คำทำนายภัยพิบัติ อ.ทิพากร รินไธสงค์ จากปัจจุบัน ไปจนหลังสิ้นปี 2561

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย ลุงมหา๑, 7 พฤศจิกายน 2012.

  1. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
     
  2. scoopynoi

    scoopynoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +727

    ก็นี่แหละครับคุณพนมกุเลน ชาวอยุธยาเค้าผิดหรือครับ ไปว่าเค้าวางเฉยแบบนั้น
     
  3. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ชาวกรุงเก่าไม่ผิด มันเป็นเรื่องของภูมิประเทศเขา อย่างจังหวัดภาคกลางอื่นๆ รึกรุงเทพฯ ก็ท่วมท้นกันมาแล้ว ปี 54 เป็นหนังตัวอย่าง และถ้าปีไหนฝนมาเยอะ พายุมาแยะอีก มันก็มีสิทธิ์ท่วมอีก เพราะลักษณะทางกายภาพของเมืองเหล่านี้เอง
     
  4. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ญาติธรรม ผู้มีความศรัทธาอย่างแท้จริง ควรทำอย่างไร

    ขออนุญาตครับ

    ขออธิบายขยายความให้อีกที

    คนอีสานนั้น เขาเล่าลือ กันมาตั้งแต่ หลังปี พ.ศ.๒๕๐๐ ใหม่ๆว่า

    พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสบอกผ่านพวกเทวดามาว่า


    "ในยุคกึ่งพุทธกาล จะมีพระโพธิสัตว์ จุติลงมาในโลก"
    "เพื่อปลุก ศรัทธาชาวพุทธ ให้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา"
    "และจะนำความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ มาสู่มวลมนุษย์อีกครั้ง"

    ผมมีคลิป ที่ผู้มีบุญเมตตาร้องรำออกมาตามคำบอกเล่าของเทวดา
    เป็นแบบหมอรำ อีสาน

    ว่างๆจะ อั๊พโหลด พร้อมถอดคำให้ดูอีกที

    ดังนั้น ท่าน อ.ทิพากร ท่านจึง ต้อง ป้องกัน แก้ไขภัยพิบัติก่อน
    แล้วจึงโน้มนำความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เข้ามาอีกที

    แต่ตอนนี้ ท่านก็โน้มนำ ขุมทรัพย์ทั้งหลายในทุกที่ๆท่านไปทำพิธีเปิดบุญ

    ท่าน อ.ทิพากร ท่านบอกเล่าถึง พลังอำนาจ ๓ อย่าง คือ

    ๑ อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ๒ อำนาจเทวฤทธิ์
    ๓ พลังจักรวาล


    และที่ท่าน อ.ทิพากร เน้นย้ำอยู่เสมอ คือ

    "สูงสุดยอดคือ พระพุทธเจ้า"
    "ไม่มีพลังอะไรจะมาเทียบกับ พระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ได้"


    อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พลังอำนาจที่รวมตัวอยู่ใน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ วัตถุอาถรรย์ต่างๆ
    ท่านบอกเล่าสรุปว่า
    "พลังอำนาจจิตที่กล้าแข็งนั้นก็ดีอยู่"
    "แต่ถ้ามี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ก็จะทำให้กระจ่างยิ่งขึ้น เบาแรงยิ่งขึ้น"

    ดังนั้น ท่าน อ.ทิพากร ท่านจึง ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ วัตถุอาถรรย์
    อยู่เป็นจำนวนมาก

    บางอย่างได้มาท่านจะแจกเลย บางอย่างท่านอยากจะแจก
    แต่เจ้าของ เขาไม่เข้าใจ เขายังยึดติด รูปแบบเดิมๆ
    คือ อยากให้เอาไว้บรรจุในองค์พระใหญ่ชัยภูมิ
    แต่ความจริงคือ เมื่อ การก่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิถึงพระเพลา(หัวเข่า)
    เมื่อไร พระพุทธองค์ ก็จะเสด็จมาเปล่งพระมหาพุทธานุภาพได้แล้ว
    จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องเอา ของวิเศษ วัตถุอาถรรย์ใดๆ
    ไปบรรจุไว้ใน องค์พระอีก
    เพราะจะมีประโยชน์แค่ วางให้ คนได้ดูเท่านั้น


    แต่การนำเอาของเหล่านั้นมาแจกให้ญาติธรรม
    เพื่อเป็นฐานพลัง ในการทำมาหากิน ให้ล้น ให้เหลือ
    จะได้มีกำลังทรัพย์มาช่วยสร้างพระใหญ่ได้ เจ้าของจะได้กุศลสูงที่สุด

    ๒ อำนาจเทวฤทธิ์ เนื่องจาก เหล่าเทวดานั้น มีอยู่เป็นจำนวนมาก
    ทั้งรุกขเทวดา ทั้งอารักขเทวดา ทั้งกุมภเทวดา ทั้งอากาสะเทวดา

    ท่าน อ.ทิพากร เคยบอกเล่าว่า ที่ ทุ่งสัมฤทธิ์
    สถานที่เป็นสมรภูมิสู้รบของคุณแม่ย่าโมนั้น มีเทวดาอยู่เป็น สิบๆโกฐ

    เรื่องที่ อารักขเทวดาประจำบ้าน ท่านอนาถบิณทิกะเศรษฐี
    ดลบันดาล ทำให้ ท่านอนาถบิณทิกะเศรษฐี จนลงจนไม่ข้าวจะกิน
    ในเวลาแค่ไม่กี่วัน
    และพระพุทธองค์ได้เมตตาบอกว่า
    "ที่ท่านจนลงเพราะ อารักขเทวดาประจำบ้านของท่าน ไม่ช่วยท่าน"
    เมื่อท่านอนาถบิณทิกะเศรษฐี เคลียร์กับ อารักขเทวดาประจำบ้านของท่าน
    ภายในเวลาแค่ ๗ วัน ท่านกลับมารวยกว่าเดิม


    และเพราะว่า พุทธทำนายฉบับจริงของเหล่าเทวะดา คือ


    ๑ พระสงฆ์ ดูแล พระพุทธศาสนา ๒,๕๐๐ ปี
    ๒ เทวดา ดูเล พระพุทธศาสนา ๑,๐๐๐ ปี
    ๓ ผู้มีฤทธิ์ ภูติผีปีศาจ ดูแล พระพุทธศาสนา ๑,๕๐๐ ปี

    ก็จะครบ พุทธกาล ๕,๐๐๐ ปี พอดี


    ส่วนบทบาทของพระสงฆ์ ในยุคปัจจุบัน และ พระใหญ่ชัยภูมิสร้างเสร็จ
    แม้ผมจะรู้ แม้ท่าน อ.ทิพากร จะบอก
    ผมก็ขอผ่านไม่บอกออกมาจะดีกว่า

    แต่ความเป็นจริง เมื่อเอา พระโพธิ์สัตว์ + กับเทวดา
    ก็คือ ท่าน อ.ทิพากร + กับเทวดา และมีมนุษย์ ผู้มีบุญวาสนา ผู้มีสายใยบารมี ร่วมมือกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

    ก็ออกมาเป็นพระคาถา นะ โม ตะ โป ยา จา ถะ นั้นละครับ
    สรุปว่า พระคาถา ๗ ตัวนี้
    เป็นพระคาถาที่บอกว่า ญาติธรรมพระใหญ่ผู้สวดพระคาถานี้
    เพื่อโน้มนำให้ เหล่าทวยเทพเืทวดาทั้งหลาย ให้ช่วยกันให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล แก่ญาติธรรม ให้ทำอะไรให้สำเร็จ โดยง่าย โดยอัศจรรย์
    เมื่อญาติธรรม ประสพความสำเร็จ ประสบความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์แล้ว
    เมื่อนำเงินนั้นไปใช้จ่ายตามวิถีชาวพุทธที่ดีแล้ว
    เหลือกิน เหลือเก็บ ครอบครัว ญาติพี่น้อง อุดมสมบูรณ์ดีแล้ว
    ล้นเหลือ จึงนำปัจจัยมาช่วยสร้าง พระใหญ่ชัยภูมิ ต่อไป


    ท่าน อ.ทิพากร ท่านบอกว่า
    "ถ้าช่วยญาติธรรม ให้ มั่งคั่งรำรวย อุดมสมบูรณ์ ไม่ได้"
    "แล้ว ใครที่ไหน จะมาช่วยเราสร้าง พระใหญ่ชัยภูมิ"

    "เห็น บางท่านมี กุมารทองบ้าง รกแมวบ้าง รักยมบ้าง
    เขายังมาช่วย ทำมาค้าขายให้เจริญรุ่งเรืองได้"

    "แล้ว ญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมิ มีเหล่าเทวดามากมายมหาศาลคอยช่วยเหลือ จะไม่เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร"


    ๓ พลังจักรวาล
    ท่าน อ.ทิพากร ท่านได้เดินทางไป หมาเก๊า เพียงเพื่อจะได้ไปดูว่า
    ชาวจีนเขาร่ำรวยได้อย่างไร

    บ่อนการพนัน ในหมาเกีา เขาทำได้อย่างไร
    ทำไมบ่อนการพนัน เพียงอย่างเดียว จึงสามารถ ดึงดูดคนให้มาที่นี่ได้
    ทำไมบ่อนการพนัน เพียงอย่างเดียว จึงสามารถ ดึงดูดคนเอาเงินมาทิ้งที่นี่ได้

    ท่านจึงได้พบว่า พลังหินสีแดงของเจ้าแม่ทับทิม เป็นตัวดึงดูดคนให้มาที่หมาเก๊า
    ส่วนการจัดการให้คนเอาเงินมาทิ้งที่บ่อน ก็คือ การจัดวางสถานที่ให้เป็นไปตามนั้น
    ซึ่งก็คือ หลักฮวงจุ้ย อันโด่งดัง
    นั่นละครับ

    แล้วการสร้างพระใหญ่ ชัยภูมิ เป็นเรื่องบุญ เรื่องกุศลแท้ๆ
    ทำอย่างไร จะน้อมนำให้ชาวพุทธ ผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศลแท้ๆ
    ให้มาช่วยกัน ตามบุญวาสนา บารมี ความถนัด ต่อไป

    หลังจากกลับจาก หมาเก๊าแล้ว ท่าน อ.ทิพากร ท่านก็เริ่้ม
    จัดแต่ง เทวสถานเจริญปุระนคร เป็น สวนสวรรค์

    พร้อมกันนั้น ท่านก็ให้นำ กระถางดอกหงอนไก่ เป็นพันๆต้น

    มาวางเป็นรูป "จักร จักรพรรดิ์" เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง
    ในบริเวณ เทวสถานเจริญปุระนคร

    พร้อมกันนั้น ก็มีคณะญาติธรรมพร้อมพระสงฆ์ ช่วยกันสวดมนต์
    บทพระคาถาชินบัญชร บทพระคาถาพาหุงมหากา บทพระคาถาธัมมจักกัปปวัตนสูตร
    ยิ่งสวดมาก จักรจักรพรรดิ์ ก็จะหมุนเร็วยิ่งขึ้น
    จนต้าน พายุสุริยะ ได้
    นั่นล่ะครับ

    ในช่วงนี้ ก่อนพิธีเปิดบุญ ที่เจริญปุระนคร และที่พระใหญ่ชัยภูมิ
    จะทำการสวดพระคาถาดังกล่าว ซึ่งใช้เวลาเกือบๆ ๑ ชั่วโมง

    สำหรับคุณ ผมว่า จะให้ดี จะให้ง่าย และ ได้ผลเร็วที่สุด
    คุณควรหาเวลามาคุยมาถามท่าน อ.ทิพากร ด้วยตัวคุณเองจะดีกว่า
    เพราะพวกผม และ ญาติธรรมพระใหญ่ทั้งหลาย
    มีหน้าที่ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นอยู่แล้ว

    คุณต้องหาพี่เลี้ยง เพื่อว่า จะได้เรียน ท่าน อ.ทิพากร ได้ถูกว่า
    คุณมีพื้นฐานอะไรมา คุณอยากจะทำอะไร
    คุณต้องการความสำเร็จระดับไหน
    อะไรที่คุณเข้าใจแล้ว อะไรที่คุณยังไม่เข้าใจ
    ที่สำคัญคือ คุณควรจะทำอะไร ที่สามารถ ทำให้คุณเข้าสู่เป้าหมาย
    ได้ง่าย ได้สะดวกที่สุด ภายใต้ความเป็นตัวของคุณเอง

    ดูอย่างผมซิครับ ทั้งๆที่ ผมเป็น โปรเจ็คโคออดิเนเตอร์เอ็นจิเนอร์แท้ๆ
    แต่ต้องมาทำหน้าที่ตรงนี้ เป็นหลัก

    โดยไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับส่วนของ การก่อสร้างแต่อย่างใด

    เพราะส่วนนั้น ไม่ต่างอะไรกับ เทวดามาจับมือทำ แต่อย่างไร

    ต่างกับพวกเราที่ เทวดาแค่มาบอกว่าให้ทำอะไร ให้ทำอย่างไร เท่านั้นเอง

    อยากให้ผมช่วยก็บอกมานะครับ เพราะตัวผมเองนั้น
    ใช้มือถือสามเครื่อง
    คอยโทรเปิดบุญให้ญาติธรรม สลับกันไป เฉลี่ยกันไป
    โอกาสอันเหมาะสม ก็ขอเมตตา ท่าน อ.ทิพากร
    เมตตาสนทนากับญาติธรรมทางโทรศัพท์ก็พอมีอยู่บ้าง

    อย่าลืมนะครับ ญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมินั้น
    ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันนะครับ


    ขอโมทนาบุญ
    ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้เห็นดี เห็นงามในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่ความหลุดพ้น
    ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่พุทธภูมิ
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

    ขอเพิ่มเติมข้อมูล กลางเมษาปีนี้ ผมจะอายุครบ ๕๗ ปีครับ

     
  5. scoopynoi

    scoopynoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +727
    คุณ◎สุริunร์ ครับ
    ผมแนะนำนะถ้าจะเล่นต้องทำอย่างลุงมหาเค้า อันไหนที่เห็นแล้วมีปัญหาลุงมหาจะไม่ต่อกรจะนิ่ง สงบ ทำมึนเฉย
    แต่อันไหนที่ตอบแล้วเข้าทางตนเองจะตอบโดยเอาข้อมูลที่เคยโพสไว้ในหน้าแรก ๆ มาลงเป็นคำตอบ ผลออกคนที่ถามมึนไปเพราะไม่เจอคำตอบ ลุงมหาแกใจดีนะครับที่เอาข้อความที่โพสแบบยกตนข่มท่านมาให้เราอ่านบ่อย ๆ แต่ท่านไม่เฉลียวใจเลยล่ะ
    ขนาดคุณ PShinex บอกให้ลงการเปิดบุญล่าสุดแกยังไม่ลงเลยไป copy อะไรมาไม่รู้ เอามาให้อ่าน
    ผมแนะนำคุณทำอย่างลุงมหารับรองอยู่ได้สบาย ๆ ไม่ต้องไปงัดธรรมะต่าง ๆ มาสู้ เอาเรื่องเล่าอิงอภิมหานิยายที่โพสมาเล่นได้ตลอด(เคยสังเกคุไหม) ลุงมหาแกเลยโชคดีที่คุณ◎สุริunร์ ออกมารบแทนแก แกจะได้ไม่เหนื่อยมีเวลาไปวางแผนทำอย่างอื่น
    และผมให้สังเกตุกระทู้หลอกเงินมันจะตายไปทีละกระทู้ และบางกระทู้นิ่งรอจังหวะเหมาะ เผื่อมีเหตุการณ์อะไรแรง ๆ พวกนี้จะออกมาทำการขายตรงอีก
    ขนาดมูลนิธินี้มี web ผมยังไม่ไปยุ่งเลยผมแยกแยะออก บางกลุ่มไปเปิด facebook ผมก็ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวถ้าจะทำมันก็ทำได้ คิดไตร่ตรอง อย่างที่คุณ ◎สุริunร์ สบประมาทผมดูบ้างเปิดต่อมการรับรู้สักนิด แล้วดูที่ผมโพสนั้นมันคือประเด็นอะไร ผมไม่ได้มาเเปิดประเด็นถามอริยสัจ 4 กับลุงมหา หรือมาถามพระไตรปิฏกกับลุงมหา ที่ผมถามคือการลงทุนและการสบประมาทพระสงฆ์
    ลุงมหาแกเป็น CoProject ผมก็อยู่ในวงการเดียวกับแก วงการก่อสร้างนี่แหละ แต่ว่าลุงมหาแกตำแหน่งสูง แต่ผมตำแหน่งต่ำ ๆ ก็แค่กรรมกร อย่างที่คุณ◎สุริunร์ ถากถางนั่นแหละ ถึงผมจะความรู้น้อยแต่ไม่ด้อยปัญญานะครับ ถึงผมจะรู้เรื่องธรรมะไม่เยอะแต่ผมก็ยังทำตัวดีกว่าคนที่คิดว่าตัวเองเก่งและรู้เยอะ ทุกคนมีสิทธิพลาด แต่จะมีใครยอมรับความพิดพลาดสักเท่าไหร่กัน พลาดไปยังแก้ไขทันแต่ถ้าถลำลึกมันต้องใช้เวลาในการแก้นะครับ
    มันก็คือความคิดจากกรรมกรที่คุณ ◎สุริunร์ ถากถาง
    ถ้าจะแย้งอย่าเอาธรรมะมาเล่นเอาเรื่องจริงโลกจริงของฆราวาสนี่แหละมาสู้ ไม่ใช่ผมกลัวแต่จะถามว่ามันเหมาะสมหรือที่ฆราวาสอย่างเราเอาธรรมะมาประลองในการเอาชนะความจริงในทางโลกความจริงในการสอบถาม
     
  6. scoopynoi

    scoopynoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +727
    ไม่อ่านที่พิมพ์ไปก็ไม่อ่านงั้นตอกเข้าไปอีก แล้วร้อนตัวทำไมถ้าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับลุงมหา ออกตัวทำไมถ้าไม่ใช่ คนทำบุญกับที่นี่เยอะแยะเค้ายังเฉย ๆ ไม่มีอะไร แต่คุณมา ร้อนแทน คุณบอกผมไม่เข้าใจคุณแล้วคุณเข้าใจผมรึ ผมก็เคยถามคุณอยากชนะหรือคุณก็นิ่ง ผมไม่ได้ขุ่นเคืองไร้สาระ ผมถามอย่างคุณตอบอย่างเหมือนลุงมหา CoProject ที่ผมถามลุงมหาแกเรื่องเงิน เพราะว่า แกเป็น CoProject ในวงการก่อสร้าง แกย่อมทราบต้นทุน ค่าแรง วัสดุ หลาย ๆ อย่าง หักแล้วกำไรเหลือเท่าไหร่ เอากันตรง ๆ นี่แหละเข้าใจยัง
    คนรู้ธรรมแต่ไม่บรรลุธรรมสุดยอดจริง ๆ คุณลองอ่านที่แก copy มาใหม่นะ แล้วไปค้นคว้าหาข้อมูลที่ แกเอามาเล่า เรื่องที่ อารักขเทวดาประจำบ้าน ท่านอนาถบิณทิกะเศรษฐี ลองไปหาอ่านดูเก่งนักนี่ว่ามันตรงไหมว่า เทวดาดลบันดาล ทำให้ ท่านอนาถบิณทิกะเศรษฐี จนลงจนไม่ข้าวจะกินในเวลาแค่ไม่กี่วัน
    ลองไปหาอ่านดูหรือรู้แล้วเพราะคุณเก่ง ผมไปหาอ่าน เทวดามาเตือนด้วยซ้ำ กี่เล่ม ๆ ก้เหมือนกัน
    งมเข้าไปกับการมีทิฐินะ การยอมรับความจริงไม่ใช่การพ่ายแพ้
    ผมก็ไม่อยากยุ่งกับคุณหรอกคนธรรมะสูงแต่แยกแยะไม่ออก ก็อยู่ในวังวนต่อไปนะครับ
    สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2013
  7. bulb

    bulb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +301
    มันไม่มีใครถูกและผิดทั้งหมดทุกฝ่าย

    แต่เลิกทำให้หลักธรรมคำสอนมันบิดเบี้ยวตามทิฐิมานะของตัวเองกันซะที
     
  8. scoopynoi

    scoopynoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +727
    แล้วคุณอ่านหมดรียัง ผมบอกเสมอ ๆ ว่า อย่าเอาธรรมะมาเล่น ทุกครั้งผมจะบอก แล้วไงมันก็มีมาเรื่อย ๆ
    ครับผมผิด ผิดที่เตือนคนเอาธรรมะมาละเลงเอามาเล่นครับ แต่ลุงมหาถูก คุณ
    ◎สุริunร์ ถูก พอใจไหมครับ
    ตัวหนังสือมันฟ้องอยู่นะครับ
     
  9. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ใครที่สมัยยังเป็นคน ศรัทธาในศาสนาชนิดที่นิยมทางด้านวัตถุ เช่น สร้างนั่นสร้างนี่ ให้มันมีจำนวนมากๆ ให้มันใหญ่ๆ โตๆ เข้าไว้

    แต่ไม่นิยมสร้างปัญญาทางธรรม เช่น การถวายหนังสือธรรมะดีๆ ถวายพระไตรปิฎก ให้วัด ให้พระ ให้เณร รึการเป็นพุทธบริษัทที่ช่วยเผยแผ่ธรรมะที่เป็นสัมมาทิฐิ ที่ถูกต้องแก่ผู้อื่น

    รวมถึงคนที่ชอบให้หัวหมู กับผีสางนางไม้ เอาผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกไปพันต้นไม้ รึไปรับขันธ์ กับร่างทรง ตลอดจน คนที่ชอบ และเชื่อในเรื่องอาคมขลังขมังเวทย์ บูชาชูชก เงาะป่า สารพัดเครื่องราง

    พวกนี้ พอหมดอายุขัย ถ้าผลบุญจากทานที่ทำไว้ ประกอบกับมีศีลห้าดี (แม้จะเป็นบุญอย่างอวิชชา) ก็จะส่งให้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิจตุมหาราชิกา รึสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง ซึ่งพอหมดบุญจากสวรรค์ชั้นนี้แล้ว ผลจากกรรมอะไรๆ ที่รออยู่หลังจากนั้น ก็สามารถส่งให้ไปเกิดในภพที่ต่ำกว่าได้ทั้งนั้น

    ไม่ว่าจะเป็น นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน ส่วนการกลับมาเกิดเป็นคนอีก ก็เป็นไปได้ แต่ยากอยู่
     
  10. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    " นาฬิกาชีวิต เดินเร็ว กว่าที่เราคิด "

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=8Pvm7a-4bK0]ประกันชีวิต ออมทรัพย์ รับสุข TVC by @KBank_Live - YouTube[/ame]

    นี่เป็นวลีจากโฆษณาบริษัทประกันภัย คงจะสะกิดใจกันบ้างไม่มากก็น้อย แล้วแต่ภูมิธรรมของแต่ละคน

    ครั้งหนึ่ง เคยเข้าไปในห้องไอซียู. (เข้าไปดูเฉยๆ ไม่ใช่เข้าไปในฐานะผู้ป่วย และไม่ได้มีญาติโยมอยู่ในนั้น) ของโรงพยาบาลในจังหวัดหนึ่ง เห็น 3 เตียงใกล้ๆ กัน ประกอบด้วย

    แม่หนู อายุ 4 ขวบ กำลังเล่นอยู่ดีๆ ถูกรถกะบะถอยหลังมาชน โคม่า

    ลุง อายุ 60 กว่า ขี่มอเตอร์ไซด์ไปบวกกับกะบะ ที่สี่แยก โคม่า

    หนุ่ม อายุ 19 โรคประจำตัวกำเริบ โคม่า

    ทั้ง 3 รายนี้ อาการใกล้เคียงกัน ก็เป็นความจริงที่เตือนจิตเตือนใจได้ว่า นาฬิกาชีวิตของแต่ละคน ที่ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏนี้ มันไม่เที่ยง ไม่แท้ ไม่ทน ไม่แน่ ไม่นอน
     
  11. EscherichiA

    EscherichiA Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +25

    ผมว่าคำตอบมันไม่ตรงนะครับ และคำตอบดูเหมือนจะขัดแย้งกับป้ายที่ทำ ที่ผมยกมา คือถ้าเอาป้ายมาติดแบบนี้ มันจะทำให้คนเข้าใจผิดได้ จากที่รู้ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ไม่สามรถใช้ คำว่า "ดร." นำหน้าได้ เพราะคำว่า ดร.ใช้สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกเท่านั้น การที่ทำป้ายติด สื่อให้คนเข้าใจผิด เหมือนกับแอบอ้าง สร้าง Profile ดีๆ ให้ตัวเองนะครับ ผมว่าก่อนทำป้ายควรศึกษาก่อนว่ามันใช่หรือไม่ "ผู้ที่สามารถทำนายภัยพิบัติ ผู้ที่รู้หลายๆเรื่องบนโลก ผู้ที่สำมารถเชิญเหล่าเทวดามาได้ ไม่น่าละเลยเรื่องเล็กๆน้อยไปนะครับ"
     
  12. scoopynoi

    scoopynoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +727
    อ่านกันนะครับอันนี้ลุงมหาแกโพสอีกห้อง แกไปเปิดห้องเยอะจริง ๆ

    เพราะภาคใต้ แค่แก้ภัยพิบัติเรื่องน้ำอย่างเดียว
    ท่าน อ.ทิพากร บอกว่า ต้องสร้างหลวงพ่อทันใจ ๑๐ พระองค์ ในปี ๒๕๕๔
    และต้องสร้าง อีกอย่างน้อย ๑๐ พระองค์ในปี ๒๕๕๕

    เมื่อสร้างเลย ๒๐ พระองค์ เราจึงได้เห็น การเขามอบตัวต่อทางการของผู้หลงผิด


    อ่านแล้วคิดกันยังไครับ
    -น้ำยังท่วมอยู้ไหมครับทางภาคใต้ ปี 54 และ 55 แก้ภัยพิบัติอย่างเดียว แต่ไหงเอาเรื่องผู้หลงผิดมาปนซะงั้น
    -ผู้หลงผิดเข้ามอบตัวเลยเป็นช่องทางสร้างบารมีทันที แล้วผลเป็นยังไงครับทุกวันนี้ยังมีเหตุการณ์ทุกวัน หน้า 1 ของ นสพ.มีข่าวทุกวัน

    อ่านแล้วตรึกตรองกันบ้างนะครับ ผมไปตามอ่าน การเล่าเรื่องของส่วนภาคใต้นี่แกเงียบไปเลย ก็น้ำมันยังท่วมอยู่ อุทกภัย หรืออน้ำท่วมมันยังมีอยู่ ทำไมแก้ไม่ได้ล่ะผมถามหน่อย
    แล้วอย่าตอบเรื่องกรรมนะเอาประเด็นตรง ๆ
     
  13. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ดี-เลว สัมมาทิฐิ-มิจฉาทิฐิ ตักเตือน-เพ่งโทษ ดูอย่างไร

    ขออนุญาตครับ
    เห็นคน มาพูดเพ่งโทษ มาโจมตี ทั้งตัวผมเอง ทั้งท่าน อ.ทิพากร แม้กระทั่ง องค์พระใหญ่ชัยภูมิ

    ขอญาติธรรมชาวพุทธ ผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศล อย่าได้ห่วง อย่าได้กังวล

    เพราะผมก็ได้บอกเล่าเป็นระยะๆ อยู่แล้วว่า อะไร เป็นอะไร
    ส่วน ใครจะเข้าใจ ใครจะไม่เข้าใจ
    ใครจะเข้าใจมาก ใครจะเข้าใจน้อย
    ใครจะศรัทธามาก ใครจะศรัทธาน้อย
    ใครจะรู้จักตักตวงเอาประโยชน์มาก น้อย

    มันขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของท่านนั้นๆว่า

    ดุลพินิจของท่านนั้นๆเป็นอย่างไร
    ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ของท่านนั้นๆเป็นอย่าง
    ความรู้เรื่อง พุทธภูมิ ความรู้เรื่อง พระโพธิ์สัตว์ ของท่านนั้นๆเป็นอย่างไร

    ถึงแม้ว่า ผมจะดึงเรื่องราวต่างๆให้ช้าลงๆ

    เพื่อรอให้ การสร้างพระใหญ่มีความก้าวหน้ามากขึ้นๆ
    เพื่อรอให้ มีผู้ศรัทธาในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิมากขึ้นๆ
    เพื่อรอให้ ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆมากขึ้นๆ

    เพื่อรอให้หลายๆอย่างค่อยๆคลี่คลายออกไปเอง เช่น

    ความชัดเจนของ คำทำนาย ว่าเกิด หรือ ไม่เกิด

    ความชัดเจนของญาณบารมีของผู้ทำนายว่า แม่น หรือ ไม่แม่น

    ความชัดเจนของ โครงการแก้ไขภัยพิบัติว่า โครงการไหน ทำอะไรไปถึงไหนบ้าง

    ความชัดเจนของ กระบวนการ ของหลักการ ของวิธีการแก้ไขภัยพิบัติว่า
    ถูกต้องตามแนวทางของ พระพุทธศาสนากันหรือไม่

    เพราะ กระบวนการ หลักการ วิธีการ แก้ไขภัยพิบัติ ของท่าน อ.ทิพากร นั้นก็คือ

    ๑.นำพาญาติธรรม สร้างกุศลผลบุญ สร้างศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
    ในวงกว้างให้มากที่สุด

    ๒.ดึงพวกที่หลงผิด พวกที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นดี ให้เห็นงาม ให้พ้นจากมือมาร ให้มากที่สุด
    ทั้งมนุษย์ และ เหล่าดวงวิญญาณ เร่ร่อน ไร้ญาติขาดมิตรทั้งหลาย
    เพื่อให้ท่านเหล่านั้นพ้นจาก จิตมาร จะได้ไม่ต้องมาต่อ มาต้าน
    มาเพ่งโทษ การสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ให้เป็นบาป ให้เป็นกรรมกับตนเอง

    ๓.เมื่อมีญาติธรรมในวงกว้างออกไปๆ การป้องกัน แก้ไขภัยพิบัติ ก็ กว้างออกไปๆ เช่นเดียวกัน

    ญาติธรรมหลายๆท่าน เห็นผมเงียบ ผิดสังเกตุ ก็เป็นห่วงว่าผมจะถอดใจ
    ต้องขออภัยจริงๆ เพราะช่วงนี้ ผมต้อง

    ๑.สู้กับกายสังขาร ด้วยวัยที่ใกล้ครบ ๕๗ ปี
    มาปีนี้ ผมยกขอนไม้ ในสวนสุขภาพ วันละ ๑๘๐๐ ครั้ง ไม่ได้
    มาปีนี้ ผมวิดพื้น ในสวนสุขภาพ วันละ ๙๐๐ ครั้ง ไม่ได้

    แถมพี่ชายคนโตผม ก็ดันมาเตือนให้ลดการออกกำลังกายลงได้แล้ว

    ผมก็เลยต้องเสียเวลาไปประกอบจักรยาน ขึ้นมาออกกำลังกายเสริม
    เพื่อรอวันค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปใหม่ว่า สุขภาพจะยกระดับขึ้นไปได้ดีที่สุดได้ระดับไหน

    ๒.คอมพิวเตอร์ ที่ใช้ในการตัดต่อ วีดีโอ รวนมาสองสามเดือนแล้ว
    ผลสุดท้าย ก็ต้องล้างเครื่องลง วินโด้ ใหม่

    ก็ทะยอยๆ ทดลองติดตั้งโปรแกรมที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไว้
    ก็ต้องค่อยๆดูว่า ซอพแวร์ หรือ ฮาร์ดแวร์ ที่มีปัญหา
    ทำให้งาน ตัดต่อ วีดีโอ ค้างคา เป็นจำนวนมาก

    ๓.ผมต้องเตรียมติดตามท่าน อ.ทิพากร พร้อมญาติธรรม ไปเพิ่มพลัง ไปแสวงบุญ ที่ดินแดน ต้นกำเหนิด พระพุทธศาสนา ในเร็วๆนี้

    ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ


    ดี-เลว สัมมาทิฐิ-มิจฉาทิฐิ ตักเตือน-เพ่งโทษ ดูอย่างไร

    คนจะดี คนจะเลวนั้น ส่วนมากจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่เด็ก
    ค่อยหล่อหลอมมา ตามการเจริญเติบโตขึ้นๆ
    ตามพัฒนาการ ของสติปัญญา ของความรู้ ของความเข้าใจ
    ในเรื่อง ศีลธรรม จริยธรรม ภายใต้หลักการสอนทางด้านพระพุทธศาสนา
    โดยมี พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ครูบาอาจารย์
    ค่อยๆเตือนสติ ค่อยๆอบรมสั่งสอน มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย

    ส่วนท่านผู้ใด จะสะสมความดี จะสะสมความเลว ไว้ในตน
    ในสัดส่วนที่เหมาะสม มากน้อยออกมาอย่างไร
    ก็จะกลายมาเป็น จริต
    ก็จะกลายมาเป็น นิสสัย
    ก็จะกลายมาเป็น สันดาน ของท่านนั้นๆ

    อันจริต อันนิสสัย อันสันดาน ของท่านผู้ใดนั้น
    ก็จะบ่งบอก ระดับของ บุญวาสนา บารมี ของท่านนั้นๆว่า
    จะโน้ม จะนำ ท่านนั้นๆ ไปในทางใด

    ทางที่ว่าก็คือ

    ทางดี หรือ ทางเลว
    ทางสัมมาทิฐิ หรือ ทางมิจฉาทิฐิ

    อันจริต อันนิสสัย อันสันดาน ของท่านผู้ใดนั้น
    ก็จะบ่งบอกว่า ท่านนั้นๆ
    มีศรัทธา มีทาน มีศีล มีสมาธิ มีสติ มีปัญญา อยู่เท่าไร

    พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสว่า


    "มีแต่ผู้ที่เป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น จึงสามารถ แก้จริต แก้นิสสัย แก้สันดาน ได้ หมดจด ครบถ้วน บริบูรณ์"
    "ส่วนท่าน อื่นๆ ก็แก้ได้มากบ้างน้อยบ้าง ตามบุญวาสนาบารมีของตน"


    ดังนั้น ไม่ว่าท่านเป็นใคร มีบุญวาสนาบารมีขนาดไหน
    ถ้าท่านยังไม่ได้เป็น พระพุทธเจ้า
    ท่านก็ต้อง มีจริต มีนิสสัย มีสันดาน ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท่านเอง

    อันจริต อันนิสสัย อันสันดานนี้ ก็จะมีทั้ง

    ทางดี-ทางเลว ทางสัมมาทิฐิ-ทางมิจฉาทิฐิ
    ปนกันอยู่คนผู้ใด ผู้หนึ่งอยู่เสมอ

    เมื่อคนผู้ใด ผู้หนึ่ง สะสมคุณงามความดีไว้มากพอ จึงจะพบ จึงจะเห็นว่า
    การใช้ชีวิตตามปรกติ ตามธรรมดา ตามทั่วๆไปนั้น ยังไม่พอเพียง
    เพราะคนปรกติ คนธรรมดา คนทั่วไปนั้น อย่างมากสุด ก็แค่

    การรักษา ศีล๕ เท่านั้น
    ทำได้แค่นี้ คนปรกติ คนธรรมดา คนทั่วไป
    ก็เรียก ก็จะพูดถึง ก็จะกล่าวขานว่า
    "ท่านนั้นๆเป็นคนดีแล้ว"

    แต่ในท่านที่มีบุญวาสนาบารมี สูงส่งกว่านั้น
    ท่านนั้นๆ ก็จะเสาะแสวงหา วิธีการสร้างตน ให้มีบุญวาสนาบารมี สูงกว่า
    ที่คนปรกติ ที่คนธรรมดา ที่คนทั่วไป เรียกว่า "คนดี"

    ท่านเหล่านั้น จึงได้ค้นพบว่า การสร้างตน ให้เหนือกว่า ให้สูงส่งกว่า "คนดี"
    แท้ที่จริงคือ แนวทางที่ พระเจ้า พระสงฆ์ ท่านกำลังประพฤติ ปฏิบัติ กันอยู่
    นั่นเอง
    ซึ่งก็คือ การปฏิบัติ "สมาธิภาวนา" เพื่อนำไปสู่ การสร้างเสริม สมาธิ ปัญญา วิมุติ หลุดพ้น นั่นเอง

    แต่การปฏิบัติ สมาธิ ปัญญานั้น ก็คือ การปรับปรุง การขัดเกลา ซึ่ง

    "จริต นิสสัย สันดาน" ที่มีอยู่ใน จิต ของแต่ละท่าน นั่นเอง
    เมื่อ ท่านปฏิบัติ สมาธิภาวนา ได้ถูกต้อง

    "จิต"ของท่าน ก็จะลด ก็จะละ ก็จะเลิก
    ซึ่งจริต ซึ่งนิสสัย ซึ่งสันดาน ที่ไม่ดี ลดออกไป ละออกไป เลิกออกไป

    แล้ว"จิต"ของท่าน ก็จะรับเอา ซึ่งจริต ซึ่งนิสสัย ซึ่งสันดาน ที่ดีๆเข้ามาแทน

    ซึ่งการแทนที่ ของจริต ของนิสสัย ของสันดาน ที่ดี ที่เป็น สัมมาทิฐิ นี้
    ในทางธรรม ท่านพากันเรียกว่า

    "โสดาบัน"
    "สกิทาคามี"
    "อนาคามี"
    "อรหันต์"

    ก็ที่ท่านทั้งหลายพากันเรียกว่า "สาวกะภูมิ" นั่นเอง

    ส่วนในท่านที่สูงส่งเป็น "พุทธภูมิ" ก็ดี
    ท่านที่สูงส่งขึ้นไปถึง "พระโพธิ์สัตว์" ก็ดี
    ท่านสูงส่งขึ้นไปถึง "พระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์" ก็ดี

    ท่านเหล่านี้ แม้มีคุณธรรมสูงส่งเพียงใด
    ท่านเหล่านี้ แม้มี ภูมิรู้ ภูมิธรรม มากมายเพียงใด

    ท่านก็ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ที่ทางธรรม เรียกกันว่า

    "โสดาบัน"
    "สกิทาคามี"
    "อนาคามี"
    "อรหันต์" แต่อย่างไร

    "พุทธภูมิ" ก็ดี
    "พระโพธิ์สัตว์" ก็ดี
    "พระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์" ก็ดี ในท่านที่บุญบารมีสูงๆนั้น
    โอกาสพบ โอกาสเจอ โอกาสจุติ ลงมาเมืองมนุษย์มีน้อยยิ่งนัก

    ท่านทั้งหลายเหล่านี้ มีข้อสังเกตุ อย่างไรหรือ
    ผมก็ขออนุญาตแนะนำง่ายๆคือ

    "ท่านเหล่านี้ จะรู้เองเห็นเอง โดยไม่มีใครบอก โดยไม่มีใครสอน"
    "ท่านเหล่านี้ จะมีความรู้ จะมีความเชี่ยวชาญ ในไตรโลก เป็นอย่างดี"
    "ท่านเหล่านี้ จะมีความรู้ จะมีความเชี่ยวชาญ ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นอย่างดี"
    "ท่านเหล่านี้ จะมีความรู้ จะมีความเชี่ยวชาญ ในอำนาจเทวฤทธิ์ เป็นอย่างดี"
    "ท่านเหล่านี้ จะมีความรู้ จะมีความเชี่ยวชาญ ในพลังจักรวาล เป็นอย่างดี"
    "ท่านเหล่านี้ จะมีหมู่คณะมาก มีบริวารมาก ไม่มีประมาณ"

    ก็เพราะว่า ท่านเหล่านี้ ต้อง ฝึกฝน อบรมตนเอง
    เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อจะเป็น "พระพุทธเจ้า"
    เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อจะเป็น "พระบรมศาสดา"

    ดังนั้น การที่มีผู้หนึ่งผู้ใด มาว่ากล่าว มาตักเตือน มาเพ่งโทษ ผู้อื่น

    ท่านที่เข้ามาว่ากล่าว เข้ามาตักเตือน เข้ามาเพ่งโทษ ผู้อื่นนั้น

    ท่านสมควรพิจารนาให้ดีว่า

    ท่านมีคุณงามความดี อยู่ระดับไหน
    ท่านมี ศรัทธา ทานศีล สมาธิ สติ ปัญญา อยู่ระดับไหน

    ท่านที่เข้ามาอ่าน ก็สมควร พิจารนา เช่นเดียวกันว่า
    ตัวท่านมี ศรัทธา ทานศีล สมาธิ สติ ปัญญา อยู่ระดับไหน
    ผู้เข้ามา "เพ่งโทษ" ผู้อื่นมี ศรัทธา ทานศีล สมาธิ สติ ปัญญา อยู่ระดับไหน

    ท่านจึงจะได้เข้าใจว่า ใครเป็นใคร ใครกำลังทำอะไรอยู่

    ใครกำลังสร้าง "กุศลผลบุญ"
    ใครกำลังโน้มนำให้ผู้อื่นสร้าง "กุศลผลบุญ"

    ใครกำลังโน้มนำ ห้ามปราม ไม่ให้ผู้อื่นสร้าง "กุศลผลบุญ"


    ขอญาติธรรมผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศลทั้งหลาย
    ได้รู้จัก ละอกุศล ผลบาป
    ซึมซับเอาเพียงแต่กุศล ผลบุญ เข้ามาสู่ "จิต" ของตน

    ขอนำคำสอนของพระศาสดา พระกัสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า มาบอกมาเล่า มาให้พิจารนาอีกที

    บุคคลประเภทที่๓ ที่เกิดมาในโลกนี้

    คือบุคคลที่ไม่เกิดความศรัทธาในการทำบุญ ไม่ยอมทำบุญ
    ไม่ยอมบอกบุญ และไปบอกให้ผู้อื่นไม่ให้ทำบุญด้วย

    บุคคลในประเภทนี้
    แม้เกิดในชาติปัจจุบันและในภายภาคหน้า
    ก็จะไม่บริบูรณ์ในโภคทรัพย์
    และพวกลูกๆหลานๆและบริวารทั้งหลาย
    ก็ไม่บริบูรณ์ในโภคทรัพย์ด้วย


    ท้ายนี้ก็ขอนำ พลังสิ่งศักด์สิทธิ์ อำนาจเทวฤทธิ์ พลังจักรวาล
    มาให้ดูกันจะๆว่า
    "พลังที่เป็นคลื่น คล้ายก้อนเมฆ ที่ลื่นใหล จากยอดเขาศักดิ์สิทธิ์"
    "เทวะสถานเจริญปุระ พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า"
    "ไปรวมกันเป็นพระอาทิตย์ทรงกลด ตอนเที่ยงวัน"
    ที่บางท่านเรียกว่า "อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์" เป็นอย่างไร


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=jFXpALyi6Io&list=UUzWVKyK7LkF1_X2O8glKomQ&index=211"]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ เปิดบุญ สัปดาห์ 20-13 พฤษภาคม 2555 ตอนที่ 3 ส่วนที่ 1/2 เปิดบุญพลังจักรวาล ทีละคนๆ จนครบทุกๆคน - YouTube[/ame]

    ส่วนเนื้อเรื่องเต็มๆ ก็ดูได้ที่

    http://palungjit.org/threads/ด้วยพุ...พิบัติของโลกอย่างไร.292168/page-8#post6235389

    ขอโมทนาบุญ
    ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้เห็นดี เห็นงามในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่ความหลุดพ้น
    ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่พุทธภูมิ
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013
  14. zuvara

    zuvara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2012
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +70
    ต่างคนต่างเชื่อ ต่างจิตต่างใจที่จะทํา (ใจ )
     
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    โครงการระดับชาติ เทพอวยชัย ต้องสำเร็จเเน่นอน
    มารขวางกั้นก็ต้องมีบ้าง เป็นธรรมดา ผู้ปรารถนาร่วมสร้าง
    พระใหญ่ก็พิจารณาให้ทะลุปรุโปร่ง งานเเบบนี้ อย.ไม่เคย
    ให้ใบอนุญาติผู้ใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2013
  16. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    บางคนยังต้องการเกาะบุญกุศล ก็ต้องถือว่าดี อยู่ ไม่มีผิด ไม่มีถูก
    ลอง อ่าน เรื่อง การเกาะความดี ของ อ. เล็ก

    "เมื่อเราเลิกเกาะดี ไม่ติดทั้งดีทั้งชั่วก็จะหลุดไปได้ เพราะฉะนั้น..ใครก็ตามในระยะแรกเริ่ม ถ้าสามารถเอาคนเข้าวัดมารักษาศีลปฏิบัติธรรมได้ ถือว่าใช้ได้ทั้งหมด แม้ว่านานไปแล้ว สิ่งที่เขาทำอาจจะไม่ใช่ความดีที่แท้จริง แต่คนที่ก้าวเข้ามาถึงจุดนี้แล้ว เมื่อถึงเวลาก็เหมือนกับคนหิว คนหิวต้องรีบกินก่อน แต่พออิ่มแล้วต่อไปก็จะเลือกแล้วว่าอะไรอร่อยถูกปากหรือเปล่า "

    ผลสุดท้าย ต้องเลิกเกาะดีเกาะชั่ว ถึงจะหลุดพ้น ไปได้ แต่ใครจะใช้เวลา เท่าไรต้องแล้วแต่ กรรม.


    อ่านเต็มๆ .. ใน
    http://palungjit.org/threads/ผิดถูกเป็นแค่สิ่งสมมติเท่านั้น.342018/
     
  17. CASIO12

    CASIO12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +1,133
    ที่เมืองนอก ก็มีเยอะแบบนี้ ฝรั่งเค้าเรียกพวกลัทธิขายความกลัว Fear Mongering แต่มันก็ได้ผลมาทุกยุคทุกสมัยนะ หากินได้ตลอด
    Fear mongering - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  18. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    แผ่นดินนี้ชื่อว่าประเทศไทย

    ขออนุญาตครับ

    แผ่นดินนี้ชื่อว่าประเทศไทย

    ใครจะทำอะไร ที่มีผลกระทบมากกับบ้านเมือง
    ต้องขอ ใครก่อน ขอญาติธรรมตรองดูให้ดี

    งานใหญ่ระดับนี้ ถ้าไม่แจ้งท่านผู้ใด
    ถ้าไม่ขอ ท่านผู้ใด ไม่มีวันสร้างได้ ไม่มีวันทำได้

    ถ้าเราทำผิดทำนองครองธรรม

    เรามาไม่ถึงตรงนี้

    ถ้าเราไม่ดำเนินการตามจารีตประเพณีอันดีงาม

    เรามาไม่ถึงตรงนี้

    เมื่อท่าน อ.ทิพากร ท่านพิจารนาว่า

    "ทำไมแม้การสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ แม้เพียงเริ่มต้น ก็มีปัญหา"
    "ประเทศไทยกว้างใหญ่ไพศาล จะหาที่ดิน ๕๐๐ ไร่ จะหาที่ดิน ๑๐๐๐ ไร่"
    "เพื่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ทำไมจึงยังมีอุปสรรคอยู่"


    เมื่อท่าน อ.ทิพากร พิจารนา จึงได้พบว่า
    แม้การขอใช้ที่ดินเพื่อสร้าง พระใหญ่ชัยภูมิ ก็มีปัญหา
    แท้ที่จริงเป็นเพราะว่า


    "เราได้ข้ามขั้นตอน เราได้ข้ามจารีตประเพณีอันดีงาม"

    แล้วเราทางมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ จึงได้ ทำการให้ถูกต้อง
    ตามขั้นตอน ตามจารีต ตามประเพณี

    เราได้ทำการที่ถูกต้อง เราได้ทำการตามจารีตประเพณีอันดีงาม

    เรามีเอกสาร เรามีหลักฐาน ที่ได้รับมาถูกต้อง

    ขอญาติธรรมได้พิจารนาเอาเองว่า

    การสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ยิ่งใหญ่ระดับนี้

    เราต้องแจ้ง ท่านผู้ใด

    เราต้อง ขอ xxxxxxxxxxxxxxxx ท่านผู้ใด

    แค่ท่านพิจารนาว่า แผ่นดินนี้ชื่อว่าประเทศไทย

    ท่านก็จะรู้ ท่านก็จะเข้าใจได้เอง

    แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ อย. แน่นอน ขอญาติธรรมอย่าได้กังวลใจ

    ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้เห็นดี เห็นงามในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่ความหลุดพ้น
    ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่พุทธภูมิ
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา
     
  19. CASIO12

    CASIO12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +1,133
    ถ้ามีอำนาจวิเศษจริงๆ สร้างเองเลย มีวิชาอยู่แล้วนี้ เรียกทรัพย์เข้ากระเป๋าตัวเอง หรือมูลนิธิเลย ไม่ต้องเรี่ยไรชาวบ้านเค้าไปทั่วหรอก จะเรียกเงินเท่าไหร่ก็ได้ไม่ใช่หรือ ให้ชาวบ้านเค้าร่วมอนุโมทนาก็พอ และอย่ามาอ้างหละว่าให้ชาวบ้านได้ร่วมบุญ บุญจากร่วมอนุโมทนาก็ได้นี่ เอาเลย สร้างเองเลย แต่...อย่าไปขู่ชาวบ้านเค้าอีกหละ
     
  20. longhorn48

    longhorn48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +874
    สร้างสรรค์ผลงานความฮา และหน้าแตก อีกแล้วครับท่าน:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...