การจัดแสงมาตราฐานในการพิจารณา"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นิยม"

ขออนุญาตนำภาพ"พระสมเด็จวัดระฆัง"(องค์เสี่ยดม)กับภาพ"พระสมเด็จวัดระฆัง"องค์ของข้าพเจ้า ต่างก็จัดให้แสงเข้าทางด้านมาตราฐาน จะสังเกตุได้ว่ามีความคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันตรงองค์หนึ่งสภาพเดิมๆเก็บรักษาอย่างดี ส่วนอีกองค์เคยอยู่ใน"รัก"ผ่านการล้างผิวมาหนักพอสมควร ก็ขอให้ท่านสมาชิกได้เปรียบเทียบ เชิงวิเคราะห์ ตามพื้นฐานความรู้ของแต่ละท่าน ว่าเห็นสมควรอย่างไร
"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่"(แม่พิมพ์ที่1)

 

"หลวงพ่อวัดไร่ขิง"เน้ือดิน(ยุคต้น)
นำมาถ่ายรูป โดยจัดให้แสงเข้าทางด้านขวามือ ขององค์พระ(องศาท่ี10-11นาฬิกา)ภาพท่ีออกมาก็ยังดูใช้ได้ มีความสวยงาม ถึงแม้จะบ่ินแตกทางมุมบน ด้านขวามือ เน่ืองจากเป็นของหายากมาก จึงนำมาลงให้เพ่ือนสมาชิกได้ชมกัน

 

เน้ือ"พระสมเด็จวัดระฆัง"ในยุคแรกๆถึงยุคกลางตอนปลาย(เฉพาะเน้ือนิยม)ส่วนมากจะคล้ายคลึงกันมีความ อ่อน,แก่ หนัก,เบา ของมวลสาร และส่วนผสมท่ี่แตกต่างกันไปตามข้ันตอนของการสร้างในแต่ละคร้ัง ส่วนเนื้อ"พระสมเด็จวัดระฆัง"ยุคสุดท้าย นิยมสุดๆทั้งพิมพ์ ทั้งเนื้อ เรื่องพิมพ์เพื่อนสมาชิกทุกท่าน คงทราบกันดีอยู่แล้ว ขอกล่าวถึงเฉพาะเนื้อนิยมใน"พระสมเด็จวัดระฆัง"ยุคสุดท้าย จะมีความคล้ายคลึงกับ เนื้อ"พระสมเด็จบางขุนพรหม"ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น การสร้าง"พระสมเด็จวัดระฆัง"ในยุคสุดท้าย รวมไปถึงการสร้าง"พระสมเด็จบางขุนพรหม"ได้ใช้วิธีการบด เข้ามาแทนการตำ"พระสมเด็จวัดระฆัง"ยุคต้น,ยุคกลาง ไม่ได้หายไปไหน แม้แต่องค์ที่ชำรุดเสียหาย ก็ถูกนำมาบดเพื่อเป็นชนวนในการสร้าง"พระสมเด็จวัดระฆังยุคสุดท้าย"และ"พระสมเด็จบางขุนพรหม"จากประสบการณ์จริงของข้าพเจ้า เคยบด"พระสมเด็จวัดระฆัง"เพื่อนำมาทำยา จากองค์ท่ีชำรุด ไม่ว่า"พระสมเด็จวัดระฆัง"องค์นั้นจะเป็น"เนื้อโซนหยาบ"ท่ีมีส่วนผสม+มวลสารมาก,ครบ และชัดเจนขนาดไหน เวลาบดออกมาเนื้อจะเหมือน"พระสมเด็จบางขุนพรหม"ยังไง ยังงั้น และย่ิงนำมาเพิ่มสารยึดเกาะประเภท"น้ำมันตังอิ๊ว"ด้วยแล้ว สีสรร เนื้อหาจะออกมาเป็นเช่นไร
ก็ขอให้เพื่อนสมาชิก ลองจินตนาการ+พิจารณา ต่อยอดกันดู เพื่อเพิ่มความเข้าใจในเนื้อแท้"พระสมเด็จวัดระฆัง"เนื้อนิยมว่า เป็นการสร้างขึ้นในยุคสุดท้าย จริงหรือไม่
หมายเหตุ ในการกระทำของข้าพเจ้าทุกครั้ง ได้ขออนุญาตต่อดวงวิญญาณ องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทุกครั้งครับ.

 

ขอบคุณครับ

 

ยินดีครับท่านสมาชิก ckj_tong1 ร่วมศึกษาไปพร้อมกันเลยครับท่าน
ขอนำพระเนื้อดิน"องค์ครู"ท่ีหวงแหนท่ีสุดองค์หนึ่ง มีอายุระหว่าง700-900 กว่าปี มาให้เพื่อนสมาชิกได้ชม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณา เปรียบเทียบ"พระเครื่อง"เนื้อดินท่ีมีอายุใกล้เคียงกัน ข้าพเจ้าล้างผิวมาแล้วเม่ือประมาณ 10 ปี แล้วเก็บใส่ตู้เซฟ พึ่งจะนำมาถ่ายรูปสดๆ ร้อนๆ โดยจัดให้แสงเข้าทางด้านมาตราฐานเช่นเดิม ลองพิจารณากันดูนะครับ
"พระยอดขุนพลศรีเทพ"กรุศรีเทพ(องค์จริง)

 

"ด้านหลัง พระยอดขุนพลศรีเทพ"ครับท่าน

 

การสร้างวัตถุมงคล"เนื้อดิน"สูตรหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน(ว่านดอกมะขาม+แกลบขาว)และนี่ก็เป็นวัตถุมงคลที่หายากมากอีกชิ้นหนึ่ง ของหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ(ศิษย์หลวงพ่อโหน่ง)นำมาให้เพื่อนสมาชิกได้ชมกันครับ.
"ตุ๊กแก"หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ(ยุคต้น)

 

"โค๊ต ฆ ท่ีใต้ท้อง"ให้พิจารณาว่านดอกมะขาม และแกลบขาวในเนื้อดินครับ.

 

เนื้อนี้ถึงยุคหรือเปล่าครับ

 

พิจารณาจากภาพดูแล้ว เนื้อลักษณะเช่นนี้น่าจะประมาณปี2482-ปี2495ครับ หลวงปู่นาค วัดระฆัง หรือหลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์ ก็เป็นไปได้ครับ.

 

ขอบพระคุณครับ หมายความว่าพอเก็บได้นะครับ

 

ผมมีเนื้อขาว ๆ เหมือนซิลิโลนเลยครับ แต่ส่องดูมีมวลสาร แห้ง หดตัว ย่อยสลาย และยังพบว่าเหมือมีก้อนมวลสารเก่าบดไม่ละเอียดก็มีครับ ขอความเห็นด้วยครับท่าน

 

เรียนท่านสมาชิก weetak ผมได้พยายามขยายรูป แต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้ เผื่อสมาชิกท่านอื่นจะช่วยร่วมพิจารณาด้วย โดยส่วนตัวของข้าพเจ้า พิจารณาท่ีพิมพ์ทรงแล้วมีความคล้าย"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่"(องค์ดูง่าย) เพื่อเป็นการต่อยอด สำหรับท่านเจ้าของพระ ด้วยความเป็นกัลยาณมิตรครับท่าน

 

ขอบพระคุณอย่างแรง ผมเองก็พึ่งจะมีความเข้าใจว่าพระเครื่องแนวนี้เขาทำกันมานานนับร้อยปีแล้ว สารพัดวิธีจริง ๆ แต่ผมชอบว่าเป็นพิมพ์ของท่านเลยเก็บติดตัวไว้เผื่อวาสนามีของแท้จะมาโปรดบ้าง อิอิ สาธุ

 

ก่อนท่ีจะลงลึกไปถึงเนื้อ"พระสมเด็จ"ท่ีมีอายุกว่า150 ปีเรามาลองพิจารณาเนื้อ"พระสมเด็จในปี2484(ประมาณ72ปี)เกือบครึ่ง แล้วลองจินตนาการเพิ่มเข้าไปอีก 1เท่าตัว ก็จะได้ เนื้ิอ"พระสมเด็จ"ท่ีเก่าทันยุคองค์สมเด็จ"พระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี"ท่าน แต่ก็ยังไม่ 100%ครับ เนื่องจากพระสมเด็จท่ีนำมาให้ชมเป็นลักษณะ"เนื้อปลาย"(บดละเอียดด้วยเครื่อง ตามยุคสมัย)ขอให้เพิ่มจินตนาการถึงลักษณะของ"พระสมเด็จวัดระฆัง เนื้อต้น"(ตำทีละครก ผสมมวสสารวิเศษ เป็นคราวๆไป)สารยึดเกาะก็ยังไม่ใช้น้ำมัน"ตังอิ๊ว" และยังทาแม่พิมพ์ด้วย"น้ำมันมะพร้าว"อีกต่างหาก ยากหน่อยนะครับ แต่เราจะได้ผลการวิเคราะห์ ท่ีใกล้เคียงความเป็นจริง มากท่ีสุดครับ "พระสมเด็จ"องค์นี้สร้างโดยพระอาจารย์สุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี2484

 

"พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ แขนกลม"เนื้อผงสมเด็จวัดระฆังล้วนๆผสมขมิ้น

 

เนื้อแท้"พระสมเด็จวัดระฆัง"ในยุคต้นๆ ก่อนท่ีจะมาเสริมด้วยสารยึดเกาะประเภท"น้ำมันตังอิ๊ว"หรือ(น้ำมันท้ง)จะมีลักษณะแห้งเป็นเกล็ด มองเห็นเป็นชั้น แต่ก็ยังคงความหนึกนุ่มไว้ ปกคลุมด้วยคราบน้ำปูนแห้งเกาะบนผิวพื้นด้านหน้า แลดูเป็นธรรมชาติ เนื้อแบบนี้ถ้าเป็น"พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่"ก็คงไม่ต้องอธิบายกันมากมายอย่างนี้

 

"เนื้อต้น"พระสมเด็จวัดระฆัง

 

ขอกราบงาม ๆ ในความเมตตา ข้าพเจ้าด้อยปัญญายิ่งนัก จบมาหลายปริญญา แตมาทึ่งภูมิปัญญาขององค์หลวงปู่ช่างเฉลียวฉลาดยิ่งนัก ศึกษาไม่รู้จบ ขอบพระคุณท่านอีกครั้ง

 

การจัดแสงแบบนี้ถือว่าผ่านใหมครับผม