ทำไมเราต้องเชื่อมบุญด้วยการอุทิศบุญให้กับเทพยดา เทวดาที่คุ้มครองดูแลเรา ...ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่จะพูดถึง คือ ความสำคัญของการโมทนาอุทิศบุญไปให้กับเทพยดา เทวดาที่คุ้มครองและช่วยเหลือเราอยู่ หลายคนคงงง และอาจยังไม่รู้ว่า คนเราทุกคนนั้นมีเทพยดา เทวดา ดูแลเราอยู่ทุกคน <O</O เอาง่ายๆ เชื่อว่าคนทุกคนที่เชื่อในเรื่องกรรม เรื่องของการทำบุญ คงต้องเคยพบเจอกับเรื่องบางเรื่องที่อธิบายไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการพิสูจน์ แต่มันสัมผัสได้ด้วยจิตที่มันอยู่ภายในตัวเรา <O</O ไม่ว่าจะเป็นการพบกับโชคลาภ การทำมาค้าขายที่เกิดผล การผ่านเรื่องราวร้ายๆ ในชีวิตที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะผ่านมันมาได้ ส่วนหนึ่งเราผ่านมันมาได้เพราะเรามีบุญกุศลที่เราสร้างสะสมไว้ทั้งในอดีตชาติและในชาติปัจจุบัน ที่เรากำลังเพียรทำกันอยู่มันส่งผลมาช่วยเรา <O</O ขอให้รู้ตรงนี้ ที่นี่เลยว่า อีกส่วนหนึ่งเป็นการช่วยเหลือของเทพ เทวดาที่ยังรักและคอยปกป้องเอาฤทธิ์ เอาบารมีของท่านมาช่วยเหลือเรา และเมื่อท่านได้รับส่วนบุญที่เราอุทิศให้อยู่เรื่อยๆ ท่านก็มาช่วยรักษาคุมครองเรา <O</O ข้อนี้พระพุทธเจ้าท่านเคยแสดงเอาไว้เป็นประจักษ์พยาน อยู่ในธรรมะและบทสวดมนต์ที่ว่า <O</O “ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวตา <O</O สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เต” <O</O ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธเจ้า ขอให้เทวดาจงรักษา เรามาไหว้ เรานับถือพระพุทธเจ้า เทวดาก็นิยมนับถือด้วย เพราะเห็นว่าเราเป็นคนดี นับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง สมควรต้องรักษาให้ความปลอดภัยแก่เรา <O</O และเหล่าเทพ เทวดา ที่ปกป้องรักษาคุ้มครองดูแลเราอยู่นั้น ในอดีตท่านก็คือ บุคคลที่รักเราและเป็นห่วงใยเราด้วยใจบริสุทธิ์อย่างแท้จริง อาจจะเป็นปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ พี่น้อง ครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว และท่านยังมีความปรารถนาที่จะไปบรรลุในแรงสัจจะอธิษฐานของท่านไม่ว่าจะเป็นในพุทธภูมิ พระอรหันต์ หรือในสวรรค์ชั้นใดก็ตาม <O</O เวลานี้ท่านยังคงเสวยบุญอยู่ในสวรรค์ ในวิมานชั้นต่างๆ และมีแรงบุญที่กล้าแกร่งและมีอิทธิฤทธิ์ตามแรงบุญของท่านที่สะสม รวมถึงแรงบุญที่มีคนโมทนาอุทิศไปให้ท่านอยู่เสมอ <O</O และตลอดชีวิตของเรามีกี่ครั้งกี่หน ที่เราตั้งจิตอธิษฐานขอให้ท่านช่วย เมื่อท่านต้องออกแรงช่วยเราเพราะรักและห่วงใยเราแล้ว แน่นอนว่าพละกำลังแรงบุญของท่าน ที่ต้องเสียสละเพื่อมาช่วยเราก็ต้องลดน้อยถอยลงๆ ไปทุกทีเช่นกัน <O</O เหมือนคนที่ต้องออกแรงลากจูงเรือในลำน้ำที่เชี่ยวกราก ใช้แรง ออกแรงมากๆ มันก็เหนื่อยและเพลียแรง หมดแรง แต่ถ้าได้น้ำเย็นๆ อาหารดีๆ ไปเสริมกำลัง ก็มีแรงต่อไป อาหารดีๆ น้ำทิพย์ ที่เราส่งไปก็คือ บุญกุศลนั่นเอง มันจึงสมควรเป็นหน้าที่ของเราต้องตอบแทนพระคุณ กตัญญูต่อท่าน ทำบุญโมทนาอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน ไปเติมพลังบุญให้ท่าน ทำให้ท่านมีบุญ มีบารมีมากขึ้นๆ เวลาที่เรามีเรื่องร้ายๆ เข้ามาอีกไม่ว่าจะใหญ่โตเพียงใด ท่านก็จะได้มีแรงมาช่วยให้เรารอดไปได้อีก <O</O มีหลายคนยังไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเราทำบุญ ทำทาน ทำกุศลอะไรก็ตามเราต้องโมทนาอุทิศไปให้ท่าน หลายคนยังไม่เข้าใจถึงขั้นกลัวว่าบุญที่เราสร้างเราทำไปมันจะหมด เมื่อให้คนอื่น จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ มันคนละเรื่องกัน <O</O และการทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งไม่ว่าจะนานสักกี่ปีๆ บุญที่ทำไปนั้นก็ยังคงอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปีก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญไม่หายไปไหน ไม่ใช่เราทำบุญแล้วเดี๋ยวเดียวบุญหายไป ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าทำบุญแล้วไม่ได้อุทิศส่วนกุศล ผู้ทำเป็นผู้ได้บุญเต็มที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะอุทิศให้เขาหรือไม่ให้ ทีนี้ถ้าเราให้เขาบุญของเราก็ไม่หมด ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม <O</O อย่างเรื่องของพระอนุรุทธ ในสมัยพุทธกาล ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายมาขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ท่านรับบาตร <O</O ท่านก็เมตตา เปรียบเทียบให้ฟังว่า <O</O “สมมติว่าโยมมีคบและก็มีไฟด้วย แต่คนอื่นเขามีแต่คบไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่างก็มาขอต่อไฟที่คบของโยม แล้วคบของทุกคนก็สว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของโยมจะยุบไปไหม” <O</O ท่านพระอนุรุทธ ก็ตอบว่า <O</O “ไม่ยุบ” <O</O แล้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านก็ตอบกลับไปว่า <O</O “การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน เราให้เขาเขาก็โมทนา แต่บุญของเราก็ยังอยู่เต็มร้อย เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้หายไป” <O</O หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หรือพระสุธรรมคณาจารย์ ท่านเป็นพระสุปฎิปันโนอีกรูปหนึ่งที่เราควรเคารพกราบไหว้ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เมตตาเล่าไว้ในหนังสือหลวงปู่เล่าเรื่อง เทวดา พญานาค พระธาตุ จัดพิมพ์เป็นธรรมทานโดยชมรมกัลยาณธรรม ยืนยันในเรื่องการอุทิศบุญไว้อีกว่า <O</O “บุญกุศลที่เราอุทิศไปให้ ถึงเขาจะไม่ได้รับ ก็ไม่ได้สูญหายไปไหน <O</O บุญกุศลนี่ไม่มีการสูญสลาย ถ้าไม่มีการเสวยสุขจากผลบุญนั้น <O</O กล่าวคือ เราสร้างบุญกุศลมากเท่าไร ก็ไม่ได้เป็นการแบ่งแยก หรือทำให้บุญกุศลที่เราสร้างนั้นถดถอยน้อยลงแต่ประการใด คงสะสมส่งผลให้แก่เราเมื่อถึงกาลอันสมควร เมื่อส่งผลแล้วจึงเป็นการไปใช้ไป หมดไปซึ่งบุญในแต่ละส่วน แต่บุญมีผลอันยิ่งสามารถส่งผลให้แก่ผู้สร้างได้นานข้ามภพข้ามชาติได้หลายๆ ชาติทีเดียว” ดังนั้นเราควรเข้าใจเสียใหม่ว่า การอุทิศบุญส่วนกุศลให้ผู้อื่น ทั้งเทพยดา ครูบาอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ปู่ย่าตายาย พ่อแม่พี่น้องหรือใครๆ นั้น มันไม่ได้ทำให้บุญของเราหายไปแม้แต่นิดเดียว <Oและเรายังคงได้ใช้บุญของเราอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแน่นอน... ............................................................................................ <O</O ที่มา ทำไมเราต้องเชื่อมบุญด้วยการอุทิศบุญให้กับเทพยดา เทวดาที่คุ้มครองดูแลเรา �<O</O
อนูโมทนา ขออารธนาบารมีแห่งพระพูัทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์ เจ้าทุกพระองค์ มีบารมีหลวงปู่ดู่ เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ได้โปรดน้อมรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวลแผ่ให้กับเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่คอยปกปักรักษาท่านเจ้าของกระทู้ ตัวท่่านเจ้าของกระทู้ และเจ้ากรรมนายเวร จงสามารถรับพลังบุญบารมีนี้ได้ เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาฯขอให้อนุโมทนาในผลบุญบารมีนี้ ให้มีภพภูมิ บุญญฤทธิ์ สูงขึ้น ตัวเจ้าของกระทู้ขอให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เจ้ากรรมนายเวรขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดน้อมนำให้อนุโมทนาและมีภพภูมิที่ดี เลิกจองเวรแก่กันและกันด้วยเทอญ พุทธังอนันตัง ธรรมจักวาลัง สังฆนิพพานัง นะปัจจโยโหติ สาธุ สาธุ สาธุ