สอบถามหน่อยครับ นี่ใช่หลวงปู้เณรคำ ที่โด่งดังหรือป่าว

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย surer, 4 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ผมไปเจอมากำลังเป็นกระแส เลยสงสัยใช่ป่าว หรือว่าคนหน้าคลาย
    ถ้าใช่ก็ดีจะได้ตาสว่างกัน ถ้าไม่ใช่ก็ดี ยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ
    ภาพอาจไม่เหมาะสมเอาเป็นว่า ผมจะเป๊ะเป็นลิ้งแล้วกัน
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wCS834A6vDbCicib" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/55a/ePtq98.jpg" /></a>
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wCS83Mxt4RUsJyWJ" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/92e/SdVeMN.jpg" /></a>

    องค์นี้อยู่แถวบ้านผมผมเคยไปวัดด้วย และหลายคนศรัธธามาก ถ้าคนในรูปเป้นท่านจริง ก็อยากให้ทุกคนตาสว่าง
    รูปฉาว <<< คลิกดูรูปฉาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  2. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    บางที่ถ้าเราโลกสวยเกินไปหรือเรามองโลกในแง่ดีเกินไป เราจะโดนหลอกให้โง่ จากคนที่เห้นแก่ตัว
     
  3. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ไม่รู้ซิ แต่ก็เคยเห็นรูปตั้งนานละนะตั้งแต่ปีแล้วๆ ถ้าไม่ได้ตัดต่อก็ใช่เลยแหละ

    แต่ลองๆดูในเวปนี้
    หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก วัดป่าขันติธรรม ก็ยังเห็น ยังอยู่ปกติ ยังมีคนเชื่อศรัทธากันอยู่ งงเลย ?
     
  4. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    รูปที่นอนกับใครไม่รู้ เป็นไปได้สูงว่าจะตัดต่อ
    แต่คำสอนว่านิพพานสูญจากหลวงปู่ท่าน ไม่ตัดต่อนะครับ
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    จะเกิดอะไรขึ้น

    เมื่อ คนไทย ยังจับผิด สงฆ์

    ดูคลิป

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=BWAK0J8Uhzk]Meet Porter. The World's First Driving Dog. - YouTube[/ame]
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    สมมติว่า งง !!

    ทำไม ห้ามต่อว่า พระสงฆ์

    แหม

    เอ้า เรามาพิจารณากัน

    หมา นี้ เลวกว่าคน แน่นอน จริงไหม หมา นี้ ไม่มีทาง มีศีล มีความเจริญ
    เสมอคนได้ อันนี้แน่นอน

    แต่ ถ้าเราไป ด่าหมา ทั้งๆ ที่ หมามันก็ต่ำต้อย ศีลก็มีไม่ได้ ก็ลองพิจารณา
    ไปว่า ด่าหมา แล้ว คนที่ด่าหมา เจริญขึ้นหรือเปล่า


    ก็ลำพัง การด่าหมา มันยังไม่ช่วยให้เรา เจริญ ขึ้นได้เลย

    ประสาอะไร กับ การด่าคน ที่มี ภพภูมิ บุญพามาเกิด ดีกว่า หมา ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า หละ
     
  7. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ถ้าคิดแบบหมาๆก็คงประมาณนั้นมั้งครับ
    แล้วถ้าหมามันสามารถที่จะฝึกได้ละ ด่าในการกระทำบางอย่างของมันไปแล้วมันจำไปเรียนรู้และแก้ไขได้ละ

    แล้วถ้าคนบางคน ละเลยหน้าที่ การกระทำของตนเองอยู่ละครับ และทำให้คนอื่นเข้าใจผิด

    จากคนทั่วไปธรรมดาดันไปบวชเป็นพระ
    บางคน บวชเป็นพระ ศีลก็รักษาไม่ครบ อ้างนั้นแถนี้ การกระทำไม่ตรงตามธรรม พาคนไปหลง ไปงมงาย อะไรแบบนี้
    แต่คนก็กลับเห็นว่าบุคคลนั้นเป็นพระ เป็นเนื้อนาบุญ ทั้งๆที่เผลอๆศีลขาดด่างพร้อย บางคนอาจจะปาราชิกไปแล้ว

    เหมือนประมาณว่ามีคนไปอยู่ในสังคมๆหนึ่ง ซึ่งในสังคมนั้นก็ได้ตั้งกฏ เกณฑ์ กติกาต่างๆไว้ เอาง่ายๆอย่างเช่นกฏหมายทั่วๆไป แล้วคนนั้นเขาทำผิดขึ้นมา จะให้เฉยหรอ ? หรือจะทำการว่ากล่าว ตักเตือน เผื่อบุคคลนั้นจะหลงจะลืมแล้วกลับตัวได้มั้ง เพื่อเป็นการรักษาสิ่งที่ดี ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง มันไม่ดีกว่าหรอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  8. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ไม่ได้เข้ามาฟันเฟิร์ม ว่าใช่ใคร รึไม่ใช่ใคร แต่เข้ามาเพื่อบอกว่า เป็นธรรมดาโลก ที่ในดีมีเลว ในมืดมีสว่าง ในขาวมีดำ ในแท้มีเทียม..มันเป็นเช่นนั้นเอง

    [​IMG]
     
  9. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    ยมกสูตร
    ว่าด้วยพระขีณาสพตายแล้วสูญหรือไม่
    [๑๙๘] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตร อยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถ-
    *บิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี. ก็โดยสมัยนั้นแล ยมกภิกษุเกิดทิฏฐิอันชั่วช้าเห็นปานนี้ว่า
    เราย่อมรู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพเมื่อตายไปแล้ว
    ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก. ภิกษุหลายรูป ได้ฟังแล้วว่า ได้ยินว่า ยมกภิกษุเกิด
    ทิฏฐิอันชั่วช้าเป็นปานนี้ว่า เรารู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพ
    เมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก. ครั้งนั้น ภิกษุเหล่านั้น จึงพากัน
    เข้าไปหาท่านยมกภิกษุถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยกับท่านยมกภิกษุ ครั้นผ่านการสนทนาปราศรัย
    ชวนให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้ว จึงถามท่านยมกภิกษุว่า
    ดูกรท่านยมกะ ทราบว่า ท่านเกิดทิฏฐิอันชั่วช้า เห็นปานนี้ว่า เรารู้ว่าทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มี-
    *พระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพเมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก
    จริงหรือ? ท่านยมกะกล่าวว่า อย่างนั้น อาวุโส.
    ภิ. ดูกรอาวุโสยมกะ ท่านอย่าได้พูดอย่างนั้น อย่าได้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาค เพราะ
    การกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคไม่ดีเลย เพราะพระผู้มีพระภาคไม่พึงตรัสอย่างนี้ว่า พระขีณาสพเมื่อ
    ตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก.
    ท่านยมกะ เมื่อถูกภิกษุเหล่านั้นกล่าวแม้อย่างนี้ ยังขืนกล่าวถือทิฏฐิอันชั่วช้านั้น อย่าง
    หนักแน่นอย่างนั้นว่า เรารู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพเมื่อ
    ตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก.
    ภิกษุเหล่านั้น ย่อมไม่อาจเพื่อจะยังท่านยมกะ ให้ถอนทิฏฐิอันชั่วช้านั้นได้ จึงลุกจาก
    อาสนะ เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรจนถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว จึงกล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า ข้าแต่
    ท่านสารีบุตร ยมกภิกษุเกิดทิฏฐิอันชั่วช้าเห็นปานนี้ว่า เรารู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาค
    ทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพเมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก ขอ
    โอกาสนิมนต์ท่านพระสารีบุตรไปหายมกภิกษุถึงที่อยู่ เพื่ออนุเคราะห์เถิด. ท่านพระสารีบุตรรับ
    นิมนต์โดยดุษณีภาพ.
    [๑๙๙] ครั้งนั้น เวลาเย็น ท่านพระสารีบุตรออกจากที่พักผ่อนแล้วเข้าไปหาท่านยมกะ
    ถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยกับท่านยมกะ ครั้นผ่านการสนทนาปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
    จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ถามท่านยมกะว่า ดูกรอาวุโสยมกะ ทราบว่า ท่านเกิด
    ทิฏฐิอันชั่วช้าเห็นปานนี้ว่า เรารู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพ
    เมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก ดังนี้ จริงหรือ? ท่านยมกะตอบว่า
    อย่างนั้นแล ท่านสารีบุตร.
    สา. ดูกรท่านยมกะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ย. ไม่เที่ยง ท่าน ฯลฯ
    สา. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ย. ไม่เที่ยง ท่าน ฯลฯ
    สา. เพราะเหตุนี้นั้นแล ยมกะ พระอริยสาวกผู้ใดสดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ
    รู้ชัดว่า ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก.
    [๒๐๐] สา. ดูกรท่านยมกะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านเห็นรูปว่าเป็น
    สัตว์เป็นบุคคลหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นเวทนาว่าสัตว์เป็นบุคคลหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นสัญญาว่าเป็นสัตว์เป็นบุคคลหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นสังขารว่าเป็นสัตว์เป็นบุคคลหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นวิญญาณว่าเป็นสัตว์เป็นบุคคลหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    [๒๐๑] สา. ดูกรท่านยมกะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคล
    มีในรูปหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลอื่นจากรูปหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลมีในเวทนาหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลอื่นจากเวทนาหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลมีในสัญญาหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลมีในสังขารหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลอื่นจากสังขารหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลมีในวิญญาณหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ท่านเห็นว่าสัตว์บุคคลอื่นจากวิญญาณหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    [๒๐๒] สา. ดูกรยมกะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านเห็นรูป เวทนา
    สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็นสัตว์บุคคลหรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    [๒๐๓] สา. ดูกรท่านยมกะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านเห็นว่า สัตว์
    บุคคลนี้นั้นไม่มีรูป ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีสังขาร ไม่มีวิญญาณ หรือ?
    ย. ไม่ใช่อย่างนั้น ท่าน.
    สา. ดูกรท่านยมกะ ก็โดยที่จริง โดยที่แท้ ท่านจะค้นหาสัตว์บุคคลในขันธ์ ๕ เหล่านี้
    ในปัจจุบันไม่ได้เลย ควรแลหรือที่ท่านจะยืนยันว่า เรารู้ทั่วถึงธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาค
    ทรงแสดงแล้วว่า พระขีณาสพเมื่อตายไปแล้ว ย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก.
    ย. ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร เมื่อก่อนผมไม่รู้อย่างนี้ จึงได้เกิดทิฏฐิอันชั่วช้าอย่างนั้น แต่
    เดี๋ยวนี้ ผมละทิฏฐิอันชั่วช้านั้นได้แล้ว และผมก็ได้บรรลุธรรมแล้วเพราะฟังธรรมเทศนานี้ ของ
    ท่านพระสารีบุตร.
    [๒๐๔] สา. ดูกรท่านยมกะ ถ้าชนทั้งหลาย พึงถามท่านอย่างนี้ว่า ท่านยมกะ ภิกษุ
    ผู้ที่เป็นพระอรหันตขีณาสพ เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเป็นอะไร ท่านถูกถามอย่างนั้น จะพึงกล่าวแก้
    ว่าอย่างไร?
    ย. ข้าแต่ท่านสารีบุตร ถ้าเขาถามอย่างนั้น ผมพึงกล่าวแก้อย่างนี้ว่ารูปแลไม่เที่ยง สิ่ง
    ใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นดับไปแล้ว ถึงแล้วซึ่งการตั้งอยู่ไม่ได้ เวทนา
    สัญญา สังขาร วิญญาณไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นดับไป
    แล้ว ถึงแล้วซึ่งการตั้งอยู่ไม่ได้ ข้าแต่ท่านสารีบุตร ผมถูกเขาถามอย่างนั้น พึงกล่าวแก้อย่างนี้.

    [๒๐๕] สา. ดีละๆ ยมกะ ถ้าอย่างนั้น เราจักอุปมาให้ท่านฟัง เพื่อหยั่งรู้ความข้อ
    นั้นให้ยิ่งๆ ขึ้น. ดูกรท่านยมกะ เปรียบเหมือนคฤหบดี หรือบุตรของคฤหบดีผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์
    มาก มีโภคะมาก และเขารักษาตัวกวดขัน เกิดมีบุรุษคนหนึ่งประสงค์ความพินาศ ประสงค์ความ
    ไม่เป็นประโยชน์ ประสงค์ความไม่ปลอดภัย อยากจะปลงชีวิตเขาเสีย เขาพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า
    คฤหบดีและบุตรคฤหบดีนี้ เป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเขามีการรักษาอย่าง
    กวดขัน การที่จะอุกอาจปลงชีวิตนี้ ไม่ใช่เป็นการทำได้ง่ายเลย อย่ากระนั้นเลย เราพึงใช้อุบาย
    ปลงชีวิต. บุรุษนั้น พึงเข้าไปหาคฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้นแล้ว พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ผมขอเป็น
    คนรับใช้ท่าน. คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น พึงรับบุรุษนั้นไว้ใช้ เขาพึงรับใช้เรียบร้อยดีทุกประการ
    คือ มีปรกติตื่นก่อน นอนภายหลัง คอยฟังคำสั่ง ประพฤติให้เป็นที่พอใจ กล่าวแต่วาจาเป็นที่รัก
    ใคร่ คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น เชื่อเขาโดยความเป็นมิตร โดยความเป็นสหาย และถึงความ
    ไว้วางใจในเขา. เมื่อใด บุรุษนั้นพึงคิดว่า คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีไว้ใจเราดีแล้ว เมื่อนั้น บุรุษ
    นั้นรู้ว่า คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีอยู่ในที่ลับ พึงปลงชีวิตเสียด้วยศาตราอันคม. ท่านยมกะ ท่าน
    จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ในกาลใด บุรุษนั้นเข้าไปหาคฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีโน้นแล้ว
    กล่าวอย่างนี้ว่า ผมขอรับใช้ท่านแม้ในกาลนั้น เขาก็ชื่อว่าเป็นผู้ฆ่าอยู่แล้ว ก็แต่คฤหบดีหรือบุตร
    คฤหบดีนั้น หารู้จักบุรุษผู้ฆ่าว่า เป็นผู้ฆ่าเราไม่. ในกาลใด บุรุษนั้นตื่นก่อน นอนภายหลัง
    คอยฟังคำสั่ง ประพฤติให้เป็นที่พอใจ กล่าวแต่วาจาเป็นที่รักใคร่ แม้ในกาลนั้น เขาก็ชื่อว่าเป็น
    ผู้ฆ่าอยู่แล้ว ก็แต่คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น หารู้จักบุรุษผู้ฆ่านั้นว่า เป็นผู้ฆ่าเราไม่. และใน
    กาลใด บุรุษนั้นรู้ว่า คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้นอยู่ในที่ลับ จึงปลงชีวิตเสียด้วยศาตราอันคม
    แม้ในกาลนั้น เขาเป็นผู้ฆ่านั่นเอง ก็แต่คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น หารู้จักบุรุษนั้นว่าเป็นผู้ฆ่า
    เราไม่.
    ย. อย่างนั้น ท่าน.
    [๒๐๖] สา. ดูกรท่านยมกะ ข้ออุปมานี้ฉันใด ปุถุชนผู้มิได้สดับ ไม่ได้เห็นพระอริยะ
    ทั้งหลาย ไม่ฉลาดในอริยธรรม ไม่ได้รับแนะนำในอริยธรรม ไม่ได้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ไม่
    ฉลาดในสัปปุริสธรรม ไม่ได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรม ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเห็นรูป โดย
    ความเป็นตน ย่อมเห็นตนมีรูป ย่อมเห็นรูปในตน หรือย่อมเห็นตนในรูป ย่อมเห็นเวทนา
    โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมเห็นสัญญา โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมเห็นสังขาร โดยความเป็นตน
    ฯลฯ ย่อมเห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน ย่อมเห็นตนมีวิญญาณ ย่อมเห็นวิญญาณในตน หรือ
    ย่อมเห็นตนในวิญญาณ. เขาย่อมไม่รู้ชัด ตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    อันไม่เที่ยงว่า ไม่เที่ยง ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    อันเป็นทุกข์ว่า เป็นทุกข์ ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    อันเป็นอนัตตาว่า เป็นอนัตตา ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร
    วิญญาณ อันปัจจัยปรุงแต่งว่า อันปัจจัยแต่ง ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา
    สังขาร วิญญาณ อันเป็นผู้ฆ่า ว่าเป็นผู้ฆ่า. เขาย่อมเข้าไปถือมั่น ยึดมั่น ซึ่งรูป เวทนา สัญญา
    สังขาร วิญญาณว่า เป็นตัวตนของเรา. อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ อันปุถุชนนั้นเข้าไปถือมั่น ยึด
    มั่นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ตลอดกาลนาน.

    [๒๐๗] ดูกรท่านยมกะ ส่วนพระอริยสาวกผู้สดับแล้ว ได้เห็นพระอริยะทั้งหลาย ฉลาด
    ในอริยธรรม ได้รับแนะนำในอริยธรรมดีแล้ว ได้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ฉลาดในสัปปุริสธรรม
    ได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรมดีแล้ว ย่อมไม่เห็นรูป โดยความเป็นตน ย่อมไม่เห็นตนมีรูป ย่อม
    ไม่เห็นรูปในตน หรือย่อมไม่เห็นตนในรูป ย่อมไม่เห็นเวทนา โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่
    เห็นสัญญา โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่เห็นสังขาร โดยความเป็นตน ฯลฯ ย่อมไม่เห็นวิญญาณ
    โดยความเป็นตน ย่อมไม่เห็นตนมีวิญญาณ ย่อมไม่เห็นวิญญาณในตน หรือย่อมไม่เห็นตนใน
    วิญญาณ. เขาย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันไม่เที่ยงว่า
    ไม่เที่ยง. ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันเป็นทุกข์ว่า
    เป็นทุกข์. ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันเป็นอนัตตา
    ว่า เป็นอนัตตา. ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันปัจจัย
    ปรุงแต่ง ว่าปัจจัยปรุงแต่ง. ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    อันเป็นผู้ฆ่า ว่าเป็นผู้ฆ่า. เขาย่อมไม่เข้าไปถือมั่น ยึดมั่น ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร
    วิญญาณว่า เป็นตัวตนของเรา. อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ อันอริยสาวกนั้น ไม่เข้าไปถือมั่น ยึด
    มั่นแล้ว ย่อมเป็นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขตลอดกาลนาน.

    ย. ข้าแต่ท่านสารีบุตร ข้อที่เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ของท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ผู้เช่น
    นั้น เป็นผู้อนุเคราะห์ ใคร่ประโยชน์ เป็นผู้ว่ากล่าวพร่ำสอน ย่อมเป็นอย่างนั้นแท้ ก็แล
    จิตของผมหลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย ไม่ถือมั่น เพราะได้ฟังธรรมเทศนานี้ของท่านสารีบุตร.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  10. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    เมื่อกี้ผมลองหาเพิ่มเติม เจอเว็ปน่าสนใจอยู่ อธิบายเรื่องกรณีตัดต่อรูปอะไรนี่หละ ในไทยรัฐก็บอก ว่อนเน็ต! พระดังกิริยาไม่เหมาะสม ตัวแทนยันภาพเก่าตัดต่อ-ใส่ร้ายให้เสื่อมเสีย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    www.alittlebuddha.com Homepage of Wat Thai Las Vegas
     
  11. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    ของที่มันไม่มีตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะความไม่รู้ไปหลงยึดอยู่ว่าเป็นเราบ้าง เป็นวิญญาณบ้าง เป็นจิตบ้าง ทั้งทั้งทื่ทั้งหลายทั้งปวงไม่ได้พ้นไปจากขันธ์5คือ
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนอยู่ตั้งแต่ต้น
    การเข้าถึงพระนิพพานคือกระจ่างแจ้งในข้อธรรมนี้ว่า
    ยังกิญจิ สะมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมันติ สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา
    มันไม่ได้มีตัวตนแลสาระใดให้ยึดถือ
    แล้วจะว่านิพพานสูญอย่างไร
    ในเมื่อมันไม่ได้มีอะไรให้สูญตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
    เมื่อปราศจากความยึดมั่นถือมั่น
    การมีชีวิตอยู่ก็ดี
    การสิ้นไปแห่งชีวิตก็ดี
    หาได้มีสาระใดให้ยึดถือ ห่วง อาลัยไม่
    ก็แค่ปรากฏการแห่งไตรลักษณ์คือ
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเท่านั้น
    ทุกสิ่งเมื่อมาจากธรรมชาติ ก็คืนสู่ธรรมชาติ โดยไม่มีความรู้สึกใดใดไปเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ธรรมชาตินั้นๆ
    เหมือนสายฟ้าที่แลบเท่านั้น
     
  12. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    พระธรรม คือ พระพุทธ

    [​IMG]

    อานนท์..ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า

    ธรรมวินัยของพวกเรา มีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว

    พวกเราไม่มีพระศาสดา ดังนี้

    อานนท์..พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น

    อานนท์..ธรรมก็ดี วินัยก็ดี

    ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว

    แก่พวกเธอทั้งหลาย

    ธรรมวินัยนั้น

    จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย

    โดยกาลล่วงไปแห่งเรา


    [​IMG]

    พุทธวจน
     
  13. sopha zotos

    sopha zotos สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +11
    เพื่อความปลอดภัย ทางที่ดีอย่าลงเลยดีกว่า ถ้าคนมีสติปัญญาก็ดีไป แต่ถ้าไม่ก็ส่วยไป :boo:
     
  14. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ไม่ว่าภาพจริง หรือตัดต่อ ก็ดีใจที่ได้ดู อย่างน้อยก็จะได้ไม่หลงงมงาย

    ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ... พระแท้ไม่กลัวการจับผิด
     
  15. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,332
    เห็นแล้วทำให้เราเลวลงหรือดีขึ้น ว่าจะดูแต่ไม่ขอดูดีกว่า ทำดีท่านก็ได้ดีเอง ทำไม่ดีท่านก็ได้รับผลเอง

    แต่อันไหนที่ดีดิฉันก็จะน้อมรับไว้ค่ะ
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:m ทุกอย่างมันไม่แน่เลยครับ ที่ใดที่เราว่าใช่ มันอาจไม่ใช่ก็ได้ สิ่งที่เราว่า ถูกมันอาจไม่ถูก สิ่งใดที่เราคิดถูก มันอาจผิดได้ บางครั้ง เราได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู มันไม่ใช่ก็มี บางครั้ง มันก็เรื่องละเอียดอ่อน บางครั้ง เรากินนอน อยู่กับ ท่าน ยังไม่รู้อะเลยก็มี ออกมากมาย เราเห็นกองไฟลุกโชน เราเข้าใกล้กองไฟ ก็อาจจะร้อนได้ ถ้ากระโดดเข้ากองไฟ ก็โดนไฟไหม้ไม่เหลือ ฉนั้นเราจะกระโดดเข้ากองไฟเลย ถ้ารู้ไม่จริง หรือเห็นแน่ชัดทุกขั้นตอน

    สิ่งใดมีผิด มันก็มีถูก สิ่งมีถูก มันก็มีผิด สิ่งใดมีรู้ มันก็มีสิ่งไม่รู้ ผิดๆถูกๆเท็จๆจริงๆ
    เพชรจะอยู่ที่ตรงไหน มันก็ยังเป็นเพชร อยู่นั่นแหละ อะไรก็มาทำอะไรให้เป็นอื่นไปไม่หรอกครับ:cool:
     
  17. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ผมคิดว่าคนไม่ชอบหลวงปู่น่ะมีเยอะมาก
    ส่วนหนึ่งก็มองท่านจากภายนอกด้วย

    อย่างตากับยายผมเคยไปหาท่านถึงวัดที่ศีรษะเกษ
    ท่านพูดจากับญาติโยมว่า
    "หลวงปู่น่ะเป็นพระหนุ่มรูปหล่อ หลายคนชวนไปเป็นดารา"
    ตากับยายผมเลิกศรัทธาไปเลย กลับมานินทาให้ผมฟังใหญ่
    แบบนี้ก็มี
    โดยยังไม่ได้ศึกษาคำสอนท่านเลย
    อันตรายอย่างยิ่งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2013
  18. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    อานนท์ ! เราได้กล่าวเตือนไว้ก่อนแล้วมิใช่
    หรือว่า “ความเป็นต่าง ๆ ความพลัดพราก ความเป็น
    อย่างอื่น จากของรักของชอบใจทั้งสิ้น ย่อมมี; อานนท์ !
    ข้อนั้น จักได้มาแต่ไหนเล่า : สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว เป็นแล้ว
    อันปัจจัยปรุงแล้ว มีความชำรุดไปเป็นธรรมดา, สิ่งนั้น
    อย่าชำรุดไปเลย ดังนี้; ข้อนั้น ย่อมเป็นฐานะที่มีไม่ได้”.

    อานนท์ ! เปรียบเหมือนเมื่อต้นไม้ใหญ่ มีแก่น
    เหลืออยู่ ส่วนใดเก่าคร่ำกว่าส่วนอื่น ส่วนนั้นพึงย่อยยับ
    ไปก่อน, ข้อนี้ ฉันใด; อานนท์ ! เมื่อภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่มี
    ธรรมเป็นแก่นสารเหลืออยู่, สารีบุตรปรินิพพานไปแล้ว
    ฉันนั้นเหมือนกัน. อานนท์ ! ข้อนั้น จักได้มาแต่ไหนเล่า :
    สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยปรุงแล้ว มีความ
    ชำรุดไปเป็นธรรมดา สิ่งนั้นอย่าชำรุดไปเลย ดังนี้;
    ข้อนั้น ย่อมเป็นฐานะที่มีไม่ได้.

    อานนท์ ! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้
    พวกเธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นประทีป
    มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ;
    จงมีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ
    ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ.


    อานนท์ ! ภิกษุ มีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ
    ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ, มีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็น
    สรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะนั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    อานนท์ ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้
    พิจารณาเห็นกายในกายเนือง ๆ อยู่,
    พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายเนือง ๆ อยู่,
    พิจารณาเห็นจิตในจิตเนือง ๆ อยู่,
    พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายเนือง ๆ อยู่;
    มีเพียรเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
    มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้.

    อานนท์ ! ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่ามีตนเป็นประทีป
    มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; มีธรรมเป็น
    ประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่.
    อานนท์ ! ในกาลบัดนี้ก็ดี ในกาลล่วงไป
    แห่งเราก็ดี ใครก็ตามจักต้องมีตนเป็นประทีป มีตน
    เป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ; มีธรรมเป็นประทีป
    มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่.
    อานนท์ ! ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา,
    ภิกษุพวกนั้น จักเป็นผู้อยู่ในสถานะอันเลิศที่สุด.

    มหาวาร .สํ. ๑๙/๒๑๖/๗๓๖.
     
  19. Lanna141

    Lanna141 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +62
  20. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    นั่นน่ะสิ ผมก็รอว่าจะมีใครสังเกตหรือเปล่า ว่ารูปก็มาจากเว็บทางการของท่านนั่นเอง
    ผมสังเกตมานานแล้ว ดังนั้นมันจะตัดต่อได้อย่างไร

    แต่รูปที่นอนกับใครก็ไม่รู้นั่นล่ะ มาจากเว็บท่านหรือเปล่า
    อย่าลืมประเด็นตรงนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...