ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tang_2536, 24 ตุลาคม 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. วีระชัยมณี

    วีระชัยมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,128
    ค่าพลัง:
    +2,548
    ..
    อ้าว ตกลงเราเสียเปรียบเขานะครับเนี่ย....
    แต่เอาเป็นว่า หากสวยแล้วให้อภัยได้เสมอครับ.....555....คนสวยทำอะไรไม่ผิด..
     
  2. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    สวัสดีตอนบ่ายๆ...ช่วงนี้เข้าเวปได้ยากมากๆ เพราะแย่งช่องทางกัน แล้วเนตของผมมันก็ช้าซะด้วย

    วันก่อนก็ตอบข้อสงสัยทาง pm ให้กับสมาชิกบางท่านได้ทราบหลายเรื่องในทาง ไสยฯ ซึ่งการตอบนั้นผมก็ตอบไปตาม ปสก.ตรง ครับ โดยเฉพาะในเรื่องหลักวิชา คงกระพัน ชาตรี ผมยังยืนยันว่าในสมัยปัจจุบันยังมีวิชาเหล่านี้อยู่ แต่มิใช่ว่ามีแล้วจะไปท้า ไปลองกันเล่นๆ

    เรื่องการลองวิชานั้น ในสมัยก่อนมีจริง แต่ว่าการเคารพ ศรัธทา ความลังเลสงสัย จะแตกต่างกับสมัยนี้อยู่บ้าง เพราะคนยุคนี้จะสงสัยเสียก่อนเรียน เพราะมีความเชื่อทางวิทย์มาก่อน จึงทำให้ การลองวิชาอาจจะได้ผลน้อยลง คือจิตไปสงสัยทำให้ขาดความขลังไป(ตามศัพท์ของครูท่านว่า ถือ/เรียนไม่ขึ้นนั่นเอง)

    ส่วนวิชารักษาคนทางไสยฯ จะปรึกษากันทางอากาศไม่ได้ครับ ต้องยอมรับว่า แค่บอกอาการก็ไม่ได้จะยืนยันว่า ต้องรักษาทาง ไสยฯ เพราะโรคบางโรคอาจจะรักษาในทางแพทย์ มิใช่โรคทางไสยฯ แต่ถ้าถามว่าโรคที่เกิดขึ้นในทางไสยฯ นั้นมีจริงไหม ในแง่มุมของผมยังยืนยันว่ามีจริง เพราะว่าเคยเห็นมากับตาว่าในยุคปัจจุบันก็ยังมี...เช่น การถูกผีลงโทษทำให้ปวดโน่นปวดนี่ หรือ การโดนคุณไสยฯทำให้ไม่สบายแบบหาสาเหตุทางแพทย์ปัจจุบันไม่เจอแต่ พอตรวจจากภายใน(จิต)ก็แสดงผลว่าต้องคุณไสยฯ และเมื่อรักษาก็หายไปแบบเจ้าตัวก็ยอมรับว่าหายจริง..
    แต่ถ้าถามว่าในปัจจุบันมีมากน้อยเท่าใด ผมก็ตอบไม่ได้ครับ แต่จากที่สอบถามครูอาจารย์ที่ยังรักษาอยู่ ดูจะลดน้อยลงไป..เรื่องต้องคุณไสยฯ แต่ไปมีจำพวกติดหนี้สินบน(บนแล้วลืมแก้) และพวกโดนผีกระทำซะเยอะครับ..

    ตามตำราการแก้คุณไสยฯนั้น จะมีพวก คำว่า โดน มนต์คน พรายพยนต์ ไข้มหิงสา รูปกินรี กินรอน เป็นต้น นี่คือ ต้นเหตุการโดนกระทำทางตาไม่เห็นครับ ก็ใช้วิจารณญานพิจารณากันเอาเองครับ...ว่าคืออะไร..เพราะอะไร ครับ
     
  3. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    เมื่อวานก่อนก็โทรไปคุยกับลูกน้องเก่าทางใต้(จชต.) ก็ยังรอดปลอดภัยดี กับ บท ลป.รุน(กันอาวุธทั้งแคล้วคลาด และชาตรี/ตีไม่แตก) ที่ให้ไป "กุนุหุสุ อุดสะปิดสะ" บอกว่าไปไหนมาไหนท่องให้ตลอด เข้าพื้นที่อาถรรพ์ถ้าจิตมั่น ภาวนาเข้าพุง ลป.ท่านก็บอกว่าไม่ต้องกลัว อาถรรพ์ก็ล้างไม่ได้ เพราะเคยโดนคัดแล้วก็ไม่ออก ผมจึงยังคงยืนยันว่า บทนี้ดีจริงครับ..

    การได้บทคาถาอาคมมานั้นควรจะมีแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ซั้กหน่อยครับ เพราะว่าถ้าได้มาต่อๆกัน ถ้าบอกต่ออาจจะคลาดเคลื่อน หรือจดมาแบบไม่หมดทุกตัว คาถาก็จะไม่ขลัง..โดยเฉพาะบทที่สำคัญๆ แบบเสี่ยงๆ ผมถึงเน้นว่าถ้าบอกแล้วต้องบอกว่าใช้ได้ เดวเป็นบาปหากว่าคนได้ไปใช้แล้วไม่ใช่ของจริง เว้นเสียแต่ว่า มีกรรมหนัก หรือทำผิดกฎข้อห้าม ที่ผมบอกไป..
    ข้อห้าม ลป.รุน ห้ามบ้วนน้ำลายขณะถ่ายเบา/หนัก(เยี่ยว/ขี้) ครับ
     
  4. ฅนโคกว่าน

    ฅนโคกว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    795
    ค่าพลัง:
    +2,767
    "กุนุหุสุ อุดสะปิดสะ" บทนี้ผมเริ่มใช้คล่อง ติดปากติดใจแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  5. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ผมอยากแนะนำคาถาอีกบทหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะครูอาจารย์ผม ท่านสาย ลป.เขียน ท่านบอกว่า มี ปสก.เรื่องแคล้วคลาดศาตราวุธมานับครั้งไม่ถ้วน(เป็นคาถาของ ลพ.ปาน วัดบางนมโค) ซึ่งปัจจุบันในหมู่ลูกศิษย์สาย ลพ.ปาน ก็ใช้กันอยู่ครับ

    เรียกว่าคาถาอิทธิฤทธิ์ จะพบในหนังสือสวดมนต์ทั่วไป
    พุทโธ พุทธัง นะกันตัง อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะฯ
    อุดทัง อัดโท นะโมพุทธายะฯ
    (กรณีเผชิญอาวุธร้ายแรง..แต่ผมก็ภาวนาทั้ง ๒ บทยาวไปเลยครับ เกินไว้ดีกว่าขาดครับ)

     
  6. wit_nu

    wit_nu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +90
    ถามเรื่องธาตุหน่อยครับ เวลาท่องคาถาต้องใ้ช้ธาตุหนุนไหมครับ ธาตุนี่หลักๆแล้วใช้กันยังไงครับ
     
  7. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ปกติในการใช้คาถาทั่วๆไปนั้นจะไม่ต้องว่าคาถา ตั้งธาตุ หนุนธาตุ ก็ได้ครับ

    การตั้งธาตุ หนุนธาตุ ท่านจะเน้นไว้เฉพาะการปลุกเสก หรือ การทำน้ำมนต์ที่จะใช้เฉพาะ เช่น จะขับไล่คุณไสยฯ ชนิดร้ายแรง อะไรทำนองนั้น

    แต่การว่า บทตั้งธาตุ หนุนธาตุ ก่อนใช้คาถาบทหลัก ก็ไม่ได้ผิดแต่ประการใด จะทำให้มีผลด้านสมาธิตั้งมั่นขึ้น ส่งผลให้คาถาขลังมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย

    ครูผมท่านให้ฝึกไว้ตอนแรกเริ่มในการเรียนวิชาไสยฯกับท่าน(ให้ท่องจนคล่องแคล่วก่อนจะเรียนบทอื่นๆ) ท่านบอกว่าเป็นการตั้งธาตุ หนุนธาตุ ตัวเราให้มีความมั่นคงในตัว พร้อมที่จะใช้คาถาทุกบท รวมทั้งเป็นการฝึก จิต สมาธิ สติให้ตั้งมั่น เพราะถ้าจิตวอกแวกแล้วจะว่าผิดทันที และมีเคล็ดอยู่ว่า ถ้าว่าผิดตัวใด หรือบทใดจะต้องเริ่มใหม่ทันที

    การตั้งธาตุ หนุนธาตุ จะมีผู้รู้อยู่เฉพาะกลุ่มครับ ถ้าสอบถาม คนที่เรียนวิชาคาถาอาคม ทั่วๆไปแบบชาวบ้านๆ จะไม่ทราบครับ แต่เขาเหล่านั้นก็สามารถใช้คาถาได้ขลังแน่นอนเหมือนกันครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2013
  8. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ในเรื่องคาถาป้องกันตัวผมว่า ถ้าคนดีๆอย่างพวกเราในสมาชิกกระทู้นี้ผมว่า ปัจจุบัน น่าจะมีไว้ครับ เพราะสมัยนี้โจรผู้ร้ายมีอยู่รอบข้าง ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่..สมัยก่อน เด็กเห็นคนสูงวัยจะเคารพนบนอบ เดวนี้ถ้าเดินสวนกันบนบันไดข้ามถนนมันแทบจะเดินชนเราตกบันไดถ้าไม่หลีกทางมัน นี่แหละครับ ยุคมันเปลี่ยนไป

    ผมเองถ้าเข้าเมืองกรุง จะพกอาวุธไม่ชิ้นใดก็ชิ้นหนึ่งไว้ป้องกันตัว แต่ไม่พกปืนนะครับ๕๕๕ (ไม่อยากติดคุก) มีดพกแบบพับได้เหน็บเข็มขัด หรือร่มขนาดเล็ก(ปลายแหลมๆหน่อยใช้แทนอาวุธได้)..บางครั้งก็พก ไฟชอตแรงสูง

    เอาไว้ป้องกันตัวจริงๆครับ..ผมคิดว่าบางครั้งเราไม่ได้ทำร้ายใคร แต่ก็อาจจะมีคนมาทำเราก่อน เราจำเป็นต้องป้องกันตัวขั้นต้นให้ได้...ถ้าอายุขนาดเลข๔ นำหน้าจะไปชกกับวัยรุ่นคงไม่ไหวครับ๕๕๕

    แต่เราก็ต้องศึกษาจุดอ่อนร่างกายคนด้วย หว่างขาดีที่สุด..ดวงตา กระเดือก ลิ้นปี่ หน้าแข้ง นิ้วมือ(หัวแม่มือ นิ้วชี้..ใช้ของแข็งดี หรือ มีดกรีดจะทำร้ายเราไม่ได้) นี่คือจุดอ่อน ....โจมตีจุดอ่อนฝ่ายตรงข้ามก่อน แล้วค่อยเผ่นไปตั้งหลัก..แล้วโทรหา ๑๙๑..

    แต่ระหว่างจะเกิดเรื่องก็ ตั้งนะโม ๓ จบ ให้ครบเข้าไว้ ว่าคาถาไปก่อน
    แล้วค่อยมาต่อสู้กัน๕๕๕๕

    ไอ้เรื่องคนเกเรผมมีเรื่องมาเล่า เกิดขึ้นกะตัวเอง หลายปีมาแล้วผมไปเที่ยวโคราช รู้สึกจะมีงานในตัวเมือง กำลังเดินคุยกับเพื่อน๒คน มีวัยรุ่นมาจากไหนไม่รู้เดินมาข้างหลัง แล้วตบท้ายทอยเรา ๒ คน จนหัวเกือบทิ่ม๕๕๕ แล้วจะชกตาม ดีที่ฝึกมาดี..ฉากซ้ายไปก็ก้มหัวหลบ ยิงหมัดขวาไปที่ลิ้นปี่ แล้วแทงนิ้วมือไปที่ตามัน ๒ ข้าง..แบบผ่อนๆ(กลัวมันบอดเหมือนกัน.ร้องจ้ากเลย๕๕) เพื่อนได้ทีก็คว้าคอมา ล้อคแบบยูโด..จนตำรวจ มาห้าม เราก็เลยแสดงตัวว่าเป็นใคร..สอบแล้วเป็นคนเมายาบ้ามา ๕๕๕ สรุปแล้วเราทั้งคู่ไม่รู้เรื่อง เกือบซวยซะแล้ว..
     
  9. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    เห็นด้วยกับพี่ครับเราไม่หาเรื่ิองแต่บางทีเรื่องมันวิ่งมาหาก็ควรมีอะไรไว้ป้องกันตัวบ้างมีดพับเล็กๆก็ยังดี หมามันมีเขี้ยว วัวควายมีเขา คนเราก็ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันตัวบ้างครับ
     
  10. shevvy

    shevvy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +300
    ในแต่ละวันพี่ tang_2536 ภาวนาคาถาหลายบทไหมคับ หรือ นึกได้ก็ ภาวนาไปเรื่อยๆ
    หรือว่าตามสถานการณ์คับ และก็ บท ลป.รุน(กันอาวุธทั้งแคล้วคลาด และชาตรี/ตีไม่แตก) ที่ให้ไป "กุนุหุสุ อุดสะปิดสะ" นี้ต้องเขียนตัวคาถาใส่กระดาษ หรือ สมุด ใส่พาน เพื่อยกครูไหมคับ
     
  11. wit_nu

    wit_nu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +90
    ขอบคุณครับ
     
  12. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    ผมนั้นใช้บทหลักและบทรองผสมกัน แต่บทหลักทำทุกวันครับ..แต่ที่ขาดเสียไม่ได้ ต้องสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน(เช้าเย็น) ในช่วงวัยผม/อาชีพ/ชีวิต ปจว.ของผมในห้วงหลายปีที่ผ่านมาผมไม่มีพันธะอะไรมากมาย ผมจึงทำวัตรเช้า-เย็น ได้เกือบทุกวันครับ เว้นไม่มีเวลาจริงๆ ก็สวดพุทธคุณ ๓ ห้อง ไปเลย..
    จากนั้นนั่งกำหนดลมหายใจให้ได้อย่างน้อยที่สุด ๕ นาที..
    .ถึงจะมาเข้าเรื่อง คาถาอาคมครับ ก็ว่าไป จะนำด้วยบทไหนผมก็ดูที่จิตเรา...วันนี้หงุดหงิด ก็ว่า คงกระพันซะก่อน ให้ฮึกเหิมไปเลย แล้วค่อยมาตะล่อมด้วยบท เมตตา

    บทคาถาประจำวันก็มีหลักๆ ๒ แขนงเท่านั้นครับ เมตตา กับ คงกระพัน/แคล้วคลาด ส่วน ป้องกัน ภยันตรายนั้น อาราธนาพระเครื่องเอา

    เว้นก่อนนอนของผมต้องว่าตามบทครูอาจารย์เรื่องการ ป้องกันคุณไสยฯ..ผมเรียกว่าบท กางมุ้งกันยุงกัดก่อนนอน ๕๕๕ เพราะเราเรียนมาทาง วิชาแก้คุณไสยฯเราก็ต้องมีบทกันคุณไสยฯเช่นเดียวกันครับ..

    บท ลป.รุน ไม่ต้องทำอะไรครับ แค่ ตั้งนะโม ๓ จบ แล้ว ระลึกถึง พระพุทธ พระธัม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา ลป.รุน ก็ว่า ได้เลย อย่างน้อย ๓ จบ ก่อนออกบ้าน ครับ...
     
  13. รุ่งฉวี

    รุ่งฉวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +1,757
    สวัสดีครับพี่คำรณ...ผมมีคำถามครับผมชอบพระเครื่องมากและก็ชอบศึกษายันต์ที่อยู่บนพระเครื่อง(ทุกชนิด)และก็หัดอ่าน จนอ่านพอออกบ้าง เดาเอาบ้าง แต่หลักใหญ่ๆก็เหมือนๆกันคล้ายๆกัน พอหัดอ่านได้ทีนี้ฝึกเขียนด้วยสิครับ อย่างนี้ผมจะต้องธรณีสารหรือเปล่าครับคือเมื่อ3-4ปีก่อนนี้พอว่างไม่ได้ผมจะเขียนตลอดทั้งเขียน,ทั้งจาร จนเพื่อนบอกให้ผมไปบวช ตอนนี้เลิกแล้วไม่เขียน,ไม่จาร แล้วถ้าต้องธรณีสารผมจะไปอาบน้ำมนต์แก้ที่ไหน(ผมอยู่เขตชลบุรี,ระยอง)ว่าจะไปหาหลวงพ่อสาคร วัดหนองกลับท่านก็ไม่ค่อยสบายรับแขกเฉพาะวันเสาร์ หรือมีวิธีไหนบ้างที่แก้เองได้บ้าง(ผมมีมีดหมอ ล.พ.กัน)หรือพระเครื่ององค์ไหนบ้างพอทำน้ำมนต์อาบเองได้บ้างครับ...
     
  14. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ไม่เสียเที่ยวที่เข้ามาอ่าน ขอบพระคุณพี่ๆ มากครับสำหรับวิชาความรู้
     
  15. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    การต้องธรณีสารนั้นเป็นความเชื่อของโบราณกาลมีเหตุหลายประการ ทั้งหนัก/เบา จะเรียกว่าเรื่องอาถรรพ์ก็ใช่ อย่างที่เล่ามาก็อยู่ในเกณฑ์ ถ้าเราเขียน/จารแล้วไม่ได้นำไปทิ้งไว้ในที่เหมาะที่ควร ก็ถือว่าต้องธรณีสารได้...แต่จะส่งผลต่อชีวิตไหม ผมก็ตอบไม่ได้ครับ เพราะทางครูอาจารย์ท่านก้บอกว่ามีหลายปัจจัยสนับสนุนกัน..บางกรณีแค่อาถรรพ์ธรรมดา อย่าง เอาก้างปลาจิ้มฟัน แบบนี้ ก็อาถรรพ์เล็กน้อยๆท่านก็ว่าอย่างงั้น แต่การจะทำน้ำมนต์ธรณีสาร ต้องทำโดยผู้รู้ที่เรียนมา พระ/ฆราวาสก็ได้ (ทำเองไม่ได้)

    อย่างท่านรุ่งฉวี นี่ก็ใช้น้ำมนต์ที่ใช้ในงานเผาศพ(บ้านนอกจะมีตั้งไว้ทางเข้า-ออก ป่าช้า เวลาเผาสพเสร็จเดินกลับต้องเอามารดหัว) มารดหัวก็ใช้ได้แล้วครับ เพราะเราไม่ได้โดนหนักหนาอะไร อย่ากังวลมากครับ

    อ้อ คำว่าต้องธรณีสาร คนโบราณนั้นจะเรียกอีกอย่างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะเป็นเสนียดจัญไร เป็นสิ่งอัปมงคล ต่อตัวเราว่างั้นเถอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2013
  16. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    มีสมาชิกถามเรื่องความแรงของวัตถุมงคลต่างๆของอาจารย์บางสำนักที่บอกว่า เน้น แรงๆ โดยเฉพาะทางด้านเมตตานั้น เชื่อถือได้ไหม และ ใช้ได้ทุกคนไหม

    ผมก็บอกว่าไม่ทราบเช่นกัน แต่ในมุมส่วนตัวผม จาก ปสก.ตรง ที่ผ่านการใช้วิชา ไสยฯมา ๒๐ กว่าปี ยังไม่เคยปรากฏว่าจะมีของขลังชนิดใดในด้านเมตตาที่จะใช้ปั้บเห็นผลปุ้บ..เคยลองมาเกือบ ๑๐ ชนิด ทั้งสีผึ้ง น้ำมันเมตตา ตะกรุด รวมๆเกือบ ๑๐ อาจารย์(เมื่อตั้งแต่ประมาณปี ๒๕๒๗) ไม่เคยเจอเลยครับ...เว้น เรื่องน้ำมันพรายไม่เคยลอง เพราะหาที่จริงๆไม่มี และก็ไม่อยากใช้เพราะถ้าใช้ตามหลักแล้ว สาวจะเสียสติซะส่วนใหญ่..

    ผมมาตกผลึก ที่คำว่า เมตตา ..เรามาศึกษาแบบจริงจัง พบว่าคาถานั้นพอจะเชื่อมั่นได้มากกว่า อย่างอื่น เนื่องจาก คาถาบทเมตตา จะต้องเริ่มที่จิตเรา..มันทำเองได้เอง แต่ต้องมีครู และเรียนถูกวิธี

    ส่วนวัตถุมงคล ปลุกเสกมาดี แต่คนใช้อาจจะไม่มีวิธีที่ถูกต้องในการใช้ หรืออาจารย์ปลุกเสกเองใช้เองเท่านั้น..ปลุกเสกแล้วให้คนอื่นไปใช้ก็ได้แค่ของไม่ได้ตัวคาถาไป(เพราะไม่อยากถ่ายทอดเดวหากินต่อไม่ได้) มันจึงมีปัจจัยมาก..

    สรุปแล้วคนที่ใช้น่าจะต้องเข้าถึงหลักคำว่า เมตตา จริงๆ...ไม่ใช่จะเอาไปใช้ให้ได้ผลอย่างเดียว(กะจะล่วงละเมิดทางเพศเขาอย่างเดียว ว่างั้นเถอะ๕๕๕) ..ผมว่ายากครับ

    ในความเห็นส่วนตัว จึงไม่ยืนยันว่า ของขลังประเภท เมตตา ที่บอกว่าแรงสุดๆ ทุกคนที่ได้ไปจะใช้ได้แรง จริง ดั่งคำโฆษณา ครับ..

    คงต้องใช้ วิจารณญาณ เอาเองตาม ภูมิปัญา...

    รวมไปถึง สายแขนงอื่นๆด้วย..คงกระพัน ชาตรี ค้าขาย ..ผมว่าตัวผู้ใช้ต้องเข้าถึงเรื่องความเชื่อ ศรัทธา พุทธคุณก่อน อย่างดีด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น เราจะไม่รู้ว่า การปลุกเสกแบบใด พิธีใด ถึงจะเรียกว่า ถูกหลักถูกวิธี
    เว้นเสียแต่..ได้รับการอธิษฐานจิต จากพระอริยะ/พระโพธิสัตว์...อันนี้ผมยอมรับว่าดีจริง เพราะท่านแค่ เอามือแตะๆ แต่ท่านอธิษฐานจิตแบบเต็มภูมิของท่าน แต่ถ้าโจรนำไปใช้ในทางที่ผิด ก็ไม่มีผลใดๆในวัตถุนั้น..แต่เมื่อคนดีได้รับมา ของนั้นก็กลับมาขลังดังเดิมตามที่ท่านอธิษฐานนี่คือความแตกต่าง ของ คำว่า ปลุกเสก กับ อธิษฐานจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2013
  17. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,072
    วันนี้วันเด็ก ก็เอาเรื่องเด็กๆมาเล่าสู่กันฟังบ้าง...เด็กเล็กๆอายุไม่เกินขวบประมาณนี้กำลังร้องไห้เลย ทางโบราณก็มีความเชื่อเรื่องแม่ซื้อครับ เพราะบางครั้งเด็กอาจจะไม่สบายเอาแต่ร้องไห้ สมัยก่อนก็ต้องเอาไปให้ พระ/หมอประจำบ้าน ผูกด้ายข้อมือ เป่าหัวบ้าง ..ก็แปลกที่ว่า มักจะหายทุกรายไป สมัยนี้ผมไปเยี่ยมครู ท่านก็ยังเป่ายังเสกด้ายผูกข้อมืออยู่ ท่านก็บอกว่า คำว่าแม่ซื้อยังมีจริง..ท่านก็ยังให้บทผูกข้อมือเด็กมาให้บทหนึ่ง..(แต่บอก/ลง ให้ไม่ได้ครับเป็นบทที่ใช้ครูปุ่่ฤษี-ต้องยกครู)
    พอโตหน่อย ก็จะเป็นโน่นเป้นนี่ อันนี้ต้องรักษาทางแพทย์แผนโบราณ/ปัจจุบัน สมัยยุคผมเด็กๆ ถ้าเป็นโน่นเป็นนี่จะต้องใช้ น้ำซาวข้าว เป็นหัวยา ไม่ว่าจะกิน ทา ครับ...ถ้าเป็นลมพิษ ใช้น้ำซาวข้าวผสมน้ำจากใบรางจืด ทา ถ้าจะรักษาทางแมลงสัตว์กัดต่อย พ่อจะใช้ปลัดขิก(ทำจากไม้เขยตายพราย)ฝนกับน้ำซาวข้าวทาแผลให้แล้วกินด้วย(เคยโดนตะขาบกัดก็หายปวด)

    ทางโบราณ ถือว่า น้ำซาวข้าว(น้ำที่แช่ในข้าวสารจ้าวน้ำแรก-กวนไปมาไม่เททิ้ง: กลัวเด็กๆสมัยนี้ไม่รู้จักครับ๕๕) เป็นกระสายยาชั้นดี ใช้ได้สารพัดครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2013
  18. ลูกวัด

    ลูกวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,071
    ค่าพลัง:
    +5,194
    สวัสดีครับอาจารย์ สบายดีนะครับ โบราณนี่เก่งนะครับเอาน้ำซาวข้าวที่คิดว่าไม่น่าจะมีประโยชน์แต่นำมาทำกระสายยาได้
     
  19. FLUKE-NICE

    FLUKE-NICE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    968
    ค่าพลัง:
    +1,397
    เป็นความรู้ครับ ผมเองก็เพิ่งจะเข้าใจว่าปลุกเสก กับอธิษฐานจิต ต่างกันอย่างนี้นี่เองครับ ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้
     
  20. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    สวัสดีครับพี่ คำรณ ได้อ่านมาตั้งยาวไม่เคยได้ทักทายวันนี้ถือโอกาสทักทายล่ะกันน่ะครับ เรื่องวัตถุมงคลด้านเมตตา มหานิยม คนส่วนมากจะเข้าใจว่าเป็นของที่เอาไว้ใช้กับเพศตรงข้ามซ่ะส่วนใหญ่ ที่จริงแล้วสรรพคุณที่ท่านสร้างไว้จะมุ่งเน้นไปที่การให้ผู้ครอบครองมีได้รับความเมตตาจิตจากผู้อื่นและแผ่เมตตาให้ต่อกันมากกว่า แต่สมัยนี้คนเราเอาไปใช้นอกลู่นอกทางใช้ในด้านกิเลสตัณหา สวนทางกับความตั้งใจของผู้สร้างที่ต้องการให้เพื่อนมนุษย์อยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกดังคำโบาราณ เมตตาธรรมค้ำจุนโลก ดังนั้นมันจึงไม่ได้ผลแน่นอนและยิ่งทำให้กิเลสตัณหาราคะโมหะพอกพูนยิ่งๆขึ้นด้วย สมัยนี้ถ้าจะหาอะไรที่เน้นเรื่องเพศตรงข้ามล่ะก้อไม่มีอะไรจะสู้ ขุนแขนญี่ปุ่น กับ หลวงพ่อเงินจากกระทรวงการคลังได้ล่ะครับ 55555
     

แชร์หน้านี้

Loading...