobroo.com/76/modules....ticle&sid=1062


    สะพายกล้องท่องรอบกรุง:

    โบสถ์หินอ่อนงดงามที่ "วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม"


    ติดประกาศ Monday 24 Sep 07@ 00:00:00 ICT โดย admin


    ทันที่ก้าวเข้าไปในบริเวณ "วัดเบญจมบพิตร" ก็เห็นนักท่อเที่ยวชาวต่างชาติกำลังกุลีกุจอถ่ายภาพคู่กับโบสถ์หินอ่อนที่มีความงดงามน่าชม พร้อมๆ ไปกับฟังบรรยายเรรื่องราวของวัดจากไกด์นำเที่ยว


    "วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม" เดิมเป็นวัดราษฎร์ชื่อ "วัดแหลม" เนื่องจากอยู่ปลายแหลมส่วนที่ต่อกับทุ่งนา และมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดไทรทอง" ไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่าสร้างมาตั้งแต่เมื่อใด ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ในปี พ.ศ. 2372 จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพิพิธโภคภูเบนทร์ พระนามเดิมพระองค์เจ้าพนาวัน พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้สนภาลัย และเจ้าจอมมารดาศิลา ทรงเป็นแม่ทัพในการรักษาพระนคร ได้ทรงตั้งกองบัญชาการทัพที่วัดแหลม

    หลังจากปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์แล้ว กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์มีพระประสงค์จะปฏิสังขรณ์วัดแหลม พร้อมพระอนุชา และพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 4 พระองค์ ได้แก่ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพิทักษ์เทเวศร์ (พระองค์เจ้าชายกุญชร ต้นราชสกุลกุญชร), พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ (พระองค์เจ้าชายทินกร ต้นราชกุล ทินกร), พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอินทนิล และพระองค์เจ้าหญิงวงศื ทรงกร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดแหลม ซึ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดเบญจมบพิตร" ซึ่งหมายถึง "วัดของเจ้านาย 5 พระองค์"

    ใน พ.ศ. 2441 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสวนดุสิต โดยใช้วัดดุสิตเป็นที่สร้างพลับพลา และใช้สถานที่วัดสร้างตัดถนน ซึ่งต้องสร้างวัดขึ้นทดแทนตามประเพณี ได้ทรงเลือกวัดเบญจมบพิตรเป็นวัดที่ทรงสถาปนาตามพระราชดำริว่า "การสร้างวัดใหม่หลายวัดยากต่อการบำรุงรักษา ถ้ารวมเงินสร้างวัดเดียวให้เป็นวัดใหญ่ และทำโดยฝีมือประณีตจะดีกว่า จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ เป็นผู้ทรงออกแบบก่อสร้างพระอุโบสถ และถาวรวัตถุอื่นๆ และมีพระยาราชสงคราม (กรมกงสกุล) เป็นนายช่างก่อสร้าง และเริ่มสปาปนาวัดในปี พ.ศ. 2442 และโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนามราม" เพื่อให้คล้องกับพระราชวังดุสิตที่ทรงสร้างขึ้นใหม่

    ภายในวัดเบญจมบบพิตรมีสิ่งน่าชมมากมาย อาทิ

    @ โบสถ์ เป็นโบสถ์ที่มีความงดงามน่าชมมาก เพราะสร้างจากหินอ่อนบริสุทธิ์ที่สั่งตรงมาจาประเทศอิตาลี โดยในการออกแบบประดับหินก่อนนี้มีวิศวกร และสถาปนิกชาวอิตาเลียน จากกรมโยธาธิการร่วมดำเนินการด้วย

    [​IMG]
    @ พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระประสิทธิปฏิมา จางวางช่างหล่อขวา ซึ่งเป็นช่างหล่อฝีมือดีที่สุด ขึ้นไปปั่นหุ่นถ่ายแบบจากพระพุทธชินราชองค์เดิม ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ. พิษณุโลก แล้วเชิญลงมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถที่วักเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2444

    [​IMG]
    @ พระระเบียง สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงออกแบบพระระเบียงให้เชื่อมต่อมุขกระสันของโบสถ์ ทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ โอบล้อมไปบรรจบด้านหลังโบสถ์ โดยเว้นเนื้อที่เป็นลานกว้าง มีประตูทางด้านทิศตะวันตก ตรงกับมุขตะวันตกของโบสถ์ ด้านใต้และด้านเหนือ มีด้านละ 2 ประตู บานประตูด้านนอกติดแผ่นโลหะนูนภาพเสี่ยวกาง้านในเขียนลายรดน้ำภาพเหมือนกับด้านนอก

    [​IMG]

    [​IMG]
    ภายในพระระเบียง ขื่อลงรักปิดทองลายรดน้ำ เพดานล่องชาด ประดับดาวทอง 610 ดวง ประดิษฐานพระพุทธรูปต่างๆ จำนวน 52 องค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ มีทั้งพระพุทธรูปโบราณ และหล่อขยายหรือย่อส่วนจากพระพุทธรูปโบราณ โดยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเสาะหามาทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมือง ตลอดจนต่างประเทศ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น พม่า ลังกา เป็นต้น โดยมีพระพุทธรูปที่สำคัญและน่าสนใจ เช่น

    [​IMG]

    [​IMG]

    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    - พระพุทธรูปปางทุกรกิริยา (ลำดับที่ 7) เป็นพุทธจริยาตอนที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรทุกรกิริยา จนพระวรกายซูบผอม แสดงถึงจินตนาการและสุนทรีย์ทางศิลปะอย่างเอกของช่าง พระพุทธรูปองค์นี้หล่อขยายจากพระพุทธรูปปูนพลาสเตอร์ ที่เจ้านห้าที่พิพิธภัณฑ์เมืองละฮอร์ ประเทศอินเดีย จำลองมาจากพระพุทธรูปศิลาโบราณ สมัยคันธาระ โดยช่างชาวโยนก ประมาณพุทธศตวรรษที่ 7-8 ส่งเข้ามาถวายสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

    [​IMG]

    - พระพุทธรูปปางลีลา (ลำดับที่ 26) แสดงถึงพุทธจริยาหรือพุทธลีลาตอนที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์ หรือเสด็จโปรดเวไนยสัตว์ เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะลีลางามเป็นเลิศ เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ชม

    [​IMG]

    @ คลอง โดยเริ่มขุดตั้งแต่เริ่มการสถาปนาวัด เพื่อแบ่งเขตเป็นส่วนพุทธาวาสและสังฆาวาส ใช้ดินที่ขุดขึ้นถมพื้นที่วัด เนื่องจากบริเวณวัดเดิม และที่ถวายเพิ่มเติมสำหรับสร้างวัด เป็นที่ต่ำ เพราะเป็นที่สวนและนา กับเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคในสมัยนั้น โดยให้ขุดคลองเชื่อมต่อจากสวนดุสิต คลองเปรมประชากร และคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ แล้วโปรดเกล้าให้พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจันทรสุเทพ ก่อเขื่อนขึ้น 2 ข้าง สองฝั่งคลองโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกต้นไม่ และฝังเสาศิลายอดบัวตูม สอดเหล็กหล่อลายดอกไม้เป็นรั้วตลอดแนวทั้ง 2 ข้าว เชิงสะพานตั้งตุ๊กตาจีนประดับ 12 ตัว

    @ สะพาน เป็นสะพานเหล็กหล่อ มีเสาสะพานละ 4 ต้น สั่งทำจาประเทศอิตาลี พื้นคอนกรีต โค้งข้ามคลอง ราวสะพานเป็นเหล้กหล่อลายไทยทั้ง 2 ด้าน บนราวสะพานมีป้ายจารึกสะพานละ 2 ป้าย โปรดเกล้าฯ ให้กรมโยธาธิการดำเนินการสร้างขึ้นทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่

    [​IMG]

    [​IMG]
    - สะพานพระรูป อยู่ทางทิศตะวันออก สร้างขึ้นด้วยทุนทรัพย์ค่าจำหน่ายพระรูปจำหลักแผ่นทองแดงกาไหล่ทอง ที่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพศาสตรศุภกิจ ถวายช่วยในการสถาปนาวัดเบญจมบพิตร พ.ศ. 2443
    - สะพานถ้วย อยู่กลางระหว่างสะพานพระรูปกับสะพานงา สร้างขึ้น้ดวยเงินที่พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานถ้วยชาลายทองที่หายาก ให้จำหน่ายในการออกร้านงานประจำปีวัดเบญจมบพิตร พ.ศ. 2443
    - สะพานงา อยู่ด้านทิศตะวันตก สร้างขึ้นด้วยเงินจำหน่ายงาช้างที่ "พระเจ้าน้องยาเธอ กรมกลวงดำรงราชานุภาพ" ถวายเพื่อจำหน่ายในงานออกร้านประจำปีวัดเบญจมบพิตร พ.ศ. 2443


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น พระที่นั่งทรงผนวช, หอระะฆังบวรวงศ์, ศาสลาสี่สมเด็จ, ศาลาตรีมุขสะพานน้ำ, ศาลาร้อยปีปิยมหาราชอนุสรณ์ ฯลฯ

    [​IMG]

    [​IMG]

    <TABLE bgColor=#ccff66><TBODY><TR><TD>ข้อมูลทั่วไป
    - เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. (โบสถ์เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น.)
    - รถประจำทางสาย 72, 201 และ ปอ. 503
    แหล่งข้อมูล
    -
    www.watbenja.com
    - www.wikipedia.org </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เรื่องและภาพ : ทีมงาน "นายรอบรู้" (น้อย)
    Wat Benjamaborpit, Bangkok, Thailand.

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    นึกตั้งนาน....ว่าเรื่องอะไร ท่านปา-ทาน เดี๋ยวเหอะ...อยากให้ไปก็จักไม่ยอมไปหรอกครับ...หนาว แต่ถ้ามาจริงผมขออย่างนี้ก่อนครับ
    (555) (555) (555) (555) (555) (555) (555) (555)
    nongnooo...
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    กิจกรรมต่างๆ ของสำนักธรรมพรหมรังสี มีดังนี้:-

    ๑.
    การเสด็จโปรดสัตว์ ของสมเด็จพระพ่อเจ้าโต พรหมรังสี ทุกวันเสาร์ หากมีความจำเป็นที่จะงดการเสด็จโปรดสัตว์ จะติดประกาศให้ทราบล่วงหน้า



    หึ! คือ การ "ทรง" นั่นเอง

    พี่"ใหญ่" ของเราได้เคยแนะนำว่า อะไรที่ไม่รู้ ไม่แน่ใจ ขอให้ยึดตามพระไตรปิฏกจะเป็นการดีที่สุด


    ๔.การฝึกอัญเชิญเทพประทับร่าง (ในระหว่าง เดือนตุลาคม ถึง เดือนมกราคม ของทุกปี) เพื่อเป็นศึกษาความผูกพันระหว่างเทวดา และมนุษย์ และเพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพในทางธรรม ในพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และปลดปล่อยดวงวิญญาณทหารหาญ ณ ทุ่งยุทธหัตถี ต.ดอนเจดีย์ อ. พนมทวน จ. กาญจนบุรี ในวันที่ ๑๖ มกราคม ของทุกปี

    หึหึ!! นี่ยิ่งชัด คือ การฝึก "ทรง" นั่นเอง

    ศรัทธาอยู่เหนือปัญญาเป็นเหตุให้ถูกชักจูงไปได้ง่าย
    ปัญญาเหนือศรัทธาเป็นเหตุให้ไม่สามารถพบธรรมชั้นสูงได้


    ๖.การจัดให้เช่าบูชาวัตถุมงคล ที่สมเด็จพระพ่อเจ้าโต พรหมรังสี ทรงสร้างไว้ ซึ่งมีทั้งพระเครื่อง และพระบูชา เพื่อนำรายได้ มาสร้างพระตำหนักบนยอดภูเขาพระมหาบารมี และพลับพลาเสด็จโปรดสัตว์ ทดแทนหลังเก่าซึ่งผุพังไป

    หึหึหึ!!! สุดท้ายจบลงด้วย "เงิน" เพื่อสร้างตำหนัก "ทรง" นั่นเอง
    คำว่า"รายได้" ก็กำกวมไม่บอกให้หมดว่า "ทั้งหมด" หรือ "บางส่วน"

    ***ขอร้องคุณหนุ่มอย่านำไปลงที่เวปเขาเลยนะ ต่างคนต่างทำ ดีกว่า หากสมาชิกทางนั้นเขามาดูที่นี่ แบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผู้ที่ยังไม่พบ(ข้อเท็จจริง) จึงยังคงแสวงหาคำตอบกันต่อไป

    ผู้พบแล้วก็หยุดการค้นหา หยุดการตามหา
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    สงสัยคุณเพชรสนใจที่ผมคุยกับท่านปา-ทาน?
    ขยายความครับ กำลังพูดถึงหนังครับ เรื่อง Die Hard ภาค5ครับ(b-smile)
    nongnooo...
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    โห! Die Hard หนังเรื่องนี้ ไม่เก็บ master ไม่ได้ครับ เอามาดูซ้ำแล้วซ้ำอีกยังมันส์อยู่เลย ว่าแต่ภาค 5 เนี่ย อินเดียหน้าโจรร่วมขบวนการเหล่าร้ายด้วยหรือ ...
     
  12. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    พระเอกเค้ามีอยู่แล้วครับ...เอ่อผมยัง..ไม่พอน่ะครับขอโทษแฟนๆด้วยครับ
    nongnooo...
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ด้วยขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรโทรศัพท์ไปถึงผู้เสียภาษีและประชาชนในท้องที่ต่างๆ เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ ชื่อ- สกุล ,เลขประจำตัวประชาชน รวมทั้งเลขที่บัญชีธนาคาร เป็นต้น โดยอ้างว่าจากการตรวจแบบแสดงรายการภาษีระหว่าปี 2545
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียนคุณnongnooo

    ตามนี้ที่คุยกันเมื่อสักพักครับ

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: 08-10-2007
    วันที่สมัคร: Dec 2006
    อายุ: .... ปี
    ข้อความ: .... <!-- Start Post Thank You Hack -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    นึกตั้งนาน....ว่าเรื่องอะไร ท่านปา-ทาน เดี๋ยวเหอะ...อยากให้ไปก็จักไม่ยอมไปหรอกครับ...หนาว แต่ถ้ามาจริงผมขออย่างนี้ก่อนครับ
    (555) (555) (555) (555) (555) (555) (555) (555)
    nongnooo...

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    สงสัยคุณเพชรสนใจที่ผมคุยกับท่านปา-ทาน?
    ขยายความครับ กำลังพูดถึงหนังครับ เรื่อง Die Hard ภาค5ครับ(b-smile)
    nongnooo...

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    โห! Die Hard หนังเรื่องนี้ ไม่เก็บ master ไม่ได้ครับ เอามาดูซ้ำแล้วซ้ำอีกยังมันส์อยู่เลย ว่าแต่ภาค 5 เนี่ย อินเดียหน้าโจรร่วมขบวนการเหล่าร้ายด้วยหรือ ...

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เป็นผู้ที่สอนผมเรื่อง "เรื่องของคน" ครับ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    แต่ถ้ามาก็ (555) (555) (555)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2007
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt1>[​IMG]</TD><TD class=alt2 colSpan=5>เปิดอ่าน: 73 [​IMG] ประกาศ: กรุณาอย่ากดแจ้งลบ โพสต์และกระทู้ ที่เป็นของตนเอง
    24-09-2007 MBNY (Administrator)
    </TD></TR><TR><TD class=alt1>[​IMG]</TD><TD class=alt2 colSpan=5>เปิดอ่าน: 2,195 [​IMG] ประกาศ: เกี่ยวกับกระทู้ ให้บูชา(เช่า) พระเครื่อง ในห้องนี้
    15-11-2006 WebSnow (เว็ปมาสเตอร์ (วีระชัย))
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=64174

    หลวงพ่อปัญญา มรณภาพ สิ้นนักรบธรรม [11 ต.ค. 50 - 04:37]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]พุทธศาสนิกชนสุดเศร้าสลด เมื่อวงการสงฆ์ไทย ต้องสูญเสียพระอริยสงฆ์ที่นับเป็นการสูญเสียเสาหลักของพระพุทธศาสนาครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทานรังสฤษฏ์อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อเช้าวันที่ 10 ต.ค.
    ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่หออภิบาลอายุรศาสตร์ ห้องซีซียู ชั้น 3 ตึกอัษฎางค์ รพ.ศิริราช พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยโรคปอดอักเสบ และไตวายเฉียบพลัน สิริรวมอายุ 96 ปี 5 เดือน 76 พรรษา โดยทันทีที่ศิษยานุศิษย์ทราบข่าว ต่างร่ำไห้ และมารอกราบสรีระสังขารของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ที่ด้านหน้าห้องซีซียูกันจำนวนมาก แต่โรงพยาบาลไม่สามารถให้เข้าไปในห้องไอซียูได้ ให้แต่ญาติสนิทและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปรับสรีระสังขารเท่านั้น จากนั้น เวลา 10.45 น. โรงพยาบาลได้เคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อปัญญาฯไปฉีดฟอร์มาลิน ก่อนเคลื่อนไปไว้ที่ศาลาพิธีศพ ตึกอดุลยเดชวิกรม รอรถพยาบาลจากโรงพยาบาลชลประทาน จ.นนทบุรี มารับไปยังโรงพยาบาลชลประทาน ในเวลา 12.10 น.
    นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผอ.โรงพยาบาลศิริราช แถลงถึงสาเหตุการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ว่า หลวงพ่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค. ด้วยอาการหน้ามืด วูบ และแน่นหน้าอก ก่อนหน้านี้หลวงพ่อปัญญาฯเคยมีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบมาก่อน และเคยรับการถ่างขยายหลอดเลือดด้วยวิธีบอลลูนมาแล้ว เมื่อมาถึงโรงพยาบาลศิริราช ทีมแพทย์ได้วินิจฉัยอาการพบว่ามีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เนื่องมาจากหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ต่อมาในวันที่ 6 ต.ค. หลวงพ่อปัญญาฯมีอาการไอ มีเสมหะ และมีการติดเชื้อในปอด การทำงานของไตเริ่มแย่ลง ทำให้การให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อรักษาอาการปอดติดเชื้อขาดประสิทธิภาพ เมื่อไตทำงานแย่ลง ประกอบกับหลวงพ่อปัญญาฯมีอายุมาก จึงทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ส่งผลให้เกิดหัวใจหยุดเต้นไปหนึ่งครั้ง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 ต.ค. ทีมแพทย์ได้ทำการช่วยชีวิตไว้ได้ แต่ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค. อาการยังไม่ดีขึ้น ส่งผลให้การเต้นของหัวใจหยุดลงอีก กระทั่งมรณภาพในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค.
    พระครูพิมลสรกิจ พระเลขานุการของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ กล่าวว่า จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ในวันที่ 12 ต.ค. เวลา 17.00 น. ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ เนื่องจากในวันที่ 11 ต.ค. เป็นวันพระ พระผู้ใหญ่ ของวัดต้องปฏิบัติศาสนกิจ ทั้งนี้ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. โดยมีอาการแน่นหน้าอก และสำลักขณะฉันเพล จึงนำส่งโรงพยาบาลศิริราช ในช่วงเช้าของวันที่ 9 ต.ค. หลวงพ่อยังคุยได้ตามปกติ แต่พอช่วงบ่ายมีอาการซึมจนมรณภาพในที่สุด หลวงพ่อท่านมีความเป็นห่วงเรื่องการสร้างอุโบสถกลางน้ำให้กับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มาก ท่านบอกว่าจะทำงานชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้าย ถึงขนาดที่ท่านบอกเลยว่า จะอยู่ถึง 100 ปี และจะไม่ยอมตายหากยังสร้างไม่เสร็จ ขณะนี้การดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้ว การมรณภาพของท่าน ลูกศิษย์ทุกคนตกใจมาก
    ต่อมาเวลา 12.45 น. รถตู้โตโยต้า หมายเลขทะเบียน กบ 5567 ซึ่งเป็นรถพยาบาลของหน่วยกู้ชีพ รพ.ชลประทาน นำสรีระสังขารหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มาถึงอาคาร 80 ปี ปัญญานันทะ รพ.ชลประทาน มีคณะแพทย์ พยาบาลและประชาชน ยืนเข้าแถวรอเคารพศพจำนวนมาก โดยสภาพหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มีลักษณะคล้ายคนนอนหลับ เจ้าหน้าที่ได้นำสรีระสังขารของหลวงพ่อขึ้นไปยังห้อง 401 ชั้น 4 อาคาร 80 ปี ปัญญานันทะ ซึ่งเป็นห้องพิเศษเฉพาะสำหรับหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มาเข้าพัก ในช่วงที่เข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ชลประทาน มีบรรดาญาติและศิษยานุศิษย์ใกล้ชิด เข้ากราบศพของหลวงพ่อฯ รวมทั้ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่เดินทางมาช่วยดูแลเรื่องการเก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อ โดยทางโรงพยาบาลได้จัดสถานที่ลงนามไว้อาลัยหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ที่บริเวณห้องโถงชั้นล่างของอาคาร 80 ปี ปัญญานันทะ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 20.00 น. ของวันที่ 11 ต.ค.นี้ โดยอนุญาตเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดเท่านั้น ที่ จะสามารถขึ้นไปยังห้องเก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อได้
    นพ.อุทัย สุภาพ ผอ.รพ.ชลประทาน กล่าวว่า ห้องที่เก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อ เป็นห้องเฉพาะที่จัดไว้ สำหรับเวลาที่หลวงพ่อมารักษาตัวโดยเฉพาะ ไม่เปิดให้ผู้ป่วยอื่นเข้าพัก เพราะท่านเมตตากับโรงพยาบาลมาก อุปถัมภ์มาโดยตลอด ในช่วงหลังไตของท่านไม่ค่อยดีผลตรวจเลือดก็ค่อนข้างจะมีหลายระบบที่เป็นปัญหา เพราะท่านอายุมากแล้ว ท่านจะถามเสมอว่า รพ.ขาดอะไรหรือไม่ รพ.ก็ไม่อยากรบกวน อย่างหมอที่ รพ.นี้ ท่านจะให้ทุนไปเรียนต่างประเทศ เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมตลอด ทั้งนี้ รพ.จะเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงพ่อไปยังศาลาขจรประศาสน์ วัดชลประทานฯ ในช่วงเช้า วันที่ 12 ต.ค. เพื่อให้ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปเข้าเคารพศพ โดยในช่วงนี้ ประชาชนสามารถโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดการเคารพศพของหลวงพ่อได้ที่ โทร. 0-2583-8845 และ 0-2583-6457
    นายสังสรณ์ เสน่ห์เจริญ อายุ 76 ปี หลานปู่ของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ และติดตามหลวงพ่อมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน ได้ไปเยี่ยม หลวงปู่ที่ รพ.ศิริราช หลวงปู่รู้สึกตัวดีไม่มีอาการเลื่อนลอย ยังพูดติดตลกว่า มียมบาลมาหาและยมบาลบอกว่า พระรุ่นเดียวกับท่านไม่มีใครอยู่แล้ว เหลือท่านอยู่องค์เดียว
    พระเทพปริยัติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ กล่าวว่า ได้เตรียมการจัดพิธีศพของหลวงพ่อ โดยประสานกับสำนักพระราชวังและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะต้องดูเรื่องของการอำนวยความสะดวก เรื่องการจราจรและที่จอดรถ การมรณภาพของหลวงพ่อเป็นเรื่องที่กะทันหัน เพราะท่านเพิ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ในวันที่ 12 ต.ค. เวลา 17.00 น. โดยในช่วงเช้าจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าเคารพศพของหลวงพ่อ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เพราะหลวงพ่อไม่ใช่เป็นพระวัดชลประทานฯเท่านั้น แต่ท่านเป็นพระของประชาชนด้วย ส่วนพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพ หลังจากครบกำหนดการสวดพระอภิธรรมในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วันแล้ว คงจะเป็นการจัดพิธีที่ยึดหลักคำสอนของหลวงพ่อ คือ ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์ ซึ่งคงจะเป็นการจัดพิธีศพตามรูปแบบของวัดชลประทานฯ คือ เริ่มพิธีเวลา 19.00 น. ทุกวัน มีเทศน์ 1 ธรรมาสน์ จากนั้นเป็นการสวดพิธีธรรมศพ 1 จบ เป็นอันเสร็จพิธี โดยงานพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่อ คงจะมีต่อเนื่องกว่า 100 วัน และถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ขอให้งดพวงหรีด โดยเฉพาะพวงหรีดที่เป็นโฟม แต่จะทำบุญหรือบริจาคอะไรนั้นเป็นศรัทธาของญาติโยม
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หลวงพ่อปัญญาฯ ได้ทิ้งพินัยกรรมอะไรไว้หรือไม่ พระเทพปริยัติเมธีกล่าวว่า ไม่มีพินัยกรรมอะไรทั้งนั้น เพราะหลวงพ่อไม่สะสมอะไร ท่านไม่มีบัญชีเงินฝากส่วนตัว ไม่มีเงินส่วนตัวแม้แต่บาทเดียว ปัจจัยที่ญาติโยมถวายมาท่านจะนำเข้าวัดทั้งหมด ไม่เคยนำเข้าย่ามเลยแม้แต่แดงเดียว แต่ถ้าถามถึงมรดกทางธรรมที่ท่านทิ้งไว้ คงเป็นปรัชญาชีวิตของหลวงพ่อ 5 ประการ นั่นก็คือ คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี และไปในสถานที่ที่ดี และว่าขณะนี้วัดเตรียมจัดทำซีดีเทศนาธรรม ซึ่งหลวงพ่อมีมากกว่า 5,000 กัณฑ์ รวมถึงเอกสารงานพิมพ์งานเขียนต่างๆด้วย หลวงพ่อท่านตายด้วยและไม่ตายด้วย ตาย คือ ท่านละสังขาร ซึ่งก็เป็นธรรมดาของการเกิดดับ แต่ที่ไม่ตาย คือ คำสอนของท่านที่จะอยู่ไปอีกเป็นร้อยเป็นพันปี นั่นคือ หลวงพ่อยังอยู่ ยังไม่ตาย
    ขณะที่นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญาฯ ว่า ถือเป็นการสูญเสียพระผู้ใหญ่ในวงการพระสงฆ์ ซึ่งเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แม้จะอายุมาก แต่โดยสติปัญญายังให้หลักธรรมได้ตลอดเวลาและคำสอนยังเป็นหลักดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี ส่วนนายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า หลวงพ่อเป็นปูชนียบุคคลของประเทศ เป็นพระนักเทศน์ นักปฏิบัติ เป็นดวงประทีปทางปัญญาของชาวพุทธดวงหนึ่งที่มีแสงสว่างมานานมาก จากประวัติท่านอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนามาแต่เยาว์วัย และมุ่งมั่นเป็นทายาทของพระพุทธองค์มาโดยตลอด เป็นครูพระที่เทศน์ไม่หยุด แม้จะเจ็บป่วยก็ไม่หวั่นไหว
    ขณะที่นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประสานขอพระราชทานน้ำหลวงสรงศพหลวงพ่อปัญญาฯ จากสำนักพระราชวังแล้ว โดยจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ที่วัดชลประทานฯ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศ 8 เหลี่ยม พร้อมเครื่องประกอบพิธีศพ สมแก่ฐานานุรูปของหลวงพ่อปัญญาฯ ซึ่งเป็นพระชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะ
    นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงคงต้องหารือกับทางคณะสงฆ์และวัดชลประทานฯ ก่อน ส่วนจะมีการเสนอต่อยูเนสโก ให้ประกาศยกย่องหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เป็นบุคคลสำคัญของโลก เหมือนท่านพุทธทาสภิกขุหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะหลวงพ่อปัญญาฯเป็นพระรูปหนึ่ง ที่อยู่ในฐานะที่น่าจะได้รับการพิจารณาจากยูเนสโก แต่การเสนอชื่อคงไม่ใช่ในตอนนี้ คงต้องให้งานพระราชทานเพลิงศพผ่านพ้นไปก่อน
    ส่วนการก่อสร้างพระอุโบสถกลางน้ำ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งหลวงพ่อปัญญานันทะ รับเป็นประธานการก่อสร้างนั้น ผศ.ดร. ชาติชาย พิทักษ์ธนาคม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างดำเนินการไปเกินกว่า 50% แล้ว คาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.2551 ปัญหาไม่ใช่เรื่องของปัจจัย เพราะหลวงพ่อได้เตรียมปัจจัยไว้หมดแล้ว ประมาณ 150 ล้านบาท แต่เป็นเรื่องของขั้นตอนรายละเอียดการก่อสร้าง
    [​IMG]สำหรับประวัติพระพรหมมังคลาจารย์ หรือ “หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ” มีนามเดิมว่า ปั่น เสน่ห์เจริญ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2454 ที่ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง มีชื่อเล่นว่า ขาว เป็นบุตรนายวัน-นางคล้าย เสน่ห์เจริญ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 4 มีพี่สาว 2 คน พี่ชาย 1 คน น้องสาว 1 คน ชีวิตในวัยเด็กเข้าศึกษาชั้น ป. 1 ที่โรงเรียนประจำอำเภอเมือง จ.พัทลุง เมื่อปี พ.ศ.2462 เรียนจบชั้น ป. 3 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดในการศึกษาสมัยนั้น แล้วย้ายไปศึกษาต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนประจำจังหวัดพัทลุง ขณะเรียน ม. 4 ต่อได้ครึ่งปี บิดาป่วยทำให้ต้องลาออกมาช่วยเหลือครอบครัว
    ขณะมีอายุ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดอุปนันทาราม อ.เมือง จ.ระนอง และเรียนนักธรรมไปพร้อมกัน โดยสอบนักธรรมตรีได้ที่ 1 เมื่ออายุ 20 ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดนางลาด อ.เมือง จ.พัทลุง ได้รับฉายาว่า ปญฺญานนฺโท ระหว่างปี 2475-2476 หลวงพ่อเดินทางไปเผยแผ่พุทธศาสนาในต่างประเทศหลายประเทศ จนได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์รูปแรกของไทย ที่เดินทางไปประกาศธรรมในภาคพื้นยุโรป พ.ศ. 2480 ท่านไปจำพรรษาที่สวนโมกขพลาราม อ.ไชย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับท่านพุทธทาสและพระราชญาณกวี อดีตเจ้าคณะจังหวัดชุมพร วัดขันเงิน เป็นสามสหายธรรมร่วมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาและหลักธรรมที่แท้จริงตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “นักรบธรรม”
    ในปี พ.ศ.2492 หลวงพ่อปัญญาฯ ได้รับการนิมนต์ ให้ไปจำพรรษาที่วัดอุโมงค์ จ.เชียงใหม่ และเริ่มแสดงธรรมทุกวันอาทิตย์ วันพระออกเทศน์ตามหมู่บ้านโดยรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงและเขียนเรื่องลงหนังสือพิมพ์ ชาวเหนือ จนมีชื่อเสียงขึ้นที่เชียงใหม่ ท่านจำพรรษาที่วัดอุโมงค์ นานถึง 11 ปี และยังเป็นประธานก่อตั้งพุทธนิคม จ.เชียงใหม่ ประธานมูลนิธิ “ชาวพุทธมูลนิธิ” วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) ในยุคนี้เองที่หลวงพ่อได้ก่อตั้งมูลนิธิเมตตาศึกษา ที่วัด เจดีย์หลวง ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และบำเพ็ญศีล กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกมากมาย
    ปี พ.ศ.2502 ม.ล.ชูชาติ กำภู อธิบดีกรมชลประทาน ในสมัยนั้น มีความประทับใจในลีลาการสอนธรรมะแนวใหม่ของหลวงพ่อ ระหว่างไปเยือนเชียงใหม่ จึงเกิดความ ศรัทธา ขณะนั้นกรมชลประทานได้สร้างวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ที่ ต. บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงอาราธนาหลวงพ่อไปเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน หลวงพ่อเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่กล้าในการปฏิรูปพิธีกรรมทางศาสนา ของชาวไทยที่ประกอบพิธีกรรมหรูหรา ฟุ่มเฟือย โดยเปลี่ยนเป็นประหยัด มีประโยชน์และเรียบง่าย จนได้รับการขนานนามว่าเป็นพระผู้ปฏิรูปพิธีกรรมของชาวพุทธไทย ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มการแสดงปาฐกถาธรรมวันอาทิตย์ ณ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยท่านได้ปฏิวัติรูปแบบการเทศนาแบบดั้งเดิม ที่นั่งเทศนาบนธรรมาสน์ถือใบลาน มาเป็นการยืนพูดปาฐกถาธรรมแบบปากเปล่าต่อสาธารณชน พร้อมทั้งยกตัวอย่างเหตุผลร่วมสมัย ทันต่อเหตุการณ์ เป็นการดึงดูดประชาชนให้หันเข้าหาธรรมะได้เป็นอย่างมาก
    หลวงพ่อเป็นพระมหาเถระผู้มีชื่อเสียงของประเทศไทย ได้สร้างงานไว้มากมายทั้งด้านศาสนา สังคมสงเคราะห์ ตลอดจนงานด้านวิชาการ จึงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ได้รับรางวัลเกียรติคุณมากมาย และเป็นประธานในการดำเนินกิจกรรม ทั้งที่เป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและสังคม แม้ว่าคำสอนของหลวงพ่อจะเป็นคำสอนที่ฟังง่ายต่อการเข้าใจ แต่ลึกซึ้งด้วยหลักธรรมและอุดมการณ์อันหนักแน่นในพระรัตนตรัย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [b-wai][b-wai][b-wai]
     
  17. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    วันนี้ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญ สร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ


    วันที่ เวลา หมายเลข
    11/10/07 15:30 C227B122

    จำนวนเงิน 500 บาทครับ


    โมทนาบุญด้วยครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  19. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    โมทนากับ รองปา-ทาน ครับ (รักษาการตอนปา-ทานมีภาระกิจด่วน ล้างจานครับ)
    (smile)
    nongnooo...
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต่อกันนะครับ
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left colSpan=2>คำปรารภจาก อ.ระฆัง (ต่อ)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    www.somdejto.com -> ถาม-ตอบโดย อาจารย์ระฆัง

    <TABLE class=forumline cellSpacing=1 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=row2 vAlign=top align=left width=150>ข้าแผ่นดิน



    เข้าร่วม: 28 Sep 2007
    ตอบ: 3
    ที่อยู่: ประเทศสยาม

    </TD><TD class=row2 vAlign=top width="100%" height=28><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]ตอบเมื่อ: Thu Oct 11, 2007 12:27 pm เรื่อง: ความคิดเห็น</TD><TD vAlign=top noWrap>[​IMG] </TD></TR><TR><TD colSpan=2><HR></TD></TR><TR><TD colSpan=2>ทุกท่านคงทราบและเข้าใจในคำสอนของท่านอาจารย์ฯ เพราะอ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่มีข้อกังขา
    ด้วยเพราะพระมหาบารมีของสมเด็จฯ ทำให้หลายท่านไดรับพระมหาบารมี จึงเกิดความเข้าใจ และควรหมั่นศึกษาหาความรู้จากที่ต่างๆแล้ววิเคราะห์ไตร่ตรองถูกผิดกันต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...